Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: WiNNz ที่ มิถุนายน 06, 2016, 17:59:56
-
ตามหัวข้อกระทู้เลยครับ กำลังสนใจ V80 ไปเจอในเว็บตลาดรถ ช่วงปี 07-12 อยู่ที่ประมาณ 5ต้นถึง5ปลาย ส่วนตัวไม่ค่อยมีความรู้เรื่องรถยุโรปเท่าไหร่ครับ แต่คุณพ่อชื่นชอบกับยี่ห้อนี้มาก เลยคิดเล่นๆดูว่าหากมีกำลังพอซื้อมาให้ขับช่วงเกษียณ ค่าดูแลจะแพงมากไหมครับ ค่าซ่อมบำรุงเอย ศูนย์ซ่อมหายากมากไหมครับ :D
-
สำหรับคนที่ไ่ม่รู้เรื่องยุโรปเลย หาอะไหล่เองไม่เป็น เอะอะเข้าอู่
ผมขอแนะนำกว้างๆนะครับว่าซื้อมาทีแรกตั้งงบเก็บงาน 200,000 บาท
และเก็บเดือนละหมื่นเป็นค่าซ่อมบำรุงตามระยะทางครับ ค่าซ่อม/บำรุงรถแนวๆนี้ตกปีละแสนครับ
-
:-[ :P
ถ้ารักจะเล่น Volvo (จริงๆ) แนะนำมือ 1 สถานเดียวครับ มือ 2 ต้องรู้จักอู่เป็นอย่างดี
ว่าแต่ BMW 320d ราคาลงมาขนาดนี้ Volvo ดีเซลจะขายไหวรึ ?
-
แถวบ้านผมมีอู่นอก volvo อยู่หลายศูนย์ แต่ถ้าซ่อมเบิกอะไฟล่แท้ก็น่าจะราคาสูงอยู่ ^ ^
-
หลังปี 2012 ดีกว่านะครับ ก่อนหน้านั้นจะเสี่ยงเรื่องเครื่อง เรื่องเกียร์หน่อย
-
เท่าที่เคยเก็บข้อมูลมา
- ดีเซลจุกจิกน้อยกว่า ไม่ว่าจะเป็น D5,D4,D3 แต่ D4,D3 หลายคันกินน้ำมันเครื่องต้องขยันเติมหน่อย
- วัสดุภายในนุ่มนิ่มให้สัมผัสที่ดีแต่เสื่อมสภาพง่าย(กว่าชาวบ้าน) ต้องการการดูแลที่ดีพอสมควร
- อะไหล่โดยเฉพาะชิ้นส่วนภายในบางอันแพงชนิดพ่องตาย และโดยรวมค่อนข้างแพงกว่ารถยุโรปยี่ห้ออื่นๆ(อะไหล่ใหม่นะครับ)
-
รถยุโรปมือสอง สาเหตุที่จุกจิกส่วนใหญ่คือติดแก๊สครับ หรือเจ้าของเดิมเปลี่ยนเครื่อง/เกียร์ เซียงกงมาใหม่แล้วช่างวางไม่สมบูรณ์พอทำให้มีปัญหาแก้ไม่ตกเพราะว่าเจ้าของใหม่ก็ไม่รู้ประวัติมาก่อน
ผมเองก็เล่นยุโรปมือสอง (peugeot 406) มีหลักเกณฑ์การเลือกรถดังนี้ครับ
- ไม่ติดแก๊ส
- เครื่อง/เกียร์ เดิม (หรือถ้าเป็นเครื่อง/เกียร์มือสอง ขอให้เป็นรุ่นเดิมๆดีที่สุดครับ ห้ามแปลง)
- สตาร์ทเครื่องแล้วไม่มี Fault ผิดปกติ
- ออกตัวเรียบเนียนเปลี่ยนเกียร์ราบรื่น (ถ้าออกตัวกระตุก เกียร์ไม่เปลี่ยน รถไม่มีกำลัง แนะนำว่าอย่าซื้อครับ เพราะต้องโอเวอร์ฮอล์เกียร์อีกเกือบแสน)
