ผู้เขียน หัวข้อ: เจอแล้ว! รถที่มีไฟตัดหมอกหลัง(โคตร)แสบตายิ่งกว่าวีออส  (อ่าน 10975 ครั้ง)

ออฟไลน์ ABUSEz

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 612
    • อีเมล์
คันที่ผมกล่าวถึง ก็คือ Ford Everest ใหม่นี่ละครับ

วันนี้ผมขับรถเส้นเลียบทางด่วนรามอินทรา เวลาประมาณสองทุ่ม

สักพักมี Everest ตัวท็อป สีแดง ล้อ20 วิ่งหล่อมาแต่ไกล
แต่พอเปลี่ยนเลนมาอยู่หน้าผมเท่านั้นแหละ โอ้แม่เจ้า
ไฟตัดหมอกหลังในตำนาน เต็มๆลูกตาเลยครับ สว่างมากๆ
สว่างพอๆกับวีออสหรือสว่างกว่า ไม่แน่ใจ
แต่ที่แน่ใจคือ ตำแหน่งมันอยู่แทบจะตำแหน่งสายตาพอดี เพราะรถมันสูง

ขอร้องเถอะครับ ใครที่ยังขับรถเปิดไฟตัดหมอกหลังอยู่ เห็นใจคันข้างหลังเถอะ
ตามันพร่าจริงๆ มองทางไม่ชัดเลย

ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,640
เดี๋ยวก็หายไปครับมั่นใจเลย เพราะยุ่งยากในการเปิด พอถึงบ้านจอดดับเครื่องมันก็หายไปแล้ว ต้องมาไล่กดใหม่หมดถ้าจะเปิด อย่างน้อยมัดตัดระบบออกถ้าปิดไฟไม่เป็นสวิทค้างไว้

ผมลองเปิดวันส่งมอบรถ เช็คไฟว่าติดมั้ยโหดมาก เดี๋ยวเอาไว้ลองบนถนนกับพวกที่เปิดค้างไว้ จะแซงไปกดเปิดใส่คืนบ้าง ตอนขับเฟียสต้ามีข้างเดียวแถมอยู่ต่ำไม่สะทกสะท้าน

ทางที่ดีตาม จขกท ครับ อย่าไปเปิด รำคาญตาจริงๆ
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ View

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,890
  • -SIXFLOOR-
    • อีเมล์
REVO ก็ไม่เบาเหมือนกันนะครับ อยู่สูงกว่าด้วยย
2013 Honda City 1.5V
2013 Chevrolet Trailblazer 2.8 LTZ 4WD

ออฟไลน์ PAN

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,934
เบื่อกับไฟตัดหมอกหลังจริงๆ  :-\ :-\ :-\ :-\

ออฟไลน์ ps000000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,772
เจ้าของรถบางคนบอกผมว่าไม่รู้ว่ามันเปิดอยู่เห่อๆผมนี่กลุ้มเลย

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,460
ต้องฝากถึงผู้ผลิตนะ อย่าให้มีติดรถเลย น่าจะช่วยได้มาก

ส่วนใครที่เอาไปติดเองทีหลัง อันนี้คงห้ามกันไม่ได้

ออฟไลน์ Eddy5659

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,619
รถสูงๆ รุ่นไหนมันก็แยงตาทั้งนั้นหละครับ

แต่ไอ้พวกเปิดนี่ก็ประสาทจริงๆ หละนะ มันไม่ได้จะสวยหรือดูเด่นอะไรเล้ย กลับดูโง่ๆ ด้วยซ้ำ
2007 Toyota Vios
2009 Toyota Hilux Vigo
2010 Toyota Camry
2011 Ford Ranger
2011 Isuzu Dmax
2011 Toyota Hilux Vigo
2015 Ford Ranger
2015 Ford Everest 2.2 Titanium
2015 Ford Everest 3.2 Titanium+
2016 Toyota Hilux Revo 2.4 J m/t (5 คันจะที่รัก)
2017 BMW 320d iconic

ออฟไลน์ yourturle

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,080
    • อีเมล์
อนาคตยิ่งเยอะขึ้น เพราะบริษัทรถ จะแข่งและเน้นอุปกรณความปลอดภัย

แต่จริงๆผิด ที่ผู้ใช้รถ ใช้ผิดเวลาและสภาวะอากาศ
อีกหน่อยสอบใบขับขี่ ต้องสอนในส่วนนี้เพิ่ม
One Day.

