Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: yourturle ที่ สิงหาคม 19, 2016, 22:18:41
-
Lexus is300h เครื่อง 2AR - FSE L-4 2.5L Dual VVT-i +hybrid รักสิ่งแวดล้อม
แต่ราคา 3,065,000 ถึงออฟชั่นจะเยอะกว่าล้ำกว่า
Hybrid ไม่ได้รับการลดหย่อนทางภาษีหรือ ถึงได้แพงเอาๆ หรือรอเวลาลดราคาที่เหมาะสมอย่างที่ camry my2016
เปิดตัวลดลง 50-70k
จึงสงสัยว่า A4 cbu ทั้งคัน แต่ราคาทำไมไม่แรงกว่านี้ เพราะเหตุผลอะไรบ้าง
-
is มีอะไรล้ำอ่ะครับ รบกวนถามหน่อย
-
Hybrid มันรักษ์โลกแต่ไม่รักเข้าของเลย เจ็บตลอด
-
Lexus ใช้สโลแกนว่า "แล้วงรัยครัยแคร"
-
Lexus ก็ CBU ทั้งคันนี่ครับ แต่ค่ายนี้ผมไม่แปลกใจราคาขายบ้านเรานะ ตั้งราคาเอาที่พี่โตสบายใจ ไม่แคร์สื่อมาตั้งนานแล้ว
-
is มีอะไรล้ำอ่ะครับ รบกวนถามหน่อย
อยากรู้เหมือนกันครับ
-
เคยอ่านข่าวเมื่อสัก 2-3 ปีที่ผ่านมาว่าบริษัท (แม่) Audi จะช่วยทำการตลาด โดยช่วย support ส่วนลดให้ หรือง่ายๆ คือเอากำไรต่อคันน้อยลง เพื่อให้ Audi มีที่ยืนในประเทศไทย และบริษัทแม่จะได้ไม่ต้องลงมาทำตลาดเองอย่างเต็มตัว
หรืออาจจะเป็นเพราะอัตราแลกเปลี่ยน?
หรือทั้ง 2 ข้อรวมกัน?
-
จริงๆ เป็นเพราะผบห. ระดับสูงทั้งญี่ปุ่น และไทยบางคนที่ต้องการยกระดับแบรนด์ โดยใช้ราคาเป็นตัวดัน ผลก็อย่างที่เห็นครับ คือราคาแพงผิดมนุษย์อย่างเราๆ จะเข้าใจว่าทำไม ส่วนเอาดี้ ยนตรกิจคงต้องการเรียกแขกหน้าใหม่ ให้ลืมวีรกรรมเก่าที่ทำไว้กับรุ่นพ่อ รุ่นแม่ไปซะ แต่คงจะยากอยู่ ถ้าบริษัทแม่ไม่ลงมาทำตลาดเอง ถ้าทำผ่านยนตรกิจ ชาติหน้าเถอะครับ
ส่วนตัว ก็ไม่ได้อยากอุดหนุนเลกซัสราคาบ้าเลือดเท่าไหร่ ความจริงผมถือเป็นมือใหม่รถระดับพรีเมี่ยมด้วยซ้ำ ทั้งชีวิตมีแต่รถญี่ปุ่นธรรมดา กับเปอโยต์ ซีตรอง รุ่นพระเจ้าเหา ที่การขับขี่งั้นๆ ไม่ได้เด่นจนคุยโวกับใครได้ พอถึงจุดที่จะพอซื้อหามาใช้ ไม่เดือดร้อนใคร คนรอบตัวก็เชียร์ให้ออกเบนซ์ บีเอ็ม หรือแม้แต่เอาดี้ เพราะภาพลักษณ์ แต่มันไม่ใช่เรื่องที่ผมใส่ใจ
ประเด็นคือ F10 กับ W212 ไม่ตอบโจทย์การขับขี่ และอรรถประโยชน์บางประการ F10 ลองขับชิลๆ สบายๆ มันก็ไม่สบายอย่างที่ควรจะเป็น มันเหมาะจะพ๊ะบู๊สู้ตาย ลงแส้มากกว่า และ W212 คนที่บ้านไม่ค่อยปลื้ม เพราะเบาะแข็ง นั่งไม่สบาย การขับขี่ ถึงผมจะขับสั้นๆ แต่ก็ไม่ประทับใจ มันไม่สมูทอย่างที่รถระดับนี้ควรจะเป็น ส่วน A6 C7 ผมไปดูที่เกรย์เจ้านึง ยังไม่ทันลองหรอกครับ แค่เข้าไปนั่ง ผมก็กระเด้งจากรถแล้ว แคบชิบเป๋ง แถมเบาะหลังสั้น ชัน และเล็ก เบาะหน้านั่งไม่ได้ดีกว่ารถญี่ปุ่นอย่างซีวิค หรืออัลติสเท่าไหร่ แล้วจะให้ทนนั่งแคบไป ไม่เอาหรอก จริงๆ ผมไปประทับใจ A8 D4 รุ่น 3.0 tdi อีกคันที่โชว์อยู่ แต่ติดตรงราคาแรงไปหน่อย อย่างว่ารถฟูลไซส์มันก็ต้องแพงอยู่แล้ว ส่วน Jag XF ผมไม่ค่อยคุ้นเคย ทั้งที่ชอบดีไซน์มากที่สุด
สุดท้ายหวยออกที่ GS ผมไปเทสคันแรก และ W212 คันสุดท้าย แล้วผมก็กลับไปออกเลกซัส ด้วยราคาที่ขูดเลือดกว่าใคร เพราะแพงกว่า F10 525d ราคาติดป้าย ร่วมล้าน ใครมาเห็นคงว่าไอนี่บ้า แต่อย่างว่าครับ รถสองเจ้านั้นมันตอบโจทย์ผมไม่ได้จริงๆ เพราะมันทั้งขับสนุก ขับชิลก็สบาย แถมนั่งก็สบายที่สุด ทำได้ในคันเดียว ผมก็ต้องเอาครับ ดีไซน์ผมก็ชอบพอตัว อีกอย่างศูนย์เค้าก็ดีสมคำร่ำลือ อะไหล่พร้อม ช่างโอเค สามารถเซอร์วิส LS ตัวแรก ยัน RC ได้เลย แต่ต้องเงินถึง เพราะค่าแรงช่างแพงที่สุดในประเทศ
-
ราคาเหมาะก็เคยทำนะ สมัย Lexus NX ที่ทำให้เราได้เห็นมันวิ่งมันเยอะขึ้น เกลื่อนขึ้น
แต่ตอนนี้ พอขายดีหน่อย จองกันหลายเดือนได้ไม่ทันไร กลับไปอัพราคาแพงๆอีกรอบละ อย่าง RC200T นี่เรียกว่าแพงแบบบ้าคลั่งไร้เหตุผลเลย ทั้งที่ความจริงราคาควรจะพอๆกับ C Coupe (เสียดาย เพราะคันจริงมันสวยมากๆ เคยเห็นสีขาวคันจริง มันดู Mini Exotic เลย สวยโดดเด่นจากรถที่จอดคันข้างๆมาก :-* )
ส่วนออดี้
ส่วนเรื่องภาษี ที่ออดี้ตอนนี้ทำราคาถูกลงมาได้มากเพราะภาษีใหม่ปี 59 มันเพิ่มส่วนลดภาษีตาม CO2 ด้วยส่วนนึงครับ นับว่าทำให้ข้อได้เปรียบทางภาษีไม่ต่างกัน (ขึ้นอยู่กับ CO2 เป็นหลัก) หลังจากนี้พวกรถ Turbo Downsize จะได้ประโยชน์ทางภาษีก็คราวนี้ละ แถมไม่โดนกำแพงแรงม้าเหมือนสมัยก่อน (อย่างเช่น A45AMG CLA34 AMG ที่ทำราคารถสามร้อยแรงม้าได้ ในราคาที่ไม่สูงเกินไปนัก)
ส่วน JTEPA ไม่ได้สิทธิอยู่แล้ว เพราะสงวนไว้ให้รถเครื่อง 3000 cc ขึ้นไป ถ้าผมจำไม่ผิดน่ะ
Lexus แพงผมว่าเดี๋ยวเกรย์ก็ลงมาเล่นตลาดนี้น่ะผมว่า เห็นตามโชว์รมเกรย์แถวบ้านนี่ NX RC จอดโชว์กันเยอะแยะ แถม RC ที่ผมเจอบ่อยๆ ก็เป็น RC350 ที่เห็นวิ่งมานานมากๆแล้ว ซึ่งพี่ Lexus TH ก็ไม่ได้เอาเข้ามา (รถเกรย์)
เดี๋ยวรอดูราคา LC500 ปกติราคาที่ควรจะเป็นมันน่าจะพอๆกับ LS460 L (9-11ล้าน) เดี๋ยวพี่ Lexus TH ตั้งราคารอฟันหัวแบะที่แถวๆ 15-16 ล้าน อีกแน่ๆ ทรวดทรงเปี้ยวฟ้าว เลยหาเรื่องอัพราคาดีกว่า :-\
