บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างโรงพ่นสีแห่งใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี โดยโรงพ่นสีแห่งใหม่นี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการลงทุนมูลค่า 7 พันล้านบาท เพื่อปรับปรุงเทคโนโลยีและยกระดับขีดความสามารถของศูนย์การผลิตรถยนต์ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส และมุ่งเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านการผลิตและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น
● โรงพ่นสีแห่งใหม่คือส่วนหนึ่งของการลงทุนมูลค่า 7 พันล้านบาทที่นำไปสู่การพัฒนาความสามารถทางการแข่งขันด้านการผลิตของเราให้เพิ่มสูงขึ้นด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การพัฒนาในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจสู่อนาคตอันยั่งยืนของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส มร. โมะริคาซุ ชกกิ กล่าว
● โรงพ่นสีแห่งใหม่นี้จะก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ในเดือนธันวาคม 2564 เมื่อแล้วเสร็จจะประกอบด้วยอาคาร 4 ชั้น ครอบคลุมพื้นที่กว่า 21,000 ตารางเมตร และจะเป็นโรงพ่นสีที่มีความทันสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย
● มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เป็นผู้บุกเบิกในด้านเทคโนโลยีการพ่นสีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยในปี 2555 มิตซูบิชิได้เริ่มใช้เทคโนโลยีระบบสีที่ใช้น้ำเป็นตัวทำละลาย (Waterborne) ซึ่งทันสมัยที่สุด ณ เวลานั้น มาใช้อย่างเป็นทางการที่โรงงานแหลมฉบัง 3 ซึ่งทำให้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เป็นศูนย์การผลิตแห่งแรกในประเทศไทย ที่ใช้เทคโนโลยีการพ่นสีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมล่าสุดในทุกโรงงาน
● ปัจจุบันกระบวนการพ่นสีของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ที่เป็นแบบสีที่ใช้สารระเหย จะยังคงสามารถดำเนินการผลิตได้เป็นอย่างดีตามมาตรฐานและข้อกำหนดของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย แต่ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้ตระหนักถึงผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมจึงได้พิจารณาลงทุนเพิ่มในเทคโนโลยีที่สามารถลดการปล่อยสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย หรือ VOCs ( Volatile Organic Compounds) ให้ได้มากที่สุด
● โรงพ่นสีแห่งใหม่นี้จะติดตั้งระบบหุ่นยนต์อัตโนมัติและระบบ IoT (Internet of Things) เพื่อเพิ่มคุณภาพและประสิทธิภาพความแม่นยำในกระบวนการพ่นสีให้สูงขึ้น พร้อมด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อเพิ่มความสามารถในการกำจัดสารระเหยที่หลงเหลือจากขั้นตอนการผลิต โรงพ่นสีแห่งใหม่จะสามารถลดการปล่อย VOCs ได้ถึงร้อยละ 81 พร้อมกันนี้จะใช้ระบบสายพานขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์บังคับแรงเสียดทาน (Friction Conveyor System) ที่สามารถลดมลภาวะทางเสียงในโรงงานได้ดีอีกด้วย
● ขณะเดียวกันน้ำเสียจากกระบวนการพ่นสีจะถูกรีไซเคิลผ่านระบบรีเวอร์สออสโมซิส และนำกลับมาใช้ในกระบวนการผลิต จึงสามารถช่วยลดปริมาณน้ำเสียลงร้อยละ 80 และยังช่วยลดการนำน้ำใหม่มาใช้ในกระบวนการพ่นสีร้อยละ 80 เมื่อเทียบกับกระบวนการพ่นสีในปัจจุบัน
● โรงพ่นสีแห่งใหม่นี้ยังจะได้รับการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนดาดฟ้า ที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ถึง 3,000 เมกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 1,707 ตันต่อปี โดยเมื่อรวมกับแผนการใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ของโรงงานแหลมฉบังแล้ว จะสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้เกือบ 6,000 ตันต่อปี
ที่มา
https://motortrivia.com/2020/02/mitsubishi-thailand-lays-foundation-stone-for-its-new-paint-factory/