ออฟไลน์ Redcliff

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 112
    • อีเมล์
เรื่องไฟตัดหมอก ผมว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีประโยชน์นะ ถ้าเปิดในเวลาฝนตก มีหมอก ทางที่มืดมากไม่มีไฟทางด้านข้าง หรือมีฝุ่นคลุ้งตามถนนอันนี้ผมว่าช่วยได้เยอะ เพราะจุดประสงค์คือไม่ได้เอาไว้ส่องทางเหมือนไฟหน้า แต่เปิดให้คันอื่นรู้ว่ามีรถวิ่งอยู่

ที่เคยลองถามก็บอกว่ามีแล้วมันต้องเปิดสิ เด๋วมันจะไม่เท่ ไม่โก้ ไม่หรู โดยเฉพาะบรรดารถซิ่งตัวน้อย ติดไฟตัดหมอกเป็นซีนอน สีฟ้าบ้าง ส้มบ้าง ชมพูบ้าง ไฟตัดหมอกหลังเอาไปเปลี่ยนหลอดให้วัตต์สูงขึ้นเนี่ย ตัวดีเลย รำคาญลูกกะตามาก เดี๋ยวนี้มีอัพเกรดกันไปอีก ติดเลเซอร์หลังรถ ไฟตัดหมอกกระพริบได้(นึกว่าขับF1รึไง)ติดไฟตรงกระจกหลังเป็นรูปวัดรอบแถมกระพริบได้ด้วย ปวดเบ้าตาหนักกว่าเดิมอีก

เวลาเข้าห้องอบรมก่อนสอบใบขับขี่น่าจะมีกฏเกี่ยวกับการเปิดไฟตัดหมอกได้แล้วนะ ควรจะเปิดตอนสถานการณ์ไหนบ้างไม่ใช่เปิดพร่ำเพรื่อแบบที่เห็นทุกวันนี้


 

ออฟไลน์ sk-non

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 501
จากประสบการณ์ผมนะครับ
ไม่มีความจำเป็นเลยสำหรับผมไฟตัดหมอกหลัง
เจอพายุฝนหนัก ขอให้เปิดไฟหลัง ก็พอ ผมมองเห็น

แต่สิ่งที่ผมลำบากมากคือ เส้นแบ่งช่องจราจร มันขาวไปพร้อมกับฝนเลย
ทำให้ต้องเพ่งสายตามากกว่าปกติ และอาศัยมองรถคันหน้าเป็นหลักด้วย

อีกอย่างคือ ผมใช้ฟิล์ม hikool บานหน้า 60 ทั้งสองคัน
มีทั้งดำ กับ ปรอท
ผมว่าฟิล์มนี่แหละตัวทำให้ทัศนวิสัยไม่ดี



ออฟไลน์ nuntapon.s

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,912
    • อีเมล์
เรื่องไฟตัดหมอก ผมว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีประโยชน์นะ ถ้าเปิดในเวลาฝนตก มีหมอก ทางที่มืดมากไม่มีไฟทางด้านข้าง หรือมีฝุ่นคลุ้งตามถนนอันนี้ผมว่าช่วยได้เยอะ เพราะจุดประสงค์คือไม่ได้เอาไว้ส่องทางเหมือนไฟหน้า แต่เปิดให้คันอื่นรู้ว่ามีรถวิ่งอยู่

ที่เคยลองถามก็บอกว่ามีแล้วมันต้องเปิดสิ เด๋วมันจะไม่เท่ ไม่โก้ ไม่หรู โดยเฉพาะบรรดารถซิ่งตัวน้อย ติดไฟตัดหมอกเป็นซีนอน สีฟ้าบ้าง ส้มบ้าง ชมพูบ้าง ไฟตัดหมอกหลังเอาไปเปลี่ยนหลอดให้วัตต์สูงขึ้นเนี่ย ตัวดีเลย รำคาญลูกกะตามาก เดี๋ยวนี้มีอัพเกรดกันไปอีก ติดเลเซอร์หลังรถ ไฟตัดหมอกกระพริบได้(นึกว่าขับF1รึไง)ติดไฟตรงกระจกหลังเป็นรูปวัดรอบแถมกระพริบได้ด้วย ปวดเบ้าตาหนักกว่าเดิมอีก

เวลาเข้าห้องอบรมก่อนสอบใบขับขี่น่าจะมีกฏเกี่ยวกับการเปิดไฟตัดหมอกได้แล้วนะ ควรจะเปิดตอนสถานการณ์ไหนบ้างไม่ใช่เปิดพร่ำเพรื่อแบบที่เห็นทุกวันนี้

