ผู้เขียน หัวข้อ: ขับรถมาหลายปียังขับรถไม่คล่อง ขอคำแนะนำในการเพิ่มทักษะการขับขี่ค่ะ  (อ่าน 11152 ครั้ง)

ออฟไลน์ CHANOM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,093
มีปัญหาคล้ายๆกันในบางอย่างครับ ผมใช้วิธีชอบทำมันบ่อยๆแล้วเราจะเริ่มพัฒนาขึ้นได้เองครับ

อย่างเรื่องของการกลับรถ ถ้าในกทม. ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเป็นต่างจังหวัดที่ขับกลับเร็ว ผมไม่ชอบกลับรถบนถนนแบบนั้นเลย บางทีรอนานมาก เอาที่มั่นใจแล้วค่อยไปครับ พอทำบ่อยๆก็เริ่มเกร็งน้อยลง เริ่มกล้ามาขึ้นครับ ประสบการณ์และความมั่นใจ เราต้องใช้เวลาสร้างมัน ค่อยๆเป็นค่อยๆไปก็ได้ครับ

ส่วนเรื่องเรียนเพิ่มนั้น ผมเล็งๆอยู่ว่า ปีหน้าจะไปเขา คอร์ส Skill Driving ของสื่อสากล อยู่เหมือนกันครับ หลังๆมานี้ ผมออกทริปกับเพื่อนๆบ่อย เลยอยากมีทักษะเพิ่มครับ

อีกเรื่องนึง ผมรู้สึกว่า เราสามารถรับฟังคำแนะนำ จากคนที่นั่งรถเราได้ แต่ไม่ใช่ให้คนที่นั่งรถเรามาสั่งให้เร่ง ให้เบรก ขับรถตามใจเขา อันนี้ผมไม่โอเค เพราะเคยเจอกรณีแบบนี้มาตอนไปภูทับเบิก ทั้งเร่ง เบรก ใช้เกียร์ การเลี้ยวโค้ง เราเป็นคนขับก็เครียด คนที่สั่งก็โมโหใส่เพราะไม่ได้ดั่งใจ สุดท้ายตัดสินใจไปแบบที่เรามั่นใจ ก็ดีขึ้น

เราเป็นคนขับ การตัดสินใจเป็นของเรา ขับแบบที่เรามั่นใจ ปลอดภัยและรถคันอื่นๆไม่เดือดร้อนครับ

สู้ๆนะครับ เป็นกำลังใจให้ครับ เดี๋ยวก็เก่งขึ้นครับผม

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ

ตัวเราเอง ค่อนข้างตรงข้ามกับคุณ TorTongPat เลยค่ะ อะไรที่เราไม่มั่นใจ เราก็จะเลี่ยงมันให้มากที่สุด ทุกวันนี้กลับบ้าน เรายอมใช้เวลามากขึ้น 15 นาที เพราะไม่กล้าเปลี่ยนเลนบนถนนสี่เลนไปกลับรถหน้าออฟฟิศ

เวลามีผู้โดยสารมานั่งด้วย เราเองค่อนข้างจะตามผู้โดยสารเลยค่ะ บอกให้เราเปลี่ยนเลน เราก็เปลี่ยน บอกให้เราหักพวงมาลัยยังไง เราพยายามทำตามหมดเลย

สงสัยต้องแก้ไขจากตรงนี้ด้วยอีกส่วนนึงค่ะ ^^

ขออนุญาต ประเมินเท่าที่อ่านนะครับ ผิดถูกขออภัยด้วยแล้วกันครับ ผมว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับประสบการณ์ หรือทริคในการขับรถ เพราะขับมาเป็น 10 ปีแล้ว และมีการหาข้อมูลเกี่ยวกับเทคนิคการขับรถเพื่อแก้ปัญหาของตัวเองในเบื้องต้นแล้ว ดังนั้นผมว่าปัญหาหลักน่าจะ เป็นเรื่องการตัดสินใจที่เด็ดขาด หรือขาดความมั่นใจในตัวเองครับ  เพราะการขับรถเป็นเรื่องของการตัดสินใจทั้งนั้น ไม่ว่าจะเลี้ยว จะเบรค จะตัดเลน ต้องอาศัยการตัดสินใจที่เด็ดขาดทั้งนั้น เช่นจะตัดเลนเพื่อจะเข้าทางหลัก ถ้าคุณกล้า ๆ กลัว จะไปก็ไม่ไป ก็ทำให้เพื่อร่วมทาง ตัดสินใจไม่ถูกเหมือนกันว่าคุณจะเข้า หรือไม่เข้า วิธีแก้ คือต้องหาวิธีทำให้ตัวเองมีความมั่นใจในการขับรถมากขึ้น ตัดสินใจให้เด็ดขาดมากขึ้น เป็นเรื่องทางจิตใจ ไม่เกี่ยวกับเทคนิคการขับรถ ซึ่งเรื่องนี้ผมแนะนำไม่ได้ เพราะไม่ได้มีความรู้ด้านนี้ แต่ขอให้พบทางแก้ปัญหาโดยเร็วครับ เพราะถ้าเป็นแบบที่ผมบอกโอกาศจะเกิดอุบัติเหตุมีมากกว่าคนปกติครับ ไม่ได้แช่งนะครับ แต่เป็นห่วงแทน

