ผู้เขียน หัวข้อ: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล  (อ่าน 7015 ครั้ง)

ออฟไลน์ SP

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,745
B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
« เมื่อ: มิถุนายน 14, 2018, 12:42:54 »
คุยกันขำๆครับ เกิดจากความสงสัยส่วนตัวครับว่าพวกรถ B-segment พิกัด 1.5 อย่าง Jazz, City, Mazda 2 จะวิ่งทางไกลได้สบายกว่า

Eco Car มั้ยครับ ซึ่งคำว่าสบายในที่นี้คือเรื่องของพละกำลังเครื่องยนต์ที่ใช้ในการเร่งแซง อัตราเร่ง อัตราการสิ้นเปลือง รวมไปถึงช่วงล่าง

ผมเคยขับ Yaris 1.2 จาก กทม.ถึงอุดรธานี วิ่ง 100-120 มีกดถึง 140 บ้างบางช่วง ผมรู้สึกว่ารถค่อนข้างเปลืองน้ำมันและรู้สึกเหนื่อย

จนผมคิดว่าถ้าซื้อรถใช้เองคงไม่ซื้อกลุ่มนี้แน่ๆ และจากราคาของรถกระบะยกสูงตอนนี้ราคามันพอๆกับรถ B-segment และตอนนี้ก็ใช้

กระบะวิ่งทางไกลอยู่เป็นประจำ เลยคิดว่าถ้าจับสองกลุ่มนี้เทียบกันควรจะไปทางไหนถึงจะลงตัวและคุ้มเงินสุดครับ

ออฟไลน์ wa330

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,567
Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มิถุนายน 14, 2018, 12:56:50 »
4ประตูตัวสูงขับสบายกว่าเยอะครับ

ออฟไลน์ ชายโอ๊ต

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,034
Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มิถุนายน 14, 2018, 12:59:47 »
เด่วนี้กระบะรุ่นใหม่ ขับสบายกว่าเก๋งเยอะครับ
ทั้งสมรถนะและทัศนวิสัย
"ศัตรูแห่งความก้าวหน้า คือเวลาที่เสียไป"

JONNY

  • บุคคลทั่วไป
Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มิถุนายน 14, 2018, 13:02:52 »
กระบะมันแพงกว่าเก๋งขนาด B เยอะเลยนะ
ยกเว้นพวกแคป ถ้าเล่นกระบะ4ประตูไปเลย

รถยนต์ที่ขับสนุก อัตราเร่งดี แฮนด์ลิ่งดี
 ฟีลลิ่งดี ขับไม่เครียด ไม่เหนื่อย
Ecocar ทำไม่ได้สักคัน เร่งมากๆก็กินน้ำมันอีก

เดินทางบ่อยๆ กระบะ เอนกประสงค์กว่า แถมขับดีกว่าเก่งขนาด B อีกครับ


ออฟไลน์ kiwiwi

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,869
Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มิถุนายน 14, 2018, 13:14:09 »
เวลาผมขับรถกลับจากรีสอร์ทที่ปากช่องมากรุงเทพ

บ่อยครั้งที่นึกอิจฉารถเซลครับ แคมรี่เอย อัลติสเอย
B-seg ทั้งหลาย รูดซ้ายกันมันเลย ไปได้เร็วกว่าชาวบ้านเค้าเยอะเลยครับ

ทีนี้เคยสังเกตุเหมือนกันว่า ทำไมกระบะ จริงๆแล้วที่เรามองว่าทนถึก ถึงไม่รูดกัน มันมีข้อจำกัดอะไรหรือไง

ถ้ากระบะรูดไม่ได้ ส่วนตัวผม ใช้ b-seg มุดๆๆขวากับกลางยังสบายใจกว่านะ

ไม่เกี่ยวกับคำถามเลยให้ตายเหอะ ขอโทษด้วยนะครับ

ออฟไลน์ faora

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 62
    • อีเมล์
Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มิถุนายน 14, 2018, 13:29:01 »
เวลาผมขับรถกลับจากรีสอร์ทที่ปากช่องมากรุงเทพ

