Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: reyeshenry ที่ ตุลาคม 15, 2012, 14:43:16
-
มองดู คิดว่า Camry HV Top 1.8 ล้านแพงไปไหมครับ อ๊อฟชั่นไหนควรมีได้แล้วอะครับ เพราะในอนาคต คิดว่าคงจะได้พิจารณาซื้้อ อาจจะเป็นตอนไมเนอร์เชนส์
อย่างแรก เลยถุงลมนิรภัย ด้านข้างสำหรับผู้บริหาร กั๊กเหลือเกิน นอกเหนือจากนี้ ควรมีระบบอะไรบ้างครับ
สำหรับรถราคา แพงขนาดนี้ เช่น สัญญาณขอความช่วยเหลือฉุกเฉินหลังเกิดอุบัติเหตุ,ระบบเปิดไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ ,ระบบช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำ ,ระบบตรวจจับรถในจุดบอด ,ไฟส่องสว่างใต้กระจกมองหลัง
เพื่อนคิดยังไงครับ คิดว่า Camry HV Top 2.5 ราคา 1.8 ล้านกับอ๊อฟชั่นที่ได้มา ณ ตอนนี้คุ้มไหม แล้วในอนาคตตอนไมเนอร์เชนส์ จะมีระบบความปลอดภัยเช่น สัญญาณขอความช่วยเหลือฉุกเฉินหลังเกิดอุบัติเหตุ,ระบบเปิดไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ ,ระบบช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำ ,ระบบตรวจจับรถในจุดบอด,ไฟส่องสว่างใต้กระจกมองหลัง เป็นต้น
(http://image.ohozaa.com/i/ge1/ETgiMR.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wose6k3Ckx4YQHrG)
-
แล้วแต่การใช้งานนะครับ ถ้าเน้นเนื้อที่และประโยชน์ใช้สอย ผมว่าคุ้มนะ
แต่ถ้าเน้นความหรูหรา MB หรือ BMW น่าจะตอบโจทย์ได้ดีกว่า
ปล ผมว่าแคมรี่นี่ ในอนาคตราคาอาจจะแซง MB หรือ BMW รุ่นล่างสุดนะ เพราะส่วนต่างน้อยลงเรื่อยๆ สมัยก่อนต่างกันหลายแสน เดี๋ยวนี้ต่างกันแสนเดียว
-
ผมว่าคุ้มครับ
เพราะ ได้เครื่องที่แรงที่สุด และ ประหยัดที่สุด ในรถ d-segment ในเวลานี้
ระบบต่างๆ มาครบ ยกเว้น ม่านนิรภัย
เบาะหลังปรับเอนได้ (ซึ่งปรกติมีแต่ในรถราคา หลายๆล้านบาทเท่านั้น)
-
กลัวจัง อีก 10 ปีข้างหน้า Camry , Accord ตัวtop สองล้านต้นต้น
civic, Altis เริ่มต้นที่ ล้านหนึ่ง............
จำได้เมื่อสมัยก่อน Accord g5 เริ่มต้น แปดแสนสี่ BMW e36 ราคาล้านกลางๆไปปลายๆ
-
แพงไปครับ ม่านถุงลมก็ไม่ให้มา กลับใส่ option ตลกๆแบบเบาะหลังเอนได้มา สงสัยทำวิจัยมาแล้วว่าคงไทยไม่ค่อยให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในชีวิตตัวเองเท่าภาพลักษณ์ ที่พูดคือเคยสนใจและไม่ได้อคติกะโตต้า แต่มันอยากให้มีมาตรฐานชีวิตที่ดีขึ้นของคนไทย
-
จำได้ว่าแม้กระทั้งรถเครื่อง 1.2 1.5 ในต่างประเทศ ยังมีม่านถุงลมให้เลยครับ
