ผู้เขียน หัวข้อ: รบกวนขอคำแนะนำ teana j32 2.5xv 6v ปี2010 มือสองครับ  (อ่าน 11628 ครั้ง)

ออฟไลน์ ultraman_pee23

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 24
สวัสดีครับ รบกวนขอคำแนะนำจากพี่ๆที่มีและเคยมีประสบการณ์กับเจ้า teana j32 2.5xv 6v non sunroof ปี 2010 เข้าใจว่าก่อนต้วไมเนอร์เชน พอดีสนใจคันนึงครับ วิ่งมาแสนนิดๆ ราคา 500k สภาพสวย สะอาด เจ้าของดูแลดี เข้าศูนย์ตลอด อยากทราบดังนี้ครับ
1. สรรถนะ การขับขี่ อัตรากินน้ำมัน เป็นอย่างไรครับ
2. รุ่นนี้มีปัญหาประจำรุ่นอะไรบ้างมั้ยครับ
3.  เกียร์ cvt ตัวนี้มีความทนทานมากน้อยแค่ไหน เข้าใจว่ายังไม่ติด ออยคูลเลอร์ ในตัวก่อนไมเนอร์เชน
4. ถ้าซื้อรุ่นนี้มาควรจับดูแลตรงไหนเป็นพิเศษบ้างครับ
ปล. พอหาข้อมูลตัวนี้มาสมควร เป็นรถที่เครื่องแรง ขับสบาย เก็บเสียงดี เลยอยากทราบปัญหาเบื้องต้นครับ ส่วนตัวใช้รถน้อยครับ ปีนึงไม่ถึงหมื่นโล ขับเรื่อยๆ ในตัวเมืองต่างจังหวัด กะใช้ยาว 5 ปีถึงเปลี่ยนครับ ขอบคุณครับบ

ออฟไลน์ lexus

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,245
Re: รบกวนขอคำแนะนำ teana j32 2.5xv 6v ปี2010 มือสองครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: สิงหาคม 12, 2016, 15:39:08 »
ตอบได้แต่ข้อ1
อัตราเร่ง2.5 ดีมาก เป็นcvtที่กดแล้วหลังติดเบาะเบาๆได้เลย ช่วงล่างนิ่งสุดในd segmentยุคนั้น
แต่... กินน้ำมันดุมาก

ออฟไลน์ Barracuda

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,395
Re: รบกวนขอคำแนะนำ teana j32 2.5xv 6v ปี2010 มือสองครับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: สิงหาคม 12, 2016, 15:41:37 »
เทียบ g8,acv40-41 ไม่มองเรื่อง 0 ตัวนี้น่าจะดีที่สุดเรื่องออปชั่นครับ นั่งสบายสุดแล้ว ไม่ย้วยเกิน ไม่กระด้างเกิน แต่แอบกินนะครับ

ออฟไลน์ 5thAvenue

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,433
  • Hi!!!!
    • อีเมล์
Re: รบกวนขอคำแนะนำ teana j32 2.5xv 6v ปี2010 มือสองครับ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: สิงหาคม 12, 2016, 15:48:02 »

1. เหมาะสำหรับคนชอบแรง เงียบ แต่นุ่มนิ่ม นั่งสบาย กินน้ำมันกว่าเจ้าอื่นในขนาดเครื่องยนต์เดียวกัน
2. เกียร์ขึ้น Safe Mode ครับเวลาร้อนมากหรือเร่งต่อเนื่องมากๆ ไปติดออยเกียร์ก่อนเลยครับ 24,xxx จะได้ขับสบายใจกว่านี้
3 - 4 ตอบ ข้อ 2 ครับ

