Review : REMAP เรียกความแรงด้วยงบเบาๆ All New D-Max 2.5 AT

[the kit]

ศูนย์ที่ผมซื้อ “มัด-แตง” โทรมา
“ขอเชิญลูกค้า VIP ที่เป็นเจ้าของมัสแตง มาทดลองขับ New Raptor ค่ะ....บลาๆๆๆ ”

พอดี มีธุระ “เข้ากรุงฯ” เช่นกัน
เชิญมาก็ไปสิคร๊าบบ..

หัวหน้าเซลล์ : สามารถลองได้เต็มที่เลยนะครับ เพราะ คุณลูกค้าเป็นเจ้าของมัสแตงอยู่แล้ว เล่นรถแรงอยู่แล้ว ย่อมสามารถคุมรถแรงได้ดี
ผม  : ได้ๆ
แต่คิดในใจว่า   ใช่ว่า คนขับรถแรงแล้วต้องขับรถเก่งเสมอ?? และอีกอย่างคุณมั่นใจแค่ไหนว่า เขาไม่พาคุณไปเจออุบัติเหตุ!!

ตอนลอง โหมดต่างๆ ที่ให้ก็ใกล้เคียงกับในมัสแตงที่มีเลย เล่นได้ใกล้เคียงกัน

รถแรงนะ กดแป๊ปๆ 140-160
ช่วงล่าง “ดีมากกกก” ไม่แข็งเท่ามัสแตง แถม “รูด” ได้ด้วย

ผมว่า “แรงใกล้เคียงกับมัสแตง” เลยนะ
“มัสแตง ยกสูง”

ลองพอ “หอมปาก หอมคอ”
กดๆ อัดๆ แบบนี้ “แดกเช็ด” นะเนี่ย
กินกว่า “มัสแตง 2.3” เยอะเลย

เห็นฟังมาจากในกลุ่มเฉพาะมัสแตง
“เขาว่า” ซดกว่า มัสแตง 5.0 พอควร

5.0 อัดๆ จะอยู่ประมาณ 5.5-6 กม./ลิตร
แต่ Raptor Benzine 3.5-4 กม./ลิตร
ส่วน มัสแตง 2.3 Ecoboost จะอยู่ประมาณ 7-8 กม./ลิตร

โดยรวม Raptor Benzine
อัตราเร่งดีมาก
ช่วงล่างดีมาก
เบรกดี
ติ อย่างเดียว คือ “แดกเช็ด”

จ่ายเงิน “แค่นี้!!” ได้เยอะขนาดนี้ เอาไว้ “ขับเล่น ขับลุย”  ผมว่า “คุ้ม”
แต่ถ้าใช้เป็น “Daily Use” คงบอกได้แค่ว่า “แล้วแต่อัฐ”
เพราะเรื่องเงินนี่ มันเปรียบกันยาก เงินหลักหมื่นของบางคน แค่เพียงไม่กี่ชั่วโมง หรือไม่กี่นาที เขาก็หาได้!!
เพราะ เห็นเจ้าของหมู่บ้าน “เพื่อนซี้ (ซั๊ว)” ของผม เจ้าของรถตัวจริง บอกมาว่า...
ขับแบบประคองๆ เบาๆ ยังไงก็ไม่ดีไปกว่า “8 โลลิตร!!” นะ

Raptor นี้ มันสามารถใช้ได้ทุกวันจริงๆ รถสูง ขับสบาย ไม่ต้องระวังมาก
มันไม่เหมือนพวก “ซุป-คาร์” ที่เห็นไม่ค่อยเอาออกมาวิ่ง
ไม่ใช่เพราะอะไร..

รถมันเตี้ย-แบน-กว้าง ราคาสูงมาก และ ถ้าผู้ที่เป็นเจ้าของ ที่ค่อยๆ สะสม ค่อยๆ หามาเอง
ไม่ใช่ “เงินเตี่ย-เงินม๊า-เงินอากง-เงินอาม่า” อาจจะรวมไปถึง “เงินพิเศษ”  และอื่นๆ สายเทาๆ ดำๆ ก็ตาม”

กว่าจะได้ขับ ก็มักจะ “ส.ว.” พอควร
พอถึงวัยนี้ การขึ้น-ลง รถ เตี้ยๆ แบนๆ
“ไม่ง่าย”

แต่ก็อย่างว่า “ความฝันในวัยเยาว์ เป็นแรงผลักดัน ให้ซื้อความสุข ในช่วงสูงวัย” ได้
ถึงแม้ว่าตอนนี้  ได้ขยับนิดๆ ดูๆ ดมๆ ก็คงจะ “ชื่นใจ” แล้ว

อย่างว่า มี “3 สิ่ง” ที่น้อยคนจะได้มันมาพร้อมกัน
นั่นคือ “เงิน, เวลา และสุขภาพ”
มันจะมา ไม่ค่อยพร้อมกัน “ต่างกรรม ต่างเวลา”
ยกเว้น คุณจะเป็น “กุมารเศรษฐี”


ไหนๆ ไปลองรถที่โชว์รูม Ford แล้วก็ขอลอง New Everest ด้วยเลย
ช่วงล่างดี  เครื่องเงียบมาก อยู่ในรถ ไม่บอกก็นึกว่าเบนซิน
อุปกรณ์ต่างๆ ให้มา “เหลือเฟือ”

โอ้ว.. ทุกอย่าง เมื่อกลับไปมอง PJS 2.4 4WD 2015 ที่ใช้อยู่แล้ว
เจ้า EVE มัน เหนือกว่าทุกด้านจริงๆ

ยกเว้น!!
ระบบขับเคลื่อน 4WD นี่ล่ะ ที่ยังกิน PJS ไม่ลง!!

ผมเข้าใจเองว่า ตอนไมเนอร์ AWD น่าจะมีมาให้นะ
คือ จะมีให้ในตอนนั้น เพราะ “พี่หญ่ายยย” กำลังเปิดตัว
ถ้าตามที่ HLM ว่า คือ ปลายปีหน้า 2023
ถ้า ไม่เจอการ “ชิพท์-หาย” นะ!!
รอดูไปครับ

การขับขี่ เท่าที่ผม ได้ลองสัมผัสมา ในหลายรุ่น ทั้ง รุ่น Top และไม่ Top
โดยรวมและโดยส่วนตัว ผมชอบ New EVE, PJS, MuX และ FTN ตามลำดับ
ส่วนใครจะชอบยังไง อันนี้ “ตูดใคร ตูดมัน ฟีลใคร ฟีลมัน” นะ  ไม่ถูก ไม่ผิด..

ก่อนออกจากศูนย์ หัวหน้าเซลล์ถามว่า :   สนใจจอง Raptor เลยไหมครับท่าน..?
ผม : ยังก่อนครับ ผมมี Dmax เก่าๆ อยู่แล้ว ถ้าเบื่อมัน และอยากแรง เดี๋ยวจะเอามัสแตงไปยกสูง!!   อิอิ

 Whether you think you can or you think you can’t, you’re right. – Henry Ford

[Weetting]

ยังตามอ่านอยู่นะครับ 

 

[mayinlove]

สนใจ remap ครับ รบกวนแนะนำRemapขอนแก่นหน่อยนะครับ

[the kit]

สนใจ remap ครับ รบกวนแนะนำRemapขอนแก่นหน่อยนะครับ

ที่ ตจว. ไม่ทราบจริงๆ
เอาที่ผมรีวิวนี้ ในตอนต้นเป็น "Guideline" ได้เลยครับ

แนะนำว่า ลองพูด ลองคุย ลองถามดู "ถูกจริต" คนไหน ก็คนนั้นล่ะครับ
ส่วนจะดีไม่ดี อันนี้ ผมไม่ทราบนะ

หรือลองถามสมาชิกใน Discussion Forum ดูนะ

[the kit]

555 พูดเล่นๆ แต่มีคนทำจริงๆ
“มัสแตง ยกสูง”
รถสปอร์ตทางเรียบ แต่เอาไปแต่ง “ออฟโรด” ซะงั้น
ตอนแรก นึกว่าจะมีไม่เยอะ
ไปๆ มาๆ “911” ก็เอากับเขาด้วย
รายนี้เป็นเรื่องเป็นราวเลยทีเดียว
อย่างว่า ความคิดของ “ฅ” ไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ

พอพูดถึงเรื่องนี้ ผมมีเรื่องของ “รุ่นพี่” ที่สนิท มา “เม้าท์” ให้ฟัง

พี่คนนี้ เป็นรุ่นพี่ผม “สิบกว่าปี” ขอใช้ชื่อย่อว่า “ม”
พี่ ม. เป็นลูกชายคนโตของบ้าน ทางบ้านฐานะดี ระดับเศรษฐี แถวพื้นที่ๆ ผมอยู่
สมัยผม “ละอ่อน” พี่แกก็หนุ่มเฟี้ยวแล้ว
แกเป็นคน “ชอบแต่งรถมากกกกกกกกกกก”
แต่แกจะมี “ความพิเศษ” กว่าคนอื่น??  ส่วนจะพิเศษยังไง
อ่านต่อไป เดี๋ยวก็รู้..

สมัยนั้นแกมี L200 Cyclone หัวเดียว (สมัยนั้น “แคป” ยังไม่เกิด)
แกเอามาแต่งสไตล์ .”Rallycross” กึ่งยก-กึ่งโหลด ใส่กันโคลนแดง
ล้อ OZ ยางสโนว์  ตัดท้ายกระบะให้สั้น น่าจะ “ฟุตกว่าๆ”
ผูกโบ ท่อตรง
สวยเลยล่ะ ในสายตาผมในตอนนั้น

ตอนนั้น ผมน่าจะขับ “Subaru GFT1800 ” นะ

จากนั้น พี่ ม. แกก็ไปจับ impresa มาคัน แต่เป็นแค่เครื่อง NA ขับสอง
ผมก็ งง ว่าทำไมไม่จับเอาตัว Turbo มาเลย
อย่างว่า พื้นฐานแก เป็นคนชอบแต่ง ชอบทำ
อะไรที่มันสำเร็จรูปมา “มันคงไม่สนุก!!”

พี่แก มีรึจะอยู่เฉย..
ไปหาเอา “รถตัด” จากเชียงกงมา
Im Turbo 280 คอแดง พร้อมเกียร์ 6 สปีด
Top สุดของรุ่น ณ ตอนนั้นมาดัดแปลงใส่

การดัดแปลงไม่ยาก เรียกได้ว่า “แทบจะร้อยน็อตใส่” เลยทีเดียว

ใส่เครื่องเสร็จ ก็ต้องมี Body part สวยๆ มาเติมเต็ม
STi แท้ ยกชุด ทั้งเกจ์วัด เบาะ และ นู่นนี่นั้น มาครบ!!

บอกแล้ว คนมีตังค์ “เนรมิต” ได้

ยังๆ ไม่พอ แกยังไปหา Im หัวตัด มาเพิ่มอีกคันไว้เป็นอะไหล่
แกมีโกดัง เก็บรถและของแต่ง ขนาดใหญ่เลย
อะไหล่และอื่นๆ ต่างๆ ของรถหลายคันของแก มี “สำรอง” น้องๆ เชียงกง!!

ช็อคอัพมือสอง
แปลกไหม???
“ไม่แปลก ธรรมดามาก”

ใครก้ซื้อ ก็หามาใช้กันได้ ตามปกติ
แต่ที่แปลก คือ “ช็อคอัพ” ที่แกซื้อมา มันแตก มันรั่วมาแล้ว ทั้งๆ ที่แกก็มีตังค์ และสามารถหา สภาพปกติได้!!??

แกบอกจะเอามาโมใหม่??!!
สภาพเดิมๆ มันไม่เพียงพอกับ “มือ ตีน” ของแก!!

คนที่โม ไม่ใช่ใคร “อดีตเพื่อน” ของผม ที่เป็นลูกร้านท่อไอเสีย ที่เคยเล่าให้ฟังไปนั้นเอง
ไอ้อดีตเพื่อนนี่ “มันไม่ได้” จบช่างยนต์ หรือ ได้ไปทำงานกับบริษัท ช็อคอัพชั้นนำ หรือเครื่องยนต์แต่อย่างใด!!
มันจบแค่ “ปวช. ช่างเชื่อม” นะ

แต่ไอ้นี่ มันก็มีความสามารถใน “การโม้” ระดับเทพ
“โม้” นะ  ไม่ใช่ “โม”!!
เมื่อไม่นานนี้ ผมฟังมาจากปากคนรู้จักว่า มันสามารถ
“อ่านญี่ปุ่นออก Wiring สายไฟ ที่มารวมๆ เป็นกระจุกๆ หลายร้อยเส้นได้!!”
เอากะมันซิ!!
ส่วนจะจริงหรือจะโม้ ผมก็มิอาจทราบได้ เพราะ ไม่ได้คุยกัน ฟังเขามาอีกที

 ตอนนั้น ผมได้เขาไปดู “กรรมวิธี” ในการโมช็อคอัพด้วย
เริ่มจาก...
เอาหินเจีย ตัดที่กระบอกช็อคออก เพื่อจะเปลี่ยนน้ำมันและซีล
ดีที่มันไม่ระเบิดจากแก็สที่อัด หรือมันรั่วออกหมดแล้ว ก็มิอาจทราบได้..

ซีลหาเทียบเอา อะไรที่ขนาดมันได้ก็เอาอันนั้นล่ะ ไม่ต้องไปสนว่า เดิมมันใช้อยู่กับอะไร
แต่ที่ “ฮา” ที่สุด คือ น้ำมันที่กรอกเข้าไป

ไม่รู้สูตรไหน  แต่ผมขอเรียกว่า “สูตรเตี๋ยว!!”
มันไม่ใช่ “น้ำมันไฮโดรลิค” หรือ น้ำมันอะไร ที่ใช้เกี่ยวกับช็อคอัพทั้งนั้น
แต่เป็น น้ำมันเครื่องใช้แล้ว กับน้ำมันเฟืองท้ายใช้แล้ว ผสมกันแล้ว เติมเข้าไปแทน!!
“เอากับเขาซิ”

บ.แม่ของ G/A/B เห็น คงต้องมาขอดูงานกันยกใหญ่!!
แต่สูตรนี้ พี่ ม. บอกว่า “มันหนึบดีนะ!!??” เดิมๆ มาจากญี่ปุ่น สู้ไม่ได้!!!
“ว่าซ้านนนนนนนนนน.....................”

เครื่อง “คอแดง” ของรถคันนี้ ก็หาเดิมๆ ไม่
ใส่กล่องต่างๆ และอะไรเข้าไปตามยุค
ตัวปรับบูสถ์ ปรับน้ำมัน “ต้องมี”

แคมพอก แคมเจีย
.
เทอร์โบไปหยิบยืมของรุ่นไหนมาไม่รู้ เอามากลึง “ปากใบ” ให้ใหญ่ขึ้น แบบกรวยไปจนถึง ใบเทอร์โบ!!
สูตรนี้ ได้มาแต่ใด??
พี่ ม.บอกว่า “ในสนาม รถสูตร เขาใช้กัน”
“ต้นจัด ปลายไหล ไม่รอรอบ...??!!”
สนามไหน สูตรไหน ไม่รู้ แต่ตาม “คุณค่าทางใจ” พี่เขาว่า “แรงงงงงงงงงงงงงงงงงง”

ล้อสำหรับคันนี้ น่าจะมีไม่ต่ำกว่า 3-4 ชุด เอาไว้ใส่ “ต่างกรรมต่างวาระ”
1.ล้อ 16 ยางสโนว์
2.ล้อ 17 ยางสปอร์ต
3.ล้อ 18 แม็ก Prodrive ยางสลิค เห็นว่าขอซื้อมาจาก พีระเซอร์กิต
และอื่นๆ

ยางสลิคมือสอง นี่พี่แกมี น่าจะเกิน 20-30 เส้น เพราะไปขอซื้อเหมาจากรถแข่ง “Thailand Circuit”
ยางสลิค เอามาไว้วิ่งบนถนนหลวง ถนนปกติ!!
“เอากะเขาซิ”

เช้าใส่ยางสโนว์  ค่ำๆ ไปเที่ยวใส่ยางสลิค!!
แกว่าง วันๆ เปลี่ยนแต่ล้อ!!

ผมสนิทกับแก แกชวนผมไปเที่ยวบ่อย นั่ง “อิม” นี่ล่ะไปเที่ยว
แกว่า : ยางสลิคนี่เกาะหนึบจริงๆ!!??

เกาะจริง ถ้ามันอยู่ในสนามแข่ง บนพื้นที่สะอาด ไม่มีน้ำมันเครื่อง ไม่มีกรวด ไม่มีน้ำ
แต่นี่มันบนถนนสาธารณะ มีทุกอย่าง “คาดเดา” ไม่ได้
ถ้าไม่ใช่ “ระบบขับสี่ที่ดี” ในอิม
ต้นไม้และเสาไฟ หลายต้น “ถูกโค่น” ลงแล้ว!!

หลายครั้ง ตอนไปเที่ยว ฝนยังไม่ตก แต่ขากลับฝนตก
“ขับสี่” ก็ช่วยอะไรไม่ได้
เหมือน “ปลาตีนเดินบนเลน” ลื่นไปลื่นมา ได้แต่จอดอย่างเดียว..

รถคันนี้ ถูกจูนด้วย “สูตรเตี๋ยว”
มันวิ่งได้ มันแรงอยู่ แต่ถ้า “ถูกสูตร” มันควรต้องแรงกว่านี้เยอะ
ตีนปลายไม่รู้ได้เท่าไร แต่ฟังจาก พี่ ม. แกว่า “สองสี่ สองห้า ยังเหลือ!!”

ส่วนจริงๆ ตีนปลายมันจะวิ่งได้เท่าไร
“ผมก็ไม่รู้”
พี่ ม. บอกมาว่าไงก็ว่างั้นแล้วกันนะ

แต่ที่ผมรู้ รู้แน่ๆ ว่า คันนี้ “แดกเช็ด”
เครื่อง 2 ลิตร ขับแค่ 140-150 กินอยู่ที่ “ห้าโลลิตร”
แถม “คลัชท์หนักมากกกกกก”
ไม่หนักได้อย่างไร
“Triple Plate” แถมโมสปริงกดคลัทช์
เบ็ดเสร็จ หนักกว่า ขับ “สิบล้อ” รุ่นเก่าๆ!!

เคยช่วยแกขับ ในกทม. อยู่ครั้ง
กระโดดแบบกบ พร้อมจะใส่ตูดคันหน้าทุกเมื่อ
เพราะออกตัว รอบปกติไม่ได้ แถมคลัทช์แข็ง
ต้อง “สองพันขึ้น” ถึงจะไม่ดับ แค่รอบเดินเบาก็ปาเข้าไป “พันสอง-พันสี่” แล้ว

คันนี้ ถ้าขับนานๆ ลงมานั่งอยู่เฉยๆ
พวกกันจะนึกว่า “อะไร มึงจะมีดนตรีในหัวใจขนาดนั้น”
ขาซ้ายจะเขย่าๆ และสั่น อยู่ตลอด!!


ถัดจากคันนี้ พี่ ม. ก็มี
Pajero Shogun ตัว Top เครื่องเบนซิน มาเป็น “ที่ลง” ให้แก
บอกแล้วว่า “พี่ ม.” ไม่ใช่ “คนธรรมดา”
“ธรรมดา โลกไม่จำ”

รถช่วงล่าง “Coil Spring”   แกก็มาเปลี่ยนเป็น “แหนบ”
ไอ้เปลี่ยนแบบนี้ ก็ยังพอเข้าใจว่า “เน้นลุย”

แต่ๆๆๆ
เกียร์ออโต้  แกก็มาเปลี่ยนเป็น ธรรมดา
เครื่องเบนซิน ก็มาเปลี่ยนเป็น ดีเซล

เขาบอกซ้าย  พี่แกจะไปขวา
เขาบอกไปหน้า  แกก็จะถอยหลัง
จะเหลือเชื่อฟัง แต่โดยดี ก็ตอน “ติดเด็ก” ใหม่ๆ นี่ล่ะ
“ชี้นกเป็นไม้  ชีไม้เป็นนก”

รถคันนี้ทั้งคัน เหลือแค่ “กระดอง” กับภายใน
เบาะไม่เดิม มีของเหลือจาก “อิม”
รถคันนี้ใส่ “วินซ์” หน้า-หลัง ครบ

แอบแซวแก “พี่ไม่ใส่วินซ์ ซ้าย-ขวา ด้วย??”
 แกว่า : “ไม่ได้ๆ เดี๋ยวมันดึงตัวถังและแชสสีย์ฉีก”
“เดี๋ยวเสริมแชสสีย์เพิ่มและทำตัวยึดดีๆ ก่อน ว่าจะใส่เหมือนกัน!!!”

เอากับพี่เขาสิ!!  บอกแล้ว “ธรรมดา โลกไม่จำ”

เมื่อก่อน ผมไปป่ากับแก และผองเพื่อนบ่อยเหมือนกัน
รถใคร รถมัน  ไปกันราวๆ 5-6 คัน

“ตังค์เหลือ” หาเรื่อง พังรถเล่น!!

ขับเข้าป่า ต้องขับช้าๆ จะให้ดีต้องมี “คนนำทาง”
พวกผม เข้าป่าแบบ “คุณหนู” เพราะ พก “พลรับใช้” ไปด้วยกันหลายคน
ไป 2-3 วัน แต่พกอาหารการกินและเครื่องดื่ม ยังกับไป “ครึ่งเดือน”
ออกจากป่า แค่เพียงเพื่อมาหาซื้อ “น้ำแข็งและโซดา” ก็บ่อยไป..

“ยุทโธปกรณ์” ครบครัน ตั้งแต่ เบา ไปยัน หนัก
คลังแสงเคลื่อนที่ พกกันไปที ว่ากันเป็น “พันนัด!!”
ทั้ง ติดลำกล้อง, Pointer แถมยังมี Silencer ด้วย!!

“กองกำลังไม่ทราบฝ่าย”

เข้าป่าโดยมาก จะวิ่งกันด้วย “โฟว์โล” เกียร์ 1-2 แค่นั้น

แต่พี่ ม. แกขับเข้าป่า เหมือนขับ Rally
ไอ้เพื่อนซี้ผม “เจ้าของหมู่บ้าน” ไอ้นี่ก็อีกคน
“ลูกบ้า” อันเดียวกัน  ถ้าไม่บอกก็จะนึกว่า “คนเดียว ขับสองคัน”

ไม่ต้องห่วง ทั้งสองคันนี่ พังแทบทุกครั้ง ที่เข้าป่า
และหลายครั้ง ก็พังอยู่ในป่า ต้อง “ลากศพ” ออกมาก็บ่อย!!
จนถึงขนาดว่า ในกลุ่มต้อง “ร้องขอ” อย่าขับแบบนั้น
ถ้าเป็นแบบนั้นอีก ทิ้งไว้กลางป่าจริงๆ ด้วย..

ถึงตอนนี้ พี่ ม. ก็รับเงิน “คนชรา” มาหลายปี
สมบัติที่มี มันก็ลดน้อยลง เพราะ พี่ท่านสบายมาตั้งแต่หนุ่ม

ตอนนี้มีเมียใหม่ คนที่เท่าไร จำไม่ได้
แต่ “สิบนิ้วมือ สิบนิ้วเท้า” ไม่พอนับ
นี่เฉพาะเมียนะ เด็กๆ ไม่นับ!!

แกก็ยังคงเป็นแกอยู่ “ไม่เคยลดน้อย ถอยลง”
ก็ขอให้ พี่ท่าน “แข็งแรง อยู่แบบธรรมดาโลกไม่จำ เช่นนี้ ไปนานๆ นะพี่”

เอาไว้ผมจะเอา “มัด-แตง ไปยกสูง” เมื่อไร
พี่ ม. จะเป็น “ที่ปรึกษา” ลำดับต้นของผมเลย..
“พี่ ม. คนเหนือโลก”

พี่ ม. ฝากมาบอกว่า...
I am not a product of my circumstances. I am a product of my decisions. – Stephen Covey
สิ่งที่ฉันเป็น มาจากการตัดสินใจของฉันเอง ไม่ได้มาจากภาวะแวดล้อมตัวฉัน

และ
ไม่ได้เจ้าชู้  แค่ยังไม่รู้จะเลือกใคร..

เป็นให้เธอได้ทุกอย่าง ยกเว้น “เป็นปกติ”   

[the kit]

ผมว่าใน “HLM” นี้ น่าจะมี “นักเล่นนาฬิกา” อยู่พอควรนะ..
มี “จดหมายน้อย” ทักมาว่า “เรือนใหม่อีกแล้วเหรอพี่?

จะว่าใช่ ก็ไม่เชิง
จะว่าเชิง ก็ไม่ใช่!!??

คือ จริงๆ ผมเคยมีรุ่นนี้ สีนี้ สายแบบนี้ ตั้งแต่มันเปิดตัวใหม่ๆ เมื่อ 2-3 ปีมาเห็นจะได้นะ
แต่ก็ได้ขายไป เพราะ พอใช้ไปสักระยะ รู้สึก “ไม่ถูกใจ” ในสีขอบของมัน
ในรุ่นแรก สีแดง มันจะไม่แดงสด มันจะออก Shocking Pink,  ส่วนสีน้ำเงินมันก็จะออก “ฟ้าเข้ม” ซะมากกว่า
แต่นี่รุ่นปัจจุบัน สีมันสดได้ใจมากกว่า เลยต้อง “หวล” กลับมาซื้ออีกรอบ
 เรือนนี้ สั่งไว้นานนนนนนแล้ว......

เดี๋ยวนี้
โดยมากเกือบทุกเรือนของผม ตั้งแต่ช่วงโควิดนี้ มักจะออกจาก RL AD Thailand
ไม่ใช่ เพราะอะไร
“ราคา” ก็ส่วนหนึ่ง และ Connection ที่ดีอีกส่วนหนึ่ง

ผมได้จาก RL AD TH ราคาดีกว่าของหิ้ว แต่ก็แพงกว่า “ราคาตั้ง!!??”

ทำไมแพงกว่า ราคาตั้ง?
ตั้งแต่ช่วงมี “โควิด” มา
มันทำให้อะไรๆ บนโลกใบนี้ “บิดเบี้ยว” ไปอีกเยอะ..

สำหรับ นาฬิกา Hi end, Luxury Brand แล้ว
ก่อนมี โรคบ้านี่  ราคาขายอย่างเก่งก็ตามป้าย ไม่มีส่วนลด
รุ่น “ไม่ฮิต” มีส่วนลดให้ “ตามหน้าตาและความสนิท!!??”
แต่ตอนนี้ “รุ่นฮิต” ทุกรุ่น!!  ขายแพงกว่า ราคาตั้งจาก Brand นั้นๆ ทั้งสิ้น
รุ่นไม่ฮิต ก็ไม่มีส่วนลดให้อีกแล้ว

แต่ก็ยังมีคนซื้อ และมีคนหา
มิหนำซ้ำ “หาซื้อกันมากกว่า สถานการณ์ปกติ” อีก!!
ยังไม่พอ ถึงขนาดว่า ตามช็อป ต้องติดป้ายว่า “ไม่ขาย เพื่อจัดแสดงเท่านั้น” ในทุกช็อป!!!

ตอนที่ “น้องเซลล์ประจำ” ที่ดูแล คิวผมอยู่
โทรมาแจ้ง “มีข่าวดีมาแจ้งคะ คุณลูกค้า เรือนที่คุณลูกค้าจองไว้มาถึงแล้ว สะดวกเข้ามารับวันไหนค่ะ..
ราคา.........!!!!
เข้ามาครั้งนี้มี Surprise นะค่ะ”


“Surpriseๆ”
อะไร คือ Surprise
ราคาที่ให้ก็ Surprise คือ แพงอยู่แล้ว
มัน คือ อะไรอีกกกกกกกกกกกกกก

อยู่รู้ก็ต้องไปดูซิฮะ
 ขี่ม้าเข้าเมือง..

ม้านี้ดีนะ
ถึงแม้จะเป็นตัว “ถูกสุด” ไปบางห้าง “รปภ.” ก็ให้จอด “ซุป-คาร์” ได้
แต่ถึงบางห้างจอดไม่ได้ ผมก็ “พอมี”  “บัตรคนสำคัญมาก” อยู่กับเขาบ้าง..
เลยทำให้ “ห้างในเมืองหลวง” ก็สามารถจอดได้ทุกห้างเช่นกัน..

ไปถึงที่ช็อป วันนั้น ล/ค เยอะ ทั้งไทยและเทศ

น้องเซลล์ก็ เข้ามารับและทักทายตั้งแต่หน้าประตู  “นู่นนี่นั้น” ตามระเบียบ
และเชิญให้ไปนั่งใน “ที่เชือด” เฉพาะ
คือ ถ้าคุณได้นั่งตรงนี้ คือ “ถูกเชิญ” มาเสียตังค์เฉพาะ!!
แปลไทยเป็นไทย ได้ว่า  “นั่งตรงนี้ คือ เสียตังค์แน่นอน” ไม่มากก็น้อย ตามที่ได้ถูกแจ้งไว้!!

ส่วน ล/ค ทั่วไป ก็สามารถนั่งดู ยืนชม หน้าตู้ขายได้ตามปกติ
“รุ่นไม่นิยม” สามารถขายได้ในบางเรือน!!
ส่วนรุ่นนิยม ยังคง “ไม่ขาย เพื่อจัดแสดงเท่านั้น” (หรือเปล่า..??)

