Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: rvsmart ที่ ตุลาคม 02, 2019, 17:44:58
-
SUV น้ำมันล้วน เลือกเบนซินหรือดีเซล
ตามหัวข้อเลยครับ ขอเหตุผลด้วยครับ
-
ชอบรถขึ้นเร็ว จบเร็ว ดีเซล
ชอบรถขึ้นช้า ดึงยาวๆ เบนซิน
-
ถ้าเป็นคนชอบขับเร็วชอบ feeling เบนซินครับ แต่ถ้าไม่ได้ชอบขับเร็วแค่ให้แซงได้ ดีเซลครับ
ถ้าผมๆเอาเบนซินครับ
-
ส่วนตัวชอบ SUV เครื่องดีเซลครับ
ด้วยความที่มีน้ำหนักรถเยอะกว่าเก๋ง การมีแรงบิดสูงในรอบต้นให้ใช้งาน ทำให้ขับแล้วรู้สึกกระฉับกระเฉงกว่าเบนซิน ทั้งที่ในความเป็นจริงเมื่อจับเวลาอัตราเร่งออกมาเทียบกัน เบนซินอาจจะดีกว่าเสียด้วยซ้ำ
อย่าง CX-5 2.2 ดีเซล ก็เป็นรถรุ่นนึงที่ชอบมาก ในแง่การสร้างแรงดึง กดตรงไหนก็มา
หรือแม้กระทั่ง Captiva 2.0 และ CR-V 1.6 ซึ่งเป็นรถที่อัตราเร่งอยู่ในระดับกลางๆ แต่การใช้งานจริง มันสามารถพาตัวรถที่มีน้ำหนัก 1.7-1.9 ตัน ไปได้ดีกว่าที่คิด
-
ขับในเมืองบ่อย ไปเบนซิล
ขับชานเมือง มอเตอร์เวย์ ทางด่วนยาวๆ บ่อยๆ ไปดีเซล
ขับผสมๆนอกและในกทม.พอๆกัน ไปเบนซิลตัวแรงของรุ่น (พวก200ม้า+)
ปล. จากปสก. 525d f10 ขับในเมืองกดลึกนิกนึงเร่งแล้วแรงเกิ๊น ต้องใช้เบรกเยอะเปลืองอีก
-
สำหรับผม ดีเซล หรือ เบนซิล Hybrid ครับ มีแรงรอบต่ำช่วยทำให้รถหนักๆแบบ SUV ขับได้กระฉับกระเฉงขึ้นครับ
-
ถ้าไม่เน้นขับ200+บ่อยๆ ลากรอบเป็นนิจ
แนะนำดีเซลที่แรงบิดสูงๆครับ เพราะส่วนมากsuvจะหนัก
-
ส่วนติดนิสัยจากการเคยใช้ SUV ประเภท PPV ก็เลยติดใจเครื่องดีเซล มันจะน่ารำคาญตอนรถติดๆ เพราะจะกระตุกหน่อยเนื่องจากแรงบิดเยอะ แต่พอลอยตัวแล้วสบายไปไหนไปกัน ประหยัดน้ำมันด้วย
แต่ช่วงที่ PM2.5 แบบนี้คนดีเซลก็จะถูกตราหน้าว่าเป็นคนบาป ทั้งที่บางรุ่นเครื่องยนต์สะอาดกว่าเบนซินหลายรุ่นซะอีก
-
เอาในกลุ่ม c-suv ต่ำกว่า 2ล้าน
ดีเซล ขับในเมืองน่ารําคาญ สั่นเบาๆทั้งคัน เกียร์1-2-3เยออยู่นั้นแหละ ขึ้นลงเปิดกระจกเปิดฝาท้ายก็เหม็นควันตัวเอง
แต่ขับทางโล่งมันส์มาก ประหยัดมาก
เบนซิน ในเมืองสบายทุกอย่างตรงข้ามกับดีเซลที่ว่าไป
แต่กำลังน้อยขับไม่สนุกทั้งตลาดเลย
เบนซินต้องรอระดับ crv 1.5turbo หรือ cx5 2.5 กลับมาถึงจะพอเรียกว่าสนุก ยิ่งถ้ามีตัวเลือกระดับ 200ม้า แรงบิด 300-400 (แท้ๆ)จะดีงาม
-
SUV เป็นรถทรงสูง ต้านลม น้ำหนักตัวเยอะ ถ้าใช้เครื่องเบนซิลจะกินน้ำมันจุมาก เลือกดีเซลดีกว่า ประหยัดกว่ากันเยอะ
-
จะเบนซินหรือดีเซลก็ได้ครับ แต่ขอให้เป็นเครื่องเทอร์โบ
ปกติผมชอบเอา SUV ไปเที่ยวต่างจังหวัด ไม่ได้ขับเร็วอะไรมากแต่ชอบให้กำลังเครื่องมาไวตั้งแต่รอบต้นๆ เพราะมันรู้สึกว่าขับง่ายขับสบายครับ
โดยเฉพาะพอเป็นดีเซลเทอร์โบมันค่อนข้างตอบโจทย์กับรถใหญ่ที่ต้องการกำลังลากดึงสูงๆ
-
ดีเซล ..