(https://lexusenthusiast.com/images/weblog/16-08-17-lexus-lc-500-larry-chen-speedhunters-1.jpg)
เสียดายรถดีๆ ที่ต้องมาขายไม่ได้เพราะการตั้งราคาของคนบางกลุ่มจริงๆ
-
ผมเคยลังเลในการเลือกรถคันใหม่ ระหว่างlexus nx300hกับbenz glc แต่ติดว่าเบนซ์ประกอบนอกราคาสูงไป แต่พอตัวประกอบในประเทศออกมา ผมเลิกมองเล็กซัสไปเลยครับ
-
จริงๆ เป็นเพราะผบห. ระดับสูงทั้งญี่ปุ่น และไทยบางคนที่ต้องการยกระดับแบรนด์ โดยใช้ราคาเป็นตัวดัน ผลก็อย่างที่เห็นครับ คือราคาแพงผิดมนุษย์อย่างเราๆ จะเข้าใจว่าทำไม ส่วนเอาดี้ ยนตรกิจคงต้องการเรียกแขกหน้าใหม่ ให้ลืมวีรกรรมเก่าที่ทำไว้กับรุ่นพ่อ รุ่นแม่ไปซะ แต่คงจะยากอยู่ ถ้าบริษัทแม่ไม่ลงมาทำตลาดเอง ถ้าทำผ่านยนตรกิจ ชาติหน้าเถอะครับ
ส่วนตัว ก็ไม่ได้อยากอุดหนุนเลกซัสราคาบ้าเลือดเท่าไหร่ ความจริงผมถือเป็นมือใหม่รถระดับพรีเมี่ยมด้วยซ้ำ ทั้งชีวิตมีแต่รถญี่ปุ่นธรรมดา กับเปอโยต์ ซีตรอง รุ่นพระเจ้าเหา ที่การขับขี่งั้นๆ ไม่ได้เด่นจนคุยโวกับใครได้ พอถึงจุดที่จะพอซื้อหามาใช้ ไม่เดือดร้อนใคร คนรอบตัวก็เชียร์ให้ออกเบนซ์ บีเอ็ม หรือแม้แต่เอาดี้ เพราะภาพลักษณ์ แต่มันไม่ใช่เรื่องที่ผมใส่ใจ
ประเด็นคือ F10 กับ W212 ไม่ตอบโจทย์การขับขี่ และอรรถประโยชน์บางประการ F10 ลองขับชิลๆ สบายๆ มันก็ไม่สบายอย่างที่ควรจะเป็น มันเหมาะจะพ๊ะบู๊สู้ตาย ลงแส้มากกว่า และ W212 คนที่บ้านไม่ค่อยปลื้ม เพราะเบาะแข็ง นั่งไม่สบาย การขับขี่ ถึงผมจะขับสั้นๆ แต่ก็ไม่ประทับใจ มันไม่สมูทอย่างที่รถระดับนี้ควรจะเป็น ส่วน A6 C7 ผมไปดูที่เกรย์เจ้านึง ยังไม่ทันลองหรอกครับ แค่เข้าไปนั่ง ผมก็กระเด้งจากรถแล้ว แคบชิบเป๋ง แถมเบาะหลังสั้น ชัน และเล็ก เบาะหน้านั่งไม่ได้ดีกว่ารถญี่ปุ่นอย่างซีวิค หรืออัลติสเท่าไหร่ แล้วจะให้ทนนั่งแคบไป ไม่เอาหรอก จริงๆ ผมไปประทับใจ A8 D4 รุ่น 3.0 tdi อีกคันที่โชว์อยู่ แต่ติดตรงราคาแรงไปหน่อย อย่างว่ารถฟูลไซส์มันก็ต้องแพงอยู่แล้ว ส่วน Jag XF ผมไม่ค่อยคุ้นเคย ทั้งที่ชอบดีไซน์มากที่สุด
สุดท้ายหวยออกที่ GS ผมไปเทสคันแรก และ W212 คันสุดท้าย แล้วผมก็กลับไปออกเลกซัส ด้วยราคาที่ขูดเลือดกว่าใคร เพราะแพงกว่า F10 525d ราคาติดป้าย ร่วมล้าน ใครมาเห็นคงว่าไอนี่บ้า แต่อย่างว่าครับ รถสองเจ้านั้นมันตอบโจทย์ผมไม่ได้จริงๆ เพราะมันทั้งขับสนุก ขับชิลก็สบาย แถมนั่งก็สบายที่สุด ทำได้ในคันเดียว ผมก็ต้องเอาครับ ดีไซน์ผมก็ชอบพอตัว อีกอย่างศูนย์เค้าก็ดีสมคำร่ำลือ อะไหล่พร้อม ช่างโอเค สามารถเซอร์วิส LS ตัวแรก ยัน RC ได้เลย แต่ต้องเงินถึง เพราะค่าแรงช่างแพงที่สุดในประเทศ
มีคนบอกว่าการเก็บสียงของ Lexus ไม่ดี ห้องโดยสารด้านหลังเสียงดังกว่ารถยุโรปเยอะ เป็นความจริงหรือเปล่า
-
จำได้ว่า รถเยอรมันชั้นดี ใช้เลกซัสเปนตัวอ้างอิงเรื่องเก็บเสียงนะครับ
ถ้าทำเงียบได้ไม่เท่า ก็แถได้ว่า เงียบไปเดี๋ยวนึกว่าขับรถไฟฟ้า
หรือขาดอรรถรสในการขับขี่บ้าง
-
เหตุผลคือเค้าไม่เน้นขาย เอาไว้ประดับ ตลาดเล็กซัสอยู่ที่เมกา
เมืองไทยเราขายโตต้าอย่างเดียวก็พอแล้ว
-
เพราะเราคิดว่าเป็นแบรนด์นึงของโตโยต้าไงครับ ผมว่าถ้ามันเป็นแบรนต์ยุโรปอื่นก็คงไม่ได้รู้สึกอะไรเท่าไหร่ แต่เราติดว่ามันเป็นโตโยต้าไงครับ จริงๆเล็กซัสมันแบรนด์พรีเมี่ยมเบอร์ต้นๆเลยนะครับ เคยมีโอกาสได้ขับ is250 สั้นๆครั้งนึง มันก็ขับดีพอๆกับรถยุโรปแบรนด์ดังๆเลยนะครับ ภายในก็ดูพรีเมี่ยมมาก
-
ราคาที่ต้องแลกสำหรับคนเงินเหลือและใจถึง 8)
-
Afta trade
-
Lexus ผมมองว่าเค้าบวกราคาเกินจริงไป ตามสไตล์โตโยต้า
อีกประการที่ไม่ค่อยเปรี้ยง เอาจากคุณแม่ผมเองละกัน
ท่านมองว่า Lexus ก็คือโตโยต้า ดูจากเส้นสายตัวรถก็รู้ว่าเป็นรถญี่ปุ่น
แม้ผมจะจับคุณแม่ไปลองนั่ง GS ใหม่ ท่านชอบภายในจริง แต่สุดท้ายก็กลับไปหา Benz BMW อยู่ดี
ส่วน Audi ภาพลักษณ์ในไทย คนไม่ค่อยรู้จัก (ตามต่างจังหวัด) ก็อดไปตามระเบียบเช่นกัน
-
Lexus เขาขายเอาภาพลักษณ์ครับ ทุกวันนี้ โชว์รูมขายก็มีแค่ 3 ที่เท่านั้น ยังไม่มีวี่แววจะเปิดใหม่เลยด้วย
คนที่ซื้อ ส่วนใหญ่คือ คนมีเงินที่อยากได้รถพรีเมี่ยม ที่ไม่ค่อยซ้ำกับคนอื่น แต่ไม่อยากกังวลเรื่อง ศูนย์บริการ
-
จริงๆ เป็นเพราะผบห. ระดับสูงทั้งญี่ปุ่น และไทยบางคนที่ต้องการยกระดับแบรนด์ โดยใช้ราคาเป็นตัวดัน ผลก็อย่างที่เห็นครับ คือราคาแพงผิดมนุษย์อย่างเราๆ จะเข้าใจว่าทำไม ส่วนเอาดี้ ยนตรกิจคงต้องการเรียกแขกหน้าใหม่ ให้ลืมวีรกรรมเก่าที่ทำไว้กับรุ่นพ่อ รุ่นแม่ไปซะ แต่คงจะยากอยู่ ถ้าบริษัทแม่ไม่ลงมาทำตลาดเอง ถ้าทำผ่านยนตรกิจ ชาติหน้าเถอะครับ
