Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: shipcake ที่ มิถุนายน 08, 2016, 19:34:01
-
อันนี้คือสงสัย ทำไมต้องเยอรมัน
-
VW ก็ไม่ใช่
MB ก็ปกติ ไม่ได้เยอะขนาดนั้น
BMW ก็ปกติเช่นกัน
Audi ก็น้อยนิด
ที่เหลือผมไม่ทราบแล้วว่ามีแบรนด์ไหนอีก
หมายถึงยี่ห้อไหนหรอครับ ที่ฮิตๆ
-
คือไม่ได้เยอะหรอกครับ แต่สัดส่วนคนรู้จักรุ่นมากๆอย่าง bmw benz ล้วนเป็นของเยอรมันทั้งนั้น แล้วก็เปอร์เช่คนก็รู้จักกัน ตรงนี้อยากทราบประวัติเฉยๆครับว่าทำไมถึงดังในไทย
-
คือไม่ได้เยอะหรอกครับ แต่สัดส่วนคนรู้จักรุ่นมากๆอย่าง bmw benz ล้วนเป็นของเยอรมันทั้งนั้น แล้วก็เปอร์เช่คนก็รู้จักกัน ตรงนี้อยากทราบประวัติเฉยๆครับว่าทำไมถึงดังในไทย
ผมว่า 2 แบรนด์นี้มันดังทั้งโลกนะครับ ดังในไทยเลยไม่แปลก
-
รถเยอรมันดังในไทยเฉพาะ premium จริงๆก็มีแค่ Benz กับ BMW
Audi ก็เยอรมันแถมคุณสมบัติไม่แพ้ Benz, BMW แต่บริษัทแม่ไม่เข้ามาลุยเอง
ส่วน Lexus ตั้งราคาเวอร์เกินเหตุ เลยเป็นที่นิยมยาก ตีเยอรมันในไทยไม่ได้เลย
แต่ที่ฮ่องกง Lexus ความนิยมๆ ไม่แพ้ Benz
-
อันนี้คือสงสัย ทำไมต้องเยอรมัน
รถเยอรมันโดยเฉพาะเบนซ์ แข็งแรงทนมากมาก แถวยุโรปใช้เบนซ์ทำรถแท็กซี่เลยนะ แล้วลองดูข่าวอุบัติเหตุแรงสิ ถ้ามีรถเก๋งสองคันชนกันมีผู้เสียชีวิต คนที่อยู่ในรถเบนซ์มักจะรอด
-
http://www.komchadluek.net/news/detail/227499 (http://www.komchadluek.net/news/detail/227499)
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9590000031432 (http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9590000031432)
http://morning-news.bectero.com/share-of-the-day/19-Mar-2016/75762 (http://morning-news.bectero.com/share-of-the-day/19-Mar-2016/75762)
https://www.youtube.com/watch?v=zuqe_ad0_X4 (https://www.youtube.com/watch?v=zuqe_ad0_X4)
-
8) :o
ขอตอบคำถามปลายเปิดนี้ กวนๆรับบรรยากาศ "นาตารี" โดนบุกนะครับ (...น่าเสียดาย...)