ผมอ่านพี่แล้วผมอยากให้พี่พิจารณาใหม่ดีๆอะครับ  ถือว่าช่วยกัน 

ที่เขาทรมานกับไฟตัดหมอกก็เพราะช่วงเวลาแสงน้อย ม่านตาคนเราจะขยายเพื่อรับแสง  ถ้าเราเจอรถที่เปิดไฟตัดหมอกมันทำให้การมองเห็นลำบากขึ้นเพราะความเปรียบต่างแสงมันมาก  พูดง่ายๆคือถ้าเราเพ่งบริเวณที่มืดม่านตาขยายก็จะแสบตาหรือตาพร่าได้จากแสงที่มีความเข้มสูง  แต่ถ้าเราโฟกัสที่จุดสว่างคือไฟท้าย ม่านตาจะหดลงทำให้ความสามารถในการมองจุดที่มีแสงน้อยกว่าลดลง

ดังนั้นยิ่งสิ่งแวดล้อมรอบข้างมืดมากเท่าไหร่ยิ่งไม่ควรเปิด  มืดมากๆไฟท้ายธรรมดาก็เห็นชัดเจนแล้วครับ  ยิ่งอากาศเคลียร์มากเท่าไหร่ยิ่งไม่ควรเปิด  ตอนกลางวันมีหมอกหนาหรือฝุ่นจัดแบบลุยลูกลังฝุ่นตลบหรือไฟไหม้ข้างทางอันนี้เปิดเลยครับเต็มที่

แต่พอเป็นกลางคืนอันนี้ก็ไม่จำเป็น    ฝนตกหนักธรรมดาหรือถนนรอบข้างมืดมากอันนี้ไม่ควรเปิดอย่างยิ่งเพราะคนรอบข้างต้องเพ่งอยู่แล้ว  ยิ่งเจอตัดหมอกหลังจบกันครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 02, 2015, 11:10:54 โดย nuntapon.s »

ออฟไลน์ pony

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 489
ผมว่ามันอยู่ที่สามัญสำนึกล้วนๆครับ รถไม่เกี่ยวสักนิด ผู้ผลิตเค้าติดมาให้เพื่อความปลอดภัยน่ะถูกแล้ว แต่เป็นที่ตัวผู้ขับนั่นเลยจริงๆแค่เปิดอ่านคู่มือผู้ใช้มันก็เข้าใจแล้ว แต่ก็นั่นแหล่ะรู้ๆกันคนทั่วๆไปซื้อรถมาว่าคงมีน้อยคนที่จะอ่าน

หลายคนเปิดเพราะไม่รู้นึกว่าเปิดไฟตัดหมอกหน้าเพราะ ช่างหรือเซลล์ไม่ได้บอกมา เลยไม่รู้ถึงความแตกต่างทางสัญลักษณ์และสีของไฟบนหน้าปัด รู้แค่เปิดตรงไหนก็เปิดไป เป็นการเข้าใจผิดซึ่งจุดนี้ควรจะช่วยกันให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับเค้า ซึ่งมันมีจริงๆนะเยอะด้วยเจอมาหลายคนมากๆ


*ปล. รถ ฟอร์ด เชพโรเล็ต แทบทุกรุ่นจะเปิดค้างไว้ไม่ได้เลย ไฟตัดหมอกหน้า/หลัง แค่ดับเครื่องก็ปิดเองทันที ถ้าเจอเปิดละก็เล็งที่คนขับนั่นแหล่ะจงใจเปิดแน่นอน แคมรี่ทั้งหลายก็เช่นกัน เปิดคาได้แค่ตัดหมอกหน้า ด้านหลังถ้าเจอเปิดก็จงใจแน่นอน

ออฟไลน์ Redcliff

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 112
    • อีเมล์
เรื่องไฟตัดหมอก ผมว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีประโยชน์นะ ถ้าเปิดในเวลาฝนตก มีหมอก ทางที่มืดมากไม่มีไฟทางด้านข้าง หรือมีฝุ่นคลุ้งตามถนนอันนี้ผมว่าช่วยได้เยอะ เพราะจุดประสงค์คือไม่ได้เอาไว้ส่องทางเหมือนไฟหน้า แต่เปิดให้คันอื่นรู้ว่ามีรถวิ่งอยู่