ประทับที่เชือดเสร็จ
น้องเซลล์ก็นำตัวที่สั่งไว้มาให้ “ตรวจสอบ” รายละเอียดต่างๆ เท่าที่คุณจะพอใจ
เมื่อพอใจ ก็ “พร้อมเพย์” ได้เลย..

น้องเซลล์ : นี่ค่ะ ที่ Surprise คุณท่านสามารถรับกลับได้นะคะ ถ้าสนใจ
เลือกสายแบบไหนก็ได้ หรือจะเลือกรับสองเรือนก็ได้เช่นกันคะ
ราคา.........!!!!!!!!!!!!






ผม : เฮ้ย!! ราคาแรงเว่ออออ ไม่ไหวหรอก พิมพ์แบงค์ไม่ทัน ไอ้ที่พิมพ์ไว้ก็ยังไม่แห้งดี!! ไว้ว่ากันโอกาสหน้านะ!!
แต่ผมแอบสนใจเรือน Daytona Everose Gold ที่โชว์อยู่นะ
ขอดูได้ไหม?

หน้าตู้ที่โชว์เรือนที่ผมอยากดู มี “ล/ค ชาวจีน” ดูอยู่

น้องเซลล์ : ได้ค่ะ รอ ล/ค ที่ดูอยู่ออกไปก่อนนะคะ  เดี๋ยวหยิบให้คะ

พอ ล/ค ท่านนี้ หันไปดูที่ตู้อื่น น้องเซลล์ก็ไปหยิบเรือนที่ว่า มาให้ผมทันที






น้องเซลล์ : เพราะ เราให้ได้แค่ชม ไม่สามารถหยิบออกมาให้ ล/ค ทั่วไปดูได้!!
ผม : เขาจะซื้อก็หยิบให้ดูไม่ได้เหรอ?
น้องเซลล์ : ตอนนี้เรือน Sport ทุกเรือน จะขายให้ ล/ค ประจำ และ VIP ก่อน เท่านั้นคะ
ผม : เรือนนี้ ได้แค่ดู ใช่ไหม?
น้องเซลล์ : สำหรับคุณท่าน ขายให้ได้คะ ราคา........!!!!
ผม :  อ้าว.. นึกว่าให้แค่ดู เลยขอมาดู แต่ถ้าได้ราคา “list” แบงค์ที่พิมพ์ไว้ ก็อาจจะแห้งทันนะ!!
น้องเซลล์ : 555 คุณท่านก็ว่าเกินไป ตอนนี้หากันเยอะ คนที่จะซื้อได้ก็เฉพาะคุณ ล/ค ประจำ และ คุณ ล/ค VIP เท่านั้นค่ะ  แต่บางเรือนก็ไม่สามารถขายให้ได้เช่นกันนะคะ

ล/ค ที่เข้ามาดู หลายท่าน อยากมานั่งตรงนี้แบบคุณท่านนะคะ เพียงแต่เขายังไม่มีโอกาส และนาฬิกาเกือบทุกเรือนในร้าน ให้ได้แค่ดูจริงๆ
ถ้าไม่ใช่ ล/ค ประจำ และ VIP  ก็จะไม่ได้หยิบออกมาให้สัมผัสแบบนี้ค่ะ

ผม : (คิดในใจ) ฟังพูดซะ นึกว่า ตัวเราเองมีค่าเยอะเลย  สงสัยที่ช็อปเขาอบรมมาดี ทำให้ ล/ค เคลิ้มมาก

ล/ค ที่ดูอยู่ก่อนนั้น กลับมาดูฝั่งผมอีกรอบ แล้วก็มองเรือนที่อยู่ในมือผม แล้วก็หันไปมองหน้าเซลล์
แล้วก็บ่นๆ อะไรไม่รู้ แล้วเดินออกไป..

ผม : เรือนนั้นล่ะ อยากได้ White Gold หน้า Meteorite มานาน
น้องเซลล์ : เรือนนี้ หยิบให้ดูได้ ให้ลองทาบได้ แต่ขายไม่ได้คะ ของคุณ....(ดาราดัง)  ล/ค นาย เดี๋ยวคงเข้ามารับคะ
ผม : ลงจองเลยนะ มาเมื่อไร ช่วยแจ้งด้วยนะ แต่ถ้าตอนที่แจ้งผม ถ้าเงินไม่เหลือ แบงค์ยังไม่แห้ง หรือราคา “บวก” ไปเยอะ ก็คงยังไม่ได้รับนะ






น้องเซลล์ : ได้เสมอค่าาาา  ว่าแต่ว่า ไม่รับ “Sprite” กลับไปด้วยจริงๆ เหรอคะ หากันมากนะคะ
ผม : ยังก่อนนะ พิมพ์แบงค์ไม่ทัน จริงๆ




การขับรถในเมืองหลวงนี่ "เยอะแยะ วุ่นวาย"
ขนาดรถของผม ราคาทั่วๆไป ยัง “เล่นเอาซะเกร็ง”

นึกถึงว่า ถ้ามีปัญญาเป็นเจ้าของซุป-คาร์ อย่างใครเขา
คันละหลายสิบ..
จะกล้าเอามาขับ อย่างเขาหรือเปล่าน้อ..
โดยเฉพาะ ย่านช็อปปิ้ง ยอดฮิต รถเยอะชะมัด..

แต่ช่างมันเหอะ
แค่นึกถึง “ราคา” ของมันแล้ว
หักลบกลบหนี้, บวกลบคูณหาร แล้ว
คงได้แค่ดู ก็เป็นบุญตาแล้ว..

แต่จะว่าไปแล้ว ผมคงจะ “ถ่อมตน” เกินไป!!
เพราะจริงๆ คันที่ “จั่วหัว” รีวิวในกระทู้นี้ ให้ฟังตั้งแต่ต้นเมื่อหลายปีมาแล้ว
เอาไปจูนเพิ่มอีกนิด แต่งเพิ่มอีกหน่อย
ผมก็มี “ซุปเปอร์คาร์เชิงพาณิชย์” เหมือนกันนี่นา...!!
“All New Dmax SVJ”



สวัสดีปีใหม่ 2566 ทุกท่าน
คิดหวังสิ่งใด  ขอให้สมหวัง ซึ่งมันอาจไม่ถึงกับทุกเรื่อง
ขอแค่เพียง “บางเรื่อง” ที่หวังแล้วมันเป็นจริง
ก็คงจะ “Happy” นะครับ

็Have a prosperous New Year!!


I would rather die of passion than of boredom. – Vincent van Gogh
ฉันยอมตายเพราะความลุ่มหลงดีกว่าต้องตายเพราะความเบื่อหน่าย

[the kit]

กระทู้รีวิว Remap Dmax
แต่!!  ไม่ได้เล่าถึง  Dmax ของผมนานนนนแล้ว
วันนี้เอาซะหน่อย
ตั้งแต่ “รีแมพ” มา รู้สึกเหมือนไม่นาน
แต่พอย้อนไป “นับเวลา” ดู ก็ ห้าปีกว่า แล้วนะ ถ้ารวมอายุตัวรถ นี่ก็ 11-12 ปีเห็นจะได้
และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา หลังจาก “รีแมพ” มา ก็ใช้เพิ่มไปอีกแค่เพียง หกหมื่นกว่ากิโล

นี่ก็จะครบปีแล้วหลังจากที่ได้เอารถเข้าเช็คศูนย์ เปลี่ยน นมค. และอื่นๆ ตามระยะจากครั้งที่แล้ว
สงสัยรอบนี้ คงจะเอาเข้า “Late” เพราะ ยังไม่ถึงหมื่น กม.
จากเดิมที่เคยตั้งใจไว้ว่า จะพยายามใช้มันให้ได้ “ปีละหมื่น กม.” และจะเอารถเข้า Chk. ปีละครั้ง
แต่ตอนนี้ชักเสียดายตังค์ ทั้งที่ไม่กี่ตังค์!!??
เลยขอเอาระยะทางเป็นที่ตั้งก็แล้วกัน
คิดว่า จากนี้ ไม่เกินอีก 6 เดือน “น่าจะ” ได้เอารถเข้าเช็ค “หมื่นโล” นะ

จากระยะเวลาและระยะทางที่ใช้ ตั้งแต่รีแมพมา
ก็ไม่เคยมี ปห. ใดๆ ทั้งสิ้น จากการรีแมพ และในทุกๆ ส่วนจากโรงงานมา
มันยังคง “รับใช้” ได้อย่างดีเยี่ยม “ไม่มีรวน”
ไม่มีจุกจิก ไม่มีน้ำมันย้อย น้ำมันซึม ช็อคอัพก็ไม่รั่ว ซีลต่างๆ ก็ไม่มีแตก
“ดีแท้....”

สีสันก็ยังสดใส เพราะ รถโดยมาก จอดอยู่ในที่ร่มตลอด
แต่ก็มี “กะเทาะ” จากเศษหิน จากการใช้งานอยู่บ้าง

มองมันทุกครั้งก็ยัง “โอ” อยู่  หน้าตาโดยรวมก็ยัง “ไม่หลุด” ยุค
โฉมโดยรวมก็ยังไม่แก่ เมื่อเทียบกับ “พรรคพวก” ที่มีขายอยู่ในปัจจุบัน

การกินเชื้อเพลิง ก็ยังคงดี
ผมเติมถังหนึ่งนี่ กว่าจะได้เติมอีกทีก็ “ลืมไปเลย”
นึกขำๆ ว่ารถคันนี้ มันใช้ “อากาศ” เป็นเชื้อเพลิงรึเปล่า!!??

พูดถึงการกินเชื้อเพลิง ก็นึกถึง “เพื่อนซี้” ของผม 
“เจ้าของหมู่บ้าน”

ช่วงหยุดปีใหม่ มันและคุณเมีย พร้อมด้วยคุณลูก มา “สถิตย์” อยู่ที่บ้านผม

คุณเมียผมกับคุณเมียมัน ก็คุยกันว่าด้วยเรื่อง “ของคุณเธอ”
มีหลายเรื่อง ที่เรา “ไม่สามารถก้าวล่วงได้” และหลายอย่าง ก็ไม่สามารถเข้าใจแบบเป็น “ตรรกะ” ได้เลย
ไม่ว่าจะ C H L G B ฯลฯ รวมทั้ง "เนื้อหนัง" และรุ่น “ยิบย่อย” อีกเยอะแยะ
ก็แล้วแต่พวกเธอ ถ้าเธอมีความสุข เราก็ควรจะสุขด้วย
เขาก็ต้องมี “Universe” ของเขา!!
"เพื่อความสงบสุขและสันติสุข"
ห้าม!! ก้าวล่วงโดยเด็ดขาด!!!!!!!!!

ช่วงปีใหม่ แม่บ้านหยุด
หน้าที่ครัว ก็เป็นหน้าที่ผม กับคุณเมีย
มันมาแบบนี้ ก็ต้องต้อนรับอย่างดี
“โอมากาเสะ” ตามใจเชฟ
แปลไทยเป็นไทย อีกที “แล้วแต่กู มีอะไรให้แหลก ก็แหลกซะนะ!!”

คุณลูกของมัน ชอบ “รสมือ” ผมมาก บอกว่า “ป๊า ไม่เคยทำเลย พากินแต่ Mc และ KFC"
อย่า!! หาว่าคุย..
ขนาดผมพา คุณลูก ไปทานสเต็กร้านดัง หลายร้าน แถวเขาใหญ่ ที่ "เขาว่า" ดีและอร่อย
คุณลูกยังว่า "สู้ฝีมือปาป๊า ไม่ได้เลย"

เพราะ สเต็กจริงๆ มันไม่ได้ มีการปรุงอะไรมากมาย มันอยู่ที่คุณภาพของเนื้อต่างหาก
อาจจะสำคัญอีกนิด คือ "ความพอดี" ของความสุกของชิ้นเนื้อที่ต้องการ
นอกนั้นก็เหมือนไปกินเอาบรรยากาศซะมากกว่า   

ถ้าอยากเติม "ความขำ" ในการ Serve ให้ทำท่า "โปรยเกลือ แบบ Salt Bae" ไปด้วย
ผมใช้มาแล้ว "ได้ผล!!"

ที่จริง การทำอาหารกินกันเองในครอบครัวนี่
เป็นเรื่องที่ดีมาก!!  เป็นกิจกรรมร่วมที่ดี เสริมความอบอุ่นได้ดีมากนะ
ใคร อยากกินแบบไหน อยากยังไง ลองลุยดูเลย
ผลออกมา ดีไม่ดียังไง ก็ค่อยปรับ ค่อยลด ค่อยเพิ่ม กันไป แค่นั้นเอง


อาหารง่ายสุดและ "คุ้นมือสุด" ของผมก็ต้องเป็นอาหารฝรั่ง
ทำง่าย กินง่าย ไม่ “เสาะท้อง”
แถมกินได้ ทุกเพศ ทุกวัย

Spargetti white cream Champignon and ham,
ฺBeef Steak, Mash Potato with brown gravy and Japanese Salad

แค่นี้ ก็อิ่มกันได้ หลายมื้อ สำหรับสองครอบครัว

คุณเธอก็นั่งคุยกัน
คุณลูกก็เล่นกัน
คุณผมก็ นั่งจิบเบาๆ คุยกัน  คุยกันได้ทุกเรื่อง

แต่มีอยู่เรื่องคุยกันทีไร เจอกันทีไร บ่นบ่อยเหลือเกิน
New Raptor V6
“เฮ้ย มรึง แ_ง แดกเช็ดเลยว่ะ..
ขี่มันส์ ก็จริงนะ แต่กรูใช้ทุกวัน เจอ 5-6 โลลิตร ก็ไม่ไหว
แ_ง ซด ยังกับ กระดกเบียร์!!
รถมรึงแรงกว่า มันยังไม่แดกขนาดนี้เลย”

นี่ขนาดไอ้เพื่อนซี้ผม เงินมันเยอะนะ ยังบ่นขนาดนี้เลย
อัตราการกินน้ำมันนี่ เฉลี่ยแล้ว ตก โลละ 5-6 บาทเลยทีเดียว!!

มันบอกผมว่า ถ้าอยากเอาไปขับ เอาไปใช้ มายืมไปได้เลย
เพราะตอนนี้ มันเอาไว้วิ่งเป็น คันที่สองแทน เอาไว้ขับเล่นแทน
ส่วนใช้จริง กลับไปใช้ “อีแก่” Raptor ตัวเก่าแทน

ผมเอง จากที่เคย “อยากได้” มาก
ตอนนี้รู้สึกได้เลยว่า “แบบนี้ก็ไม่ไหว เหมือนกันฮะ”

พอมาเล่าให้ “คุณศรีภรรยา” ฟัง
คุณเธอก็ได้ทีเลย “เห็นไหมบอกแล้ว ดีนะที่ไม่เสียตังค์ ไปเอามาอีกคัน ไม่งั้นก็ต้องมาบ่นแบบนี้”
มิน่าเขาถึงว่ากัน “เชื่อภรรเมีย ได้ดีทุกราย”

Happy New Year 2566



ชีวิตไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิด
แต่ชีวิตจะเป็นอย่างที่คุณทำ

[the kit]

เห็นถามมาอยู่ 2 ราย
เนื้อหาใกล้เคียงกันว่า “พี่ครับ ช่วยรีวิว Mustang รุ่นที่พี่ใช้ให้หน่อย พอดีสนใจรุ่นนี้อยู่ อยากได้มือสองมาใช้”
เอาเป็นว่า ไม่ถึงกับรีวิวนะ เอาแบบ “คร่าวๆ” ไปล่ะกัน แต่ก็อาจจะพอเป็น “แนวทาง” ได้

รุ่นที่ผมใช้เป็น Mustang 2.3 Ecoboost 10 Speed รถ Ford TH
แรงม้าประมาณ 300 ซึ่งจะน้อยกว่า “รถ gray” อันนั้นน่าจะ 330 แถมมี โหมดปรับท่อไอเสีย
ดังได้-เงียบได้
ในบางคันอาจจะมีช่วงล่าง “Magneride” (ไม่รู้ว่าพิมพ์ผิดไหมนะ)
“เขาว่า” มันหนึบขึ้น ปรับได้ว่างั้น
และบางคันอาจจะมี Recaro เป็น Option เสริม

ข้อดีขอรถเกรย์ คือ ของเล่นเยอะกว่าพอควร มีสีให้เลือกเยอะกว่า
แต่ข้อเสีย คือ รับประกัน แค่ 6 เดือน – 1 ปี หรือไม่เกิน 20,000 กม. ประมาณนี้

และถ้า “ซวยจริงๆ” ก็ต้องหาอู่นอกที่ไว้ใจได้ เป็นผู้ดูแล
แต่ถ้าอยู่ “เมืองหลวง” ไม่น่าห่วง มีเยอะและบางอู่ ทำได้ทุกอย่าง
แบบเปลี่ยนไปคนละคัน “เสกม้า” เข้าท้อง เกือบพันตัวก็ทำได้!!

รถศูนย์ ข้อดี คือ รับประกันนานถึง 5 ปี หรือ 75000 กม.
แถมประกันในส่วนสำคัญและแพงด้วย คือ เครื่องและเกียร์
และในส่วนทั่วไป ก็เปลี่ยนถ่าย นมค.และอื่นๆ ฟรี คล้ายๆ BSI แต่ “มินิ” กว่า

เวลา “พัง” มา ก็มีข้อมูล ยืนยันมาตั้งแต่ผลิตที่ Michigan USA
เมื่อเสียบ OBD II สามารถเช็ค Error Code ได้
ไม่เหมือนกับพวกรถเกรย์ ที่ไม่สามารถเช็ค Error Code  ได้
เนื่องจาก ถูกนำเข้าและจะถูกจำหน่ายโดย Unauthorize Dealer มันจะผิดในเรื่อง กม.
เขาจึงต้อง “ลบในส่วนนี้ออก” ประมาณนี้
อันนี้ผมฟังมาจากหัวหน้าช่างของ  Ford TH ซึ่งอาจจะจริงหรือไม่
“ไม่ยืนยัน”

แต่แค่เรื่อง รับประกันเครื่องเกียร์ จากการหาข้อมูลมา
ก็ได้ใจ ผมไปแล้ว..

และใน “มัด-แตง” “เคลมง่าย” นะ ไม่เหมือนกับ รุ่นทั่วไปที่ผลิตและขายในประเทศ
จาก “ปสก.ตรง” ของคนรู้จักกัน ที่ “ขี่ม้า” อยู่เหมือนกัน
“ไม่รู้..ทำไม”  ถึงเอาใจใส่ ไม่เหมือนกัน!!???

รถผม จากที่ใช้มา “เชื้อเพลิง” ก็ประหยัดใช้ได้อยู่นะ วิ่ง 120
กินอยู่ประมาณ 12-13 โล/ลิตร

กดหนักๆ หรือรีบๆ ก็ยังมี 10 ให้เห็น
ระยะเวลา ปีนิดๆ รถผมก็ใช้มาแล้ว สองหมื่นกว่ากิโล!!

ใช้เยอะมาก!!

รถมันจริงๆ ไม่เตี้ยมากนะ
ใต้ท้องผมว่า ไม่หนีรถบ้าน Camry Accord เลย
แต่จะ “กะหน้า” ยากนิด เพราะ “หน้ายาว”
ข้อเสียจริงๆ ที่เจอคือ วงเลี้ยวกว้างมากกกกกกก
กลับรถที นึกว่า “สิบล้อ” หกล้อรุ่นใหม่ๆ ยังแคบกว่าเลย

ข้อเสียอีกข้อ คือ เวลาเลี้ยวตามแยกต่างๆ  หรือ กลับรถ
“ห้ามเปิดคันเร่งเยอะ” มันจะ “พยศ” มาก
ดิ้นหรือหมุนได้ง่ายๆ ในทุกครั้ง!!

โดยรวม “ขับสนุก” ทางตรง โค้งยาว ไปเร็วๆ สบายมาก
การส่งต่อของเครื่องและเกียร์ดีมาก

ถ้ายังไม่พอใจแบบ Normal Mode
สามารถ เปลี่ยนเป็น Sport+ or Track Mode ได้
เกียร์จะลงต่ำ และค้างรอบไว้ที่ช่วง “Power Band” พอดี
ต่อเนื่อง และพร้อมส่งตลอด!!
แต่ถ้าใช้ “Mode” นี้ “นม.” ต่ำแปด มีให้เห็นแน่นอน!!

ถ้าเป็น โค้งแคบๆ โค้งสลับและต่อเนื่อง และเลือกที่จะไปเร็ว
เราจะเป็นเหมือน “Rodeo” เลยทีเดียว!!
“คุมไม่ดี มีสิทธิ์ร่วงแน่นอน”
 
เหมือนมันจะบอกว่า นี่ “Mustang” ไม่ใช่ .”Dwaft Horse” นะ
ถ้าคุณไม่กระตุ้น ไม่เร้า This is a Pony.

It up to you..
You play soft, I play soft
You play hard, I play harder!!
Indeed!!

ผู้ที่อยู่รอด ไม่ได้แข็งแกร่งที่สุด หรือฉลาดที่สุด
แต่ปรับตัวได้ดีที่สุดในทุกการเปลี่ยนแปลง
- ชาลส์ ดาร์วิน -


แถมนิด...
นาฬิกา "คุณลูก" สีสันสวยมากกกกกกกก....

ยืมมาใส่ซะหน่อย เปลี่ยนบรรยากาศ
"เบา สบาย"
ไม่ "ลิมิเต็ด" แค่หายากนิดหน่อย ต้องเฉพาะ ตาม "AD หญ่าย" บางที่เท่านั้น ถึงจะมีขาย

[the kit]

“เฮ้ยยยยยย  ลูกปิดเทอมไปไหนดี?”
เสียงจาก “เพื่อนซี้(ซั้ว)” เจ้าของหมู่บ้าน

ผม - มึงอยากไปไหนก็ไปสิ  ไม่ถามเมียมึงดู มาถามกูทำไม?
จขมบ - กูอยากไปกับมึง เมียกูก็อยากไปกับเมียมึงด้วย
ผม - เออ  งั้นเดี๋ยวกู ถาม “คุณเมียและคุณลูก” กูก่อนว่า อยากไปไหน
แค่ในไทย ก็พอนะ เพราะ ปีนี้กูมีไหว้ใหญ่ “เชงเม้ง” ต้องไปบูรณะสุสานก่อน
เพราะ ญาติโกโหติกา จะมากันเยอะเลย

งานง่าย ไม่ไกลมาก ได้ “ครื้นเครง” ทุกคน ไม่ว่าจะเป็น ตัวลูก ตัวแม่ และตัวพ่อ!!
“พัทยา”
ทะเลไม่สวย ไม่ใสเท่าหัวหิน
แต่ “สีสัน” มากกว่า
แถมเดินทางไม่เหนื่อยเท่า

ไปพัทยากันครั้งนี้ ตอนแรกว่าจะเอา Vellfire มันไปคันเดียว
แต่ดูทรงแล้ว มัน “อึดอัด” เกินไป
Vellfire รถ7 ที่นั่ง แต่จะนั่งไปกัน 8 คน ก็ไม่ไหว
แค่นั่ง 7 คน รวมสัมภาระ ก็ “อึดอัด” แล้ว

เอากันไปคนละคัน ขับตามกันไปดีกว่า
จขมบ. เอา Vellfire ไป
ผม “มัสแตง” ??
ไม่!! แน่นอน  นั่งยาว นั่งด้านหลัง ไม่ค่อยสบายนัก
กลัว “คุณลูก” จะ “ไม่สบายตัว”

ที่ครอบครัวผมก็มี Vellfire เช่นกัน  แต่มันเป็นรถของคุณย่า
จะยืมก็ได้  แต่ทุกคนในครอบครัว เป็นคนนิยม “ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน”

PajeroSport สิครับ
อยู่ด้วยกันมา 7-8 ปี วิ่งไปแค่ “แสนสอง” ใช้ดี “ไม่มีงอแง”
และที่เหลือเชื่อที่สุด คือ แบตเตอรี่ที่ติดรถมาตั้งแต่ป้ายแดง อยู่กันมา 7-8 ปี
ยังคงใช้ได้ดีและดีอยู่ Start ปุ๊ป ติดปั๊ป!!
"ทนแท้"

เพียงแต่เห็นมันนานแล้ว เลยต้องเปลี่ยนก่อน "เพื่อความสบายใจ"
ทั้งที่ใจจริง "อยากลอง" ว่ามันจะไปต่อได้นานแค่ไหน?
แต่ถ้าอยู่ๆมัน "Out of order" ขึ้นมา ในช่วงที่ไม่สมควรจะเป็น มันจะวุ่นวายเอา
"เปลี่ยนก็เปลี่ยน"


ทั้งตอนไปและตอนกลับ ก็ขับตามกันไป ผลัดกันแซง ผลัดกันนำ บนความเร็ว 100-120-140 ไม่เกินนี้
เมื่อผมขับตาม สังเกตว่า ในโค้ง ถ้าเข้าเร็ว Vellfire ค่อนโค้งโยนตัวเยอะเลยทีเดียว
แต่ก็อย่างว่า “รถตู้” ช่วงล่างนิ่ม จะใส่โค้งเร็วๆ มันก็เป็นแบบนี้ตามธรรมดา
แถมการกินน้ำมัน ถ้าอัดๆ นี่ Vellfire 2.5 “ต่ำสิบ” นะ
ส่วน PJS ผม ความเร็วช่วงนี้ ยังทำได้ “11 นิดๆ” สบายๆ

3 วัน 2 คืน กำลังดี
คุณลูก ก็เล่น
คุณแม่ ก็คุย
คุณพ่อ ก็ดื่ม เปลี่ยนบรรยากาศ

เรื่องร้านอาหาร “เขาว่า” ที่ไหนดี ที่ไหนดัง  ก็ไปที่นั้นล่ะ
ลูก จขมบ บอกว่า เชื่ออา เพราะ อาทำอาหารอร่อย!!
แค่ 3 วัน 2 คืน หมด ค่าอาหารและเครื่องดื่มไป “เกือบสามหมื่น!!”
นี่ไม่รวมค่าที่พักและค่าน้ำมันนะ!!
ไม่เป็นไร ทุกคนมีความสุข ถือว่า “ไม่แพง!!”

เหมือนปู่ผมที่ท่านบอกว่า “เกิดมาทั้งที ถ้าเราหาเอง ถ้าเราไหว ไม่เบียดเบียนใคร ไม่เดือดร้อนใคร
ทั้งตัวเองและครอบครัว อยากได้อะไรก็ซื้อนะ

หาเงินมาได้ ถ้าไม่ใช้ มันก็ไม่มีค่าอะไร มันเป็นแค่ตัวเลข
ถ้าเราใช้มันซื้อความสุขให้เรา  เราก็เหมือนต้นไม้ ที่ได้น้ำ ที่ได้ปุ๋ย มันก็จะสดชื่น และมีกำลังที่จะไปต่อ...”

กับ “ครอบครัว” เพื่อความสุขหรืออะไรก็ตาม
ถ้า “ไม่ลำบาก” จนเกินไป
ผม “ยินดี” จ่ายให้ได้เสมอ..
แต่ก็ไม่ใช่ จะ “Spoil” จนเสียคนนะ
เงินหามาได้ก็เพื่อสิ่งนี้ หามาก็เพื่อครอบครัวนี่แหละ..

พวกที่เอาไปจ่าย “น้องหนู” บ่อยๆ
ถ้า “ตัดใจ” ไม่ได้ ควรให้อันนั้นเป็นแค่ “เศษเสี้ยว” ของเงินนะ!!

พูดถึงเรื่อง “น้องหนู”
ใน “วงแชร์” เพื่อนสนิท ที่คุยกัน มันก็มีนะ
ไอ้เพื่อนผม หลายคนนี่มัน “ชอบจริงๆ”
จขมบ. นี่ก็คน “แอบแซ่บ” บ่อย

ยังมีคำมาพูด มาอวดว่า “นี่น้องเขาบอกรักกู ชอบกู อยากอยู่ด้วยนะ... บลาๆๆๆ”
ผม  :  ถ้ามึงไม่มีเงินให้มัน มันจะยังชอบมึงไหม?
จขมบ  :  ชอบสิ เขาอยากอยู่กับกูมากกก
ผม  :  ไม่หรอก มึงลองคิดดูดีๆ  พวกเราน่ะ  อายุ คือ รุ่นพ่อ เขาเลยนะ
เผลอๆ พ่อเขาน่ะ  ยังเป็นรุ่นน้องเราอีกหลายปี
จขมบ  :  เออ ว่ะ
ผม  :  เงินและเงินเท่านั้น  พอได้ก็พอ เมียรู้มา บ้านแตกเปล่าๆ
จขมบ  :  จับได้แล้วครั้ง  ง้อไป เสียกระเป๋าไปสามแสน
ผม  :  สม แต่ก็ยังดี ที่เขายังให้อภัย.. เชื่อกู ได้ไม่คุ้มเสีย
จขมบ  :  เออ..

ผมคิดในใจ กูรู้มึงไม่เชื่อกูหรอก แค่รับไปงั้นๆ  จนกว่าจะเจอจับได้อีกที
จนกว่าจะเจอ "คาดโทษหนัก" ถึงจะพอ..