บ่อยครั้งที่นึกอิจฉารถเซลครับ แคมรี่เอย อัลติสเอย
B-seg ทั้งหลาย รูดซ้ายกันมันเลย ไปได้เร็วกว่าชาวบ้านเค้าเยอะเลยครับ

ทีนี้เคยสังเกตุเหมือนกันว่า ทำไมกระบะ จริงๆแล้วที่เรามองว่าทนถึก ถึงไม่รูดกัน มันมีข้อจำกัดอะไรหรือไง

ถ้ากระบะรูดไม่ได้ ส่วนตัวผม ใช้ b-seg มุดๆๆขวากับกลางยังสบายใจกว่านะ

ไม่เกี่ยวกับคำถามเลยให้ตายเหอะ ขอโทษด้วยนะครับ


กระบะคงบรรทุกผักมาตลาดไทส่งมั๊งครับ

ออฟไลน์ GOBBS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,033
Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มิถุนายน 14, 2018, 13:40:33 »
ผมใช้ B seg วิ่งทั่วไทยนะ [mz2 d]
มันต่างกรรม ต่างวาระหนะครับ
ถ้าวิ่งยาวๆ ทางตรงๆ ถนนแย่ๆตามทางหลวงไทย ขับเองมีคนนั่งหน้าคนเดียว เป็นคนตัวใหญ่ พวก prerunner ดีกว่านะ
แต่กลับกัน ถ้าเริ่มมีโค้ง B seg ที่ช่วงล่างดีระดับนึง และกำลังเครื่องดีๆ ผมว่าดีกว่า(ถ้าตัวคุณเล็กนะ) มันไม่โยน นั่งหลังไม่เหวี่ยง เจอโค้งหักๆ หรือขึ้นเขา ตัวเบาๆกลับไปได้เรื่อยๆ กว่ากระบะที่ดูเหมือนจะแรงบิดดี
ยิ่งฝนตก ตัวเล็ก ตัวไม่สูงนี่ละ ยิ่งได้เปรียบเลย
รถลู่ลมกว่า ประหยัดน้ำมันกว่า
....
แต่ 4ประตู ยกสูงเนี่ย ราคามันขึ้นไปตี C seg แล้วนะครับ....
.....2006 honda jazz idsi
.....2015 mazda2 skyD
..ใช้รถเท่าที่จำเป็นกันเถอะครับ...รถมันติด

ออฟไลน์ superest

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 272
Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: มิถุนายน 14, 2018, 14:12:56 »
ผมเคยคิด อยากจะถามในนี้ เล่นๆ เหมือนกัน ว่า

     ระหว่าง ecocar ตัวธรรมดา ล่างสุดไม่มีoptionอะไรเลย  กับกระบะตอนเดียว ตัวล่างสุด  ไม่มี optionอะไรเลย วิ่งต่างจังหวัด อย่างไหน ปลอดภัยกว่ากัน?

ออฟไลน์ HHHsung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,385
Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มิถุนายน 14, 2018, 14:14:30 »
ตั้งแต่เปลี่ยนรถจาก b seg มา C seg รู้เลยว่า เหนื่อยไม่เหนื่อยนอกจากกำลังเครื่องแล้ว การซับความสั่นสะเทือนก็เป็นปัจจัยที่สำคัญ

c seg ซับได้ดีกว่า b seg ชัดเจนมาก นอกจากนี้ หากวิ่งเร็ว การเกร็งพวงมาลัย ก็ไม่ซีเรียสกว่าด้วยครับ

ส่วนกระบะมันซับแรงได้ดีกว่า c seg อีก แถมทัศนวิสัยดีด้วย ยิ่งดีขึ้นไปใหญ่ แต่หากวิ่งเร็วจะเริ่มเครียดละ โดยเฉพาะถนนที่มีคลื่น หรือ ไม่เรียบ

