emp หรือElectromagnetic Pulse
เกิดจากรังสีแกมม่า หลังการเกิดปฎิกิริยาฟิสชั่นในหัวรบ
ทำให้อิเลคทรอนสั่นสะเทือนอย่างรุงแรงและแผ่วงกว้างเป็นทรงลม เหมือนคลื่นกระแทกที่เกิดแรกสุด
กลายเป็นสนามแม่เหล็กเข้มข้นในเสี้ยววินาที จนเกิดกระแสไฟฟ้าคล้ายฟ้าผ่า เข้าทำลายวงจรไฟฟ้า ชิป ecu จนเสียหาย
ถ้าempลูกเล็ก อาจแค่หยุดการทำงานในรัศมี
อัศวินรัตติกาล 3 มนุษย์ค้างคาวใช้ปืนยาวemp ยิงเพดานจนไฟดับเพื่อพรางตัว และยิงจ่อมอไซค์ให้เครื่องดับ แต่เจอตร.ยิงเข้าปืนempจนพัง เลยพรางตัวไม่ได้ ต้องไล่กวด ดักหน้าแทน
ถ้าลูกใหญ่อุปกรณ์ไฟฟ้าจะพังตรงแผงวงจร นาฬิกาควอทซ์ ออโต้ หยุดเดิน ยกเว้นติดแผ่นกันสนามแม่เหล็ก
รถที่มีกล่องecu8บิตขึ้นไปหยุดทำงานทันที แต่มีพลังงานจลน์เหลืออยู่จึงหยุดรถได้จากหม้อลมเบรกและกลไกเท้าเหยียบ
(ฟาส6
จำลองemp เป็นมุดยิงe60 รถที่ใช้จอยสติกซ์จะเลี้ยวไม่ได้เมื่อโดนemp)
เครื่องบิน เรือ เครื่องมือไฟฟ้าในโรงพยาบาล โรงไฟฟ้า ประปาจะหยุดทำงานทั้งหมด
ที่อาจรอดคือ
เครื่องยนต์ดีเซลหัวฉีดไม่มีecuคุม
เบนซิน คาร์บูเรเตอร์ กับหัวฉีด k jettronic ของบอช
วงจรไฟฟ้าแบบหลอดสูญญากาศ กับทรานซิสเตอร์ที่ไม่มีชิป
6c33 ไส้หลอดทนร้อนได้ถึง 320องศาเซลเซียส แรงดัน450v
ระบบวิทยุ ในเครื่องบินทิ้งระเบิด ขับไล่mig25 บางรุ่นของหมีขาว จะใช้หลอดสูญญากาศ 6c33c เพื่อให้สื่อสารได้ทุกสถานการณ์
ระเบิดที่ทำลายอาคารที่เห็นในข่าวยังเป็นแบบวงแคบ
ระเบิดทำลายวงกว้าง เช่น
นาปาลม์ ทิ้งลาว เขมร ญวน จนราบ เลยเก็บเข้ากรุ พร้อมฝนเหลือง
ฟอสฟอรัสขาว ไฟที่น้ำ สารเคมีดับไม่ได้ ไหม้จนถึงกระดูก
emp ลูกใหญ่รัศมีตัดไฟร้อยถึงพันกิโล
นิวเคลียร์ เขาว่าวันนี้แรงกว่าที่ยุ่นโดนสี่พันเท่า ไทยเจอสามลูก เหนือ กลาง อีสาน ราบหมด
ไฮโดรเจน แรงกว่า สะอาดกว่า ร้อนกว่า มีแต่ทดลองไม่เคยใช้งานจริง
หลังจากโดนระเบิดร้ายแรงแล้ว พื้นที่นั้นจะฟื้นตัวเร็ว จนคนเข้าไปเคลียร์ได้เร็วแค่ไหน ขึ้นอยู่กับสารตั้งต้นที่ทำระเบิด
ที่ญี่ปุ่นจะติดตั้งเครื่องวัดรังสี ทั่วประเทศเพื่อวัดค่ากัมมันตรังสี มีเวบให้ดูแบบวัดค่าฝุ่น
ถ้าเรื่องเลยเถิด สงสัยต้องหาดีแม๊กซ์รุ่นแรกไว้ใช้ vx100แพงสู้ไม่ไหว 4d56พ่วงหอยก็ซ่อมง่าย 4m40ซดไปหน่อย แต่ดีที่เติมน้ำมันฮ.ก้นถังที่เททิ้งได้
เบนซินรุ่นเก่าหาอะไหล่ยากกว่าดีเซลเยอะ