ส่วนเมืองไทยหรอ ต้องรุ่นทอปบางรุ่นเท่านั้น และยังมีอีกหลายๆรุ่นที่ไม่มีให้
1.8 ล้าน ผมก็แค่รู้สึกว่า มันแพงกว่าตัวทอปของเจ้าอื่นเปนแสนเลยนะ
ตอนนี้เห็นคนอื่นเค้าอยู่ประมาน 1.65-1.7 ล้าน สำหรับตัวทอป+ Navi
-
สำหรับผม แค่ได้เครื่อง Hybrid 205 แรงม้า
วิ่ง 0-100 ใน 8.5 วิ แถมประหยัดน้ำมันระดับ 18 โลลิตร
แค่นี้ก็คุ้มแล้ว
-
ผมว่านะ ถ้าพี่โต ประเทศไทย ไม่ขึ้นราคาเป็น 2 ล้าน เจ้าอื่นเค้าก็ไม่ขึ้นหรอก (อะคอร์ด ,เที่ยน่า) แต่เมื่อไรพี่โตเริ่มขึ้นมาหละก็ เมื่อนั้นแหละ เหอะๆ สนุกกันหละครับ
-
แพงไปครับ ถ้ายัดออฟชั่นตามที่ จขกท.ต้องการผมว่าราคาทะลุ 2 ล้านบาทแหงมๆ
แต่ต้องอย่าลืมว่ามันเป็น Hybrid ตอนนี้ D-segment ในราคาใกล้ๆกันไม่มีรุ่นไหนที่มี Hybrid เลย
ต้องคอยดู Accord hybrid เปิดตัวมา ว่าราคากับออฟชั่นจะทำได้ดีกว่าแคมรี่รึเปล่า
แต่โดยส่วนตัวผม ผมกลับชอบให้มีออฟชั่นความปลอดภัยเยอะๆ อย่างน้อยเราก็อุ่นใจกว่าครับ
ซึ่งในราคานี้ ผมกลับมองว่า Volvo S60 คุ้มราคากว่าอีกครับ ประหยัดน้ำมันประมาณ 16 โลลิตร ก็โอเคแล้ว
-
ขอตอบในฐานะที่ได้นั่ง ได้ขับ มาราวๆ3-4เดือนนะครับ เป็นรถของครอบครัวครับ
ผมถือว่าราคาสมค่าตัวครับ ไม่ถูกไม่แพง
อุปกรณ์บางอย่างแทบจะไม่ค่อยได้ใช้เลย เช่น เบาะด้านหลังปรับเอนได้ ม่านบังแดดด้านข้าง ส่วนตัวแล้ว2อย่างนี้ไม่ได้ใช้เลย
มีล้อแม็คที่ยังแอบกั๊กอยู่ น่าจะให้18นี้วมาเลย ส่วนเรื่องถุงลมนิรภัยผมเฉยๆครับ
ส่วนดีก็มีนะครับ
เครื่อง ตอนขับดูแล้วเหมือนไม่แรง แต่ตอนแซงแป๊บเดียวก็พ้นแล้ว
ปุ่มคอนโทลด้านหลัง(แอร์+เครื่องเสียง)อันนี้ประทับใจมากๆครับ
-
VDIM ก็โดนเอาออกจริงหรือครับ?
ในสักบทความพี่จิมมี่เขียนไว้
-
ผมว่าเดี๋ยวนี้รถญี่ปุ่นเริ่มเเพงเกินไปละครับ
ถึงจะบอกว่าระบบต่างๆ Optionไม่แพ้รถยุโรปแต่วัสดุงานประกอบทั้งภายนอกภายใน วัตถุดิบต่างๆมันก็ยังด้อยกว่าพอสมควร
ระบบภายในรถถึงจะบอกว่าเป็นระบบเดียวกันแต่คุณภาพต่างกันจริงๆครับ
-
ผมว่าแพงไป ผมไม่คิดว่าไฮบริทจะคุ้มจริงๆครับ
1.8 ล้านเป็นผมผมเลือก s60 อย่างไม่ลังเลเลยครับ
-
ช่วงราคานี้คุ้มที่สุดตอนนี้ก็ไม่มีไรดีกว่าแล้วมั้งครับ
อย่าว่าแต่ 1.8 , 1.9 , 2.0m ไปเลยตอนนี้ก็ต้องคันนี้อยู่ดี คิดซะว่าเขาไม่ตั้งมา 1.99m ให้เซ็งห่านกันน่าจะสบายใจกว่าครับ :D
ปล.จริงๆเอาตัว CD ไปทำเองน่าจะดูคุ้มกว่า
-
ผมว่าแพงไป ผมไม่คิดว่าไฮบริทจะคุ้มจริงๆครับ
1.8 ล้านเป็นผมผมเลือก s60 อย่างไม่ลังเลเลยครับ