ส่วนที่ จขกท. ว่ามา การวิ่งทางไกล ส่วนใหญ่รถใช้ความเร็วสูงกันทั้งนั้น eco car มันต้องเค้น เพื่อให้ถึงจุดนั้น รวมถึงการเร่งแซงบางช่วง บางตอน

และการเค้นกำลังเครื่อง มันก็ไม่ประหยัดน้ำมันนะเออ 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 14, 2018, 14:19:23 โดย HHHsung »

ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,637
Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: มิถุนายน 14, 2018, 14:19:37 »
CC  มากกว่ากัน  แต่รถเหมือนกัน   CC  มากกว่าจะสบายกว่า
รถใหญ่กว่า  แต่ CC  เท่ากัน  คันใหญ่สบายกว่า   ยกเว้นเค้นกำลังเครื่องออกมามาก ในทางยาว  ๆ
คันใหญ่กว่า CC มากกว่า แรงบิดดีกว่า   ขับเหนื่อยน้อยกว่ารถเล็ก 

 เป็นสมการที่ถูกต้องแล้ว 

คันเล็ก CC  น้อย วิ่งยาว  ๆ  ถ้ารู้จักรถพักบ่อย ๆ วิ่งเรื่อย  ๆ จะไม่เหนื่อย   วิ่งนะวิ่งได้แต่จะทรมานตัวเองกับสังขาร วิ่งยาว ๆ ไปทำไม

ออฟไลน์ holahola66

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,798
    • อีเมล์
Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: มิถุนายน 14, 2018, 14:48:32 »
B-Seg ขับดี นั่งสบาย กว่ารถเพื่อการเกษตรเยอะครับ ถ้าไม่พูดถึงประโยชน์การใช้งาน รถกระบะคือรถที่การขับขี่ ห่วยแตก ไม่ได้เรื่อง ยิ่งยกสูงยิ่งแล้วใหญ่ ถ้าไม่มีความจำเป็น อย่าซื้อครับ
 
Mercedes C-Class W205 CDI
BMW 116i f20
Honda Civic EG 3door D16a turbo MT
Nissan March 1.2 cvt

ออฟไลน์ boogie2020

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,042
    • อีเมล์
Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: มิถุนายน 14, 2018, 14:58:51 »
ผมขับ กทม-เชียงใหม่-กทม บ่อย   ไล่มาตั้งแต่ Mirage, Jazz, altis 2017 ,vigo prerunner  4dr,  BT50 pro 4dr,  Colorado 4dr.

Mirage เหนื่อยสุด ๆ  ทั้งเสียงยาง เสียงลม ความส่ายเวลาเจอถนนไม่ดี

ส่วนความสบาย  ถ้าวิ่งไม่เกิน 120  ผมเลือกกระบะตัวไหนก็ได้  กระบะทั้ง 3 ตัว ผมโอเคหมดทั้ง 3 ตัว  ต่อให้ vigo ที่ว่ากระเด้งกะดอน  แต่ถ้าขับไม่เกิน 120 ยังไงมันก็ยังสบาย ๆ  แต่ถ้าเจอโค้ง มันจะโยนตัวเยอะ  อย่างช่วงขุนตาลเนี่ย แม้ BT50 pro ที่ว่าช่วงล่างดี ๆ  ผมก็ยังไม่มั่นใจเท่า Jazz หรือ Altis  เลยด้วยซ้ำ

-----------------------------------------------------------
There is no spoon
-----------------------------------------------------------

JONNY

  • บุคคลทั่วไป
Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: มิถุนายน 14, 2018, 15:16:37 »
อยากอายุยืน ขับรถคันใหญ่ๆไว้
ผลวิจัยเขาว่าแบบนั้น และมันเป็นเรื่องจริง

ออฟไลน์ โบตั๋น

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 489
Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: มิถุนายน 14, 2018, 15:24:32 »
กระบะใหญ่ๆขับสบายแต่เสียหลักง่ายเพราะท้ายเบา แต่จากประสบการณ์ D-SEG ขับสบายกว่า C-SEG ขับสบายกว่า B-SEG ครับ