ส่วนตัว ก็ไม่ได้อยากอุดหนุนเลกซัสราคาบ้าเลือดเท่าไหร่ ความจริงผมถือเป็นมือใหม่รถระดับพรีเมี่ยมด้วยซ้ำ ทั้งชีวิตมีแต่รถญี่ปุ่นธรรมดา กับเปอโยต์ ซีตรอง รุ่นพระเจ้าเหา ที่การขับขี่งั้นๆ ไม่ได้เด่นจนคุยโวกับใครได้ พอถึงจุดที่จะพอซื้อหามาใช้ ไม่เดือดร้อนใคร คนรอบตัวก็เชียร์ให้ออกเบนซ์ บีเอ็ม หรือแม้แต่เอาดี้ เพราะภาพลักษณ์ แต่มันไม่ใช่เรื่องที่ผมใส่ใจ
ประเด็นคือ F10 กับ W212 ไม่ตอบโจทย์การขับขี่ และอรรถประโยชน์บางประการ F10 ลองขับชิลๆ สบายๆ มันก็ไม่สบายอย่างที่ควรจะเป็น มันเหมาะจะพ๊ะบู๊สู้ตาย ลงแส้มากกว่า และ W212 คนที่บ้านไม่ค่อยปลื้ม เพราะเบาะแข็ง นั่งไม่สบาย การขับขี่ ถึงผมจะขับสั้นๆ แต่ก็ไม่ประทับใจ มันไม่สมูทอย่างที่รถระดับนี้ควรจะเป็น ส่วน A6 C7 ผมไปดูที่เกรย์เจ้านึง ยังไม่ทันลองหรอกครับ แค่เข้าไปนั่ง ผมก็กระเด้งจากรถแล้ว แคบชิบเป๋ง แถมเบาะหลังสั้น ชัน และเล็ก เบาะหน้านั่งไม่ได้ดีกว่ารถญี่ปุ่นอย่างซีวิค หรืออัลติสเท่าไหร่ แล้วจะให้ทนนั่งแคบไป ไม่เอาหรอก จริงๆ ผมไปประทับใจ A8 D4 รุ่น 3.0 tdi อีกคันที่โชว์อยู่ แต่ติดตรงราคาแรงไปหน่อย อย่างว่ารถฟูลไซส์มันก็ต้องแพงอยู่แล้ว ส่วน Jag XF ผมไม่ค่อยคุ้นเคย ทั้งที่ชอบดีไซน์มากที่สุด
สุดท้ายหวยออกที่ GS ผมไปเทสคันแรก และ W212 คันสุดท้าย แล้วผมก็กลับไปออกเลกซัส ด้วยราคาที่ขูดเลือดกว่าใคร เพราะแพงกว่า F10 525d ราคาติดป้าย ร่วมล้าน ใครมาเห็นคงว่าไอนี่บ้า แต่อย่างว่าครับ รถสองเจ้านั้นมันตอบโจทย์ผมไม่ได้จริงๆ เพราะมันทั้งขับสนุก ขับชิลก็สบาย แถมนั่งก็สบายที่สุด ทำได้ในคันเดียว ผมก็ต้องเอาครับ ดีไซน์ผมก็ชอบพอตัว อีกอย่างศูนย์เค้าก็ดีสมคำร่ำลือ อะไหล่พร้อม ช่างโอเค สามารถเซอร์วิส LS ตัวแรก ยัน RC ได้เลย แต่ต้องเงินถึง เพราะค่าแรงช่างแพงที่สุดในประเทศ
Lexusก็เป็นรถที่ดีมากเช่นกันกับพวกPremiumอื่นๆครับ ส่วนPeugeotหรือCitroenผมว่าไม่ขี้เหร่เลยนะครับ สมัยผมขับBMW E30ป้ายแดงและมีโอกาสขับPeugeot 305 ป้ายแดงไปโคราชยังรู้สึกเลยว่าขับดีกว่าE30ด้วยซ้ำ จำได้ว่าทั้งช่วงล่างและเบรคดีมากๆ เครื่องยนต์ก็ตอบสนองดีครับ
-
จริงๆ เป็นเพราะผบห. ระดับสูงทั้งญี่ปุ่น และไทยบางคนที่ต้องการยกระดับแบรนด์ โดยใช้ราคาเป็นตัวดัน ผลก็อย่างที่เห็นครับ คือราคาแพงผิดมนุษย์อย่างเราๆ จะเข้าใจว่าทำไม ส่วนเอาดี้ ยนตรกิจคงต้องการเรียกแขกหน้าใหม่ ให้ลืมวีรกรรมเก่าที่ทำไว้กับรุ่นพ่อ รุ่นแม่ไปซะ แต่คงจะยากอยู่ ถ้าบริษัทแม่ไม่ลงมาทำตลาดเอง ถ้าทำผ่านยนตรกิจ ชาติหน้าเถอะครับ
ส่วนตัว ก็ไม่ได้อยากอุดหนุนเลกซัสราคาบ้าเลือดเท่าไหร่ ความจริงผมถือเป็นมือใหม่รถระดับพรีเมี่ยมด้วยซ้ำ ทั้งชีวิตมีแต่รถญี่ปุ่นธรรมดา กับเปอโยต์ ซีตรอง รุ่นพระเจ้าเหา ที่การขับขี่งั้นๆ ไม่ได้เด่นจนคุยโวกับใครได้ พอถึงจุดที่จะพอซื้อหามาใช้ ไม่เดือดร้อนใคร คนรอบตัวก็เชียร์ให้ออกเบนซ์ บีเอ็ม หรือแม้แต่เอาดี้ เพราะภาพลักษณ์ แต่มันไม่ใช่เรื่องที่ผมใส่ใจ
ประเด็นคือ F10 กับ W212 ไม่ตอบโจทย์การขับขี่ และอรรถประโยชน์บางประการ F10 ลองขับชิลๆ สบายๆ มันก็ไม่สบายอย่างที่ควรจะเป็น มันเหมาะจะพ๊ะบู๊สู้ตาย ลงแส้มากกว่า และ W212 คนที่บ้านไม่ค่อยปลื้ม เพราะเบาะแข็ง นั่งไม่สบาย การขับขี่ ถึงผมจะขับสั้นๆ แต่ก็ไม่ประทับใจ มันไม่สมูทอย่างที่รถระดับนี้ควรจะเป็น ส่วน A6 C7 ผมไปดูที่เกรย์เจ้านึง ยังไม่ทันลองหรอกครับ แค่เข้าไปนั่ง ผมก็กระเด้งจากรถแล้ว แคบชิบเป๋ง แถมเบาะหลังสั้น ชัน และเล็ก เบาะหน้านั่งไม่ได้ดีกว่ารถญี่ปุ่นอย่างซีวิค หรืออัลติสเท่าไหร่ แล้วจะให้ทนนั่งแคบไป ไม่เอาหรอก จริงๆ ผมไปประทับใจ A8 D4 รุ่น 3.0 tdi อีกคันที่โชว์อยู่ แต่ติดตรงราคาแรงไปหน่อย อย่างว่ารถฟูลไซส์มันก็ต้องแพงอยู่แล้ว ส่วน Jag XF ผมไม่ค่อยคุ้นเคย ทั้งที่ชอบดีไซน์มากที่สุด
สุดท้ายหวยออกที่ GS ผมไปเทสคันแรก และ W212 คันสุดท้าย แล้วผมก็กลับไปออกเลกซัส ด้วยราคาที่ขูดเลือดกว่าใคร เพราะแพงกว่า F10 525d ราคาติดป้าย ร่วมล้าน ใครมาเห็นคงว่าไอนี่บ้า แต่อย่างว่าครับ รถสองเจ้านั้นมันตอบโจทย์ผมไม่ได้จริงๆ เพราะมันทั้งขับสนุก ขับชิลก็สบาย แถมนั่งก็สบายที่สุด ทำได้ในคันเดียว ผมก็ต้องเอาครับ ดีไซน์ผมก็ชอบพอตัว อีกอย่างศูนย์เค้าก็ดีสมคำร่ำลือ อะไหล่พร้อม ช่างโอเค สามารถเซอร์วิส LS ตัวแรก ยัน RC ได้เลย แต่ต้องเงินถึง เพราะค่าแรงช่างแพงที่สุดในประเทศ
มีคนบอกว่าการเก็บสียงของ Lexus ไม่ดี ห้องโดยสารด้านหลังเสียงดังกว่ารถยุโรปเยอะ เป็นความจริงหรือเปล่า
เอาเป็นว่า ถ้านั่งเลกซัสแล้วรู้สึกเสียงดัง ก็ไม่มียี่ห้อไหนเงียบแล้วครับ ส่วนตัว สำหรับรถระดับเดียวกัน ผมว่าบีเอ็มเก็บเสียงโดยรวมแย่สุด มันไม่แย่ขนาดรถยุ่นบางยี่ห้อ แต่พวกเสียงลม เสียงยางมันดังเกินคู่แข่งไปหน่อย
-
