Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Satanic za' ที่ พฤษภาคม 10, 2012, 15:31:12

หัวข้อ: เรื่องจริง?? ในอดีตรถไฟฟ้าไม่ถูกพัฒนาก็เพราะบริษัทน้ำมัน จริงหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Satanic za' ที่ พฤษภาคม 10, 2012, 15:31:12
พอดีผมได้รับเมล์นึง (ซึ่งเป็นเหมือน FWD เมล์แหละครับ แต่มันเป็นไฟล์ power point) เลยอยากถามความเห็นกันหน่อยว่า มันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่าครับ หรือเป็นแค่เรื่องที่สร้างขึ้นมาดิสเครดิตบริษัทน้ำมันเฉยๆน่ะครับ

*** ขออนุญาติ copy ข้อความมาลงนะครับ ****

เชื่อว่าคุณคงสังเกตเห็นผลกระทบบางอย่างของมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองใหญ่ๆ  ซึ่งอากาศที่เราหายใจเข้าไปเป็นผลร้ายต่อสุขภาพอย่างยิ่ง

ในเมืองใหญ่บางแห่งเช่น เม็กซิโกซิตี้, ซานดิเอโกของชิลี, มอสโคว เป็นต้น สถานีวิทยุออกอากาศเตือนกันว่า :

โปรดระมัดระวัง มลพิษทางอากาศในวันนี้สูงมาก
คนชราและเด็กเล็กไม่ควรออกจากบ้าน
ผู้ที่วิ่งออกกำลังกายควรงดเว้นในวันนี้
คนที่เป็นหืดหอบควรพกขวดออกซิเจนติดตัวไปด้วย
คนทั่วไปควรใส่หน้ากากป้องกัน

เพื่อจะแก้ปัญหาที่กลายเป็นหายนะระดับโลกไปแล้วนี้
เคยมีหนทางแก้มาก่อนแล้ว !
คุณเคยรู้บ้างไหม ?

ปี 1996 เป็นปีที่มีการผลิตรถไฟฟ้าเป็นครั้งแรก คือรถ EV1 (Electric Vehicle 1)  ซึ่งผลิตโดยเจนเนอรัลมอเตอร์ ในสหรัฐอเมริกา และใช้กันแพร่หลายบนถนนในแคลิฟอร์เนีย
เป็นรถที่แล่นได้ฉิว เร่งจาก 0 ถึง 100 กม./ชม.  ใช้เวลาน้อยกว่า 9 วินาที !
แถมเสียงก็ยังเงียบกริบด้วย !

10 ปีต่อมา รถแห่งอนาคตพวกนี้ก็หายไปหมด
คุณต้องรู้ไว้ว่ารถพวกนี้ห้ามขาย 
    คุณทำได้แค่เช่าใช้มันเท่านั้น
การให้เช่านั้น ก็ไม่มีการต่ออายุเสียด้วย

เจนเนอรัลมอเตอร์เรียกรถ EV1 ทั้งหมดคืน ท่ามกลางเสียงคัดค้านของผู้ใช้รถ
    และแล้วพวกเขาก็... ทำลายทิ้ง
หัวข้อ: Re: เรื่องจริง?? ในอดีตรถไฟฟ้าไม่ถูกพัฒนาก็เพราะบริษัทน้ำมัน จริงหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Satanic za' ที่ พฤษภาคม 10, 2012, 15:33:37
ในปี 1997 นิสสัน จัดแสดงรถไฟฟ้าไฮเปอร์มินิ ที่โตเกียว
ชุมชนชาวเมืองพาซาเดน่าในคาลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา  เลือกรถรุ่นนี้เป็นพาหนะสำหรับใช้กับบรรดาข้าราชการประจำของพวกเขา
ในเดือนสิงหาคม ปี 2006 การเช่าใช้รถระหว่างชาวชุมชนเมืองพาซาเดน่า กับนิสสัน ก็สิ้นสุดลง
ชาวชุมชนพยายามจะซื้อรถ... แต่นิสสันไม่ยอมขาย
นิสสันนำรถยนต์กลับคืนไปเพื่อ...
ทำลายทิ้ง !



ในปี 2003  โตโยต้าตัดสินใจหยุดการผลิตรถไฟฟ้า RAV4-EV (EV = electric vehicle)
รถไฟฟ้าขับเคลื่อน 4 ล้อรุ่นนี้ เป็นผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชั้นสูง และได้รับความนิยมอย่างสูงจากผู้ใช้รถตั้งแต่ปี 1997
การชาร์จพลังงานมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 0.09 ดอลล่าร์สหรัฐฯ/กิโลวัตต์-ชม.
    การชาร์จจนเต็มจะใช้เงิน 2.70 ดอลล่าร์สหรัฐฯ
ในปี 2005 การให้เช่ารถรุ่นนี้ก็สิ้นสุด
โตโยต้ารีบเรียกคืนรถรุ่นนี้ทั้งหมดในทันที เพื่อที่จะ...ทำลายมันทิ้ง !

แต่ทว่า ชาวอเมริกันบางส่วนเริ่มรวมตัวกัน !
ในความพยายามที่จะปกป้องรถรุ่น RAV4-EV พวกเขาจัดตั้งสมาคม “ห้ามทำลาย” สมาคมนี้สร้างแรงบีบคั้นกับโตโยต้าเป็นเวลาถึง 3 เดือน

พวกเขาชนะ!  ในท้ายที่สุด พวกเขาซึ่งเคยเช่าและบัดนี้ต้องการซื้อรถรุ่นนี้  ก็ได้รับการสนับสนุนและยอมรับเป็นทางการจากโตโยต้า

อย่างไรก็ตาม การผลิตรถรุ่นนี้ก็มิได้สานต่อ และไม่ทำการผลิตอีก   รวมทั้งแบตเตอรี่ EV-95 NiMH ก็ไม่ได้รับการพัฒนาฟื้นฟูอีกเลย ทำไมนะหรือ?
ในปี 2005 บรรษัทร่วมทุนระหว่าง เชฟรอน-เท็กซาโค ได้ซื้อสิทธิบัตรการผลิตแบตเตอรี่
ด้วยมูลค่า 30 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ แล้วก็รื้อโรงงานผลิตทิ้งไปซะ


หัวข้อ: Re: เรื่องจริง?? ในอดีตรถไฟฟ้าไม่ถูกพัฒนาก็เพราะบริษัทน้ำมัน จริงหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Satanic za' ที่ พฤษภาคม 10, 2012, 15:35:28
ในเดือนมิถุนายน 2001 เจฟฟรีย์ ลูเออร์ส (Jeffrey Luers) นักเคลื่อนไหวชาวอเมริกันวัย 23 ปี ซึ่งเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการสงวนรักษาป่าไม้ ต้องเจอกับประสบการณ์อันน่าเศร้า
เขาถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 22 ปี 8 เดือน ด้วยข้อหา...
    เผารถฮัมเมอร์ (รถยนต์ทหารของอเมริกัน) ที่กินน้ำมันอย่างมากมายไปจำนวน 3 คัน
เขาต้องการใช้สัญลักษณ์นี้เป็นสื่อบอกถึงอันตรายต่อโลกของเรา
   ของเจ้าเครื่องสวาปามน้ำมันที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมพวกนี้...


