Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ลุง ที่ พฤษภาคม 20, 2018, 03:34:10
-
กล่าวคือมีคนบางกลุ่มรังเกียจแล้วหันไปซื้อ BMWแทน,มีคนขอให้คุณหมูหักยอดจดทะเบียนแท็กซี่ก่อนรายงานยอดขาย Benz
,มีข่าวลือว่า BMW ไม่อนุญาตให้ลูกค้านำรถไปทำแท็กซึ่แบบฮอนด้า ,มีคนโพสคำถามว่าจะซื้อ C class มือสองดีไหม กลัวเจอรถที่เคยทำแท็กซี่มาก่อนฯลฯ
-
ในยุโรปก็เห็นมีรถเบนซ์ถูกเอาไปทำรถแท็กซี่เยอะมาก แต่ไม่เห็นบีเอ็มเป็นรถท็กซี่นะ คนยุโรปก็ไม่เห็นรังเกียจรถเบนซ์เลย ในประเทศไทยก็แนวๆเดียวกัน ส่วน Benz E Class ถูกทำเป็นรถแท็กซี่ของโรงแรมกับของสนามบินในประเทศไทยนานแล้วนะ ไม่มีผลอะไรเลย
-
กลัวข่าว All Thai Taxi จะทนการดูแลรักษาไม่ไหวมากกว่าสิครับ ::)
-
กลัวข่าว All Thai Taxi จะทนการดูแลรักษาไม่ไหวมากกว่าสิครับ ::)
ถ้า All Thai Taxi ทนการดูแลรักษาไหวก็จะเป็นเครื่องการันตีว่าเบนซ์ไม่ได้จุกจิกอย่างที่มีหลายๆคนกล่าวหา
-
ผมว่าบีเอ็มจะทนไม่ไหวมากกว่า ::)
ปล. เรื่องภาพลักษณ์คงไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่สำคัญที่เรื่องการออกแบบมากกว่า อย่างบีเอ็มเน้นคนขับ แต่เบนซ์เน้นผู้โดยสาร โตก็บังคับแค่ CH-R เพราะดีไซน์รถไม่เหมาะ แต่กรณีฮอนด้านี่ไม่รู้เหมือนกัน
-
เมืองนอกเห็นe classยังเป็นtaxiเลยครัช
Cมันแคบกว่าaltisอีกนะท่าน ไม่เหมาะกับการเป็นtaxiเลย
-
มีเยอะเชื่อผมสิ ระดับแมสอย่างAltisคนยังหนีค่อนข้างเยอะ
แล้วระดับพรีเมี่ยมอย่างเบ้น จะเหลืออะไร
-
เกรงว่านโยบายนี้จะอยู่ได้ไม่นานเพราะเท่าทีอ่านจากข่าวเอาตัว C350e มาทำเหอะๆ ค่าซ่อมไม่ต้องพูดแค่ช่วงล่าง Air-matic กับ ระบบ Hybrid 2อย่างนี้ดูสิถ้าใช้เกิน 3ปี ขึ้นไปจะเป็นยังไงหนอ
-
ผมว่าบีเอ็มจะทนไม่ไหวมากกว่า ::)
ปล. เรื่องภาพลักษณ์คงไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่สำคัญที่เรื่องการออกแบบมากกว่า อย่างบีเอ็มเน้นคนขับ แต่เบนซ์เน้นผู้โดยสาร โตก็บังคับแค่ CH-R เพราะดีไซน์รถไม่เหมาะ แต่กรณีฮอนด้านี่ไม่รู้เหมือนกัน
HONDA ไม่เคยห้ามเอารถมาทำแท๊กซี่ ประธาน HONDA ก็ยังเคยออกมาชี้แจงแล้วไม่รู้คนส่วนใหญ่ทำไมยังเชื่อกันผิด ๆ อีก
สหกรณ์แท๊กซี่เคยซื้อซีวิคก่อนเปลี่ยนโฉมมาทำแท๊กซี่ครั้งนึงแล้ว เพราะได้ส่วนลดมากเนื่องจากเป็นรถโล๊ะสต๊อค แต่ก็ซื้อมาแค่ล็อตเดียวไม่เอามาทำอีก ในล๊อตต่อ ๆ ไป เพราะว่าค่าซ่อมช่วงล่างแพงกว่าอัลติสมาก จุดลิ้งค์ที่ซ่อมเยอะกว่า หาอะไหล่เครื่องยนต์ได้ราคาแพงกว่าอัลติสเนื่องจากรถมันวิ่งแทบทุกวันค่าซ่อม Honda ยังไงก็สู้รถแบบอัลติสไม่ได้