จริงๆ เป็นเพราะผบห. ระดับสูงทั้งญี่ปุ่น และไทยบางคนที่ต้องการยกระดับแบรนด์ โดยใช้ราคาเป็นตัวดัน ผลก็อย่างที่เห็นครับ คือราคาแพงผิดมนุษย์อย่างเราๆ จะเข้าใจว่าทำไม ส่วนเอาดี้ ยนตรกิจคงต้องการเรียกแขกหน้าใหม่ ให้ลืมวีรกรรมเก่าที่ทำไว้กับรุ่นพ่อ รุ่นแม่ไปซะ แต่คงจะยากอยู่ ถ้าบริษัทแม่ไม่ลงมาทำตลาดเอง ถ้าทำผ่านยนตรกิจ ชาติหน้าเถอะครับ
ส่วนตัว ก็ไม่ได้อยากอุดหนุนเลกซัสราคาบ้าเลือดเท่าไหร่ ความจริงผมถือเป็นมือใหม่รถระดับพรีเมี่ยมด้วยซ้ำ ทั้งชีวิตมีแต่รถญี่ปุ่นธรรมดา กับเปอโยต์ ซีตรอง รุ่นพระเจ้าเหา ที่การขับขี่งั้นๆ ไม่ได้เด่นจนคุยโวกับใครได้ พอถึงจุดที่จะพอซื้อหามาใช้ ไม่เดือดร้อนใคร คนรอบตัวก็เชียร์ให้ออกเบนซ์ บีเอ็ม หรือแม้แต่เอาดี้ เพราะภาพลักษณ์ แต่มันไม่ใช่เรื่องที่ผมใส่ใจ
ประเด็นคือ F10 กับ W212 ไม่ตอบโจทย์การขับขี่ และอรรถประโยชน์บางประการ F10 ลองขับชิลๆ สบายๆ มันก็ไม่สบายอย่างที่ควรจะเป็น มันเหมาะจะพ๊ะบู๊สู้ตาย ลงแส้มากกว่า และ W212 คนที่บ้านไม่ค่อยปลื้ม เพราะเบาะแข็ง นั่งไม่สบาย การขับขี่ ถึงผมจะขับสั้นๆ แต่ก็ไม่ประทับใจ มันไม่สมูทอย่างที่รถระดับนี้ควรจะเป็น ส่วน A6 C7 ผมไปดูที่เกรย์เจ้านึง ยังไม่ทันลองหรอกครับ แค่เข้าไปนั่ง ผมก็กระเด้งจากรถแล้ว แคบชิบเป๋ง แถมเบาะหลังสั้น ชัน และเล็ก เบาะหน้านั่งไม่ได้ดีกว่ารถญี่ปุ่นอย่างซีวิค หรืออัลติสเท่าไหร่ แล้วจะให้ทนนั่งแคบไป ไม่เอาหรอก จริงๆ ผมไปประทับใจ A8 D4 รุ่น 3.0 tdi อีกคันที่โชว์อยู่ แต่ติดตรงราคาแรงไปหน่อย อย่างว่ารถฟูลไซส์มันก็ต้องแพงอยู่แล้ว ส่วน Jag XF ผมไม่ค่อยคุ้นเคย ทั้งที่ชอบดีไซน์มากที่สุด
สุดท้ายหวยออกที่ GS ผมไปเทสคันแรก และ W212 คันสุดท้าย แล้วผมก็กลับไปออกเลกซัส ด้วยราคาที่ขูดเลือดกว่าใคร เพราะแพงกว่า F10 525d ราคาติดป้าย ร่วมล้าน ใครมาเห็นคงว่าไอนี่บ้า แต่อย่างว่าครับ รถสองเจ้านั้นมันตอบโจทย์ผมไม่ได้จริงๆ เพราะมันทั้งขับสนุก ขับชิลก็สบาย แถมนั่งก็สบายที่สุด ทำได้ในคันเดียว ผมก็ต้องเอาครับ ดีไซน์ผมก็ชอบพอตัว อีกอย่างศูนย์เค้าก็ดีสมคำร่ำลือ อะไหล่พร้อม ช่างโอเค สามารถเซอร์วิส LS ตัวแรก ยัน RC ได้เลย แต่ต้องเงินถึง เพราะค่าแรงช่างแพงที่สุดในประเทศ
มีคนบอกว่าการเก็บสียงของ Lexus ไม่ดี ห้องโดยสารด้านหลังเสียงดังกว่ารถยุโรปเยอะ เป็นความจริงหรือเปล่า
เอาเป็นว่า ถ้านั่งเลกซัสแล้วรู้สึกเสียงดัง ก็ไม่มียี่ห้อไหนเงียบแล้วครับ ส่วนตัว สำหรับรถระดับเดียวกัน ผมว่าบีเอ็มเก็บเสียงโดยรวมแย่สุด มันไม่แย่ขนาดรถยุ่นบางยี่ห้อ แต่พวกเสียงลม เสียงยางมันดังเกินคู่แข่งไปหน่อย
จริงครับ Lexus เน้นเรื่องเก็บเสียงมาก ทั้งกระจกกันเสียง พวกซีลยาง Sound Damper ทั้งคัน ไปลองนั่งแล้วเทียบกันได้เลยครับ
-
ตอบพี่ V221 ครับ
ของผมได้เป็นมรดกจากที่บ้านมาครับ สภาพโทรมพอตัว เป็น Peugeot 405 กับ Citroen Xantia ได้มาใช้ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน เป็นช่วงปี 03-04 อาจจะเป็นสาเหตุที่มันขับไม่ค่อยดีเท่าที่ควรครับ แต่ผมก็ชอบขับกว่ารถญี่ปุ่นที่มีตอนนั้น อย่าง Civic ES กับ Corona Exsior แต่ไม่ได้ประทับใจ เนื่องจากรถเข้าอู่บ่อย ซ่อมแหลก เลยเข็ดกับรถยุโรปมาพักใหญ่ๆ สมัยเรียนมหาลัยก็ได้ซีวิคเนี่ยล่ะครับ ไม่กระจองอแงให้เห็น ไม่งั้นอาจจะไปสอบไม่ทันได้ 55
-
จริงๆ เป็นเพราะผบห. ระดับสูงทั้งญี่ปุ่น และไทยบางคนที่ต้องการยกระดับแบรนด์ โดยใช้ราคาเป็นตัวดัน ผลก็อย่างที่เห็นครับ คือราคาแพงผิดมนุษย์อย่างเราๆ จะเข้าใจว่าทำไม ส่วนเอาดี้ ยนตรกิจคงต้องการเรียกแขกหน้าใหม่ ให้ลืมวีรกรรมเก่าที่ทำไว้กับรุ่นพ่อ รุ่นแม่ไปซะ แต่คงจะยากอยู่ ถ้าบริษัทแม่ไม่ลงมาทำตลาดเอง ถ้าทำผ่านยนตรกิจ ชาติหน้าเถอะครับ
ส่วนตัว ก็ไม่ได้อยากอุดหนุนเลกซัสราคาบ้าเลือดเท่าไหร่ ความจริงผมถือเป็นมือใหม่รถระดับพรีเมี่ยมด้วยซ้ำ ทั้งชีวิตมีแต่รถญี่ปุ่นธรรมดา กับเปอโยต์ ซีตรอง รุ่นพระเจ้าเหา ที่การขับขี่งั้นๆ ไม่ได้เด่นจนคุยโวกับใครได้ พอถึงจุดที่จะพอซื้อหามาใช้ ไม่เดือดร้อนใคร คนรอบตัวก็เชียร์ให้ออกเบนซ์ บีเอ็ม หรือแม้แต่เอาดี้ เพราะภาพลักษณ์ แต่มันไม่ใช่เรื่องที่ผมใส่ใจ
ประเด็นคือ F10 กับ W212 ไม่ตอบโจทย์การขับขี่ และอรรถประโยชน์บางประการ F10 ลองขับชิลๆ สบายๆ มันก็ไม่สบายอย่างที่ควรจะเป็น มันเหมาะจะพ๊ะบู๊สู้ตาย ลงแส้มากกว่า และ W212 คนที่บ้านไม่ค่อยปลื้ม เพราะเบาะแข็ง นั่งไม่สบาย การขับขี่ ถึงผมจะขับสั้นๆ แต่ก็ไม่ประทับใจ มันไม่สมูทอย่างที่รถระดับนี้ควรจะเป็น ส่วน A6 C7 ผมไปดูที่เกรย์เจ้านึง ยังไม่ทันลองหรอกครับ แค่เข้าไปนั่ง ผมก็กระเด้งจากรถแล้ว แคบชิบเป๋ง แถมเบาะหลังสั้น ชัน และเล็ก เบาะหน้านั่งไม่ได้ดีกว่ารถญี่ปุ่นอย่างซีวิค หรืออัลติสเท่าไหร่ แล้วจะให้ทนนั่งแคบไป ไม่เอาหรอก จริงๆ ผมไปประทับใจ A8 D4 รุ่น 3.0 tdi อีกคันที่โชว์อยู่ แต่ติดตรงราคาแรงไปหน่อย อย่างว่ารถฟูลไซส์มันก็ต้องแพงอยู่แล้ว ส่วน Jag XF ผมไม่ค่อยคุ้นเคย ทั้งที่ชอบดีไซน์มากที่สุด
