Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: rainbow66 ที่ สิงหาคม 14, 2018, 02:34:14

หัวข้อ: เครื่อง Ecoblue 2.0 ตัวใหม่ของ ranger และ everest มี DPF มั้ยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: rainbow66 ที่ สิงหาคม 14, 2018, 02:34:14
สวัสดีครับ พี่ๆทุกท่าน
กำลังสงสัย อยู่ว่าเครื่องตัวใหม่ ของ FORD มันมี DPF มั้ยครับ
พี่ๆคนไหนซ์้อไปแล้ว หรือมีข้อมูล ช่วยบอกทีครับ

อ้างอิงจากลิงค์ข้างล่าง FORD Transit ที่ใช้เครื่องตัวเดียวกัน บอกว่าเป้นถึง EURO 6 มาพร้อมทั้ง EGR และ DPF

https://media.ford.com/content/dam/fordmedia/Europe/documents/productReleases/Transit/FordTransitEcoBlue_TechSpecs_EU.pdf (https://media.ford.com/content/dam/fordmedia/Europe/documents/productReleases/Transit/FordTransitEcoBlue_TechSpecs_EU.pdf)

ไหนๆก็ถามแล้วข้ออีกข้อล่ะกันครับ เหมือนนำ้มันเครื่องก็เปลี่ยนไปใช่ 0w-30 ใช่มั้ยครับ
มาตราฐานใหม่ เป้น WSS-M2C950-A แทนตัวเก่า ที่เป้น 5w-30 ที่เป้น WSS-M2C913-C
เหมือนจะสูงขึ้นจากตัวเดิมที่เป็น ACEA A5/B5 มาเป้น C2 มาตาราฐานดีเซลโดยตรง

ถามเซลและครับ ไม่รู้เรื่องสักคนเลย จะให้ผมจองอย่างเดียวเลย T_T
รายละเอียดตารางการซ๋อมบำรุง ของ ranger everest 2018 ตัวใหม่ก็ยังไม่ลงในเว็ป

ปล. ไม่ได้จะเอาไปอุดegr หรือตัดdpfออก แบบคนอื่นๆหรอกครับ แค่จะได้วางแผนการใช่งานและซ่อมบำรุงถูกครับ กำลังสนใจเจ้า raptor อยู่น่ะครับ อยากให้รถอยู่กับเรานานๆ (มันแพงน่ะครับ กะว่าจะเอามาใช่เป้นคันหลักแทน T6 ตัวเก่า)

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: เครื่อง Ecoblue 2.0 ตัวใหม่ของ ranger และ everest มี DPF มั้ยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Fly to dream ที่ สิงหาคม 14, 2018, 03:32:32
เท่าที่อ่านๆมาตัวไทยยังไม่มีนะครับ แต่ก็ไม่รู้จริงมั้ย

ส่วนตัวคิดว่าไม่น่ามีครับตัวไทย

คู่มือมาแล้วนะครับ

https://www.ford.co.th/owner/owner-manual/#overlay/content/ford/th/th_th/site-wide-content/overlays/form-overlay/owner-download-manual-overlay.html

นํ้ามันที่แนะนํา

WSS-M2C913-D นํ้ามันเครื่อง SAE 5W-30
WSS-M2C950-A นํ้ามันเครื่อง SAE 0W-30   

ส่วนน้ำมันเกียร์ WSS-M2C949-A
หัวข้อ: Re: เครื่อง Ecoblue 2.0 ตัวใหม่ของ ranger และ everest มี DPF มั้ยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ลุง ที่ สิงหาคม 14, 2018, 06:05:05
ในClipที่ CarAdvice ทดสอบRaptor มีการรายงานว่ารุ่นใหม่ได้ย้ายตำแหน่ง DPF เพราะที่ออสเตรเลียมีกรณีไฟไหม้ เนื่องจาก DPF อยู่ใต้ท้องรถ ตอนที่ Burnเขม่าเกิดความร้อนสูง หากรถจอดในพงหญ้าแห้งที่ติดไฟง่ายจะเกิดการลุกไหม้

ในเมืองไทยน่าจะมีทั้ง EGRและDPF จำได้ไหมครับว่าตอนที่ไทยมีการเปลี่ยนไปเก็บภาษีสรรพสามิตแปรผันตามค่าไอเสีย มีกระบะฟอร์ดเพียงเจ้าเดียวที่ปรับราคาเล็กน้อย ทั้งนี้เพราะเขาทำค่าไอเสียไม่ได้ การที่เปลี่ยนไปใช้เครื่องแค่ 2,000CC ทำให้ค่าไอเสียลดลงจนทำราคาได้ดีขึ้นเขาคงไม่ถอด DPF หรอกครับ