:o ผมกลับคิดว่าเรื่องความคุ้ม อย่าไปเสียเวลาลังเลกับ s60 :D
-
ผมว่าคุ้มน่ะคับ ;D
เครื่องแรงใช้ได้เลย
ปล.สีขาว กับ ดำ สวยมากๆ
-
ใส่ระบบ VCM แบบในแอคคอร์ดV6ได้แล้ว จะได้กินน้ำมันน้อยลงขึ้นอีก ;D
-
ถุงลมคู่+ด้านข้าง ,ม่านถุงลม ,ถุงลมเข่าคนขับ ,VDIM/S-VSC ,Nano-e
ผมว่าออพชั่นข้างบนนี้ควรจะมีตั้งแต่ Hybridรุ่นพื้นฐานแล้วนะครับ
-
ถ้าคิดเรื่องประหยัดน้ำมัน คงต้องคิดถึงระยะยาวด้วยนะครับ แบตเตอรี่หมดอายุการใช้งาน ตอนเปลี่ยนกี่บาทหารด้วยจำนวนกิโลเมตรที่ใช้ไป บวกค่าน้ำมันเฉลี่ยต่อกิโลเมตร อาจจะสูสีกับรถธรรมดาทั่วไปนะครับ
-
ผมว่าเดี๋ยวนี้รถญี่ปุ่นเริ่มเเพงเกินไปละครับ
ถึงจะบอกว่าระบบต่างๆ Optionไม่แพ้รถยุโรปแต่วัสดุงานประกอบทั้งภายนอกภายใน วัตถุดิบต่างๆมันก็ยังด้อยกว่าพอสมควร
ระบบภายในรถถึงจะบอกว่าเป็นระบบเดียวกันแต่คุณภาพต่างกันจริงๆครับ
Lexus แพงกว่าก็จริงแต่นั่นเพราะนำเข้า ส่วนวัสดุ เหนือกว่าชัดชัดครับ
แต่ถ้าแคมรี่ เดี๋ยวนี้วัสดุก็พัฒนาดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้าอยากดูของดีให้ดูที่เทียน่า ไม่ต่างแน่นอนครับ
-
แล้วแต่การใช้งานครับ
สำหรับผม มันแพงไปไม่คุ้มค่า
ตอนนี้ใช้ Camry อยู่ แต่จาการไปเที่ยว ปราณบุรี หัวหิน เมื่ิออาทิตย์ที่ผ่านมาโดยมีผม ลูกชายฝาแฝด คุณปู่ คุณย่า และ ผบ
รู้สึกเลยว่าทำไมตินนั้นตรูถอย Camry ฟระ ทำไมไม่เอารถเอนกประสงค์ แค่ของลูกก็แทบจะเต็มกระโปรงท้ายแล้ว ของฝากก็แทบซื้อไม่ได้เพราะไม่มีที่ใส่
ถึงแม้จะมีขวแบ่ง และใส่น้ำในขวดนมแล้ว ก็ยุ่งยากมาก้บการชงนมให้ลูก จะจอดชงก็ไม่ได้เพราะฝนกระหน่ำ
แล้วพอถามว่า Camry 2.5 HV เป็นไง
ตอบได้คำเดียวคือแพงไปมากๆๆๆๆ ไม่คุ้มเอาเสียเลย ขนของได้น้อย ลุยไม่ค่อยได้
แต่สำหรับท่านอื่นๆมันอาจจะโคตรคุ้มก็ได้
-
ถ้าเล็ง HV50 ตัวนี้
เล่นรุ่น CD เถอะครับ
"คุณภาพคุ้มราคา"
-
ขอแค่เพิ่ม VDIM กับ ม่านถุงลมมาก็พอละ
-
ราคารถจริงๆก็ไม่ถึงหรอกครับ มันมาเสียค่าแปะเจี๊ยให้รัฐบาลนี่ล่ะครับเกือบครึ่ง
-
รถประกอบในประเทศ ราคาเริ่มขยับใกล้รถนำเข้าไปทุกที
-
ผมก็คิดว่าไม่คุ้มนะ รู้สึกมันแพงไปแล้ว
ถ้าจะซื้อคงแค่รุ่น CD พอ
-
ผมซื้อ 2.0G ยังรู้สึกคุ้มเลย ;D
-
ผมมองว่า camry แพงเกินราคามาตั้งนานแล้ว ไม่เคยคิดอยากได้เลย
มีเงินก็ไป S60 โลด
-
ผมคงไม่สนใจตัวtopจนกว่าจะมีม่านถุงลม เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยลดแรงกระแทกด้านข้างได้เยอะมาก ซึ่งมักเกิดจากการถูกชนด้านข้าง(เขามาชนเรา)