สุดท้ายหวยออกที่ GS ผมไปเทสคันแรก และ W212 คันสุดท้าย แล้วผมก็กลับไปออกเลกซัส ด้วยราคาที่ขูดเลือดกว่าใคร เพราะแพงกว่า F10 525d ราคาติดป้าย ร่วมล้าน ใครมาเห็นคงว่าไอนี่บ้า แต่อย่างว่าครับ รถสองเจ้านั้นมันตอบโจทย์ผมไม่ได้จริงๆ เพราะมันทั้งขับสนุก ขับชิลก็สบาย แถมนั่งก็สบายที่สุด ทำได้ในคันเดียว ผมก็ต้องเอาครับ ดีไซน์ผมก็ชอบพอตัว อีกอย่างศูนย์เค้าก็ดีสมคำร่ำลือ อะไหล่พร้อม ช่างโอเค สามารถเซอร์วิส LS ตัวแรก ยัน RC ได้เลย แต่ต้องเงินถึง เพราะค่าแรงช่างแพงที่สุดในประเทศ
นั่นสิตั้งราคารถแพงแบบพรีเมี่ยมมากแล้ว ค่าแรงช่างยังแพงกว่่ารถยุโรปด้วย ไม่รู้ขนช่างจากเมืองนอกมาทำงานกันหรือเปล่า ถึงไ้ด้แพงแบบนี้ แบรนด์เลกซัสนี่ต้องคนชอบและเงินถึงจริง ๆ
-
ตอบพี่ V221 ครับ
ของผมได้เป็นมรดกจากที่บ้านมาครับ สภาพโทรมพอตัว เป็น Peugeot 405 กับ Citroen Xantia ได้มาใช้ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน เป็นช่วงปี 03-04 อาจจะเป็นสาเหตุที่มันขับไม่ค่อยดีเท่าที่ควรครับ แต่ผมก็ชอบขับกว่ารถญี่ปุ่นที่มีตอนนั้น อย่าง Civic ES กับ Corona Exsior แต่ไม่ได้ประทับใจ เนื่องจากรถเข้าอู่บ่อย ซ่อมแหลก เลยเข็ดกับรถยุโรปมาพักใหญ่ๆ สมัยเรียนมหาลัยก็ได้ซีวิคเนี่ยล่ะครับ ไม่กระจองอแงให้เห็น ไม่งั้นอาจจะไปสอบไม่ทันได้ 55
เหมือน Puegeot เพิ่งจะมาจับกลุ่ม Entry Luxury ตอน 508 นะครับ รุ่นก่อนหน้านี้จับกลุ่มทั่วไปครับ
-
จริงๆ เป็นเพราะผบห. ระดับสูงทั้งญี่ปุ่น และไทยบางคนที่ต้องการยกระดับแบรนด์ โดยใช้ราคาเป็นตัวดัน ผลก็อย่างที่เห็นครับ คือราคาแพงผิดมนุษย์อย่างเราๆ จะเข้าใจว่าทำไม ส่วนเอาดี้ ยนตรกิจคงต้องการเรียกแขกหน้าใหม่ ให้ลืมวีรกรรมเก่าที่ทำไว้กับรุ่นพ่อ รุ่นแม่ไปซะ แต่คงจะยากอยู่ ถ้าบริษัทแม่ไม่ลงมาทำตลาดเอง ถ้าทำผ่านยนตรกิจ ชาติหน้าเถอะครับ
ส่วนตัว ก็ไม่ได้อยากอุดหนุนเลกซัสราคาบ้าเลือดเท่าไหร่ ความจริงผมถือเป็นมือใหม่รถระดับพรีเมี่ยมด้วยซ้ำ ทั้งชีวิตมีแต่รถญี่ปุ่นธรรมดา กับเปอโยต์ ซีตรอง รุ่นพระเจ้าเหา ที่การขับขี่งั้นๆ ไม่ได้เด่นจนคุยโวกับใครได้ พอถึงจุดที่จะพอซื้อหามาใช้ ไม่เดือดร้อนใคร คนรอบตัวก็เชียร์ให้ออกเบนซ์ บีเอ็ม หรือแม้แต่เอาดี้ เพราะภาพลักษณ์ แต่มันไม่ใช่เรื่องที่ผมใส่ใจ
ประเด็นคือ F10 กับ W212 ไม่ตอบโจทย์การขับขี่ และอรรถประโยชน์บางประการ F10 ลองขับชิลๆ สบายๆ มันก็ไม่สบายอย่างที่ควรจะเป็น มันเหมาะจะพ๊ะบู๊สู้ตาย ลงแส้มากกว่า และ W212 คนที่บ้านไม่ค่อยปลื้ม เพราะเบาะแข็ง นั่งไม่สบาย การขับขี่ ถึงผมจะขับสั้นๆ แต่ก็ไม่ประทับใจ มันไม่สมูทอย่างที่รถระดับนี้ควรจะเป็น ส่วน A6 C7 ผมไปดูที่เกรย์เจ้านึง ยังไม่ทันลองหรอกครับ แค่เข้าไปนั่ง ผมก็กระเด้งจากรถแล้ว แคบชิบเป๋ง แถมเบาะหลังสั้น ชัน และเล็ก เบาะหน้านั่งไม่ได้ดีกว่ารถญี่ปุ่นอย่างซีวิค หรืออัลติสเท่าไหร่ แล้วจะให้ทนนั่งแคบไป ไม่เอาหรอก จริงๆ ผมไปประทับใจ A8 D4 รุ่น 3.0 tdi อีกคันที่โชว์อยู่ แต่ติดตรงราคาแรงไปหน่อย อย่างว่ารถฟูลไซส์มันก็ต้องแพงอยู่แล้ว ส่วน Jag XF ผมไม่ค่อยคุ้นเคย ทั้งที่ชอบดีไซน์มากที่สุด
สุดท้ายหวยออกที่ GS ผมไปเทสคันแรก และ W212 คันสุดท้าย แล้วผมก็กลับไปออกเลกซัส ด้วยราคาที่ขูดเลือดกว่าใคร เพราะแพงกว่า F10 525d ราคาติดป้าย ร่วมล้าน ใครมาเห็นคงว่าไอนี่บ้า แต่อย่างว่าครับ รถสองเจ้านั้นมันตอบโจทย์ผมไม่ได้จริงๆ เพราะมันทั้งขับสนุก ขับชิลก็สบาย แถมนั่งก็สบายที่สุด ทำได้ในคันเดียว ผมก็ต้องเอาครับ ดีไซน์ผมก็ชอบพอตัว อีกอย่างศูนย์เค้าก็ดีสมคำร่ำลือ อะไหล่พร้อม ช่างโอเค สามารถเซอร์วิส LS ตัวแรก ยัน RC ได้เลย แต่ต้องเงินถึง เพราะค่าแรงช่างแพงที่สุดในประเทศ
มีคนบอกว่าการเก็บสียงของ Lexus ไม่ดี ห้องโดยสารด้านหลังเสียงดังกว่ารถยุโรปเยอะ เป็นความจริงหรือเปล่า
เอาเป็นว่า ถ้านั่งเลกซัสแล้วรู้สึกเสียงดัง ก็ไม่มียี่ห้อไหนเงียบแล้วครับ ส่วนตัว สำหรับรถระดับเดียวกัน ผมว่าบีเอ็มเก็บเสียงโดยรวมแย่สุด มันไม่แย่ขนาดรถยุ่นบางยี่ห้อ แต่พวกเสียงลม เสียงยางมันดังเกินคู่แข่งไปหน่อย
จริงครับ Lexus เน้นเรื่องเก็บเสียงมาก ทั้งกระจกกันเสียง พวกซีลยาง Sound Damper ทั้งคัน ไปลองนั่งแล้วเทียบกันได้เลยครับ
ผลการทดสอบ Lexus ES300H ในสหรัฐอเมริกา ที่ความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เสียงในห้องโดยสาร 60.9 เดซิเบล ถ้าผลการทดสอบ Lexus ES300H ในประเทศไทยด้ 84 เดซิเบล เป็นความดังปกติของ Lexus ES300H ในประเทศไทยทุกคัน หรือเฉพาะคันนั้นคันเดียวครับ
-
มีอะไรดีไม่รู้ แต่เหมือนงานแต่งลูกเจ้าสัว cp ใช้เป็นรถลีมูซีน
ดร นิเวศร์ ก็ใช้ยี่ห้อนี้ ทักษิณรู้สึกก็ใช้ LS400 รวมทั้งเสี่ยชูวงษ์ก็ยี่ห้อนี้
