Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: tap-mzr ที่ พฤศจิกายน 11, 2012, 22:16:07
-
ผมกะจะหารถมาขับแต่งหล่อๆ ขับเรื่อยๆ ไม่จุกจิก ดูดีนิดนึง
มองๆ อยู่ ก็มี 300CE กับ W202 พออยู่ในงบ
แต่ W202 ดูจะสดกว่า เครื่องก็ใหม่กว่า
เลยขอถาม พี่ๆ เพื่อนๆ ชาว HLM ว่า W202 มีจุดเด่น จุดด้อย อย่างไรบ้างครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับผม
(http://www.fastestlaps.com/photos/_Mercedes_C55_AMG_W202.jpg)
-
เห็นด้วยครับ Tap
ชอบ Body นี้เหมือนกัน ผ่านไปเป็น 10 ปี ยังดูดีอยู่เลย
ส่วนจุกจิกมั้ย ไม่เคยใช้เหมือนกันครับ รอผู้ใช้มาตอบ
-
จำได้แค่ว่า C180 กับ C220 อืดต้นสุดๆครับ
-
ตัวนี้ นานๆแล้วก็ยังสวยนะคับ
ยังไงก็ Benz แหละคับ
ถ้าอายุเยอะอย่างงี้ ต้อง benz bmw ไม่น่าไหว
benz ซ่อมง่ายกว่า bmw เยอะเลยเพื่อนผมบอกมา
เพราะ เค้าใช้ bmw เก่าแล้วยกเครื่องเป้น 1jz เลย
-
ใช้ C220 มา 15 ปีแล้วครับ ช่วงล่างเรียกได้ว่านิ่มสบายมากๆ เป็นรถที่นั่งไปโรงเรียนตอนเช้าแล้วหลับสนิทสุดๆ
แต่เครื่องไม่แรงเอาซะเลย กินน้ำมันสุดๆด้วย ประมาณ 7-8 โลลิตร ปีกนกชอบเสีย โช๊ค อะไรประมาณนั้น(ส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับช่วงล่างทั้งนั้นที่มันเบาะบาง) ที่เหลือไม่จุกจิกมากครับ เป็นรถที่ซื้อสัตย์มา 350,000 กว่ากิโลเมตร(ใช้จนกว่าจะพังไปข้าง)
จนวันนึงมีความคิดจะขายคันนี้ (เต็นท์ตีราคามาให้2แสน7เอง) เพราะคุณพ่อไปเจอ Benz มือสองคันนึงที่น่าสนใจ
ปรากฏว่าวันต่อมา.... ลูกสูบไม่เดิน 1 อัน ทั้งๆที่ผ่านมาชั่วชีวิตมันไม่เคยงอแงเลย ก็สงสัยเพราะว่าเราไม่ซื่อสัตย์กับมันเอง
ก็เลยมานั่งคิดว่า ทำไมเราต้องทรยสกับมันหล่ะ รักแล้วก็อย่าทิ้งสิ สุดท้ายตัดสินใจลงเครืองใหม่ ได้มาเป็นหัวตัด C36 AMG วิ่งมา 9หมื่นกว่าโล ก็เลยจัดไปเลยครับ (เหมือนย้อนอายุเลย)
ปรากฏ ชีวิตดีขึ้นเป็นกอง 555+ ;D
รูปตอนยัดเครื่อง AMG จากหัวตัดลงไป ไว้ว่างๆเดี๋ยวจะทำ User review มาให้ชมกันครับ 0-100 แค่ 6.5 วิเอง
-
สรุปคือช่วงล่างเปราะบาง สนิมมีไม่มากเท่าไหร่ ระบบแอร์นี่ก็เป็นปัญหากันหลายคันเลย ที่เหลือก็ไม่มีอะไรครับ
แต่หลังจากเปลี่ยนเป็น C36 แล้วขับมันได้ใจเลย เติม Gasohol สบายๆเลย ต่างจาก M3 พวกนั้นเติมไม่ได้เลย
-