ออฟไลน์ Arado_kung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,062
    • อีเมล์
Re: รบกวนขอคำแนะนำ teana j32 2.5xv 6v ปี2010 มือสองครับ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: สิงหาคม 12, 2016, 16:02:42 »
1. J32 ช่วงล่างนุ่มและสบายในการขับขี่แบบปกตินะครับ แต่ถ้าคุณชอบมุดซ้าย-ขวาเลาะช่องไปมา เข้าโค้งด้วยความเร็วสูงมันย้วยชัดเจนเลย กินน้ำมันค่อนข้างดุทางไกลขับนิ่งๆได้ 12 โลลิตรก็แทบจะจุดพลุฉลองล่ะ ในขณะที่คู่แข่งทั้งคู่วิ่งด้วยเงื่อนไขเดียวกันได้ 14-15 โลลิตร

2. จุดอ่อน CVT ขี้ร้อนเวลาแช่ความเร็วสูงนานๆ และเครื่อง VQ ขึ้นชื่อเรื่องฝาโก่งง่ายถ้าฮีต ได้รถมาผมแนะนำเปลี่ยนท่อยางหม้อน้ำ,วาล์วน้ำ ใหม่หมดทั้งคัน และติดออยเกียร์ซะ ใช้ยาวๆอีก5ปีแบบสบายใจ

ออฟไลน์ ultraman_pee23

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 24
Re: รบกวนขอคำแนะนำ teana j32 2.5xv 6v ปี2010 มือสองครับ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: สิงหาคม 12, 2016, 16:28:00 »
ขอบคุณทุกๆท่านเลยครับ สำหรับคำแนะนำ งั้นถ้าส่วนตัวผมไม่ได้ขับอัดอะไรมาก ไม่ได้ใช้ความเร็วสูงๆ ก็ไม่น่ามีปัญหาใช่ไมครับ ถ้าใช้แบบเดิมๆ
ปล.สามารถติดออยเกียร์ได้ที่ศูนย์นิสสันเลยได้ไมครับ หรือต้องอู่นอก ขอบคุณครับ พอดีไม่มีความรู้ด้านออยเกียร์เลยครับ

ออฟไลน์ Arado_kung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,062
    • อีเมล์
Re: รบกวนขอคำแนะนำ teana j32 2.5xv 6v ปี2010 มือสองครับ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: สิงหาคม 12, 2016, 16:35:20 »
ขอบคุณทุกๆท่านเลยครับ สำหรับคำแนะนำ งั้นถ้าส่วนตัวผมไม่ได้ขับอัดอะไรมาก ไม่ได้ใช้ความเร็วสูงๆ ก็ไม่น่ามีปัญหาใช่ไมครับ ถ้าใช้แบบเดิมๆ
ปล.สามารถติดออยเกียร์ได้ที่ศูนย์นิสสันเลยได้ไมครับ หรือต้องอู่นอก ขอบคุณครับ พอดีไม่มีความรู้ด้านออยเกียร์เลยครับ

แล้วแต่ศูนย์ครับ บางที่ก็รับ,บางที่ก็ไม่รับ อย่างศูนย์นิสสันจังหวัดผมขนาดวางเครื่องเซียงกงเค้าก็ยังรับเลยครับ

ออฟไลน์ palma

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,128
    • อีเมล์
Re: รบกวนขอคำแนะนำ teana j32 2.5xv 6v ปี2010 มือสองครับ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: สิงหาคม 12, 2016, 16:39:40 »
ขัอ 3+4  เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามระยะครับ ราวๆ 4 หมื่นกม. ถ้าเปลี่ยนบ่อยกว่านิดก็ 3 หมื่นกม. กรณีขับรถติดๆในเมืองเยอะ

ไม่แน่ใจว่าเดิมในคู่มือรถมีคำแนะนำให้เปลี่ยน นมก.ที่ระยะเท่าไหร่ แต่ศูนย์บอกราวๆ 4 หมื่นกม. น้ำมันของศูนย์ NS3  4 L ตก 1800+ บาท แต่มีน้ำมันเกียร์ CVT ยี่ห้ออื่นในตลาด เห็นใน Sylphy CVT 7 ใช้กันก็บอกว่าดี ราคาย่อมเยากว่ากันเยอะ อาศัยเปลี่ยนบ่อยหน่อยครับ เพราะเวลาเปลี่ยนมันไม่ได้ออกหมด ยังมีคงค้างอยู่ในเกียร์จำนวนหนึ่ง