สังเกตุว่าคนไทยเราไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ซักเท่าไหร่ อย่าลืมว่าถ้ามีอุบัติเหตุคนนั่งหลังส่วนมาก(ลูก เมีย พ่อแม่ ผู้บริหาร)ไม่คาดเข็มขัดหัวไปกระแทกกระจกเต็มๆจะเป็นยังไง ต่อให้จบวิชาหัวเหล็กวัดเส้าหลินก็รอดยากครับ
-
plasma cluster ในแอร์ ที่ตัวก่อน มีทุกรุ่น แต่ตัวใหม่รุ่นท็อปไม่มี >:(
-
ตัวtopไม่คุ้มนะครับกับราคานี้ แต่ตัวcdผมค่อนข้างชอบมากและคิดว่าคุ้มอยุ่ และถ้าถามว่ามันจะมีประโยชน์อะไรบ้าง มันคงจะมีประโยชน์เหมือนๆกับรถเก๋งขนาดd-segละ จุดประสงค์ของมันก็มีอยุ่ในตัวของมันอยุ่แล้วขึ้นอยุ่ว่าก่อนซื้อคุณต้องการอะไรจากมัน
-
ผมว่า เกือบคุ้มค่าครับ
สิ่งที่ต้องมีแต่ไม่มี
-Vdim
-Plasma Cluster
-Curtain Airbags
อย่างอื่นผมเฉยๆครับ
-
แพงมากครับ :P
-
ขอแค่ถุงลมไม่น้อยไปกว่าพี่อู๊ดก็พอ ;D
-
ดี จน BM ขอแจม ละกัน ;D
-
2.0G อ่ะครับ คุ้ม
เพื่อนผมซื้อแคมรี่ใหม่ 2.0G
ทำภายนอกทั้งคัน แปลงเป็น HV
เนียนๆ วิ่งนอกเมือง มี 12-13 โลลิตร
ถึง HV จะประหยัดขนาดไหน
แต่ ใช้ 2.0 พร้อมตังเติมน้ำมัน 10 ปี ยังไม่เท่าส่วนต่างราคา
2.5HV แรงจริง
แต่ใน 100 คน จะมีคนเหยียบคันเร่งเต็มๆ เรียกสมรรถนะรถออกมาเต็มที่ ถึง 10 คนหรือเปล่า??
-
ตอนออกมาก็ faceplam ออปชั่นละ กั๊กไปไหน!!
ขอแค่นี้ก๋พอละ
- ถุงลม 7 ลูกเถอะ โตโยต้าเกลียดม่านถุงลมกับรถขายดีใช่ไหม!!
- ที่ล้างไฟหน้า
- Nanoe ทำไมเวอร์ตลาดโลกมี แต่เอเชียไม่มี
- Emergency Brake System
- VDIM ใน Hybrid
- มูนรูฟ ไหนๆไม่มี 3.5 แล้วจะใส่หน่อยก็ไม่ได้
- Blind Spot น่าจะใส่มาให้ได้แล้วนะ ทุกวันนี้จุดเด่นอยู่ที่ไหน (ถ้ารวมรุ่นใหม่)
และรุ่น 2.5 ขอเพิ่มรุ่น V ได้ไหม ทำเหมือนว่าไม่อยากขายรุ่นนี้เลย
ข้าวของนั้นขอ VSC,Push Start พอละ
-
แพงไปคับ
-
2.0G อ่ะครับ คุ้ม
เพื่อนผมซื้อแคมรี่ใหม่ 2.0G
ทำภายนอกทั้งคัน แปลงเป็น HV
เนียนๆ วิ่งนอกเมือง มี 12-13 โลลิตร
ถึง HV จะประหยัดขนาดไหน
แต่ ใช้ 2.0 พร้อมตังเติมน้ำมัน 10 ปี ยังไม่เท่าส่วนต่างราคา
2.5HV แรงจริง
แต่ใน 100 คน จะมีคนเหยียบคันเร่งเต็มๆ เรียกสมรรถนะรถออกมาเต็มที่ ถึง 10 คนหรือเปล่า??
555+ คิดเหมือนผมเลย
จะว่าสมรรถนะดีเวลาวิ่งมอเตอร์เวย์เจอแต่ 2.0 บ้าพลัง HV ขับแบบรักษ์โลก อิอิอิ
-
Spec แบบนี้แพงไปมากครับ
แต่ถ้าให้ Airbag มาอีก 4 จุด
Plasmacuster หรือ Nanoe
Moonroof
ราคานี้น่าซื้อมากถึงมากๆครับ
-
ตอนออกมาก็ faceplam ออปชั่นละ กั๊กไปไหน!!
