เอาเฉพาะในบ้านเรานะครับ
ภาษีรถยนต์ ถูกลง แน่นอน เพราะถ้าแพงจะเป็นการกีดกันทางการค้า เผลอๆ อาจจะเหลือ 0 เลยก็ได้
แต่อย่างไรก็ตาม (555 ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ อิอิ)
ดูอย่างสิงคโปร์ ถ้าเค้าปล่อยให้รถราคาถูกลง บ้านเค้ารถได้วิ่งเต็มเมืองแน่ๆ เค้าเลยมีการประมูลป้ายทะเบียน ต้องหาหลักฐานยืนยันการมีที่จอด รวมถึงเสียค่าวิ่งผ่านถนนในบางช่วงด้วย ตามแต่ที่จะบริหารจัดการกันไป
บ้านเราก็เหมือนกัน
ภาษีที่หายไป มันจะไม่ไปไหน แต่มันอาจจะเปลี่ยนรูปแบบไป เช่นภาษีสรรพสามิตรรถยนต์คิดที่ 20-25%(ประมาณ 1-1.5 แสน กลมๆ) แล้วมาต่อภาษีประจำปี(ภาษีค่าใช้รถ) จากปีละ 2 พัน
พอปรับภาษีสรรพสามิตรลดลงเป้น 0 แล้วก็อาจจะไปเพิ่มภาษีประจำปี เป็นปีละ 2 หมื่น(คุ้นๆไหม ที่เคยมีข่าวจะเก็บภาษีรถติดแก๊สเรทนี้อ่ะ) ต่อภาษีไปสัก 5-6 ปี ก็จะเท่าๆกับภาษีสรรพสามติรที่หายไปเลย
พอจะGet กันไหมล่ะครับ แต่ไม่แน่รัฐบาลอาจจะปรับเปลี่ยนไปในรูปแบบอื่นก็ได้ อย่างไรก็ตาม อีก 3 ปีโน่นถึงจะออกมาตรการอะไรมา
โดยส่วนตัวแล้ว ผมเห้นด้วยนะครับ นอกจากจะช่วยบริหารจัดการภาษีแล้ว ยังช่วยให้คนที่มีรถขับมีความรับผิดชอบมากขึ้น
รู้สึกเสียดายเงินทอง ไม่บ้าเลือดซื้อรถมาขับเกินความจำเป็น
เห็นด้วยกับแบบที่สิงค์โปรทำครับ
ถ้าเอามาใช้กับประเทศไทย ถนนที่มีรถไฟฟ้าอยู่บนหัว และถนนในเมืองย่านธุรกิจที่รถติดมากๆ ควรจะเก็บภาษีพิเศษถ้าจะเอารถไปวิ่ง
จะได้แก้ปัษาหารถติดไปในตัว
แต่ถ้าจะทำจริงๆต้องศึกษาให้ละเอียดมากๆ