บรรดา “ล็อบบี้” ของบริษัทน้ำมันขนาดใหญ่
 ไม่ต้องการให้มียานยนต์ไฟฟ้าอยู่อีกต่อไป !
การทำสงครามรบพุ่งกัน และผู้คนต้องล้มตาย
ก็เพื่อเชื้อเพลิง
ที่สร้างมลพิษให้กับสิ่งแวดล้อมของเรา !
หัวข้อ: Re: เรื่องจริง?? ในอดีตรถไฟฟ้าไม่ถูกพัฒนาก็เพราะบริษัทน้ำมัน จริงหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Satanic za' ที่ พฤษภาคม 10, 2012, 15:37:17
คุณรู้ไหมว่าใครได้ประโยชน์ ถ้าราคาน้ำมันไม่ตกต่ำลง ?

บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ซึ่งควบคุมโดยอำนาจของเงินตรา และสภานิติบัญญัติแห่งสหรัฐอเมริกาและยุโรป !

บรรดาตระกูลต่างๆ เช่น - บุช (อดีตประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา),  ร็อกกี้เฟลเล่อร์,  โรธซ์ไชลด์  รวมทั้งราชวงศ์แห่งอังกฤษ ฯลฯ
ตลอดจนบางส่วนของอุตสาหกรรมขนาดยักษ์ที่มั่งคั่ง ซึ่งอยู่ได้ด้วยการพึ่งพาน้ำมัน


หัวข้อ: Re: เรื่องจริง?? ในอดีตรถไฟฟ้าไม่ถูกพัฒนาก็เพราะบริษัทน้ำมัน จริงหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Satanic za' ที่ พฤษภาคม 10, 2012, 15:38:51
ประมาณนี้อะครับ

ต้องขออภัยด้วย หากจัดย่อหน้าไม่เรียบร้อยเท่าไหร่ พอดี copy มาจาก power point อีกทีน่ะครับ

ผมเอง ไม่ได้บอกว่า สิ่งที่เอามาโพสเป็นเรื่องจริงนะครับ อย่าเข้าใจผิดนะ ผมแค่สงสัยเฉยๆว่าเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า เท่านั้นเองอะครับ
ร่วมกันแสดงความเห็นได้นะครับ  ;)
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: เรื่องจริง?? ในอดีตรถไฟฟ้าไม่ถูกพัฒนาก็เพราะบริษัทน้ำมัน จริงหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: FyGI ที่ พฤษภาคม 10, 2012, 15:47:31
เคยได้ยินเรื่อง EV-1 มาเหมือนกันครับ
หัวข้อ: Re: เรื่องจริง?? ในอดีตรถไฟฟ้าไม่ถูกพัฒนาก็เพราะบริษัทน้ำมัน จริงหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: idolking ที่ พฤษภาคม 10, 2012, 15:56:18
ไม่น่าจริงนะครับ ตอนนั้น ราคาน้ำมันยังไม่แพงมาก บวกกับ เทคโนโลยี รถไฟฟ้ายังใหม่มากๆ ผลิตแล้วอาจมีราคาแพง ไม่คุ้มทุนที่จะทำครับ เพราะถ้าเทียบกับรถใช้น้ำมันแล้ว หาเติมตามปั้มทั่วไปง่ายกว่า หาที่ชาร์ตไฟครับ  และ ไฟฟ้าที่ผลิตทุกวันนี้ ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดส่วนนึงก็ใช้น้ำมันในการผลิตด้วยนะครับ
หัวข้อ: Re: เรื่องจริง?? ในอดีตรถไฟฟ้าไม่ถูกพัฒนาก็เพราะบริษัทน้ำมัน จริงหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: NINENOI ที่ พฤษภาคม 10, 2012, 16:02:39
แถมด้วยซักอันแล้วกันครับ อาจารย์ที่อบรมเรื่องมลภาวะทางอากาศเล่าว่า

หลายปีก่อนมีศูนย์วิจัยนึงที่ญี่ปุ่นผลิตรถที่ใช้พลังงานจากหญ้าแห้งเนื่องจากหญ้าแห้งมี C อยู่มากสามารถปลูกได้ง่าย อีกทั้งยังเป็นพลังงานชีวมวล กล่าวคือถ้าเชื้อเพลิงที่ผลิตจากชีวมวลจะยั่งยืนเพราะมีการหมุนเวียนตลอดหญ้าดึง C จากอากาศมาเจริญเติบโตพอเราเอาหญ้าไปใช้ก็จะปล่อย C ออกมาแล้วหญ้าที่ปลูกใหม่ก็ดึง C มาใช้วนเวียนไปตลอดจึงกลายเป็นพลังงานยั่งยืนและไม่ส่งผลกระทบต่อโลกด้วย

อนิจจา โครงการนี้ทำไปได้ระยะนึงและทำท่าว่าจะดี อยู่ๆก็มีใครก็ไม่รู้มาซื้อศูนย์วิจัยนี้ไปแล้วก็ปล่อยร้าง ว่ากันว่าเป็นพวกค้าน้ำมันนี้แหละที่ไม่ต้องการให้มีพลังงานทดแทนมาสู้ พวกเหล่านี้เขารวมตัวกันเพื่อผลประโยชน์ด้านพลังงานอย่างเดียวจะและจะคอยกันไม่ให้มีพลังงานอย่างอื่นมาทดแทนจนกว่าน้ำมันของตัวเองจะหมด จริงๆแล้วเขาก็รู้ดีว่าพลังงานที่ยั่งยืนนั้นมาจากพืช ดังนั้น เมื่อเงินมีก็เริ่มเบนเข็มการลงทุนมาที่การเกษตรด้วย เมื่อใดที่กลุ่มคนเกล่านี้มาควบคุมการเกษตรได้ อาหารโลกจะแพงมากกว่านี้อย่างแน่นอน


โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยครับ
หัวข้อ: Re: เรื่องจริง?? ในอดีตรถไฟฟ้าไม่ถูกพัฒนาก็เพราะบริษัทน้ำมัน จริงหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: สมาชิกคนที่2455 ที่ พฤษภาคม 10, 2012, 16:28:41


ในปี 2003  โตโยต้าตัดสินใจหยุดการผลิตรถไฟฟ้า RAV4-EV (EV = electric vehicle)
รถไฟฟ้าขับเคลื่อน 4 ล้อรุ่นนี้ เป็นผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชั้นสูง และได้รับความนิยมอย่างสูงจากผู้ใช้รถตั้งแต่ปี 1997

อย่างไรก็ตาม การผลิตรถรุ่นนี้ก็มิได้สานต่อ และไม่ทำการผลิตอีก   รวมทั้งแบตเตอรี่ EV-95 NiMH ก็ไม่ได้รับการพัฒนาฟื้นฟูอีกเลย ทำไมนะหรือ?


2013 Toyota RAV4 EV เปิดตัวคันจริงพร้อมทำตลาด

โตโยต้า เลือกใช้วันที่ 2 ของงาน Electric Vehicle Symposium ครั้งที่ 26 เป็นวันเปิดตัวรุ่นผลิตจริงของ RAV4 EV ซึ่ง พัฒนาร่วมกับ Tesla Motors ตั้งราคาไว้ประมาณ 1,540,000 บาท ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่พัฒนาโดย Tesla ให้กำลังสูงสุด 154 แรงม้า แบตเตอรี่ติดตั้งไว้กลางรถด้านล่าง ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าพร้อม 2 โหมดขับเคลื่อน คือ Sport และ Normal

โตโยต้า ระบุว่าในโหมด Sport สามารถเร่ง 0-96 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 7 วินาที ความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนโหมด Normal จะได้ตัวเลข 8.6 วินาที และ 137 กิโลเมตรต่อชั่วโมงตามลำดับ

RAV4 EV สามารถขับได้ระยะทาง160 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ซึ่งใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง เมื่อชาร์จด้วยไฟฟ้า 240 โวลต์ 40 แอมป์ ส่วนใครที่ห่วงเรื่องอายุการใช้งานแบตเตอรี่ก็หมดกังวลได้ เพราะ โตโยต้า รับประกัน 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร

นอกเหนือจากการถอดเครื่องยนต์สันดาปภายในออก และแทนที่ด้วยชุดมอเตอร์และแบตเตอรี่แล้ว รูปลักษณ์ภายนอกของ RAV4 EV ก็ได้รับการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน โดยปรับให้มีความลู่ลมเพิ่มขึ้น ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศลดลงเหลือ 0.30 ด้วยการปรับทรงของกันชนหน้า กระจังหน้า และช่องรับอากาศในกันชน กระจกมองข้าง สปอยเลอร์หลัง และเก็บรายละเอียดใต้ท้องรถ

ภายนอกติดตั้งไฟ LED สำหรับ Daytime Running Lamps ติดตั้งโลโก้สีน้ำเงินเอกลักษณ์ของรถ EV เบาะนั่งและแผงประตูหุ้มด้วยผ้า Neutron ปรับการออกแบบชุดมาตรวัดใหม่พร้อมจอสัมผัสขนาด 8 นิ้วเป็นระบบนำทาง และแสดงข้อมูลของระบบ EV

โตโยต้า มีแผนจะผลิต RAV4 EV ประมาณ 2,600 คันในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยอุปกรณ์ของระบบ EV จะผลิตขึ้นที่โรงงานของ Tesla ในแคลิฟอร์เนีย และส่งไปประกอบที่โรงงาน โตโยต้า ในแคนาดา เตรียมเปิดตัวสู่ 4 ตลาดหลักในอเมริกาช่วงปลายหน้าร้อนปีนี้ ประกอบด้วย Sacramento, San Francisco Bay Area, Los Angeles/Orange County และ San Diego •



(http://www.motortrivia.com/section-green-tech-02/210-toyota-rav4-ev/2013-toyota-rav4-ev-01.jpg)

http://www.motortrivia.com/section-green-tech-02/210-toyota-rav4-ev/2013-toyota-rav4-ev.html (http://www.motortrivia.com/section-green-tech-02/210-toyota-rav4-ev/2013-toyota-rav4-ev.html)
เครดิตเวป motortrivia
หัวข้อ: Re: เรื่องจริง?? ในอดีตรถไฟฟ้าไม่ถูกพัฒนาก็เพราะบริษัทน้ำมัน จริงหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Ruksadindan ที่ พฤษภาคม 10, 2012, 16:37:23
ลองดู ปตท. บ้านเราก็ได้ครับ
หัวข้อ: Re: เรื่องจริง?? ในอดีตรถไฟฟ้าไม่ถูกพัฒนาก็เพราะบริษัทน้ำมัน จริงหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: bluewish ที่ พฤษภาคม 10, 2012, 17:00:08
เรื่องจริงครับ
หัวข้อ: Re: เรื่องจริง?? ในอดีตรถไฟฟ้าไม่ถูกพัฒนาก็เพราะบริษัทน้ำมัน จริงหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: 6162002 ที่ พฤษภาคม 10, 2012, 17:01:33
ตัวอย่างที่ดี ให้ดูจากเรื่อง Car2 ครับ มันลักษณะนั้นเลย เป็นเรื่องธรรมดาเมื่อมีการขัดผลประโยชน์กันครับ

แต่ตอนนี้เอาไม่อยู่แล้วล่ะ ยังไงรถไฟฟ้าก็ต้องมา เช่นเดียวกับพวก เซลล์เชื้อเพลิง น้ำมันจากหินดินทรายต่างๆ  ซึ่งจริงๆค้นพบและทำได้นานแล้ว แต่ยังไม่อยู่ในจุดที่จะคุ้มกับการลงทุนเฉยๆครับ