ส่วนมาก ติดเทอร์โบ + อินเตอร์คูลเลอร์กันหมดแล้ว ทั้งแรง ทั้งประหยัดน้ำมัน
-
รถหนักเครื่องดีเซลจะตอบโจทย์กว่าครับ ไม่ต้องเค้นมาก
-
คำถามกว้างแบบนี้คงตอบว่าดีเซล เพราะประหยัด+แรงบิดเยอะกว่า
แต้ถ้าพวกSUVแพงๆเบนซินดีกว่า
-
คำถามกว้างแบบนี้คงตอบว่าดีเซล เพราะประหยัด+แรงบิดเยอะกว่า
แต้ถ้าพวกSUVแพงๆเบนซินดีกว่า
+1 ครับ รถหนัก แรงบิดที่มาไวของ Diesel ได้เปรียบเห็นๆครับ
-
เบนซินเทอร์โบรุ่นใหม่ๆแรงม้าสูงและแรงบิดต่ำแบบช่วงกว้างๆ กดนิ่งๆประหยัดแถมได้ความเงียบและนุ่มนวลครับ...อยากจะขับโหดๆก็เปลี่ยนโหมดได้เหมือนเป็นรถคนละคัน ส่วนตัวเป็นคนไม่ชอบฟังเสียงเครื่องดีเซลครับ.
-
ผมใช้ Pajero เบนซิน V6 อยู่ครับ
ช่วง 0-80 จะช้า ๆ
พอเลย 80 ขึ้นไป กดย้ำไปเรื่อย ๆ
เสียงเครื่องคำราม พุ่งทะยานไปเรื่อย ๆ 5555
ใช้เดิม ๆ อยู่ อยากเอาไปเพิ่มแรงม้า ไม่รู้จะดีกว่าเดิมแค่ไหน
ส่วนดีเซลผมไม่เคยใช้ แต่ไม่ชอบเสียงของดีเซลดังแต้ก ๆ ๆ ๆ ๆ ตอนจอดติดไฟแดง
-
ได้ทั้งสอง แต่ชอบเบนซินมากกว่านะครับ เครื่องเงียบดี 8)
-
ถ้ารถญี่ปุ่น เบนซินยังไม่มีเทอร์โบ ไปดีเซลครับ
ใช้งาน อัตราเร่งดี ประหยัด ทนทาน ก็ดีเซล
ถ้ายุโรปตัวเลือกเพิ่มเครื่อง 2.0 เทอร์โบ ก็ขับสนุก เงียบ เบา ถ้าได้ 3.0 เทอร์โบ อันนี้ดึงหน้าหงาย
-
ถ้ารถตลาดไม่เกิน 2 ล้านบ้านเรา... ผมเอาดีเซลครับดึงดีกว่ามาก cx5 นี่มันมากครับ แต่ปลายเหี่ยวหน่อย
ยิ่งถ้าขึ้นเขาบ่อยๆ นี่ตอบโจทย์เลยครับ
แต่ถ้าราคาเลยนี้ไป รถยุโรปพวก เบนซินเทอรโบ หรือเสียบปลั๊ก อันนี้เอาเบนซินครับ
-
ผมเลือกดีเซลครับ เลือกมาแล้ว ให้เลือกใหม่ก็ยังเลือกดีเซลเหมือนเดิมครับ
ประหยัดกว่า แรงบิดเยอะกว่า แรงม้าพอกัน(น้อยกว่าเล็กน้อย บางรุ่น) อัตราเร่งพอกัน ท๊อปสปีดพอกัน
นี่คือเหตุผลของผม
-
ถ้าความทนทานผมก็ให้ ดีเซล อันนี้คิดไปเองนะว่าทน 5555 ทั้งๆ ที่ อายุก็ไม่ได้แต่ต่างกัน
ชอบความแรงของดีเซล แต่ชอบเสียงเงียบกว่าของเบนซิน สรุปเลือกเบนซินครับ ถ้าเติม E85 ได้ แบบว่า ยิ่งชอบครับ