ที่เคยลองถามก็บอกว่ามีแล้วมันต้องเปิดสิ เด๋วมันจะไม่เท่ ไม่โก้ ไม่หรู โดยเฉพาะบรรดารถซิ่งตัวน้อย ติดไฟตัดหมอกเป็นซีนอน สีฟ้าบ้าง ส้มบ้าง ชมพูบ้าง ไฟตัดหมอกหลังเอาไปเปลี่ยนหลอดให้วัตต์สูงขึ้นเนี่ย ตัวดีเลย รำคาญลูกกะตามาก เดี๋ยวนี้มีอัพเกรดกันไปอีก ติดเลเซอร์หลังรถ ไฟตัดหมอกกระพริบได้(นึกว่าขับF1รึไง)ติดไฟตรงกระจกหลังเป็นรูปวัดรอบแถมกระพริบได้ด้วย ปวดเบ้าตาหนักกว่าเดิมอีก

เวลาเข้าห้องอบรมก่อนสอบใบขับขี่น่าจะมีกฏเกี่ยวกับการเปิดไฟตัดหมอกได้แล้วนะ ควรจะเปิดตอนสถานการณ์ไหนบ้างไม่ใช่เปิดพร่ำเพรื่อแบบที่เห็นทุกวันนี้

ผมอ่านพี่แล้วผมอยากให้พี่พิจารณาใหม่ดีๆอะครับ  ถือว่าช่วยกัน 

ที่เขาทรมานกับไฟตัดหมอกก็เพราะช่วงเวลาแสงน้อย ม่านตาคนเราจะขยายเพื่อรับแสง  ถ้าเราเจอรถที่เปิดไฟตัดหมอกมันทำให้การมองเห็นลำบากขึ้นเพราะความเปรียบต่างแสงมันมาก  พูดง่ายๆคือถ้าเราเพ่งบริเวณที่มืดม่านตาขยายก็จะแสบตาหรือตาพร่าได้จากแสงที่มีความเข้มสูง  แต่ถ้าเราโฟกัสที่จุดสว่างคือไฟท้าย ม่านตาจะหดลงทำให้ความสามารถในการมองจุดที่มีแสงน้อยกว่าลดลง

ดังนั้นยิ่งสิ่งแวดล้อมรอบข้างมืดมากเท่าไหร่ยิ่งไม่ควรเปิด  มืดมากๆไฟท้ายธรรมดาก็เห็นชัดเจนแล้วครับ  ยิ่งอากาศเคลียร์มากเท่าไหร่ยิ่งไม่ควรเปิด  ตอนกลางวันมีหมอกหนาหรือฝุ่นจัดแบบลุยลูกลังฝุ่นตลบหรือไฟไหม้ข้างทางอันนี้เปิดเลยครับเต็มที่

แต่พอเป็นกลางคืนอันนี้ก็ไม่จำเป็น    ฝนตกหนักธรรมดาหรือถนนรอบข้างมืดมากอันนี้ไม่ควรเปิดอย่างยิ่งเพราะคนรอบข้างต้องเพ่งอยู่แล้ว  ยิ่งเจอตัดหมอกหลังจบกันครับ

ผมขับเส้น331บ่อวิน-ศรีราชาบ่อยครับ เส้นแถวนั้นถนนค่อนข้างมืดไฟทางไม่ค่อยมี ฝุ่นเยอะ ฝนตกบ่อย รถบรรทุกวิ่งเยอะด้วย ถนนไม่ค่อยดี ทัศนวิสัยไม่ค่อยดี ถ้าวิ่งเส้นนั้นช่วงกลางคืนผมเปิดบ่อยนะแต่รถผมมีแค่ไฟตัดหมอกหน้า(X Trail T32) ยกเว้นว่ารถเยอะจะไม่เปิด บนถนนปกติผมก็เปิดไฟปกติ ผมว่าขึ้นอยู่กับสถานการณ์กับสภาวะแวดล้อมด้วย แต่ถ้าเป็นตัดหมอกหลังผมไม่ชอบเหมือนกันสีมันแรงไปแสบตา ส่วนใหญ่ที่เป็นปัญหาคือคนที่เปิดไว้เฉยๆเปิดเอาเท่ อีกเรื่องคือฝนตกควรเปิดมั้ย ตกหนักแค่ไหนถึงจะควรเปิด อันนี้ผมไม่มีความรู้เหมือนกัน ยังไงก็ขอความรู้ด้วยครับ ขอบคุณที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน

ออฟไลน์ Sencha

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 260
ถ้ารถข้างหน้าเปิดไฟตัดหมอกหลัง เราดิฟไฟสูงไป 1 2 ที เขาจะรู้ตัวไหมครับ