ขอแค่นี้ก๋พอละ
- ถุงลม 7 ลูกเถอะ โตโยต้าเกลียดม่านถุงลมกับรถขายดีใช่ไหม!!
- ที่ล้างไฟหน้า
- Nanoe ทำไมเวอร์ตลาดโลกมี แต่เอเชียไม่มี
- Emergency Brake System
- VDIM ใน Hybrid
- มูนรูฟ ไหนๆไม่มี 3.5 แล้วจะใส่หน่อยก็ไม่ได้
- Blind Spot น่าจะใส่มาให้ได้แล้วนะ ทุกวันนี้จุดเด่นอยู่ที่ไหน (ถ้ารวมรุ่นใหม่)
และรุ่น 2.5 ขอเพิ่มรุ่น V ได้ไหม ทำเหมือนว่าไม่อยากขายรุ่นนี้เลย
ข้าวของนั้นขอ VSC,Push Start พอละ
+1
-
ซื้อ A180 ดีกว่า ราคาเท่ากันได้ แต่ได้ภาพลักษณ์ด้วย
-
ซื้อ A180 ดีกว่า ราคาเท่ากันได้ แต่ได้ภาพลักษณ์ด้วย
ไม่มีประโยชน์ครับ
-
มันไม่ใช่ 1.8 มัน 1.86 หนะสิ
ผมว่ามันแพงไปจริงๆแหละ
ถ้าจะเล่นขอ CD ไม่ก็ 2.0g พอ
-
ผมใช้อัลพาร์ด ไฮบริดครับ หากซื้อตอนป้ายแดงก็ฉลุยครับใช้งานได้ปกติ แต่ อย่าเข้าใจว่ารถไฮบริดประหยัดนะครับ ระบบไอบริดแค่ช่วยเรื่องมลพิษและสิ่งแวดล้อมมากกว่าเรื่องความประหยัด
ตอนนี้ผมเองก็ระบมไปกับการซ่อมระบบไฟฟ้า ซึ่งรถใช้มากว่า 4ปี และเกือบ 1แสนกิโล
1. รายการสำหรับรถไฮบริด ที่ใช้ระบบเบรคแบบไม่มีหม้อลม แต่ใช้ปั้มลมเบรคแทน ระบบนี้จะมีปั้มน้ำระบายความร้อนด้วย ซึ่งรายการนี้ตามคู่มือให้เปลี่ยน
ทุกๆ 4 หมื่นโล แต่ด้วยสภาพอากาศบ้านเรา จำเป็นต้องเปลี่ยนทุกๆ 1-1.5 หมื่นโลครับ ไม่งั้นปั้มระบบเบรค ABS พัง ต้องเปลี่ยนลูกละ 1แสน
ระบบเบรค ABS นั้นปกติ จะพังทุกๆ 1แสนโลอยู่แล้ว แต่หากไม่ระวังเรื่องระบบระบายความร้อนปั้ม จะพังภายในทุกๆ 2.5-3ปี ซ่อมไม่ได้เปลี่ยนลูกเดียว
2. รถไฮบริด กับอัตราสิ้นเปลือง ไม่ได้ประหยัดครับ แต่จะกินน้ำมันปกติของเครื่องยนต์ชนิดนั้นๆอยู่แล้ว แต่หากวิ่งทางไกล กลับไม่ประหยัดเหมือนรถทั่วๆไป เนื่องจาก คอมพิวเตอร์ควบคุมระบบไฟฟ้า(มอเตอร์ไฟฟ้าไฮบริด)จะตัดการทำงานของระบบไฟฟ้าเป็นช่วงๆ เื่พื่อทำการชาร์ตไฟเป็นระยะๆ เนื่องจากระบบไฟฟ้าภายในรถตอนวิ่งจะใช้ไฟฟ้าจากแบตไฮบริดทั้งหมดรวมทั้งระบบแอร์ จึงกลายเป็นว่า วิ่งด้วยเครื่องยนต์ แถมยังต้องลากเจ้ามอเตอร์
ไปด้วยเมื่อวิ่งในความเร็วสูง ดังนั้นไม่ประหยักแน่นอน