หัวข้อ: Re: เครื่อง Ecoblue 2.0 ตัวใหม่ของ ranger และ everest มี DPF มั้ยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: CNX ที่ สิงหาคม 14, 2018, 08:35:40
สอบถามทางProduct Special list โชวรูมFORD แห่งหนึ่ง ยืนยันว่า มีDPFครับ

น้ำมันเครื่องที่ใช้ใน0 คือ
CASTROL EDGE 5w30
และ Magnatec A5 5w30

การเช็คระยะ RANGER EVEREST 15,000km. หรือ1ปี (แล้วแต่อย่างไดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
หัวข้อ: Re: เครื่อง Ecoblue 2.0 ตัวใหม่ของ ranger และ everest มี DPF มั้ยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: DiKiBoyZ ที่ สิงหาคม 14, 2018, 09:52:00
ถ้ามี DPF แล้วแบบนี้ ต้องเติมน้ำมันดีเซลพรีเมียมด้วยป่าว กลัวน้ำดัน  ::) ::)
หัวข้อ: Re: เครื่อง Ecoblue 2.0 ตัวใหม่ของ ranger และ everest มี DPF มั้ยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: coolcarrera ที่ สิงหาคม 14, 2018, 10:14:37
dpf ทำให้ไอเสียสะอาดกว่าก็จริง แต่ไม่ได้ลด CO2
ซึ่งค่าภาษีในไทยวัดตาม CO2 งั้นมีหรือไม่มีก็ไม่มีผลกับภาษีครับ

DPF ไว้ดักเขม่าดีเซลเป็นมาตรฐานบังคับขั้นต่ำของ Euro 5 (ซึ่งก็ obsolete ไปแล้วในยุโรป)
แต่ไทยยังเป็น euro 4 คิดว่าไม่น่าใส่มาให้เปลืองต้นทุนเล่น หรือเสี่ยงมีปัญหาแบบบางรุ่นครับ

แต่ ถ้ามีก็ดีนะ
หัวข้อ: Re: เครื่อง Ecoblue 2.0 ตัวใหม่ของ ranger และ everest มี DPF มั้ยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: U9WS ที่ สิงหาคม 14, 2018, 11:08:31
2.2 และ 3.2เดิม ที่ออสมี dpf ครับ
2.0 คิดว่าในไทยน่าจะมีเฉพาะ raptor นะ
หัวข้อ: Re: เครื่อง Ecoblue 2.0 ตัวใหม่ของ ranger และ everest มี DPF มั้ยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: jaesz ที่ สิงหาคม 14, 2018, 12:28:28
อ่านมาเยอะ

งั้นผมแนะต่อให้

น้ำมันเครื่องที่ใช้กับ DPF หรือไม่ มันต่างที่อะไร?
ปริมาณต่อ ppm
ปริมาณน้ำมันเครื่องที่ถูกเผาต่อรอบการถ่าย

สรุปมันจำเป็นไหม?
หัวข้อ: Re: เครื่อง Ecoblue 2.0 ตัวใหม่ของ ranger และ everest มี DPF มั้ยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Slipknot` ที่ สิงหาคม 14, 2018, 15:42:03
ถ้ามี DPF แล้วแบบนี้ ต้องเติมน้ำมันดีเซลพรีเมียมด้วยป่าว กลัวน้ำดัน  ::) ::)

CX-5 คันที่ไม่ดัน เค้าเติมเกรดธรรมดาไม่ใช่พรีเมี่ยมครับ ตอนนี้ไมล์300K
หัวข้อ: Re: เครื่อง Ecoblue 2.0 ตัวใหม่ของ ranger และ everest มี DPF มั้ยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: rainbow66 ที่ สิงหาคม 14, 2018, 18:19:16
มาอัพเดท ข่าสารครับ
เข้าไปศูนย์ เจอช่างมาประชุมพอดี
เลยได้ถาม อาจารย์

เค้าบอกว่า มีครับ เครื่องตัวใหม่ ecoblue มี dpf ทุกคัน
ตั้งแต่ ranger everest ยัน raptor
ใช่วิถีล้างเอา ทุกๆ 15000 โล ที่เข้าเช็คะยะ ได้ครับ

