Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ?????? ที่ เมษายน 02, 2009, 18:27:52
-
พอดี มีประเด็นกับเพื่อนอยู่ครับ
ว่าถ้าจะสตาร์ทรถ เกียร์ธรรมดา ต้องเหยียบครัช แล้วค่อยปล่อย
หรือว่าไม่ต้องเหยียบครับ
แล้วมีผลต่อเครื่องยนต์ยังไงครับ
-
มันจะมีผลอะไรกับเครื่องรึป่าวผมไม่ทราบ(แต่ผมว่าไม่นะ ถ้าไม่เข้าเกียร์ไว้)
แต่เท่าที่ทราบรถรุ่นใหม่ๆเค้าบังคับให้ต้องเหยียบครัชก่อนจึงจะสตาร์ทรถได้ครับ
ถ้ามีอะไรผิดพลาดก็แย้งได้นะครับ ;)
-
มีผลกับเครื่องยนต์รึเปล่าผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน รู้แต่ทำเพื่อป้องกันไม่ให้รถมันกระตุกในกรณีที่บังเอิญเข้าเกียร์ไว้โดยไม่ตั้งใจ เพราะเคยมีกรณีกะที่บ้าน ตอนเด็กผมชอบขึ้นไปเล่นบน E30 ของพ่อ วันเกิดเรื่องก็อยู่ดีๆ ได้ยินเสียงโครมเบ้อเริ่ม อ้อ บ้านผมเป็นตึกแถว รถเลยจอดอยู่ในบ้าน พอลงมาดู ก็เห็นบีเอ็มคันงามอัดเข้ากับโต๊ะนั่งที่วางไว้ประมาณสองเมตรจากรถ สาเหตุคือ พ่อเป็นคนสตาร์ทรถพร้อมเหยียบคันเร่ง เพื่อให้สตาร์ทติดง่าย ส่วนเกียร์ดันอยู่ที่เกียร์หนึ่ง อาจจะด้วยความซนของผมที่ขึ้นไปเข้าเกียร์เล่นบนรถหรือไม่ก็ความเมาของพ่อตอนขับรถเข้าบ้าน พอพ่อสตาร์ทพร้อมเหยียบคันเร่งตามนิสัยที่ทำปกติ รถก็พุ่งซัดโต๊ะเข้าเต็มๆ ดีที่รถไม่เป็นไร เพราะกันชนหนา ส่วนโต๊ะเหล็กก็ยุบ นี่ถ้ามีคนนั่งอยู่ที่โต๊ะคงโดนอัดเข้าไปแน่ หลังจากนั้นก็เลยจำขึ้นใจเลยว่า เวลาสตาร์ทรถเกียร์ธรรมดา ผมจะเหยียบคลัชและเบรคไว้ ส่วนเกียร์ออโต ผมก็เหยียบเบรคทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยไว้ก่อน ;)
-
เคยสตาร์ทรถเกียร์ธรรมดาครั้งแรกเมื่อสามปีมาแล้ว
เป็น Vigo 3.0 อะคับ ของโรงงานลุง
้เค้าก็บอกนะว่าเหยียบคลัทช์ด้วยๆ แต่พ้มก็ไม่เหยียบ >:(
ปรากฏว่าสตาร์ทปุ๊ป พุ่งเลย เพราะเค้าใส่เกียร์หนึ่งค้างไว้ ดีไม่ทันชนอะไร เหยียบเบรก รถหยุด เครื่องดับก่อน
หลังจากนั้นก็เหยียบตลอดเลยคับ ด้วยความกลัว
ส่วนสตาร์ทเกียร์ออโต้ปกติก็จะเหยียบเบรก แต่ถ้าสตาร์ทแบบเป็นแอร์ก่อนค่อยเข้าไปนั่งก็ไม่เหยียบ
-
ไม่ต้องเหยียบก็ได้ครับ
เว้นแค่รถหรูๆ บางคันต้องเหยียบ
เหตุผลก็เพื่อความปลอดภัยครับ
เพราะถ้าคาเกียร์อยู่ พอสตาร์ท รถก็จะพุ่งไงครับ
แต่ผมก็เหยียบน่ะ มันติดเป็นนิสัยแล้วอ่ะ
-
ปกติผมขับเกียร์ธรรมดาแต่ไม่เคยคาเกียร์ไว้ที่เกียร์ 1 เลยครับ...ไม่รู้ที่ไหนสั่งสอนมาให้คาเกียร์ไว้ที่เกียร์1 นะ.....แต่ตั้งแต่ขับรถมาสิบกว่าปี พ่อผมสั่งสอนมาว่า
ถ้าเกียร์ธรรมดาให้ปลดเกียร์ไว้ที่เกียร์ว่าง และขึ้นเบรกมือไว้ทุกครั้งครับ....