ไม่สำคัญว่าคุณจะมีความสมบูรณ์แบบแค่ไหน
แต่สำคัญกว่า... ที่คุณต้องมี ความสม่ำเสมอกับสิ่งที่คุณทำ
- Satya Nadella -

[the kit]

สวัสดีปีใหม่ไทย
ไปเที่ยวไหนกันมาบ้างครับ

ปีนี้ “บ้านนอก” แถวบ้านผม  รถเยอะมากกกกก
อย่างว่า ปีนี้เป็นปีแรก หลังจากที่ “เขา” ไม่ให้เล่นน้ำมานาน
คนที่ไปทำงานต่างถิ่น ได้กลับบ้านเกิด ไปเยี่ยมพ่อ เยี่ยมแม่ ญาติพี่น้องก็ดีใจ

สงกรานต์นี้ ผมและครอบครัวก็ไม่ได้ไปไหน
“พักผ่อน” อยู่บ้าน “สบายสุด”
ผมโชคดี ที่คุณเมียและคุณลูก ไม่ได้ต้องการจะออกไปไหน
เพราะบ้านก็มีทุกอย่าง ค่อนข้างครบนะ
หาทำนู่นนี่กิน เล่นน้ำกัน ดูหนังร่วมกัน ก็มีความสุขดีนะ

อยู่บ้านนานๆ ก็อยากเห็น "สีสัน" กับเขาบ้าง
อยากเห็นบรรยากาศ “สงกรานต์แบบไทย??” กับเขาบ้าง
ก็ชวนครอบครัว พกน้ำ พกขนม ออกไปดูเขา เล่นน้ำกัน
แบบไม่สัมผัส ไม่ใกล้ชิดกับคนอื่น เพราะ อยู่แต่ในรถ


แน่นมาก!!!!!!
ทั้งคนและรถ
ทั้งหัวดำ หัวขาว หัวเงิน หัวทอง หัวแดง และอีกหลากมากสี!!
เต้นกิน รำกิน เยอะแยะ  ดูไปก็ขำไป
แต่ก็อย่างว่า “นี่คือสีสันวันสงกรานต์”

“ทางการ” เขาขอให้ งดแป้ง งดแอล งดลวนลาม
คุณคิดว่า “มันเป็นไปได้ไหม??”

ใช่!! อย่างที่คุณคิดเลย..
“ทำอะไรได้ตามใจ คือ ไทยแท้!!”

ที่ “ภูธร”
สงกรานต์กับ “กระบะแต่ง” นี่เป็นของ “คู่กัน” เลย
กระบะแต่ง ถ้าจะให้ดี ต้องรถโหลด
เพราะรถยกสูง “ผู้เล่น” ที่อยู่หลังกระบะ จะขึ้นลงลำบาก

เครื่องเสียง แน่นอน “จัดเต็ม”
คุณภาพเสียง ไม่ต้องพูดถึง!!
คือ อย่าได้ ไปพูดถึง
แต่ถ้าเรื่องดัง อันนี้ไม่พลาด

เสียงจะดังได้
ลำโพงก็ต้องเยอะ แอมป์ก็ต้องแยะ
กินไฟก็ต้องมากเป็นธรรมดา
ถ้าดับเครื่องเปิดเพลง “คงดัง” ได้ไม่กี่เพลง
ก็ต้อง “ติดเครื่อง” แถมเร่งนิดๆ ให้พอไป “หล่อเลี้ยง” เครื่องเสียงนั้นได้
หลายคน “ทำรถ” มาเพื่อการณ์นี้โดยเฉพาะ!!

Start รถ เร่งเครื่อง เปิดเครื่องเสียงโชว์
น้ำมันและอื่นๆ หมดเท่าไร ก็เท่ากัน
ช่างมัน!!??

"เสียตังค์ไม่ว่า  เสียหน้าไม่ได้.."


เพลงยอดฮิต ที่ใครๆ ก็เปิดกัน
เหมือนว่างานนี้ ขาดไม่ได้
เสียงตีกัน ยิ่งกว่าเสียงยุง!!

“อีกี้..”


เฮ้ย!! เรามาถึงจุดนี้ได้ไง!!
เป็น “เพลงไทย” ในอีกหลายๆ เพลง
ที่ผมฟังไม่ออก และไม่รู้เรื่องเลย!!

ที่มึงร้องนี่ "เพลงไทย" ใช่ไหม!!??
แถม "ท่าเต้น" ก็ไม่ต้องพูดถึง

จะเป็นยังไง ถ้าสงกรานต์ เปิดเพลง "Macarena"
แล้วเต้น Macarena กัน คงจะน่ารักดีนะ!!

แต่มันก็ไม่ใช่เพลงไทยอีก
งั้นคงต้องเป็น "ค้างคาวกินกล้วย" RCA Dance Version แทน 


ก็ถึงขนาดอยากรู้ ว่า "อีกี้" มันคือ "อารายยย??"
พยายามมาอ่าน “CC” เพื่อดูความหมายมันเลยทีเดียว
ใน “MV” ก็อย่างที่เห็น..
“เ_ยยย”
ทั้งเนื้อร้อง การแต่งตัวและทุกอย่างใน MV
มันฮิตได้ไง!!
แต่เอาเถอะ มันคงเหมาะกับบางคน มันคงใช่ กับบางคน
คิดไรมาก...!!

"สุขอยู่ที่ใจ"

ขอให้มีความสุขกันทุกท่านนะครับ


หากปราศจากการบังคับตนเอง   ความสำเร็จคือเรื่องที่เป็นไปไม่ได้  - Lou Holtz

[the kit]

เสียงโฆษณาของ “นักการเมือง”
ยกเอาแต่เรื่องที่ดีงามมาพูดจา
มีหนังมาฉายให้ชาวไร่ชาวนา
ได้ดูได้ชมกันทั่วหน้าระรื่นตื่นตากันทั่วไป

จะสร้างไอ้โน่นจะทำไอ้นี่ที่ยังขาดแคลน
ทั่วทุกถิ่นทุกแดนฟังดูก็แสนจะชื่นใจ
ถนนหนทางลำคลองจะสร้างให้มากมาย
เลิกเลี้ยงวัวเลี้ยงควายจะซื้อรถให้มาไถนา

ดีอกดีใจแต่นี้ต่อไปคงสุขอารมณ์
ชาวนาพากันชื่นชมนิยมดังเขาพูดมา
พอเป็นผู้แทนนั่งแท่นอยู่ในสภา
ตั้งหลายปีที่ผ่านมาจะไถนายังต้องใช้ควาย

ถนนหนทางที่ว่าจะสร้างก็ยังไม่มี
มัน “กินอิฐทรายกันป่นปี้” ถนนจะมีไปได้อย่างไร
เขาเป็นผู้แทนกันยังไม่ทันเท่าไร
ทรัพย์สินเงินทองมีมากมาย
มันน่าแปลกใจเมื่อคิดขึ้นมา

ปากบอกรักชาติผมฟังอนาถใจจริง
เห็นแต่เขา “จะช่วงจะชิง” ตำแหน่งใหญ่ยิ่งกันในสภา
“วิ่งเต้นหาเสียง” กินเลี้ยงกันใหญ่ตามเหลาตามบาร์
บางคราวยกพวกเข้าเข่นฆ่ามัน "เหลือระอา" ผู้แทนเมืองไทย

ผมขอวิงวอนราษฎรทั่วทั้งแผ่นดิน
ไอ้พวก “ชอบโกงชอบกิน”
ไอ้พวก “กังฉิน” อย่าเลือกเข้าไป
เลือกแต่คนดียังมีอยู่อีกมากมาย
แล้วพี่น้องจะสุขใจจะพาชาติไทยเรารุ่งเรือง

Cr : เพลง มนต์การเมือง
ขับร้อง คำรณ สัมบุญณานนท์                คำร้อง/ทำนอง: สุเทพ โชคสกุล


เพลงนี้ ช่างมีเนื้อหาที่ดีเหลือเกิน...
ยังทันยุค ทันสมัย แม้ว่าเนื้อร้องได้ถูกแต่งขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ.2495!!
หรือประมาณ “เจ็ดสิบกว่าปี...” ที่ผ่านมา

จากเนื้อเพลง
จะเห็นได้ว่า “การเมืองไทย” ที่ผ่านไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย....
แม้ว่า “ตัวผู้เล่น” ได้เปลี่ยนไป
แม้ว่า “พรรคการเมือง” ได้เปลี่ยนตาม
ทั้งเกิดใหม่ และล้มหายไปบ้าง
แต่ “สันดาน” นักการเมืองไทยหลายท่าน หลายคน “ไม่เคยเปลี่ยน” เลย!!

ปากด่าว่าไอ้นู่น “ชั่ว”  ไอ้นี่ “เลว”
แต่หลัง “14 พฤษภา”
ผม “คาดการณ์” จากประสบการณ์ส่วนตัวว่า...
หลายพรรค  หลายคน  หลาย..

ทั้งที่รักกัน ด่ากัน แช่งกัน
แต่ก็ “สามารถ”  กอดคอกัน จับมือกัน เพื่อจัดตั้ง “รัฐบาล” ได้ !!??

เพื่อใคร?
ประชาชน?
ประเทศชาติ?
ตัวเอง!!??

ดังนั้น
ไม่ว่าท่านจะเลือกใคร จะเลือกคนไหน
ถ้าท่านมั่นใจว่า “น่าจะดี และ/หรือ ชั่วน้อย”
โปรดเลือกเขา

แต่ถ้าในพื้นที่ของท่าน มีแต่ “ชั่วจริง กินจัง”
กา “ไม่ออกเสียง” ดีกว่าไหม?

แต่ประเภท “ดีจริงๆ บริสุทธิ์ 100%”
ผมบอกเลย ตั้งแต่เกิดมา “ยังไม่เคยเห็น..!!”

วันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2566
เวลา 08.00-16.00 น.
ออกไปใช้สิทธิ์ เลือกตั้งกันครับ



"As I would not be a slave, so I would not be a master.
This expresses my idea of democracy." - Abraham Lincoln

ผมไม่ยอมเป็น “ทาส” ดังนั้นผมก็จะไม่ยอมเป็น “นายทาส”
นี่คือความหมายของการเป็นประชาธิปไตยในความคิดผม



"You can imprison a man, but not an idea.
You can exile a man, but not an idea.
You can kill a man, but not an idea." - Benazir Bhutto
คุณสามารถจองจำคนได้ แต่ไม่สามารถจองจำความคิดได้
คุณสามารถเนรเทศคนได้ แต่ไม่สามารถขับไล่ความคิดของเขาได้
คุณสามารถฆ่าคนได้ แต่ไม่สามารถฆ่าความคิดของเขาได้


มีคนมากมายที่คิดจะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้
แต่มีคนเพียงน้อยนิด ที่คิดจะ... เปลี่ยนแปลงตนเอง - เลโอ ตอลสตอย

[the kit]

พี่ครับๆ “ไหนๆ ก็พูดถึงการเลือกตั้งแล้ว ไม่เล่าเรื่องการเมืองสักหน่อยครับ...”


เออ..  เรื่องการเมืองนี่ ถ้าได้พูด ถ้าได้เล่า  มันก็ “มัน” อยู่หรอกนะครับ
แต่!!  ถ้ามาพูดในที่ “สาธารณะ” เช่นนี้  เชื่อเถอะว่า “ความหลากหลายทางความคิด”
และหลายปัญหา รวมถึง "ความแตกแยก" จะตามมา..

และเจ้าของพื้นที่ๆ เราใช้คุย คือ HLM นี้ จะเดือดร้อนและวุ่นวายไปด้วย

เอาเป็นว่า รักใคร ชอบใคร เกลียดใคร หรืออยากแจก?  อยากให้อะไร?  ใคร
เก็บไว้คุยกับ “คอเดียวกัน” ดีกว่า..


เพราะ “เรื่องการเมือง” นี่   
แม้เป็นคนสนิท เพื่อนซี้ หรือแม้แต่ครอบครัวก็ตาม
“คุยกันไม่ได้.....”   ถ้าไม่ใช่ “คอเดียวกัน” ทิศทางเดียวกัน
“เชื่อผมนะ!!”

ด่าทอกัน  ตบตีกัน  ถึงขั้น ฆ่ากันก็มีมาเยอะแล้ว

ใครจะเป็นรัฐบาล  ใครจะเป็นนายก
เราก็ยังต้องหากินอยู่ดี.. 
เพราะฉะนั้น  รอดูดีกว่านะ..



มาคุยเรื่องรถกันดีกว่า
กระทู้รีวิว D-Max ไม่ได้เอา “ดีแม็ก” มาคุยนานแล้ว
วันนี้เอาซะหน่อย

จากความ “พยายาม” ใช้รถคันนี้
ในระยะเวลา “ปีครึ่ง” ก็พอได้ระยะทางมาครบ “หมื่นโล” อีกครั้ง
ได้นัดศูนย์ เช็คศูนย์อีกครั้ง
เช็คระยะ 120,000 กม. แต่เทียบจริง คือ เหมือนใช้รถตอน 140,000 กม.
เพราะรถใช้น้อย จากที่ตั้งใจว่า จะพยายามใช้ให้ได้ 1ปี/10,000 กม.
แต่ก็ไม่ไหวจริงๆ เพราะ ไม่รู้จะใช้อะไรกับมัน!!

เช็คครั้งนี้ ก็เหมือนกับเช็คระยะธรรมดา เปลี่ยนแค่ นมค.และกรอง
นมค. ผมเลือกใช้แค่เกรด “Semi-Syn” ก็พอ
ไม่เอาถึง “Fully Syn” เพราะเกินจำเป็น

ถ้า นมค.และกรอง รวมค่าแรงและอื่นๆ แล้ว จะอยู่แค่ “พันปลาย”
แต่ครั้งนี้ผมเลือกที่จะเปลี่ยน “ผ้าเบรกหน้า” ด้วย
ไม่ใช่ เพราะ มันหมดนะ  ตอนถอดมา มันยังเหลือประมาณ 5-6 มม. เลยทีเดียว!!
นี่ไม่เคยเปลี่ยนมันเลย ตั้งแต่ซื้อคันนี้มานะ!!
ถ้าใหม่ๆ เต็มๆ มันจะหนาอยู่ที่ 10 มม.

ที่ผ้าเบรกลดน้อย เพราะ ผมใช้งานอยู่ ตจว. ไม่ได้เบรกบ่อย เหมือนท่านที่อยู่ในเมือง
และผมขับแบบ “คนแก่” เห็นไฟแดงแต่ไกล ก็ยกคันเร่ง ปล่อยไหลเข้าไป
ไม่ได้ “ขับจี้” และเบรกรุนแรง กอรปกับ “เนื้อผ้าเบรก” ที่ค่อนข้างแข็ง  เลยทำให้หมดช้าด้วย

ที่ผมเลือกเปลี่ยนผ้าเบรคในครั้งนี้ ก็เพราะ เนื้อผ้าเบรกที่ค่อนข้างแข็ง นี่ล่ะ!!??
เปลี่ยนเพราะ มันมีเสียงๆ นี้ มีมาตั้งแต่ช่วงประมาณ 2-3 หมื่นโลแล้วนะ

"จี๊ดๆ..."

และเท่าที่คุยกับคนใช้ “ดีแม็ก” รุ่นเดียวกันในล็อตแรกๆ เช่นกัน
ว่ากัน “ดังทุกคัน!!”

เปลี่ยนมันเลย
ผ้าเบรกใหม่ ก็เลือกใช้ของศูนย์
ไม่เอายี่ห้อข้างนอก ที่คุยว่า เบรกดีกว่านู่นนี่นั้น??
เพราะ กลัวเรื่องเสียง และโดยส่วนตัว ไม่ได้ขับเร็วเป็นพื้นฐาน และไม่รู้ว่าเปลี่ยนมาแล้ว มันดีจริงไหม

ของศูนย์ มันดี ตรงที่ เขารับประกัน 6 เดือน หรือ ห้าพัน กม. เลยทีเดียว
แถมราคาไม่ได้รุนแรงอีกด้วย

ผ้าเบรกศูนย์ มีให้เลือก 2 แบบ
1 ของอีซูซุ อันนี้แพง แต่ทน สามพันกว่าบาท
2 ของตรีเพชร ช่างว่า ผลิตไทย เนื้อจะนิ่มกว่า แต่ก็จะหมดเร็วกว่า อันนี้ราคา พันต้นๆ

ผมเลือก “อัน 2” เลือกนิ่ม เอาที่มันหมดเร็วกว่า!!??

เพราะหวังเรื่องเสียง ต้องการ “เงียบ”  และกว่าจะอีก “แสนโล” คงเป็น “สิบกว่าปี”
ถ้าไม่ขายมันไปก่อน..

เปลี่ยนผ้าเบรก ต้องเจียจานไหม??
แล้วแต่ "หน้างาน" 

ถ้าหน้าจานมันเป็นรอยเยอะ ไม่เรียบ อันนี้ “ควรเจีย”
แต่ของผม “หน้าเรียบ” ใสๆ เนียนๆ
“ไม่เจีย” ครับ   เจียไปให้จานบาง เปล่าๆ
แถม “ค่าเจีย” อีกหลายร้อย สำหรับรถญี่ปุ่น

ถ้ารถยุโรป โดยมากจะ “หลักพัน” ทั้งๆ ที่ “กรรมวิธี” อันเดียวกันเลย!!
อย่างว่า ตามยี่ห้อ ตามความ “หรู” แล้วกันนะ


ระหว่างเอารถเข้าเช็ค
ผมก็นัด “เพื่อนซี้” เจ้าของหมู่บ้าน ไปฆ่าเวลาเช่นเคย..
บอกมันเอา New Raptor มารับหน่อย
มันเหมือน “Dejavu” เลย

ครั้งนู่นนนน ตอนเอาดีแม็กเข้าเช็ค ก็ให้มันมารับ
แต่เป็น Raptor ตัวแรก

แต่ครั้งนี้เป็น  New Raptor เบนซิน
โดยรวม อะไรๆ มันก็ดีกว่า ดีแม็กแก่ๆ ของผม เป็นแน่แท้
มันเหนือกว่าทุกอย่าง ทั้งนิ่มนวล หนึบหนับ และเรี่ยวแรง ที่เหลือๆ

กระบะดีเซลทุกยี่ห้อที่ขายในไทย ถ้าแค่ “รีแมพ” สเตปต้นๆ ไม่ได้กินมันแน่นอน!!
รถมันดีทุกอย่าง!!  ถ้าไม่เอาเรื่องการกินน้ำมันมาพูดถึงนะ..

1.8-1.9 ล้าน สำหรับรถกระบะ จะว่าแพงก็แพง
แต่ถ้าเทียบสมรรถนะแล้วก็ “สมน้ำสมเนื้อ” อยู่
โดยมากคนที่ซื้อรุ่นนี้มา คงไม่ได้มีรถ แค่คันนี้คันเดียว
เอาไว้ใช้บางช่วง บางอารมณ์แค่นั้น
แต่บางคนอาจจะใช้มันทุกวันก็เป็นได้

อย่างเพื่อนซี้ผม ไอ้นี่ตอนแรกก็ใช้มันทุกวัน
แต่พอ “หายเห่อ” และลองหันไปมอง “ค่าน้ำมัน” แบบเน้นๆ ก็เล่นเอาจุกเหมือนกัน


พอเข้าศูนย์เสร็จ
ก็ต้องเอาไป “ตรอ.” เพื่อไปต่อทะเบียน
“เด็กตรวจ” พอเห็น รถสภาพแต่งมา ก็รีบพูด...

“พี่ๆ ถ้าควันดำ เสียงดัง นี่ ศูนย์ผมไม่ให้ผ่านนะครับ”
ผม : “ตรวจเลย ถ้าไม่ผ่าน เดี๋ยวเฮียจะเอาไปแก้ไขเอง...”

ผลตรวจมา
เสียง ก็ไม่เกินค่ากำหนด มันจะเกินได้ไง เพราะ มันไม่รั่ว ไม่ได้ทำอะไรเลย เดิมๆ ทุกอย่าง
ควันดำ ก็ไม่มี แถมค่าที่ได้ยังน้อยกว่า เดิมๆ จากโรงงานอีก!! (อันนี้เทียบจากรุ่นเดียวกัน ที่เดิมๆ เอามาตรวจ)
นอกนั้นก็ “ตามมาตรฐานที่กำหนด”

อีกอย่าง ล้อรถผมก็ไม่ยื่น มันเสมอตัวถังพอดี มันจะไม่ผ่านได้อย่างไร

ตรวจรถ ตาม “ตรอ.” ในแต่ละที่ 
“ความเข้มงวด” ไม่เท่ากันนะ
บางที่ “ตรวจเข้ม” เพราะตามกฎ
แต่บางที่ตรวจเข้ม เพื่อ “หวังผล” อย่างอื่นก็มีนะ

แต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม  ถ้าคุณทำรถ ให้มันอยู่ “ภายใต้กฎหมาย”
คุณไม่ต้องไปกังวลเลย..
ยกเว้น มันจะชำรุดไปตามกาลเวลาแค่นั้น.. 



"ตอนแรกบอกแต่งแรง พอโดนแซงบอกแต่งสวย"
 

“รถทำไว้ขับ ไม่ได้ทำไว้คุย จะลุยก็ลุย ไม่ต้องคุยให้เสียเวลา”

[the kit]

ตอนที่เริ่มเขียน  เริ่มพิมพ์อยู่นี่
เขากำลัง จะเลือก “ประธาน” อยู่

ตอนนี้ใครได้  ก็ได้รู้กันไปแล้ว..

ผมเอง ก็มีคนกลุ่มหนึ่ง ได้มาเชิญให้ผมไปเป็น “ประธาน!!??”
แต่ประธานที่เขามาเชิญให้ผมไปเป็นนี้ 
“ไม่มีทะเลาะ” กัน
มีแต่ “Love  Love”

“อยากจะรบกวนเฮีย ให้ช่วยไปเป็น ประธานในงานแต่งของลูกผมครับ...”

มาถึงจุดนี้ได้ไง!!??
เออ..นี่  กรูแก่ขนาดนั้นแล้วเหรอเนี่ย!!

ไหนลองว่ามาสิ  จะให้ทำอย่างไร อยากให้ช่วยแบบไหน

“เฮียและซ้อเป็นตัวอย่างที่ดี ของผมและเมียผม เฮียช่วยไปเป็นประธาน พูดอวยพร พูดอะไรดีๆ ให้ลูกผมด้วย
ให้เขารักกันนานๆ เหมือนเฮียกับซ้อน่ะครับ”

เอางั้นเลยเหรอ  เอาก็เอา อุตส่าห์มาขอ มาเชิญ มาพูดขนาดนี้แล้ว
ตั้งแต่เกิดมา ก็เคยเห็นแต่เขาพูด เขาเป็นกัน
ลองดูสักที ก็น่าจะดีเหมือนกัน
คิดดีๆ แสดงว่า “เราต้องมีอะไร ที่เขาเห็นว่า  เราคงใช้ได้เป็นตัวอย่างที่ดีได้ มั้งนะ...”

ในเมื่อ “เขาให้” เป็นประธาน เราก็เตรียมตัวหน่อย
จะไป “ด้นสด” เอาเลย มันก็จะกระไรอยู่
กว่า “ทั้งคู่” เขาจะรัก จะเข้าใจ จะตกลงปลงใจ ใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน

เพราะฉะนั้น ผมก็ต้องเตรียม  คำพูด คำกล่าว ให้มันดี
ให้มันสมกับที่ “เขามาเชิญ”
งานนี้ ก็ไม่เล็กนะ ระดับ 50 โต๊ะเลยทีเดียว

คำพูด คำกล่าวก็ไม่ยาก หาเลือกเอามาจาก “Net”
ผสม “แต่งเติม” ในความเป็นตัวของตัวเองอีกส่วนหนึ่ง
นอกนั้นจะเหลือก็แค่ หน้าตา, น้ำเสียง และจังหวะที่พูด..



วันนี้เป็นวันเริ่มต้นชีวิตคู่ หนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยกัน เพราะต่างก็มาจากคนละครอบครัว
มีเรื่องให้ต้องเรียนรู้กันทุกวัน การรู้จักให้อภัย และขอโทษ จะทำให้ชีวิตคู่เดินหน้าไปได้

ต้องรู้จัก “เอา เข้า ไว้”  คือ เอาอกเอาใจซึ่งกันและกัน   เข้าใจซึ่งกันและกัน และไว้ใจซึ่งกันและกัน

เพราะการแต่งงานไม่ใช่การครอบครองชีวิตของอีกฝ่ายนึง แต่เป็นการแชร์พื้นที่การใช้ชีวิตร่วมกัน
และที่สำคัญเรายังคงจำเป็นที่จะต้องมีพื้นที่ส่วนตัวให้กันและกันด้วย

การที่ทั้งสองคนจะนำพาชีวิตคู่ให้ไปได้ตลอดรอดฝั่งนั้น บางครั้งการใช้ความรักเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ
เราต้องอาศัยความเข้าใจ และเชื่อใจด้วย 

ในวันที่เราทะเลาะกัน ให้นึกถึงสิ่งดีๆที่เกิดขึ้นในวันนี้ไว้ ตั้งสติให้ดี แล้วช่วยกันหันหน้ามาแก้ปัญหาแทนที่จะเลือกหันหลังให้กัน 
บางครั้งการที่เราต้องยอมไม่ใช่เพราะเราแพ้ แต่เพราะว่ารัก 

และสิ่งสำคัญที่หลังแต่งงานแล้ว  ทั้งคู่จะต้องมีให้กันมากขึ้น นั่นก็คือการให้เกียรติซึ่งกันและกัน

สุดท้ายนี้ ขอให้ทั้งคู่  จงรู้จักรัก  รู้จักอภัย รู้ถึงการให้เกียรติ นั่นจะทำให้ชีวิตคู่ของทั้งสอง มีแต่ความสุข ความราบรื่นที่ดีครับ




ก็สนุกดี ตื่นเต้นดี
ขนาด “ศรีภรรยา” ของผม ยังชมว่า “พูดดี๊ดี”
เพื่อนซี้เจ้าของหมู่บ้าน มันก็แซวว่า “งานลูกกู กูจะเอามึงขึ้นพูดบ้าง  ให้เป็น เฒ่าแก่ฝ่ายชายเลย”
555





จริงๆ ว่าจะจบแค่นี้  ส่งให้อ่านกันแค่นี้...
แต่!!  ดู “บางอย่าง” แล้ว “ของขึ้น!!!”



“ทุกครั้งที่นักการเมืองแย่งชิงอำนาจ   คนที่ร้องไห้เงียบๆ คือ ประชาชน”



“ระบบที่เลว จะทำร้ายคนดีให้กลายเป็นคนชั่ว” – Joker 2019



“การยึดอำนาจก็เหมือนการขี่หลังเสือ   
การสืบทอดอำนาจเป็นภาคบังคับ 
มิเช่นนั้นอาจถูกเสือกัดตาย” - สุมาอี้



“ที่บ้านเมืองวุ่นวายทุกวันนี้ไม่ใช่เพราะ คนดียอมสยบแด่คนชั่ว
แต่เพราะคนชั่วมันคิดว่าตัวเองเป็นคนดีต่างหาก” – ขงเบ้ง



Democracy is the government of the people, by the people, for the people.
(Abraham Lincoln)  ประชาธิปไตยคือการปกครองของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน
(อับราฮัมลินคอล์น)















Or

























all for...........!!??

[the kit]

เวลาจับพวงมาลัยเอารถออกถนน
เคยรู้สึกไหม?  ว่าเหมือนกำลังจะไป “รบ” !!??
เวลาขับรถแล้ว  รู้สึกว่า “กลัว”
นี่ขนาดผม เรียกได้ว่า “ผ่านมาเกือบทุกรูปแบบ” แล้วนะ!!

เมื่อก่อนผมไม่รู้สึกนะ..
แต่เดี๋ยวนี้ รู้สึกได้เกือบทุกครั้ง โดยเฉพาะช่วงเย็นไปถึงค่ำ!!
มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ
“นี่ถนนนะ ไม่ใช่สนามรบและสนามแข่ง...”

การขับรถในปัจจุบัน  นี่ขนาดผมอยู่  “ตจว.” นะ
ใน “Metropolis” จะขนาดไหน!!??
ทั้งเบียด ปาด ฯลฯ
ช่วงเย็นถึงค่ำอาจจะลามไปถึงดึกๆ เหมือนว่า “อารมณ์” ของผู้ใช้รถจะร้อนขึ้น หรือขับ “ห้าว” ขึ้น
หรือเป็นเพราะรถรุ่นใหม่ๆ มันแรงขึ้น!!??
แต่พอสังเกตดีๆ รถมันแรงขึ้น ทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่จริงๆ

“อะไรจะอยู่ในห้องเครื่องไม่สำคัญ... สิ่งเดียวที่สำคัญที่สุดคือ "ใครอยู่หลังพวงมาลัย" Dominic Toretto - Fast and Furious 8

มันใช่ไหม...

หลักๆ น่าจะมาจาก “พฤติกรรม”


ย้อนไปในการขับรถในสมัยก่อน

ก่อนแค่ไหน?

เท่าที่ผมนึกได้  ว่ามันเริ่มเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม  ”ความห้าว” อย่างเด่นชัดที่สุด  คือ...
ช่วงที่ “Vigo และ Fortuner” โฉมแรกถือกำเนิดในไทย!!