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,447
Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: มิถุนายน 14, 2018, 15:29:11 »
ถ้าขับอย่างเดียว ผมคงเอาเก๋ง ไม่เอากระบะ ผมดูจากการใช้งานเป็นหลักมากกว่าครับ ถ้าไม่ได้จะขนอะไรมากมาย หรือบ่อยๆ ไม่รู้จะเอากระบะไปทำไม

ออฟไลน์ Nut_K

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,226
Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: มิถุนายน 14, 2018, 16:26:04 »
ความแน่นของช่วงล่าง + การเก็บเสียง + ขับสบายในทางเรียบ : กระบะยกสูง

ความผ่อนคลายในการขับขี่ ( โดยเฉพาะช่วงเข้าโค้ง ) : B-Segment

อันนี้อิงจากประสบการณ์ตรง City vs BT-50 Pro

ออฟไลน์ SETTHASART

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,306
  • รักชาติ ไม่คลั่งชาติ
Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: มิถุนายน 14, 2018, 17:39:16 »
ผมใช้กระบะยกสูงอยู่ ขับขอนแก่น-เชียงใหม่ มาครั้งนึง
เเละเคยขับบริโอ้ ขอนแก่น-หาดใหญ่ ครั้งนึง
สรุปสั้นๆ ขับกระบะสบายกว่า ถ้าขับเกินพันโล ผมจิ้มกระบะยกสูงไม่ลังเลครับ ถ้าจะเอารายละเอียดจริงๆ ib เข้ามาสอบถามนะครับ

ออฟไลน์ ToRToNGPaT

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,939
    • Wongnai : ติดตามต้อง
Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: มิถุนายน 14, 2018, 20:48:22 »
เคยขับ Jazz GK ไป-กลับ กทม. เขาใหญ่ อยู่รอบนึง ผมว่ามันก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่นะ วิ่ง 100 เปิด Cruise Control ยาวๆไปเรื่อยๆ ก็ไม่ได้ลำบากมากเท่าไหร่ แค่ออกก่างรถปูน รถบรรทุกไว้ แล้วก็ระวังเวลาขึ้นลงทางชันๆครับ

กระบะยังไม่เคยขับครับ
My Car = My Friend

2023 Honda HR-V 1.5 e:HEV RS E-CVT Ignite Red Metallic / Black Roof (น้องหมูแดง)
2023 Honda WR-V 1.5 RS CVT Ignite Red Metallic / Black Roof (น้องถุงแดง)


Review ของกินอร่อยๆ เรียนเชิญที่ Wongnai : ติดตามต้อง

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: มิถุนายน 14, 2018, 21:20:47 »
กระบะขับสบายกว่าเยอะ
ยิ่งคนนั่งเยอะๆ ยิ่งชัด กระบะกำลังไม่ตก ไม่ต้องรีด ไม่ต้องเค้น
ผมเคยขับอัลติส 1.8 นั่งกับเพื่อน 5 คน แต่ละคนตัวควายๆทั้งนั้น เหมือนแบกถังโปรตีน
ขับข้ามจังหวัดแล้วอึดอัดมาก

ขากลับขับดีแม็กซ์ 3.0 vgs บรรทุกหนักกว่าเดิมอีก ทั้งคนทั้งของ
แต่ขับสบายกว่ามากกกกกกก

ออฟไลน์ SP

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,745
Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: มิถุนายน 14, 2018, 21:50:32 »
กระบะขับสบายกว่าเยอะ
ยิ่งคนนั่งเยอะๆ ยิ่งชัด กระบะกำลังไม่ตก ไม่ต้องรีด ไม่ต้องเค้น
ผมเคยขับอัลติส 1.8 นั่งกับเพื่อน 5 คน แต่ละคนตัวควายๆทั้งนั้น เหมือนแบกถังโปรตีน
ขับข้ามจังหวัดแล้วอึดอัดมาก

ขากลับขับดีแม็กซ์ 3.0 vgs บรรทุกหนักกว่าเดิมอีก ทั้งคนทั้งของ
แต่ขับสบายกว่ามากกกกกกก