จำได้ว่า c220 ช่วงล่างมันสำอางค์ แล้วเครื่องก็เหมือนจะแรง ลองไปศึกษาในคลับดูครับ เทพ ๆ เยอะ
ปล. ผมยังแอบสนใจ w124 เลย อยากได้ E300 มากตอนนี้ แต่ซื้อมาแล้วเมียด่าแน่นอน ไม่มีที่จอดรถแล้ว ;D
-
ผมใช้c220อยู่ ขับดีมาก ช่วงล่างซ่อมทีนึงใช้ได้ยาว ช่างรู้จักดีซ่อมแล้วจบอะไหล่หาง่าย เครื่องแรงพอตัวที่อืดเพราะเกียร์4สปีดมากกว่า โหมดสปร์ตขับสนุกเกียร์ตอบสนองได้ดั่งใจ แต่ซื้อมือสองถ้าเจ้าของเก่าไม่ดูแลเตรียนเงินไว้ซัก50000ค่าซ่อมแล้วก็ใช้ยาว
-
รถยังใช้ดีอยู่ครับ
เครื่องตอง 1 ทนเหลือหลาย ตีนต้นไม่อืดเท่าไหร่นะครับสำหรับ C220 อยู่ที่ว่าเติมน้ำมันไหวไหม
ติดตรงปีนกคู่หน้ากับลูกหมากคันชักคันส่งเสียแล้วต้องเปลี่ยนยกชุด
ส่วนระบบแอร์ต้องอยู่ที่ร้านครับว่าเข้าใจระบบไหม มันเป็นกล่องกระเปาะลม 6 หรือ 8 กล่องไม่แน่ใจที่ชอบรั่วทำให้ระบบลมหมุนเวียนในรถลวน แต่อันนี้แก้ไม่ยากครับ
อย่างอื่นผมว่าไม่มีอะไรนะครับ ขับดี เท่ ที่สำคัญคือ.....Body หล่ออมตะ ครับ 55555555555+ :P
-
ผมชอบครับ สวยจับใจ เอามาแต่ง vip ก็สวย แต่ GT ก็เท่ ส่วนอะไหล่ก็มีขายแถวๆวัดโสมฯครับ
Win : SEGA TouringCar Championship (advertise demo) (http://www.youtube.com/watch?v=5nCR9AgPU-Y#)
คลิปประกอบเพื่อสร้างแรงจูงใน แต่ด้วยเทคโนโลยีเลยทำภาพมาห่างจากเกมตู้ประมาณฟ้ากับเหว
-
เคยใช้ตอนป้ายแดงครับรถของคุณย่า c220 elegance รวนมากถึงมากที่สุดเลยครับ คันที่บ้านใช้ แปลกใจ เพื่อนๆคุณย่าซื้อพร้อมกัน อีก 2 คัน แต่เขาไม่ยักกะรวนเลย ใช้ตลอด 6-7 ปี ตอนนั้น แอร์เสียหลายรอบเลยครับ จำได้ครั้งนึง คุณย่าไปรับที่ รร ดับ คาถนนเลย น้ำมันหมดแต่เจ็มยังขึ้นเต็มถัง ตอนนั้น กล่องสมองก็เสียด้วย หม้อน้ำรั่ว ผ้าหลังคาย้วย ซึ่งรถใช้งานน้อยมากๆครับ จอดในร่มตลอด ขายไปยังไม่กี่หมื่นโลเลย ตอนนั้น
แต่ผมว่ามาจนถึงวันนี้ บอดี้นี้ยังสวยอยู่เลยครับ ชอบๆๆ
-
ว้าวว ยังมีคนใช้ W202 เยอะอยู่เหมือนกัน ดีจังครับ ^_^
ตอนนี้ยังลังเล ใจพอสมควร
มีรถมาให้เลือก อยู่ 4 ตัวครับ
1. W124 300E ราคาประมาณ 550K << กลัวเครื่อง KE-JET มาก T_T เพราะจะไปติด LPG
2. W124 E220 CE แท้ ทำครบ ลอกสีทำใหม่ เรียบร้อย ดูรถแล้ว ใหม่เหมือน ป้ายแดง ยางใหม่ แต่ราคา 850 K << หลายคนบอกว่า คุ้ม ราคาไม่ตก หลายคนว่า แพง มีคนอย่างเดียวไม่ได้ .. ??