ส่วนตัวเปลี่ยนที่ 3 หมื่นกม.ครับ
2023 : SK9 FB20 ES4.0 SAWD
2017 : NSP170R-2NR-FE+CVT
2015 : B17-MR16DDT+CVT-M6
2014 : L33-QR25DE+CVT-8
1995 : SXV10-3S-FE (sold)
1994 : AE101-4AFE+MT (sold)

ออฟไลน์ arlao

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 111
Re: รบกวนขอคำแนะนำ teana j32 2.5xv 6v ปี2010 มือสองครับ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: สิงหาคม 12, 2016, 17:12:38 »
ผมขายJ32ไปให้คนรู้จักไป แล้วไปใช้Volvo S60 T5 Polestar
ป่านนึ้ยังคิดถึงเจ้าJ32อยู่เลยครับ

นั่งสบายโอ่โถงกว่า เงียบ นุ่ม 5ปีวิ่งไป7หมื่นโล ... เสียดายจริมๆ
เป็นตัวก่อนMinor change ยังไม่เคยเจอปัญหาเรื่องความร้อนน้ำมันเกียร์..อาจจะเพราะไม่ค่อยได้ขับเร็วแช่
วิ่งตจว.อยู่ราวๆ130-140เท่านั้นเองครับ 160-170ยามเร่งแซงบ้างครั้ง ไม่แช่ เพราะเสียววุ้ย

ตอนนั้นขายด้วยอารมณ์ไปหน่อย เอาข้างไปเจิมกับมอไซค์มา2ประตู ระหว่างที่รอรถทำสี ว่างเกิ้น...
เลยได้เจ้าS60มา เจ้านี้ ดีกว่าJ32ตอนขับทางไกล เพราะเครื่องแรง ช่วงล่างดี...เหมือนจะเท่านี้เอง
ส่วนการใช้ในเมือง ชีวิตประจำวันชอบJ32มากกว่าครับ
เป็นรถที่ดี ไม่เสียจุกจิกเลย แอร์เย็นฉ่ำกว่าพวกPremium compact
ขับไปตจว.ศูนย์เยอะ อุ่นใจ

ใครจะปล่อยJ32 V6 2.5 Sport series  ใช้น้อยสภาพสวย ปี10-11ขึ้นไป รบกวนชี้เป้าให้ด้วยครับ
ถ้าถูกใจอยากซื้อเก็บไว้ใช้นานๆ

ออฟไลน์ Jatupon

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 193
Re: รบกวนขอคำแนะนำ teana j32 2.5xv 6v ปี2010 มือสองครับ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: สิงหาคม 12, 2016, 17:33:53 »
ผมใช้ j32 250 XV V6 ปี 2009  ก่อน  MC  นะครับ  และรถที่ใช้ประจำอีก 2 คันที่บ้านคือ ACV 50 2.0 G  กับ FTN 2016 2.4V

1. สมรรถนะ  ออกตัว 0-40 km/hr  จะรู้สึกมันอื้อๆ เหมือนรถไม่วิ่งโดยเฉพาะเมื่อขับอยู่คันเดียว แต่จริงๆ แล้วเกียร์มัน safe ตัวเอง  จะเห็นความแตกต่างชัดเจน หากออกตัวพร้อมกับรถคันอื่น J32 250 จะลอยลำ ยืดระยะออกไปเรื่อยๆ  ซึ่งจะเจอเคสแบบนี้บ่อยครับ เช่นออกตัวพร้อม  B seg  เฮาส์เลี่ยน แต่งท่อ  ค้ำล่าง ปลอมๆ บลาๆ เสียงท่อรถข้างๆ จะแผดเข้ามาให้ได้ยินบ้างว่าพวกกดเต็ม   แต่ J32 250 จะลอยลำห่างออกไปแบบคนขับยังไม่ได้สัมผัสกับแรง G สักนิด