3. แบตเตอรรี่ ทางญี่ปุ่นเคลมว่าใช้ได้ตลอดอายุการใช้งานนนั้น จริงๆครับ แต่! เค้าหมายถึงอายุการใช้งานไม่เกิน 4-5ปี เท่านั้นไม่ใช่ลากยาวแบบบ้านเรา และด้วยอากาศร้อนบ้านเราทำให้อัตราการเสื่อมแบตเตอรรี่เป็นไปแบบก้าวหน้าคือ เฉลี่ยพังที่ 3-4ปี และราคาแบตเตอรรี่นั้นสูงมาก สำหรับรถผมนั้นเพิ่งเช็คราคาที่ BRG ลูกละ 24.0000 บาท หลายที่รับซ่อม ไม่ได้ผลครับลองมาหมดแล้ว ใครบอกว่าคนใช้เยอะราคาลดลง ไม่จริงครับ ก่อนหน้านี้
2ปี แบตลูกละ ไม่เกิน 1.5 แสนเท่านั้น แต่ปัจจุบันคนใช้มากขึ้น แบตฯ กลับแพงขึ้นเกือบเท่าตัว
4. ระบบอิเวอร์สเตอร์ ทำหน้าที่เป็นตัวแปลงไฟฟ้าจากการผลิตการหมุนเครื่องยนต์ และล้อ เพื่อชาร์ตไฟเก็บเข้าแบตไฮบริต ตัวนี้โดยมากจะพังทุกๆ 4ปี
เนื่องจากสภาพจราจรบ้านเรา ติดขัด รถจึงขยับแบบยึกๆยักๆ แถมอากาศร้อนมาก ระบบคอมควบคุมจึงรวนก่อนวัยอันควร ทำให้อินเวอร์สเตอร์พังครับ
อินเวอร์สเตอร์นี้ ระบายความร้อนด้วยปั้มน้ำตัวเดียวกับ เบรคไฮบริด ตัวนี้ถ้าพัง หรือ ทุกๆ 4ปี หรือ 1 แสนกิโล ต้องเปลี่ยน ลูกละ 400,000 (สี่แสนบาท)
5. ระบบลูกปืนมอเตอร์ และแปรงถ่าน รวมทั้งตัวมอเตอร์ไฮบริด พวกนี้คือ ส่วนระทึกขวัญ กระตุกวิญญาณ ไม่รู้มาเมื่อไหร่
6. ระบบคอมพิวเตอร์ควบคุมรถทั้งคัน มีหลายลูกมากน่าจะเกือบ 10ลูกมั้ง (สมองรถ) ลูกละ 1 แสน พังได้ตลอดเวลาที่อายุ 3.5ปีเป็นต้นไป
7. หน้าจอสัมผัสควบคุมระบบ จะเริ่มรวนหลังจากผ่าน 1 แสนกิโลไปแล้ว ถ้าเสีย เปลี่ยน จอละ 3แสนบาท
8. ลุยน้ำไม่ได้ระบบไฟฟ้าจะชื้น หรืออาจทำให้มอเตอร์พัง
9. เซลบอกอะไรมาบอกนอกจากนี้ หรือ กระทู้ในพันทิพย์ บอกมาอย่าเชื่อ พวกเซลล์ไปแอบลงเชียร์กันเอง พวกนี้ไม่เคยมีรถแบบนี้ใช้ อ้างได้ยินเขามา หรือ พี่ ป้าน้าอาใช้อยู่อย่าไปเชื่อ โม้บรรลัย ขนาดช่างศูนย์ยังส่ายหัวกับผม แล้วคนอื่นจะว่ายังไง
10. คุณอาจได้กินข้าวลิงกลางทาง หรือ บนเขา แบบกระทันหัน ดังนั้น ฝึกไว้ให้คล่อง ควรมีชุดครัวสนามพกติดรถไว้ รวมทั้งปืน
11. เวลารถเสีย ยกลูกเดียว ห้ามเข็น ลากก้ไม่ได้ ต้องยกเท่านั้น ไม่งั้น บานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
12. ครอบครัวแตกแยก
สำหรับโตโยต้า พรีอุส ค่อนข้างจะโชคดีกว่าอื่นๆหน่อย เนื่องจากว่า รถรุ่นนี้ แพร่หลายในอเมริกา พวกฝรั่ง จับโมและหาวิธีแก้ไขได้แบบราคาประหยัดมาก รวมทั้งแบตแบบ External ไว้ใช้สะดวกมาก แต่รุ่นอื่นๆ ช่างบ้านเรายังมือไม่ถึง แค่ซ่อมตามคู่มือก็ งง จนประสาทเสียไปหลายคนแล้ว
