ไม่เคยใช้ แต่คิดว่าไม่น่าเชื่อเพราะแอร์เป็นระบบปิด การที่สิ่งสกปรกจะเข้าไปก็เป็นไปได้ยากอยู่แล้ว ยกเว้นว่าจะมีรูรั่วและสิ่งที่สกปรกถูกกำจัดไป มันจะหายไปไหน ยังไงก็จะตกค้างอยู่ในระบบอยู่ดี ---สิ่งสกปรก = อาจ "ไหล" ไปทางท่อน้ำทิ้งของแอร์ ??ปล.อ้างนาซ่า แต่รูปที่แปะไม่เกี่ยวอะไรเลย 555+ก็รูปที่ 2 ที่เป็นใบรับรอง = ทางคนขายเขา "โม้" มาแบบนั้น
ผมซื้อมาลองเติมนะ แอร์ม้นก็เย็นขึ้นจริงแหละ แต่ไอ้อุดรั่วอะไรนั่นไม่ทราบครับ ซื้อจากร้านที่รับทำoil gearนะครับ
อ้างจาก: ^Yimm@^ ที่ กันยายน 18, 2020, 09:20:17ผมซื้อมาลองเติมนะ แอร์ม้นก็เย็นขึ้นจริงแหละ แต่ไอ้อุดรั่วอะไรนั่นไม่ทราบครับ ซื้อจากร้านที่รับทำoil gearนะครับใช้กับรถรุ่นอะไรครับ ??
คราบน้ำมันเก่า กับความชื้น ก็เป็นเร่ื่องจริงครับเป็นสาเหตุของการกัดกร่อนในระบบแต่น่าจะเปลี่ยน Dryer และ ทำความสะอาดระบบ น่าจะตรงประเด็นกว่า น้ำยาก็ราคาไม่ถูกด้วยเหมือนแก้ปัญหาเฉพาะหน้ามากกว่าถ้าไม่เกิน 500 บาทนี่ ค่อยน่าลองเล่น
ยังไม่เคยใช้ แต่ไม่เข้าใจอยู่ 2 อย่าง "ไล่ความชื้น กับ กำจัดสิ่งสกปรก" แอร์เป็นระบบปิด ถ้ามีความชื้น หรือสิ่งสกปรกในระบบ จะมี รีซีฟเวอร์-ดรายเออร์ หรือ ฟิลเตอร์ดรายเออร์ ทำหน้าที่กรอง และดูดความชื้น ติดตั้งอยู่ในระบบแอร์อยู่แล้ว น้ำยาที่ว่าไม่น่าจะช่วยเรื่องนี้ ส่วนเรื่องอุดรอยรั่วคิดว่าไม่น่าได้ เพราะแรงดันน้ำยา r134a ขณะทำงานด้านท่อแรงดันสูง อยู่ที่ประมาณ 200-250 psi ซึ่งถ้าเกิดรอยรั่ว ตัวน้ำยาดังกล่าว ที่เป็นของเหลวไม่น่าจะอุดได้ ถ้าอุดได้ ตัวควบคุมการไหลของน้ำยาแอร์ในระบบ ที่เรียกว่า แอ๊คแพนชั่นวาล์ว ซึ่งจะเป็นตัวฉีดสารทำความเย็นผ่านรูเล็กๆ คงจะตันไปด้วยแน่ สรุปผมเข้าใจว่าตัวน้ำยาดังกล่าว น่าจะช่วยได้มากสุด คือช่วยในการหล่อลื่นระบบคอมเพรสเซอร์แอร์เป็นหลักมากกว่า
อ้างจาก: jkdragon ที่ กันยายน 18, 2020, 10:30:26ยังไม่เคยใช้ แต่ไม่เข้าใจอยู่ 2 อย่าง "ไล่ความชื้น กับ กำจัดสิ่งสกปรก" แอร์เป็นระบบปิด ถ้ามีความชื้น หรือสิ่งสกปรกในระบบ จะมี รีซีฟเวอร์-ดรายเออร์ หรือ ฟิลเตอร์ดรายเออร์ ทำหน้าที่กรอง และดูดความชื้น ติดตั้งอยู่ในระบบแอร์อยู่แล้ว น้ำยาที่ว่าไม่น่าจะช่วยเรื่องนี้ ส่วนเรื่องอุดรอยรั่วคิดว่าไม่น่าได้ เพราะแรงดันน้ำยา r134a ขณะทำงานด้านท่อแรงดันสูง อยู่ที่ประมาณ 200-250 psi ซึ่งถ้าเกิดรอยรั่ว ตัวน้ำยาดังกล่าว ที่เป็นของเหลวไม่น่าจะอุดได้ ถ้าอุดได้ ตัวควบคุมการไหลของน้ำยาแอร์ในระบบ ที่เรียกว่า แอ๊คแพนชั่นวาล์ว ซึ่งจะเป็นตัวฉีดสารทำความเย็นผ่านรูเล็กๆ คงจะตันไปด้วยแน่ สรุปผมเข้าใจว่าตัวน้ำยาดังกล่าว น่าจะช่วยได้มากสุด คือช่วยในการหล่อลื่นระบบคอมเพรสเซอร์แอร์เป็นหลักมากกว่าน้ำยาตัวนี้ = น่าจะทำหน้าที่คล้ายๆ กับ "น้ำมันคอมเพรสเซอร์แอร์" ??