ออฟไลน์ nuntapon.s

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,912
    • อีเมล์
เรื่องไฟตัดหมอก ผมว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีประโยชน์นะ ถ้าเปิดในเวลาฝนตก มีหมอก ทางที่มืดมากไม่มีไฟทางด้านข้าง หรือมีฝุ่นคลุ้งตามถนนอันนี้ผมว่าช่วยได้เยอะ เพราะจุดประสงค์คือไม่ได้เอาไว้ส่องทางเหมือนไฟหน้า แต่เปิดให้คันอื่นรู้ว่ามีรถวิ่งอยู่

ที่เคยลองถามก็บอกว่ามีแล้วมันต้องเปิดสิ เด๋วมันจะไม่เท่ ไม่โก้ ไม่หรู โดยเฉพาะบรรดารถซิ่งตัวน้อย ติดไฟตัดหมอกเป็นซีนอน สีฟ้าบ้าง ส้มบ้าง ชมพูบ้าง ไฟตัดหมอกหลังเอาไปเปลี่ยนหลอดให้วัตต์สูงขึ้นเนี่ย ตัวดีเลย รำคาญลูกกะตามาก เดี๋ยวนี้มีอัพเกรดกันไปอีก ติดเลเซอร์หลังรถ ไฟตัดหมอกกระพริบได้(นึกว่าขับF1รึไง)ติดไฟตรงกระจกหลังเป็นรูปวัดรอบแถมกระพริบได้ด้วย ปวดเบ้าตาหนักกว่าเดิมอีก

เวลาเข้าห้องอบรมก่อนสอบใบขับขี่น่าจะมีกฏเกี่ยวกับการเปิดไฟตัดหมอกได้แล้วนะ ควรจะเปิดตอนสถานการณ์ไหนบ้างไม่ใช่เปิดพร่ำเพรื่อแบบที่เห็นทุกวันนี้

ผมอ่านพี่แล้วผมอยากให้พี่พิจารณาใหม่ดีๆอะครับ  ถือว่าช่วยกัน 

ที่เขาทรมานกับไฟตัดหมอกก็เพราะช่วงเวลาแสงน้อย ม่านตาคนเราจะขยายเพื่อรับแสง  ถ้าเราเจอรถที่เปิดไฟตัดหมอกมันทำให้การมองเห็นลำบากขึ้นเพราะความเปรียบต่างแสงมันมาก  พูดง่ายๆคือถ้าเราเพ่งบริเวณที่มืดม่านตาขยายก็จะแสบตาหรือตาพร่าได้จากแสงที่มีความเข้มสูง  แต่ถ้าเราโฟกัสที่จุดสว่างคือไฟท้าย ม่านตาจะหดลงทำให้ความสามารถในการมองจุดที่มีแสงน้อยกว่าลดลง

ดังนั้นยิ่งสิ่งแวดล้อมรอบข้างมืดมากเท่าไหร่ยิ่งไม่ควรเปิด  มืดมากๆไฟท้ายธรรมดาก็เห็นชัดเจนแล้วครับ  ยิ่งอากาศเคลียร์มากเท่าไหร่ยิ่งไม่ควรเปิด  ตอนกลางวันมีหมอกหนาหรือฝุ่นจัดแบบลุยลูกลังฝุ่นตลบหรือไฟไหม้ข้างทางอันนี้เปิดเลยครับเต็มที่

แต่พอเป็นกลางคืนอันนี้ก็ไม่จำเป็น    ฝนตกหนักธรรมดาหรือถนนรอบข้างมืดมากอันนี้ไม่ควรเปิดอย่างยิ่งเพราะคนรอบข้างต้องเพ่งอยู่แล้ว  ยิ่งเจอตัดหมอกหลังจบกันครับ

ผมขับเส้น331บ่อวิน-ศรีราชาบ่อยครับ เส้นแถวนั้นถนนค่อนข้างมืดไฟทางไม่ค่อยมี ฝุ่นเยอะ ฝนตกบ่อย รถบรรทุกวิ่งเยอะด้วย ถนนไม่ค่อยดี ทัศนวิสัยไม่ค่อยดี ถ้าวิ่งเส้นนั้นช่วงกลางคืนผมเปิดบ่อยนะแต่รถผมมีแค่ไฟตัดหมอกหน้า(X Trail T32) ยกเว้นว่ารถเยอะจะไม่เปิด บนถนนปกติผมก็เปิดไฟปกติ ผมว่าขึ้นอยู่กับสถานการณ์กับสภาวะแวดล้อมด้วย แต่ถ้าเป็นตัดหมอกหลังผมไม่ชอบเหมือนกันสีมันแรงไปแสบตา ส่วนใหญ่ที่เป็นปัญหาคือคนที่เปิดไว้เฉยๆเปิดเอาเท่ อีกเรื่องคือฝนตกควรเปิดมั้ย ตกหนักแค่ไหนถึงจะควรเปิด อันนี้ผมไม่มีความรู้เหมือนกัน ยังไงก็ขอความรู้ด้วยครับ ขอบคุณที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน

วิ่งถนนโลกพระจันทร์เส้นเดียวกันกะผมนี่เอง  สงสัยจะทำงานนิคมแนวนี้ใช่มั๊ยฮะ  วันก่อนผมเพิ่งลงไปหลุมนึงก่อนแยกเข้าสาย3138มาทางฮาร์ดแวร์เฮ้าท์

ผมอ่านประโยคแล้วเข้าใจว่าพูดถึงไฟตัดหมอกหลัง  แต่ถ้าเป็นตัดหมอกหน้าหรือสปอร์ตไลท์ด้านหน้าก้เปิดไปเถอะครับ  ของออกมาจากโรงงานไม่ค่อยมีปัญหาหรอก  ดีกว่าพวกวิ่งแล้วสาดไฟสูงตลอดเวลาเยอะ

ออฟไลน์ madboy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,357
    • อีเมล์
ผู้ผลิตน่าจะใส่ไฟเตือนที่หน้าปัดให้มันแสบตาผู้ขับขี่ที่ชอบเปิดเน๊อะ 55555  ;D

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***

ออฟไลน์ Redcliff

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 112
    • อีเมล์
เรื่องไฟตัดหมอก ผมว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีประโยชน์นะ ถ้าเปิดในเวลาฝนตก มีหมอก ทางที่มืดมากไม่มีไฟทางด้านข้าง หรือมีฝุ่นคลุ้งตามถนนอันนี้ผมว่าช่วยได้เยอะ เพราะจุดประสงค์คือไม่ได้เอาไว้ส่องทางเหมือนไฟหน้า แต่เปิดให้คันอื่นรู้ว่ามีรถวิ่งอยู่

ที่เคยลองถามก็บอกว่ามีแล้วมันต้องเปิดสิ เด๋วมันจะไม่เท่ ไม่โก้ ไม่หรู โดยเฉพาะบรรดารถซิ่งตัวน้อย ติดไฟตัดหมอกเป็นซีนอน สีฟ้าบ้าง ส้มบ้าง ชมพูบ้าง ไฟตัดหมอกหลังเอาไปเปลี่ยนหลอดให้วัตต์สูงขึ้นเนี่ย ตัวดีเลย รำคาญลูกกะตามาก เดี๋ยวนี้มีอัพเกรดกันไปอีก ติดเลเซอร์หลังรถ ไฟตัดหมอกกระพริบได้(นึกว่าขับF1รึไง)ติดไฟตรงกระจกหลังเป็นรูปวัดรอบแถมกระพริบได้ด้วย ปวดเบ้าตาหนักกว่าเดิมอีก

เวลาเข้าห้องอบรมก่อนสอบใบขับขี่น่าจะมีกฏเกี่ยวกับการเปิดไฟตัดหมอกได้แล้วนะ ควรจะเปิดตอนสถานการณ์ไหนบ้างไม่ใช่เปิดพร่ำเพรื่อแบบที่เห็นทุกวันนี้

ผมอ่านพี่แล้วผมอยากให้พี่พิจารณาใหม่ดีๆอะครับ  ถือว่าช่วยกัน 

ที่เขาทรมานกับไฟตัดหมอกก็เพราะช่วงเวลาแสงน้อย ม่านตาคนเราจะขยายเพื่อรับแสง  ถ้าเราเจอรถที่เปิดไฟตัดหมอกมันทำให้การมองเห็นลำบากขึ้นเพราะความเปรียบต่างแสงมันมาก  พูดง่ายๆคือถ้าเราเพ่งบริเวณที่มืดม่านตาขยายก็จะแสบตาหรือตาพร่าได้จากแสงที่มีความเข้มสูง  แต่ถ้าเราโฟกัสที่จุดสว่างคือไฟท้าย ม่านตาจะหดลงทำให้ความสามารถในการมองจุดที่มีแสงน้อยกว่าลดลง

ดังนั้นยิ่งสิ่งแวดล้อมรอบข้างมืดมากเท่าไหร่ยิ่งไม่ควรเปิด  มืดมากๆไฟท้ายธรรมดาก็เห็นชัดเจนแล้วครับ  ยิ่งอากาศเคลียร์มากเท่าไหร่ยิ่งไม่ควรเปิด  ตอนกลางวันมีหมอกหนาหรือฝุ่นจัดแบบลุยลูกลังฝุ่นตลบหรือไฟไหม้ข้างทางอันนี้เปิดเลยครับเต็มที่