ขอบคุณมากค่ะ

การขับรถ เป็นเรื่องที่เรากังวลมากที่สุดในชีวิตประจำวันเลยค่ะ แค่ขึ้นไปนั่งบนรถ เราก็เริ่มกังวลแล้ว กลัวขับชนใคร หรือ ทำให้ใครเป็นอันตรายที่สุด เราเกิดอุบัติเหตุเกือบทุกปีเลยค่ะ (อุบัติเหตุเล็กๆน้อยๆ) เลยอาจจะเป็นส่วนนึงของการกังวลด้วย

แนะนำให้ไปเรียนขับรถอีกครั้งครับ
โดยให้บอกครูที่สอนว่า เรายังขับไม่เก่งเรื่องอะไร เช่น ถ้ายังเปลี่ยนเลนยังไม่เก่ง เวลาเราดูกระจกมองข้าง ครูจะคอยบอกว่าระยะนี้คือเปลี่ยนเลนได้แล้ว ระยะนี้คือใกล้เกินไปอย่าพึ่งเปลี่ยนเลน หรือ กรณีการจอดรถทั้งแบบจอดเข้าซอง จอดริมฟุตบาต ครูจะคอยบอกเทคนิคว่าจะต้องทำอย่างไร แล้วฝึกซ้ำๆ จนกระทั่งดีขึ้น  การที่มีคนแนะให้ระหว่างที่เราขับจะทำให้เราเก่งขึ้นเร็วครับเพราะจะรู้ว่าจังหวะนี้คือดีหรือยังไม่ดี
ขอให้ขับเก่งขึ้นและปลอดภัยมากขึ้นนะครับ

ขอบคุณมากสำหรับคำแนะนำนะคะ
ต้องถามว่า ที่บอกว่า ทักษะพอๆ กับวันแรกที่ขับรถ อันนี้ผมว่าไม่ใช่นะครับ ขับรถมา 10 ปี ภาวะการตัดสินใจ การตอบสนองของทั้งความคิดและร่างกาย ไม่เท่าเดิมแน่ๆ แค่อาจจะไม่มีผลประเมิน หรือ ผลลัพธ์เป็นกระดาษให้มานั่งอ่าน ซึ่งตัวคุณเอง อาจจะไม่รู้ตัวเองมากกว่า

ส่วนเรื่องบุคลิคคัวคุณเอง เป็นแบบนั้นหรือป่าวครับ เลยทำให้ดูเหมือนขับรถไม่เก่ง เช่น ขี้กลัว ไม่กล้าติดสินใจ เลยทำให้ดูเก้ๆ กังๆ

ถ้าให้แนะนำ ผมแนะนำให้ลองหาเพื่อร่วมงาน หรือ ในวงเพื่อนๆ ที่คุณคิดว่า เขาขับรถเก่งหรือขับรถเป็น ที่คุณมองว่า นี่ละที่คุณมองว่าโอเค แล้วลองขอให้เขาสอน หรือ นั่งรถไปกับเขาแล้วลองสังเกตุจังหวะต่างๆ เช่น กลับรถ ออกตัว ขับตามคันหน้า เข้าซอยแคบ ขับใช้ความเร็ว และ อื่นๆ

หรือลองไปลงคอร์ดเรียน รร.สอนขับรถ ดูก็ได้ครับ ถ้าคิดว่าข้างบนไม่พอ อาจจะช่วยให้ได้ข้อมูลเยอะขึ้น มีโค้ชมีครูช่วยแนะนำ

แนะนำที่นี่ครับ ฟรี

http://www.toyotadrivingexperiencepark.com/th/home/index.php

ต้องเป็น Toyota Racing School ครับ ที่ท่านยกมา เป็น สนามทดสอบรถ ของ Toyota เท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวกับการฝึกทักษะของคนขับแต่อย่างใด(อาจจะมีบ้าง กรณีรถเสียอาการ อาจจะได้ประสบการณ์จากต่างนั้น แต่ไม่ใช่วัตถุประสงค์หลัก)

เราติดนิสัยตามใจคนรอบข้างค่ะ เลยไม่ค่อยตัดสินใจอะไรด้วยตัวเองเท่าไหร่
ยิ่งหลังๆ ตำแหน่งงานทำให้เราต้องตัดสินใจแทนน้องๆทั้งวัน นอกเวลางานยิ่งไม่อยากคิดอะไรเข้าไปใหญ่ค่ะ