เห็นได้ว่าพวกนักธุรกิจทั้งหลายที่ไม่ได้คลั่งรถส่วนใหญ่ใช้ยี่ห้อนี้ทั้งนั้น ไม่ใช่เอะอะอะไรก็เบนซ์ พวกนี้หัวโขนทั้งนั้น
-
ตอบพี่ V221 ครับ
ของผมได้เป็นมรดกจากที่บ้านมาครับ สภาพโทรมพอตัว เป็น Peugeot 405 กับ Citroen Xantia ได้มาใช้ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน เป็นช่วงปี 03-04 อาจจะเป็นสาเหตุที่มันขับไม่ค่อยดีเท่าที่ควรครับ แต่ผมก็ชอบขับกว่ารถญี่ปุ่นที่มีตอนนั้น อย่าง Civic ES กับ Corona Exsior แต่ไม่ได้ประทับใจ เนื่องจากรถเข้าอู่บ่อย ซ่อมแหลก เลยเข็ดกับรถยุโรปมาพักใหญ่ๆ สมัยเรียนมหาลัยก็ได้ซีวิคเนี่ยล่ะครับ ไม่กระจองอแงให้เห็น ไม่งั้นอาจจะไปสอบไม่ทันได้ 55
405กับXantiaเป็นรถที่ช่วงล่างดีมากๆนะครับ เพื่อนผมเคยใช้ตอนใหม่ๆสำหรับ405ถือว่าช่วงล่างเทพมาก Xantiaก็แจ่มเลย โดยเฉพาะ Peugeot 405MI16 ที่BMW Series5 กินไม่ลงครับ ขอบอก
-
จริงๆ เป็นเพราะผบห. ระดับสูงทั้งญี่ปุ่น และไทยบางคนที่ต้องการยกระดับแบรนด์ โดยใช้ราคาเป็นตัวดัน ผลก็อย่างที่เห็นครับ คือราคาแพงผิดมนุษย์อย่างเราๆ จะเข้าใจว่าทำไม ส่วนเอาดี้ ยนตรกิจคงต้องการเรียกแขกหน้าใหม่ ให้ลืมวีรกรรมเก่าที่ทำไว้กับรุ่นพ่อ รุ่นแม่ไปซะ แต่คงจะยากอยู่ ถ้าบริษัทแม่ไม่ลงมาทำตลาดเอง ถ้าทำผ่านยนตรกิจ ชาติหน้าเถอะครับ
ส่วนตัว ก็ไม่ได้อยากอุดหนุนเลกซัสราคาบ้าเลือดเท่าไหร่ ความจริงผมถือเป็นมือใหม่รถระดับพรีเมี่ยมด้วยซ้ำ ทั้งชีวิตมีแต่รถญี่ปุ่นธรรมดา กับเปอโยต์ ซีตรอง รุ่นพระเจ้าเหา ที่การขับขี่งั้นๆ ไม่ได้เด่นจนคุยโวกับใครได้ พอถึงจุดที่จะพอซื้อหามาใช้ ไม่เดือดร้อนใคร คนรอบตัวก็เชียร์ให้ออกเบนซ์ บีเอ็ม หรือแม้แต่เอาดี้ เพราะภาพลักษณ์ แต่มันไม่ใช่เรื่องที่ผมใส่ใจ
ประเด็นคือ F10 กับ W212 ไม่ตอบโจทย์การขับขี่ และอรรถประโยชน์บางประการ F10 ลองขับชิลๆ สบายๆ มันก็ไม่สบายอย่างที่ควรจะเป็น มันเหมาะจะพ๊ะบู๊สู้ตาย ลงแส้มากกว่า และ W212 คนที่บ้านไม่ค่อยปลื้ม เพราะเบาะแข็ง นั่งไม่สบาย การขับขี่ ถึงผมจะขับสั้นๆ แต่ก็ไม่ประทับใจ มันไม่สมูทอย่างที่รถระดับนี้ควรจะเป็น ส่วน A6 C7 ผมไปดูที่เกรย์เจ้านึง ยังไม่ทันลองหรอกครับ แค่เข้าไปนั่ง ผมก็กระเด้งจากรถแล้ว แคบชิบเป๋ง แถมเบาะหลังสั้น ชัน และเล็ก เบาะหน้านั่งไม่ได้ดีกว่ารถญี่ปุ่นอย่างซีวิค หรืออัลติสเท่าไหร่ แล้วจะให้ทนนั่งแคบไป ไม่เอาหรอก จริงๆ ผมไปประทับใจ A8 D4 รุ่น 3.0 tdi อีกคันที่โชว์อยู่ แต่ติดตรงราคาแรงไปหน่อย อย่างว่ารถฟูลไซส์มันก็ต้องแพงอยู่แล้ว ส่วน Jag XF ผมไม่ค่อยคุ้นเคย ทั้งที่ชอบดีไซน์มากที่สุด
สุดท้ายหวยออกที่ GS ผมไปเทสคันแรก และ W212 คันสุดท้าย แล้วผมก็กลับไปออกเลกซัส ด้วยราคาที่ขูดเลือดกว่าใคร เพราะแพงกว่า F10 525d ราคาติดป้าย ร่วมล้าน ใครมาเห็นคงว่าไอนี่บ้า แต่อย่างว่าครับ รถสองเจ้านั้นมันตอบโจทย์ผมไม่ได้จริงๆ เพราะมันทั้งขับสนุก ขับชิลก็สบาย แถมนั่งก็สบายที่สุด ทำได้ในคันเดียว ผมก็ต้องเอาครับ ดีไซน์ผมก็ชอบพอตัว อีกอย่างศูนย์เค้าก็ดีสมคำร่ำลือ อะไหล่พร้อม ช่างโอเค สามารถเซอร์วิส LS ตัวแรก ยัน RC ได้เลย แต่ต้องเงินถึง เพราะค่าแรงช่างแพงที่สุดในประเทศ
ไม่เคยขับ F10 แต่อยากรู็ว่า มันไม่นิ่ม ไม่นุ่ม ไม่อะไรเลยหรอครับเนี่ย พี่แกอยากจะบู๊อย่างเดียวเลยหรอ
ผมเปรียบเทียบอยู่เลยระหว่าง F10 กับ E ตัวใหม่เนี่ย ชักจะลังเลพอสมควร
-
ผลการทดสอบ Lexus ES300H ในสหรัฐอเมริกา ที่ความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เสียงในห้องโดยสาร 60.9 เดซิเบล ถ้าผลการทดสอบ Lexus ES300H ในประเทศไทยด้ 84 เดซิเบล เป็นความดังปกติของ Lexus ES300H ในประเทศไทยทุกคัน หรือเฉพาะคันนั้นคันเดียวครับ
[/quote]
เกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อม ทั้งถนน ทั้งเสปคยางด้วยมั้ยครับ ผลจึงออกมาต่างกัน ผมยังเคยนึกเลยว่าถนนบ้านเรานี่ควรใช้รถยี่ห้อไหนถึงจะเงียบได้
-
ตอบคุณ Eakkypoo
รถที่ผมลองทั้งสองคัน เป็นตัว LCI แล้วครับ ปรับช่วงล่างไม่ได้ ฉนั้นอาการต่างๆ ที่ผมได้รับ อาจจะไม่เหมือนรุ่นที่ HLM ทดสอบครับ เพราะรุ่นช่วงล่างปรับได้ เห็นว่ามันสปอร์ต คม ติดดิบนิดๆ
คือฟีลลิ่งมันก็นุ่มพอสมควรนะครับ ซับแรงกระแทกดีใช้ได้ แต่สิ่งที่ผมไม่ชอบหลักๆ คือเข้าโค้งแล้วโยนตัวเกินงาม พวงมาลัยไม่ค่อยคม มีแอบเบาย่านความเร็วสูง แต่ความเร็วปานกลางดี หนักแน่น รถจะไม่ค่อยคล่องตัวเท่าไหร่เวลาขับในเมือง อารมณ์รถใหญ่ ฐานล้อยาว
และที่สำคัญ คือบีเอ็มให้อารมณ์การขับที่ไม่ค่อยสุนทรีเท่าไหร่ ผมต้องการสื่อในแง่นี้มากกว่า การตกแต่งด้วยแสงสีแดง กับวัสดุตกแต่งภายใน ส่วนตัวผมมองว่ามันไม่ค่อยสร้างบรรยากาศ cozy ในห้องโดยสาร จะเน้นเร้าอารมณ์สปอร์ต ซึ่งเอาดี้ก็มาแนวทางเดียวกัน แต่ผมจะชอบบรรยากาศแบบเบนซ์ เลกซัส แจกัวร์มากกว่าครับ อันนี้แล้วแต่ชอบเลย