-
ปกติผมขับเกียร์ธรรมดาแต่ไม่เคยคาเกียร์ไว้ที่เกียร์ 1 เลยครับ...ไม่รู้ที่ไหนสั่งสอนมาให้คาเกียร์ไว้ที่เกียร์1 นะ.....แต่ตั้งแต่ขับรถมาสิบกว่าปี พ่อผมสั่งสอนมาว่า
ถ้าเกียร์ธรรมดาให้ปลดเกียร์ไว้ที่เกียร์ว่าง และขึ้นเบรกมือไว้ทุกครั้งครับ....
โรงเรียนสอนขับรถหลายๆ แห่งก็สอนให้จอดรถคาเกียร์ครับ เหมื่อประมาณ 20 กว่าปีก่อนตอนที่คุณแม่ของผมไปเรียนขับรถ ครูเค้าก็สอนให้จอดรถคาเกียร์ครับ
และผมก็มองว่า การจอดรถคาเกียร์ก็ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายประการใด อย่างเช่นที่จอดรถที่บ้านผมเป็นทางลาดชัน และที่จอดก็คือ Toyota corona T130 อายุก็ปาเข้าไปจะเลข 3 แล้ว... มีหลายๆส่วนนั้นเสื่อมสภาพ การดึงเบรคเมื่อและเข้าเกียร์ว่างบางที รถยังไหลได้เลย!!!!!... ดังนั้นเมื่อจอดผมจึงคาเกียร์ไว้ตลอด
การจอดไม่จำเป็นต้องคาไว้ทีเกียร์ 1 เสมอไปหนิ ... อาจจะคาไว้ที่เกียร์ถอย หรือเกียร์สูงๆ ก็ได้ เวลาพุ่งจะได้ออกไม่แรง ฮ่าๆๆๆๆ
-
ที่เขาให้คาเกียร์เพราะสมัยก่อนเบรคมือมันไม่ดี บางคันมันไม่มีซะด้วยซ้ำครับ >:(
ทางที่ดี ปลดเกียร์ว่าง ขึ้นเบรคมือ ปลอดภัยกว่าครับ
-
เหยียบไว้ก็ดีครับ เหตุผลเรื่องความปลอดภัยครับ
-
มันอันตรายที่สุดก็ตรงที่ว่า คนขับประจำไม่ได้ัขับครับ เช่นคนขับประจำชิน เข้าเกียร์ 1 ไว้ แล้วไปคาร์แคร์
ทีนี้เด็กรับรถไม่ชิน อาจจะลืมดูคันเกียร์ บิดกุญแจสตาร์ท รถพุ่งไปเสยรถคันอื่นที่มาใช้บริการ....มันมีเคสแบบนี้แล้วหล่ะ
และปัจจุบัน รถเกียร์ธรรมดาทุกรุ่นมีเบรกมือที่ดีหมดแล้ว ดังนั้นการคาเกียร์จึงไม่ควรทำนะครับ ควรเข้าเกียร์ว่างและขึ้นเบรกมือครับ
ส่วนการจอดรถทางลาดชัน ผมว่าจอดสนิทขึ้นเบรกมือก็อยู่แล้วครับ เว้นมันสาหัสจริงๆ ก็ค่อยพีกไว้ที่เกียร์1 หรือ 2 จริงไม่ต่างเลย
คือถ้าพลาดนะไม่ว่าหนึ่งหรือสอง รถจะกระชากออกไปครับไม่ว่าเกียร์อะไร(ถ้าคนขับไม่ได้เหยียบครัช)
กฎเกณฑ์ต่างๆ มันจะเปลี่ยนไปทุกยุคทุกสมัยครับ ดูอย่างเกียร์ออโต้สิ แต่ก่อนจะ P>R>D ก็กดปุ่มแล้วยกได้เลย
ปัจจุบันอย่างนิสสันและยี่ห้ออื่นๆ มันมีเซฟตี้ มีโซลินอยที่ล๊อกเกียร์จาก P ไว้กรณีถ้าไม่เหยียบเบรกก็ดึงจาก P ลงมาไมไ่ด้ อะไรทำนองนี้
และอย่างจอดรถ ถ้าเข้า N ไว้ ก็ดึงกุญแจออกมาจากเบ้าไม่ได้เพราะต้องทำการปรับตำแหน่งเกียร์ไปที่ P อะไรแบบนี้น่ะครับ
สังเกตุมั๊ยว่า กฎเกณฑ์ต่างๆ รถจะต้องอยู่ในลักษณะที่เกียร์อยู่ในตำแหน่งเกียร์ที่ไม่ได้ขับเคลื่อน (เกียร์ว่าง เกียร์ P)