จขกท ใจเย็นๆ ครับ
ตอนนี้อารมณ์ เหมือนหลงสาว ฮ่ะ คืออยากได้อ่ะ อะไรก็ยอมคิดว่าไหว
อย่าว่างั้นว่างี้เลย ครับ ผมแนะนำ อย่าพึ่งซื้อครับ !! อย่าคิดว่าผมต่อต้านนะ
มันเหมือนจะไหวครับ แต่วันไหนเกิดเหตุการณ์ ต้องใช้เงินมา มันจะไม่ไหวเอาได้ ครับ เสียเครดิตอีก
เดี๋ยวจะเดือนชนเดือน และ รถ ครับ ค่าใช้จ่ายแฝงเยอะครับ
ลองอดทนก่อนสักพักนะครับ ตอนนี้ก็ ท่านก็อดทนมาได้ระดับหนึ่งแล้ว ลองอดทนต่ออีกสักนิดนะครับ
แต่!! หากท่านมีความรับผิดชอบ และ มีวินัยในการเงิน มากพอ ลองวิธีนี้ดูก่อนครับ
ลองดูครับ ภายใน 6 เดือนข้างนี้ ลองเก็บเงิน เท่าค่าผ่อนรถ นะครับ แล้ว+ เพิ่มไปอีกเดือนละ 2500 บาท เป็นอย่างต่ำ (เก็บเพื่อไว้สมมุติว่าเป็นค่าแก๊ส ส่วนต่างเอาไว้เป็นค่าใช้จ่าย ในอนาคต ประกัน, พรบ ,ค่าบำรุงรักษา) หากท่านทำได้โดยไม่กระทบค่าใช้จ่ายปัจจุบัน ก็จัดเลยยย ครับ
ปล.ใจเย็นๆ นะ อย่ารีบ รีบทีไร คิดได้ทีนี่หลังมันช้ำใจ ดูจากราคารถท่านที่จะเอาแล้ว ส่งจริงๆ นี่เพิ่มเงินนิดหน่อยได้รถ ใหม่เลยนะครับบ
สู้ๆ นะครับ เป็นกำลังใจให้
ใช่เลยคับ! ผมก็คิดและอยากจะแนะนำแบบนี้
ผมผ่านความรู้สึกแบบนั้นมาแล้ว ตอนเข้ามหาลัยปี1 จากบ้านไปกลับมหาลัย นั่งทั้งรถเมล์-รถตู้-รถไฟฟ้า เหนื่อยมากคับ
บอกที่บ้านว่าอยากได้รถ ซึ่งจริงๆทางบ้านก็จะซื้อให้ลูกๆกันอยู่แล้ว แต่ละคนได้อิสระเลยว่าจะเอารถอะไร (ในงบที่ท่านกำหนด)
พี่ผมสองคนเลือกBMWมือสอง คนนึงเครื่องเดิม อีกคนเครื่องเจ มีหรอที่ผมจะไม่อยากได้รถยุโรป (แต่ใจผมชอบเบนซ์มากกว่านะ)
สรุป!
...
..
แท็กซี่
ผมก็ขับไปเรียนตามปกติเหมือนนศ.คนอื่นๆนั่นแหละคับ เวลาว่างจากเรียนก็เอาไปขับรับผดส. จนในที่สุดผมก็สามารถหาเงินไปคืนคุณพ่อคุณแม่ได้ทั้งหมด
มากไปกว่านั้นคือ ไม่ต้องรบกวนเงินทางบ้านอีกเลย อยากซื้ออะไรก็หาเงินเอาเอง รู้สึกภูมิใจมากกับน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง
แต่ก็ยอมรับเลยคับว่ามีอายๆบ้าง เพราะในหาวิทยาลัยรถผมนี่โ_ตรประหลาดเลย จอดที่คณะนี่เด่นมาก555
ผ่านมาก็3ปีกว่าแล้วจากวันนั้นที่ซื้อแท็กซี่ เพิ่งจะเรียนจบรับปริญญาไปปีที่แล้ว ตอนนี้ผมมีรถแท็กซี่ของตัวเองอยู่ 3 คัน
สลับกันใช้เองและก็ปล่อยเช่า แต่ผมก็ทำงานบริษัทด้วยนะคับ เพราะผมคิดว่าถ้ายังมีกำลังหาได้ ก็หาให้เต็มที่ไปเถอะ เพื่อวันข้างหน้าที่สบาย จะได้มาถึงเร็วๆ
ยังไงผมก็ต้องขอบคุณทางบ้านที่ให้การสนับสนุน และเป็นต้นทุนให้ผมก่อน ทำให้ผมมีวันนี้ได้
ความคิดที่ทำงานระหว่างเรียนน่ะดีมากแล้วคับน้อง แต่อย่าเพิ่งหาภาระมาใส่ตัวเอง(และครอบครัว)ตอนนี้เลย อดเปรี้ยวไว้กินหวานดีกว่า
ช่วยแบ่งเบาคุณแม่ด้วยเรื่องอื่นแทนก็ได้คับ ไม่จำเป็นต้องขับรถขนของให้เค้าเท่านั้นหรอกเนอะ