สำหรับข้อมูลนี้ คงพอจะเป็นการเตรียมใจสำหรับผู้ที่อยากถวิลหาไฮบริด ก็ลองดูครับ สำหรับผมนั้นยังคงเรยนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับมันต่อไป ว่าจะไปลุยญี่ปุ่นและหาทางเอาอะไหล่มาขายอยู่เหมือนกัน เพื่อช่วยเหลือผู้ใช้รถประเภทนี้อยู่เหมือนกัน กำลังศึกษาอยู่
-
ผมว่าก้อคุ้มนะ แต่ยังไม่ค่อยคุ่มค่าในด้านความปลอดภัย
-
ผมใช้อัลพาร์ด ไฮบริดครับ หากซื้อตอนป้ายแดงก็ฉลุยครับใช้งานได้ปกติ แต่ อย่าเข้าใจว่ารถไฮบริดประหยัดนะครับ ระบบไอบริดแค่ช่วยเรื่องมลพิษและสิ่งแวดล้อมมากกว่าเรื่องความประหยัด
ตอนนี้ผมเองก็ระบมไปกับการซ่อมระบบไฟฟ้า ซึ่งรถใช้มากว่า 4ปี และเกือบ 1แสนกิโล
1. รายการสำหรับรถไฮบริด ที่ใช้ระบบเบรคแบบไม่มีหม้อลม แต่ใช้ปั้มลมเบรคแทน ระบบนี้จะมีปั้มน้ำระบายความร้อนด้วย ซึ่งรายการนี้ตามคู่มือให้เปลี่ยน
ทุกๆ 4 หมื่นโล แต่ด้วยสภาพอากาศบ้านเรา จำเป็นต้องเปลี่ยนทุกๆ 1-1.5 หมื่นโลครับ ไม่งั้นปั้มระบบเบรค ABS พัง ต้องเปลี่ยนลูกละ 1แสน
ระบบเบรค ABS นั้นปกติ จะพังทุกๆ 1แสนโลอยู่แล้ว แต่หากไม่ระวังเรื่องระบบระบายความร้อนปั้ม จะพังภายในทุกๆ 2.5-3ปี ซ่อมไม่ได้เปลี่ยนลูกเดียว
2. รถไฮบริด กับอัตราสิ้นเปลือง ไม่ได้ประหยัดครับ แต่จะกินน้ำมันปกติของเครื่องยนต์ชนิดนั้นๆอยู่แล้ว แต่หากวิ่งทางไกล กลับไม่ประหยัดเหมือนรถทั่วๆไป เนื่องจาก คอมพิวเตอร์ควบคุมระบบไฟฟ้า(มอเตอร์ไฟฟ้าไฮบริด)จะตัดการทำงานของระบบไฟฟ้าเป็นช่วงๆ เื่พื่อทำการชาร์ตไฟเป็นระยะๆ เนื่องจากระบบไฟฟ้าภายในรถตอนวิ่งจะใช้ไฟฟ้าจากแบตไฮบริดทั้งหมดรวมทั้งระบบแอร์ จึงกลายเป็นว่า วิ่งด้วยเครื่องยนต์ แถมยังต้องลากเจ้ามอเตอร์
ไปด้วยเมื่อวิ่งในความเร็วสูง ดังนั้นไม่ประหยักแน่นอน
3. แบตเตอรรี่ ทางญี่ปุ่นเคลมว่าใช้ได้ตลอดอายุการใช้งานนนั้น จริงๆครับ แต่! เค้าหมายถึงอายุการใช้งานไม่เกิน 4-5ปี เท่านั้นไม่ใช่ลากยาวแบบบ้านเรา และด้วยอากาศร้อนบ้านเราทำให้อัตราการเสื่อมแบตเตอรรี่เป็นไปแบบก้าวหน้าคือ เฉลี่ยพังที่ 3-4ปี และราคาแบตเตอรรี่นั้นสูงมาก สำหรับรถผมนั้นเพิ่งเช็คราคาที่ BRG ลูกละ 24.0000 บาท หลายที่รับซ่อม ไม่ได้ผลครับลองมาหมดแล้ว ใครบอกว่าคนใช้เยอะราคาลดลง ไม่จริงครับ ก่อนหน้านี้
2ปี แบตลูกละ ไม่เกิน 1.5 แสนเท่านั้น แต่ปัจจุบันคนใช้มากขึ้น แบตฯ กลับแพงขึ้นเกือบเท่าตัว