แล้วเจอเจ้าของศูนย์ก้ได้มาเสริมว่า
แล้วต่อไป ประมานปี 63-65 ประเทศไทยจะออกกฏหมายใหม่ใช่ มาตราฐานนำ้มันเป้น euro 5
ฟอร์ต ก้เลย จัดมาให้เลย เพราะเครื่องนี้ คงใช่ยาวๆ
หัวข้อ: Re: เครื่อง Ecoblue 2.0 ตัวใหม่ของ ranger และ everest มี DPF มั้ยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: CNX ที่ สิงหาคม 14, 2018, 18:36:48
อ่านมาเยอะ

งั้นผมแนะต่อให้

น้ำมันเครื่องที่ใช้กับ DPF หรือไม่ มันต่างที่อะไร?
ปริมาณต่อ ppm
ปริมาณน้ำมันเครื่องที่ถูกเผาต่อรอบการถ่าย

สรุปมันจำเป็นไหม?

นั่นสิครับ คุณJae
ก่อนนี้เข้าใจว่า รถที่มีDPF ต้องใช้ นมค ให้ตรงสเปค

ทางFORD กับ นมค CASTROL EDGE ก็อยู่คู่กันมานานหลายปีแล้ว
หัวข้อ: Re: เครื่อง Ecoblue 2.0 ตัวใหม่ของ ranger และ everest มี DPF มั้ยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Fly to dream ที่ สิงหาคม 14, 2018, 18:39:40
มาอัพเดท ข่าสารครับ
เข้าไปศูนย์ เจอช่างมาประชุมพอดี
เลยได้ถาม อาจารย์

เค้าบอกว่า มีครับ เครื่องตัวใหม่ ecoblue มี dpf ทุกคัน
ตั้งแต่ ranger everest ยัน raptor
ใช่วิถีล้างเอา ทุกๆ 15000 โล ที่เข้าเช็คะยะ ได้ครับ

แล้วเจอเจ้าของศูนย์ก้ได้มาเสริมว่า
แล้วต่อไป ประมานปี 63-65 ประเทศไทยจะออกกฏหมายใหม่ใช่ มาตราฐานนำ้มันเป้น euro 5
ฟอร์ต ก้เลย จัดมาให้เลย เพราะเครื่องนี้ คงใช่ยาวๆ

ขอบคุณครับข้อมูล

ปล. ต่อไปคงจะมีทุกคันจริงๆ ผมไปอ่านข่าวไทยจะเสนอเรื่องมลพิษรถยนต์เข้าสู่ที่ประชุมอาเซียน เพราะไทยใช้น้ำมันมลพิษต่ำสุด ตอนนี้จะให้รถยนต์ที่มาวิ่งในไทยต้องเข้มงวดเรื่องมลพิษ ด่านชายแดนสนุกสนาน
หัวข้อ: Re: เครื่อง Ecoblue 2.0 ตัวใหม่ของ ranger และ everest มี DPF มั้ยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: U9WS ที่ สิงหาคม 14, 2018, 20:13:35
dpf ทำให้ไอเสียสะอาดกว่าก็จริง แต่ไม่ได้ลด CO2
ซึ่งค่าภาษีในไทยวัดตาม CO2 งั้นมีหรือไม่มีก็ไม่มีผลกับภาษีครับ

DPF ไว้ดักเขม่าดีเซลเป็นมาตรฐานบังคับขั้นต่ำของ Euro 5 (ซึ่งก็ obsolete ไปแล้วในยุโรป)
แต่ไทยยังเป็น euro 4 คิดว่าไม่น่าใส่มาให้เปลืองต้นทุนเล่น หรือเสี่ยงมีปัญหาแบบบางรุ่นครับ

แต่ ถ้ามีก็ดีนะ

เยี่ยมไปเลยครับ ถึงจะรู้ดีว่าบังคับใช้แล้วคนไทยก็คงใช้ท่อแทน dpf (เหมือนท่อแทน cat)​และอุด egr กันอยู่ดี แต่ภาครัฐก็ต้องเป็นผู้นำเพื่อคนส่วนรวม
หัวข้อ: Re: เครื่อง Ecoblue 2.0 ตัวใหม่ของ ranger และ everest มี DPF มั้ยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Sinplug ที่ สิงหาคม 14, 2018, 21:28:48
dpf ทำให้ไอเสียสะอาดกว่าก็จริง แต่ไม่ได้ลด CO2
ซึ่งค่าภาษีในไทยวัดตาม CO2 งั้นมีหรือไม่มีก็ไม่มีผลกับภาษีครับ