สำหรับปัญหาช่วงล่างดัง ไม่สำคัญครับ รถยุโรปเหล็กหนาตัวถังหนาน้ำหนักเยอะ เจอถนนเมืองไทยพวกบุชยางขาด ฉีก ลูกหมากหลวมเป็นเรื่องปกติ บูรณะได้ครับ
ทั้งนี้ทั้งนั้นให้ไปลองขับจะดีที่สุด ถ้าพอใจค่อยหาช่างหาอู่ในคลับทีหลังได้ครับ
-
หาเป็นดีเซลได้เชียร์ครับเตรียมงบ200,000ตามที่คุณbobsan บอกจะสบายใจ
อยู่กทมไม่ต้องกลัวเรื่องซ่อม หารุ่นที่โลโก้กระจังหน้าใหญ่ครับ หมายถึงปีใหม่
เอามาใช้แล้วไม่พอใจก็ขายไปไ่ม่เจ็บเยอะ(ดีเซล)
เติมฝันให้คุณพ่อก่อน ผมว่าภายในมันสวยเรียบนั่งสบาย
ปัญหาคือจะสอยทันเหล่าแฟนพันธ์แท้วอลโว่มือ2 รึปล่าว
-
ช่วงปี 07-12 แนะนำสองตัวนี้เท่านั้น
- 2.5FT เครื่องแรงไม่จุกจิกตัวนี้กินน้ำมันมากหน่อยถ้าเท้าหนัก อัพเพิ่มแรงม้าได้
- D3 ดีเซล 163 แรงม้าแต่เสียงเครื่องดังพอสมควรเลย
-
ผมว่าน่าเล่นนะ แต่ต้องเป็นตัว FT จะเหมาะ เพราะจูนต่อได้อีก และเครื่องตัวนี้ คิดว่าทนกว่าเครื่อง Downsizing ของฟอร์ดครับ
แต่สภาพต้องดูละเอียดๆมากๆนะ เพราะผมเคยไปหารถรุ่นนี้กับเพื่อนผมนี่ละ บอกเลย สภาพดีๆมีประมาณ 1/10 ได้ (จากเต๊นท์รถที่ไปดูทั้งหมด) เพราะส่วนมากโดนน้ำท่วมมาครับ (คาดว่าเป็นช่วงน้ำท่วม กทม) และคันที่สภาพดี อาจจะวิ่งเยอะนิดนึง แต่เต๊นท์จริงใจดีมาก ไม่กรอไมล์ ดูสภาพรถกับเลขไมล์ผมว่ามันก็ตรงๆตามนั้นเลย เจ้าของดูแลดีมาก เปลี่ยนอะไหล่หลายๆจุดเกือบหมดตามระยะ และสักพักมันก็ขายไปไวพอดูเลย (นี่ถ้ามีเงินก้อน ผมอาจจะเก็บไว้เองเหมือนกัน)
-
S80 จะเป็นขับหน้า
V70 , XC90 จะได้พื้นที่การใช้งานมาก
ค่าดูแลบำรุงรักษา อะไหล่ คุ้มค่า คุ้มราคากับสิ่งที่ได้รับครับ
ซ่อม ศูนย์ หรือ อู่ วอลโว่ก็ได้ครับ
ศูนย์ , อู่ วอลโว่ ดีๆ พอมีครับ
ถ้า อู่ ก็อาจจะประหยัดค่าใช้จ่ายได้ครับ
รถป้ายแดง มือหนึ่ง มีฟรีค่าดูแลรักษา 5 ปี ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ครับ มีรับประกัน
รถ มือสอง จะได้ รถที่คุ้มค่า คุ้มราคามากครับ
ถ้าดูแลรักษาดี รถ เครื่อง เกียร์ ไม่จุกจิกครับ
กรอไมล์ เลขไมล์ สามารถดูได้จาก บุคเซอร์วิสและ เชค กับทางศูนย์ วอลโว่ได้ครับ
ขอบคุณครับ