   หากออกตัวไปแล้ว  กดคันเร่งลงเพิ่มไป แรงบิดจะมารออยุ่ที่เท้าในระดับที่รถบ้าน  C seg 1.8/2.0  D seg 2.4 หรือกระบะ diesel  ตัว Top (รถเดิมๆนะครับ)   ไม่สามารถขึ้นหน้า 250 XV ได้ เพราะอาศัยความได้เปรียบของความจุเครื่องยนต์  2,496 cc   (ACV 40 2.4 2,362 CC, G8 2.4 2,354 CC)  ความต่อเนื่องของเกียร์ CVT    และดึงยาวๆ    หนักแน่น ไปจน Top Speed  เว้นให้คันเดียวจริงๆ คือ Camry  ACV 50 2.5 G  ......    อ้าวแล้ว Camry Hybrid ACV40,50 ล่ะ     พวกนี้ขึ้นเร็วกว่าแน่ครับ  แต่ในข้อแม้ว่า แบตเต็ม  และถ้าแช่กันจริงๆ ก็จะตามไปเช็คบิลที่ Top Speed ได้อีกเพราะ   Hybrid ล็อคความเร็ว ......    สำหรับ G9 Hybrid ไม่เคยวิ่งด้วยครับ  คิดว่า 250XV โดนทั้งต้นและปลายแน่นอน คันนี้ขอบาย 

     ส่วนกระบะ Diesel เดิมๆมาจากโรงงาน   หรือ SUV Diesel  จะเครื่องใหญ่ หรือเครื่องเล็ก High output  2.4 2.5  2.8 3.2   จัดมาได้ทุกรุ่นครับ    ทางตรงยาวๆ ไม่ต้องสืบ  จะมีอาการให้ตื่นเต้นได้บ้างก็เฉพาะจังหวะเร่งผ่อน เร่งผ่อน  ตอนรถเยอะๆ    แต่ก็แก้ปัญหาได้ง่ายๆ โดยการกด sport mode  lock รอบเครื่องยนต์รอไว้ ที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ VQ25DE  + CVT   และฝีมือคนขับครับ

2. ปัญหาประจำรุ่น   แบ่งเป็น
   
    2.1 ปัญหาที่มีผลกับการใช้งานได้แก่
    ครัชคอมแอร์ไม่จับ , Joint พวงมาลัยหลวม อายุ 80,000 - 100,000 km เป็นทุกคัน (บางคนบอกแค่
    รำคาญมันกกุกๆ กักๆ  แต่ผมชอบรถกริบๆ    และรู้สึกมันมีผลต่อความมั่นใจในการคอนโทรลรถ)   เกียร์
    หอน/พัง อันนี้ผมไม่เป็น ไมล์ 146,xxx   แล้ว    แต่ผมเปลี่ยน นมก. NS3 ทุก 20,000 km  หรือบาง
    ครั้งเดินทางไกล ซัดหนักๆ ขึ้นเขา ก็เปลี่ยนที่ 10,000 km พร้อมน้ำมันเครื่อง
 
    2.2 ปัญหาที่ไม่มีผลต่อการใช้งาน
    คอนโซลร้าว , ไฟเรือนไมล์ (หลอด LED) ดับเป็นบางจุด อันนี้ไม่มีผลต่อการขับขี่แต่มันรำคาญลูกกะตา
    ,Central lock ฝั่งคนขับเสีย  พวกนี้เจอหลังจากใช้มา  6 ปี

3. เกียร์ CVT ไม่เคยมีปัญหา  แต่ขยันเปลี่ยน นมก. และส่วนตัวผมใช้ NS3   ออยเกียร์ ผมไม่ได้ติดครับ เพราะ หาคำตอบไม่ได้ว่าถ้าติดไปแล้ว pressure  drop เท่าไร  แล้วมันระบายความร้อนไปได้มากน้อยแค่ไหน   อย่างไม่มีอะไรเลยก็กลัวช่างขันน็อตไม่แน่นแล้วดันทะลึ่งน้ำมันเกียร์รั่ว   เคยมีมาแล้วนะครับในคลับ  อุตสาห์ไปใส่ ออยล์เกียร์ ช่างดันทะลึ่งขันน็อตไม่แน่น  น้ำมันเกียร์รั่ว  หวิดพัง     