DPF ไว้ดักเขม่าดีเซลเป็นมาตรฐานบังคับขั้นต่ำของ Euro 5 (ซึ่งก็ obsolete ไปแล้วในยุโรป)
แต่ไทยยังเป็น euro 4 คิดว่าไม่น่าใส่มาให้เปลืองต้นทุนเล่น หรือเสี่ยงมีปัญหาแบบบางรุ่นครับ

แต่ ถ้ามีก็ดีนะ
  Mazda 2 Diesel CX-3 Diesel CX-5 Diesel = DPF = ลด CO2
หัวข้อ: Re: เครื่อง Ecoblue 2.0 ตัวใหม่ของ ranger และ everest มี DPF มั้ยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Sinplug ที่ สิงหาคม 14, 2018, 21:31:42
อ่านมาเยอะ

งั้นผมแนะต่อให้

น้ำมันเครื่องที่ใช้กับ DPF หรือไม่ มันต่างที่อะไร?
ปริมาณต่อ ppm
ปริมาณน้ำมันเครื่องที่ถูกเผาต่อรอบการถ่าย

สรุปมันจำเป็นไหม?

นั่นสิครับ คุณJae
ก่อนนี้เข้าใจว่า รถที่มีDPF ต้องใช้ นมค ให้ตรงสเปค

ทางFORD กับ นมค CASTROL EDGE ก็อยู่คู่กันมานานหลายปีแล้ว
  ใช้น้ำมันเครื่องยี่ห้อไหนก็ได้ครับ ที่ผ่านมาตฐาน ACEA C3   API SN สำหรับ DPF
หัวข้อ: Re: เครื่อง Ecoblue 2.0 ตัวใหม่ของ ranger และ everest มี DPF มั้ยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: coolcarrera ที่ สิงหาคม 14, 2018, 22:19:46
เห็นด้วยครับ เป็นเรื่องที่ดีมากถ้ารุ่นนี้มี dpf มาให้จากโรงงาน และพอถึงเวลากฎหมายบังคับ euro 5 ยังไงกระบะทุกค่ายก็ต้องติดมาล่ะครับ
ก็ต้องลองมาดูกัน รถใหม่ทุกคันติด dpf มาจะสู้สายอุดสายถอดหลังถนนไม่ได้ก็ให้มันรู้ไป
ผมเองคิดว่าถ้ามี dpf ในรถใหม่เยอะๆ อากาศจะสะอาดกว่านี้มาก

ส่วน DPF เองผมหาไม่เจอครับว่ามันช่วยลด CO2 ได้อย่างไร หากมีข้อมูลขอแชร์ด้วยครับ
เท่าที่ทราบ และจากการหาข้อมูลคือมันดักเขม่าดำแล้วเผา และปล่อยออกมาเป็น co2 ในบางส่วนด้วยซ้ำ

ส่วนอีกตัวคือ SCR หรือที่ต้องยิง adblue อันนี้ก็ลด NOx , CO และ HC ตรงๆเลย แต่ยังหาข้อมูลต่อไม่เจอครับว่ามันลด CO2 ได้อย่างไร

dpf ทำให้ไอเสียสะอาดกว่าก็จริง แต่ไม่ได้ลด CO2
ซึ่งค่าภาษีในไทยวัดตาม CO2 งั้นมีหรือไม่มีก็ไม่มีผลกับภาษีครับ

DPF ไว้ดักเขม่าดีเซลเป็นมาตรฐานบังคับขั้นต่ำของ Euro 5 (ซึ่งก็ obsolete ไปแล้วในยุโรป)
แต่ไทยยังเป็น euro 4 คิดว่าไม่น่าใส่มาให้เปลืองต้นทุนเล่น หรือเสี่ยงมีปัญหาแบบบางรุ่นครับ

แต่ ถ้ามีก็ดีนะ

เยี่ยมไปเลยครับ ถึงจะรู้ดีว่าบังคับใช้แล้วคนไทยก็คงใช้ท่อแทน dpf (เหมือนท่อแทน cat)และอุด egr กันอยู่ดี แต่ภาครัฐก็ต้องเป็นผู้นำเพื่อคนส่วนรวม
หัวข้อ: Re: เครื่อง Ecoblue 2.0 ตัวใหม่ของ ranger และ everest มี DPF มั้ยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Kioman03 ที่ สิงหาคม 15, 2018, 00:18:59
ถ้ามี DPF แล้วแบบนี้ ต้องเติมน้ำมันดีเซลพรีเมียมด้วยป่าว กลัวน้ำดัน  ::) ::)