เอาความจริง รถที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า สร้างได้ก่อนรถสันดาบอีกครับ ตั้งแต่ช่วงยุคฟาราเดย์แล้วครับ
หัวข้อ: Re: เรื่องจริง?? ในอดีตรถไฟฟ้าไม่ถูกพัฒนาก็เพราะบริษัทน้ำมัน จริงหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: roomno9 ที่ พฤษภาคม 10, 2012, 17:05:01
ไม่มีหลักฐานหรอกครับ แต่โดยส่วนตัวแล้วผมเชื่อว่าจริงครับ เพราะผลประโยชน์ล้วนๆ
หัวข้อ: Re: เรื่องจริง?? ในอดีตรถไฟฟ้าไม่ถูกพัฒนาก็เพราะบริษัทน้ำมัน จริงหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: prai ที่ พฤษภาคม 10, 2012, 17:10:01
เรื่องทั้งหมดมันอาจจะจริงและไม่จริงก็ได้ คนทั่วไปไม่สามารถรู้ความจริงได้ครับ ได้แต่ตั้งข้อสังเกตุ

ความเป็นไปได้ที่บริษัทพวกนี้จะเข้าไปซื้อกิจการเพื่อปิดกิจการนั้นก็มีความเป็นได้สูง
ขนาดน้ำดิบราคาไม่กี่สิบเหรียญ ประเทศหรือบริษัทพวกนี้ยังรวยมาก เพราะฉะนั้นเงินเขามีมาก และได้มาง่ายๆ ไม่ต้องเหนื่อยอะไร
การที่จะเอาเงินไปซื้อกิจการ หรือปิดปากใคร ก็ทำได้ง่ายๆ เพื่อไม่ให้น้ำมันดิบด่อยค่าลง

แต่ตอนนี้ผมเชื่อว่าพวกเขา(ผู้ผลิตน้ำมันดิบ) รู้ดีว่า น้ำมันกำลังจะหมดแล้ว แหล่งขุดเจาะน้ำมันแหล่งใหญ่ๆ ก็ปิดไปหลายที่แล้วเช่นกัน
เขาก็มองหาธุรกิจใหม่ๆ ที่เขาจะเข้าไปลงทุนแล้วเช่นกัน

ถูกที่ถูกเวลา ดีที่สุดครับ




ตอนแรกเห็นชื่อหัวเรื่อง นึกว่ารถไฟฟ้า(Train)

คุณคิดว่าตอนนี้ใครเงินเหลือที่จะเอาเงินมาซื้อหุ้นกิจการในไทย?
หัวข้อ: Re: เรื่องจริง?? ในอดีตรถไฟฟ้าไม่ถูกพัฒนาก็เพราะบริษัทน้ำมัน จริงหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: upon thames ที่ พฤษภาคม 10, 2012, 17:14:43
จริงครับ

ฝรั่งที่ผมทำงานด้วย ก็พูดแบบนี้แหละ
ผลปรโยชน์จากน้ำมันมันมหาศาลครับ

มีฝรั่งอีกคนที่รูกจักกันเคยทำงานอยู่เชลล์ เล่าว่าภายในคิดค้นเทคโนโลยี่การสร้างพลังงานทางเลือกอื่นที่ไม่ใช้น้ำมันตลอด
แล้วเค้าก็บอกอีกว่ามีรอไว้แล้วด้วย แต่ปล่อยออกมาขายตอนนี้ไม่ได้  :-\
หัวข้อ: Re: เรื่องจริง?? ในอดีตรถไฟฟ้าไม่ถูกพัฒนาก็เพราะบริษัทน้ำมัน จริงหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: keanetona ที่ พฤษภาคม 10, 2012, 17:16:43
ร้อยละ99.9ของฟอร์เวิดเมล ไม่น่าเชื่อถือครับ

ส่วน EV1 รถยังมีข้อบกพร่องจากเทคโนโลยีสมัยนั้นอยู่มากมายครับ เลยหยุดไป ตอนนี้รอดูนิสสันleafครับว่าจะไปได้ขนาดไหน
หัวข้อ: Re: เรื่องจริง?? ในอดีตรถไฟฟ้าไม่ถูกพัฒนาก็เพราะบริษัทน้ำมัน จริงหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: nudragon ที่ พฤษภาคม 10, 2012, 17:22:06
เป็นไปได้หรืออาจจะเป็นไปไม่ได้
หัวข้อ: Re: เรื่องจริง?? ในอดีตรถไฟฟ้าไม่ถูกพัฒนาก็เพราะบริษัทน้ำมัน จริงหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: hutzero ที่ พฤษภาคม 10, 2012, 17:28:50
5 ปีที่แล้วผมไป LA ช่วงนั้นก็มีรถไฟฟ้าใช้กันเยอะแล้วนะ  (แต่รถที่ผมเช่าขับยังเป็นแบบน้ำมัน)
ที่จอดรถยังมีปลั๊กตู้หยอดเหรียญให้รถเสียบชาร์จไปอยู่ทั่วไปหมด   ตอนนี้น่าจะวิ่งกันเกลื่อนจนเป็นปกติแล้วนี่นา
หัวข้อ: Re: เรื่องจริง?? ในอดีตรถไฟฟ้าไม่ถูกพัฒนาก็เพราะบริษัทน้ำมัน จริงหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: delete ที่ พฤษภาคม 10, 2012, 17:42:47
ผมว่ามันน่าจะอยู่ที่ว่า ยังไม่สามารถทำจุดคุ้มทุนให้ต่ำลงไปกว่า พลังงานน้ำมันได้
คือไม่คุ้มกับการลงทุนนั่นเอง

ปัญหาอีกข้อคือ แบตเตอรี่ ยังไม่สามารถพัฒนาให้ดีไปกว่านี้ได้อีกแล้ว

เลยทำให้ แพง ใช้ได้ไม่นาน การบำรุงรักษาสูง ความทนทาน อะไรหลายอย่าง

อีกจุดหนึ่งก็น่าจะพิมีเค้าลางอยู่บ้างว่า การวิจัย ข้อเสียพวกนี้ ไม่มีการวิจัยอยู่เลยหรือ หรือว่าถูกซื้อไปหมด(กั๊กไว้ก่อน เพื่อให้มันดูแพงอยู่จนกว่าน้ำมันจะหมดโลกไปก่อน)
แต่การวิจัยเหล่านี้ ก็ไม่น่าจะจำกัดเพื่อวงการรถยนต์อย่างเดียว วงการอื่นๆก็มี เช่นแบตเตรี่ โนตบุค แทบเลท มือถือก็ต้องใช้ ถ้าคิดค้นแบตที่ประสิทธิภาพดีกว่านี้ได้ สินค้าเหล่านี้ก็ได้ประโยชน์ไปด้วย

ด้วยเหตุนี้ ผมเลยไม่ค่อยเชื่อว่าบ.น้ำมันจะกั๊กเทคโนโลยีได้ครับ
หัวข้อ: Re: เรื่องจริง?? ในอดีตรถไฟฟ้าไม่ถูกพัฒนาก็เพราะบริษัทน้ำมัน จริงหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: YIM ที่ พฤษภาคม 10, 2012, 17:50:55
เรื่องพวกนี้ฟังหูไว้หูครับ เหมือนเรื่อง Area 51 นั่นละครับ