จริงหรือไม่ลองนึกดู!!??

ประมาณ ปี ค.ศ.2005
เป็นครั้งแรกในไทย ที่มี “ตัวแรง” ที่ราคาเข้าถึงได้สำหรับคนทั่วไปได้เลือกใช้กัน
แถมตัวแรงนี้ มาในคราบรถ “ครอบครัวและเชิงพาณิชย์” ที่สามารถซื้อใช้ได้ ไม่ลำบากเกินไป
พอรถมันใหญ่  รถมันแรง ก็ “หึกเหิม” ขับไล่บี้ ไล่จี้ไปทั่ว

ตอนที่มันออกมาแรกๆ นี้
Remap ยังไม่มีนะ จะมีกล่องแต่ง, กล่องพ่วงออกมา
ใส่เข้าไป “เรี่ยวแรง” ก็ออกมาอีกพอควร
แต่ตอนนั้น “กล่องพ่วง” มักจะมี “ควันดำ” ตามมาเสมอ
อาจจะไม่มาก เป็นหมึก แต่ก็เยอะพอสมควร
แต่ “ใครจะสน..!!”  ก็คนมันอยากจะแรง
พวกอยากแรง ก็ใส่แบบไม่สนใจ (โลก)
พฤติกรรมนี้ในวันนั้น  กลายมาเป็น “สันดาน” ในวันนี้ สำหรับบางคน
และเป็น “ความเข้าใจผิด” ของอีกหลายคน...
คือ ดีเซลแรง ต้องดำ!!

“พฤติกรรมเลียนแบบ” ต้องมา!!

ทั้งๆ ที่เรื่องจริง มันไม่ใช่
รถคุณถูก “จูน” ในอัตราส่วนผสม “น้ำมันและอากาศ” ไม่ถูกต้อง!!
ถ้าจูนดี ปรับได้เหมาะสม “ควันดำต้องไม่มี” แถมยังได้การประหยัดน้ำมันเพิ่มอีกนิดหน่อย
เมื่อวิ่งแบบเดิมและลักษณะการขับแบบเดิมนะ

สมัยผม “ละอ่อน” ช่วง อีซุมังกรทอง, Big M, Cyclone และ Mighty X
เป็น “ตัวตึง” ในช่วงนั้น

รถดีเซล “อยากแรง” ต้อง “ติดหอย”
ติดหอย อย่างเดียว ก็แรงไม่ได้ ก็ต้องมีการ “ให้อาหารเพิ่ม”
คือ ต้องปรับน้ำมันเพิ่มเติมเข้าไปด้วย

ปั้มจ่ายเชื้อเพลิงสมัยนั้น เป็น “Mechanic” ใช้ “สาย” กันทั้งนั้น
จะปรับในตัวเรือน จะปรับอะไร ก็ต้องใช้ได้ ตั้งแต่ “รอบเดินเบาไปยันเรดไลน์” !!
ถ้าจะ “ไม่เอาควัน” น้ำมันในรอบสูงก็ “ไม่พอ”
เรี่ยวแรงก็หายไป
ถ้าเอาแต่รอบสูง รอบต่ำน้ำมันท่วม ก็สะดุด วิ่งไม่ออก “ควันดำปี๊!!”

เพราะฉะนั้น ต้องจัดกลางๆ ให้มันดีทั้งต้นและปลาย
อันนี้ขึ้นอยู่กับ “ปสก.และความชำนาญ” ของช่างแต่งปั้มด้วย
แต่ยังไงก็หนีไม่พ้น “เผาไหม้ ไม่หมด” อยู่ดี
ควันมีแน่นอน เพียงแต่จะมากน้อย ขึ้นอยู่กับช่าง!!

ในยุคนั้น
ไม่รู้ว่าผมในตอนนั้น “คิดเอง” หรือเปล่า
รถกระบะ “ดีเซล” นิยมไม่มีควันกันมากกว่า!!
คือ พวกมี “อัฐ” มากหน่อย ก็จะหันไปคบกับ “เบนซินมีหอย”
จะสี่สูบ หกสูบ วีแปด รวมไปถึง “ของแปลก” สูบหมุนก็มียัดลงไป
ส่วน “จะรุ่ง” หรือไม่ ก็ว่ากันอีกเรื่อง!!

ผิดกับสมัยนี้ ที่ “จูนเนอร์” สามารถเข้าไปคุยกับ “สมองกล” ของรถได้โดยตรง
ทำให้การปรับจูนได้ละเอียดตามรอบเครื่องเลยทีเดียว!!
แต่ก็อย่างที่บอกในข้างต้นว่า หลายคนยัง “เข้าใจผิด” ว่าควันดำคือแรง!!
เปลี่ยนความคิดใหม่และความเข้าใจใหม่นะ!!

จากด้านบน จากพฤติกรรมการขับห้าวของ FTN และ Vigo ในข้างต้น
ก็กลายมาเป็น “พฤติกรรมเลียนแบบ”
พฤติกรรมนี้เป็นมากกับ “รถแต่ง”
และเป็นมาจนกระทั่งทุกวันนี้..

รถตัวที่ว่า ทำไมเห็นเยอะกับการ “ขับกร่าง” แบบนี้
ก็เพราะ รถมันขายได้เยอะ รถมันขายดี มันก็เห็นเยอะเป็นธรรมดา ก็เลยว่ากันว่า
“ถ้าขับเฮียๆ แบบนี้ ต้องรุ่นนี้  ยืนหนึ่ง!!! ”

วันเปลี่ยน เวลาเปลี่ยน
ผู้เล่น PPV ที่มักจะ “ถูกชม” ว่า  “เฮีย”  ยังคงเป็น FTN เจ้าเก่า
เพราะคงยังขายดี ยืนหนึ่ง

แต่ส่วนผู้เล่นทาง “กระบะ” เปลี่ยนแล้ว เนื่องจาก “หน้าตา” ของผู้เล่นเดิม
แต่งแล้ว “ไม่เฟี้ยว...” 
สู้ “แดก-มี” ไม่ได้  รถ “จัดทรงเตี้ย” แต่งซิ่ง สายหมอบ ยีราฟแคระ
เส้นสาย หน้าตา เขาว่า “มันเอา” ว่างั้น..

“แดก-มี” แต่งเฟี้ยว  แต่งขึ้น  ปรับนิดหน่อยก็แรง
“ม้าแกลบ” จากโรงงานมา “เบๆ” ก็ร้อยกว่าตัว
มา “โม” แล้วแต่ “อัฐ” จัดไปจัดมา  คุยกันได้ที่ “เจ็ด-แปดร้อยม้า” มีให้เห็น
ถือกำเนิดเกิดศัพท์ใหม่..
“ซุปเปอร์คาร์เชิงพาณิชย์ !!! ”

ถ้าไม่ต้องไปถึงสเตปเทพ
เอาแค่ “ลงตังค์” ในความแรง “ประมาณแสน”
สอง-สามร้อยม้าที่ตีน  มีให้เห็น!!

ราคานี้ไม่รวมส่วนอื่น
ล้อแท้ ล้อก็อป ยางเทพ ยางจีน และอื่นๆ ว่ากันแล้วแต่งบ

แต่เท่าที่ผมเคยอ่าน เคยผ่านตา..
D-Max 4 ประตู ยกสูง ขับสองตัว Top คันละเป็นล้าน
แต่แต่งเพิ่ม “นู่นนี่นั้น” แท้และแท้เท่านั้น
ลงไปในรถอีก “สองล้านกว่า!!” ก็มีคนทำมาแล้ว!!

Dmax ตัวเตี้ย จะแคป หรือ สี่ประตู ที่เล่นกันมาก นิยมกันเยอะ
เพราะ ราคา เขาถึงได้ไม่ยาก ยอดผ่อนต่อเดือน สบายๆ ถูกกว่า “ค่าแต่ง” ไปเยอะ!!

รถพวกนี้ โดยมาก “ป.1” จะมี  ก็แค่ ที่แถมมาพร้อมกับรถในตอนซื้อก็แค่นั้น..
จากนั้น “โดยมาก” มักจะไม่ต่อ อย่างดีก็มี “ป.3” ไว้พออุ่นใจ
ไม่ใช่ “วัยรุ่นสร้างตัว” ไม่มีตังค์
เขามีตังค์ บางทีมีเยอะกว่า พวก จบสูง ทำงาน Office อีกนะ
แต่เขา “อาจจะ” เลือกจ่ายที่ชอบๆ

เพราะคำว่า “วัยรุ่น”
เลือดลมอะไรๆ ก็รุนแรง “พลุ่งพล่าน” อยากลอง
ยิ่งรถกูแต่งมาโมมา ก็ต้องลองหน่อย
ยิ่งลอง “ของใหญ่” ของแพง ตัว Top  Supercar ตัวจริง
ถ้าชนะไปนี่ “แจ้งเกิดในวงการ”  คุยได้ “ชั่วลูกชั่วหลาน”

จากข่าว Roll-Royce กับ Dmax อันนั้นก็ส่วนหนึ่ง
แต่เชื่อว่า มีอีกหลายข่าว ที่ “ไม่เป็นข่าว”
เพราะ “คนดัง” กลัวดังก็เยอะ!!

ขนาดผมเอง เจออยู่กับตัวก็หลายครั้ง
ที่ “ซุปเปอร์คาร์เชิงพาณิชย์” มาจี้ตูด “ม้าแคระ” มัสแตงของผม

ทั้งๆ ที่ “กรู” วิ่งซ้ายอยู่ ความเร็วประมาณ 100
มรึงก็ยังมาจี้  เรียกว่า “จ่อดมตูด” เลยทีเดียว
สงสัย “ตูดงอนงาม” มรึงจึงจี้จ่ออยู่นานสองนาน..
ผมเล่นด้วยไหม??

ไม่หรอก “Bleu de CHANEL”  ไม่เอาไปแลกกับ “น้ำหอม ซีซี” !!

มรึงจี้มรึงจี้ไป  มรึงจ่อมรึงจ่อไป
ถ้าเฉี่ยวชนมา มรึงจะหงายการ์ดเชี่ยอะไรก็ตาม
ตีหน้าเศร้า เล่าความเท็จอะไรก็ตาม

มรึงคุยกับ “ประกัน (ที่แสนแพง)” ของกรูเอา
และกรูจะเสริม “ด้วยภาพ” บอกประกันด้วยว่า
มรึง “ตั้งใจ” ขับโดยประมาท!!

 
พวกขับห้าว  ขับปาด  ขับจี้  ขับกวน   นี่ยังไม่รวมไปถึง “พวกช้าชิดขวา” อีกนะ
พวกนี้ มันต้องไปเจอ “ศีลเสมอ” มันถึงจะเหมาะสม..



ไม่ได้หรูหราเท่าเบ้นท์ลี่ย์ แต่ความแรงที่มีแลมโบกีนี่ยังอาย - นักซิ่ง


ผมอ่ะ อืม ดาวน์รถไปสองแสน แต่งเพิ่มอีกไป 3 แสน - นักซิ่ง


ความเก่งไม่ใช่กางเกงใน ไม่ต้องเก็บมันไว้ ต้องเอามันออกมาโชว์ - นักซิ่ง

[the kit]

เมื่อเดือนที่แล้ว ได้เอา PJS ของผม ไปเช็คระยะ 130000 กม.
รถญี่ปุ่นนี่มัน “ดี๊ดี” เช็คระยะที หมดอัฐ ไปแค่ สองพันนิดๆ
สบายๆ แถมไม่จุกจิก  จะจอดนานแค่ไหน จะใช้ ไม่ใช้
Start ที ก็ติดเลย ไม่มี ปห.อะไร
แต่จอดนานๆ จะมีระวังก็แต่เรื่อง “หนู!!”

อันนี้เป็นปัญหาใหญ่ ที่ผมเชื่อว่า หลายคนก็เจอกัน
โดยเฉพาะโรงรถแบบเปิด

ไอ้เราก็ไม่เคย ไม่คิดว่าจะมาเจอกับตัว
“มัน” เข้าไปกัดท่อฉีดน้ำกระจกซะกระจุย!!
ยังดีที่มันไม่ไปเล่นในส่วนอื่นอีก

หรือผมโชคดี ที่เปิดรถมาสังเกตเห็นก่อน...

ก็ D.I .Y เอาเลย
ก็ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ถึงกับยาก!!
จะซื้อเอาเลยมันก็มีขายนะ  แต่ผมพอดีว่าง และ “อยากลอง”
ก็ทำเองเอาเลย..
เริ่มด้วยเอากระดาษแข็ง เอากล่องที่ “คุณภรรยา” สั่งของแล้วไม่ใช้มาตัดทำแบบ
ปากกาเคมี กรรไกร ตลับเมตร วัดตัดทำแบบ
เมื่อได้ “ต้นร่าง” มาแล้ว ก็มาเลือกวัสดุ “ที่คงเหลือ” ในบ้านมาทำ
ของผมโชคดีที่มี เศษมิเนียมแผ่นเหลือ ก็เอามาตัด
อย่างส่วนไหนที่เป็นช่องลม ก็เอาสว่านมาเจาะ ขนาดเหมาะสม หลายๆ รู
เพื่อให้ลมเข้าได้
แต่ส่วนไหนไม่ต้อง “มีรู” ก็ไม่ต้องเจาะ แล้วเอา เทปกาวสองหน้ายี่ห้อที่คุณมั่นใจว่ามัน “หนึบ” ติด
แค่นี้จบ

แต่กว่าจะ “จบ” นี่ หลายวันนะ เพราะไหนๆ ก็ทำแล้ว ทำมันทุกคันที่มีเลยแล้วกัน!!


กลับไปที่ศูนย์มิตซุ วันนั้นที่เอา PJS ไปเช็ค
บังเอิญได้ลอง All New Triton 4 Drs ยกสูงขับ 2 Auto ตัว Top ด้วย
เลยเอามา “เหลา” ให้ฟังไปด้วยเลย..

ภายนอก “ตัวใหญ่ขึ้น” ใหญ่แบบใหญ่เลย
ผมไม่ได้ดู “มิติ” จาก Spec Sheet  นะ
แต่ “เดา” ว่า “ใหญ่” ใกล้เคียงกับ New Ranger แต่อาจไม่เท่ากับ Raptor
ภายใน ดีขึ้น แต่ไม่ถึงกับ “ว้าว”
ช่วงล่าง “ดีขึ้นมากๆ” เลยล่ะ  ผมว่า “ณ เพลานี้” ช่วงล่าง ด้านหลังที่เป็นแหนบ
ผมว่า New Triton “ยืนหนึ่ง!!”
การซับแรง รอยต่อถนน ฝาท่อปูดบวม ทำได้ดี ผมว่ายังดีกว่า PJS ที่ผมใช้อยู่อีก!!

เอาเรื่อง “ความแรง” บ้าง
Triton ใหม่  แรงไหม??

โดยส่วนตัว “พอๆ” กันกับคู่แข่ง
ไม่แรง แต่ไม่อืด..
เมื่อเทียบกับ PJS ที่ผมใช้อยู่..
“ไม่หนีกัน” ไม่ได้รู้สึกถึง “ความแตกต่าง”
และผมว่า PJS ของผม ระบบส่งกำลังต่อเนื่อง เหนือกว่าเยอะ!!
น่าจะมาจาก 8 Speed นะ

สรุปโดยรวม น่าซื้อไหม??
น่าซื้อนะ แต่ควรจะรอตัว Top สุด
4x4 4 Drs. Auto ไปเลยทีเดียวดีกว่า
เพราะ ระบบ “ขับสี่” ที่ดีและฉลาด ใช้ได้ทุกสภาพถนน ยังคงมีมา
และเท่าที่ฟังมาว่า “โบคู่” ด้วย อันนี้น่าจะจบกว่า


คุณต้องเชื่อสิ่งที่อยู่ในใจของคุณ แล้วใช้สมองในการตัดสินใจ – ไมเคิล บลูมเบิร์ก

[the kit]

ปิดเทอมๆ
ปิดเทอมแล้ว ไปไหนกันดี...
แต่ปิดก็เหมือนไม่ปิด
เด็กรุ่นใหม่เดี๋ยวนี้ ปิดเทอมก็เรียนพิเศษ “หนักมากกกก”
ค่าเรียนไม่ต้องพูดถึง...
“แรงมากกก”
(เหมือนเคยอ่านมา ถ้าไม่เข้าใจผิด ดูเหมือนว่า อะไรที่เกี่ยวกับการศึกษา “ไม่เสียภาษี” นะ!!)

ถ้าไม่เรียนพิเศษก็ไม่ได้ เพราะ ถ้าไม่เรียนก็สู้เขาไม่ได้อีก

ผิดกับสมัยผมที่เรียน (หรือผมไม่สนใจเรียนก็ไม่รู้!!??)
เรียนๆ เล่นๆ ตกก็ซ่อม
ผมกับ “เพื่อนซี้” เจ้าของหมู่บ้านนี่
“ผ่านมาเยอะ...”

ปิดเทอมนี้ พอมีช่วงวันว่าง (ของลูก) ที่ดูไว้ล่วงหน้าแล้ว
ก็เลยจองทัวร์ไว้
“ผมไป มันไป”
ครอบครัวผม กับครอบครัวของ “จขมบ”
เดาเอาเองนะ ว่า ย่อ ว่าอะไร??

8 คน ไป “South Korea” กันจ้า...
จริงๆ ตัวผมเอง ถ้าไปใกล้ๆ อยากไป “ญี่ปุ่น” มากกว่า
แต่ “คุณภรรเมีย” และคุณลูก รวมถึง คุณเมีย จขมบ.
อยากไป Korea มากกว่า ก็ต้องให้เขาล่ะครับ..

ทั้งครอบครัวผมและ จขมบ.ไม่เคยไป South Korea มาก่อน..
“ห้องเย็น” ที่มีขึ้นชื่อมานาน

กลัวไหม??

ไม่เลย ไม่รู้สึกกลัวแม้แต่น้อย
มันจะมีอะไร.. ก็แค่ “ตม.” หนึ่งๆ
“ความเขี้ยว” ไม่น่าจะเท่ากับ ปท.มหาอำนาจจากทางตะวันตกหรอก
และคิดตามดูจริงๆ มันจะมีเหตุผลอะไรที่จะไม่ให้เข้า??

ถ้าคนที่ไปเที่ยวจริงๆ ไม่ได้ตั้งใจจะ “สละเรือ” ไปเป็น “ผีน้อย”
มันจะมีคำถามใดๆ มาก็ควรจะตอบได้ ไม่มีอะไรน่ากังวลนะ

วันไป เจอหัวหน้าทัวร์ที่ “สุวรรณภูมิ”
ผมก็ถามตรงไปเลย ว่าชุดเราไปกันกี่คน
“40” คะ

ผม : แล้วดูรู้ไหมว่า คนไหนจะไปเป็น “ผีน้อย”
ไกด์ : เขาแอบกระซิบว่า “พอเดาได้” คะ

ผม : ดูไง ไหนลองบอกซิ...
ไกด์ : กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ แต่ “Noname”, รองเท้าใหม่กิ้ก,
แต่งตัวแบบใส่เสื้อทับๆ ไปเยอะๆ!!??

ผม : ยังไง ไหนอธิบาย..
ไกด์ : คือ แบบว่ากระเป๋าเขาแน่นแล้ว แต่ก็กะอยู่ยาวกลัวหนาว แต่ก็กลัวว่าของที่นู่นจะแพง
ก็เลยพยายามเอาไปเท่าที่เอาไปได้คะ
ผม : ขนาดยอมจ่ายบิน Full service นี่อะนะ
ไกด์ : ใช่คะ ในช่วงแรก ถ้า Full service  “ตม.” เหมือนจะไม่เพ่งเล็งเท่าไร
แต่เมื่อมีมุขใหม่  ตม.เขาก็ต้องปรับตาม

ผม : แล้วผมกับครอบครัวทั้งหมดนี่ล่ะ...??
ไกด์ : เอาลูกไปด้วย ยกทีมแบบนี้ ไม่น่าใช่คะ
ผม : ไปถึงที่นู่น  เดี๋ยวก็รู้.......


บิน Full service นี่ดีจริงๆ
เปลี่ยนที่ดื่มบนฟ้า

อ่อ อ่านไป ไม่ต้องคิดนะ ว่าผมจะนั่ง “Busi”
ไม่หรอก จ่ายแพงกว่าตั้งเยอะ
เก็บส่วนต่างไว้ให้ “คุณภรรเมีย” ช็อปดีกว่า

ไปถึง “ตม.โคเรีย”
คุณไกด์ ก็เตือนมาก่อนแล้วว่า ไม่พูดคุยกับใครที่ไม่ใช่เพื่อนสนิทของคุณนะคะ
เพราะเขาจะมาตีเนียน เข้าร่วมเหมือนเป็นพวกคุณ เพื่อผ่านเข้าคะ

ไม่พูดก็ไม่พูดซิ ผมจะไปคุยกับใคร ถ้าไม่ใช่กลุ่มของตัวเอง
แต่!! มันก็มีจริงๆ อย่างที่ไกด์เขาว่า
มีป้าๆ มาตีเนียนคุยกับคุณลูกผม ซะงั้น
“ไม่เอาๆ ไม่คุยกันนะ.. เราไม่รู้จักกัน  ไม่ friendly”

จขมบ. : เฮ้ย ถ้ามันไม่ให้กูเข้า มึงจะทำไง
ผม : ไม่เป็นไร เดี๋ยวกูเที่ยวเผื่อ..!!
จขมบ : ##$$%$#

เมื่อถึง “นายตรวจ”


เ...ย...

คุณมรึง ดูแค่ "Passport"  ดูหน้าแล้วก็ผ่าน ไม่ตรวจอะไรเลย
ไม่พูด ไม่ถาม..
คือ ไม่อะไรเลยยยย
ทั้งครอบครัวผมและ จขมบ.

อารายยย ไหนว่า "น่ากลัว" ไหนว่า "เขี้ยว"


แต่ๆๆๆ มันอาจจะง่ายแค่บางคน ไม่ใช่ทุกคน
ไปกัน 40 คน
ผ่านมาแค่ 24 คน!!

"ป้าๆ" และอื่นๆ ไม่ได้มาด้วย!!
สงสัย "ลืมของ" หรืออาจจะมีธุระด่วน ที่ไทยคงจะต้องกลับไปเอาเพิ่ม!!

ก็ดี รถก็โล่งขึ้น นั่งสบายขึ้น

ไปเที่ยวกันแบบครอบครัวที่สนิทกันแบบนี้ คือ "ดีมากกกก"
ที่เที่ยวที่ไปครั้งนี้ ก็ไปเที่ยวที่ยอดนิยมต่างๆ เหมือนที่พวกคุณๆ ไปเที่ยวกันนั้นแหละ
ไม่ได้มีอะไร ตื่นเต้นหรือพิเศษ อะไรเท่าไรนัก

"รถลา" ที่โคเรีย ที่เห็นมากๆ ก็รถยี่ห้อที่ผลิตในประเทศเขานั้นแหละ
ก็ขับกันเรียบร้อยดี ไม่ชวนให้ "ตื่นเต้น" เหมือนที่ไทย
ไม่มี Supercar เชิงพาณิชย์, ปลาหมึกพ่นควัน, ล้อยื่นขาถ่างก็ไม่มี
จะมีก็แต่ "กระป้อ" เล็ก ขนของก็เท่านั้น


กลางวันก็ไปเที่ยว ตามที่ "ทัวร์" จัดสรร
กลางคืนเราก็ไปหา นั่งกินนั่งดื่มกัน
ไม่หาข้อมูลไปก่อน  "คุณผู้หญิง" ถูกใจร้านไหน ก็เอาร้านนั้นแหละ
ทั้งแบบ โคเรีย หรือ แบบฝรั่ง หรือ ผสมผสาน ได้ทั้งนั้น

ที่โคเรีย เบียร์ถูกมาก มีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ
“ถูกจริต”
ผมกับ จขมบ. นั่งรอได้ ไม่มีเบื่อ

ใน Minimart ที่สังเกต บุหรี่มีเยอะมากกกกก
เยอะแบบเต็มด้านหลัง Cashier เลย

แต่ก็จริง คนเกาหลีสูบบุหรี่กันเยอะมาก
ในตอนกลางคืนมีเดินสูบด้วยนะ ไม่เป็นระเบียบเท่าญี่ปุ่น

ในตอนกลางวัน "ญ" หน้าตาดีๆ สวยๆ แบบใน "ซีรี่ย์" ไม่ยักมีให้เห็น
แต่ตอนกลางคืน เออเหะ มีหลุดจากซีรี่ย์ ให้ดูเยอะเหมือนกัน..

"ไม่เข้าใจ" กลางวันไป "Make Over" กันอยู่เหรอ!!??

ไปครั้งนี้
คุณภรรเมียผมกับคุณเมีย จขมบ.
“เข้าขา” กันได้ดี
กระเป๋าเดินทางที่มี ตอนมา "โล่งมากกก" แต่ตอนกลับ "แน่นมากกก"

ของที่ “คุณเธอ” อยากได้ หลายอย่างราคาไม่ดีเท่าที่ไทย
แต่นั้นก็ไม่ทำให้ “ความพยายามลดลง”
ไม่ได้บางอย่าง แต่ก็ได้มาแทนอีกหลายอย่าง
“มีความสุข...”


ส่วน “คุณลูก” ก็เต็มที่
ได้มาสวนสนุก ได้นู่นนี่นั้น ได้ของติดไม้ติดมือกันไปพอสมควร

ส่วนผมกับ จขมบ.
เราก็ “Enjoy” กับการดื่มกันไป คุยกันไป
แต่ไม่ได้ของอะไร ติดไม้ติดมือ กลับบ้านกันเลย
คือ ไม่รู้จะซื้ออะไรจริงๆ

อย่างนาฬิกาที่ชอบ ที่อยากได้
ก็ไม่มี ถึงมีราคาก็ไม่ดีอีก ดูที่ Dutyfree ก็ไม่มีของ
แต่ก็ช่างมันเถอะ..

ได้ Exp. ได้ความสุข “มวลรวม” ของครอบครัวกลับบ้านก็พอแล้ว..



•   ความสุข ไม่ได้อยู่ที่ว่าเรายิ้มบ่อยแค่ไหน มันอยู่ที่ว่า เรากำลังยิ้มกับอะไรมากกว่า

•   ชิมอาหารที่คุณรัก ไม่ต้องคิดถึงแคลอรี แค่สัมผัสความอร่อยก็พอ

[Kato]

ว่างก็เขียนเรื่อย ๆ นะครับ ยังติดตามอ่านอยู่

[the kit]

การ “กินแชร์” ระหว่าง “เพื่อนซี้” ในกลุ่มผม มีมายี่สิบกว่าปี..
เจอกันมาตลอด นัดกันมาทุกครั้ง
จะมีห่างเหิน ห่างหาย ก็ช่วง “โควิด” ไปบ้างตามรัฐบาลเขาขอ

เงินแชร์ ไม่ใช่เรื่องหลัก แต่การ “พบปะ” กันนี่ล่ะ เป็นเรื่องหลัก
มาเล่าสาระทุกข์สุข, การเมือง, ธุรกิจ, เรื่องรถ, เรื่องเงิน หรือแม้แต่ “นินทาคุณเมีย” ก็มี..


“พ่อบ้าน ใจกล้า!!??”


เรื่องเงิน ไม่มีอวดร่ำ อวดรวยกันอยู่แล้ว เพราะ “รู้กำพรืด” กันดี..
ใครมี-ไม่มีอย่างไร  เพราะฉะนั้น “เรื่องเงินไม่ใช่ ปัญหา!!??”
 
ในกลุ่มผม มีดีอยู่หลายข้อ
เอา ข้อดีหลักๆ ก็คือ “เรื่องเงิน” นี้ล่ะ

ถ้าไม่นับวัย “ละอ่อน” หรือ “รุ่นๆ”
แต่เริ่มนับตั้งแต่ แยกย้ายกันไปเรียน ทั้งไทยและเทศ
เมื่อเรียนจบกันมา
เชื่อไหม? ไม่มีการยืมเงินกันในกลุ่ม!!??
จะให้ก็ให้เลย ไม่มีการยืม!!

เงิน ถ้าต้องการเงินหมุน ก็จะใช้บริการ “Bank” เอาทั้งนั้น
นี่ คือ ข้อดี และเป็นข้อดีมาก
เพราะ เงิน  “เขาว่า” มันเป็นกระดาษที่คม สามารถ “ตัดได้ทุกอย่าง”
ตัดดี-ตัดชั่ว, ตัดถูก-ตัดผิด และสามารถตัดได้ทุกความสัมพันธ์!!
ไม่เว้นแม้แต่ ความสัมพันธ์ แบบพี่-น้อง
รวมไปถึง พ่อ-แม่-ลูก ด้วย!!!

ขนาด “พระสงฆ์ องค์เจ้า” เป้าหมายสูงสุด คือ “การละ” ซึ่งกิเลส
หลายรูป หลายรูปก็ยัง “ขาด” มันไม่ได้!!!!!!

พอเพียง  แต่ไม่เพียงพอ!!
คำว่า “พอเพียง” จะรู้ จะพอได้ก็ต่อเมื่อ..
คุณมีมันมาก เยอะพอแล้ว หรือ ไม่มีช่องทางหาได้เพิ่มมากกว่านี้แล้ว
ก็ต้อง  "พอ!!"