แต่พอเป็นกลางคืนอันนี้ก็ไม่จำเป็น    ฝนตกหนักธรรมดาหรือถนนรอบข้างมืดมากอันนี้ไม่ควรเปิดอย่างยิ่งเพราะคนรอบข้างต้องเพ่งอยู่แล้ว  ยิ่งเจอตัดหมอกหลังจบกันครับ

ผมขับเส้น331บ่อวิน-ศรีราชาบ่อยครับ เส้นแถวนั้นถนนค่อนข้างมืดไฟทางไม่ค่อยมี ฝุ่นเยอะ ฝนตกบ่อย รถบรรทุกวิ่งเยอะด้วย ถนนไม่ค่อยดี ทัศนวิสัยไม่ค่อยดี ถ้าวิ่งเส้นนั้นช่วงกลางคืนผมเปิดบ่อยนะแต่รถผมมีแค่ไฟตัดหมอกหน้า(X Trail T32) ยกเว้นว่ารถเยอะจะไม่เปิด บนถนนปกติผมก็เปิดไฟปกติ ผมว่าขึ้นอยู่กับสถานการณ์กับสภาวะแวดล้อมด้วย แต่ถ้าเป็นตัดหมอกหลังผมไม่ชอบเหมือนกันสีมันแรงไปแสบตา ส่วนใหญ่ที่เป็นปัญหาคือคนที่เปิดไว้เฉยๆเปิดเอาเท่ อีกเรื่องคือฝนตกควรเปิดมั้ย ตกหนักแค่ไหนถึงจะควรเปิด อันนี้ผมไม่มีความรู้เหมือนกัน ยังไงก็ขอความรู้ด้วยครับ ขอบคุณที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน

วิ่งถนนโลกพระจันทร์เส้นเดียวกันกะผมนี่เอง  สงสัยจะทำงานนิคมแนวนี้ใช่มั๊ยฮะ  วันก่อนผมเพิ่งลงไปหลุมนึงก่อนแยกเข้าสาย3138มาทางฮาร์ดแวร์เฮ้าท์

ผมอ่านประโยคแล้วเข้าใจว่าพูดถึงไฟตัดหมอกหลัง  แต่ถ้าเป็นตัดหมอกหน้าหรือสปอร์ตไลท์ด้านหน้าก้เปิดไปเถอะครับ  ของออกมาจากโรงงานไม่ค่อยมีปัญหาหรอก  ดีกว่าพวกวิ่งแล้วสาดไฟสูงตลอดเวลาเยอะ


ผมไปหาหลานที่บ่อวินบ่อยครับ มีพี่เปิดคาร์แคร์ที่บ่อวิน

ออฟไลน์ ___LOFT

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,773
เคยขับตามหลัง Camry ACV40 กับ Lexus RX ที่เปิดตัดหมอกหลัง โอ้ววว !! ระดับสายตาพอดีเป๊ะ

ออฟไลน์ bravo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,472
    • อีเมล์
เรื่องไฟรถ(ทุกดวง)มันอยู่ที่สามัญสำนึกขอบคนขับล้วนๆ เลยครับ
บางคัน มันต่อไฟเบรกเข้ากับไฟตัดหมอกหล้ง ขนาดกลางวันแสงยังจ้ามากเลย
บางคัน ก็เปลี่ยนไฟเลี้ยวเป็นสีน้ำเงิน
บางคัน ติดเดย์ไลท์เถื่อน สว่างทั้งกลางวัน กลางคืน
บางคัน เดย์ไลท์มาจากโรงงาน ก็ไปต่อรีเลย์เพิ่มให้สว่างตอนเปิดไฟหน้าด้วย
บางคัน ก็ติด LED หลากสี ยังกะเรือไดหมึก
มีอีกหลายรูปแบบบรรยายไม่หมด
เจ้าหน้าที่ ก็ปล่อยปละละเลย