สรุปเรื่องเกียร์คือมันไม่เปราะขนาดนั้นหรอก  ยกเว้นเจ้าของเก่าใช้มาไม่เคยดูแลรักษา ไม่เปลี่ยน  นมก.อันนั้นถือว่าโชคไม่ดีครับ

4. หารถที่มี Book service แล้วดูว่า  เจ้าของเก่าดูแลรถมาดีแค่ไหน   แบบไม่เคยเปลี่ยน นมก. เลยนี่เลี่ยงได้เลี่ยง  นอกนั้นก็ปรกติ  ไม่ชนหนัก ไม่คว่ำ ไม่จมน้ำ  อื่นๆ ก็ซ่อมจบหมด   ผมเป็นคนไม่เข้าอู่นอก แนะนำว่าถ้าอยู่  กทม. หากรถมีปัญหาให้ไปศูนย์นิสสัน SMT ศรีนครินทร์ ที่นี่ซ่อมจบทุกงาน   แต่ถ้าแค่เช็คระยะเข้าที่ไหนก็ได้

แถมเรื่องช่วงล่างให้อีกหน่อย  คนบอกว่าย้วยๆ กัน ผมก็ว่าจริงนะ  แต่จะหารถญี่ปุ่นบ้านๆ รุ่นประกอบไทยคันไหนที่ให้ช่วงล่างเป็น อลูมิเนียม  เพื่อลดน้ำหนัก un sprung  weight  แบบนี้   ขนาด  ACV 50 พี่โตยังล่อเหล็กหล่อทั้งดุ้น 

เครื่องยนต์ VQ 6 สูบซึ่งคงจะเป็นตำนานบทสุดท้ายในตลาดรถบ้าน mass แบบนี้  หาไม่ได้แล้วครับ

เกือบลืมๆ   ข้อเสีย  กินน้ำมัน อย่างกะถังรั่ว  ติดแก๊สยังจุก  ซ่อมแพงกว่ารถในกลุ่มเดียวกัน  หัวเทียน x  6  ,  Coil จุดระเบิดก็ x 6  ,   จะรื้อจะแกะอะไรซักทัก็วุ่นวาย ห้องเครื่องแน่นมาก

กล่าวโดยสรุป   ถ้าซื้อมาใช้ไปเช้า  เย็นกลับแบบรถครอบครัว เสพความรื่นรมณ์ของห้องโดยสาร และความแรงที่ติดตัวมาจากโรงงานซื้อได้เลยครับ ยินดีต้อนรับสู่ครอบครัว  J32    แต่ถ้าใช้เป็นรถทำมาหากิน  ซื้อคัมรี่จบกว่าครับ......  อ้าวซะงั้น   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 15, 2016, 11:49:49 โดย Jatupon »

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,491
Re: รบกวนขอคำแนะนำ teana j32 2.5xv 6v ปี2010 มือสองครับ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: สิงหาคม 12, 2016, 18:18:52 »
...ไม่ได้ใช้  แต่อยากตอบ...และแนะนำ...

1.  เกียร์  ควรเพิ่มออยล์เกียร์ เข้าไป.....แต่ถ้าไม่เพิ่ม  คุณเปลี่ยนวาล์วน้ำ จาก 82 องศา ลงไปเป็น 72-76 องศา(ต้องเทียบ)  น้ำหล่อเย็นจะลดลงประมาณ 5 องศา   ซึ่งมีผลกับเกียร์ cvt  ซึ่งใช้น้ำอุ่นเกียร์ ทำให้อุณหภูมิน้ำมันเกียร์ลดลงด้วย  ผมเปลี่ยนให้ x-trail t 31 2.0
2.  ขับเรื่อย ๆไม่อัด  ไม่พังง่าย ๆ หรอกครับ  ข้อเสีย  เวลาเปลี่ยนหัวเทียน เหนื่อยจริง ยกท่อไอดีทั้งขุด  ถอดสารพัด  แถมหัวเทียนยังเป็นเบอร์เฉพาะ ขนาดเล็กกว่าเพื่อนเขาอีก...(2.0)  ถ้าไม่ทำเองไม่มีปัญหา
   อย่างอื่นข้างบนให้ความเห็นหมดแล้วครับ....

