นักวิชาการ นักพลังงาน เขาก็บอกกันอยู่
ด้วยขนาด และน้ำหนักต่อการเก็บพลังงาน
แบตเกลือมันไม่เหมาะเอามาใส่รถยนต์
ด้วยความคงทนของมันส่วนใหญ่เอามาทำแหล่งเก็บพลังที่อยู่นิ่งกับที่
power wall อะไรแบบนั้น
ทุกวันนี้รถถ่าน น้ำหนัก 2 ตันกว่า ยังวิ่งได้แค่ 400 - 500 กิโลเองนะ
เอามาใส่แบตเกลือ
น้ำหนักรถแบตเกลือ 3 ตัน วิ่งได้ 400 - 500 กิโล มีให้เห็นแน่นอน
ก็คงจะกลายเป็น เรือเกลือ สมชื่อ
มันหนักกว่าลิเที่ยมจริง แต่เขาก็พัฒนาความหนาแน่นพลังงานต่อน้ำหนักได้ดีขึ้นจนตอนนี้ byd ก็เริ่มมีการใช้ในรถขนาดเล็กและทำระยะวิ่งในระดับสามร้อยโลไว้ใช้วิ่งในเมืองจ่ายตลาดไปรับลูกที่โรงเรียน ใช้งานในระยะใกล้ๆใช้ในเมืองรถแบตเกลือมาแน่นอนครับ
ส่วนใช้สำรองไฟแบบอยู่กับที่นี่ตลาดแตกและเข้ายึดตลาดตรงนี้แน่นอน
ตรงนี้ผมเอ๊ะอยู่จุดหนึ่ง ตรงที่ว่ายังใช้งานเอามาผสมกับแบตลิเทียม
คือ concept คืออะไรกันแน่ที่เอามาผสมกัน
นึกได้บางอย่างเช่นลดต้นทุน อันนี้แน่นอน
กับอีกอย่างก็คือกระจายน้ำหนักให้มันเต็มพื้นที่ใต้ท้องรถ ..
ก็แปลว่าในพื้นที่ใต้ท้องรถเดิมใช้แต่แบตโซเดียมไม่สามารถให้พลังงานตาม standard แข่งขันทั่วไปได้
ซึ่งถ้าเอาเวอร์ชั่นนี้มาใช้ขายจริงก็แปลว่าเวอร์ชั่นนี้มาถึงคอขวดสำคัญ
อันถัดไปอย่างน้อยๆก็ต้อง 3-5 ปี รอเจนถัดไปของแบตโซเดียม
ก็ไม่รู้อีกว่ามันจะเป็นไปได้ขนาดไหน แต่ก็น่าจะแข่งกับลิเทียมเดิมไม่น่าจะเร็วๆนี้คงสัก 5-10 ปี
ที่น่าห่วงก็คือแบบลูกผสมที่มันจะเกิดการเสื่อมไม่เท่ากัน
แล้วเมื่อ balance แตกต่างกัน 2 ชนิดมันน่าจะมีผลในระยะกลางๆไม่น่าถึงกับระยะยาวนะครับ