เขาเรียกทฤษฎีสมคบคิด ซึ่งอาจจะจริง หรือไม่ก็ได้

มันเป็นผลทางจิตวิทยาอย่างนึง ที่เวลาที่เกิดเรื่องที่เราไม่อยากให้มันเกิด หรือที่เราไม่ต้องการ เราจะพยายามหาแพะมาเป็นตัวโทษว่า "มันเกิดขึ้นก็เำพราะมึง" ครับ

ยกตัวอย่าง

1. รัฐบาล USA ไม่เคยยอมรับว่ามี UFO เพราะจะเก็บเทคโนโลยีไว้ใช้เอง ซึ่งบางทีคนที่เชื่อเรื่อง UFO เขาก็จะโทษรัฐบาลว่าเลวงู้นงี้ ซึ่งอาจจะจริงหรือไม่ก็ได้ แต่ในหัวคนพวกนี้ จะมีแต่ความคิดที่ว่า "ที่กูไม่เคยเจอ ET เป็นเพราะรัฐบาล"

2. รถเติมน้ำวิ่งได้ HHO คนที่เชื่อ ก็เพราะว่าเขาคิดว่าบริษัทน้ำมันเป็นตัวการที่ทำให้เทคโนโลยีนี้ไม่เกิดขึ้น เหมือนกับจะหาแพะมาโทษว่าที่ตัวเองต้องใช้น้ำมันแพง เพราะบริษัทน้ำมัน

มันเกิดมาจากความต้องการหาแพะของมนุษย์ครับ เพราะมนุษย์เราจะพยายามไม่ยอมรับความทุกข์ที่เกิดขึ้น เกิดจากตัวเอง แต่พยายามจะหาแพะมาทำให้ตนเองสบายใจขึ้น

แล้วเมื่อความาคิดมันรวมกันมากๆ เข้า มันก็กลายเป็นกลุ่ม ก้อนทางสังคม ที่จงเกลียดจงชังคนอีกกลุ่มไปเสียอย่างนั้นเอง

เพราะสิ่งสุดท้ายที่มนุษย์จะพูดคือ "ผมผิดไปแล้ว"

กลับมาเรื่องรถไฟฟ้า

ที่เมื่อก่อนรถไฟฟ้าเขาไม่ทำ เพราะประสิทธิภาพมันยังไม่ดีน่ะสิครับ วิ่งได้น้อย ทำความเร็วไม่ได้มาก อีกทั้งน้ำมันก็ยังถูกด้วย ไปขุดเอาง่ายกว่านั่งพัฒนา motor
หัวข้อ: Re: เรื่องจริง?? ในอดีตรถไฟฟ้าไม่ถูกพัฒนาก็เพราะบริษัทน้ำมัน จริงหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: 6162002 ที่ พฤษภาคม 10, 2012, 18:22:45

2. รถเติมน้ำวิ่งได้ HHO คนที่เชื่อ ก็เพราะว่าเขาคิดว่าบริษัทน้ำมันเป็นตัวการที่ทำให้เทคโนโลยีนี้ไม่เกิดขึ้น เหมือนกับจะหาแพะมาโทษว่าที่ตัวเองต้องใช้น้ำมันแพง เพราะบริษัทน้ำมัน

เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับความเชื่อแล้วครับ เพราะมันคือความจริงตามกฎเทอร์โมไดนามิกส์ ไม่ว่าจะด้วยเครื่องยนต์เผาไหม้ หรือ Fuel Cell ก็ตาม ไม่มีทางเอาน้ำมาเป็นเชื้อเพลิงได้
เพราะตัวนึงเป็นธาตุที่เบาที่สุด ส่วนอีกตัวเป็นตัวรีดิวซ์

การวิจัยปัจจุบันก็มีแค่การผลิตไฮโดรเจนจากน้ำ โดยใช้พลังงานน้อยที่สุดเท่านั้นแหละครับ มีแต่พวกยกทฤษฎีเลื่อนลอย หาแหล่งอ้างอิงเป็นชิ้นเป็นอันไม่ได้ แสดงการคำนวณให้ดูไม่ได้ ที่ยังบอกว่าทำได้  เหมือนเหรียญ Quantum Science กับเครื่องจักรกลนิรันดร์ ที่หลอกฟันเงินคนในพันทิพได้มหาศาลครับ
หัวข้อ: Re: เรื่องจริง?? ในอดีตรถไฟฟ้าไม่ถูกพัฒนาก็เพราะบริษัทน้ำมัน จริงหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Satanic za' ที่ พฤษภาคม 10, 2012, 18:54:05
ผมเคยดูจากในพวก discovery แต่จำไม่ได้แล้วว่าตอนเติมน่ะ เค้าเติมน้ำหรือว่าเติมธาตุ H ลงไป

แต่จำได้ว่า เค้าใช้ธาตุ H ตัวนี้ ไปเป็นตัวชาร์จไฟให้กับแบตเตอร์รี่ (ไม่ได้เอาไปสันดาปนะครับ)  แต่จำไม่ได้เหมือนกันว่ามันเอาไปชาร์จอย่างไร แต่สุดท้ายสิ่งที่ออกมาจำได้ว่าเป็นน้ำครับ

อันนี้เป็นการทดลองในห้อง lab นะ แต่ไม่รุ้ว่าได้เอามาใช้จริงกันหรือเปล่า (ตอนนั้นที่ดูน่าจะเป็น 10 ปีแล้วครับ simulation เท่มาก 555 แต่ตอนนั้นเพิ่งอายุ16-17 ยังไม่ค่อยรู้เรื่องเทคโนโลยีเท่าไหร่)
หัวข้อ: Re: เรื่องจริง?? ในอดีตรถไฟฟ้าไม่ถูกพัฒนาก็เพราะบริษัทน้ำมัน จริงหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Nighthawk ที่ พฤษภาคม 10, 2012, 19:06:45
เคยได้ยินครับ แล้วเชื่อด้วยว่ามีการกดดันให้หยุดหรือชลอการพัฒนารถที่พึ่งพาน้ำมันน้อยลง.....