4. ระบบอิเวอร์สเตอร์ ทำหน้าที่เป็นตัวแปลงไฟฟ้าจากการผลิตการหมุนเครื่องยนต์ และล้อ เพื่อชาร์ตไฟเก็บเข้าแบตไฮบริต ตัวนี้โดยมากจะพังทุกๆ 4ปี
เนื่องจากสภาพจราจรบ้านเรา ติดขัด รถจึงขยับแบบยึกๆยักๆ แถมอากาศร้อนมาก ระบบคอมควบคุมจึงรวนก่อนวัยอันควร ทำให้อินเวอร์สเตอร์พังครับ
อินเวอร์สเตอร์นี้ ระบายความร้อนด้วยปั้มน้ำตัวเดียวกับ เบรคไฮบริด ตัวนี้ถ้าพัง หรือ ทุกๆ 4ปี หรือ 1 แสนกิโล ต้องเปลี่ยน ลูกละ 400,000 (สี่แสนบาท)
5. ระบบลูกปืนมอเตอร์ และแปรงถ่าน รวมทั้งตัวมอเตอร์ไฮบริด พวกนี้คือ ส่วนระทึกขวัญ กระตุกวิญญาณ ไม่รู้มาเมื่อไหร่
6. ระบบคอมพิวเตอร์ควบคุมรถทั้งคัน มีหลายลูกมากน่าจะเกือบ 10ลูกมั้ง (สมองรถ) ลูกละ 1 แสน พังได้ตลอดเวลาที่อายุ 3.5ปีเป็นต้นไป
7. หน้าจอสัมผัสควบคุมระบบ จะเริ่มรวนหลังจากผ่าน 1 แสนกิโลไปแล้ว ถ้าเสีย เปลี่ยน จอละ 3แสนบาท
8. ลุยน้ำไม่ได้ระบบไฟฟ้าจะชื้น หรืออาจทำให้มอเตอร์พัง
9. เซลบอกอะไรมาบอกนอกจากนี้ หรือ กระทู้ในพันทิพย์ บอกมาอย่าเชื่อ พวกเซลล์ไปแอบลงเชียร์กันเอง พวกนี้ไม่เคยมีรถแบบนี้ใช้ อ้างได้ยินเขามา หรือ พี่ ป้าน้าอาใช้อยู่อย่าไปเชื่อ โม้บรรลัย ขนาดช่างศูนย์ยังส่ายหัวกับผม แล้วคนอื่นจะว่ายังไง
10. คุณอาจได้กินข้าวลิงกลางทาง หรือ บนเขา แบบกระทันหัน ดังนั้น ฝึกไว้ให้คล่อง ควรมีชุดครัวสนามพกติดรถไว้ รวมทั้งปืน
11. เวลารถเสีย ยกลูกเดียว ห้ามเข็น ลากก้ไม่ได้ ต้องยกเท่านั้น ไม่งั้น บานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
12. ครอบครัวแตกแยก
สำหรับโตโยต้า พรีอุส ค่อนข้างจะโชคดีกว่าอื่นๆหน่อย เนื่องจากว่า รถรุ่นนี้ แพร่หลายในอเมริกา พวกฝรั่ง จับโมและหาวิธีแก้ไขได้แบบราคาประหยัดมาก รวมทั้งแบตแบบ External ไว้ใช้สะดวกมาก แต่รุ่นอื่นๆ ช่างบ้านเรายังมือไม่ถึง แค่ซ่อมตามคู่มือก็ งง จนประสาทเสียไปหลายคนแล้ว
สำหรับข้อมูลนี้ คงพอจะเป็นการเตรียมใจสำหรับผู้ที่อยากถวิลหาไฮบริด ก็ลองดูครับ สำหรับผมนั้นยังคงเรยนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับมันต่อไป ว่าจะไปลุยญี่ปุ่นและหาทางเอาอะไหล่มาขายอยู่เหมือนกัน เพื่อช่วยเหลือผู้ใช้รถประเภทนี้อยู่เหมือนกัน กำลังศึกษาอยู่
สงสัย camry hybrid ตัวแรกน่าจะเริ่มเสียตามรายการด้านบนแล้ว
ค่าซ่อมโหดเอาเรื่องเลย