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,177
Re: รบกวนขอคำแนะนำ teana j32 2.5xv 6v ปี2010 มือสองครับ
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: สิงหาคม 12, 2016, 19:58:25 »
รถบ้านๆราคาไม่เกิน 1.5 ล้านในไทย
ไม่ว่าจะเก๋ง กระบะ PPV SUV ทุกรุ่น สู้ D-Segment 2.4-2.5 ไม่ได้ครับ
ดังนั้น เรื่องสมรรถนะหายห่วงได้เลย

ที่น่าห่วงคือเรื่องกินน้ำมันนี่หล่ะ
ไม่รู้ จขกท ขับรถอะไรมาก่อน แต่ถ้ามีประสบการณ์กับรถแนวนี้มาบ้าง น่าจะรับไหว

ของผม ขับแคมรี่ในเมือง พระราม9 พญาไท รามฯ ดินแดง ตก 8 โลลิตร
เพื่อนผมแอคคอร์ด สีลม สาทร สยาม พระราม4 ช่วงติดหนักๆมี 6 โลลิตร
เทียน่าน่าจะกินดุกว่านี้เล็กน้อย ต้องถามว่ารับได้มั้ย??

แต่ถ้าชานเมือง นอกเมือง ผมว่าเฉลี่ยๆไม่เกิน 11 โลลิตร

ยอมรับว่าความสบายมันเหนือชั้นจริงๆ ได้อย่างเสียอย่างนะครับ

ออฟไลน์ ultraman_pee23

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 24
Re: รบกวนขอคำแนะนำ teana j32 2.5xv 6v ปี2010 มือสองครับ
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: สิงหาคม 12, 2016, 21:01:39 »
ขอบคุณทุกๆคำแนะนำเลยครับ สรุป ปัญหาหลักๆคือ cvt และการกินน้ำมัน เรื่องเกียร์ผมคงเลือกเปลี่ยน นมก ทุก 2 หมื่นโลแทนครับ เพราะส่วนตัวใช้รถน้อย ขับเรื่อยๆ ไม่ได้อัดความเร็วสูงๆ อีกอย่างไม่อยากจะยุ่งระบบเกียร์ พอดีอยู่ต่างจังหวัด กลัวช่างไม่เก่ง กลัวงานจะเข้าครับ ส่วนเรื่องกินน้ำมัน ผมใช้ crv g1 ครับ ซึ่งผมว่าก็กินกว่ารถในปัจจุบันสมควร ซึ่งเทียบกับ city อีกคัน ก็กินกว่าพอสมควรครับ ซึ่งถ้า j32 กินน้อยกว่า crv g1 สักหน่อย ก็พอรับได้ครับ
ปล. พี่ๆคนอื่นแนะนำต่อได้นะครับ กำลังรวบนวมข้อมูล ความกล้า และเงินอยู่ครับ 5555