3. W202 C220 ตัวนอก อันนี้มีเยอะ แต่ก็ต้องใช้เวลาหา รถเดิมๆ รถราคา 400K << เงินเหลือบาน แต่งได้ซ่อมได้
4. W202 C240 ตัวนอก อันนี้เขาว่ากันว่า Fin ได้กับเครื่อง V6 ราคาประมาณ 650K << เกินงบไปหน่อย สำหรับ รถ 4 ประตู
ปล. พี่ๆ ที่ทำงาน ที่ใช้ เบนซ์ มาตลอด บอกว่า W202 ช่วงล่างเทียบ W124 ไม่ได้ มันคนละแบบกัน
ผมเลย งุนงง กับ ตัวเองครับว่าจะเอายังไงดี
ปล. งบ มีประมาณ 500K แต่ก็พอหาได้เพิ่มถึง 850K ถ้ามันคุ้มค่าการลงทุนจริงๆ
ปล 2. ไม่เคยใช้รถยุโรป ครับ ขับแต่รถญี่ปุ่นธรรมดา
รบกวนขอความคิดเห็นเพิ่มเติมด้วยครับ
-
เคยใช้ w202 c220 ปี 96 มาก่อน โดยรวมสวยดูดีครับ ทรงยังไม่ล้าสมัย ถ้าหาโฉม w202 3 รุ่นนี้ c180 c200 c220 (เครื่องเดิม)
แนะนำเล่น c220 ครับ ได้เครื่อง 2200cc อัตราเร่งไม่ขี้เหร่มาก แต่ออกตัวจะอืดๆหน่อยนะครับ แต่อย่างไงก็ดีกว่า c180 c200 แน่นอน (ภายในถ้าเป็นลายไม้ เริ่มกรอบต้องดูดีๆ)
w202 c220 โดยรวม ราคาอะหลั่ยซ่อมบำรุง+ของแต่ง ถือว่าไม่แพงมากเหมือนแต่ก่อน แต่งหล่ออยู่ครับสำหรับรุ่นนี้ ของแต่งมีทั้งของแท้ มือ2 มือ1ไต้หวัน ก็มี ^^
ทุกวันนี้ผมใช้ W204 C200 FACELIFT ยังนั่งไม่สบายเท่ากับตัว w202 เลยครับ w202 นั่งสบายกว่าพอสมควร
แต่ถ้าเรื่่องความแรงต้องยกให้ w204 1800cc ผูกโบมาจากโรงงาน ขับมันส์จริงๆ กดปู๊ดเดียว 200 และ พอถึงบ้าน เข็มน้ำมันฮวบ 55+
ดูปีใหม่ๆหน่อยนะครับ น่าจะปี 96 97 ขึ้นนะครับ รีโมทยิงบน
-
m111 ติดแก๊สสบายครับ ตั้งวาล์วเองอัตโนมัติ รอประเก็นฝาสูบผุค่อยเจียบ่าเจียวาล์วรอบเดียวใช้ไปอีกยาว
บูชปีกนกบนล่าง ประมาณหมื่นนึงใช้ได้4-5ปี แอร์สายvacuumชอบรั่ว ให้ช่างเปลี่ยนสายทั้งเส้น ใช้ยาว
-
หาเกียร์ธรรมดาจะน่าใช้สุดครับ
-
ขอแชร์ประสบการณ์จากผู้ใช้รุ่น กคร. มาทั้ง 2 ตัว (C220, E220)
C220 ใช้มาตั้งแต่ปี 1997 ครับ ฟองสบู่กำลังแตกอย่างเร้าใจพอดี (ถึงปัจจุบันขับน้อยกว่า 200,000 กิโล)
ปัญหาหลักๆที่เจอ
- สายไฟย่อยสลายตามธรรมชาติ ต้องเปลี่ยนทุก 5 ปี
- ยางรองเครื่อง 8xxx บาท เปลี่ยนทุก 5 ปี
- แอร์จุกจิกบ้าง มาเป็นพักๆ ปีที่ 3-4 จำได้ว่าค่าซ่อมเกิน 3 หมื่น
- กรองอากาศกรองแอร์อุดตันเป็นว่าเล่น
- ช่วงล่างมีปัญหาประปราย เปลี่ยนบุ๊ชปีกนกบ่อยจนจำชื่อได้
- สุดท้ายเปลี่ยนยกชุด ใช้ โช้ค Bilstein มา 3-4 ปีแล้ว โอเคแล้ว (แต่หลังจากเปลี่ยนแล้วได้ใช้น้อยมาก)
- ลูกลอยกับเกน้ำมันพัง เปลี่ยนไปอีก 8xxx บาท
- วิ่งนอกเมืองก็ยังกินน้ำมัน 8-9 โลลิตร แต่ก่อนลิตรละ 13-15 บาทก็ไม่มีปัญหาอะไร ช่วงนี้ เหอ เหอ
- ผ้าบุหลังคายวบหล่นลงมา
- มีน้ำรั่วที่หลังคาและจากท่อระบายน้ำข้างหน้าฝากระโปรงเข้ามาในตัวรถ 2-3 ครั้ง
- กุญแจรีโมทเปิดประตูไม่ได้ เลยทำให้สตาร์ทไม่ได้ โดยไม่เกี่ยวกับเรื่องแบทหมด 4-5 ครั้ง
(ซึ่งเป็นสาเหตุให้ผมปลดระวางเอาไปจอดไว้บ้านคุณพ่อ)
