จุดขายอีกสองจุดที่อดชมเสียมิได้ คือเครื่องเสียงคุณภาพเยี่ยมและระบบปรับอากาศอัตโนมัติครับ
- เครื่องเสียงคุณภาพเยี่ยมมาก เยี่ยมมากจริงๆ สำหรับชุดเครื่องเสียงธรรมดาที่มีลำโพงกรวยกระดาษแบบ Dual Cone ทั้ง 4 ตัว ยึดด้วย spacer อย่างแน่นหนา ไม่มีทวีตเตอร์มาให้ แต่สุ้มเสียงที่ได้นั้น เหลือๆ ครับสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปที่ไม่ใช่นักฟังหูทอง แม้จะไม่มีทวีตเตอร์ แต่สุ้มเสียงนั้นกังวานใสใกล้เคียง Honda City SV เลย แม้ว่าเบสจะแข็งสักหน่อย แต่ก็ถือให้คุณภาพมาเป็นอันดับสอง รองจาก City SV ละกัน ทิ้ง Mazda 2 ไว้อันดับ 3 ซึ่งผมค่อนข้างจะชอบเบสของ Mazda 2 มากกว่า Swift อยู่หน่อย แต่โดยรวมแล้ว Swift ยังถือว่าเสียงดีกว่าครับ ข้อด้อยมีอยู่นิดนึงครับ คือไม่รองรับ USB, AUX-in แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะกะจะไปติด XCarLink อยู่แล้ว แค่ 3,400 บาท ให้รองรับทั้ง USB, AUX-in และ SD Card โดยที่ยังควบคุมเครื่องเสียงได้จากพวงมาลัยเหมือนเดิม สำหรับปุ่มควบคุมที่พวงมาลัยสามารถควบคุมการปิดเสียง, Seek, Vol และเลือก Source ได้ สำหรับออพชั่นในตัวเครื่องเสียงนี้ก็เหมือนคู่แข่งครับ ปรับ Bass/Treble มาได้อย่างละ 7 ระดับ (0-6) มีระบบ AVC ที่สามารถเลือกเปิดและปรับได้ 3 ระดับ แต่ไอ้เจ้าระบบเร่งเสียงเพลงตามรอบเครื่องยนต์ของสวิฟท์นี่ค่อนข้างไม่ได้เรื่อง กล่าวคือมันไม่ได้เร่งเสียงตามความเร็วแต่อย่างใด เร่งเสียงตามรอบเครื่องยนต์เท่านั้น ทำให้เสียงมันดังๆ เบาๆ อยู่ตลอดเวลาซึ่งน่ารำคาญมาก แม้จะปรับแค่ระัดับ 1 ก็ตาม รถวิออส, ซีวิค, มาสด้า 2 ไม่เห็น sensitive มากขนาดนี้เลย ในที่สุดก็ต้องปิดระบบนี้ไป
- ระบบปรับอากาศไม่ต้องพูดถึง ผมชื่นชมเรื่องการใส่ใจรายละเอียดของการปรับอุณหภูมิที่ละเอียดระดับ .5 องศาเซลเซียส ซึ่งถือว่าทำได้ดี กระจายความเย็นได้ทั่วถึงดีครับ อุณหภูมิที่ใช้ โดยมากจะตามหน้าจอครับ สำหรับเวลาแถว 11.00 น. ในรถที่นั่งกัน 3 คน ไม่ได้ติดฟิล์มกรองแสง ส่วนคราวที่แล้ว ผมไม่แน่ใจว่าที่รู้สึกว่าแอร์ไม่เย็น เป็นเพราะโหมด FULL หรือเปล่า ที่จะปรับให้รับอากาศภายนอกเข้ามาหมุนเวียนอัตโนมัติ เพื่อไม่ให้ภายในรถขาดออกซิเจน มาคราวนี้ทำการบ้านไว้ล่วงหน้า โหมดที่ใช้จึงเป็น manual ล้วนเลย (พนักงานขายบอกว่าแอร์เป็นของ Nippon Denso ทำ ไม่แน่ใจว่าจริงหรือเปล่า ใครอยู่วงใน วานตรวจสอบหน่อยนะครับ)