เพราะว่า B20 ขึ้นราคาไปอีก 2 บาท ทำให้ตัวเลือกพลังงาน ไม่น่าใช้ครับ 5555
ลักษณะของเบนซินที่ผมไม่ค่อยชอบคือ เวลาเร่งจัดๆ เหมือนเครื่องมันน่าสงสารกว่าดีเซล แค่นั้นครับ
แต่ถ้าเอาแบบไปลุยๆ แบบหนักหรือไม่หนักมาก ผมว่า ดีเซลเป็นทางเลือกทีดีครับ สงสารเครื่องเบนซินครับ ทั้งๆ ที่จริงๆ มันก็ทนนะครับ ไม่ได้มีอะไร
-
ดีเซลหรือเบนซินเทอร์โบครับ ต้องการแรงบิดเยอะๆที่รอบต่ำ รถหนัก ขับในเมืองหรือนอกเมืองก็สบายและปลอดภัยกว่า ยิ่งถ้าต้องเจอทางชันหรือขึ้นเขานี่ปลอดภัยกว่ามาก แรงกว่าแต่ประหยัดกว่า พ่วงความปลอดภัยมาด้วยเมื่อจำเป็นต้องเร่งแซง
-
ใช้ปีละเกิน 40000 กม เลือก ดีเซล ใช้น้อยเลือก เบนซิน ดูส่วนต่างราคารถด้วย ว่า เครื่องยนต์ประเภทไหนคุ้มกว่า
-
ถ้า SUV เชียร์ดีเซลครับ รถหนักๆต้องการเครื่องแรงฉุดดึงเยอะหน่อย ดีเซลน่าจะตอบโจทย์ ไม่อุ้ยอ้าย
ด้วยความเป็น SUV มันก็ซิ่งได้แค่ในระดับนึงอยู่แล้วครับ วิ่งไม่เกิน 170 ดีเซลเทอร์โบสมัยนี้ผ่านฉลุย หากจะไปวิ่งเอา top speed เป็นกิจวัตรก็ดูจะไม่ใช่ทางสำหรับรถสายนี้
กลับกันถ้าโจทย์ในครั้งนี้เป็นรถเก๋ง ผมคงเชียร์เบนซิน เทอร์โบ
-
เครื่องยนตร์แต่ละชนิด มีดีในแต่ละด้านครับ
โจทย์คือรถ SUV
- จากโครงสร้าง เป็นรถหนักอยู่แล้ว หากรวมผู้โดยสารเต็มพิกัดและสัมภาระ แน่นอนว่าเครื่องดีเซลที่แรงบิดรอบต่ำดีกว่าเครื่องเบนซิลน่าจะตอบโจทย์ดีกว่าพอสมควรครับ
- SUV โดยการออกแบบแล้ว ไม่ใช่รถที่ออกแบบมาให้ซิ่ง ให้มุด หรือให้ใช้ความเร็ว Top Speed ออกแบบเอียงไปทางรถครอบครัว ดังนั้นแรงบิดเพื่อให้รถออกตัวนั้นสำคัญกว่าแรงม้าทำ Top Speed โจทย์นี้ดีเซลก็ยังตอบได้ดีกว่าพอสมควร
- ถ้าเทียบความสิ้นเปลืองน้ำมัน เครื่องยนตร์ดีเซลน่าจะมีต้นทุนที่ถูกกว่าเบนซิลในแง่ของราคาเดินทางต่อกิโลเมตร
- เรื่องเสียงเครื่องยนตร์แน่นอนว่าปัจจุบันเครื่องดีเซลจะพัฒนาให้เสียงดังน้อยลงไปเยอะมาก แต่เมื่อใช้งานนานๆไป เสียงเครื่องดีเซลก็จะดังขึ้นๆ ตามอายุการใช้งาน เรื่องเสียงเครื่องยนตร์ รถเครื่องเบนซินได้เปรียบกว่าพอสมควร