อ้างจาก: lonely ที่ กันยายน 18, 2020, 10:40:16อ้างจาก: jkdragon ที่ กันยายน 18, 2020, 10:30:26ยังไม่เคยใช้ แต่ไม่เข้าใจอยู่ 2 อย่าง "ไล่ความชื้น กับ กำจัดสิ่งสกปรก" แอร์เป็นระบบปิด ถ้ามีความชื้น หรือสิ่งสกปรกในระบบ จะมี รีซีฟเวอร์-ดรายเออร์ หรือ ฟิลเตอร์ดรายเออร์ ทำหน้าที่กรอง และดูดความชื้น ติดตั้งอยู่ในระบบแอร์อยู่แล้ว น้ำยาที่ว่าไม่น่าจะช่วยเรื่องนี้ ส่วนเรื่องอุดรอยรั่วคิดว่าไม่น่าได้ เพราะแรงดันน้ำยา r134a ขณะทำงานด้านท่อแรงดันสูง อยู่ที่ประมาณ 200-250 psi ซึ่งถ้าเกิดรอยรั่ว ตัวน้ำยาดังกล่าว ที่เป็นของเหลวไม่น่าจะอุดได้ ถ้าอุดได้ ตัวควบคุมการไหลของน้ำยาแอร์ในระบบ ที่เรียกว่า แอ๊คแพนชั่นวาล์ว ซึ่งจะเป็นตัวฉีดสารทำความเย็นผ่านรูเล็กๆ คงจะตันไปด้วยแน่ สรุปผมเข้าใจว่าตัวน้ำยาดังกล่าว น่าจะช่วยได้มากสุด คือช่วยในการหล่อลื่นระบบคอมเพรสเซอร์แอร์เป็นหลักมากกว่าน้ำยาตัวนี้ = น่าจะทำหน้าที่คล้ายๆ กับ "น้ำมันคอมเพรสเซอร์แอร์" ??ถูกต้องครับ ถ้าจะให้ชัดตัวน้ำยาไม่ได้มีหน้าที่ใหม่ในระบบเลย แต่เป็นตัวช่วยซึ่งในระบบมีตัวที่ทำหน้าที่อยู่แล้ว แต่จะช่วยแค่ไหนไม่ทราบ ผมสรุปตามความเข้าใจของผมเอง พอดีผมทำงานเป็นช่างแอร์ครับ แต่เป็นแอร์บ้าน ซึ่งระบบแอร์บ้าน กับแอร์รถยนต์ ไม่ได้ต่างกันมากนัก
จริงๆ Dryer อายุใช้งานไม่นานมากครับแต่บ้านเราลากยาวกันทั้งนั้นส่วนน้ำมันในน้ำยา ก็แปรสภาพข้นเหนียวตามอายุ
อ้างจาก: samaklen ที่ กันยายน 18, 2020, 10:56:44จริงๆ Dryer อายุใช้งานไม่นานมากครับแต่บ้านเราลากยาวกันทั้งนั้นส่วนน้ำมันในน้ำยา ก็แปรสภาพข้นเหนียวตามอายุจริงๆแล้ว ฟิลเตอร์ดรายเออร์ มีอายุเท่ากับระบบแอร์ครับ ถ้าไม่มีการเปิดระบบให้อากาศเข้า ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนอีกเลย แต่ถ้ามีการซ่อมต้องเปลี่ยนทุกครั้งที่มีการเปิดระบบส่วนน้ำมันหล่อลื่นคอมฯ ก็ไม่มีการเปลี่ยนสภาพเป็นเหนียวข้น เหมือนกับน้้ำมันเครื่องรถยนต์นะครับ เพราะแอร์เป็นระบบปิด ไม่มีอากาศ และความชื้นในระบบ ทำให้ไม่เกิดปฏิกริยาออกซิเดชัน ที่ทำให้น้ำมันเปลี่ยนสภาพ ส่วนที่มีผลทำให้น้ำมันคอมฯแอร์เปลี่ยนสภาพ น่าจะเป็นการสึกกร่อนของชิ้นส่วนภายในคอมฯ มากกว่าเช่น ลูกสูบติด ขดลวดไหม้