ตอบแบบโลกสวย --- >> เพราะว่าเยอรมันเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีเครื่องจักรกลมานาน ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 มีเศรษฐกิจที่แข็งแรง ศักยภาพของประชากรมนุษย์สูงมาก คู่สงครามและคู่แข่งผลิตรถยนต์
คือ USA ยังซูฮกเลย ฯลฯ
ตอบแบบโลกไม่สวย --- >> เพราะว่ารถของคู่แข่ง ปท อื่น (ยุโรป) ศูนย์บริการไม่ได้เรื่อง อะไหล่หายาก+แพง ลอยแพลูกค้าเฉยๆ (ถ้าตัดใจซื้อรถค่ายมิวนิคกับสตุตการ์ด มั่นใจได้ระดับนึง ว่าซ่อมได้ชัวร์ๆ)
-
เยอรมันผลิตรถเยอะไงครับ แล้วบริษัทค่อนข้างมั่นคง ว้ใจได้ เบนซ์ บีเอ็มแต่ก่อน30ปีที่แล้วปัจจุบันยังวิ่งกันอยู่เลย ยี่ห้ออื่นพัง เจ้าของหาอะไหล่ไม่ได้ขายเป็นซากทิ้งไปแล้วทั้งนั้น แล้วรถเยอรมันหลายๆยี่ห้อมีอะไหล่ขายตลอดรถก็วิ่งได้คนก็นิยมใช้กัน
-
ยุคปี90มั้ง ยุคนั้นบูมจริงๆ ระดับพรีเมียม
เบนซ์ บีเอ็ม ออดี และมีทางฝั่งวอลโว มาด้วย
เขารถออกมาเรื่อยๆ วอลโวจะน้อยลงในยุคหลังๆ
ขึ้นกับงานดีไซน์ด้วยหละ
ส่วนความทน อะไรนั้นก็ไม่ต่างกันหลอก อยู่ที่ความรัก จะซ่อมเก็บรักษาไว้ ก็ไม่แปลก ที่ยังเห็นวิ่งหรือวะสมกันอยู่
-
สินค้าคุณภาพดี สมรรถนะคุ้มค่าบริการดี
ทำตลาดก่อน
-
คุณภาพที่มีมาช้านาน มันสร้างความมั่นใจให้แก่คนซื้อ
-
ยุคปี90มั้ง ยุคนั้นบูมจริงๆ ระดับพรีเมียม
เบนซ์ บีเอ็ม ออดี และมีทางฝั่งวอลโว มาด้วย
เขารถออกมาเรื่อยๆ วอลโวจะน้อยลงในยุคหลังๆ
ขึ้นกับงานดีไซน์ด้วยหละ
ส่วนความทน อะไรนั้นก็ไม่ต่างกันหลอก อยู่ที่ความรัก จะซ่อมเก็บรักษาไว้ ก็ไม่แปลก ที่ยังเห็นวิ่งหรือวะสมกันอยู่
ผมจำได้ยุค90นั้น Volvo 740บูมมาก คนไทยนิยมกันอยู่พักนึง จนมีข่าวหนาหูว่าVolvoเกิดอุบัติเหตุเจ้าของตายบ้างพิการบ้าง
ไม่เหมือนกับที่โฆษณาเอาไว้ว่าปลอดภัยที่สุด บวกกับยุคนั้น Benz w123กำลังมาแรง ชื่อเสียงvolvoเลยกู่ไม่กลับตั้งแต่นั้น
Benz เป็นรถยี่ห้อแรกของโลก คุณงามความดีของมันถูกบอกต่อๆกันมาในแต่ละยุคสมัย ถึงปัจจุบัน ทุกวันนี้มนต์ก็ยังไม่เสื่อมคลาย