ออฟไลน์ G.K

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 478
  • Respect Others' Opinions.
Re: รบกวนขอคำแนะนำ teana j32 2.5xv 6v ปี2010 มือสองครับ
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: สิงหาคม 12, 2016, 21:21:08 »
1. ตรวจเช็คสภาพผ้าเบรคหน้า แนะนำเกรด OEM
2. ตรวจสอบสภาพยาง หากเก่าหรือใกล้หมดสภาพควรเปลี่ยน  ถ้าเปลี่ยนแนะนำ  Michellin Primacy 3st  ขนาด 215/55 R17 หรือ 215/60 R17 ราคาเท่ากันแต่จะวิ่งได้ระยะทางมากว่า
3. ถ่ายน้ำมันเกียร์ NS-3 แค่ 4 ลิตรพอครับ  ถ่ายทุกปี หรือ 20,000 -25,000 กม. ถ้าวิ่งน้อยปีละ 10,000 กิโล สามารถยืดเป็น 2 ปีได้
4. ถ่ายน้ำมันเครื่อง แนะนำ 5W-30 ยี่ห้อไหนก็ได้ ตามกำลังทรัพย์ ตามสะดวก
5. ควรเปลี่ยนหม้อน้ำใหม่
6. เช็คโช๊คอับ ว่ามีรั่วซึมหรือเปล่า  ถ้าต้องเปลี่ยนใช้ Kayaba Excel G (เกรด OEM)
7. เช็คสภาพหัวเทียน ควรเปลี่ยนทุก 100,000 โล  ถ้าขับรถเร็วแบบต่อเนื่อง อยากให้เครื่องเย็นใช้หัวเทียนเบอร์ 7  เช่น NGK DF7H-11B

สำหรับผมออยเกียร์ไม่จำเป็นครับ  สัปดาห์ที่แล้ววิ่ง 120 -170 จากลำพูน-สมุทรปราการ 8 ชั่วโมงรวด กลางคืนมองทางไม่ค่อยเห็นครับ

ถ้าขับไม่เป็นของดีมันก็กลายเป็นของไม่ดี..
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 12, 2016, 22:58:33 โดย G.K »

ออฟไลน์ Pegasus7700

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,814
Re: รบกวนขอคำแนะนำ teana j32 2.5xv 6v ปี2010 มือสองครับ
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: สิงหาคม 12, 2016, 22:23:25 »
หึๆ j32มือสอง..

ขอเตือนเรื่องcvt เย่อ ไม่ฉลาด, อืด ,ขับเร็วๆมีย้วย
เห็นชมกันจังนะ.  ผมคงเคยใช้ของปลอม
...ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป...

MERCEDES BENZ W212 '12
FORD FOCUS 2.0 Gdi '13
HONDA Civic RS '20
VOLVO XC60 Hybrid Inscription '19
FORD EVEREST 2.0 Bi Turbo '22

ออฟไลน์ J_Serie5

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,206
Re: รบกวนขอคำแนะนำ teana j32 2.5xv 6v ปี2010 มือสองครับ
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: สิงหาคม 13, 2016, 01:48:43 »
เคยเล็งมือ2รุ่นนี้ไว้+มีเพื่อนใช้อยู่ ปัญหาที่เจอ

1 กินน้ำมันดุกว่าคู่แข่งอย่าง honda accord / toyota camry
2 อะไหล่แพงกว่าชาวบ้าน บางชิ้นต้องซื้อยกชุด ไม่แยกขาย
3 เกียร์ CVT ตัวก่อน MC ไม่มีบางให้ ต้องไปติดเอง ถ้าติดตามอู่ข้างนอกก็พวก Hayden ราคาไม่กี่พัน
4 ช่วงล่างย้วยมาก เน้นนุ่มเกินไป
5 ต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์บ่อยๆ เพราะเกียร์ CVT ไม่ค่อยทน เพราะปัญหาเรื่องความร้อน ยิ่งซื้อมือ2 เราไม่รู้ประวัติ ถ้าเจ้าของเก่าไม่ค่อยถ่ายน้ำมันเกียร์และขับซิ่งบ่อยๆ เตรียมค่าซ่อมเกียร์เผื่อไว้ได้เลย
6 ภายในสีเบจ เลอะง่ายมากๆ

