ผู้เขียน หัวข้อ: Mazda 2 1.3 หรือ 1.5 ดีคะ  (อ่าน 9770 ครั้ง)

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,460
Re: Mazda 2 1.3 หรือ 1.5 ดีคะ
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: ตุลาคม 02, 2018, 07:39:53 »
1.3 เพียงพอครับ ถ้าไม่ใช่ขาซิ่งอะไร

เรื่องเกียร์ คนรู้จักก็เจอปัญหาครับ แต่ Mazda ก็แก้ปัญหาได้ไวครับ แต่ไม่แน่ใจว่าปัญหาคืออะไรนะครับ

ออฟไลน์ @MIN

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 475
  • Life is beautiful
Re: Mazda 2 1.3 หรือ 1.5 ดีคะ
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: ตุลาคม 02, 2018, 09:10:27 »
1.5 D ครับ

เรื่อง DPF จบแล้ว วิ่งกัน 2 แสนโล ไม่มีปัญหา ลองเข้าไปอ่านดูครับ
https://www.facebook.com/profile.php?id=100014815395608
I have enough of making money. Now I want to make time.

ออฟไลน์ Noncyclopedia

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,200
Re: Mazda 2 1.3 หรือ 1.5 ดีคะ
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: ตุลาคม 02, 2018, 16:59:59 »
มาสด้า ผมว่ามันอืด เกิ๊นนนน
ซิตี้ ผมว่าพวงมาลัยมันเบาไป

คนมันมาสด้า 2 จนเว่อ
และให้ราคาซิตี้กันน้อยไป


ออฟไลน์ bingoman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,369
Re: Mazda 2 1.3 หรือ 1.5 ดีคะ
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: ตุลาคม 02, 2018, 22:12:22 »
ยังไง City ก็วิ่งทางไกลไม่มั่นคง ไม่เสถียรเท่า 2 ครับ

เครื่อง 1.5 แรงม้าเยอะ อัตราเร่งดี  แต่ช่วงล่างและพวงมาลัย เอาใจคนนั่ง และทรยศคนขับ

ผมขาซิ่งคนนึงที่เคยใช้ City บอกเลยว่าวิ่งทางไกล เหนื่อยมากๆ  ถ้าวิ่งเกิน 120  ต้องประคองพวงมาลัย เลี้ยงซ้าย-ขวา ทุกวินาทีเลย เพราะรถไม่มั่นคงแถมพวงมาลัยเบา หวิว ทดเยอะ จนว๊อกแว๊ก  ขนาดเลิกใช้มาหลายปีแล้ว ยังจำไม่ลืมกับพวงมาลัยและช่วงล่างนรกนั้น

ออฟไลน์ Quinn1998

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 6
Re: Mazda 2 1.3 หรือ 1.5 ดีคะ
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2018, 00:04:48 »
สรุปคือถ้าจะใช้ Mazda 2 1.5 ก็ต้องเอารถไปอุด ตัวกรองเขม่าเหมือนที่พูดกันใช่ไหมคะถึงจะใช้ได้ดีใช่ไหมคะ แต่ควรรอหมดประกันไปก่อน