ถ้าคนไม่มีมัน “ไม่ว่าอะไรก็ตาม” อย่าง “เพียงพอ”
มั่นใจได้ “ร้อยเปอร์เซ็นต์” ว่า “พูดคำๆ นี้ ไม่ได้” แน่นอนนนนน
คือ ถ้าไม่ “ละ” จากทางโลกเลย
ก็ต้องมี “มัน” อย่างมากมายเหลือล้น หรือ
มี “สถานะ” อยู่เหนือกว่านั้น !!??


กลับมาเรื่องเพื่อนดีกว่า
ผมถือว่า ผมโชคดี ที่มีกลุ่มเพื่อนที่ดีๆ
“ซี้ปึ๊ก” กัน

และในกลุ่ม “ซี้ปึ๊ก” ก็มี “ซี้” ใน “ซี้” อีกที
ไม่ใช่ใคร คุณเดาไม่ผิดหรอก “เจ้าของหมู่บ้าน”
มันกับผม มีหลายอย่าง เหมือนกัน แต่ไม่ถึงกับทุกอย่างนะ!!
หลายอย่างที่มันชอบ  ผมเองก็ชอบ
แต่ “เพื่อความมั่นคงและความปลอดภัย” ในชีวิต!!
จึงต้อง “ละ” ไว้...

เห็นเพื่อนมีความสุข เราก็สุข
เห็นเพื่อนมีความทุกข์ บางอย่าง เราก็ไม่ทุกข์นะ!!
กลับ “สมน้ำหน้า” มันอีก หรือ “อิจฉา” มันก็ไม่รู้.....
555
“เราเตือนคุณแล้วววววววววว”


คำว่า “เพื่อน”
เมื่อสมัยเด็ก แค่รู้จัก ก็เรียกว่า “เพื่อน
แต่โตมา  แก่มา  จึงได้รู้ว่า ไอ้ที่พูดสมันเด็กหรือวัยรุ่นนั้น
มันก็แค่ “คนรู้จัก”

ยิ่งถ้าเรามีฐานะหรืออะไรก็ตามที่ “คนอื่น” มองว่าเราสามารถช่วยเขาได้
คนพวกนี้ก็จะเข้ามา เพื่ออยากรู้จัก
แต่ก็เข้ามา “เพื่อผลประโยชน์” เท่านั้น
ไม่รู้ผมมองโลกในแง่ร้ายเกินไปไหม?
แต่เท่าที่เจอมา “ร้อยทั้งร้อย” ผมคิดไม่ผิด..

ผมอยากจะบอกว่า “ยินดีที่ไม่รู้จัก!!”

แต่ก็อย่างว่า “ฅ” ก็คือ คน
ผมก็เสียค่า “ปริญญาชีวิต” มาหลายใบเหมือนกัน!!
และผมก็เชื่อว่า หลายท่านที่อ่านอยู่ รับฟังอยู่
ก็จ่ายค่าปริญญาชีวิต มาพอควร..
ส่วนจะตรี-โท-เอก หรือ ระดับ “Professor” ก็ว่ากันไป

นี่แหละ “รสชาตความเป็นคน”



ในที่สุดก็เดินทางมาถึง
วันสุดท้ายของปี
กว่าจะมาถึงวันนี้ได้
มันไม่ง่ายเลยนะ
มีเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นในปีนี้

ทั้งเรื่องราวดีๆ และเรื่องราวที่ไม่ดี
แต่ต่างเป็นบทเรียนที่ดีและมีค่า
ที่ทำให้เราเติบโตขึ้นไปอีกปี
ยินดีกับชีวิต แม้ว่ามันจะสมหวังหรือผิดหวังบ้างก็ตาม
ยินดีกับคนแปลกหน้า  ที่กลายเป็นคนรู้จัก
ยินดีกับคนที่เคยเป็นเพื่อน ที่วันนี้กลายเป็นแค่คนเคยรู้จัก
และยินดีกับคนเคยรู้จัก  ที่วันนี้กลายเป็นคนแปลกหน้าไป..

ขอโทษที่รักษาเอาไว้ไม่ได้ คงสภาพสิทธิ์เอาไว้ไม่อยู่
ส่วนใครที่เหลืออยู่ จะรักษาเอาไว้ให้ดีที่สุด

สำหรับปีนี้
มีทั้งรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ
มีทั้งเสียใจและผิดหวัง
มีทั้งหนักบ้าง เบาบ้าง ปะปนกันไปในชีวิต

เก่งเหมือนกันนะตัวเราที่อดทน
และพยายามผ่านมันไปให้ได้
สำหรับปีนี้
ก็เติบโตขึ้นอีกปี
ได้รู้จักการใช้ชีวิตมากขึ้น
ได้ทบทวนเรื่องราว ความทรงจำเพิ่มขึ้นอีกปี
ที่สำคัญ ขอบคุณตัวเองและครอบครัวที่เป็นกำลังใจที่ดีมากๆ ที่ยังคงสู้ต่อ..ไปด้วยกัน..



“The best and most beautiful things in the world cannot be seen or even touched. They must be felt with the heart.” – Helen Keller




“Good times become good memories and bad times become good lessons.”



Goodbye'66 and Welcome'67
"ไม่มีที่ไหนสุขใจ เท่าบ้านเรา"

[the kit]

ปีใหม่ที่ผ่านมา ไปเที่ยวไหนกันมาครับ

หยุดยาวปีใหม่ที่ผ่านมานี้
ผมคุยกับครอบครัวแล้ว  ปีนี้เราไม่มี plan ไปไหนนะ
เพราะรถก็เยอะ คนก็แยะ “แย่งกันกิน แย่งกันเที่ยว”
หาทำอะไรกิน หากิจกรรมร่วมกันอยู่บ้านนะ

ก่อนปีใหม่พอควร ผมและครอบครัวก็ได้ไปไหว้ “ขอพร”
จากคุณย่าและคุณพ่อคุณแม่แล้ว และช่วงปีใหม่นี้ พวกท่านก็ไม่อยู่ด้วย
พ่อแม่ เขาไป “Countdown” กันที่ “Mammoth Lakes, California” กัน
ส่วนคุณย่า ขออยู่บ้านดีกว่า ไม่อยากไปด้วย เพราะมันหนาวเกินไป ไปไหนไม่สะดวก

ก่อนหยุดยาวปีใหม่ เราเลยไป “ช็อป” ของกินของใช้มาซะแน่นตู้
ใครอยากกินอะไร แบบไหน เลือกมาเลย ทั้งของสด และสำเร็จรูป
นึกกันไว้เลยว่า วันนี้จะเมนูอะไร พรุ่งนี้เมนูอะไร ไทย ญี่ปุ่น ฝรั่ง ซีฟู๊ดยาวๆ ไปเลย

“แบบนี้ก็ดีนะ” มีกิจกรรมร่วม อบอุ่นและก็อยู่กันเฉพาะคนในครอบครัวจริงๆ
เพราะแม่บ้านและคนงานก็หยุด อย่างว่าเขาก็อยากหยุด อยากกลับไปอยู่กับครอบครัวเขาเช่นกัน

แต่ๆๆ มีอยู่ครอบครัวหนึ่ง มันไม่อยากอยู่บ้านตัวเอง!!
อยากมา “กวน” บ้านคนอื่น

จขมบ. : มึงอ่ะ หยุดยาวปีใหม่ มึงไปเที่ยวไหนกัน...
ผม : ไม่ไป กูคุยกันแล้วอยู่บ้าน
จขมบ : เออดี  กูและครอบครัว ไม่รู้จะไปไหน กูไปบ้านมึงได้ไหม 30, 31 อ่ะ
ผม : ที่เที่ยวมีเยอะแยะ ไม่หาเรื่องไปวะ
จขมบ : เมียกูว่า ขี้เกียจไปแย่งที่กิน ที่เที่ยวกับคนอื่น
ผม : งั้นมึง ไม่หาอะไรทำอยู่บ้าน หาทำนู่นนี่นั้นกิน ดูหนัง ฟังเพลง ฯลฯ
จขมบ : ไอ้เมียกูกับลูกกู เขาก็โอเคนะ  แต่กูว่าอยู่บ้านนานๆ มันเบื่อ อยากไปเล่นกับมึงมากกว่า
            มึงลองคุยกับซ้อดูว่า เขาโอเคไหม?
ผม : มึงนี่จริงๆ เลย  เดี๋ยวกูคุยกับคุณเมียก่อน แต่ถ้าเขาไม่สะดวก อย่า ว่ากันนะเว้ย

คุณเมียผม ง่ายๆ อยู่แล้ว
เธอว่า มาก็ได้ จะได้มีเรื่องคุย มีกิจกรรมเพิ่ม หลายคนก็สนุกดี

สรุป มัน “ตัวติด” อยู่กับผม 30, 31 และ 1 เลยทีเดียว
ตอนมันมา มันก็ดีนะ เตรียม “เสบียงกรัง” มาเยอะเลยทีเดียว
ตู้เย็นใหญ่ๆ ที่มีอยู่ 2 ตู้ และตู้แช่เครื่องดื่มอีกตู้ แน่นแบบไม่มีที่หายใจเลยทีเดียว!!

กิจกรรมก็ไม่มีอะไร หาทำนู่นนี่นั้นกินกัน โดยมีผมเป็น “พ่อครัว”
คุณเมียผมและคุณลูก เป็นคนช่วยเตรียมวัตถุดิบ
ลูกและเมีย จขมบ. ก็ช่วยกันเก็บทำความสะอาด
ส่วน จขมบ. เป็น “คนล้างจาน!!”

กินๆ ดื่มๆ คุยๆ เล่นเกมส์ เล่นน้ำ ร้องคาราโอเกะ และ “Nap”
 สุขใดจะเท่านี้..


ก่อนจาก จขมบ. มันบอกกับผมว่า กูล่ะไม่อยากล้างจานเลยจริงๆ
แต่ถ้า “ไม่ทำ” เลย  ลูกกูก็จะดูว่า “ป๊า” เป็น “คนไร้ประโยชน์”
รอบหน้า ทำไมมึงไม่ใช้จานกระดาษ แก้วพลาสติกแทนว่ะ?

ผม : ใช้น่ะ ใช้ได้ แต่มันไม่ได้ “อรรถรส” ในการกิน การดื่มเว้ย!!



สวัสดีปีใหม่ 2567
“ขอความสุข จงบังเกิดมีแก่พวกท่านทุกคน รวมถึงผมและครอบครัวด้วย”



ไม่สำคัญว่าคุณจะมีความสมบูรณ์แบบแค่ไหน
แต่สำคัญกว่า... ที่คุณต้องมี ความสม่ำเสมอกับสิ่งที่คุณทำ
- Satya Nadella –

ของขวัญที่ดีที่สุดคือ ครอบครัวที่เข้าใจกันเสมอ

[the kit]

เดือน ก.พ. 67 นี้ มีทั้ง วันตรุษจีน และวันวาเลนไทน์
แต่วันไหนๆ ก็ไม่สำคัญเท่ากับ”วันพิเศษ” ของ “คนพิเศษ”
เพราะเดือนนี้มี “วันคล้ายวันเกิด” ของ “คุณศรีภรรยา” อยู่ด้วย

ของขวัญๆ ให้อะไรเธอดี..
ให้ “Gift” แบบ “Surprise!! (อ่านเสียงสูง)” ดีกว่า..
ว่าแต่ว่า “จะให้อะไรดีนะ...??”

ธรรมดาเวลาผมไปไหน ถ้าไม่ใช่ ไป “กินแชร์” หรือมีประชุมองค์กรเพื่อการกุศลสาธารณะ
ผมกับศรีภรรยา “ตัวติด” กันตลอดนะ
มีผม ต้องมีเธอ อะไรประมาณนั้น..

การจะหาของขวัญ “ที่ดีๆ” ที่ “ถูกใจ” คุณศรีภรรยา แถวบ้านนี้ยากเหลือเกิน..
ของขวัญ “เลอค่า” ชิ้นพิเศษ จะหาแถวบ้านก็ไม่มี
อยากได้ดีๆ อยากได้ที่ถูกใจ ต้อง “เข้ากรุงฯ”
เข้ากรุงฯ ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่เวลาในการเดินทาง ทั้งไปและกลับ รวมถึงเวลาหาของนี่สิ
จะอ้าง จะบอกคุณเมียว่าไงดี....!!??   

บอกว่าไปไหนดี.......!!??

คิดไม่ออก บอกง่ายๆ เลยแล้วกันว่า..
“อยากออกไปขับรถเล่นนะ..”

ออกไปแต่เช้าตรู่เลย..
ก่อนไปก็หาข้อมูล และร้านที่รู้จักกันไว้แล้ว ว่ามีตัวนั้น ตัวนี่นะ
ไปๆๆๆ ไปดูกัน..ว่าจะได้อะไร มาให้ “คุณเธอ” เชยชม

นานๆ “ซิ่งรถ” คนเดียวก็แปลกดีเหมือนกัน..
เช้าๆ อากาศดีๆ ขับรถเปิดกระจกสุดเลยทั้งสองด้านให้ลมตีหน้า
ก็ให้ “Feel” ดีอีกแบบ

อ้อ!! ลืมบอก ซิ่งรถให้ “เฟี๊ยวฟ้าว” ก็ต้องเอา “มัสแตง” มา
กดเพลิน กดลืม ไม่ได้ดูไมล์ แต่เอาความรู้สึกเป็นหลัก!!
เสียวเป็นยก  เสี่ยงเป็นถอย กดไปเลย ถ้ารู้สึกว่า “มันพอ!!”
เสียงเครื่องยนต์มันได้ เสียงท่อมันพอมี ประกอบด้วยเสียงดนตรีที่เราชอบ..
“มันส์...!!”
...Like a rhinestone cowboy
Riding out on a horse in a star-spangled rodeo
Like a rhinestone cowboy
Getting cards and letters from people I don't even know
And offers comin' over the phone…
Cr. : Rhinestone Cowboy - Glen Campbell

การขับในครั้งนี้..
ไม่รู้ว่า จะได้รับ “ใบประกาศเกียรติคุณ” หรือ “ใบสมน้ำหน้าคุณ” มาเท่าไร??
ช่างมัน.. “อารมณ์กำลังบรรเจิด” แล้วตอนนี้!!
(พฤติกรรมไม่ควรเลียนแบบ)

ไปถึงเร็วกว่าที่คิด ร้านที่คุย หลายร้านก็ยังไม่เปิด
ก็เลยต้องไปหากินอะไร “ฆ่าเวลา” ไปก่อน
อาหารดีๆ ร้านดัง มาตั้งแต่ร้านเริ่มเปิดนี่ ไม่ต้องรอคิวเลย..
ทานเสร็จ กินเสร็จ รีบไป "ดูของ" ดีกว่า..


รู้อยู่แล้วว่า “คุณศรีภรรยา” อยากได้อะไร จากที่ "คุณเธอ" เคยเปรยๆ เอาไว้
แถมช่วงนี้ ราคาก็ดี พอจับต้องได้ด้วย
ต้อง “เอามาให้ได้!!”

ดูนู่น ดูนี่ ดูนั้น
อันนี้แหละ “ที่ใช่!!”

ซื้อเสร็จ รับของเสร็จ
กลับเลยฮะ ไม่รู้จะอยู่ทำไม..?

ผิดกับสมัย “ละอ่อน”
“ฉันชอบเมืองหลวง” มาทั้งที เพื่อนอยู่นี่ก็เยอะ
มามะ ปาร์ตี้กัน..

แต่เดี๋ยวนี้ มาเท่าที่จำเป็น เสร็จธุระ
“ปิ๊กบ้าน” ดีกว่า...

“มหานคร” ไม่ใช่มันไม่ดี มันดีอยู่แล้ว
แต่ “Life style”, ช่วงชีวิต และหลายๆ อย่างของผม มันเปลี่ยนไป..

กลับมาถึงบ้าน.
“คุณเมีย” ยังนึกว่าไป “ซิ่งรถ” แล้วไปแวะคุยกับ “จขมบ.” มา..
ยังถามว่า นึกว่าเอา “Fatboy” ไปขี่ แต่ไม่ได้ยินเสียงท่อ ไม่ได้ยินเสียงสตาร์ท
เลยคิดว่า “ตัวเองหลับลึก” อยู่..

ผมคิดในใจ ก็ไปหาของขวัญให้คุณเธอน่ะแหละ
ไว้ถึงวันเกิด “อุ่นใจ” แล้วจะเอามา Surprise นะจ๊ะ..

“รักนะ จุ๊บๆ..”   



 
จะเป็นดอกไม้สักช่อ ก็ยังคัดกันเอาพันธ์อย่างดี ก็เป็นต้องหามาฝาก ยากเย็นยังไงต้องมี
จะเป็นขนมสักกล่อง ก็ยังต้องลองชิมดูว่าดี ต้องเป็นอย่างนี้ทุกที ก็ใจมันมีให้เธอ

เพียงแต่เธอจะพอใจหรือเปล่า ของที่เราเลือกมา
เลือกมาเองกลับมือ อยากให้เธอรู้ว่า ไม่มีใครดีกว่ารับรอง

ของใดที่ดีจะเก็บมาให้หมด ของดีอย่างเดียวเลยนะ
เลือกมาอย่างดีอย่างดีที่หนึ่ง จะเลือกมาให้เธอ
คัดมาอย่างดี อย่างดีที่สุด คัดมาให้เธอเลยนะ
หัวใจที่มีกับความรู้สึก ที่ทุ่มเทกับเธอ ก็คัดมาอย่างดี

Cr. : คัดมาอย่างดี – นูโว



ฟ้ายังมีตา ที่ฟ้านำเธอมาร่วมทางอยู่กับฉัน
ท่ามกลางคืนวัน ที่เหนื่อยล้ากายใจ
ให้ยังพอมีแรงสู้ไป

ถึงล้มก็รู้ ว่าฉันยังมีมือของเธอ
ถึงฉันนั้นพลั้งหรือพลาดอะไรไป
อย่างน้อยยังมีเธอ เป็นเหมือนเส้นชัย
และทุกๆ ครั้ง ที่เสียอะไรไปเท่าไร
ก็คิดทุกครั้งว่าได้อะไรมา
และพบว่าฉันโชคดีสักเพียงใด ที่พบเธอ

อยู่กันอย่างนี้นานๆ นะเธอ
จากกันวันไหน ฟ้าคงจะผิดหวัง
อยู่กันตรงนี้หัวใจจะฝากฝัง ใส่มือเธอนั้น
อย่าไปไหน อย่าไปไหน อย่าไปไหน

Cr. : อย่าทำให้ฟ้าผิดหวัง - เอนโดฟิน



..You're still the one
You're still the one I run to
The one that I belong to
You're still the one I want for life

You're still the one
You're still the one that I love
The only one I dream of
You're still the one I kiss goodnight
You're still the one.

Cr. : You're still the one - Shania Twain



L is for the way you look at me
O is for the only one I see
V is very, very extraordinary
E is even more than anyone that you adore can

Love is all that I can give to you
Love is more than just a game for two
Two in love can make it
Take my heart and please don't break it
Love was made for me and you

Cr. : L-O-V-E - Nat King Cole

[the kit]

hahaha
มีแซวมาว่า "ภรรยาพี่นี่ โชคดีจังเลยนะครับ อยากได้อะไรก็ได้...."

ไม่ใช่ แค่ "คุณเธอ" น่ะโชคดี
ผมก็ "โชคดี" ด้วยที่ได้ "ศรีภรรยา" ที่ดี
ทุกอย่างที่ได้มา ก็ช่วยกันหา ช่วยกันแก้ไข ช่วยกันเป็น "กำลังใจให้กันและกัน"

ในวันที่เรา ยังให้กันได้ และให้ไปแล้ว เราไม่เดือดร้อน
และทำให้ "คนที่เรารัก และเป็นคนที่รักเรา"  เขามีความสุข
"ต้องให้เลยครับ !!"  อย่า!! ไปรอ..

เพราะชีวิตคนเรามันแสนสั้น  วันนี้คุยกัน  พรุ่งนี้อาจจะจากกันไป ไม่รู้ตัวก็มี!!

Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.” -Mahatma Gandhi


..And life is a road that I wanna keep going
Love is a river, I wanna keep flowing
Life is a road, now and forever, wonderful journey
I’ll be there when the world stops turning
I’ll be there when the storm is through
In the end I wanna be standing
At the beginning with you..

Cr. - at the beginning vocal by christy altomare and derek klena





มาเข้าเรื่องรถกัน
มี “จดหมายน้อย” ถามเข้ามาว่า
“พี่ครับ เห็นพี่เคยเว้าแชสสีย์ของอีซูซุมังกรทอง ผมอยากทราบว่า เขาทำกันทำไมครับ?
ช่วยเล่าให้ฟังด้วยครับ”

แหม..สนใจเรื่องกำลังดังซะด้วย..
และแสดงว่าเป็น “FC” ของผมตัวจริง อ่านตามมาตลอด
Ok ขยับเข้ามาใกล้ๆ จะเล่าให้ฟัง..

ที่รถกระบะ เขา “เว้าแชสสีย์” ก็เพื่อ..
เมื่อเราโหลดรถ มันก็เตี้ยได้ในระดับหนึ่ง แต่ถ้าเอาแบบ “สุดๆ” ยังไงมันก็ได้แค่
“เพลายันกับแชสสีย์”  แต่พอโหลดแบบนี้แล้ว มันจะขับได้ไหม??
เพราะมัน “ไม่มีช่วงยุบ” อีกแล้ว  คือ จะแข็งมาก แข็งน้อยขึ้นอยู่กับ ประเภทยางและลมยางเท่านั้น!!

อ้าว!! แล้วจะทำยังไงล่ะ!!??
“เว้าแชสสีย์” สิครับ นั้น คือ คำตอบ
และเป็น “คำตอบสุดท้าย!!!!! ” ด้วย
เมื่อ “เว้า” แล้วก็จะได้ช่วงยุบคืนมาจากส่วนที่เว้า
ส่วนจะได้ “ช่วงยุบ” เท่าไร ก็ได้แค่ “เกือบเท่าช่วงที่เว้าไปเท่านั้น
ที่ไม่ได้ทั้งหมดเพราะ ต้องมีส่วนที่เป็น “ยางกันกระแทก” ด้วย
ไม่งั้นเวลา “Jump” มามันจะได้ยินเสียงเหล็กกระทบกัน มันคงไม่น่าฟังเท่าไร

ส่วนจะเว้าเท่าไร อันนี้ ขึ้นอยู่กับ “ลูกบ้า” ของเจ้าของรถ
แต่ “บ้าแบบพอดีๆ !!??”  มักจะเริ่มที่ “ครึ่งแชสสีย์” เสมอ
ถ้าน้อยกว่านั้น  อย่า!! ไปทำให้เสียรถเลย...

อย่างตอนที่ผมทำ ผมก็ “เว้า” ไปครึ่งแชสสีย์เลย
ยิ่งตอนนั้นที่ทำ คือ ประมาณ “สามสิบปี” ที่ผ่านมาเห็นจะได้!!
ก็ไม่มี เวบหรือร้านรับทำต่างๆ ที่สะดวกเหมือนสมัยนี้
สมัยนั้นผม “กะ” ผม “ขีด” แล้วให้ “คนเคยเป็นเพื่อน”
ตัดตามแบบที่ผมขีดไว้เลย!!
แล้วก็ “ดาม” อะไรนิดหน่อย พอให้รู้สึก “ทางใจ” ว่ามัน “แข็งแรง!!??”

ผมไม่ได้เป็น “วิศวกร” นะ  เป็น “วิศวกะ!! ”

ทำมาแล้ว ไม่รู้หรอกนะว่า “มันจะดีไหม? ปลอดภัยไหม?”
ตอนนั้น รู้แค่ว่า “ทำไปเลย ใจมันเรียกร้อง!!!”

ในช่วงหลังจากที่ผมทำ มีบ้ากว่าที่ผมทำอีกนะ
เท่าที่ผมเคยเห็น เรียกว่า “บ้าแบบ Unlimit” เลย คือ
“ตัดแชสสีย์” ให้ขาดแล้ว ต่อด้ามขึ้นด้านบนเป็นทรงภูเขาเลย!!!
แต่ใช่ว่าทำแค่นี้ จะเตี้ยได้แบบ “กองไว้” นะ
คุณต้อง “ผ่า” อุโมงค์ล้อให้สูงขึ้นไป รวมถึง ผ่าพื้นกระบะเพื่อให้ “หัวเพลา”
หรืออาจจะรวมถึงแกนเพลาให้ขึ้นไปได้ด้วย!!!!

ถ้าทำแบบนี้ “กองไว้” ได้เลย
แต่ถ้าจะเอาให้ “วิ่งโชว์” ได้ ต้อง “หมดตังค์” ไปกับ “ถุงลม” หรือ “ไฮโดรลิค” อีกชุด

ถ้าถามว่า “ทำแบบนี้ มันเสียรถไหม? อันตรายไหม? การทรงตัว บลาๆๆๆๆ
ตอบได้เลย นอกจาก “สวย??!!” ของเจ้าของรถและบางคน บางกลุ่มแล้ว
นอกนั้น “ไม่มีอะไรดีเลย!!!  จริงๆ ”

ในระยะยาว ช่วงกระบะ จะ “ห้อย” ลงอีก
เนื่องมาจาก “ไอ้ส่วนที่เว้า” นี่แหละ!!
คือ เส้นสายของตัวรถ ก็จะผิดเพี้ยนไป..

ถ้าได้ย้อนไปอ่าน “บทความ” ของผม เมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว
(เพิ่งรู้ตัวเอง  “โม้” มานานเหมือนกัน...)

สมัยนั้น “ลูกบ้า” ตามอายุ, ความ “เฟี้ยว” ตามวัย
“รักษ์โลก” !!??

ประมาณว่า “เพราะเรามีโลกเพียงดวงเดียว จึงอยากจะอยู่ใกล้มันให้มากที่สุด!!”
กดมันไปเลย ห่างจากพื้นโลกแค่ “หนึ่งกล่องฟิลม์!! ” หรือประมาณได้ว่า 2.54 ซม.
 รถผมโหลด “สด” No “ถุง”

เรื่อง “ท้อง(รถ)ลาย” นี่ไม่ต้องถาม “ไม่มีเหลือ”
แต่บางส่วนนี่หนักกว่านั้น คือ มัน “ถูไถ” กับพื้นโลก จนกระทั่ง กินเนื้อเหล็กของตัวรถบางส่วนเข้าไป!!
ถึงเตี้ยขนาดนี้ ก็ไปมัน “ทั่วทิศ ทั่วแดน”
เคยเอา “เพื่อนๆ” ไปเที่ยว ไปติดค้างสะพานหรือเนินจนรถกลายเป็น “ไม้กระดก”
จนต้องมาช่วยกันดึง-กันดัน ก็หลายที..

และก็ใช้ในสภาพ “เตี้ยลากดิน” แบบนี้อยู่หลายปี
ก่อนยกมาเป็น สไตล์ “Rally-Cross”
ในช่วงที่ยกนี้ ก็อุด-ดาม-เชื่อม ปิดที่เว้า และหลายส่วนที่มัน “กินเนื้อเหล็ก” เข้าไป
ให้สภาพมัน “ใกล้เคียง” กับปกติ!!  เพื่อให้คนงานใช้

คนงานบอกว่า คันนี้ “แรงที่สุด” เท่าที่เคยขับมาเลย!!
จากนั้นก็ใช้งานอยู่อีกพอควร ก่อนขายไป

ในตอนขายผม “ไม่ปกปิด” คนซื้อต่อ
ก็บอกเขาตามตรง เขาก็เข้าใจ (หรือเปล่า!!??)
แต่โดยรวมเขาชอบมาก เพราะรถผม “ครบเครื่อง”
ทั้ง หอย เครื่องเสียง กระจกไฟฟ้า แม็ก-ยาง
รถกระบะสมัยนั้น เพิ่งจะมี “Power  Window” กันเอง มีก็แค่ในรุ่น Top นะ
และในตอนนั้น Turbo จากโรงงานก็ยังมีแค่บ้างรุ่น และส่วนมาก “หอย Nursery”
ความแรงยังห่างจาก “มังกรทอง” ของผมเยอะ

ทุกวันนี้ ในบางวัน นานๆครั้ง ผมยังเจออดีต “รถไถ” ของผมคันนี้วิ่งอยู่แถวบ้านอยู่เลย!!
สภาพโดยรวม แม้ว่ามันจะ “ร่วงโรย” ตามกาลเวลา แต่มันก็ยังมี “ภาพจำ” อยู่
เป็นล้อ OZ และมีเสียงหวีดจากเทอร์โบอยู่ ตามที่มีมา ตั้งแต่ก่อนขายไป..

ที่ “เล่า” มาทั้งหมด
“ไม่ได้หวัง” ให้ใครมาทำตาม แค่เป็น “ความรู้”
เผื่อว่า “รักษ์โลก” อยากใกล้ชิดกับพื้นโลก จะได้ “ครวญคิด” ก่อนตัดสินใจนะ!!



ธรรมชาติอาจจะดูธรรมดา แต่ความธรรมดานี่แหละ ที่ทำให้เราดูเป็นธรรมชาติ



Sometimes you just have to look back at your past
and smile about how far you’ve come.

