ก็ไม่จริงอีกนั่นแหละ รถส่วนใหญ่จะมีแมปไป ชุดเดียว เขาจูนไว้กลาง ๆ ถ้าคุณจูน อี 85 คุณมาใช้อี มันก็เขก...
รถผม จะว่ารีแมป ก็ใช่ แต่เป็นเอาแมปของปี 07 ซึ่งเป็นอี 85 แล้วมาใช้ มันมีแมป 2 กระดาน กระดานล่าง ใช้ 95- อี 36 กระดานบน ใช้ตั้งแต่ 36 ขึ้นไป มันจะปรับตัวของมันเอง...(ฟังจากจูนเนอร์มาเล่าต่อ ผิดถูกบ้างตามประสา)
รถ FFV มันมี ฟังชั่น อ่านค่า เอทานอล และ ปรับส่วนผสม ตามชนิดน้ำมันครับ เหมือน Offset จาก Map เดิมครับ
คือ มีหลาย Map แต่เป็น Map Auto
แต่รถที่ไม่ใช่ FFV ควร มีหลาย MAP
ถูกต้องครับ นั่นมันกระดานส่วนผสม
แต่ที่ผมอธิบาย เป็นเฉพาะแมปไฟ...ครับ
จริงๆ FFV มัน Offset ทุก Map ที่เกี่ยวข้องครับ ไม่ใช่แค่ส่วนผสม
E85 ไฟแก่ นี่ แปลว่า มันเผาไหม้ช้ากว่า LPG และ เบนซินใช่ไหม
ก็น่าจะเป็นแบบคุณเข้าใจได้
อธิบายแบบที่ผมเข้าใจนะ....ไม่ชัวร์ เพราะไม่ใช่มือจูน...
ให้ อี 20 ส่วนผสมอยู่ที่ 14.0/1
อี 85 " 9.875/1
lpg สามารถใช้ส่วนผสม 14.7/1 (ค่าออกเทน 105 เท่ากับอี 85)
สมมติ ที่รอบ 2000 รอบ
ปริมาณเชื้อเพลิง จ่ายเข้ากระบอกสูบเท่ากัน ณ องศาจุดระเบิด(หัวเทียนจุดนำ) 16 องศาก่อน ศูนย์ตายบน ทั้งหมดจะให้พลังงานเท่ากัน
แต่เมื่อปรับองศาไปจุดระเบิดที่ 20 ก่อน ศูนย์ตายบน พร้อมทั้งลดปริมาณเชื้อเพลิงลง แต่ให้พลังงานเท่ากันกับด้านบน
อี 85 จุดได้ โดยที่ปฏิกิริยาไม่จบก่อน 10 องศาหลังศูนย์ตาย(ถ้าจบก่อนถือว่าน็อค หรือเขก)
lpg จุดได้เช่นกัน
แต่ อี 20 ทำไม่ได้ ปฎิกิริยาจบก่อน รถจะเกิดอาการเขก
ดังนั้น รถทั่วไปที่มีกระดานไฟสำหรับจุดนำ เพียงกระดานเดียว มันจะถูกจูนไว้สำหรับ ออกเทน 98 น้ำมันอี 85 แบบนั้นจึงเปลืองกว่า 95 ประมาณ ร้อยละ 32 แต่ถ้าเปลี่ยนองศาจนเหมาะสม อัตราการใช้จะสูงกว่าน้ำมัน 95 เพียงประมาณร้อยละ 22-25
ผมจึงบอกว่ารถผมพอ ๆ กัน ไม่ต่างกัน แต่อี 85 ขับสนุกกว่า กดมากกว่า ก็เลยกินมากกว่า แต่ถ้าขับนิ่ง พอ ๆ กัน..ยกเว้น แก๊ส รถผม 2.3 โบ td04 ม้าอาจจะ ราว ๆ 250 แต่ผมใช้หม้อต้มแค่ อลาสก้าสำหรับรถ 1.8 -2.0 ธรรมดา กับอัตราการใช้เชื้อเพลิง 10.0 กม./ลิตร ราว ๆกม.ละ 1.20 บาท เท่านั้นเอง