เนื้อหาในคลิปนี้รวบรวมเรียบเรียงแบบเข้าใจง่าย ผู้ฟังปะติดปะต่อเหตุการณ์คาบเกี่ยว รอยต่อ จุดเปลี่ยน การกลับมา ของรถถ่านได้ทันที
เรื่องราวเริ่มจากศตวรรษที่19 หลังจากเครื่องจักรไอน้ำเป็นที่นิยม มีเรือกลไฟ รถไฟแล้ว
แล้วมาสิ้นสุดที่สงครามโลกครั้งที่1
จนถึง ค.ศ.2000 tzero ต้นแบบรถถ่านลิเธี่ยม ที่แยกออกเป็นสองสาย โตโยต้า กับ เทสล่า
ตลอด140ปี ถ่านที่ใช้งานได้จริงกับรถแค่สามรุ่น
ตะกั่วกรด
นิกเกิล เมทัลไฮดราย
ลิเธียม
ถ่านจึงเป็นขุนเขา ที่ข้ามยากที่สุด จนรถถ่านเสื่อมความนิยม เพราะรถน้ำมันต้นทุนต่ำกว่า วิ่งไกลกว่า พัฒนาได้เร็วกว่า
แต่ถึงกระนั้น หัวรถจักรดีเซลล้วนใช้กำลังจากมอเตอร์ทั้งสิ้น เสียแต่เครื่องดีเซล มอเตอร์ไม่เสียตลอดอายุหัวจักร
จากหลักฐานทางโบราณคดีที่ค้นพบ
ถ่านที่เก่าที่สุด มีอายุกว่าสองพันปี เรียก ถ่านแบกแดด เดาว่าสร้างสมัยเมโสโปเตเมีย
https://www.trueplookpanya.com/blogdiary/4602 แต่ที่มาของการค้นพบ คลุมเครือ บ้างว่าฝรั่งขุดพบ บ้างว่า ฝรั่งเจอในห้องใต้ดินพิพิธภัณฑ์แบกแดด
ไหดินเหนียวทรงเปอร์เซีย มีท่อทองแดง แท่งเหล็กใส่พ้นปากไห อุดด้วยยางมะตอย ในไหใส่น้ำกรดอ่อน เช่น น้ำส้มสายชู เหล้าองุ่น
บ้างเดาว่า ไหที่พบทำข่วงที่เปอร์เซียยึดอิรักได้ แต่ไม่พบบันทึกใดๆที่กล่าวถึง ไหนี้
จากการทดลองจากแบบจำลอง 1ไห ปล่อยไฟ0.5-2v เมื่ออนุกรมกัน ไฟมากจะจุดหลอดledจิ๋วได้
ปัญาหาที่คบไม่แตกคือ ถ่านแบกแดดนี้สร้างมาเพื่อทำอะไร ยังพิสูจน์ไม่ได้
บ้างว่า ใช้แยกประจุบวก ลบ ชุบโลหะ แต่ไฟอ่อนไป
ให้ความสว่าง ก็ไม่พบสิ่งใดใกล้เคียงหลอดไฟเลย
มีเพียงภาพสลักนูนต่ำที่อียิปต์ ที่ดูคล้ายแต่นักโบราณคดีว่า เป็นอย่างอื่น เหมือนรูปสลักนูนต่ำรูปแรด ที่ดูคล้ายไดโนเสาร์ ที่ปราสาทตาพรหม นครวัด
เรื่องชุบโลหะในอารยธรรมโบราณ ปรากฏวัตถุพยาน คือ กระบี่สำริด ในปิงหมาหย่ง หรือสุสานฉินซีฮ่องเต้ จากการขุดพบพร้อมหุ่นทหาร รถม้าสำริดจำนวนมาก พบว่า
กระบี่สำริดที่พบ ไม่เป็นสนิม ยังคมกริบราวมีดโกน ตัดกระดาษซ้อนหลายแผ่นได้สบาย
บางเล่มถูกหุ่นดินเผาทับจนงอ เมื่อยกหุ่นดินออก ไม่กี่ชม.กระบี่สำริดที่งอมากว่าสองพันปีกลับคืนตัวยืดตรงอีกครั้ง สร้างความอัศจรรย์ให้กับจนท.ทุกคน
ฝรั่งได้ตรวจสอบเนื้อใบกระบี่ พบว่า ใบกระบี่สำริดเคลือบด้วยโครเมี่ยม จึงไม่เป็นสนิม รักษาคมกระบี่มาได้ แต่การชุบโครเมี่ยมเพิ่งรู้จักในศตวรรษที่19
ไม่สามารรถตอบได้ว่า คนจีนยุคฉิน ชุบโครเมี่ยมบนกระบี่สำริดได้อย่างไร
https://www.sanskritimagazine.com/vedic_science/electrical-batteries-in-ancient-india/?amp=1 ยังมีถ่านที่อ้างว่าเก่ากว่า ถ่านแบกแดด มีอายุกว่าห้าพันปี นั่นคือ ถ่านอินเดีย
ใช้หม้อดินเหนียว ใส่แร่ธาตุลงไปตามลำดับชั้น แต่ละที่บอกไม่ตรงกัน
จากการทดลอง ถ่านจ่ายไฟ1v เมื่ออนุกรมกัน ไฟแรงพอจุดหลอดledขนาดจิ๋วได้ พัดลมจิ๋วหมุนได้
แถบเมกาใต้ อินคา มายา มีการใช้แผ่นธาตุกับน้ำผลไม้หมัก กำเนิดไฟฟ้าในภาชนะ แต่คนโบราณทำเผื่ออะไร คนยุคนี้ยังตอบไม่ได้
เมื่อประมวลที่มาของถ่านจากหลักฐานที่มี เดาได้ว่า
ถ่านที่ใช้แผ่นธาตุมีน้ำกรด ใช้งานมานานกว่าสามพันปี คนโบราณรู้จักไฟฟ้า แต่ไม่สามารถนำมาใช้งานได้เท่าคนยุคนี้
และด้วยข้อจำกัดต่างๆ เช่น สายไฟที่น่าจะเป็นทองแดงเส้นแบน ขั้วจับ ที่ยังไม่เคยขุดพบ กำลังไฟต่ำจนใช้งานยาก
จึงหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ราวสองพันปี จนศตวรรษี่19 ที่มีถ่านตะกั่วกรด จ่ายไฟแรงพอใช้แรง อุปกรณ์ไฟฟ้าเคลื่อนที่จึงขึ้นเกิดขึ้นในเวลาต่อมาจนถึงปัจจุบัน