-
ในยุโรป (สวิส, เยอรมัน, ออสเตรีย, เช็ค) ใช้รถ 4 รุ่นเป็นแท็กซี่มากที่สุด
ถ้าวิ่งทางไกล จะใช้ E220d มากสุด รองมาเป็น 520d กับ Skoda Superb 3 รุ่นนี้จะเจอจอดตามสนามบิน
ส่วนแท็กซี่ในเมืองจะใช้ Prius Hybrid กับ Prius+ Hybrid
ส่วนไทยนี่น่าจะเป็นหนูทดสอบเครื่อง C350e ที่เอามาทำแท็กซี่ เพราะในยุโรปยังหาไม่เจอ เหตุเพราะยังไม่ prove เรื่องความคงทนครับ ทั้งระบบ Hybrid และช่วงล่างถุงลม
ข้อดีคือ MB อาจได้ข้อมูลดีๆไปพัฒนารุ่นถัดไปให้คงทนขึ้นก็ได้นะครับ
-
อ้างอิงจาก
http://www.thansettakij.com/content/281697
เป็นแท็กซี่ VIP ราคาเริ่มต้นที่ 150 บาทนะครับ กิโลต่อไปคิดเพิ่ม 15 บาท
น่าจะเน้นตลาดกลุ่มกลาง-บน ที่อยากใช้บริการรถสาธารณะ แต่ไม่อยากนั่งรถธรรมดา
รวมถึงกลุ่มพรีเมียม และสามารถรับ-ส่งอาคันตุกะได้ เพราะเน้นตามโรงแรม สนามบิน แหล่งธุรกิจ
และรถก็ไม่ได้วิ่งเกลื่อนตามถนนเหมือนรถทั่วไป
และส่วนใหญ่ก็เรียกผ่านแอป ซึ่งก็เหมือน Uber X กับ Uber Black
เรื่องภาพลักษณ์ ทุกวันนี้จะว่าสังคมดัดจริตก็แรงไป เอาเป็นว่าชอบภาพลักษณ์ที่หรูหรา สวนทางกับเงินในกระเป๋าแล้วกัน
เช่น คนชอบไปเยอรมัน ในชีวิตอยากไปซักครั้ง แท็กซี่เบนซ์ก็วิ่งกันเกลื่อนถนน
แต่พอเมืองไทยมีข่าวจะเอาเบนซ์มาทำแท็กซี่พรีเมี่ยม กลับรับไม่ได้ บลาๆ
หรืออัลติสก็ตาม คนก็ตั้ง แง่ บอกซี้อรถรุ่นเดียวกับแท็กซี่ทำไม
ถ้ารถไม่ดีจริงก็คงไม่ทำแท็กซี่วิ่งเกลื่อนเมืองตั้งแต่ยุค KE70
เรื่องซ่อมบำรุง เค้าคงดีลกับ MB Thai แล้ว ไม่ปล่อยตามยถากรรม
หรือจะถอดเครื่องเดิม เอามาวาง 4AFE แล้วติดแก๊สละครับ ;D
-
เกรงว่านโยบายนี้จะอยู่ได้ไม่นานเพราะเท่าทีอ่านจากข่าวเอาตัว C350e มาทำเหอะๆ ค่าซ่อมไม่ต้องพูดแค่ช่วงล่าง Air-matic กับ ระบบ Hybrid 2อย่างนี้ดูสิถ้าใช้เกิน 3ปี ขึ้นไปจะเป็นยังไงหนอ
เห็นด้วยครับ ขนาดเอา Camry รุ่นปัจจุบัน มาทำยังไม่รอด เลย
-
ถ้า c class ภายในเล็กกว่า altis ผมว่า camry ยังน่าใช้บริการกว่าเลยครับ
ถ้า c class แค่ 100 คัน
ผมว่ายังไม่ทำให้รถเสียภาพลักษณ์มากครับ ต้องสัก10000 คัน + ระยะเวลาสักพัก
ให้คนชินตาก่อน แล้วบางคนถึงยี้ ครับ 8)
-
c350e ซ่อมไม่ไหวหรอก เดวก็หายไป ผมว่านะ
-