- การขับขี่ในเมืองที่รถติดหนักๆ เครื่องที่มีแรงบิดน้อยกว่านั้นจะมีการกระชากน้อยกว่าพอสมควร เครื่องยนตร์เบนซินน่าจะได้เปรียบกว่าพอสมควร แต่ถ้าหากจะเน้นขึ้นเขาลงห้วย เครื่องยนตร์ดีเซลจะให้ความมั่นใจกว่าแต่ก็ใช่ว่าเครื่องเบนซินจะไม่สามารถทำได้
- หากเทียบความคุ้มค่า ควรประเมินการใช้งานในหน่วยกิโลเมตรต่อปี เพื่อมาคำนวณความประหยัดเชื้อเพลิงที่จะได้มาคำนวณต่อราคาเครื่องยนตร์เพื่อหาจุดคุ้มทุนด้วย เช่น หากใช้รถเยอะมากๆ แน่นอนว่าเครื่องดีเซลที่ราคาค่าตัวแพงกว่านั้นจะถึงจุดคุ้มทุนได้ในเวลาไม่กี่ปี แต่หากใช้งานรถน้อยและซื้อเครื่องยนตร์ดีเซลก็จะใช้เวลานานกว่าที่จะถึงจุดคุ้มทุน
- ในแง่ของการขายต่อเป็นรถมือสอง ต้องประเมิณว่าในกลุ่มของคนที่เล่นรถ SUV นั้น นิยนเครื่องยนตร์ชนิดใดและเครื่องยนตร์ชนิดนั้นๆที่เป็นที่นิยม จะขายได้ในราคาดีกว่าเมื่อต้องการปล่อยรถเป็นมือสอง
-
ผมขอเบนซินละกันครับ เหตุผลหลักๆเลยคือส่วนใหญ่วิ่งแต่ในเมืองกะในมอประมาณ 80-90%
เคยลองขับ CX-3 Diesel เวลาจอดติดไฟแดงละมันจั๊กกะดึ๋ยดี ;D
ปล. บวกกับเจ้าของเงินอย่างคุณแม่เทใจให้เบนซินเพียวอย่างเต็มเปาด้วยฮะ
ตอนจะเปลี่ยนรถที่บ้านโน้มน้าวตั้งนานถึงจะยอมใช้ plug-in hybrid 555555
-
รถหนักต้องการทอร์คอย่างมากครับ คำตอบคือดีเซล และคุณจะได้ efficiency ด้วย
(https://scontent.fbkk2-6.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/71344822_10220952387219900_3838759799713955840_n.jpg?_nc_cat=111&_nc_eui2=AeFTW_PyBFscZEZ2gTxKo22BqpOXSRo1uFuYS2j_-zI6AIt0XIik0QryrprnBCPvr2WYsm5OU-VQQ3Q5m3y_N2euOwRGYco5FhPl45SGY-RZ0Q&_nc_oc=AQl8zypUsHLnLJiy2fzEr4w6n13s-cfNdYx4uNkKTQINWG8aFXJC4CAUFmf3q_NHAWg&_nc_ht=scontent.fbkk2-6.fna&oh=18f9f346d832e1b3296e954e9c6dafcc&oe=5DEF088A)