ข้อดี
1 สวย หรู ดูดี ยิ่งใส่ mag 19-20 +ชุดแต่ง ativus ยิ่งดูหล่อมาก แต่ถ้าเดิมๆไม่เปลี่ยน mag ออกแนวผู้ใหญ่ไปหน่อย
2 เบาะหนังโคตรสบาย เหมือนยกโซฟาที่บ้านมาไว้ในรถ
3 ภายในเก็บเสียงดีกว่าพวก accord g8 / camry acv40
4 ความเร็ว 0-120 ให้ความสบายดีมาก นุ่มสบาย ชวนฝัน แต่ถ้าเกิน 120 ขึ้นไป อาการย้วยจะมากขึ้นตามความเร็วที่สูงขึ้น
5 ราคาร่วงเยอะ ซื้อมือ2 คุ้ม แต่ต้องซื้อจากเจ้าของที่มีประวัติซ่อมบำรุงครบ ถ้ามีประกันชั้น1เหลือยิ่งดี จะได้เช็คประวัติย้อนหลังที่บริษัทประกันภัยว่ารถคันนี้เคยชนมาหรือไม่

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,481
Re: รบกวนขอคำแนะนำ teana j32 2.5xv 6v ปี2010 มือสองครับ
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: สิงหาคม 13, 2016, 07:48:58 »
รถดี นั่งสบาย จะแรงก็ได้อยู่ แต่ก็กินดุพอสมควรเลย

ออฟไลน์ SUN-PS

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 808
Re: รบกวนขอคำแนะนำ teana j32 2.5xv 6v ปี2010 มือสองครับ
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: สิงหาคม 13, 2016, 17:27:44 »
ของผมj32ปี2009250xv sunroof จะบอกว่าเทียน่าตัวนี้เป็นรถดีสุดคันนึงตั้งแต่มีรถมาหกคัน ภายในตกแต่งดี เครื่องแจ๋วมากโดยเฉพาะโหมดสปอร์ต ผมไปแดมป์เก็บเสียงเพิ่มจริงๆแล้วจะไปเน้นเครื่องเสียงแต่ผลพลอยได้คือเก็บเสียงได้ดีมาก ศูนย์กรุงไทยติดออยเกียร์คูลเลอร์เพิ่มให้หลังใช้ไปสี่ปีไม่คิดเงิน ปัญหาใหญ่ๆไม่เคยมี คอมเพรสเซอร์เจ๊งตอนครบห้าปีผมว่าก็โอเครับได้ เกียร์ก็ไม่เคยมีปัญหานะครับ น้ำมันคงซดหน่อยแต่ผมไม่เคยวัดสักที ภาพรวมๆใช้งานดีทุกอย่าง แต่ปลายปีนี้คงได้อำลากันแล้ว ผมจะไปลองใช้GLC ไม่รู้ว่าหาเรื่องหรือเปล่า555

ออฟไลน์ arlao

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 111
Re: รบกวนขอคำแนะนำ teana j32 2.5xv 6v ปี2010 มือสองครับ
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: สิงหาคม 14, 2016, 23:58:56 »
มานึกขึ้นได้ ผมไปเห็นJ32 รถใหม่จอดขายในโชว์รูม ที่ไต้หวันเมื่อช่วงมีนาคมที่ผ่านมาครับ
เสียดายถ่ายรูปไม่ทัน
เห็นแวบแรกดีใจและแปลกใจอยู่ที่ไม่เห็นL33ที่นั่นเลยครับ เขาไม่ขายกันหรือว่าผมไม่เห็นก็ไม่ทราบแน่ชัด

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,333
Re: รบกวนขอคำแนะนำ teana j32 2.5xv 6v ปี2010 มือสองครับ
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: สิงหาคม 15, 2016, 22:37:18 »
หึๆ j32มือสอง..

ขอเตือนเรื่องcvt เย่อ ไม่ฉลาด, อืด ,ขับเร็วๆมีย้วย
เห็นชมกันจังนะ.  ผมคงเคยใช้ของปลอม

จริงครับ
cvt ห่วยมาก เครื่องแรง แต่เกียร์ห่วย กด100ครั้ง ผลลัพท์แตกต่างกัน เพราะเกียร์มันค้าง