มีอีกเรื่องที่อยากเล่าให้ฟัง...เพื่อนยุ่นเล่ามาอีกที่...ว่าในโลกนี้มี OS ตัวนึงที่คนญี่ปุ่นคิดขึ้น เิกิดขึ้นพร้อมๆกับ MS แต่ไม่ได้เกิดในตลาดคอมพิวเตอร์โลกเพราะรัฐบาลของสเตทได้สั่งห้ามรัฐบาลยุ่นไม่ให้ปล่อย OS ออกมาเป็นคู่แข่งกับ MS .....ถ้าท่านเชื่อเรื่องบิ๊กๆบริษัทน้ำมันกดดันบริษัทรถ เรื่องนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องจริงเหมือนกัน ;D
หัวข้อ: Re: เรื่องจริง?? ในอดีตรถไฟฟ้าไม่ถูกพัฒนาก็เพราะบริษัทน้ำมัน จริงหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: KrisTop ที่ พฤษภาคม 10, 2012, 19:46:14
ถ้าผมเป็น บ.น้ำมัน ผมคงไม่ไปลงทุนฮุบซื้อวิทยาการพวกนี้เพื่อให้มันตาย
ผมจะรอดูศักยภาพไปสักระยะ แล้วเอามาพัฒนาต่อเองหากมีทีท่าว่าจะรุ่ง

แต่ส่วนมากแล้ว นวัตกรรมเหล่านั้น มันเอามาทำเชิงการค้าแทบจะไม่ได้เลย
นอกจากโครงสร้างพื้นฐานที่แต่ละแห่งปรับตัวไม่ทันแล้ว ต้องรอให้ผู้ใช้ปรับตัว
ปรับทัศนคติด้วยอีก แล้ว Throughput/Efficiency ที่ได้ผมยังไม่เห็นงานวิจัย
ใครทำได้เป็นที่น่าพอใจหรือโดดเด่นเลยนะครับ จึงไม่แปลกที่มันจะไม่เกิด

อย่างรถ E-REV ที่พึ่งเกิดมาไม่นาน เหมือนจะรุ่งจะขายดี แต่ปัญหาเยอะสีเหลือเกิน
ทั้งเรื่อง Overheat เรื่อง Batt เรื่องที่ชาร์ทและอื่นๆ ซึ่งมีตามมาให้แก้เรื่อยๆ
คงยังต้องพัฒนากันต่อไปครับ
หัวข้อ: Re: เรื่องจริง?? ในอดีตรถไฟฟ้าไม่ถูกพัฒนาก็เพราะบริษัทน้ำมัน จริงหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Tonaka ที่ พฤษภาคม 10, 2012, 19:50:24
ตอนนี้ที่ญี่ปุ่นมี prius  กับ leaf วิ่งกันเต็มเมืองเลยครับ   ไม่เว้นแต่แท็กซี่ที่ทำจากรถสองรุ่นนี้   ส่วนรถโดยสารและรถบรรทุกที่เป็นไฮบริดก็เพิ่มมากขึ้น

ส่วนน้ำมันที่ญี่ปุ่นตอนนี้ก็อยู่ที่ลิตรล่ะประมาณ 50-60 บาทครับ
หัวข้อ: Re: เรื่องจริง?? ในอดีตรถไฟฟ้าไม่ถูกพัฒนาก็เพราะบริษัทน้ำมัน จริงหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: YIM ที่ พฤษภาคม 10, 2012, 20:12:40

2. รถเติมน้ำวิ่งได้ HHO คนที่เชื่อ ก็เพราะว่าเขาคิดว่าบริษัทน้ำมันเป็นตัวการที่ทำให้เทคโนโลยีนี้ไม่เกิดขึ้น เหมือนกับจะหาแพะมาโทษว่าที่ตัวเองต้องใช้น้ำมันแพง เพราะบริษัทน้ำมัน

เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับความเชื่อแล้วครับ เพราะมันคือความจริงตามกฎเทอร์โมไดนามิกส์ ไม่ว่าจะด้วยเครื่องยนต์เผาไหม้ หรือ Fuel Cell ก็ตาม ไม่มีทางเอาน้ำมาเป็นเชื้อเพลิงได้
เพราะตัวนึงเป็นธาตุที่เบาที่สุด ส่วนอีกตัวเป็นตัวรีดิวซ์

การวิจัยปัจจุบันก็มีแค่การผลิตไฮโดรเจนจากน้ำ โดยใช้พลังงานน้อยที่สุดเท่านั้นแหละครับ มีแต่พวกยกทฤษฎีเลื่อนลอย หาแหล่งอ้างอิงเป็นชิ้นเป็นอันไม่ได้ แสดงการคำนวณให้ดูไม่ได้ ที่ยังบอกว่าทำได้  เหมือนเหรียญ Quantum Science กับเครื่องจักรกลนิรันดร์ ที่หลอกฟันเงินคนในพันทิพได้มหาศาลครับ

แต่คนก็พยายามจะเชื่อ เพราะอยากจะเชื่อว่าวิธีใช้น้ำมันราคาประหยัด มันมีอยู่จริงไงครับ

ช่วงที่เรื่องพวกนี้กำลังฮิต อย่าไปเถียงกับเขาเชียว

สำหรับคนบางคน "พลังงานเกิดขึ้นได้เอง" เพราะเขาอยากจะเชื่ออย่างนั้น เขาอยากจะเชื่อว่าพลังงานราคาถูกที่ใช้เท่าไรก็ได้มีอยู่จริง เหมือนจิ๋นซีตามหายาอายุวัฒนะ เพราะเชื่อว่า "กูต้องได้" ครับ

สงสัยเขาแยกพันธะของน้ำ แล้วแปลงเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าบนรถได้มั้ง
หัวข้อ: Re: เรื่องจริง?? ในอดีตรถไฟฟ้าไม่ถูกพัฒนาก็เพราะบริษัทน้ำมัน จริงหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: 6162002 ที่ พฤษภาคม 10, 2012, 20:25:56

สำหรับคนบางคน "พลังงานเกิดขึ้นได้เอง" เพราะเขาอยากจะเชื่ออย่างนั้น เขาอยากจะเชื่อว่าพลังงานราคาถูกที่ใช้เท่าไรก็ได้มีอยู่จริง เหมือนจิ๋นซีตามหายาอายุวัฒนะ เพราะเชื่อว่า "กูต้องได้" ครับ