BMW Audi ก็มีประวัติที่ดีไม่แพ้กัน ทั้งBenz Bmw Audi Porscheอดีตต่างก็บุกเบิกวงการมอเตอร์สปอร์ต และรถแรงๆที่ชาวบ้านก็สามารถเข้าถึงได้ รู้จักกันไปทั่วโลก
-
ผมว่าเขามาเริ่มขายความเป็น Premium มานาน และราคาก็เริ่มสมเหตุสมผลขึ้นเรื่อยๆ
รถก็ดี ศูนย์บริการก็ทำได้ดี และเริ่มบุกตลาด mass มากขึ้น
ผมคิดว่าก็เลยเป็นที่นิยมครับ 8) 8)
-
เยอรมันเป็นประเทศอุตสาหกรรมยานยนต์ ไม่แปลกถ้ารถจะดี เพราะ 75% ของเศรษฐกิจทั้งหมดคือยานยนต์
คนเยอรมันเองก็ขยาด VW เองเหมือน defect ก็มีให้เห็นบ้านเขา วิ่ง 17k ก็เสีย อะไรแบบนี้ มันไม่ใช่รถที่สมบูรณ์แบบ แต่มันตอบความต้องการคนเยอรมัน
รีวิวรถเยอรมันเอง ก็ชม ญี่ปุ่นว่าทำเครื่องได้ทนทาน แต่ตลาดที่ยุโรป ความทนทานไม่ได้ตอบโจทย์
เพราะรถ BMW/Daimler/VW ราคาถูกที่ชนชั้นกลางขับกันเป็นเรื่องปกติ
(ราคาที่เยอรมันก็ถูกเหมือนๆในจีน bmw X6 3ล้านกว่าๆ อะไรแบบนี้)
-
เยอรมันผลิตรถเยอะไงครับ แล้วบริษัทค่อนข้างมั่นคง ว้ใจได้ เบนซ์ บีเอ็มแต่ก่อน30ปีที่แล้วปัจจุบันยังวิ่งกันอยู่เลย ยี่ห้ออื่นพัง เจ้าของหาอะไหล่ไม่ได้ขายเป็นซากทิ้งไปแล้วทั้งนั้น แล้วรถเยอรมันหลายๆยี่ห้อมีอะไหล่ขายตลอดรถก็วิ่งได้คนก็นิยมใช้กัน
ระบบ อะไหล่ เยอรมัน สุดยอดจริงๆครับ
-
มาดูที่สาเหตุจากจุดเริ่มต้นก่อนครับ
คนเยอรมันเชื่อว่าการขับรถเร็วที่มีวินัยเป็นตัวกำกับ ทำให้อุบัติเหตุลดลง แถมประหยัดเวลา ก็เลยเกิดระบบถนน Autobahn ขึ้น ที่อนุโลมรถให้วิ่งนอกเขต Limit ได้ระดับ 180-250 กม./ชม. มานานแล้ว แถมเยอรมันตอนใต้ที่เป็นเทือกเขา Alps ก็มีถนนเชื่อมกันที่คดเคี้ยวมากมายยิ่งกว่าแม่ฮ่องสอนเรา
ผลก็เลยทำให้รถที่ออกแบบวิศวกรรมเยอรมันต้องตอบโจทย์ข้างต้น คือวิ่งเร็วได้โดยยังต้องมีเสถียรภาพดี ช่วงล่างต้องดีมาก เพื่อรองรับความเร็วสูงบน Autobahn ได้ ส่วนเวลาขับในภาคใต้ หรือเข้าออสเตรีย สวิส อิตาลี ก็ยังควบคุมง่ายบนภูเขาสูง หลักอากาศพลศาสตร์ถูกต้อง เครื่องยนต์มีสมรรถนะสูง และต้องมีโครงสร้างที่แข็งแรงเพื่อรองรับอุบัติเหตุที่ความเร็วสูง
ที่ว่ามา ทำให้ผู้ผลิตรถเยอรมันต้องมี pressure กับปัจจัยมากมาย ก็เลยได้รถที่มีคุณภาพสูงกว่าชาติอื่นๆ