บรรยายได้เห็นภาพเลยครับ 555555

เหมือนพี่ๆในนี้ส่วนมากจะจิ้มกระบะกัน แล้วถ้าเป็นกระบะแค็ปกับ B-seg เครื่องพันห้าดีเซล จะจิ้มตัวไหนดีครับ

ออฟไลน์ Amnaj

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 511
Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2018, 07:16:05 »
กะบะ ยกสูง AUTO เท่านั้น ถ้าเป็นตัวเครื่องใหญ่ด้วยยิ่งดี ถ้างบเหลือทำช่วงล่างอีกหน่อย จบๆ

ออฟไลน์ Yangyang

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 465
Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2018, 07:26:11 »
มีคนนั่งด้วยมั้ยครับ ถ้าผู้โดยสารเมารถง่ายไป b seg ดีกว่าครับ
เคยเรียก uber จากทองหล่อกลับลาดกระบัง เจอ vigo 4 ประตู นั่งเบาะหลัง
ถึงบ้านเมารถได้ที่ นอนเป็นชั่วโมงกว่าจะหาย

ออฟไลน์ mongolias

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,369
Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2018, 08:39:30 »
ผมเมารถง่าย ขับกระบะยกสูงสั้นๆก็เมาละ
ดังนั้นจิ้มไปที่ B-segment อย่างเดียวครับ

ออฟไลน์ Bond007

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 788
Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2018, 09:05:08 »
ถ้าไม่ซีเรียสเรื่องขนาด Mazda 2 ดีเซล ตอบโจทย์มากครับ อัตราเร่ง การสิ้นเปลือง อยู่หัวตารางในกลุ่มเลยครับ

เสียอย่างเดียวถ้านั่งน้อยหรือไม่ได้ขนของ (รถเบาๆ) ช่วงล่างจะตึงตัง (ตามประสา Mazda ที่น้ำหนักรถเบา)

ออฟไลน์ Tien.W

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,234
    • อีเมล์
Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2018, 09:09:54 »
เคยใช้ สลับกันอยู่

Triton 2.5 Cab A/T ตอนนั้น  5 แสนกว่าบาท เปลี่ยนยาง 235 (Yokohama) ใส่โช้คอัพ Procomp

Jazz GE S A/T ตอนนั้น 5.8 แสนบาท ใส่ยาง GR80 195/60-15 (ณ ตอนนั้น) ใส่โช้คอัพ New SR

ผมชอบขับ Triton นะ มันนิ่มกว่า Jazz แต่มุดได้มันส์กว่า เกาะถนนดีกว่า ที่สำคัญ ไม่โดนรถใหญ่ พวกรถบัสรับส่งพนักงานรังแก ด้วย

ส่วน Jazz ก็ไปได้แหละ ถ้าเทียบกับ Almera / March มันก็สบายกว่าเยอะ เหยียบแล้วขึ้น เกาะถนนก็โอเคระดับหนึ่ง 130 - 140 มันไปได้ (เปลี่ยนโช้คนะ เดิมๆไม่กล้า)

ปล. กระบะ สำหรับผมก็ต้องเปลี่ยนโช้คนะ ให้ขับ Vigo Cab เดิมๆ กับ Jazz ผมก็เลือก Jazz นะ

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2018, 13:27:31 »
กระบะครับ

ออฟไลน์ punn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,599
  • may the force lead your way ...
Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2018, 14:50:30 »
เหนื่อยขับรถมาจากหลายๆอย่าง

จากที่เทียบกัน b-seg sedan vs pickup ยกสูง
ปัจจัยต่างกันแน่ๆ
1.ทัศนวิสัย
2.การซับแรงสะเทือน
3.แฮนด์ลิ่งการขับขี่

