Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: diow_1991 ที่ ธันวาคม 14, 2017, 17:36:28
-
มีญาติกำลังจะซื้อ Altis ครับ ลังเลระหว่าง 1.6G กับ 1.8E ราคาต่างกันไม่ถึงหมื่นบาท
แกอยากรู้ว่าถ้าคนขับไม่รู้เรื่องรถเลย แล้วไปขับ 1.6 กับ 1.8 มันแรงต่างกันแบบรู้สึกได้ไหม
แล้วอัตราสิ้นเปลืองต่างกันเยอะไหม ขอบคุณครับ
-
ขับแต่ในเมืองหรือออกกต่างจังหวัดบ่อยครับ ถ้าในเมืองก็เอา 1.6 ดีกว่าครับถ้าออกต่างจังหวัดบ่อยแบบทุกเดือนก็น่าใช้อยู่
-
กำลังเอาจริงๆ ถ้าไม่เหยียบมิด ต่างกันไม่มากนะครับ
เอาเป็นว่าไปลองขับถ้า 1.6 มันพอแล้วก็เท่า 1.6
ดูตัวเลขในเว็บ ไม่อืดเลยครับ
-
แปะตารางให้ครับ
(http://upic.me/i/id/ncseg.jpg)
-
ต่างกันรู้สึกได้ครับที่บ้านมีทั้งสองตัวพอดี 1.8 กระฉับกระเฉงกว่า 1.8ตัว esport ด้วยนะ ถ้า 1.8 น่าจะรุ้สึกมากกว่า เเต่ 1.6 อัตราเร่งไม่เเย่ครับ จากที่ใช้รถมานาน ตัว1.6 สามารถออกตจวได้สบายมาก เพราะเเต่ก่อนผมใช้เครื่องใหญ่กว่านี้เเต่อืดกว่านี้เยอะในสมัยเกือบ 20 ปีที่เเล้ว ส่วนอัตราสิ้นเปลืองพอๆกันครับ ถ้าชื้อก็ต้องถามเขาว่าชอบความเเรงไหม ถ้าไม่เป็นคนต้องการอัตราเร่ง 1.6 พอครับ ออฟชั่นมากกว่าด้วย
-
เน้นออปชั่นกับเบาะหนังจากโรงงานก็ไป 1.6G ดีกว่าครับ ถ้าจะเล่น 1.8 ส่วนตัวเอา Civic ตัวล่างดีกว่า
-
สำหรับคนเท้าไม่หนักมาก ส่วนต่าง 5000 ผมว่า 1.6G คุ้มกว่า ความจุเครื่องลดไป 200cc แรงม้าลดลงสิบกว่าตัว ไม่มีปุ่มสปอร์ต(แค่ลากรอบ ไร้สาระ) แต่ได้เบาะหนังโรงงาน พวงมาลัยและหัวเกียร์ก็หุ้มหนัง keyless entry + push start ไฟแต่งหน้าสองฝั่ง ลำโพงเพิ่มทวีตเตอร์มาอีกสองตัว สีภายในสวยกว่าด้วย(คหสต) ถ้า Altis 1.8 เพิ่มไป Esport จบและคุ้มกว่า
-
ถ้าไม่รู้เรื่องและขับไม่เร็ว ผมว่าไม่ค่อยรู้ จะรู้ต่อเมื่อกดคันเร่งเยอะหน่อยถึงจะต่าง
ผมว่า1.8ดีกว่า เหลือดีกว่าขาด เบาะหนังเปลี่ยนข้างนอกได้ คีเลสถ้าไม่ได้ขนของเต็มมือบ่อยๆก็ไม่จำเป็น
-
ได้อย่างเสียอย่างครับ ราคาไม่ห่างกันมากสำหรับ 1.6 กับ 1.8ตัวล่าง
-
สมัยหน้าแบน ผมขับ 1.6 เพื่อนมี 1.8 ลองใช้ดูก็ไม่รู้สึกว่ามันต่างกันมากมายนะครับ คือต่างแบบรู้สึกได้ แต่นิดหน่อยเท่านั้น อัตราเร่งก็ไล่ๆกัน ของผมจะประหยัดกว่านิดหน่อย
-
เอาแค่เรื่องเครื่อง ถ้าปกตินั่งไม่เกิน 2 คนบ่อยๆ ไป 1.6 ก็ได้ครับ
ถ้านั่ง 3-4 คนประจำ ก็ 1.8 :o
-
ถ้าไม่กดคันเร่งลึก ไม่รู้สึกหรอกครับ แต่ต่างกันรุ็สึกได้เลยว่าแรงต่างกันชัดเจน
ถ้าออก ตจว. ที่มีถนนเลนสวน แนะนำว่า 1.8 เด็ดขาดกว่าเวลาเร่งแซง
-
ตอบในฐานะคนใช้ 1.8 ว่าถ้าเป็นคนใจร้อน เท้าหนัก 1.8 ขับมันส์กว่าเยอะ ใช้ นมค.สังเคราะห์ ดีๆ ลงล้อเบาๆ altis 1.8 ขับไล่ 2.0 ค่ายอื่นๆได้สบายๆ
-
ให้ความรู้สึกทอร์คติดเท้ามากกว่าพอสมควรทีเดียว
-
ส่วนตัวผมรู้สึกได้นะ
ยิ่งถ้าเป็นคนที่ชอบขับรถเร็ว ยิ่งเห็นความแตกต่าง..