ส่วนข้อผิดพลาดเช่นโกง emission ก็เกิดจาก pressure ที่ว่า เพราะการต้องทำรถดีไปซะทุกด้านมันไม่ได้ง่าย หลังๆก็เริ่มอาศัยทางลัดกัน
ส่วนการที่รถเยอรมันจุกจิกกว่ารถญี่ปุ่นนั้นก็ไม่มีอะไรในกอไผ่ เทคโนโลยีทันสมัยกว่า ริเริ่มอะไรใหม่ๆก่อน ก็มีสิทธิเจ๊งก่อน
หัวฉีด L-Jet เป็นตัวอย่างง่ายๆ ตอน BMW ใช้ คนไทยก็ด่ายับว่าจุกจิก เพราะดันเริ่มก่อน พอผ่านไป 5 ปี ญี่ปุ่นก็ตามศึกษา แก้ไขจุดอ่อน เอามาใช้บ้าง ก็ทนดี
-
940 มีช่วงนึงยอดขายแซง 525 ได้
-
มานั่งคิดๆแล้วก็ตลกดี 2ประเทศที่พ่ายในสงครามโลกครั้งที่สองคือเยอรมันและญี่ปุ่น จนมาถึงวันนี้ที่2ประเทศที่ว่ากลับเป็นมหาอำนาจโลกยานยนต์ซะแล้ว
-
ภาพลักษณ์ ครับ แค่ดูดีกว่า หรูกว่า การขับขี่ เทคโนโลยีต่างๆ ดีกว่ามากครับ (แต่ความคงทนไม่ทราบแน่ชัดจนกว่าจะเจอกับตัว)
เปรียบเทียบกับค่ายอื่นๆแล้ว หาคู่แข่งได้ยากครับ
-
ชื่อเสียง คุณภาพ ความเชื่อถือ ไม่ได้สร้างมาด้วยการโฆษณาน่ะครับ สะสมกันมาหลายๆสิบปีน่ะครับ กับคุณภาพที่ได้ สรุปมันดีกว่าทุกอย่างจริงๆ
-
ยุคปี90มั้ง ยุคนั้นบูมจริงๆ ระดับพรีเมียม
เบนซ์ บีเอ็ม ออดี และมีทางฝั่งวอลโว มาด้วย
เขารถออกมาเรื่อยๆ วอลโวจะน้อยลงในยุคหลังๆ
ขึ้นกับงานดีไซน์ด้วยหละ
ส่วนความทน อะไรนั้นก็ไม่ต่างกันหลอก อยู่ที่ความรัก จะซ่อมเก็บรักษาไว้ ก็ไม่แปลก ที่ยังเห็นวิ่งหรือวะสมกันอยู่
เรื่องความทนนี่ ต่างกันพอสมควรนะครับ Peugeotนี่เป็นตัวอย่างเรื่องความทนทานเลย รถดีมากแต่ไม่ทน คนใช้บ่นกันทุกคนเครื่องวิ่ง100,000โลต้องโอเวอฮอลแล้ว อย่างเก่งไม่เกิน2แสน ปัจจุบันกลายเป็นรถหายากบนท้องถนนซะแล้ว
-
8) :o
ขอตอบคำถามปลายเปิดนี้ กวนๆรับบรรยากาศ "นาตารี" โดนบุกนะครับ (...น่าเสียดาย...)
ตอบแบบโลกสวย --- >> เพราะว่าเยอรมันเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีเครื่องจักรกลมานาน ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 มีเศรษฐกิจที่แข็งแรง ศักยภาพของประชากรมนุษย์สูงมาก คู่สงครามและคู่แข่งผลิตรถยนต์
คือ USA ยังซูฮกเลย ฯลฯ