ออฟไลน์ Quinn1998

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 6
Re: Mazda 2 1.3 หรือ 1.5 ดีคะ
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2018, 00:28:42 »
คือเราไม่ได้เป็นคนกระทืบคันเร่งขนาดนั้นหรอกค่ะ แค่ในช่วงที่ต้องการจะแซงก็อยากจะแซงให้พ้น และที่ขับ 120 ก็ไม่ใช่อยู่ๆจะกระทืบตั้งแต่ไฟแดงให้ขึ้นถึงให้ไวที่สุดอะไรนะคะ เพียงแต่ก็เยียบไปเรื่อยๆจนถึง 120 แค่นั้นเอง อาจจะมีแซงรถที่ขับ 100-120 อะไรประมาณนี้อ่ะค่ะ ซึ่งเราคิดว่าที่เลือก Mazda 2 เพราะประหยัดน้ำมันเวลาขับไกลๆ หรือแม้แต่ในเมือง ซึ่งพี่ฟอร์จูเนอร์ก็แรงดีมากกกกก แต่การกินน้ำมันน้ันก็เป็นยอดรถซดน้ำมันจริงๆค่ะ และถ้าซื้อคันใหม่มาก็จะเอาฟอร์จูนเนอร์กลับบ้านไปเลย ให้มันได้ทำหน้าที่รถครอบครัวจริงๆจังๆซักที เฉลียแล้วใช้รถเดือนละ 4-5พันโลชัวร์ๆยังไงก็ถึง เลยต้องซื้อใหม่จริงๆซึ่งไปมองตัวอื่นหลายๆยี่ห้อเราก็ไม่ชอบหน้าตาเอาซะเลย ถูกใจจริงๆแค่ City กับ Mazda 2 พอไปขับ City ช่วงล่างก็ดีกว่าฟอร์จูเนอร์เราแน่นอน แต่ก็ไม่ได้ดีอย่างที่คิด พอนั่ง Mazda 2แค่นั้นแหละ ช่วงล่างคือดีสำหรับเรา เวลาขับ 120 เรารู้สึกว่าปลอดภัย ซึ่งเรื่องถุงลมที่น้อยกว่า City เราก็คิดนะคะว่า City ปลอดภัยกว่า แต่เราก็คิดไปอีกว่า แต่ระบบต่างๆของ Mazda เป็นการป้องกันก่อนเกิดเหตุการที่ดีกว่า เพราะถ้าชนที่ 100+ ถุงลมก็น่าจะช่วยได้น้อยกว่าการที่รถมีระบบความปลอดภัยต่างๆที่มากกว่ามาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ส่วนเรื่องแคบไม่เป็นปัญหาเลย ปกติคือนั่งมากสุด 2 คน ประเป๋าเป้3-4ใบ ต้องแบบจำเป็นจริงๆถึงจะนั่งเต็ม 4 คน ซึ่งถ้าจำเป็นจริงๆคนที่นั่งเบาะหลังก็คงไม่บ่นอะไรหรอกค่ะ เพราะมันจำเป็น อิอิ เลยมาจบที่ Mazda 2 ซึ่งคิดว่าจะช่วยประหยัดน้ำมันไปได้เยอะ แต่เห็นหลายคนบอกว่าตัวเบนซินเห็นว่าขับเร็วก็กินน้ำมันมาก ไม่รู้ว่าขับเร็วที่ว่าคือเหยียบสุดให้ถึง 120 เลยรึว่า ค่อยๆเหยียบให้ขึ้น 120 แล้วยังกินน้ำมันอยู่อีก แต่ปกติเราเป็นคนที่ถ้าขับทางไกลยาวๆก็110-120นิ่งๆนะคะ แล้วแต่ตรงจุดไหนมีกล้องไม่มีกล้อง ซึ่งเราคิดว่าเราน่าจะทำอัตราสิ้นเปลืองไม่ได้สิ้นเปลืองมาก และขอบคุณสำหรับทุกความเห็นค่ะ เราแค่อยากรู้มากไปหน่อย เพราะเห็นบางคนใช้ตัวดีเซลแล้วก็บอกว่าไม่มีปัญหาเลย สรุปมันยังไงกันแน่ ถ้าไม่มีจริงๆก็จะซื้อตาม คือเป็นรถคันที่เราใช้ประจำ ก็ต้อเอาทั้งความชอบทั้งความมีคุณค่าของการเป็นรถคันนึง คือกะใช้จนพัง ให้เราเอารถที่ไม่มีปัญหา รถตลาดที่มีปัญหาน้อย แต่เราไม่ชอบเอาซะเลย มันก็จะยังไงๆอยู๋ใช่รึเปล่าคะ  ขอบคุณทุกความเห็นมากๆเลย ขอบคุณจริงๆค่ะ