CX-5 คันที่ไม่ดัน เค้าเติมเกรดธรรมดาไม่ใช่พรีเมี่ยมครับ ตอนนี้ไมล์300K

ปัญหาน้ำดันผมก็ไม่มั่นใจนะแต่เท่าที่ทราบมันเกิดจากการที่ DPF มัน regen ไม่สมบูรณ์ แล้วน้ำมันเชื้อเพลิงไหลเข้าอ่างน้ำมันเครื่อง ดังนั้นจะเติมพรีเมียม หรือ ธรรดาถ้าเขม่ามันเยอะ แต่ regen ได้สมบูรณ์มันก็ไม่เกิดปัญหาครับ

ว่าแต่ระบบ regen ของ Mazda มันต่างกันเจ้าอื่น ๆ ยังไงถึงมีปัญหา พวกรถยุโรปดีเซล มีปัญหาแบบนี้กันบ้างไหมหว่า...
หัวข้อ: Re: เครื่อง Ecoblue 2.0 ตัวใหม่ของ ranger และ everest มี DPF มั้ยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ลุง ที่ สิงหาคม 15, 2018, 08:34:18
DPF ไม่ได้ลด Co2 แต่การลด Co2 ทำให้ DPF ตัน งงมั๊ย คืองี้ วิธีลด Co2 เขาจะเผาอ็อกซิเจน หรือแยก อ็อกซิเจนออกมา คุณจะได้ผงคาร์บอนหรือผงถ่านที่ออกมาเป็นควันดำ DPF มันจะดักเขม่าทำให้มันตันเร็ว

ที่ว่าDPF ไม่ได้ลด Co2 แล้วใส่มาทำไม เพราะกระบวนการลด Co2มันทำให้เกิดเขม่า และการลดมลพิษไม่ได้มุ่งลด Co2อย่างเดียว

ส่วนที่ว่าการ Burn DPF ทำให้เกิด Co2 เพิ่มอันนี้เขาไม่นับ เพราะมันเป็นการ Burn หลังจากรถใช้ไปหลายหมื่น กม. เขาวัดค่า Co2ตอนรถใหม่ ไม่ใช่รถใช้แล้ว
หัวข้อ: Re: เครื่อง Ecoblue 2.0 ตัวใหม่ของ ranger และ everest มี DPF มั้ยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Stp ที่ สิงหาคม 15, 2018, 08:35:33
ควรติดตั้ง DPF มาด้วยครับ และมันไม่ได้เลวร้ายอะไรขนาดนั้น มีแค่บางยี่ห้อที่ทำให้มันเลวร้ายเองนั่นแหละ จะด้วยความงกต้นทุนหรือมักง่ายเรื่องการออกแบบอันนี้ก็จนป่านนี้ยังไม่เห็นการชี้แจงสักที

DPF ยี่ห้ออื่นเขามีปัญหากันไหม ตอบเลยว่ามี โดยเฉพาะคนที่วิ่งรถติดๆ ทุกวันแบบไม่เคยขับถนนโล่งหรืออกต่างจังหวัดทำความเร็วเลย แต่แทบทั้งหมดก็จบด้วยน้ำยาชะล้างเขม่าแล้วก็ใช้งานได้ปกติ ไม่ได้พังคาที่เหมือนยี่ห้อนั้น

ส่วน AdBlue ช่วยลดสารประกอบที่ก่อมลพิษได้อีก เพียงแต่ข้อเสียหนักๆ ของมันคือต้องจ่ายเพิ่มค่าน้ำยาเจ้านี่นั่นแหละ เฉลี่ย 10 ลิตร วิ่งได้ราว 10,000 กม. ราคาประมาณ 1,000 บาท
หัวข้อ: Re: เครื่อง Ecoblue 2.0 ตัวใหม่ของ ranger และ everest มี DPF มั้ยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: DiKiBoyZ ที่ สิงหาคม 15, 2018, 09:10:00
ถ้ามี DPF แล้วแบบนี้ ต้องเติมน้ำมันดีเซลพรีเมียมด้วยป่าว กลัวน้ำดัน  ::) ::)