ตอบแบบโลกไม่สวย --- >> เพราะว่ารถของคู่แข่ง ปท อื่น (ยุโรป) ศูนย์บริการไม่ได้เรื่อง อะไหล่หายาก+แพง ลอยแพลูกค้าเฉยๆ (ถ้าตัดใจซื้อรถค่ายมิวนิคกับสตุตการ์ด มั่นใจได้ระดับนึง ว่าซ่อมได้ชัวร์ๆ)
ตามนั้นครับ ตอบแบบโลกไม่สวย 55 เพราะค่ายอื่นบริหารงานโดย Yont.......มีชื่อเสีย(ง)มานานแสนนาน เลยทำให้สู้ไม่ได้ครับ 555
-
ยุคปี90มั้ง ยุคนั้นบูมจริงๆ ระดับพรีเมียม
เบนซ์ บีเอ็ม ออดี และมีทางฝั่งวอลโว มาด้วย
เขารถออกมาเรื่อยๆ วอลโวจะน้อยลงในยุคหลังๆ
ขึ้นกับงานดีไซน์ด้วยหละ
ส่วนความทน อะไรนั้นก็ไม่ต่างกันหลอก อยู่ที่ความรัก จะซ่อมเก็บรักษาไว้ ก็ไม่แปลก ที่ยังเห็นวิ่งหรือวะสมกันอยู่
เรื่องความทนนี่ ต่างกันพอสมควรนะครับ Peugeotนี่เป็นตัวอย่างเรื่องความทนทานเลย รถดีมากแต่ไม่ทน คนใช้บ่นกันทุกคนเครื่องวิ่ง100,000โลต้องโอเวอฮอลแล้ว อย่างเก่งไม่เกิน2แสน ปัจจุบันกลายเป็นรถหายากบนท้องถนนซะแล้ว
ตามนั้นครับ รถผมสามแสนกิโลแล้ว เครื่องยังเดิมๆอยู่เลย ไปที่อู่เบนซ์ เขาบอกว่าเบนซ์ไม่มีคำว่าโทรมถ้าบำรุงรักษาดี รถที่มาเข้าอู่เขาบางคันวิ่งมาเจ็ดแสน แปดแสนกิโลก็มี เมื่อก่อนผมใช้มิตซูบิชิ พอครบห้าปี ขับยังไม่ถึงแสนกิโล อะไหล่ก็ทยอยเสียแล้ว นู่นเสีย นี่เสีย สีก็เริ่มแตกลายงา สีรถเบนซ์สิบกว่าปีแล้วยังดีอยู่เลย
-
มานั่งคิดๆแล้วก็ตลกดี 2ประเทศที่พ่ายในสงครามโลกครั้งที่สองคือเยอรมันและญี่ปุ่น จนมาถึงวันนี้ที่2ประเทศที่ว่ากลับเป็นมหาอำนาจโลกยานยนต์ซะแล้ว
ประเทศญี่ปุ่นและเยอรมันมีความเป็นชาตนิยมกว่าเรา
-
มานั่งคิดๆแล้วก็ตลกดี 2ประเทศที่พ่ายในสงครามโลกครั้งที่สองคือเยอรมันและญี่ปุ่น จนมาถึงวันนี้ที่2ประเทศที่ว่ากลับเป็นมหาอำนาจโลกยานยนต์ซะแล้ว
ด้วยความคิด ความเป็นระเบียบและการพัฒนาหลายๆอย่างเค้าถึงกล้าเคยคิดจะยึดโลกไงครับ
-
มานั่งคิดๆแล้วก็ตลกดี 2ประเทศที่พ่ายในสงครามโลกครั้งที่สองคือเยอรมันและญี่ปุ่น จนมาถึงวันนี้ที่2ประเทศที่ว่ากลับเป็นมหาอำนาจโลกยานยนต์ซะแล้ว
ประเทศญี่ปุ่นและเยอรมันมีความเป็นชาตนิยมกว่าเรา
ผมว่าเค้านำหน้า ตั้งแต่กล้า ประกาศ สงครามแล้วนี่ครับ
-
ไม่ได้นิยมทุกยี่ห้อที่เป็นเยอรมันนะครับ แต่เนื่องจากคนไทยนิยมรถนำเข้า ก็เลยซื้อใช้กัน เพราะสมัยนั้นภาษีนำเข้าถูก