ปล. หาโอกาสไปลองขับนะครับ เซลล์บีเอ็มกันเองอยู่แล้ว ยินดีให้ลองขับแบบถึงใจจริงๆ อย่าซื้อ เพราะไม่ได้ลอง บางที่คุณอาจจะชอบไม่เหมือนผมก็ได้ครับ
-
ผมว่าเค้าตั้งเพราะอยากจะตั้ง
กลุ่มลูกค้าค่ายนี้ผมว่าคงเบื่อๆค่ายยุโรปสองเจ้า หรืออยากแต่งต่าง หรือชอบจริงๆใจรักจริงๆ
กลุ่มลูกค้าเค้ามีอยู่แล้วครับ ถ้าราคาลงมาอีกผมว่ามันก็แทบจะไม่ได้ช่วยกระตุ้นยอดเท่าไหร่หรอก เชื่อสิ
-
ตอบพี่ V221 ครับ
ของผมได้เป็นมรดกจากที่บ้านมาครับ สภาพโทรมพอตัว เป็น Peugeot 405 กับ Citroen Xantia ได้มาใช้ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน เป็นช่วงปี 03-04 อาจจะเป็นสาเหตุที่มันขับไม่ค่อยดีเท่าที่ควรครับ แต่ผมก็ชอบขับกว่ารถญี่ปุ่นที่มีตอนนั้น อย่าง Civic ES กับ Corona Exsior แต่ไม่ได้ประทับใจ เนื่องจากรถเข้าอู่บ่อย ซ่อมแหลก เลยเข็ดกับรถยุโรปมาพักใหญ่ๆ สมัยเรียนมหาลัยก็ได้ซีวิคเนี่ยล่ะครับ ไม่กระจองอแงให้เห็น ไม่งั้นอาจจะไปสอบไม่ทันได้ 55
405กับXantiaเป็นรถที่ช่วงล่างดีมากๆนะครับ เพื่อนผมเคยใช้ตอนใหม่ๆสำหรับ405ถือว่าช่วงล่างเทพมาก Xantiaก็แจ่มเลย โดยเฉพาะ Peugeot 405MI16 ที่BMW Series5 กินไม่ลงครับ ขอบอก
ซองเทีย ช่วงล่าง "ไฮโดรนูเมติค" ของมันนี่แหละ ทำชีวิตผมลำบากมาหลายหน ทั้งที่มันเป็นสิ่งชูโรงของซีตรองมาระยะเวลานึงเลยทีเดียว เพราะผมไม่ได้เชี่ยวเล่นรถประเภทนี้มาก่อน สภาพตอนอยู่ในมือความนุ่มนวลของมัน ออกแบบแรนด้อมเลย คือนึกจะนุ่มตรูก็นุ่ม จะแข็งมันก็แข็งเอง ไม่ฉลาดอะไรทั้งนั้น เข้าโค้งแรกพอหนึบอยู่ โค้งที่สองอันเดอร์บานออกเลย พูดง่ายๆ คือระบบมันรวนเรมากแล้ว ที่ลาขาดก็เพราะข่วงล่าง ไฮโดรลิคสุดเท่ห์ของมัน ทำกระเป๋าแหก และประสาทกินไปพร้อมๆ กันครับ อยู่อู่มากกว่าบ้าน บางทีก็ต้องมานั่งซ่อมมันเองแบบช่างจำเป็น เพราะมันไปตายกลางทาง เรียกรถลากมาแล้วก็มี
ส่วน 405 พวงมาลัยหนักลืมโลก หมุนที่เหมือนหมุนดึงเครื่องออกกำลังกายในยิม จอดรถที่สยาม โดนชาวบ้านกดดัน เค้ามีพวงมาลัยพาวเวอร์กันแล้ว ไอ้นี่พาวเยอร์แรงเจอร์ สาวมือเป็นลิง แถมด้วยช่วงล่างมันกระเด้ง ดีดเป็นม้า ลงทุนเปลี่ยนโช้คสี่ต้น เปลี่ยนสปริง เปลี่ยนยาง อาการมันก็ดีขึ้นมาหน่อย ขับเร็วพอมั่นใจ แต่เหมือนสภาพช่วงล่างมันกรำศึกมาเยอะแล้ว (ต้องเยอะครับ เพราะรถปี 91 วิ่งไปแสนเก้า ตอนมาอยู่ในมือผม) เครื่องก็หลวมโครก ไม่อยากเสียตังค์ยกเครื่องใหม่ สุดท้ายก็ปล่อยทีละคัน ออกจากบ้านครับ ไม่ไหว ให้คนที่ใจรัก พร้อมซ่อมดีกว่า
-
ตอบพี่ V221 ครับ
ของผมได้เป็นมรดกจากที่บ้านมาครับ สภาพโทรมพอตัว เป็น Peugeot 405 กับ Citroen Xantia ได้มาใช้ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน เป็นช่วงปี 03-04 อาจจะเป็นสาเหตุที่มันขับไม่ค่อยดีเท่าที่ควรครับ แต่ผมก็ชอบขับกว่ารถญี่ปุ่นที่มีตอนนั้น อย่าง Civic ES กับ Corona Exsior แต่ไม่ได้ประทับใจ เนื่องจากรถเข้าอู่บ่อย ซ่อมแหลก เลยเข็ดกับรถยุโรปมาพักใหญ่ๆ สมัยเรียนมหาลัยก็ได้ซีวิคเนี่ยล่ะครับ ไม่กระจองอแงให้เห็น ไม่งั้นอาจจะไปสอบไม่ทันได้ 55
405กับXantiaเป็นรถที่ช่วงล่างดีมากๆนะครับ เพื่อนผมเคยใช้ตอนใหม่ๆสำหรับ405ถือว่าช่วงล่างเทพมาก Xantiaก็แจ่มเลย โดยเฉพาะ Peugeot 405MI16 ที่BMW Series5 กินไม่ลงครับ ขอบอก
ซองเทีย ช่วงล่าง "ไฮโดรนูเมติค" ของมันนี่แหละ ทำชีวิตผมลำบากมาหลายหน ทั้งที่มันเป็นสิ่งชูโรงของซีตรองมาระยะเวลานึงเลยทีเดียว เพราะผมไม่ได้เชี่ยวเล่นรถประเภทนี้มาก่อน สภาพตอนอยู่ในมือความนุ่มนวลของมัน ออกแบบแรนด้อมเลย คือนึกจะนุ่มตรูก็นุ่ม จะแข็งมันก็แข็งเอง ไม่ฉลาดอะไรทั้งนั้น เข้าโค้งแรกพอหนึบอยู่ โค้งที่สองอันเดอร์บานออกเลย พูดง่ายๆ คือระบบมันรวนเรมากแล้ว ที่ลาขาดก็เพราะข่วงล่าง ไฮโดรลิคสุดเท่ห์ของมัน ทำกระเป๋าแหก และประสาทกินไปพร้อมๆ กันครับ อยู่อู่มากกว่าบ้าน บางทีก็ต้องมานั่งซ่อมมันเองแบบช่างจำเป็น เพราะมันไปตายกลางทาง เรียกรถลากมาแล้วก็มี
ส่วน 405 พวงมาลัยหนักลืมโลก หมุนที่เหมือนหมุนดึงเครื่องออกกำลังกายในยิม จอดรถที่สยาม โดนชาวบ้านกดดัน เค้ามีพวงมาลัยพาวเวอร์กันแล้ว ไอ้นี่พาวเยอร์แรงเจอร์ สาวมือเป็นลิง แถมด้วยช่วงล่างมันกระเด้ง ดีดเป็นม้า ลงทุนเปลี่ยนโช้คสี่ต้น เปลี่ยนสปริง เปลี่ยนยาง อาการมันก็ดีขึ้นมาหน่อย ขับเร็วพอมั่นใจ แต่เหมือนสภาพช่วงล่างมันกรำศึกมาเยอะแล้ว (ต้องเยอะครับ เพราะรถปี 91 วิ่งไปแสนเก้า ตอนมาอยู่ในมือผม) เครื่องก็หลวมโครก ไม่อยากเสียตังค์ยกเครื่องใหม่ สุดท้ายก็ปล่อยทีละคัน ออกจากบ้านครับ ไม่ไหว ให้คนที่ใจรัก พร้อมซ่อมดีกว่า
ครับ ช่วงล่างHydropnuematicดีก็จริงแต่ถ้าเสียก็อ่วมเหมือนกัน ถ้ารักจะใช้ต้องไปหาช่างที่ออกมาเปิดอู่เองที่ไว้ใจกันได้ถึงจะพอไหว แต่ตอนที่สมบูรณ์นี่นุ่มนวลจริงๆครับเพราะเคยนั่งCXของน้าเขยตอนใหม่ๆความรู้สึกสบายมากๆเหมือนอยู่บนโซฟาเคลื่อนที่เลย