+100เลยครับ สำหรับอันนี้ ชอบมากๆครับ *-*
หัวข้อ: Re: เรื่องจริง?? ในอดีตรถไฟฟ้าไม่ถูกพัฒนาก็เพราะบริษัทน้ำมัน จริงหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: H. ที่ พฤษภาคม 10, 2012, 20:32:28
RAV4-EV นี้ผมเคยเห็นในงาน Motorshow ตั้งกว่า 10 ปีมาแล้ว จำได้เลยว่าคันที่เอามาโชว์ฝากระโปรงใสข้างในเป็นเครื่องมอเตอร์สีเงิน แต่ตัวเล็กมากต้องปีนบูทไปดู  :D


รถไฟฟ้าเป็นหมันช่างหัว รอรถพลังงานนิวเคลียร์  ;D
หัวข้อ: Re: เรื่องจริง?? ในอดีตรถไฟฟ้าไม่ถูกพัฒนาก็เพราะบริษัทน้ำมัน จริงหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: YIM ที่ พฤษภาคม 10, 2012, 20:46:08
RAV4-EV นี้ผมเคยเห็นในงาน Motorshow ตั้งกว่า 10 ปีมาแล้ว จำได้เลยว่าคันที่เอามาโชว์ฝากระโปรงใสข้างในเป็นเครื่องมอเตอร์สีเงิน แต่ตัวเล็กมากต้องปีนบูทไปดู  :D


รถไฟฟ้าเป็นหมันช่างหัว รอรถพลังงานนิวเคลียร์  ;D

ผมชอบนะ รถนิวเคลียร์ แต่ต้องเป็น fusion เท่านั้น

ถ้า fission ก็เตรียมฆ่ากันเพื่อหาที่ทิ้งกากเชื้อเพลิงได้เลยครับ
หัวข้อ: Re: เรื่องจริง?? ในอดีตรถไฟฟ้าไม่ถูกพัฒนาก็เพราะบริษัทน้ำมัน จริงหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: J!MMY ที่ พฤษภาคม 11, 2012, 01:58:26
เอาอย่างนี้

ก่อนที่ทุกคนจะเชื่อไปมากกว่านี้

ผมขอถามคำเดียว...

ถ้า บริษัทน้ำมันมามีเอี่ยวกันจริง

ทำไม ถึงไม่คัดค้านการเปิดตัว Nissan LEAF , Tesla รุ่นต่างๆที่ใกล้จะคลอด
รวมทั้ง RAV4 EV รุ่นใหม่ แล Mitsubishi i MIEV ???

อ้อ รถไฟฟ้าคันแรกในโลก มันถูกสร้างขึ้นมาเป็นร้อยปีแล้วครับ
ยุคแรกๆที่มีรถยนต์ ติดตั้งเครื่องยนต์สันดาปนั่นแหละ ย้อนประวัติดูกันให้ดีๆครับ!

EV-1 ถูกทำลายทิ้ง อันนี้ น่าด่าจริงๆ เพราะ GM เอง ก็มีลับลมคมในกับโครงการนี้พอสมควร

และถ้าบริษัทน้ำมันคัดค้านจริง
ทำไม ถึงมีชื่อ ไปอยู่ร่วมในกลุ่ม ผู้สนับสนุน โครงการ ChaDeMo อันเป็นโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
เพื่อรองรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ละครับ

สำหรับผมแล้ว ฟอร์เวิร์ดเมล์ ร้อยละ 95 คือเรื่องโกหก พกลม
หัวข้อ: Re: เรื่องจริง?? ในอดีตรถไฟฟ้าไม่ถูกพัฒนาก็เพราะบริษัทน้ำมัน จริงหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: 2k ที่ พฤษภาคม 11, 2012, 09:45:02
ที่ผมสนคือสถาณการณ์ในประเทศไทยตอนนี้ครับ ลองนึกย้อนไปสมัยพวกเรายัง5ขวบ10ขวบดูสิ  ::)  หน้าร้อนเรามีแดดอุ่นๆพร้อมลมเย็นๆเวลาที่เราวิ่งเล่นที่ลานโล่งใกล้บ้านกลางคืนก็มีหิ่งห้อยสวยงามมากมายเหมือนหมู่ดาวระยิบระยับ หน้าฝนเราเอาน้ำในโอ่งที่ใสสะอาดมากินได้ไม่ต้องพึ่งเครื่องกรองน้ำ หน้าหนาวเราและเพื่อนๆต่างมีเสื้อกันหนาวสีสันสดใสมาใส่กันมีบรรยากาศหมอกสวยๆให้เห็นในยามเช้า จะสูดอากาศให้หายใจเต็มปอดที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ในกรุงเทพ  :)

แต่ลองมาเทียบกับปัจจุบันสิครับ...............มันตรงกันข้ามหมดทุกอย่าง แสงแดดที่ร้อนแรงมากชนิดที่ว่าแดดยามเช้าที่โดนผิวไม่เกิน3นาทีก็เหงื่ออกชุ่มเต็มตัวแล้วทั้งๆที่อยู่ในเดือนที่เป็นหน้าหนาว อากาศอันแสนสกปรกเหม็นควันพิษและฝุ่นเขม่าแม้จะอยู่ย่านชานเมืองอย่างรังสิตหรือบางนา หน้าหนาวที่หดหายไปจนแทบจะไม่เหลือแล้วสักวันในรอบปี หิ่งห้อยที่หายไปหมดเหลือแค่บางพื้นที่เล็กๆของอัมพวาที่ตอนนี้เองก็กใลที่จะหายไปแล้วเหมือนกัน  :-\ 

ในตอนนี้สถาณการณ์อากาศและสภาพแวดล้อมบ้านเรามันเลวร้ายยิ่งกว่าเลวร้ายเสียอีก อาจจะมีสุลต่านน้ำมันอยู่เบื้องหลังเรื่องพวกนี้ก็ได้ แต่ต่อให้มีรถพลังงานไฟฟ้าชนิดที่ชาร์จ50บาทครั้งเดียวอยู่ได้ทั้งอาทิตย์แล่นได้เป็นพันกิโลแต่เมืองไทยก็จะมีแต่อากาศแย่ลงไม่เปลี่ยนแปลงเพราะสาเหตุของมลพิษมาจากคนไทยด้วยกันเองนั่นแหละ เบิ้ลเครื่องเผาน้ำมันเอย ตัดแคตอุดEGRเอย เอารถบรรทุกเก่าๆที่คายมลพิษสูงควันดำมาแล่นแล้วจ่ายส่วยตำรวจเอย การสนับสนุนจากนโยบายให้คนออกมาซื้อรถกันเยอะๆแต่ไม่สนใจการขนส่งสาธารนะเอย นี่ยังไม่รวมเรื่องของการยัดเงินเจ้าหน้าที่เพื่อทำรีสอร์ตทำลายป่า การเผาภูเขาเพื่อหาเรื่องครอบครองพื้นที่ใช้งานไม่ได้ การยัดเงินแล้วปล่อยสารเคมีลงคลองลงทะเลลงแม่น้ำทั้งหลายแหล่อีกนะ  :-X