[the kit]

วันหยุดยาวสงกรานต์ ไปเที่ยวไหนกันมาบ้างครับ?

หยุดยาวทีไร ผมและครอบครัว จะเป็นอะไรที่ “แปลก”
คือ ไม่อยากไปเที่ยวที่ไหน ที่ไปแข่ง ไปแย่งกันกินกับใครเขาเลย..

หยุดยาว อยู่บ้าน อยู่กับครอบครัว คือ “ดีที่สุด”
ไอ้เพื่อนฝูง หลายคน หลายก๊วน ก็ชวน เนื้อหาประมาณว่า..
เฮ้ย.. มึงมานี่ มาเล่นน้ำกับกูนี่  สาวตรึม!!
ผมก็ “ขอบใจ+ปฎิเสธไป”  ทั้งหมด

ถ้าเป็นกลุ่ม “เพื่อนซี้” แชร์กงสี พวกนี้ “จะไม่ชวน!!” เพราะรู้ดีว่า ผมไม่ไป!!
ผมมักจะบอกว่า..

วัยรุ่นที่เขาเล่น ที่พวกมึงอยากดูนี่ “รุ่นลูก” ทั้งนั้น  หลายคนก็ “รุ่นหลาน” ไปเสียอีก!!
อายุรุ่นเราแล้ว นั่งกิน นั่งดื่ม อยู่บ้านสบายสุด ไม่ต้องไป “เสี่ยงชีวิต” ข้างนอก
แต่ถ้าเบื่อๆ ก็แค่ขับรถออกไปโฉบ “ดูบรรยากาศ” ก็พอ อย่าถึงกับไปเล่นเลย
แต่อะไรก็แล้วแต่ “ชีวิตคุณ คุณต้องลิขิตเอง!! ”


“ซี้” ผม จขมบ.
ปีนี้มันก็ไม่ไปไหน  และมันก็รู้ว่าผมไม่ไปไหน มันเลยชวนผมและครอบครัว “ไปเยือน” คฤหาสน์มันแทน
เพราะ ช่วงปีใหม่ มันมา “เยือน” บ้านผมแล้ว..

ผม :            ไม่อ่ะ ไม่ไป ขอบใจมาก กูและคุณเมีย รวมถึงคุณลูก ชอบอยู่บ้านมากกว่า..
จขมบ. :        ถ้ามึงไม่มาหากู  งั้นกูขอไปหามึงนะ!!
ผม :            ห๊า.. มึงจะมากี่วัน เดี๋ยวกูต้องถาม ศรีภรรเมียกูก่อนนะ
จขมบ. :       13-14-15 อยู่ยาว เข้าป่ากันไหมล่ะ ริมฝาย ที่เดิม กูจะได้เตรียมรถไปถูก
ผม :           ยังๆ กูต้องถามศรีภรรเมียก่อน  ยังไม่ได้ Accept
จขมบ. :       เชื่อว่า คุณซ้อ เขา Ok อยู่แล้ว  เห็นเมียกูคุยกับซ้ออยู่ ว่าไม่ได้ไปไหน
                 เมียกูก็เลยชวนซ้อมาเล่นที่บ้าน  แต่ซ้อว่า อยากอยู่บ้านมากกว่า
                 เมียกูก็เลยบอกซ้อว่า งั้นขอรบกวนไปเยือนที่บ้านเหมือนเดิมได้ไหม?
                 ซ้อว่า "ก็ได้"    ซ้อว่างั้น....
ผม :           สรุปเขาคุยกันแล้ว แล้วมึงจะมาถามกูทำไม..
จขมบ. :      กูก็ต้อง ขออนุญาตจาก “Head Chef” ก่อนสิ  ถ้ามึงไม่อนุญาตแล้ว  เดี๋ยวมึงไม่พอใจมา
                กูและครอบครัว จะเอาอะไรกิน จะให้กูสั่ง Pizza และไก่ทอดกิน ทุกมื้อเลยรึ!!
ผม :          เออๆ ถ้าเมียมึง คุยกับคุณเมียกูแล้ว คุณเมียกูเขา Accept จะมาก็มา แล้วมึงอยากกินอะไร
                กูจะได้หาซื้อวัตถุดิบถูก
จขมบ. :      ขอบใจมากเพื่อน มึงไม่ต้องเหนื่อย เดี๋ยวกูเตรียมให้มึงเอง เอาเมนูแบบเดิมไหม ฝรั่ง ไทย ญี่ปุ่น
                ซีฟู้ด
ผม :          ok. อยากกินอะไร ก็เตรียมมาแล้วกัน เดี๋ยวกูจะ “เนรมิต” ให้ “Omakase”


ก่อนถึง “หยุดยาว”
“คุณศรีภรรยา” ก็ถามผมว่า เราไม่ออกไป “ช็อป” อาหารก่อนเหรอ
เดี๋ยวเพื่อนมาแล้ว มาเตรียมมันจะ “ฉุกละหุก” นะ

ผม :         เห็นมันบอกว่า จะเตรียมมาทั้งหมดนะ รอดูแล้วกัน  แต่คิดว่า ไม่น่าพลาดนะ..

ถึงวันหยุดยาว มันปรากฏกาย ตั้งแต่เย็นวันที่ 12 เลยทีเดียว
“เสบียงกรัง” ขนมาเพรียบ ทั้งวัตถุดิบ, เก็กฮวย, Cognac, Tennessee whiskey,
Scotch whiskey และ น้ำองุ่นหลากยี่ห้ออีก 2 ลัง!!
พร้อมเอารถมา 2 คัน ทั้ง New Raptor และ Vellfire

ผม :            วัตถุดิบ มึงขนมาทำไมตั้งเยอะ และรถเอามาทำไมตั้ง 2 คัน!!??
จขมบ. :       ก็เผื่อมึงอยากจะพากูไป “เข้าป่า” เลยต้องเอา “ตัวลุย” มาด้วย
                 แล้วเสบียงกรัง เอามาน้อยไม่ได้หรอก เหลือดีกว่าขาด 
                ส่วน “ของมึนเมา”  กูว่ามันก็พอดีๆ นะ เพราะ ครั้งที่แล้ว บุก “คลังแสง” มึงไปเยอะ
                เลยต้องเอามาคืนบ้าง  เดี๋ยวครั้งหน้า มึงจะไม่ให้กูมาอีก..
ผม :          เออ ก็ดี  น้ำยาล้างจาน เอามาด้วยหรือเปล่า??!!
จขมบ. :     ไม่ต้องเลย กูรู้หน้าที่!!


ทั้งสงกรานต์ ได้ออกไป “ดูโลก” ในวันที่ 14 อยู่วัน เป็นเวลาสัก 2-3 ชม.
ไม่ใช่ อยากออกไป แต่ ไอ้จขมบ. มันอยากไป!!

เอา Vellfire มันออกไป อัดกันแบบ “ปลากระป๋อง” ไปทั้งสองครอบครัว
ผมนั่ง “กระดิกตีน” จิบน้ำองุ่นเบาๆ เป็นเพื่อน “พลขับ” ในด้านหน้า
ส่วนพลขับ ก็ใช่ใครที่ไหน “จขมบ. นั้นเอง..

มันอยากดูสาวนัก ก็ให้ดูให้เต็มอิ่ม แต่ดื่มองุ่นไม่ได้
แต่ก็ดูมันมี “ความสุข” ดีอยู่นะ..
ทั้งๆ ไอ้ที่ดู มันไม่ได้ “น่าดู” อย่างที่ใจคิดสักเท่าไร..


ดูพอหอมปาก หอมคอ
บรรดาลูกๆ บอก “ป๊า กลับบ้านเหอะ กลับไปเล่นน้ำที่บ้านดีกว่า..”

2-3 ชม. บนรถนี่ ได้ระยะทาง ไม่กี่ กม.
เพราะ “โคตรติด”  แต่ก็เอาเถอะ “สีสันวันสงกรานต์”

อากาศ ช่วงนี้ “ร้อนโคตร-โคตรร้อน”
บางคนบอกว่า “ไปห้างฯ” ตากแอร์ดีกว่า ประหยัดค่าไฟบ้าน??
ถ้าไปแล้ว “ไม่ซื้อ” อะไร
ผมว่า ก็ยังไม่คุ้ม!! เลย

ไหนจะค่าน้ำมัน  ไหนจะต้องแต่งตัว  ไม่รวมค่า “เวลา” ด้วยนะ

อยู่บ้านเปิดแอร์ ทั้งวัน ทั้งคืน ใช้เครื่องอำนวยความสะดวกเต็มที่
ตีไปเลย ค่าไฟอย่างมาก ก็อยู่ในช่วง “หมื่นกว่า”
เฉลี่ยไปเลย วันละ 5-6 ร้อย
แต่สบายกว่ากันเยอะเลยนะ!!

ไปห้างฯ สำหรับ 1ครอบครัว ตั้งแต่เที่ยงยันเย็น เฉพาะกิน และซื้อของนิดหน่อย
แบบไม่มีๆ ต้องมี “3-5 พัน” เป็นอย่างน้อย!!
ใครไปห้างฯ แล้ว “หมดตังค์” หลักร้อยนี่ ต้องขอบอกว่า “สุดจริงๆ!!”


สรุป ทั้งสงกรานต์นี้ นอกจากออกไปดูเขาเล่นแล้ว
ก็เล่นน้ำ แช่น้ำ กินดื่ม พูดคุย ร้องคาราโอเกะ เล่นเกมส์ ช่วยกันทำอาหาร อยู่ที่บ้าน ไม่ไปไหนเลย
อากาศร้อนมากกกก ไม่อยากออกไปไหนเลย
นั่งๆ นอนๆ ตากแอร์อยู่บ้าน “สบายกว่าเยอะ!!”

กิจกรรมในครอบครัว ก็เยอะแยะ
อย่างครอบครัวผม ชอบทำอาหารร่วมกัน
ช่วยกันนึกว่า อยากทานอะไร ช่วยกันทำ
โดยเฉพาะ ตอนเตรียมวัตถุดิบ และทำอาหาร นี่สนุกมากๆ
ลูกๆ ผม ยกให้ผมเป็น “Ramsay”
ตอนเขาเตรียมวัตถุดิบ  ผมก็จะถาม “กี่นาที?”
ลูกๆ  : 7 นาที
ผม : นานไป ขอ 5 นาทีนะ
ลูกๆ : Yes, Chef
อะไรประมาณนี้ ตลอดรายการอาหาร..

ทำเสร็จ ก็มากินรวมกัน

ว่างก็..
คุณลูก ก็เล่นน้ำ เล่นเกมส์กันไป
คุณเมีย ก็คุยกันไป
ผมและซี้ ก็ “สัพเพเหระ” กินๆ ดื่มๆ โม้ๆ ร้อนก็ไปแช่น้ำ

แค่นี้ ทุกคนก็มีความสุขมากมายแล้วนะ

Happy วันสงกรานต์ ครับ



เคยไหม? มองรอยยิ้มคนที่เรารัก จนเรายิ้มตาม


The most important thing is to enjoy you life - to be happy. It's all that matters.



You know I can't smile without you
I can't smile without you
I can't laugh and I can't sing
I'm finding it hard to do anything

You see, I feel sad when you're sad
I feel glad when you're glad
If you only knew what I'm going through
I just can't smile without you

You came along just like a song
And brighten my day
Who would have believed that you were part of a dream
Now it all seems light years away…


Cr : Can't Smile Without You-Barry Manilow

[the kit]

“พอเพียง !!?? ” คำๆนี้ กำลังเป็น “ประเด็นร้อน” โดยนักพูดชื่อดัง

ในแง่มุมเขา  เขาพูดก็ไม่ผิดนะ
 “เขาดัดจริตเอง!!”

คือ อยากลอง รักธรรมชาติ อยากอยู่กับธรรมชาติ
อยากตื่นมาเจอหมอก ได้ยินเสียงน้ำ กินผักและอื่นๆ จากธรรมชาติที่ปลูกเอง
เหมือนง่าย แต่จริงๆ ไม่ง่าย!!??

ไม่ว่าใคร ถ้าเคยอยู่แบบ “คุณหนู” หรือแบบ “ผู้มีอันจะกิน” มาก่อน
อยู่ดีๆ แค่เข้าป่า เพราะ “ใจรัก??”  หรือฟัง"เขาว่า" มาแล้ว "อิน"

การจะไปใช้ชีวิตอยู่ “ใกล้ธรรมชาติ”
แบบที่อ่าน ฟัง หรือได้เห็นมาว่า
ตื่นเช้า ได้ยิน ไก่ขัน
ไปเก็บไข่สดๆ ผักสดๆ จากสวน มีปลาสดๆ จากบ่อ มีข้าวที่เกี่ยวไว้ เป็นของตัวเอง มาปรุงอาหาร
สายๆ ถึงบ่ายคล้อย เอนหลัง อ่านหนังสือที่เราชอบ
หรือหลับตาฟัง เสียงลม เสียงน้ำ เสียงธรรมชาติ

เย็นๆ ดูอาทิตย์ลับฟ้า
ช่วงค่ำ นอนนับดาว ดูแสงเดือน


อย่าๆๆ!! เพิ่งไปถึงขนาดนั้น
กลับมาก่อน..



In fact..
สมมุติ มีที่สวยๆ ริมน้ำ ริมเขา ห่างไกลจากชุมชนพอควร
พอที่จะไม่ได้ยินเสียงและความวุ่นวาย
ไม่ต้องใหญ่มาก เอาสัก 1-2 ไร่

ถ้าทำเอง คนเดียวหรือกับ “คู่ชีวิต” แบบมีเครื่องทุ่นแรงครบมือ
เช่น รถไถ เครื่องตัดหญ้า ฯลฯ
เอาแบบทำไปเรื่อยๆ แบบ “ไม่รีบ”
ถึงแค่นี้ บอกได้เลยว่า “โคตรเหนื่อย!!”

เอาใหม่ จ้างเขาปรับพื้นที่ สร้าง “บ้านสวนริมน้ำ” และทุกอย่างตามที่ใจต้องการ
ตาม “เม็ดเงิน” ที่จะสามารถ “หว่าน” ลงไปได้
ถ้า “เม็ดเงิน” เยอะ ขึ้นไปอีก
ลองคุยกับ บริษัทก่อสร้างดู
ถ้าบริษัทดี “เนรมิต” ได้เกินฝัน
ถ้าเงินมี “เพียงพอ” 
ความฝันอัน “พอเพียง ? ”  เกิดขึ้นได้แน่นอน!!

ได้ “บ้านไร่ บ้านสวน ในฝัน”
คือ มีที่เลี้ยงไก่ มีบ่อเลี้ยงปลา มีนาข้าว หรือนู่นนี่นั้น เท่าที่จะคิด จะฝัน ได้แล้ว
มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน แต่สร้าง, ซ่อนไว้ให้ “อิงแอบ” กับธรรมชาติ
เอาแบบสบายๆ เลยนะ

ถ้าอยู่แค่ สองคนกับคู่ชีวิต ไม่มีคนงาน ไม่มีคนรับใช้
ยังไม่ต้องมีลูกเข้ามาเกี่ยวข้องนะ

อยู่แบบอยู่ยาว ใช้ชีวิตที่นี่ไปตลอด นานๆ เข้าไปดูแสงสีในเมืองบ้าง
อยู่ได้ไหม?? 

อยู่ได้!!  แต่ไม่ง่ายอย่างที่คิด
ถ้าคุณไม่ใช่สายบู้ สายลุย สายเกษตรตัวจริง

ไหนจะวัชพืชที่ต้องคอยถาง
ไหนจะสัตว์มีพิษต่างๆ รวมไปถึงสัตว์น่ารำคาญด้วย
แค่พรวนดิน เก็บมูลสัตว์ ให้อาหาร แค่นี้ก็หมดวัน

ไม่ต้องคิดว่า จะมานอนเอนอ่านหนังสือที่ชอบ ฟังเสียงน้ำที่ไหล
“ไม่มี!!”

และไอ้กลางคืน นอนนับดาว
คงไม่ต้อง เพราะ เหนื่อยจากการทำงานแล้ว
กลางคืนนอนจ้า..   นอนยาวๆ ไปเลยจ้า..

อยากจะ “สบาย” ต้องมีคนงานเท่านั้น
มีมาก มีน้อยแล้วแต่หน้างาน
กระท่อมปลายนา บ้านไร่ปลายดอย
“เฉพาะ” ค่าแรงคนงาน เอาแค่ไม่กี่คน ต้องมีไว้จ่าย อย่างน้อย 2-3 หมื่นต่อเดือน
ถึงจะเริ่ม “เพียงพอ” ที่ “พอจะ” อยู่ได้  แบบ “พอเพียง!!”
อันนี้ไม่รวมค่าอื่นๆ นะ  ว่ากันแค่ “ค่าแรงคนงาน”

อ้อ..เกือบลืม ระหว่างทาง ขณะ “ความฝันกำลังก่อสร้าง”
ค่ายาพาราฯ, ค่ายาลดความดัน(ทุรังสูง) และอื่นๆ ด้วย อย่าลืม!!!!!


ถ้า “คิดตาม” แล้วเหนื่อย
แต่อยากพักกาย อิงธรรมชาติ
Resort, Home stay ฯลฯ
เป็นคำตอบที่ดี  ลองไปเช่าไปพักอยู่ดูก่อน
ว่า “ใช่” หรือไม่??!!  เหมาะกับเราหรือเปล่า...??


สมัยก่อน ที่ผมและเพื่อน “เที่ยวป่า”
ป่าจริงๆ เลยนะ ไม่ใช่ป่าหลังบ้าน!!

แรกๆ เคยลุยเอง ลุยกันแบบดิบๆ เฉพาะคนสนิทและเพื่อนฝูง
บอกเลย “ฮา แบบเหนื่อยๆ”
เหมือนแบบสมัย “เรียน รด.”

แค่การจุดไฟ อยากลองแบบ “ดิบๆ” ดู
ซื้อนี่เลย “แท่งแมกนีเซียม” เพื่อเอาไปจุดไฟ
ถ้าอากาศไม่ชื้นมาก ก็พอได้

แต่ถ้ามาเจอ “ไอน้ำ” ในป่า ช่วงเช้า หรืออะไรเข้าไป
บอกเลย...  “หายนะ”

การทำอาหารก็ไม่ง่าย ยิ่งถ้าเอา “สัตว์” ที่หาได้จากในป่า
ไหนจะต้มน้ำ เพื่อลวกขน ถลกหนัง
“วุ่นวายมากกกกกกก”

อาหารไปๆ มาๆ ก็เอาจากที่ “ห่อ” มาจากบ้าน มากินแทน
ทริปนั้น ครั้งเดียว “เลิก!!”
จากนั้นเมื่อเข้าป่าทุกครั้ง
ต้องมีทั้ง “พลรับใช้ คนดูแล” ไปด้วย และพกไปทีละหลายคน
เพื่อครอบคลุมทุกหน้าที่ ในการดูแล  ทั้งอาหารการกิน, เต็นท์ และอำนวยความสะดวกอื่นๆ

พวกผมก็มีหน้าที่เตรียม
“ยุทโธปกรณ์” ตั้งแต่ เบา ไปยัน หนัก ครบครัน เพื่อความปลอดภัย!!??
อาหารการกินและเครื่องดื่ม เตรียมให้เกิน อย่าได้ขาด
ยาสามัญ เผื่อเจ็บป่วย

พลรับใช้ คนดูแล บอก “ชอบมาก มากับพวกเฮียนี่” ( “เฮีย” นะ อย่าได้ เพี้ยนเสียง!!)
กินดีอยู่ดี เหลือเกิน!!  น่าจะอยู่หลายๆ วัน

พวกผมก็จะประมาณว่า “ชอบธรรมชาติ แต่ไม่ชอบลำบาก ว่างั้น..”


"เรื่องเล่านี้" มีอีกยาว แต่เดือนนี้เอาแค่นี้ก่อน

เดือนหน้าจะเล่าให้ฟังถึง "คฤหาสน์กลางป่า!! "
“ใคร??” มันจะ “บ้า” มาสร้างในที่ประปา และไฟฟ้าเข้าไม่ถึงกัน!!

เล่าอีกยาวเลยล่ะ ไว้อ่านต่อเดือนหน้านะจ๊ะ..



Every journey is a story of life..



"Starry, starry night
Paint your palette blue and gray
Look out on a summer's day
With eyes that know the darkness in my soul

Shadows on the hills
Sketch the trees and the daffodils
Catch the breeze and the winter chills
In colors on the snowy linen land.."

Cr. - Vincent (Starry starry night) – Don McLean




Cr. - From internet

[the kit]

ต่อจากเดือนที่แล้ว..
สัก 20 ปีเศษ เห็นจะได้
สมัยผมเพิ่ง “สมรัก สมรส” ใหม่ๆ
ถ้าว่าง ผมชอบชวนศรีภรรยา ขับรถ “ดูที่” ตามป่าเขา
ตอนนั้น รถน่าจะเป็น Tiger D4D DBC 4WD
ลุยป่า ลุยเขา เพราะอยากได้ที่ สักแปลง มาปลูก “บ้านพักตากอากาศ” เช่นกัน
แต่ศรีภรรยา เธอว่า มันลำบากไปไหม? เจ็บป่วยฉุกเฉินมา จะทำไง บลาๆๆ


มีที่แปลงหนึ่ง “ถูกใจมาก” ทางเข้าก็พอได้
ถ้าไม่มีฝน กระบะขับสองก็เข้าได้
ขับรถวนๆ ดู ก็บังเอิญไปเจอ “รถลุย brand หรู” ที่ตัวใหญ่ๆ เครื่องน่าจะ V8 4-5 พันซีซี ใส่ยางลุย
ราคาสมัยนั้น ถ้าจำไม่ผิด น่าจะมี 6-8 ล้านนะ
ธรรมดา แม้ในตัว กทม. เอง รุ่นนี้ก็ใช่ จะพบเจอได้ง่าย
แต่นี่ ตามป่าเขา ชนบทแบบนี้
คุณมาได้ไง!!??

มิหนำซ้ำ ทะเบียนสวย xx9999 กทม.
รถคนใหญ่ คนโต ฯพณฯ ท่านไหนน้อ..

แต่ก็ช่างมัน..


กลับมาจากป่า ผมก็เข้าไป ปรึกษาหา “กำนัน” ที่สนิทกัน
กำนันคนนี้ สนิทกันมาก แกรับเหมาถมดิน แต่งที่ 
แกเป็นพี่ผมประมาณ สิบปีเศษ
เข้าป่าทุกครั้ง ผมจะชวนแก หรือ ไม่แกก็ชวนผม
กินเที่ยวดื่มด้วยกัน นับครั้งไม่ถ้วน

กำนัน ผมอยากได้ที่แปลงนี้ มันเป็นลักษณะ “ถือครอง” แบบไหน?
ก็เลยชวนแก ขึ้นไปดูกัน..

ถึงที่ๆ สนใจ
กำนัน : ภบท.5 ถ้าจะเอาต้องไปบอก ผู้ใหญ่บ้าน
            หลักฐานมีแค่ ใบเสียค่าบำรุงท้องที่ ก็ไปเปลี่ยนชื่อเอา ให้ผู้ใหญ่บ้านไปยืนยัน
            แนวเขตมีแค่ชี้ตามต้นไม้ใหญ่!!  ไม่มีหลักโฉนดใดๆ ทั้งสิ้น

คือ ชี้เอาตามที่เจ้าของเก่าเขาบอก..
คือ ต้นไม้ใหญ่นี้ ไปต้นนู่น ต้นนั้น ต้นนี่
ไปให้ผู้ใหญ่ เขาดูหน้าว่าเป็นเจ้าของใหม่ จ่ายเงินค่าที่ให้เจ้าของเก่า ไปเปลี่ยนชื่อค่าบำรุงท้องที่
เป็นอัน “จบพิธี!!!”

เฮ้ย!!! ง่ายๆ แบบนี้ เลยหรือ.....

มันง่ายในตอนนี้ แต่มันจะยากในระยะยาว......



กำนันว่า ถ้าอยากได้แบบนี้ ลองไปพัก ลองไปดู ที่กระท่อมริมผาของกำนันก่อน ว่าชอบไหม?
เพราะ พวกนี้ ตอนซื้อๆ ไม่ยาก แต่ถ้าจะขายๆ ยากมาก
เพราะ ถ้าไม่ใช่คนพื้นที่จริง ก็ไม่รู้จะซื้อเก็บทำไม
ยกเว้นจะเจอ “เนื้อคู่!!”

ว่าแล้วก็ ขับตัดเขาไป กระท่อมริมผา
กระท่อมกำนัน ทำเลดี วิวดี ริมผา ข้างล่างเป็นฝายน้ำ
คำว่า “ริมผา” นี่ สูงจากข้างล่าง ประมาณ 20-30 เมตร เห็นจะได้
แม้หน้าร้อน ก็ไม่ร้อน เพราะ ลมมันโบลตลอด
ลมค่อนข้างแรงเลยล่ะ แรงกว่าเปิด พัดลมเบอร์ 3!!
ชอบไหม!!??

ชอบสิครับ อารมณ์ตอนนั้น กำลังอยากได้
แตะนิด สะกิดหน่อย อารมณ์ “บรรเจิด”

ว่าแล้ว ก็ “ชวนก๊วน” มา “สะวี้วี่วี” ที่กระท่อมริมผา กำนันเลย..
ครั้งนี้มากัน 4 คัน 10 คน
-กำนัน Tiger Cab 5L 4WD ชุดยก Sun ยาง Maxxis Mud 32”
 
-พี่ ม.คนเหนือโลก และเด็ก คนที่เคยเล่าให้ฟังนั้นแหละ (อยากรู้ว่า ชื่อนี้ได้มายังไง ย้อนกลับไปอ่านนะ)
Nissan Big M 4Drs. 4WD เครื่อง BD ฝาแดง โมหอย นู่นนี่นั้นเยอะแยะ แต่ง Terrano
ตัดตูดสั้น ในช่วงกระบะ น่าจะไม่เกิน 1 ม.!! ยาง Simax ตะขาบ 35” วินซ์หน้า-หลัง ดิฟท์ล็อค และอื่นๆ อีกเพียบ ที่หลายอย่างที่คนธรรมดา “ไม่ทำ!!”

-จขมบ. Tiger Cab KZ 4WD ล้อ Mickey Thomson Classic ยาง Mud 33”
ชุดยก Black Diamond ไม่ได้มาคนเดียว  หิ้ว “น้องหนู” มาลำบากด้วยคน

-ผม D4D 2.5 4Drs. 4WD คันนี้ลงล้อ Mickey Thomson Classic 15x10 Off ลึกๆ
 + BF Mud 32” ชุดยก ProComp ฉายเดี่ยว กลัวคุณศรีภรรยาลำบาก

และคนงานอีก 4 คน  หนึ่งในนั้น ก็เป็นคนที่ ผมเคยเล่าว่า ตอนนี้เป็นเจ้าของร้านอาหารป่าเองแล้ว

“เสบียงกรัง” พร้อม
“ยุทโธปกรณ์” พร้อม
“พลรับใช้” ครบ
ลุยกันเลย..

มาช่วงหน้าร้อน น่าจะเมษา ช่วงที่อากาศทั่วๆ ไป ร้อนสุดๆ
แต่กระท่อมริมผา ไม่ร้อน ลมดีเว่อร์ๆ

กระท่อมนี้ ไม่มีประปา ไม่มีไฟฟ้า แต่มี “น้ำซับ”
มีเครื่องปั่นไฟใช้น้ำมันขนาดเล็ก พอปั้มมาใช้ได้
แต่ก็แค่ พอใช้ได้ไม่มาก..

ช่วงบ่ายๆ ไปถึงก็ เฮกันเลย
สนุกสนานยาวๆ ไป..


ถึงจะเป็นกระท่อมกลางป่า แต่ระบบ “สุขา”
ยังมี “ชักโครก” นะ
กำนันว่า “แก่แล้ว ไปทุ่ง ไม่ไหว ยิ่งกลางคืน เดี๋ยวงู ฉก_โปก!! ”
555

คนงานก็กางเต็นท์ ตั้งแต่ช่วงมาถึง ยึด “สมอบก” อย่างแน่นหนา

ตกกลางคืนมา ชักเย็นเหะ
ลมมาตลอดไม่มีแผ่ว
ก่อกองไฟ ช่วยได้เยอะ
อาหารการกิน เครื่องดื่มไม่มีขาด กับแกล้มล้นเหลือ
อยู่สบายๆ  ก็ “เฮฮา” กันไป



รุ่งขึ้น ตื่นกันสบายๆ
กินข้าวเช้ากันเสร็จ
กำนัน ก็ชวนไปดู “คฤหาสน์” กลางป่า!!
กำนันว่า แกและทีมงานเป็นคนปรับ “Land Scape” เอง


ชวนก็ไปสิครับ
ก็อยากรู้เหมือนกันว่า “ใคร??” มันจะ “บ้า” สร้าง “คฤหาสน์กลางป่า”
ตัดป่า ข้ามเขา ผ่านห้วยมา ไม่ไกลนัก แต่เดินทางเกือบชั่วโมง เห็นจะได้
ทางก็พอมันส์ๆ พอเพิ่มรอยขีดข่วนให้รถได้!!