ซ่อมฟรีสามปี เขาจะต้องมาห่วงค่าซ่อมทำไมละครับ
-
ผมว่าก็คงมีคนไม่ ok แหละ แต่ส่วนตัวผมเฉยๆนะ อาจจะช่วยให้ Benz ดูแลง่ายขึ้น อะไหล่ถูกลง ก็ได้ในอนาคต
-
ถ้าแค่ 100 คันผมว่าไม่มีผลอะไรกับอิมเมจของรถ จะเหมือนเป็นการโปรโมท All Thai Taxi มากกว่าว่ามีรถพรีเมียมให้บริการ
-
ตอนนี้หลายเมืองในยุโรปใช้รถไฟฟ้านำร่องเป็นแท็กซี่ รวมถึง tesla หลายๆโมเดลด้วย
ถ้าคิดแบบนี้ไปถึงเมืองนั้นไม่อกแตกตายหรือครับ
-
ผมว่าคนมีเงินซื้อรถยุโรป เค้าก็เคยไปต่างประเทศกันแล้วแหละครับ
ถ้าได้ไปต่างประเทศมาแล้ว เห็นรถ mercedes เป็น taxi เป็น รถบรรทุก เป็นรถตู้ส่งของ เกลื่อนกลาด
ทัศนคติ ไม่น่าจะเหมือนตลาด mass แล้วแหละครับ
เมื่อก่อนผมก็เป็นนะครับ ขับรถ ตระกูล โซลูน่า โคโรลล่า คันเล็กๆ แล้วก็อยากอัพเกรดไป D-segment พวก camry , accord รู้สึกว่าตอนขับมันโก้หรูภูมิฐาน เท่กว่ารถเล็กๆเป็นไหนๆ แล้วก็ไม่ต้องโดนใครล้อว่าขับรถรุ่นเดียวกับแท็กซี่
พอถึงจุดนึง ความคิดเรามันก็เปลี่ยนไปเองครับ ขับอะไรก็ขับไปเหอะ ขอให้มีเงินใช้ก็พอ
ปล.ปัจจุบันใช้ C-class w204
-
คน มี สมอง จะรู้จัก "แยกแยะ" ครับ ไม่ "เหมารวม" และไม่ "ตัดสิน" จาก "เปลือก" วัตถุ
-
เอารถรุ่นเดียวกับที่ผมขับมาทำแท็กซี่ สำหรับผม ไม่มีผลใดๆ ผมเฉยๆนะ
เพราะรถรุ่นไหนก็ตามเอามาทำแท็กซี่ได้หมด เพียงแต่ว่าจะคุ้มกับการลงทุนมั้ย
-
win - win
MB จะยกระดับการผลิตสินะ หาคนมา stress test ให้
ดูตัวอย่างพี่โต เทสต์ทั้งไทยทั้งตะวันออกกลาง ;D ;D ;D
-
.
.
ผมชอบมากเลยครับ อยากให้เอามาทำเยอะๆ จะได้ดูแลรักษาง่ายขึ้น
-
ขอสัก 1000-2000 คันได้ไหม
อยากใช้บริการครับ
-
win - win
MB จะยกระดับการผลิตสินะ หาคนมา stress test ให้
ดูตัวอย่างพี่โต เทสต์ทั้งไทยทั้งตะวันออกกลาง ;D ;D ;D
Benz กว่าจะออกแต่ละรุ่นก็ test มาเยอะ หลายที่ทั่วโลก แต่ไม่ยอมมา test ที่ไทย
แต่หลังจากขายไทย บางปัญหาเจอที่ไทยเป็นที่แรก
-
ซ่อมฟรีสามปี เขาจะต้องมาห่วงค่าซ่อมทำไมละครับ
ค่าซ่อมคงไม่ห่วง
แต่คงห่วงว่ามีปัญหาเข้าศูนย์บ่อย
ยิ่งจอดบ่อย จอดหลายวัน
ก็ทำให้เสียโอกาสในการหาเงิน เดี๋ยวจะไม่ได้ทุนคืน
-
เข้ามาเลย ทำเลย เยอะๆเลย ให้มันใช้จนพัง จนเสีย ซ่อมกันจนเชี่ยวชาญ
อีกหน่อยอู่แท๊กซี่มันก็ซ่อมเป็น เผลอๆซ่อมได้ดีกว่าศูนย์ ช่างมีงานทำ คนเป็นเยอะค่าซ่อมก็ถูก 8)
ปล.ซ่อมได้แต่ฮาร์แวร์นะ ซอฟแวร์พังเรียกศูนย์เหมือนเดิม 8)