ออฟไลน์ Tomz

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 927
รีโว่ก็ใช่ย่อยนะครับ ขับเส้นกาญจนบุรี กลางคืน ถนนมืดๆ เจอรีโว่ เปิดตัดหมอกหลัง น่าจะรุ่น 4ประตู 4x4 ยกสูง แหม่ แยงตาเปะเลย ต้องเหยียบเบรก แล้วให้มันนำไปห่างๆเลย ไม่ไหว ตาพร่ามัวกันเลยทีเดียว  ไม่รู้ผู้ผลิตมันคิดยังไง เอาไปใส่ไว้ในพวกรถสูงๆ ขนาดพวก วีออส เฟียสต้า เตี้ยๆ เวลาเปิดยังแสบตาเลย
2001 Mitsubishi Evolution 5 
2004 Isuzu Dmax 2.5 di 
2012 Honda Jazz ( JP ) Ge   
2015 Mercedes Benz Cla250 AMG 
2016 Mazda Cx-3

ออฟไลน์ trumpetx

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 681
    • อีเมล์
เอาจริงๆ ตัดหมอกหน้าก็ไม่ควรเปิดถ้าไม่มีหมอกหรือฝนตกหนัก

แอบคิดในใจ กทม หมอกเยอะหรอ เปิดกันจังเลย

เคยคุยบางคนบอก ก็มีมาให้ก็เปิดสิ!

จบข่าว

ออฟไลน์ SETTHASART

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,306
  • รักชาติ ไม่คลั่งชาติ
ไฟตัดหมอกจะหน้าหรือหลัง มันก็มีประโยชน์ ถ้าใช้ถูกกาลเทศะ

แต่ที่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น เพราะสันดานคนเปิดที่ใช้ผิดเวล่ำเวลามากกว่าครับ

ของวิออสยังพอทำเนาเพราะอยู่ล่างๆหน่อย ส่วนรีโว่+WTตัวเก่า มันก็ยังมีข้างเดียว แต่ FTN+EV มี 2 ข้าง อยู่ในระดับสายตารถเตี้ยๆพอดี สุดติ่งจริงๆครับสันดานคนพวกนี้

ออฟไลน์ Volta

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,716
    • อีเมล์
เวลาเจอก็ชลอไห้เขาไปก่อนเถอะครับ
คนที่เปิดไฟพวกนี้ เขาไม่รู้หรอกว่าทำไห้คนอื่นเดือดร้อน

ผมว่าจะเอารถไปติดไฟตัดหมอกเพิ่มอยู่ แต่คิดดูแล้วติดมาก็ไม่ได้เปิด ไฟหน้ามันก็สว่างพออยู่แล้ว   เอาเงินไปทำอย่างอื่นดีกว่า
สวัสดีทุกๆคนครับ

ออฟไลน์ gogy

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 1
ความเห็นส่วนตัวผม ... ผู้ผลิตควรจะใส่ใจเรื่อง การวางไฟท้าย ไฟถอย ไฟเลี้ยว ให้แสงไฟไม่กลืนกันแล้วมองเห็นชัดเจนแต่ไกลโดยที่ไม่รบกวนสายตาผู้ร่วมใช้ถนนจะดีครับกว่า
ที่สำคัญจริงๆ ควรจะเป็นไฟถอยนะครับ มีครบสองข้างให้เรามองเห็นทัศนียภาพช่วงกลางคืนทั้งสองฝั่งเวลาถอย และคันหลังจะได้เห็นมิติของท้ายรถเรา
ไฟตัดหมอก เก็บไว้ไปใส่ด้านหน้าแล้วเปิดใช้เมื่อจำเป็นจะดีกว่าครับ ;)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 03, 2015, 09:28:46 โดย gogy »

ออฟไลน์ bravo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,472
    • อีเมล์
รีโว่ก็ใช่ย่อยนะครับ ขับเส้นกาญจนบุรี กลางคืน ถนนมืดๆ เจอรีโว่ เปิดตัดหมอกหลัง น่าจะรุ่น 4ประตู 4x4 ยกสูง แหม่ แยงตาเปะเลย ต้องเหยียบเบรก แล้วให้มันนำไปห่างๆเลย ไม่ไหว ตาพร่ามัวกันเลยทีเดียว  ไม่รู้ผู้ผลิตมันคิดยังไง เอาไปใส่ไว้ในพวกรถสูงๆ ขนาดพวก วีออส เฟียสต้า เตี้ยๆ เวลาเปิดยังแสบตาเลย

อย่าไปโทษผู้ผลิตเลยครับ
ถ้าคนขับ เปิดให้ถูกที่ ถูกเวลา ก็คงไม่มีปัญหา
อย่างไฟเลี้ยว ผู้ผลิตก็ใส่มาให้ แต่คนขับ ดันไม่เปิดใช้ซะนี่
ไอ้ที่ควรเปิด ดันไม่เปิด ไอ้ที่ไม่ควรเปิด ดันเปิด