สำหรับผม เก็บเงิน 990 เอาไว้ดีกว่าถ้าตู้รั่วเมื่อไร ก็เปลี่ยนตู้ ไม่ว่าผลิตภัณท์อะไรที่โฆษณาว่า จะช่วยยืดอายุ...ต่างๆนานา ผมไม่เคยสนใจจะลองใช้เลยครับ
ไดเออร์ มีอายุการใช้งานนะครับเคยถามช่างแอร์ ทางบริษัทDenso เกณฑ์กำหนดการเปลี่ยนไดเออร์ เปลี่ยนทุกๆ 50,000 กิโล แต่คนไทยถ้าไม่เสีย แอร์เย็นปกติก็ไม่เปลี่ยน ไดเออร์มีผลการความเย็นครับ
ใบเซอร์อ่านอะไรไม่ออกเลย แค่นี้ก้ยากละ ส่วนหลักการหลอกคน ไม่ยาก ทำให้เข้าใจยากๆ ก็ได้ละ
เคยพลิกกระป๋องดูผลิตที่จีนครับส่วนพวกผลิตญี่ปุ่น(แต่ไม่ได้เครมเรื่องอุดรั่ว)ราคา 4-6ร้อย
ผมลองมา2ครั้งล่ะครับ รถ mazda2 ปี 2011ครั้งแรกก่อนโควิด(มกรา) แอร์ไม่เคยล้างเลยมา5ปี(จริงๆคือตั้งแต่เจ้าของเก่า รถปี2011)ทำแต่เปลี่ยนกรองแอร์ทุก6เดือน ลองเติมดูเย็นขึ้นเล็กน้อยพอรู้สึกได้(จากความรู้สึก และเอาเทอร์โมมิเตอร์แบบสายโพรบแปะช่องแอร์)จากนั้นเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาจู่ๆคอยล์เย็นรั่วพอดี(กลิ่นน้ำมันคอมโชยออกมาจากลมแอร์ชัดเจน) เลยเปลี่ยนคอยล์เย็นใหม่ หน้าคลัช วาล์วแอร์ ดรายเออร์ โอริง น้ำมันคอมใหม่(ใช้น้ำมันคอมอิเดฯ VG46 เบอร์น้ำมันตรง+เติมตามสเปค) กรองแอร์ใหม่ แวคเติมน้ำยาแอร์ใหม่ ฮีตเตอร์อยู่เหมือนเดิมไม่ตัด ทำเสร็จแอร์เย็นกว่าตอนแอร์เน่า+เติมสารอะไรนี่เมื่อสัปดาห์ก่อนเลยซื้อมาเติมอีกที ก็เย็นเหมืนเดิมแต่ฉ่ำมากขึ้น ปกติรุ่นนี้นั่งหลายคนตอนเที่ยงออกไปกินข้าวแดดร้อน รถเดิมๆ แอร์สู้ไม่ค่อยไหว เติมเสร็จคนนั่งนั่งเย็นสบาย แต่คนขับหนาวมือมากถ้าหวังเรื่องเย็นขึ้น ได้ผลอยู่ครับ แต่แอร์ต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์โอเครนะ ถ้าเน่าๆแบบของผมตอนแรก เย็นไม่คุ้มราคา แต่ถ้าทำแอร์แล้วเติมอีกทีผมว่าคุ้มเลย
ลองไปค้นข้อมูลดู เป็น Additive ที่ไปเปลี่ยนคุณสมบัติของน้ำยาทำให้ Boiling Point ลดลง (ช่วยให้ลมแอร์เย็นขึ้นได้) คล้าย ๆ กับน้ำยาหม้อน้ำ หรือน้ำยาแอร์พวก 407 ที่เป็นการผสมหลาย ๆ เบอร์ครับ ข้อเสียเท่าที่อ่านคร่าว ๆ จะลดความหนืดของน้ำมันคอมแอร์ด้วย อาจจะส่งผลต่อการหล่อลื่น ทำให้คอมแอร์สึกหรอเร็วขึ้นได้ครับ