รถอย่างเบนซ์ บีเอ็ม (สมัยก่อนที่ยังไม่มีระบบไฟฟ้าจุกจิก) ถ้าใช้แบบปกติชน เซอร์วิสตามระยะ และไม่ขี้เหนียวในการซ่อมบำรุง
มันทนโคตรๆเลยครับ ผมใช้ W124 กับ E30 อายุรถประมาณ20ปี เครื่องเดิมยังฟิตเปี๊ยะอยู่เลย
แต่ถ้าเป็น Opel หรือ Volkswagen สมัยก่อน เรื่องความทนทาน มันสู้ 2 ยี่ห้อข้างบนไม่ได้ โดยเฉพาะ Opel เพื่่อนผมใช้ Astra เจอปัญหาความร้อนไม่จบสิ้น ก็เลยไม่ได้นิยมเท่าเบนซื บีเอ็ม ครับ
-
มานั่งคิดๆแล้วก็ตลกดี 2ประเทศที่พ่ายในสงครามโลกครั้งที่สองคือเยอรมันและญี่ปุ่น จนมาถึงวันนี้ที่2ประเทศที่ว่ากลับเป็นมหาอำนาจโลกยานยนต์ซะแล้ว
ประเทศญี่ปุ่นและเยอรมันมีความเป็นชาตนิยมกว่าเรา
ผมว่าเค้านำหน้า ตั้งแต่กล้า ประกาศ สงครามแล้วนี่ครับ
ถ้าในสงคราม สองประเทศนี้เทคโนโลยีไปไกลกว่าพวกอเมริกันมาก แต่ที่มีปัญหาคือ ขาดทรัพยากร แบบที่อเมริกันมี (ยกเว้นญี่ปุ่นช่วงหลังๆ ที่ไม่ค่อยพัฒนาเทคโนโลยีเท่าไหร่ ไม่เหมือนเยอรมันที่พัฒนาเทคโนโลยีเค้าตลอดๆ)
ที่เยอรมันอยากจะยึดรัสเซียเพราะต้องการน้ำมันไปทำสงคราม ส่วนญี่ปุ่นที่มียึดไทย กับประเทศอื่นๆในอาเซียนคือ นำทรัพยากรในไทยไปใช้ทำสงคราม โดยใช้รถไฟเป็นทางขนส่ง พอเยอรมันยึดรัสเซียไม่ได้ และ ญี่ปุ่นโดนอเมริกันยึดประเทศในภูมิภาคแถบอาเซียนคืน ประเทศเหล่านี้พอหมดทรัพยากร ก็หมดเขี้ยวเล็บ สุดท้ายก็แพ้ครับ (ถ้าเยอรมันยึดรัสเซียสำเร็จ ผลลัพท์อาจจะออกมาอีกแบบ เพราะทรัพยากรสามารถแจกไปทั้งเยอรมัน และญี่ปุ่นด้วย)
จริงๆ ตอนจบสงครามโลก เยอรมันมีเครื่องบินไอพ่นสเตลท์ที่สามารถหลบเรดาร์อังกฤษ แบบใกล้เสร็จไว้ใช้แล้วนะครับ (Horten HO 229) พอจบสงคราม อเมิรกันก็ยึดเอา Knowhow พวกนี้ไปทำเครื่องบินตัวเองหมด
(http://www.airwar.ru/image/idop/fww2/go229/go229-12.jpg)
ส่วนเรื่องเสียจุกจิกนี่ปกติของเยอรมันเค้าครับ รถถังไทเกอร์ที่ว่าคุณสมบัติเทพๆ เกาะหนา ยิงแรง ยิงไกล พอใช้งานเข้าจริง มีปัญหาจุกจิกเสียเล็กเสียน้อยได้ตลอดเวลา ไม่ต่างกับ BMW Benz ยุคนี้เลยครับ ส่วนมากจะมากับเทคโนโลยีล้ำๆ แต่ยังมีจุดอ่อน จุดบอด ในการออกแบบ (เพราะรีบเข็นเทคโนโลยีนั้นมาใช้ไวๆ โดยไม่ได้ทดสอบทดลองกันมากๆก่อน)