ส่วนPeugeotเค้าก็แบบนี้มานานแล้วทั้งรุ่น504 505 305 พวงมาลัยหนัก คลัทช์หนัก แต่ช่วงล่างหนึบสุดๆครับ
-
ข้อดีของlexusที่เห็นชัดๆคือแทบไม่มีการร้องเรียนเรื่องคุณภาพรถเลย เพื่อนผมใช้Lsมาสิบปีไม่เคยเสียเลยครับ
-
Lexus ตั้งราคามาแพงเอง เพราะผ่านหลายขั้นตอน ผ่านหลายด่าน ผมว่าถ้าทำจริงๆก็ทำได้ เพียงแต่กระบวนการทำงานต้องลดขั้นตอนลง
-
ตอบพี่ V221 ครับ
ของผมได้เป็นมรดกจากที่บ้านมาครับ สภาพโทรมพอตัว เป็น Peugeot 405 กับ Citroen Xantia ได้มาใช้ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน เป็นช่วงปี 03-04 อาจจะเป็นสาเหตุที่มันขับไม่ค่อยดีเท่าที่ควรครับ แต่ผมก็ชอบขับกว่ารถญี่ปุ่นที่มีตอนนั้น อย่าง Civic ES กับ Corona Exsior แต่ไม่ได้ประทับใจ เนื่องจากรถเข้าอู่บ่อย ซ่อมแหลก เลยเข็ดกับรถยุโรปมาพักใหญ่ๆ สมัยเรียนมหาลัยก็ได้ซีวิคเนี่ยล่ะครับ ไม่กระจองอแงให้เห็น ไม่งั้นอาจจะไปสอบไม่ทันได้ 55
405กับXantiaเป็นรถที่ช่วงล่างดีมากๆนะครับ เพื่อนผมเคยใช้ตอนใหม่ๆสำหรับ405ถือว่าช่วงล่างเทพมาก Xantiaก็แจ่มเลย โดยเฉพาะ Peugeot 405MI16 ที่BMW Series5 กินไม่ลงครับ ขอบอก
ซองเทีย ช่วงล่าง "ไฮโดรนูเมติค" ของมันนี่แหละ ทำชีวิตผมลำบากมาหลายหน ทั้งที่มันเป็นสิ่งชูโรงของซีตรองมาระยะเวลานึงเลยทีเดียว เพราะผมไม่ได้เชี่ยวเล่นรถประเภทนี้มาก่อน สภาพตอนอยู่ในมือความนุ่มนวลของมัน ออกแบบแรนด้อมเลย คือนึกจะนุ่มตรูก็นุ่ม จะแข็งมันก็แข็งเอง ไม่ฉลาดอะไรทั้งนั้น เข้าโค้งแรกพอหนึบอยู่ โค้งที่สองอันเดอร์บานออกเลย พูดง่ายๆ คือระบบมันรวนเรมากแล้ว ที่ลาขาดก็เพราะข่วงล่าง ไฮโดรลิคสุดเท่ห์ของมัน ทำกระเป๋าแหก และประสาทกินไปพร้อมๆ กันครับ อยู่อู่มากกว่าบ้าน บางทีก็ต้องมานั่งซ่อมมันเองแบบช่างจำเป็น เพราะมันไปตายกลางทาง เรียกรถลากมาแล้วก็มี
ส่วน 405 พวงมาลัยหนักลืมโลก หมุนที่เหมือนหมุนดึงเครื่องออกกำลังกายในยิม จอดรถที่สยาม โดนชาวบ้านกดดัน เค้ามีพวงมาลัยพาวเวอร์กันแล้ว ไอ้นี่พาวเยอร์แรงเจอร์ สาวมือเป็นลิง แถมด้วยช่วงล่างมันกระเด้ง ดีดเป็นม้า ลงทุนเปลี่ยนโช้คสี่ต้น เปลี่ยนสปริง เปลี่ยนยาง อาการมันก็ดีขึ้นมาหน่อย ขับเร็วพอมั่นใจ แต่เหมือนสภาพช่วงล่างมันกรำศึกมาเยอะแล้ว (ต้องเยอะครับ เพราะรถปี 91 วิ่งไปแสนเก้า ตอนมาอยู่ในมือผม) เครื่องก็หลวมโครก ไม่อยากเสียตังค์ยกเครื่องใหม่ สุดท้ายก็ปล่อยทีละคัน ออกจากบ้านครับ ไม่ไหว ให้คนที่ใจรัก พร้อมซ่อมดีกว่า
ครับ ช่วงล่างHydropnuematicดีก็จริงแต่ถ้าเสียก็อ่วมเหมือนกัน ถ้ารักจะใช้ต้องไปหาช่างที่ออกมาเปิดอู่เองที่ไว้ใจกันได้ถึงจะพอไหว แต่ตอนที่สมบูรณ์นี่นุ่มนวลจริงๆครับเพราะเคยนั่งCXของน้าเขยตอนใหม่ๆความรู้สึกสบายมากๆเหมือนอยู่บนโซฟาเคลื่อนที่เลย
ส่วนPeugeotเค้าก็แบบนี้มานานแล้วทั้งรุ่น504 505 305 พวงมาลัยหนัก คลัทช์หนัก แต่ช่วงล่างหนึบสุดๆครับ
ยังไงผมต้องขอบคุณสำหรับข้อมูลดีดีของพี่ V221 ด้วยครับ รถที่บ้าน (ครอบครัวใหญ่) ใช้รถทิ้งๆ ขว้างๆ ไม่ดูแลเลย พวกที่ตกมาเป็นมรดก คือแทบจะเป็นซาก ความที่เห็นเป็นรถยุโรป บวกกับเป็นวัยรุ่นช่วงนั้น ก็อยากลอง อยากขับ แต่พอใช้ไปจริงๆ มันมีหลายอย่างที่ลดทอนความดีของมันไปเยอะ ใครถามว่าใช้ดี ขับดีมั๊ย ผมส่ายหัวลูกเดียว จนผมแทบนึกภาพตอนมันเจ๋งไม่ออกครับ แต่ที่สัมผัสได้อย่าง คือวัสดุภายในรถมันทน ตอนขายไปชิ้นส่วนยังค่อนข้างสมบูรณ์ ผิดกับรถญี่ปุ่นยุคเดียวกัน มันดูโทรมตามวัยเกินไปหน่อย
อีกอย่าง ช่วงวัยรุ่น ผมจะเน้นรถขับซิ่ง ไวๆ หน่อย ช่วงล่างไม่ค่อยเน้นมาก อะไรก็ขับเกิน 200 ได้ แค่ใจลุยก็พอ เลยไม่รู้สึกว่าความหนักแน่นตอนขับเร็ว จะมีผลนัก คือพอมานึกย้อน จริงๆ ทั้งสองคัน ตอนใช้ความเร็วสูงมันนิ่งพอตัวเลย ขนาดสภาพโทรมมากแล้วนะครับ แต่ถ้าเทียบกับ GS ที่ใช้อยู่ นิ่งสู้ไม่ได้ครับ (ก็แหงล่ะ สภาพต่างกันฟ้ากับเหว ลองเอาสภาพป้ายแดง ชนกันแบบพี่ว่า น่าจะซัดกันมัน) มีช่วงนึงเคยลอง 525i e34 ของเพื่อนที่คณะ ก็ไม่เชิงประทับใจนัก เพราะฟีลมันคล้ายๆ 405 คือทุกอย่างมันหนักไปหมด (505 ที่บ้านอีกคันก็เป็น ไอนี่ยิ่งหนัก แข็งเป็นหิน แม่ผมด่าเช็ด บอกไม่จำเป็นจะไม่ขับ) พอทุกอย่างมันหนัก ผมจะไม่เอ็นจอยในการขับแล้วล่ะ จะชอบรถญี่ปุ่นกว่าก็ตรงนี้ ในแง่ที่ขับง่าย ขับคล่องมากกว่า (แต่บางทีก็คล่องเกิน เบาหวิวชวนคว่ำ)
จะว่าไป 405 ผมแปลกอย่าง มันจะมีบางช่วง อยู่ดีดีพวงมาลัยนึกจะเบาตอนขับเร็ว ก็เบามาซะงั้น กลายเป็นเจอลมบนบูรพาวิถีหอบ เป๋เลย นานๆ เป็นที ผมยังงงๆ กับมันอยู่ แต่จำตอนที่ไปถามช่างไม่ค่อยได้ เหมือนไม่ใช่อาการหนักหนา เลยไม่ได้ใส่ใจครับ แย่จริงผม
-
จะบอกว่า ถ้าท่านรู้จักคนในเค้า
ท่านจะได้ส่วนลดเยอะแบบไม่น่าเชื่อ
และถ้าราคาส่วนลดตรงนี้ มาใช้กับตลาดทั่วไป รับรองขายดีกว่านี้มากแน่นอน