นำโดย รถกำนัน - รถผม - จขมบ. - พี่ ม.คนเหนือโลก

ทางเข้าคฤหาสน์  ซ้ายก็เป็นป่า ขวาก็เป็นป่า ทางเข้าเป็นหินคลุก ไม่มีอะไรโดดเด่น
ยังนึกไม่ออกจริงๆ ว่ามันใช่เหรอ?  หรือว่าจะโดนกำนัน “อำ” !!

เมื่อเข้าไปใกล้อีกหน่อย เริ่มจะมี “เค้าลาง” ความสวยงามอยู่
จาก ดอกไม้ ต้นไม้ ที่มีการตัดแต่ง



หน้าทางเข้ามี กระท่อม “Guard” อยู่ และที่รั้วมีการขึงลวดตีเกลียว
พร้อมสัญลักษณ์ “ไฟฟ้า” !!!!!
มันใช่เหรอ!!???

“Guard” ก็ถามกำนันว่า ได้นัดไหมอะไร ประมาณนี้ แล้ว “ว.” แจ้งด้านในว่าอนุญาตหรือไม่
พอได้รับคำสั่ง ก็ถึงเปิดประตูให้ผ่านเข้าไปได้!!


เมื่อเข้าไป ก็เห็นตัวคฤหาสน์จริง
เออ..นี่มัน “ของแทร่..”
ว่าแต่ว่า รูปทรงลักษณะตัวบ้าน มันคุ้นตา เหมือนเคยเห็นที่ไหนมานะ..
แต่ยังคงนึกไม่ออก..??

และก็บังเอิญเห็นโรงรถ พบ “รถต้องสงสัย” อยู่
ใช่แล้ว!!  รถลุย brand หรู ทะเบียนสวย xx9999กทม.

ในโรงรถ มี Pajero Shogun แต่งลุย ทะเบียน xx9999กทม. จอดด้วย
1 Tiger cab และ 1 Tiger 4Drs. ทั้งหมดแต่งลุย เป็น 4wd ทั้งนั้น

กำนันว่า เจ้าของบ้านอยู่พอดี เดี๋ยวจะพาไปรู้จัก


พวกผม ก็ Ok. มาถึงเรือน มาเยือนถึงถิ่นแล้ว ก็ต้องทักเจ้าบ้านเขาหน่อย
เจ้าบ้านเป็น “คนดัง” ระดับประเทศเลยล่ะ..

กำนันก็แนะนำ ให้รู้จักและทักทายกัน
เจ้าบ้านก็ใจดี๊ใจดี ชวนชม “คฤหาสน์” สไตล์ “Log Home”
มี 3 ชั้น
ชั้น Lower เป็นห้องเก็บไวน์ และ Movie room
ชั้น G รับรองแขก นั่งเล่น ตกแต่งสไตล์ American Country
ชั้น Upper ห้องบรรทม อันนี้ไม่ได้ขึ้นไปดู

สัดส่วนบ้านคุ้นตา เพราะ ย่อส่วนมาจาก....
(ขอไม่กล่าวดีกว่า play safe!!)


ตัวไม้ที่ทำบ้าน “นำเข้า” เกือบทั้งหมด
กระจกหน้าต่างเป็น 2 ชั้น กันเสียงและอุณหภูมิทุกบาน
มีเตาผิง เผื่อหนาว และสามารถก่อไฟได้จริง

นอกจากตัวคฤหาสน์ ยังมีเรือนคนรับใช้ และเรือน Guard อยู่แยกออกไปอีก 2 หลัง

ในป่า ที่นี่ ประปาและไฟฟ้า ยังเข้าไม่ถึง
แต่ไม่ต้องกลัวว่า ความเป็นอยู่จะลำบาก

มีการขุดน้ำบาดาล + ตัวกรองและถังพักขนาดใหญ่ หลายถัง รวมๆ หลัก “หมื่นลิตร!!”
ไฟฟ้า มีเครื่องปั่นไฟขนาดใหญ่ 2 เครื่อง ใช้น้ำมันดีเซล แต่เสียงไม่ดัง สลับใช้
และดู “ไม่ขัดสายตา” เพราะมี “เรือน” เก็บ ให้ดูกลืนกับธรรมชาติ
เท่าที่ฟังและถ้าจำไม่ผิด เครื่องปั่นไฟยี่ห้อ มิตซูบิชิ ราคาเครื่องละ 2 ล้านบาท ณ ตอนนั้น!!

และที่รั้ว ที่ติดว่ามีไฟฟ้านั้น “ไม่ได้ติดขู่” แต่ปล่อยกระแสไฟฟ้าจริง!!
ที่ต้องทำแบบนี้ “เจ้าบ้าน” ท่านว่า เพื่อป้องกันสัตว์ป่า เข้ามาในพื้นที่
แค่ดูดสะดุ้ง ไม่ถึงตาย ถ้าไม่สัมผัสนาน!!! ท่านว่าอย่างนั้น.....


พูดคุยกัน..
เจ้าบ้านก็เชิญชวนให้จิบไวน์ ขวดละหลายตังค์ของท่านที่มีอยู่เต็ม “Cellar”
แต่ก็มิกล้า “ตีเสมอ” ขนาดนั้น
พวกผมก็จิบ “เก็กฮวยขวด” ที่พกมาในถังน้ำแข็งด้วย
บรรยากาศที่คฤหาสน์ดีมากกกกกกก
เงียบสงบ ร่มเย็น แถมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน
ตกแต่งอย่างดี งานเนี้ยบมากเลย แม้จะอยู่กลางป่า
คือ ถ้าไม่บอก นึกว่าอยู่ในโรงแรมชั้นดี โซน “America or Swiss”
แถม “คลังยุทโธปกรณ์” ที่ท่านพกมา ป้องกันตัว!!
ตัวเด็ดๆ ท็อปๆ แจ๋วๆ แพงๆ limited ทั้งนั้น
เน้นพกมาเยอะ เหมือนกัน

“ใช้ไม่ใช้” ว่ากันอีกที 555

ดู “คลังแสง” ของท่านแล้ว
ไอ้ของที่เรามี กลายเป็น “ของเด็กเล่น” ไปเลย 555
(พกมาทำไรอะเรา!! มีแต่สีดำๆ ด้านๆ ไม่มีด้ามลูกกวาด งาช้าง สแตนเลส limited อะไรกับเขาเลย...)
 


คุยกัน “พอหอมปากหอมคอ” ก็ขอตัวกลับกัน..

ค่าก่อสร้างตัวคฤหาสน์ ทั้งนอก-ใน และอื่นๆ ที่นี่  “หลายสิบ..”
เพราะทั้งวัสดุนำเข้า และ “ค่าบุกเบิกพื้นที่”
ส่วนจะเท่าไร “ไม่กล้าถาม” ฮะ


กลับไปที่กระท่อมริมผา
ปาร์ตี้ต่อ..

กลับมาถึง “พลรับใช้ คนดูแล” ก็ตระเตรียมอาหารกับแกล้มไว้รอแล้ว
แต่กลับมาถึงไม่นาน ฝนหลงฤดู ก็เทมาทีเดียว

ไอ้ฝนหลงฤดูนี่ แรง เม็ดใหญ่ + ลมที่โบลแรงอยู่แล้ว ยิ่งแรงขึ้นไปอีก

“หนาววววววววว” สิฮะ

แ_ง โคตรหนาว ฝนก็ดันตกนาน
ก่อไฟด้านในบ้านก็ไม่ได้  เพราะไม่มีที่ระบายควัน ไม่มีปล่องไฟ
ด้านนอกฝนก็แรง ก่อไฟไม่ได้อีก
ได้แต่นั่งในตัวบ้านคุยกัน ถึงจะ “โม้” มัน
แต่ก็ “จิบเมรัย” แบบ “ไม่สุข” แล้ว
เพราะมันหนาวววว

เสื้อกันหนาว ก็ไม่มีใครเตรียมมา
ก็ใครจะเตรียมมา นี่มัน “หน้าร้อน เมษาฯ นะ!!”

ทน แล้วก็ทน 
หาเรื่องโม้กัน กินกันไป อร่อยไม่อร่อยไม่รู้ แบบปากดำ ปากเขียวกันไป อยู่ สามชั่วโมงกว่า
พอฝนซา ก็ให้คนงานรีบก่อไฟทันที

แค่นี้ก็นึกว่าจะจบ
เด็ก จขมบ. ดันมาปวดท้องอีก ไม่รู้อาหารเป็นพิษหรือ “โดน” อะไรเข้าไป
แต่ก็ยังดีที่มี “ยา” มาด้วย ก็ “พอบรรเทา” ไปได้



รุ่งสายตื่นกันมา “คนงาน” ก็ตระเตรียม ข้าวต้มร้อนๆไว้รอแล้ว
กินเสร็จ นั่งเล่น นั่งคุยกันต่อ คนงานก็เก็บสัมภาระขึ้นรถไป
ไม่นานก็มีฝนมาต่อ..

 “ปิ๊กบ้านดีกว่า!!”
ฝนแรงเมื่อคืน  ทำให้ทางเละมากกกก  การออกไม่ง่าย
กระท่อมริมผา น้ำไม่ท่วม ไม่ขัง
แต่!! ทางลงที่ต่ำกว่านี่ ลำบากพอควร
คือ ถ้าไม่ใช่ “โฟร์วีล” ไม่ต้องออก!!
คนแถวนี้ ถ้าฝนตก ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ เขาก็ไม่ออกไปไหนนะ
เพราะถ้าไม่ใช่โฟร์วีล หน้าฝน หรือมีน้ำ เข้าออกลำบากมาก
ชาวสวน ชาวไร่ กันทั้งนั้น
แต่ที่เขาอยู่กันได้ เพราะ “ชินถิ่น”



กลับมาจากป่า ถึงบ้าน..
“คุณศรีภรรเมีย” นอนกระดิกเท้างามๆ ดู “ซีรี่ย์เกาหลี” ในห้องแอร์เย็นๆ
แซวมาว่า ไปรบมาเหรอ
“เยิน!!” มาเชียว..

ผมก็ “บรรยาย” เลย...
นู่นนี่นั้น..
สรุป ที่บนเขานะเธอ
“ไม่เอาแล้ววววว”  ถ้าเจ็บป่วยฉุกเฉินมานี่ ถ้าออกมาไม่ทัน สงสัยจะได้อยู่ “เฝ้าป่า!!”
เจอฝนแรงๆ ถ้ารถไม่ชัวร์ ไปคันเดียว อาจจะแย่ได้ แถมสัญญาณมือถือก็ไม่มี
ถ้าอยากไปเที่ยว ค่อยไปกระท่อมกำนัน หรือไม่ก็พักรีสอร์ทที่สบายๆ แทน

คุณศรีภรรยา  แซวต่อว่า  “ไหนว่ามันไม่กี่ตังค์ บรรยากาศดี ใกล้ชิดธรรมชาติด้วย 555”

ไม่เอาแล้ววววว นอนกอดคุณเมีย อยู่บ้าน สบายกว่า....... 


 
รู้อะไร ไม่สู้... “รู้งี้”



You're my sunshine on my rainy day



..Well, I found a woman, stronger than anyone I know
She shares my dreams, I hope that someday I'll share her home
I found a love to carry more than just my secrets
To carry love, to carry children of our own..

Cr. – Perfect Ed Sheeran





Cr. - Internet

[the kit]

ได้รับ “เทียบเชิญ” จาก นาฬิกาหรู ยี่ห้อที่ชอบส่วนตัว
เชิญไป “Dinner” สุดหรู
พร้อม “จั่วหัว” ว่า   “VVIP” only!!
มาล่วงหน้าหลายเดือน

กรุณา "R.S.V.P." ด้วยนะคะ คุณท่าน..
ระบุ ลักษณะการแต่งกายมาพร้อม!!

แต่วันที่เขาเชิญมา ตรงกับวันที่ “คุณศรีภรรยา” มีนัด “Health Check”

อยากไปก็อยากไป แต่ก็ตรงกับวันที่คุณศรีภรรยา มีนัด
ใจอยากไป กับไม่ไป 70:30
เอาไงดี?
 
แต่เมื่อคุยกับคุณศรีภรรยาแล้ว 
เธอว่า “ไม่เป็นไร ไปเถอะ ดูแลตัวเองได้...”



เธอตอบมาแบบนี้ก็.....
......
.....
.....














“ ไม่ไป  ดีกว่า!!!  “





พอได้ยินคำว่า  “ไม่เป็นไร ไปเถอะ ดูแลตัวเองได้...”
แค่นี้ก็ “อ่อนระทวย” ไปหมด..
อยู่ด้วยกันมา “ยี่สิบกว่าปี..”
จะไป “เสวยสุข” คนเดียวได้ไง..

“ไม่ไปดีกว่า...” เป็นคำตอบสุดท้าย!!!

นาฬิกาไปก็ “อาจจะ” เสียตังค์  ก็คือ อาจจะได้ของชอบกลับมา หรืออาจจะไม่ได้ก็ตาม
แต่โดยรวม    “มันใช่เรื่องสำคัญในชีวิต  เหรอ!!??”


ไม่ไปดีกว่า  อยู่เป็นกำลังใจให้ “คุณเมีย” ดีกว่า
และตอนนี้ ไอ้ของที่ชอบ ไอ้ของที่มีอยู่
ใส่เรียง ตั้งแต่ข้อศอกไปยันข้อมือ ทั้งสองแขน ก็ “ไม่พอ” อยู่แล้ว!!
และถึงเวลาใส่จริงๆ ก็ใส่ได้แค่ทีละเรือน
จะใส่ 2 มือ แบบ “Diego Maradona” นักบอลชื่อดังผู้ล่วงลับก็กระไรอยู่..

อาจจะเสียดาย แต่ไม่เสียใจฮะ!!
เอาไว้โอกาสหน้า ถ้า “ตรงกัน” ค่อยว่ากันใหม่..


กลับมาเรื่องรถดีกว่า..
คนเรานี้มันก็แปลกหลายอย่าง..
เมื่อ 2-3 วันก่อนในช่วงเย็น ได้ขี่ fatboy ไปเติมลมยางที่ปั๊มน้ำมัน

ขณะที่ผมเติมลมยางอยู่
มีมอเตอร์ไซค์พ่วง ลุงแก่ๆกับลูกชายแก เข้ามารอเติมลมต่อพอดี

ลูกแกก็คุยกับแก ใน “ภาษาถิ่น”
ลุงและลูก ก็มองและก็คุยถึงรถผม..

“ล่อมันใหญ่มากเลย เฉพาะยางนี่น่าจะเส้นหลายพันอยู่ ใหญ่คื้อๆ กับรถอีแต๋นเลย   

ถ้า พ่อถูกหวย!!!! พ่อจะซื่อแบบนี้ขี่สักคันนึง พ่ออยากได้มันมาตั้งแต่ยังเด๊กน้อยแล้ว
ลูกว่า มันน่าจะซัก 2-3 แสน!! ได้นะพ่อ
ตัวลุงว่า เท่าไหร่ก็จะซื่อ ฝันมาตั้งแต่เป็นเด้กน้อยแล้ว อีกไม่กี่ปีก็จะตายแล๊ว ขอให๊ได้ขี่สักหน่อยเถอะ”

ผมเติมลมเสร็จ ผมหันไปยิ้มให้ แล้วก็สตาร์ทเครื่อง ขี่ออกมา...
ลุงแก่ พูดว่า  “เสียงคื้อมาลั่นแท้ เสียงคื้อมาม่วนหลาย  good good” พร้อมยกนิ้วโป้งให้ผม
สงสัยคิดว่า มองผมว่า ผมเป็น "ฝรั่งขี้นก"   


“ฮาโหล มาย เนม อีส...
ทูเด  เอิม ทูเด แฮพ อะ ไนซ เด...”
Cr. – ส.คร.พย.หรม.ครน.สปช.กกน.....   ท่านหนึ่ง ได้กล่าวไว้!!!


ทุกคนย่อมมีฝันกันทั้งนั้น..
ความฝันของแต่ละคนมีได้ ไม่เหมือนกัน

ถ้าคนชอบ “มอไซค์” ก็อาจจะหวังมี “Harley” กับเขาสักคัน
หรืออาจจะเป็นสปอร์ตตัวแรง หรืออะไรก็ตาม

ถ้าคนชอบ “รถ” ก็อาจจะหวังมี “Supercar” กับเขาสักคัน
ฝันอาจจะกลายเป็นจริงได้ ถ้าเรา “ขยัน, มานะและอดออม” และมีช่วงโอกาสที่ดีอย่างเพียงพอ

แต่เมื่อถึงวันหนึ่งที่เรามี “ทุนทรัพย์” ที่จะ “ล่าฝัน” แล้ว ก็อาจจะไม่ตัดสินใจซื้อก็เป็นได้..
ไม่ใช่ เพราะอะไร  เพราะวันนั้น ความคิดอาจไม่ใช่เฉกเช่นในวันนี้..




คงจะเคยตั้งใจใฝ่ฝัน
อาจจะคิดถึงวันข้างหน้า
อาจจะเคยมั่นใจในวันเวลา
อาจจะหวังว่าเป็นไปดังตั้งใจ

คงจะเคยคิดเดาเหตุการณ์
อาจจะฝันให้เป็นดังเก่า
อาจจะเคยโชคดีแต่ขอให้เรา
อย่าไปเหมาว่ามันจะเหมือนเช่นเดิม

วันนั้น
ที่เคยฝันกันว่าดี
วันนี้
อาจยังผิดหวังก็ได้
แต่ขอให้เราฝันกันต่อไป
วันไหน
สักวันความฝันก็คงจะจริง..

Cr.- วันนั้น..วันนี้..วันไหน  บิลลี่ โอแกน

[the kit]

การเมืองๆ
อยากจะคุยเรื่องนี้ซะเหลือเกิน...
แต่ “เนื้อหา” มันคงจะแรง และจะสร้างความแตกแยก
แต่ขอ “นินุง” นะ คิดไหมว่า..

ประเทศไทยนี้ โชคดีเหลือเกิน!!
เหนือกว่า ทุกประเทศทั่วโลก!!!??

มีนายกฯ ทีเดียว ได้ถึง “สองคน!!”
ไม่น่าจะมีประเทศไหน ในโลกเบี้ยวๆ ใบนี้ มีแบบนี้นะ
ซื้อ 1 แถม 1 (หรือเปล่า...??)

แต่ที่แน่ๆ   
ปิดสวิทช์ 3 ป.  ปิดสวิทช์ สว.
คนไทย มีกิน มีใช้ มีเกลียด มีสักสี ไปด้วยกันค่าาาาาาาาาาาาา.....



“ได้ฤกษ์” เอา Dmax เข้าเช็ค 130,000 กม.
กว่าจะวิ่ง กว่าจะใช้ให้ได้ “หมื่นโล” นี่ไม่ง่ายเลยจริงๆ!!
หมื่นโลในครั้งนี้ ใช้ระยะเวลาไป 1 ปีกับ 4 เดือน

การเช็คในครั้งนี้ จะ “หมดตังค์” และเสียเวลามากหน่อย เพราะเปลี่ยนของเหลวทั้งหมด
น้ำมันเครื่อง, เกียร์, เฟืองท้าย, เบรก และหล่อเย็น หักส่วนลดแล้วหมดไป
เกือบแปดพัน!!

โดยรวมนับตั้งแต่ Remap มา คือ ช่วง ห้าหมื่น กม.
ตอนนี้ 130,000 กม. แล้ว รวมใช้มา แปดหมื่น กม.
ทุกอย่างยังปกติ  หลัง remap มา ก็ยังคงเข้าเช็คระยะ เช็คศูนย์ตามปกติ
ทุกอย่างที่ผมใช้ ยังเป็น “ของศูนย์” รุ่นธรรมดา แบบรถเดิมๆ เขาใช้
นมค. ผมก็เลือกใช้เกรด “Semi Syn” ไม่ได้เลือกใช้ แบบ Fully Syn
คือ ไม่เอารุ่นพิเศษใดๆ ทั้งสิ้น 
รวมถึง น้ำมันดีเซลด้วย ก็ใช้แค่ตัวธรรมดา
ไม่เติมตัวพิเศษ ที่แพงกว่าหลายๆ บาทให้เปลืองเงินเล่น แต่อย่างใด..

ถ้าใคร “เงินเหลือ” อยากใช้ อยากเติมก็แล้วแต่..
ผมเองก็รักรถ แต่ “เหลือเงิน” เอาไว้ไปใช้อย่างอื่นดีกว่า..
เติมแล้วก็รู้สึก เร่งดีกว่ากันไม่เท่าไร  แต่โดยรวมแล้วแต่ “อัฐ” ของแต่ละบุคคล
 
การ remap ที่ผมเลือก..
เลือกทำในสเตปต้น  แค่เพื่อ “สร้างความกระชับกระเฉง” แค่นั้น
ไม่เอา ควันดำ เบิ้ลสับตัด หอบ กระเส่า และพิสดารอื่นๆ แต่อย่างใด
และตอนที่ remap นั้น  ยังไม่มี ไอ้เบิ้ลสับตัด อะไรนี่ เพราะ มันเป็นการ remap ยุคแรกๆ

ถึงมีเหมือนตอนนี้ ผมก็ “ไม่เลือก” อยู่ดี
ผมได้ยิน ได้เห็นมาหลายคัน ที่ทำท่อโล่ง แล้วจูน หอบ เสียงกระเส่านี้
บอกตรง ถ้ามึงว่ามัน “ไพเราะ”  มึงควรจอดข้างห้องนอน แล้วก็ติดเครื่องฟังนะ
ยิ่งตอน แอร์ตัดต่อ + ท่อโล่ง + จูนกระเส่า
“โคตรรำคาญ!!!”

ไม่รู้ว่า “ผู้อ่าน” เวลาเอารถเข้าเช็คนี่
นั่งรอ นอนรอ รถกันหรือเปล่า..??

ตาม ตจว. และศูนย์ที่ผมเอา Dmax เข้าเช็คนี่
มันมีที่นั่ง Indoor & Outdoor
บางคน ขนกันมาเป็นครอบครัวเลยก็มี!!
เอาอาหารการกินมาพร้อม
ยังกับมา “ปิ๊กนิก” กันเลยทีเดียว!!

ผมไม่เข้าใจว่า..
จะเอา “ครอบครัว” มาลำบากด้วย เพื่อ...??!!
แต่คิดอีกมุม อาจจะไม่ลำบากก็ได้
เขาอาจจะพามา “สบาย” ก็เป็นได้
เพราะ ที่ศูนย์ แอร์มี, TVมี และของกินก็มีบ้างนิดหน่อย
ไหนๆ ก็มาแล้ว ชวนครอบครัวมาปิ๊กนิค ร่วมด้วยเลยก็ดี
ใครจะรู้...

ระหว่างรถเช็ค ผมก็นัดให้ “จขมบ.” มารับ เพื่อไปหากินอะไร รออีกเช่นเคย
แต่ครั้งนี้ มันไม่ได้มาคนเดียว มันชวน “น้องหนู” คนใหม่ หน้าตาไฉไล หุ่นไซส์มินิ แต่ “ตู้ม” มาด้วย!!

“ใจกล้าแท้!!!”

ก็ไปหานั่งกินข้าวคุยกัน
 
จะเรียก “น้อง” ก็เชิง จะเรียกได้ ไม่เต็มปาก
จะเรียกให้ถูกรุ่น  ว่า “ลูก” ก็จะกระไรอยู่
คือ มันจะรู้รุ่น และ “บ่งบอก” อายุจนเกินไป

น้อง ก็น้องนี่แหละ จะได้ “สบายใจ” กันทุกฝ่าย

ไอ้ จขมบ. นี่ มึงก็ดูแล น้องเขาอย่างดีเลยทีเดียว
ตักนู่น ตักนี่ ให้น้องเขาทาน
และเท่าที่ผมดู ก็เห็นว่า “น้องเขา” มือเท้าปกติดีนะ ไม่ได้อ่อนเปลี้ย เพลียแรงแต่อย่างใด
ทีกับเมียมึง  ไม่เห็น ดูแลหรือแลดู เขาดีอย่างนี้!!??

แต่ก็เอาเถอะ  ความ “สุก!! ” ของมัน
ก็ Poppy Love กันไป จะเอาอะไรมาห้ามก็คงยาก!!

กินกันไป คุยกันไป
เจอคำๆ หนึ่ง ที่น้องเขาทักมา เกือบสำลัก!!

น้องหนู : เฮียค่ะ หนูมีเพื่อน น่ารักๆ อยู่หลายคนนะ สนใจมั้ยค่ะ?? จะแนะนำให้..
ผม : ขอบใจนะ แต่เฮียอยู่แบบนี้ มีความสุขอยู่แล้ว เห็นเพื่อนมีความสุข เฮียก็สุข
น้องหนู : เฮียชอบแบบไหน บอกได้นะคะ ไม่ต้องเขิน
ผม : ไม่ได้เขิน เพียงแต่..
จขมบ : อย่าเลย!! เสียเวลาเปล่า เมียเฮียเขาสวยอยู่แล้ว และเฮียเขาก็กลัวเมีย
             ถ้าน้องคนไหน เดือดร้อนบอกเฮียนี่  เฮียช่วยได้ ฮิฮิ
ผม : ได้แต่ยิ้ม และคิดในใจ เออ “กูกลัวเมีย!!” เอาตามสบายเลยมึง!!
“วันไหนเมียมึงจับได้อีก  อย่าร้องนะ อย่าร้อง!!”

กลับมาถึงที่ศูนย์เกือบห้าโมงเย็น
ส่วน ไอ้ จขมบ. ก็ไป  “ที่ชอบๆ” ของมันต่อ
ไม่รู้ จะถูกมัน เอาชื่อไป “แอบอ้าง” เมียมันหรืออะไรหรือเปล่า..
แต่ก็ทำไงได้ ก็มัน คือ “เพื่อน” นี่นา...
แค่ “ไม่รายงาน” ให้เมียมันรู้ ก็ถือว่า “ช่วย” แล้ว
(พฤติกรรมไม่ควรเลียนแบบ)



มาถึงก็ชำระค่าใช้จ่ายเสร็จ ก็มาที่รถ โดยมีช่างเดินตามมาส่งงานด้วย
เขาก็อธิบายความเรียบร้อยของรถ

แล้วก็มี ชายวัยกลางคน  เข้ามาถามว่า เฮียเจ้าของรถ ใช่ไหมครับ?
ผมรอจะคุยกับเฮียตั้งหลายชั่วโมง
พอดีผมใช้ Dmax ตัวแรกอยู่ อยากได้รถใหม่
ช่างแนะนำมาว่า รถของเฮียนี้ สวย เช็คศูนย์ตลอด ถ้าสนใจลองคุยดู
ว่าเบื่อหรือยัง อยากจะปล่อยไหม?

ผม : ยังไม่ปล่อยครับ เพราะ ขายไปแล้ว ผมยังไม่รู้จะซื้ออะไร
ชายคนนั้น : รุ่นใหม่เยอะแยะเลยครับ

ผม : ใช่รุ่นใหม่เยอะแยะ แต่ 4 ประตูยกสูง ตัว Top นี่ รู้สึกว่า จะมีแต่ล้านกว่านะ

จะซื้อ RT อะไรก็สวย ทุกอย่างก็ดี เพียงแต่กลัวว่า มันไม่ชัวร์ เหมือน Dmax
จะซื้อ RV มันก็ปลายอายุ แถมช่วงล่างและเบรค ก็ไม่น่าจะดีเท่า Dmax นะ
จะซื้อ TT ระบบขับสี่ดีเลิศ แต่ตัวรถมันก็เหมือนยังออกแบบไม่เสร็จ ไม่ลงตัวอีก
และส่วนจะซื้อ Dmax ใหม่ ผมว่ามันก็คล้ายเดิมอีก เลยยังไม่รู้จะเปลี่ยนทำไม

ชายคนนั้น : ผมเห็นรถเฮียสวย สียังสด แถมช่างว่า รถคันนี้ วิ่งน้อย ประวัติเช็คศูนย์ที่นี่ตั้งแต่ป้ายแดง
ผมเลยอยากได้ ถ้าเฮียจะปล่อย ช่วยบอกผมนะ ผมสู้ราคา

ผม : คงอีกนานนะ เพราะเดี๋ยวนี้ผมใช้คันนี้น้อยมาก ปีหนึ่งๆ ไม่ถึงหมื่นโล

ชายคนนั้น : ดีเลยครับ ผมยิ่งอยากได้!! เดี๋ยวผมให้เบอร์โทรไว้ เพื่อเปลี่ยนใจ อยากขายโทรบอกผมนะ

ผม : Ok ถ้าผมคิดจะขายนะ..

ก็ดีใจนะ ที่รถเรามีคนสนใจอยากได้ แต่ก็อย่างว่า
ถ้าเป็นผมๆ จะซื้อรถต่อใคร ถ้ารู้จักเจ้าของ และมีประวัติเช็คระยะตลอดแบบนี้
“มันก็สบายใจ”
ซื้อมาใช้ ก็ดูแลต่อได้เลย ไม่ต้องมา “ลุ้น” ว่าจะเจอ Jackpot ไหม??

แต่ก็อย่างที่บอกนะ ว่า..
“ขายไปก็ไม่รู้จะซื้ออะไร...??”
แต่ถ้าจะขายไปก่อน แล้วอยากได้อะไรค่อยซื้อ ก็ดูจะไม่เข้าที
เพราะ ที่บ้านผม ยังไง “ต้องมี” รถกระบะอย่างน้อยไว้สักคัน
แต่ยังไง ข้อเสนอของเขา ก็ยัง “รับไว้พิจารณา”
เผื่อเปลี่ยนใจ!!??