เยอรมันเป็นประเภท คิดอะไรได้ รีบทำ รีบใช้ เจอปัญหาอะไรค่อยไปแก้กันทีหลัง ::)
ส่วนญี่ปุ่น รอดูไอ้พวกข้างบนมีปัญหา ว่าเสียขนาดไหน ยังไง แล้วค่อยมาปรับปรุงของตัวเองให้ทน แล้วขาย (มันเลยไม่จุกจิก แต่ก็จะช้ากว่าเขาก้าวนึง)
ส่วนทาง Porsche ผมว่าน่าสนใจ เพราะเค้ามีกำหนดการชัดเจน รวมถึงการทดสอบความทนทานในระดับพอสมควร (คือ FIX เลขเลย ว่าเปิดตัวรุ่นใหม่ปุ้ป รุ่นหน้าก็เริ่มทำต่อเลย พัฒนารถรุ่นนึงกันราวๆ 7 ปี ทดสอบความทนทานก็หลายปีอยู่) รวมถึงเก็บอะไหล่ ผลิตอะไหล่ขายกันยาวๆมากๆสะใจไปเลยครับ
https://www.youtube.com/watch?v=C4aD0IkVF6g
จริงๆก็ไม่เฉพาะเรื่องรถน่ะ เรื่องกล้องก็เหมือนกัน ทางเยอรมันมี Carl Zeiss Leica Voigtlander ส่วนญี่ปุ่นก็ Canon Nikon Minolta(โซนี่ไปเทคโอเวอร์มา) เลนส์เยอรมันนี่คุณภาพสูงปรี้ดๆเลย อย่างผมนี่ก็ชอบ Carl Zeiss สุดๆ
ตอนนี้เลนส์ใช้บ่อยสุดก็ Zeiss นี่ละครับ
-
มานั่งคิดๆแล้วก็ตลกดี 2ประเทศที่พ่ายในสงครามโลกครั้งที่สองคือเยอรมันและญี่ปุ่น จนมาถึงวันนี้ที่2ประเทศที่ว่ากลับเป็นมหาอำนาจโลกยานยนต์ซะแล้ว
เค้าโดนข้อบังคับมากๆไงครับ งบทางทหานตัดทิ้งไปเลย เพราะประเทศโดนควบคุมเรื่องนี้ไป ปกติงบทางทหารประเทศนึงเกือบครึ่งๆเลยมั้ง แล้วโดนเอาส่วนนี้ไปทำเรื่องอื่นแทน สบายเลยครับ งานวิจัย งานพัฒนา บริษัทได้รับการสนับสนุนเต็มที่ ประเทศต้องฟื้นด้วยอุตสาหกรรม แล้วพวกนี้มีบริษัทรถอยู่แล้ว ไปยาวๆเลย
-
เรื่องภาษีนำเข้ามาด้วย จึงเหลือแต่พรีเมียมคาร์จริงๆ
รถธรรมดาก็ไม่คุ้ม เล่นรถผลิตในประเทศดีกว่า
-
ของเค้าดีจริงๆนี่ครับเยอรมัน
-
ผมก็ว่านะครับว่ารถเยอรมัน มันนิยมกันทั้งโลกครับ
-
เคยรู้เรื่องสารคดีมาบ้างว่าเบ้นเป็นแบรนแรกที่ผลิตรถ ถ้าจำไม่ผิดที่เยอรมันน่าจะมีพิพิธภัณฑ์รถเบ้นเก่าๆมั้ง แต่ทำไมอเมริกาโฆษณาโอ้อวดว่าตัวเองเทคโนโลยีล้ำหน้ามาก (ในสมัยสงคราม) เยอรมันในยุคฮิตเลอร์ รถเบ้นเข้ามาบทบาทหรือยัง แล้ว ฮิตเลอร์สนับสนุนยังไง (เหมือนเคยจำๆได้บ้างว่าเจ้าของรถเบ่นก็มายุ่งๆกับสงครามกลางเมืองด้วยหรือเปล่า)