เทคโนโลยีจักรกลไฟฟ้าเป็นเพียงตัวช่วยอย่างหนึ่งที่จะลดมลพิษที่เกิดขึ้นได้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคนในชาติเองนี่แหละครับ ไล่ตั้งแต่ประชาชน ตำรวจ ยันไปจนภาครัฐเลยที่ต้องกลับมามีจิตสำนึกรับผิดชอบได้แล้ว แค่เวลาไม่กี่สิบปีอากาศดีๆหายไปหมดสิ้นและอัตราการทำลายล้างจากมลพิษมีแต่จะยิ่งทวีคูณขึ้นทุกๆปีเพราะมีการใช้รถมากขึ้น การยัดเงินเพื่อเปิดทางให้ทำผิดกฏหมายด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้น อย่างที่บอกว่าต่อให้มีรถยนต์ไฟฟ้าที่มีคุณภาพสูงอย่างในอุดมคติอย่างแพร่หลาย แค่ถ้าคนไทยยังมักง่ายทำตัวแบบชีวิตของข้าตัวของข้าแบบนี้ในอนาคตคนไทยเองนี่แหละที่จะอยู่กันไม่ได้เพราะสภาพแวดล้อมและอากาศมันไม่เหมาะสมกับสิ่งมีชีวิตแล้ว  :-\
หัวข้อ: Re: เรื่องจริง?? ในอดีตรถไฟฟ้าไม่ถูกพัฒนาก็เพราะบริษัทน้ำมัน จริงหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: สมาชิกคนที่2455 ที่ พฤษภาคม 11, 2012, 10:46:32


^
^
กด LIKE



(http://img.kapook.com/image/Movie%205/LIKE-LOVE_resize.jpg)
หัวข้อ: Re: เรื่องจริง?? ในอดีตรถไฟฟ้าไม่ถูกพัฒนาก็เพราะบริษัทน้ำมัน จริงหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Cool Runner ที่ พฤษภาคม 11, 2012, 13:53:54
ผมไม่เชื่อเลย
มันอยู่ที่ความคุ้มค่าในการลงทุนของบริษัทรถ คุณภาพ ประสิทธิภาพของเทคโนโลยี ณ เวลานั้นๆ และ อุปกรณ์ประกอบต่างๆมากกว่า
ถ้าผลิตขายแล้วมีกำไรคุ้มค่าเขาก็จะผลิตขาย แต่ถ้าผลิตแล้วได้กำไรน้อยหรือไม่คุ้มค่าในการลงทุนก็ผลิตรถใช้น้ำมันที่กำไรเยอะกว่าดีกว่า
แต่รถใช้น้ำมันก็มีประสิทธิภาพดีขึ้น ประหยัดน้ำมันขึ้นอยู่แล้ว ทำไมไม่โดนขัดขวางล่ะ
หัวข้อ: Re: เรื่องจริง?? ในอดีตรถไฟฟ้าไม่ถูกพัฒนาก็เพราะบริษัทน้ำมัน จริงหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: 6162002 ที่ พฤษภาคม 11, 2012, 15:06:16
ผมไม่เชื่อเลย
มันอยู่ที่ความคุ้มค่าในการลงทุนของบริษัทรถ คุณภาพ ประสิทธิภาพของเทคโนโลยี ณ เวลานั้นๆ และ อุปกรณ์ประกอบต่างๆมากกว่า
ถ้าผลิตขายแล้วมีกำไรคุ้มค่าเขาก็จะผลิตขาย แต่ถ้าผลิตแล้วได้กำไรน้อยหรือไม่คุ้มค่าในการลงทุนก็ผลิตรถใช้น้ำมันที่กำไรเยอะกว่าดีกว่า
แต่รถใช้น้ำมันก็มีประสิทธิภาพดีขึ้น ประหยัดน้ำมันขึ้นอยู่แล้ว ทำไมไม่โดนขัดขวางล่ะ

ผ่านมาสิบปี รถบ้านๆ คิดเล่นๆ ประหยัดขึ้น 2 เท่า  แต่ปริมาณรถปัจจุบัน เทียบกับสิบปีที่แล้วมันต่างกันกี่เท่าล่ะครับ  หรือลองหาข้อมูลปริมาณความต้องการใช้น้ำมันดูก็ได้ มันพุ่งเป็น Exponential มาตั้งนานแล้วครับ บริษัทน้ำมันเขาจะไปเดือดร้อนอะไร  มีน้ำมันไว้ขายนานๆ จะได้มีอำนาจไปอีกนานๆ ไม่ดีกว่าเหรอครับ  ถ้าเทขายหมดแล้ว ทีนี้จะเหลืออะไร *-*

อย่าว่าแต่บริษัทรถยนต์เลยครับ หลายๆบริษัทใหญ่ๆ ได้รับการสนับสนุนจากพวกบริษัทขุดน้ำมันหรืออื่นๆที่เกียวข้อง ทั้งทางตรงและทางอ้อมมาแต่ไหนแต่ไรแล้วครับ

เรื่องแบบนี้ถ้าจะมองต้องมองให้กว้างๆครับ มองแค่ตัวรถคันเดียวไม่ได้ครับ อีกอย่าง ไม่มีใครขวางกระแสโลกได้หรอกครับ ฝืนขวางไปก็โดนเขี่ยออกเปล่าๆ คนที่จะอยู่รอดคือคนที่รู้จักปรับตัว และใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ปัจจุบันให้ดีที่สุดครับ

แต่คำพูดของคุณ 2k โดนใจมากๆเลยครับ ยิ่งเมื่อไม่กี่วันมานี่เห็นข่าว น้ำในคลองอีกแห่ง โดนโรงงานปล่อยน้ำทิ้งใส่จนเสียไปอีกละ  แม่น้ำลำคลองดีๆ แทบหาไม่ได้แล้วมั้งครับ ในประเทศไทย
หัวข้อ: Re: เรื่องจริง?? ในอดีตรถไฟฟ้าไม่ถูกพัฒนาก็เพราะบริษัทน้ำมัน จริงหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Excellion ที่ พฤษภาคม 12, 2012, 09:15:10
ผมชอบความเห็นของคุณ 2K มากครับ

PS. แต่ผมก้อยังต้องพึ่งพารถยนต์นา  ::)