“ใช้น้อย แต่ก็ได้ใช้นะ”




เอา “คำกวนๆ” ที่ได้คุยกับ “น้อง” เขามาฝาก


บางครั้งชีวิตก็ไม่ได้ต้องการกำลังใจ แต่ต้องการกำลังโอน   


อะไรที่มันแตกไปแล้ว มันยากที่จะกลับมาจริงๆ  เช่น แบงก์พัน เป็นต้น


โตแล้วแยกแยะได้ งานคืองาน เที่ยวคือเที่ยว งาน 10% เที่ยว 90%


ชีวิตมันสั้นนะ เพราะถ้ายาวจะเป็น "ชีวิตตตตตตต"


แต่ไอ้คำหลังสุดนี่  ผมชอบที่สุด
“เราทำให้ทุกคนพอใจไม่ได้  แต่เราทำให้ทุกคนไม่พอใจได้!! “




ปล. ซุกซนก็เป็นอย่างเงี้ย..

[the kit]

มีสายเข้า..
ใช่ใครที่ไหน จขมบ. เจ้าเก่า วันนี้โทรมาหาตั้งแต่เที่ยงเลย
จขมบ.  -  เย็นนี้มึงว่างไหม?  กูมีเรื่องอยากคุยด้วย..
ผม  -  มึงมีอะไรก็เล่ามาเลย ไม่ต้องรอเย็น
จขมบ.  -  ไม่ๆ กูอยากเจอหน้ามึง อยากคุยส่วนตัว
ผม  -  เออ ได้ ตอนเย็น กูมีไปรับลูกก่อน จะว่างประมาณ 2 ทุ่ม +- นิดหน่อย
จขมบ.  -  ได้ๆ กูนัดเจอมึงที่ร้าน... นะ (เป็น Bistro)
              เดี๋ยวประมาณ 1 ทุ่ม กูจะไปนั่งรอ  เออ..กูขอเจอมึงคนเดียวนะ
              ให้ “ฮองเฮา” พักผ่อนอยู่บ้านนะ
ผม  -  (คิดในใจ  สงสัยมีปัญหากับเมียเลยจะปรึกษา)  เออ เดี๋ยวกูบอกเขา ว่ามึงมีเรื่องจะขอคุยด้วย
              ก็ไม่น่าจะมีอะไรนะ
จขมบ.  -  Ok แล้วเจอกัน

ตอนเย็นผมก็ไปรับลูกกับ “คุณศรีภรรยา” แล้วก็ให้คุณเธอไป “หย่อน” ผมลงที่ร้านที่นัดเจอ
ขากลับ ผมค่อยเรียก “grab” เอา

ร้านนี้เป็น Bistro & Live music 
แนวอาหาร “จับฉ่าย fusion” คือ รวมๆ มันทุกชาติ
เครื่องดื่มเยอะแยะมากมาย  ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เจ้าของเป็นลูกคนรวยมาเปิด
บรรยากาศดี เรียกว่า ดูดีเลยล่ะ  ส่วนราคาก็ตามบรรยากาศ..

เข้าไปถึงก็ “Surprise” เลย..

ก็นึกว่าจะมีแค่มัน... 
ไหนว่ามัน จะชวนมาคุย จะชวนมาปรึกษา..

แต่นั่งกันอยู่เป็นคู่ๆ เลย!!
จขมบ. นั่งอยู่กับน้อง A คนเดิม
และชวนไอ้โรงสีมาด้วย (กลุ่มซี้ ที่กินแชร์กันทุกเดือน)

โรงสีก็นั่ง “คั่ว” อยู่กับอีกคน
และมีน้อง นั่งว่างอยู่อีกคน
สำหรับเรื่องนี้  ไอ้สองตัวนี้ “กินกันไม่ลง!! ”

จขมบ.  -  เชิญนั่งครับเสี่ย  นั่งข้างน้องเขาเลย
ผม  -  party อะไรกัน  ไหนว่ามีอะไรจะเล่า จะปรึกษา
จขมบ.  -  ดื่มอะไรก่อน กินอะไรก่อน แล้วค่อยคุยกัน จะเอา Black soda หรือจะดื่มอะไรมึงสั่งเลย
               เดี๋ยวมื้อนี้กูกับโรงสี เป็นเจ้าภาพเอง

ผม  -  น้องเอา Opus One มาขวด
จขมบ. + โรงสี  -  เฮ้ย!!!!
ผม  -  ร้องเสียงหลงเชียว!!  ก็พวกมึงเป็นเจ้าภาพ และมึงคิดว่า จะมีเหรอ..??
ผม  -  มองตา มองหน้ามัน (จขมบ.) 
จขมบ.  -  ใจเย็นๆ จริงๆ ก็ไม่มีอะไรหรอก วันนี้วันเกิดน้อง A 
             เขาบอกว่า มึงคุยสนุกดี เขาอยากเจอมึง เลยให้กูชวนมึงมาด้วย  ถ้าชวนปกติ ก็กลัวว่ามึงจะไม่มา

น้อง A  -  ค่า วันเกิดหนูค่ะ เลยบอกเฮียเขา(จขมบ.) ว่าให้ชวนเฮียมาด้วย
             นี่ G เพื่อนหนู ที่อยากแนะนำให้เฮียรู้จัก!!  นี่ B (น้องที่นั่งกับโรงสี)
น้อง G, B  -  หวัดดีค่าเฮีย...
น้อง G  -  หวัดดีค่า  G นะคะ  พอดี A บอกว่าเฮียน่ารัก หนูเห็นในรูปแล้ว เลยอยากรู้จักค่า...
ผม  -  ครับ  ตามสบายเลยนะครับ  สองเสี่ยเขาเลี้ยง  อยากกินอะไร  อยากดื่มอะไรสั่งเลย
         ไม่ต้องเกรงใจ!!  ว่าแต่ว่า  G ไปเห็นรูปเฮียมาจากไหน..
น้อง G  -  ก็ A เขา “แอบถ่าย!! ” มาให้ดูค่า
ผม  -  ห๊า  A ไปถ่าย ตอนไหน  เฮียขอดูสิ
น้อง A  -  ได้ แต่มีค่าดูนะค่ะ  ทำมือ ชู 2 นิ้ว
จขมบ.  -  มาเอากับเฮียนี่ เดี๋ยวเฮียให้ 2 แถมอีก 2 เลย ฮ่าๆๆ

รูปแอบถ่ายจริงๆ ด้วย ตอนที่ผมเอา Dmax ไป Chk. แล้วไปนั่งกินคุยกันนั้นแหละ

ผม  -  เฮ้ย แบบนี้ไม่เอาน้อง  ลบออกเลย ลบเลย 
น้อง A  -  จะลบทำไม รูปเฮียขายไม่ได้หรอก อิอิ
ผม  -  ขายได้สิ  นี่ไง กำลังขายอยู่ไม่ใช่เหรอ??
         แต่ไม่ได้หรอก  เฮียมีเมียแล้ว..  ไอ้พวกนี้ก็...
โรงสี  -  ไหนๆ ไม่เห็นมี..
จขมบ.  -  เมียมีเมียพี่ต้องมา  ถ้าเมียไม่มา ก็เพราะว่าเมียไม่มี  555


ผมได้แต่ยิ้ม แต่คิดในใจ ปากดีนะมึง  ทะลึ่งเลือกมานั่งร้านดังกลางเมืองเลย 
           มึงคิดว่า จะไม่เจอคนรู้จักหรือไงวะ..

ผม  -  จ้า พ่อคนไม่มีเมีย..
น้อง G  -  ไม่เป็นไรค่า เป็นพี่เป็นน้องกันได้  ชวนหนูไปกินข้าว ดูหนังได้ค่า ตัวจริงเฮียใหญ่กว่า
                 ในรูปเยอะเลยนะ
น้อง A  -  เฮียใหญ่แค่ตัว แล้วอย่างอื่นใหญ่ไหมค่ะ..!!??
จขมบ.  -   มันใหญ่ทั้งตัวนั้นแหละ ขนาดมอไซค์มัน คันยังใหญ่ แถมเครื่องยังใหญ่กว่า รถที่หนูใช้อีกนะ
น้อง A  -  รถหนูก็ 1500 cc. แล้วนะ มอไซค์อะไร มาเครื่องใหญ่กว่ารถหนู
โรงสี  -  เฮียเขาขี่ Fatboy น่ะ คันใหญ่ๆ หน่อย เครื่อง 1800 เลยนะ
น้อง B  -  อ๋อ ที่แฮนด์สูงๆ เสียงดังๆ ใช่ไหมค่ะ
จขมบ.  -  ไม่ใช่ๆ มันเป็นแบบหนัง Terminator ที่ Arnold คนเหล็กขี่น่ะ รู้จักไหม?
              แฮนด์กว้างๆ (มันทำท่าประกอบ)

น้องทั้ง 3 คน  -  ?  มันคือ อารายยยยย??

ผม  -  น้องเขาเกิดไม่ทันโว้ย  เอาเป็นว่า มอไซค์ Harley แบบ แอ๊ดคาราบาวขี่ อะไรแบบนั้นล่ะ
น้อง A  -  โอะ แก่เลยนะนั้น..

โรงสี + จขมบ.  หัวเราะลั่น

ผม  -  เออ ประมาณนั้นแหละน้อง..
จขมบ.  -  เสียราคาเขาหมด รู้ไหม คันละเท่าไร ล้านสอง ล้านสาม เชียวนะ
น้อง A  -  โห.. รวยนะเนี่ย  ขี่มอไซค์ คันละเป็นล้าน... 
ผม  -  ไอ้พวกนี้รวยกว่าเฮียเยอะ เขาขับแต่ Benz กัน  เฮียขับแค่กระบะ
โรงสี  -  มันถ่อมตัว มันมี Mustang ด้วย ไม่ต้องอะไรมาก
           อย่างนาฬิกาที่เฮียเขาใส่มานี่ ก็ล้านหน่อยๆ เลยนะ
น้อง A B G  -  หู้ยยยยยยย...  จริงเหรอค่ะ.... ทำไมมันแพงจัง

ผม  -  ไม่ต้องเลย ยังกับของพวกคุณมึง ถูกนักนี่
น้อง B  -  เอะ ของเฮีย (โรงสี) มีทองสลับ มันต้องแพงกว่าสิ
โรงสี  -  ถูกกว่าของมัน ห้า-หกแสน เห็นจะได้  คือ ของมันเรือนนึง ได้ของเฮียกับ เฮียเขา (จขมบ.)
           แล้วยังเหลือตังค์ ไว้เลี้ยงน้องๆ อีกเยอะ!!
น้อง G  -  ขนาดนั้นเลย.. เรือนสีเงิน จะแพงกว่าเรือนสลับทองได้อย่างไง ไม่เข้าใจ
โรงสี  -  เออ รุ่นของมัน เป็นรุ่น Top เขาเล่นกันมากกว่า เลยแพงกว่า
น้อง G  -  ขอดูหน่อยได้ไหมค่ะ

ผม  -  ให้ดูได้ แต่ถอดให้ดูไม่ได้!!   ตัว “ปลดล็อค” อยู่ที่บ้าน ออกนอกบ้านเลย ถอดไม่ได้!!
น้อง G  -  โอะ Hi-tech มันมีระบบแบบนี้ด้วย
จขมบ.  -  อย่าไปเชื่อมัน มันแค่....
ผม  -  พอเลยๆ  เรื่องอื่นเถอะ

น้อง B  -  เฮียรวยจัง  ซื้อ apple watch ให้หนูบ้างสิ
ผม  -  นู่น ต้องเฮียเขาเลย (โรงสี)  เฮียได้แค่ “เศษตังค์” เขา

จขมบ.  -  พอๆ วันเกิดน้องเขา มา birthday ให้เขาดีกว่า..

ไอ้ จขมบ. ก็ให้ของขวัญวันเกิด ชิ้นใหญ่เชียว กระเป๋าตังค์ LV  ไม่ Sarah ก็ Emilie model
หลายหมื่นเลยนะใบนี้  จัดเต็มมากกก

ให้กระเป๋าตังค์ สงสัยจะเอาไว้ให้ น้องเขา “เรียกทรัพย์” จากมันเป็นแน่แท้

ผม  -  กระซิบถามมันว่า  มึงให้ของแพงจัง มึงซื้อมาเท่าไร?
จขมบ  -  กูก็ไม่รู้!!??  หมื่นนิดๆ ได้มั้ง... แต่กูก็ไม่รู้นะว่า  จริงๆ มันเท่าไร 
            กูเอามาจาก “ท้องพระคลัง” ของเมียกู  เขามีเยอะ  เอามาสักใบ คงไม่รู้หรอก!!

ผม  -  ผมนี่ “อึ้ง !!”  คิดในใจ  “หายนะ” เกิดขึ้นแล้วววววววววววว
“คุณผู้หญิง” เขามี “Sense” ในเรื่องนี้ดีมากกกกกกกกก 
แทนที่จะซื้อยี่ห้อทั่วไป ใบละไม่กี่พันให้ ดันไปยุ่งกับของคุณเมีย
มึงไม่รู้ซะแล้ววววว..... 

จากนั้นก็กินกันไป คุยกันไป ฟังเพลงไป   
น้องๆ ก็เอาใจพวกผมเป็นอย่างดี
ส่วนไอ้สองตัวนั้น ไม่ต้องพูดถึง!!!
เพราะ “ถึง” ทุกอย่าง!!! 
แว่วๆ ว่า “คืนนี้ไม่กลับบ้าน  ว่างั้น...!!! ”

ส่วนผมเอง  ได้แค่มอง ได้แค่คุยเท่านั้น
มือไม่จับ แขนไม่แตะ และทุกช่องทางติดต่อ  “ไม่ให้และไม่ขอ” ใดๆ ทั้งสิ้น

ไม่ใช่ น้อง G ไม่น่ารักนะ
Ok เลยล่ะ!!
ไม่ขาวมาก หน้าหวานแบบไทยๆ สัดส่วนพอดีๆ
มีความแอบ “ละม้ายคล้ายคลึง” นางเอก “สืบสันดาน” อยู่ไม่น้อย
สืบสันดานในหนังนะ  ไม่ใช่สืบสันดานในสภาฯ !!

“หวั่นไหว แต่ไม่ ไหวหวั่น..!!!??? ”
555

เรื่องของเรื่อง คือ ไม่อยากมี “ปัญหาครอบครัว” และต้องการความสบายใจในการดำรงอยู่
หรือจริงๆ แล้ว ไม่ต้องบรรยายเยอะ
จะว่า “กลัวคุณเมีย !!! ”  ตามที่ จขมบ.ว่า ก็เป็นได้ 555

ก็ใช่ว่า จะเป็นคนดีอะไรหรอก เพียงแต่ว่า..
ตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงก่อนมาเจอ “คุณศรีภรรยา”
ก็  “เลือกมาเยอะแล้ว....”  หรือจริงๆ  อาจจะเป็นแค่ “คนที่เขาไม่เลือก”
ก็เป็นได้......ใครจะรู้??  55





..ในช่วงที่ความรัก ผลิบานอีกครั้ง
พระจันทร์และดอกไม้ ดูเปลี่ยนไป
มองกลับมาที่ฉัน ยังไม่ไปไหน
ทุกคนจากไป ไม่กลับมา

ถ้าหากฉันจะขอพรบ้างได้ไหม
ขอใครได้ไหม ให้เขาอยู่ยาว
คนที่กอดฉันไว้ เมื่ออากาศหนาว
จะเป็นเธอใช่ไหม..

Cr. - ผู้ถูกเลือกให้ผิดหวัง(ดอกไม้ฤดูหนาว) : เรนิษรา






..เธอมีความห่วงใยให้กัน มีอะไรแบ่งปันให้เรา
คอยเอาใจไม่เคยจะขัด เอายังไงก็เอา
เดิมทีเดียวไม่เคยใส่ใจ พอลองลองคบไปสักปี
จึงมาเจอของดีที่สุด เราเป็นคนโชคดี
มันถูกหน้าอกข้างซ้าย ที่ตรงหัวใจพอดี
เป็นอะไรที่ตรงสุดสุดแล้ว ตรงกับใจที่มี
เจอะอย่างงี้ใครไม่รักก็บ้าแล้ว
ก็ไม่แคล้วคงสมองไม่ค่อยดี
ถ้าไม่รักคนที่ดีที่สุดคนนี้..
Cr.  - ไม่รักก็บ้าแล้ว : มอส

ปล.เพลงท้ายนี่ “คิดดูดีๆ” นะครับ ว่าผม หมายถึง “ใคร!!??”

[the kit]

มีธุระ ต้อง “เข้ากรุงฯ” แต่เช้าตรู่
และ “คุณภรรเมีย” อยากช็อป อยากได้ ของใช้ส่วนตัวของเขาในบางสิ่ง

เมื่อถึงเมืองหลวง ก็ไปส่ง “คุณเธอ” ให้ไปช็อปก่อน ที่ห้างหรูใจกลางเมือง
จะได้มีเวลา “พักผ่อนตามอัธยาศัย” มากหน่อย
จากนั้นผมขอตัวไปทำธุระ
ช่วงบ่ายๆ ไว้เจอกันนะ..

อ้อ..ลืมบอกไป วันนี้ ผมมีของต้องบรรทุก เลยเอา Dmax มา
ถึงรถอายุอาจจะเยอะ 13ปี เห็นจะได้  แต่เดินทางไกลก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงหรือเป็นกังวลนะ
เพราะรถที่เช็คระยะอยู่ตลอด ดูแลอยู่เสมอนี่  จะไปไหน ก็สบายใจ

ขับมาแบบ “สบายๆ” ใช้ความเร็ว ไม่เกิน 120
อัตราเร่งก็ “ติดตีน” ดีใช้ได้ ก็ตั้งแต่ remap มานั้นแหละ
อัตราการเร่ง ในทุกช่วงขับขี่ ก็ไม่ได้เป็นรองรถกระบะที่มีขายทั่วไปในไทย ณ เพลานี้
อาจจะกระเด้งหน่อย สะเทือนบ้าง ยางดังไปนิด
ก็ต้อง “ทำใจ” เพราะนี่มัน “รถกระบะ” (รุ่นเก่า)
และหลายอย่างมันก็เสื่อมสภาพไปบ้าง “ตามอายุ”

แต่ไม่ว่าอะไรก็ตาม
“ความสบาย” มันขึ้นอยู่กับ “คนนั่งข้าง” ด้วย
ไม่รู้คนอื่นจะว่ายังไง  แต่ “คุณศรีภรรเมีย” ของผม ไม่เห็นบ่นสักคำ
มีแต่บอกแค่ว่า  นานๆ นั่งกระบะไกลๆ ก็ดีเหมือนกันนะ
นึกถึง “วันเก่าๆ” ที่ “เรา” ได้ผ่านอะไรๆ ร่วมกันมา!!!

“อมยิ้ม” สิครับ........


ตัดภาพมาที่ “เมืองกรุงฯ”
ระหว่างทางไปทำธุระ ก็เจอด่านตรวจ “เน้น” ตรวจรถกระบะ และมอไซค์
ก็ไม่มีอะไรจะต้องเป็นห่วง หรือต้องกลัว

เข้าด่าน  เขาก็ให้เร่งเครื่อง ฟังเสียง ดูควันดำ ประมาณนี้
ก็ ผ่าน ตามปกติ

แต่เสียเวลากับ “นายดาบ” นิดหน่อย
ใช่ว่า เขาจะ “รีด” แต่อย่างใด
เขาแค่ถาม “Spec” แม็กและยาง ที่ใช้ ต้องยกไหม ติดไหม บลาๆ
เขาว่า “สวยสมส่วน” จะทำตามบ้าง แค่นั้น..

ผม clear งาน เสร็จธุระเรียบร้อย
ก็กลับไปที่ห้างฯ รถเยอะมาก ที่จอดรถหาไม่ง่าย

แต่เคยบอกแล้วว่า ผมมี “บัตรคนสำคัญพิเศษ” สำหรับที่จอดพิเศษ
ตอนเอารถเข้ามาในพื้นที่จอด  ของคนสำคัญพิเศษ
รปภ.ที่คอยตรวจ คง “งง??”   
กระบะรุ่นเก่า เจ้าของ “ไม่น่า” จะมีบัตรอันนี้!!
จะโบกให้ไปจอดชั้นอื่น  แต่พอเห็นบัตรก็เลยเปิดให้เข้า..

ก็อย่างว่า ไม่ว่าเขาหรอก เพราะ โดยส่วนใหญ่
ที่จอดเฉพาะนี้ โดยมากก็มีแต่รถแพง brand หรู ทั้งนั้น
แต่นี่ กระบะรุ่นเก่า ไยจึงจะมาจอดที่บริเวณนี้

บัตรนี้ มีไม่ยากมาก ใครๆ ก็มีกันได้
ดังนั้นที่จอดรถ มันก็ต้องแย่งกันหน่อย


จอดรถเสร็จก็ “กริ้งกร้าง” หาคุณภรรเมียว่าเป็นไง
“ช็อป” เสร็จหรือยัง??
คุณเธอว่า ยังช็อปอยู่ ขอดู ขอเลือกอีกหน่อยนะ

ก็ต้องให้เวลาคุณเธอครับ
ตามสะดวก.. คุณเธอก็ต้องมี “พื้นที่ส่วนตัว” ของเธอเช่นกัน
และเวลานี้ เป็นเวลา “ผ่อนคลาย” อยู่
“ห้ามก้าวล่วง” โดยเด็ดขาด!!!

ผมก็บอกว่า งั้นขอไปดูอะไร “ที่ชอบๆ” นะ  อยากไปดูด้วยกันไหมล่ะ??
หรืออยากได้อะไร เป็นพิเศษไหม?

คุณเธอก็ตอบกลับมาว่า  “ไม่ค่ะ ตามสบายเลยนะ”  เสร็จแล้วโทรมานะ..

ผมก็ ต้องไปที่ชอบๆ สินะ
ไปถึงก็เจอน้องเซลล์คนเก่า คนเดิม ที่คอยดูแลผมอยู่เป็นประจำ
น้องเซลล์ : โอะ วันนี้คุณท่าน มาไม่บอกไม่กล่าวมาล่วงหน้าเลย
อยากได้อะไรเป็นพิเศษค่ะ?
ผม : เออ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ แค่แวะมารอ คุณ,, (ชื่อเล่นคุณเมีย) เขา Shopping อยู่ได้ไหม?
น้องเซลล์ : แหม ได้สิค่ะ น่ารักจัง มารอคุณเขาช็อปด้วย  รับเครื่องดื่มอะไรดีค่ะ..?
   อยากดูตัวไหน บอกได้เลยนะค่ะ แล้วขอเชิญทางนี้ (ผายมือไปที่ “ห้องเชือด!!”)
ผม : ก็จิ้มๆ ชี้ๆ ไปยังตัวที่อยากดู  มีตัวหนึ่งที่ อยากลองทาบ และอยากได้มากกกกกกกกกกกกก
  ไปดูกัน....



ตัวนี้เลย
พี่ใหญ่สุด ในตระกูลดำน้ำ
ขนาด 50 มม.!!!







น้องเซลล์ : ตัวนี้ให้ดูได้ ลองทาบได้ค่ะ  แต่นายไม่ให้ขาย เพราะนายอยากเก็บไว้เอง!!???
ผม : เฮ้ย!! มีแบบนี้ด้วย  น้องก็ให้นายรอตัวหน้าสิ  ตัวนี้ขายให้ผมก่อน  แต่เดี๋ยว ขอฟังราคาก่อนนะ
น้องเซลล์ : ขายไม่ได้จริงๆ ค่า
ผม : ไม่ลองเสนอราคามาหน่อย ผมว่า “ผมสู้นะ!!” ลองทาบดูแล้ว รู้สึก มันใช่!!
น้องเซลล์ : ต้องขอโทษจริงๆ ค่า  ขายไม่ได้จริงๆ ค่า 
        จริงๆ ตัวนี้ ถ้าไม่ใช่ VVIP แบบคุณท่าน ก็ไม่สามารถหยิบออกมาให้ดูได้ หรือให้ลองทาบได้เลยค่า
ผม : คิดในใจ มุขนี้อีกล่ะ...
ผม : ลงจองได้ไหม
น้องเซลล์ : ลงจองได้ แต่หนูคิดว่า คงไม่ได้อยู่ดีคะ เพราะว่า เรือนนี้ตั้งแต่ เปิดตัว ที่งาน Basel
    ก็เพิ่งเข้ามา และเข้ามาก่อนงาน Dinner ที่ได้เชิญคุณท่านไป เพื่อจะมาโชว์ตัวแค่นั้นค่า

    ในงานนั้น VVIP อีกหลายท่าน ก็อยากได้ และอยากลงจองเช่นกัน แต่น้องเซลล์ทุกคน ก็จะให้
    คำตอบแบบนี้ค่า..
ผม : แบบนี้ ผมคงต้องหาที่ Grey Market สินะ  เหมือนผมเห็นผ่านตาใน IG ว่ามีอยู่
น้องเซลล์ : จริงเหรอคะ!! คุณท่าน ตัวนี้หายากมากๆ เลยนะคะ  ตาม AD ในไทย น่าจะเข้าไม่ถึง 5 เรือน!!




ผม : คือ ยังไง ก็คงไม่ได้สินะ!! 
        งั้น Sky RG เรือนนี้ก็สวย เรือนนี้เท่าไร
น้องเซลล์ : ราคาป้าย........  แต่ตอนนี้ยังขายไม่ได้คะ เพราะเพิ่งเข้ามาเช่นกัน เข้ามาพร้อมกับ      Deepsea Challenge คะ  ขอเอาไว้โชว์ก่อนนะคะ






ผม : หือ อะไรก็ขายไม่ได้ๆ  งั้นเอาตัวที่ขายได้ดีกว่า มีตัวไหนขายได้บ้าง ไม่เอาแค่โชว์นะ
น้องเซลล์ : นี่เลยคะ เฉพาะหน้าดำนะคะ หน้าเขียว เอาไว้โชว์คะ
ผม : ไม่เอาๆ หน้าดำ หน้าดำผมมีเยอะแล้ว เอาหน้าเขียวดีกว่า เปิดมาเลย ราคาเท่าไร
        คันๆ แล้ว อยากซื้อแล้ว
น้องเซลล์ : ในไลน์ตัว Sport ถ้าน้องจำไม่ผิด คุณท่านยังขาดตัว Sky ไม่ใช่เหรอคะ 
                   ซื้อหน้าดำไปก่อน
         เดี๋ยวครั้งหน้า ถ้ามีหน้าเขียวมาเพิ่ม จะรีบโทรแจ้งให้มารับดีไหมค่ะ?
ผม :  ไม่ดีอ่ะ  ซื้อไปเก็บ แบบไม่ชอบ เดียวก็ไม่ใส่  เอาที่ชอบเลยดีกว่า ลองคุยกับนายดูว่า ปล่อยได้ไหม..?
น้องเซลล์ : ต้องขออภัยจริงๆ นะคะ อยากขาย แต่ขายให้ไม่ได้จริงๆ ค่า เอาไว้มีเข้ามาเพิ่ม
        และสามารถขายได้ จะแจ้งไปนะคะ ขอโทษด้วยจริงๆ ค่าาาา








สรุป วันนี้ไม่ได้อะไร ติดไม้ติดมือมาซักชิ้น ที่ติดมาอย่างเดียว คือ “อารมณ์ค้าง!! “
แต่ก็ไม่เป็นไร เงินยังอยู่ครบ!!

โทรหาคุณศรีภรรยาดีกว่า   ช็อปเสร็จหรือยัง? เดี๋ยวเดินไปรับนะ

คุณเธอก็ได้ของที่ต้องการมาเกือบครบ
จากนั้นก็หาทานของอร่อยก่อนกลับ   ก็ Happy กันไป…





หัวใจล้วนล้วนที่ทำให้เรามีวันนี้ได้
ค่างวดสุดท้ายคุ้มแล้วกับรอยยิ้มเธอ
รถเข็นคันเก่าจอดไว้ในใจเสมอ
รางวัลชีวิตของเธอผู้เป็นยาใจของฉัน


ไม่ใช่ปิกอัพแต่เรียกว่าเป็นน้ำพักน้ำแรง
เป็นเครื่องแสดงว่าใจคนแกร่งเกินฝัน
มือสองฮ่างฮ่างจะคอยเป็นแรงผลักดัน
ไปสู่ฝันอีกฝันคือบ้านในฝันของฉันและเธอ


ทนอีกไม่นานความฝันกำลังก่อสร้าง
ถึงรถคันนี้มันฮ่างแต่ใจยังใหม่เสมอ
เร่ขายความฝันเติมน้ำมันด้วยรอยยิ้มเธอ
อดทนอีกนิดก็เจอสิ่งที่ใจเราหวัง


ระหว่างทางฝันดอกรักยังบานปลอบยามทุกข์เศร้า
เวลาปวดร้าวให้เราย้อนกลับมองหลัง
ทุกทุกเข็มไมล์บอกว่าเราเข้าใกล้ความหวัง
ไม่นานปิกอัพคันฮ่างจะพาไปยังปลายทางของเรา 

Cr. – ความฝันกำลังก่อสร้าง - ไมค์ ภิรมย์พร