-
เคยรู้เรื่องสารคดีมาบ้างว่าเบ้นเป็นแบรนแรกที่ผลิตรถ ถ้าจำไม่ผิดที่เยอรมันน่าจะมีพิพิธภัณฑ์รถเบ้นเก่าๆมั้ง แต่ทำไมอเมริกาโฆษณาโอ้อวดว่าตัวเองเทคโนโลยีล้ำหน้ามาก (ในสมัยสงคราม) เยอรมันในยุคฮิตเลอร์ รถเบ้นเข้ามาบทบาทหรือยัง แล้ว ฮิตเลอร์สนับสนุนยังไง (เหมือนเคยจำๆได้บ้างว่าเจ้าของรถเบ่นก็มายุ่งๆกับสงครามกลางเมืองด้วยหรือเปล่า)
ที่เยอรมันมี benz musuem ที่บอกถึงตั้งแต่เริ่มผลิตรถยนตร์จนถึงปัจจุบันอยู่ที่สตุทกาทครับ ยี่ห้ออื่นก็มีmusuemเหมือนกันนะครับ เช่น volkswagen bmw porsche
-
มานั่งคิดๆแล้วก็ตลกดี 2ประเทศที่พ่ายในสงครามโลกครั้งที่สองคือเยอรมันและญี่ปุ่น จนมาถึงวันนี้ที่2ประเทศที่ว่ากลับเป็นมหาอำนาจโลกยานยนต์ซะแล้ว
เค้าโดนข้อบังคับมากๆไงครับ งบทางทหานตัดทิ้งไปเลย เพราะประเทศโดนควบคุมเรื่องนี้ไป ปกติงบทางทหารประเทศนึงเกือบครึ่งๆเลยมั้ง แล้วโดนเอาส่วนนี้ไปทำเรื่องอื่นแทน สบายเลยครับ งานวิจัย งานพัฒนา บริษัทได้รับการสนับสนุนเต็มที่ ประเทศต้องฟื้นด้วยอุตสาหกรรม แล้วพวกนี้มีบริษัทรถอยู่แล้ว ไปยาวๆเลย
ครับ รอรถไฟบ้านเรา พัฒนาก่อน
ตอนี้จะขายกันแต่รถยนต์
รถไฟ รถไฟฟ้า ขนส่ง สาธารณะ ไม่ทำเลย อิอิ
-
มานั่งคิดๆแล้วก็ตลกดี 2ประเทศที่พ่ายในสงครามโลกครั้งที่สองคือเยอรมันและญี่ปุ่น จนมาถึงวันนี้ที่2ประเทศที่ว่ากลับเป็นมหาอำนาจโลกยานยนต์ซะแล้ว
ประเทศญี่ปุ่นและเยอรมันมีความเป็นชาตนิยมกว่าเรา
ไม่ใช่แค่นั้น ตอนทำสงคราม เขาขับเครื่องบิน รบ แต่หลายๆ ชาติ ยังไม่มีรถ(ที่สร้างเอง)ขับ มีไทยหรือเปล่าน้าาาาา
-
มานั่งคิดๆแล้วก็ตลกดี 2ประเทศที่พ่ายในสงครามโลกครั้งที่สองคือเยอรมันและญี่ปุ่น จนมาถึงวันนี้ที่2ประเทศที่ว่ากลับเป็นมหาอำนาจโลกยานยนต์ซะแล้ว
ประเทศญี่ปุ่นและเยอรมันมีความเป็นชาตนิยมกว่าเรา
ไม่ใช่แค่นั้น ตอนทำสงคราม เขาขับเครื่องบิน รบ แต่หลายๆ ชาติ ยังไม่มีรถ(ที่สร้างเอง)ขับ มีไทยหรือเปล่าน้าาาาา
ไทยจนป่านนี้ ก็ยังตัดไม้ ดูดทรัพยกรขาย อยู่เลยครับ
-
เพราะคนไทย ต้องการภาพลักษณ์ การการยอมรับในสังคมครับ