จาก 1. ทัศน
การมองไกล กะจังหวะได้ดี ไม่โดนบัง ทำให้การขับเหนื่อยตามสภาวะ

จาก 2. ซับสะเทือน
กระบะถ้าวิ่งถนนขรุขระมากๆนี่ซับแรงสะเทือนถึงคนขับได้ดีกว่าเก๋งนะครับ
แต่ถ้าเก็บผิวส้มของถนน รับรองเก๋งเก็บดีกว่า

จาก 3. แฮนด์ลิ่ง
อันนี้แล้วแต่จริตคน
บางคนพวงมาลัยคม ขับไม่ไกลมากจะไม่เหนื่อย เพราะสมาธิยังไม่ล้า
กระบะพวงมาลัยจะไม่คมเท่าเก๋ง วอกแวกได้เยอะกว่า ขับไกลๆมากๆ ยังไงสมาธิก็ไม่ล้าเท่าเก๋ง

ยังมีภาพจากเส้นถนนทำให้สายตาล้าได้อีก
รถเก๋งจะเตี้ย เวลาวิ่งเส้นถนนจะผ่านหางตาเร็วมาก ก็มีผลทำให้เหนื่อยได้ง่ายนะครับ
รถกระบะจะสูง วิ่งแล้วเส้นต่างๆผ่านตาจะสบายกว่า

จากหลายๆอย่าง ผมก็ชอบแนวทางรถยกสูงกว่าเก๋งครับ ขับทางไกล  :)
เป็นคนโลกปกติธรรมดา :)
ไม่โลกสวย และไม่โลกมืด อยู่กับความเป็นจริงและพลังงานบวก ..

ปราชญ์สอนสิ่งไหน คนก็จะจำสิ่งนั้น
ประสบการณ์เจอแบบไหน คนก็จะคิดทางนั้น
ต่างคนต่างประสบการณ์เรียนรู้สิ่งเดียวกัน ก็จะออกมาแตกต่างกันไปครับ

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,640
Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: มิถุนายน 16, 2018, 04:04:46 »
ส่วนตัวได้ทั้งสองครับ แต่ต้องเจาะจงรุ่นที่ใช้อยู่ปัจจุบัน หรือดีกว่านะ

รถเก๋งเล็ก 1.6 ที่ใช้วิ่งทางไกล ผมชอบตรงที่มันมุดได้ ขับสนุก เจอแช่ขวาก็มุดแซงได้ง่ายๆ ซอกแซกๆไปได้เร็ว ทำเวลาได้ดี ประหยัดน้ำมัน แต่...
ขับทางไกลมาหลายครั้ง ต้องกลับมาซ่อมแม็ก ไม่ก็เปลี่ยนยางไปแล้ว 3 เส้น เพราะเดินทางไกลล้วนๆ แล้วขับๆไปเจอเหตุการณ์น้ำท่วมที่เลี่ยงไม่ได้ 2 ครั้ง
น้ำเข้ารถไปครั้งนึง แต่ถือว่าโชคดีที่โดนแค่นั้น เพราะลุยน้ำหลากข้ามถนน รถสวนมาน้ำขึ้นถึงกระจกหน้าแล้วรอดมาได้ดีที่รถไม่พัง

ส่วนหลังๆก็ใช้ PPV/SUV เดินทางแทน ไม่เจอเกี่ยวกับเรื่องยางและแม็กอีกเพราะต้องตกหลุม หรือรูดทางแย่ๆ แต่ความคล่องตัวจะไม่เทียบเท่าจะมุดจะซอกแซกก็ต้องคิดเยอะกว่าเดิม เสียค่าน้ำมันเยอะขึ้นแต่เติมน้อยครั้งลง
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ MA_Nas1990

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 38
    • อีเมล์
Re: B-segment และ กระบะยกสูงกับการวิ่งทางไกล
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: มิถุนายน 27, 2018, 09:46:21 »
ผมก็ใช้เส้นทางกรุงเทพ-อุดรอยู่ประจำครับ ใช้ vigo 3.0 prerunner 4 ประตูตัวเก่า วิ่ง 120-140 สบายมากครับ กลับถึงกรุงเทพเดินห้างต่อได้