ถ้าไม่นับปัญหาข้างบน ส่วนตัวคิดว่าเป็นรถที่คุ้มค่าคันนึงในสมัยนั้น
ช่วงล่างนุ่ม(ไปนิด)ขับสบาย เครื่องโอเค แต่ไม่แรง
เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด โลกเก่าไปนิด วิ่ง 120 รอบเกิน 3000
ส่วน E220 ได้เป็นมรดกมาจากบ้านแฟน
ติดแก๊ซLPGมาหลายปีแล้ว ไม่มีปัญหาจุกจิกกวนใจอย่างเห็นได้ชัด
ช่วงล่างหนึบหนักแน่นกว่าอย่างรู้สึกได้ เครื่องรู้สึกว่าเร่งได้ดีกว่า
(อันนี้ไม่เข้าใจว่าทำไม เครื่องก็น่าจะเป็นตัวเดียวกัน E น่าจะหนักกว่าพอสมควร)
ภายในตกแต่งรู้สึกถึงอายุที่มากกว่า C220 อย่างเห็นได้ชัด แต่ความรู้สึกในการขับขี่ผมว่า E220 ดีกว่าเยอะ
CE รู้สึกว่า share platform กับ E น่าจะดีพอกัน ราคาก็ไม่ตก หน้าตา Classic สุดๆ (แต่ C ดูหล่อลงตัวกว่า :))
(รุ่นหลังของ CE = CLK รู้สึกจะ Share platform กับ C Class ถ้าจำไม่ผิด)
C240 ตัวนอกก็เคยได้ยินว่าเลิศกว่า C220 พอสมควร
สรุป E220 > C220 ส่วนถ้ามีงบไปถึง CE ก็น่าสน แต่ถ้าจะเลือก C ลองดู 240 เปรียบเทียบครับ
ปัจจุบัน ผมใช้ Honda City ครับ 555
-
ใช้ W202 C220 อยู่ครับ แต่รถผมวิ่งน้อยครับ ซื้อมาแรกๆไม่มีใครใช้ครับ เพิ่งวิ่งไปได้ 100,000 กมนิดๆ เองครับ
ปัญหาที่เจอมานะครับ
- แอร์ครับ ระบบรวน ฮีทเตอร์ทำงานตลอด อันนี้ซ่อมไปถูกมากครับ ให้ช่างตัดระบบฮีทเตอร์ไปครับตอนนี้ไม่มีปัญหา มีอย่างเดียวเย็นเกิน 55
- ช่วงล่างปีกนกครับเจอสภาพถนนเมืองไทยนี่อายุการใช้งานสั้นมากครับ ใกล้จะต้องเปลี่ยนอีกชุดแล้ว เห็นเม้นข้างบนๆนี่พูดทุกเม้นเลยครับ แต่การใช้งานความรู้สึกผมนะครับค่อนข้างโอเคนะครับขับสบายๆ
- ระบบน้ำมันครับ ตั้งแต่เริ่มใช้แก๊สโซฮอลก็ซ่อมระบบน้ำมันไปประมาณ 3 ครั้งแล้วครับ (ลูกลอยบ้าง ปั้มติ๊ก ชิ้นส่วนต่างๆที่ไม่ทนแก๊สโซฮอล)
- อะไหล่ที่เป็นยางรอบๆตัวรถหมดอายุไปตามกาลเวลาครับ
- ระบบที่ควบคุมด้วยลมในรถมีลมรั่วหลายที่ครับ เช่น ไฟหน้าปรับสูงต่ำ เบาะรองหัวคนนั่งด้านหลัง ฯลฯ
โดยรวมจากความรู้สึกผมนะครับ ก็ไม่ได้อืดมากนะครับ อาจจะมีช่วงต้นนิดนึง แต่ถ้าขับจนเข้าใจเกียร์ 4 จังหวะตัวนี้ก็ขับให้สนุกได้นะครับ แต่เกียร์หนึ่งมันจะดึงๆหน่อยครับ ต้องรอรอบถึงจริงๆถึงจะเปลี่ยนเป็น 2 ให้ครับ ถ้าเจอสภาพรถติดเยอะๆคลานๆไปตามถนนก็เหนื่อยหน่อยครับ จะมีออกลูกกระตุกให้เห็นอยู่บ้างจังหวะที่เร่งแล้วถอนคันเร่งกำลังจะเหยียบเบรกแล้วเกียร์ดันมาเปลี่ยนพอดี ขับต่างจังหวัดสบายครับดีกว่ารถญี่ปุ่นหลายๆคันครับแน่นอน เครื่องตัวนี้ไม่ต้องห่วงครับรอบปลายแรงดีไปได้ถึง 200 ครับ (หรืออาจจะมากกว่านะครับไม่เคยลองจนสุด) แล้วก็ไม่ค่อยจุกจิกนะครับ
-
โดยรวมแล้ว ถือเป็นรถที่ใช้งานในเมืองพอได้ (เกียร์มันแอบมีสะดุดทุกคัน ;))
แต่สบายถ้าเดินทางไกลครับ บอดี้สวย แต่งขึ้น
ถ้าจะซื้อให้เน้น สีดำ(เทาดำ)/ กับสีเทา(เงิน) ขายง่ายกว่าครับ ถ้าเกิดไม่ถูกใจจริงๆ
แนะนำ ปี 1997 ขึ้นไป แอร์แบคคู่ ครับ