จะลองนำคำแนะนำไปปรับใช้ดูนะคะ ขอบคุณมากค่ะ ^^

ก็เข้าใจครับ ผมว่าหลายๆ ท่านในนี้ ก็มีหัวหน้าคน เจ้านายคน เป็นลูกน้อง หรือ ต้องตัดสินใจในหลายๆ เรื่องเช่นกัน

แต่การขับรถ มันไม่ใช่ว่า ไม่อยากคิด ไม่อยากตัดสินใจ หรือ อะไรนะครับ เพราะยังไง๊ ยังไง ก็ต้องคิดและตัดสินใจอยู่ดี มันเลี่ยงไม่ได้แน่นอน เพราะมันเป็นเรื่องที่จะขี้เกียจหรือวัดดวงไม่ได้ เพราะมันอันตรายกับตัวเองและคนใช้ถนนคนอื่นด้วย มันเป็นความรับผิดชอบโดยตรงว่า คนขับ ต้องมีสติสัมปชัญญะอยู่เสมอ และพร้อมจะตัดสินใจในเสี่ยววินาทีเมื่อยู่หลังพวงมาลัยตลอดเวลาอะครับ

นอกซะจากว่า ถ้าขนาดไม่อยากตัดสินใจอะไรๆ ในเวลาขับรถ ก็หาคนขับรถดีกว่าครับ มันน่าจะดีกับคุณ และ เพื่อนร่วมทางมากกว่าครับ

ด้วยความหวังดี

เราอาจจะสื่อสารผิดไปนิดนึงค่ะ โดยพื้นฐานแล้ว เราเป็นคนไม่กล้าตัดสินใจ อย่างเวลางานนี้ หน้าที่การงานมันบังคับว่าเราต้องตัดสินใจแทนน้องๆ แต่พอเลิกงานแล้ว เราก็กลับมาเป็นคนไม่กล้าตัดสินใจน่ะค่ะ

เรื่องคนขับรถ ค่อนข้างยากค่ะ ที่บ้านต้องการให้เราพึ่งพาตัวเองได้ เพราะฉะนั้นเราจึงอยากที่จะพัฒนาตัวเองไปให้มากกว่านี้

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ ^

สติสำคัญสุด 

ขับมากี่โลแล้วครับ  คนทั่วไปขับราวๆ100,000 โลก็จะมีประสพการณ์มามากหลากหลายอุบัติการพอที่จะขับให้เซฟได้แล้ว แต่ถ้าขับมาเกิน100,000โล แล้วยังไม่ดีขึ้นเลย

ให้แฟนขับให้ดีกว่าครับ

ในช่วง 10 ปีมานี้ น่าจะขับรถไปประมาณ 6x,xxx กิโลเมตรได้ค่ะ
ช่วงที่อยู่ต่างประเทศ เราขับรถเฉลี่ยวันละ 3-5 กิโลเมตร ถ้าไกลเกิน 50 กิโลเมตร ก็ให้แฟนขับ
มีกลับมาเมืองไทยนี้แหละค่ะ ที่ต้องเริ่มขับรถจริงจังมากขึ้น

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ ^^
In My Garage
2007 MB A180 CDI W169
2007 MB C220 CDI W203
2021 Mazda CX3 Comfort
2023 Honda Civic E-Hev RS

Sold
2016 Mazda 2 Skyactiv-D High Connect
2019 Honda HRV EL
2021 Subaru Forester IS-Eyesight

ออฟไลน์ babyantz

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 8
เข้าใจครับ ในชีวิตคนมันจะต้องมีอะไรบางอย่างที่เราทำไม่ได้หรือทำยังไงมันก็ไม่ได้ดีเสมอ ไม่ว่าจะหัดจะฝึกยังไงก็ตาม อย่างผมเรียนว่ายน้ำตั้งแต่เด็ก แต่ปัจจุบันก็ยังว่ายน้ำไม่ได้ หัดยังไงมันก็พัฒนาไม่ได้ครับ

สำหรับการจอด ลองหากล้อง 360 องศา มาติด เคยมีเพื่อนผู้หญิงที่มีปัญหาแบบเดียวกัน คือไม่สามารถจินตนาการ การหักพวงมาลัยให้เข้ากับมุมจอดได้ พอติดกล้อง มันจะมี เส้น guideline เห็นรถรอบคัน ตอนนี้จอดได้ไม่มีปัญหา

ส่วนเรื่องอื่นมันแนะนำไม่ได้จริง ๆ ครับ ลองประเมินดูว่า การขับรถมีอุบัติเหตุบ่อยครั้งแค่ไหน ถ้าบ่อยจนรับไม่ไหว ก็ใช้บริการขนส่งด้านอื่นครับ