-
รู้สึกได้ครับ ตอนเเรกพ่อผมใช้ 1.8E อยู่ประมาณปีนึง วิ่งไปแสนนิดๆ บริษัทเปลี่ยนคันใหม่มาเป็น 1.6G ขับวันแรกก็มีบ่นเเล้ว ตอนเร่งแซง 1.6 ต้องเค้นเยอะกว่าแบบสังเกตได้ แต่ไม่ใช่ 1.6 มันไม่มีแรงนะ แรงมันใช้ได้เลย วิ่งได้ทั่วไทย แต่อย่าขับ 1.8 มาก่อนแล้วกัน
-
ขับ 1.6 หน้าหมูอยู่ เคยลองขับ 1.8 ในรุ่นปีเดียวกัน (พวงมาลัยหุ้มหนัง กับม่านบังแดดหลังไฟฟ้า)
1.6 เวลาเร่งแซงต้องรอนิดนึง (เกียร์ AT บางครั้งต้องใช้ OverDrive ช่วย เพราะยังไม่มี Sport Mode เหมือนสมัยนี้)
ขณะที่ 1.8 เรียกแรงมาได้ดีกว่า แซงได้อย่างมั่นใจมากกว่า ยิ่งตอนขึ้นเขาจะชัดมาก (เคยขึ้นภูทับเบิก สมัยเปิดตัวใหม่ๆ)
แต่ถ้าขับเรื่อยๆ ไม่บรรทุกคนเยอะ 1.6 ใช้ได้ แต่ถ้าให้ดี มีให้ใช้ยามที่ต้องการดีกว่า ถ้าบรรทุกคนเต็ม 4-5 คน แนะไปที่ 1.8 เลยครับ
-
ผมใช้รุ่นหน้าดุตัว MC ถุงลม 7 ใบ เพิ่งออกเมษา ตัว 1.6G
80-120 เคยจับเวลาเล่นๆ อยู่ 7.1 - 7.2 วินาที ดีกว่าตัวปี 2013 - 2016 ที่ทำไว้ราวๆ 7.7 - 7.8 วินาที (ผมใช้น้ำมัน E20)
อาจเพราะการจูนม้าให้มากขึ้นนิดหน่อย (จาก 122 ไป 125) เลยได้อัตราเร่งติดปลายนวมมาด้วย
อัตราสี้นเปลือง นอกเมืองมอเตอร์เวย์จากรามคำแหงไปทำงานสุวรรณภูมิ ได้เฉลื่ย 15 - 16 กม/ลิตร
ถ้าไม่ใช่ความเร็วสูงบ่อย และไม่ได้ส่วนลดเยอะ 1.6G เพียงพอครับ
ออปชั่นเยอะ อัตราเร่งดี ความปลอดภัยครบ อัตราเร่งหนีฟอร์จูน 2.8 บ้าพลังได้สบาย
-
1.8 แรงพอตัว เคยลองตาม ด้วย 2.0Gdi กับเคยขับมา ผมว่าทางตรงใช้ได้เลยครับ
ส่วน1.6 ขับหลายคนมันเค้นนะครับ.
-
ถ้าขับช้าๆ การกดคันเร่ง มาก/น้อย ต่างกันครับ 1.6 อาจจะต้องกดลึกกว่านิดนึง เพื่อให้ได้อัตราเร่งเท่ากัน ส่วน 1.8 ก็กดตื้นกว่านิดหน่อยครับ การเร่งแซง 1.8 มั่นใจ เสียวน้อยกว่า เค้่นเครื่องน้อยกว่า อัตราเร่งดีกว่า ซึ่งถ้านับเป็นระยะเวลา มันอาจจะต่างกันไม่มากครับ เช่นแซง 1 คัน จับเวลาตั้งแต่กดคันเร่งหักหัวออกไปจนถึงเข้าเลนเดิม 1.8 ใช้เวลา 5 วิ กับ 1.6 อาจใช้เวลา 6 วิ แต่ 1 วินาทีนั้น มันเป็น 1 วินาทีที่ยาวนาน เมื่อเรามีความรู้สึกเสียวเข้าไปเกี่ยวข้องครับ
-
ดูเรื่อง option ด้วยนะครับ เพราะตัว G กับ E ของ Toyota ไม่เหมือนกันนะครับ แม้ 1.8 จะเครื่องใหญ่กว่า แต่ option อาจจะน้อยกว่าด้วยนะครับ
-
ความแรงอาจต่างกันไม่มาก แต่อยากให้แบ่งความแรงจากเป็น 2 อย่าง
1.จากความรู้สึก เพราะความรู้สึกแต่ละคนไม่เหมือนกัน อยู่ที่ีพอใจแค่ไหน ขับรถอะไรมาก่อน แต่พอขับๆไปก็อาจจะชินได้อีก
2.จากลักษณะที่ใช้งาน เพราะใช้ในเมืองก็อย่างหนึ่ง ต่างจังหวัดก็อย่างหนึ่ง แล้วรถสมัยนี้แรงกันหมด ปัญหาคือจังหวะนั้นใครแรงกว่า? ถ้าจังหวะฉุกเฉินรถแรงเจอรถแรง อย่างน้อยถ้าเรามีแรงมากกว่าอยู่ในเท้าโอกาสลุ้นก็น้อยกว่า โอกาสรอดมีเพียงเสี้ยววินาทีเดียวนะคับ
-
ถ้า 2 ตัวเลือกนี้ ผมไป 1.6G ไม่ต้องสืบ
แม้ปัจจุบันจะขับ Esport แต่เคยขับ 1.6G ของที่ทำงาน
มันไม่อืดเลย เคยขับจากปาย ไป ปางมะผ้า ขึ้นเขา ทำวลาด้วย
แต่ที่เลือก Esport เพราะออฟชั่นภายใน