CX-5 คันที่ไม่ดัน เค้าเติมเกรดธรรมดาไม่ใช่พรีเมี่ยมครับ ตอนนี้ไมล์300K

อ้อ แสดงว่า คนที่ใช้ CX-5 บอกว่า ให้เติมน้ำมันพรีเมียมซิ จะได้ไม่ดัน นี่คงมโน คิดเอง เออเอง กันไปหมด ซะครับ เพราะเห็นเข้าใจกันแบบนั้นหลายคน ขนาดใน HLM ยังมีคนคิดแบบนั้นเลย

มาอัพเดท ข่าสารครับ
เข้าไปศูนย์ เจอช่างมาประชุมพอดี
เลยได้ถาม อาจารย์

เค้าบอกว่า มีครับ เครื่องตัวใหม่ ecoblue มี dpf ทุกคัน
ตั้งแต่ ranger everest ยัน raptor
ใช่วิถีล้างเอา ทุกๆ 15000 โล ที่เข้าเช็คะยะ ได้ครับ

แล้วเจอเจ้าของศูนย์ก้ได้มาเสริมว่า
แล้วต่อไป ประมานปี 63-65 ประเทศไทยจะออกกฏหมายใหม่ใช่ มาตราฐานนำ้มันเป้น euro 5
ฟอร์ต ก้เลย จัดมาให้เลย เพราะเครื่องนี้ คงใช่ยาวๆ

แสดงว่า 2.0 ecoblue มี DPF ทุกคันซิครับ ถ้ามีคนยืนยันแบบนี้

ว่าแต่ รอบการเช็คระยะ เป็น 1 ปี หรือ 15,000 Km นี่ ไม่นานไปใช่ไหมครับ??  :o :o  ปกติเขา 6 เดือน หรือ 10,000 km ซะส่วนใหญ่
หัวข้อ: Re: เครื่อง Ecoblue 2.0 ตัวใหม่ของ ranger และ everest มี DPF มั้ยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: pladaek ที่ สิงหาคม 15, 2018, 09:59:50
แสดงว่า 2.0 ecoblue มี DPF ทุกคันซิครับ ถ้ามีคนยืนยันแบบนี้

ว่าแต่ รอบการเช็คระยะ เป็น 1 ปี หรือ 15,000 Km นี่ ไม่นานไปใช่ไหมครับ??  :o :o  ปกติเขา 6 เดือน หรือ 10,000 km ซะส่วนใหญ่
ฟอร์ดเช็คระยะที่ 15,000 กม. มาตั้งแต่เครื่อง 2.2 นั่นแหล่ะครับ
แม้แต่รถเก๋งเฟียสต้า โฟกัส ก็เช็คที่ 15,000 กม.เหมือนกัน
หัวข้อ: Re: เครื่อง Ecoblue 2.0 ตัวใหม่ของ ranger และ everest มี DPF มั้ยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: yumenowinds ที่ สิงหาคม 15, 2018, 10:24:13
EURO4 EGR
EURO5 EGR+DPF
EURO6 EGR+DPF+AD BLUE

ดีต่อโลก แต่ผู้บริโภคเสียวครับ

ปล.เครื่องหลายค่ายก็รองรับ EURO6 แต่ยังไม่อัพเกรดเต็มขั้น
อย่าง GD ของ TOYOTA ในไทยก็ทำมาแค่ EURO4 แต่รองรับได้ถึง EURO6
หัวข้อ: Re: เครื่อง Ecoblue 2.0 ตัวใหม่ของ ranger และ everest มี DPF มั้ยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Sinplug ที่ สิงหาคม 19, 2018, 15:03:57
EURO4 EGR
EURO5 EGR+DPF
EURO6 EGR+DPF+AD BLUE

ดีต่อโลก แต่ผู้บริโภคเสียวครับ

ปล.เครื่องหลายค่ายก็รองรับ EURO6 แต่ยังไม่อัพเกรดเต็มขั้น
อย่าง GD ของ TOYOTA ในไทยก็ทำมาแค่ EURO4 แต่รองรับได้ถึง EURO6
เพราะระบบเชื้อเพลิงดีเซลในเมืองไทยส่วนมากยังปนกันไปปนกันมาที่ยูโร 3-4 อยู่เลยครับไม่นับรวมดีเซลพวกเกรดพรีเมียมนะครับ ถ้าใส่มาเต็มตามที่ออกแบบไว้รับรองปัญหาเยอะแน่ครับ เสียชื่อเปล่าๆ