Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: nnss ที่ กันยายน 27, 2023, 12:59:06
-
เห็นแบรนด์รถไฟฟ้ายุคนี้เอาอัตราเร่งขึ้นโชว์ตัวใหญ่ๆ ในการโฆษณากันทั้งนั้น เมื่อเทียบกับราคาถือว่าจับต้องได้กันแทบทุกคนที่มีกำลังซื้อรถ
ส่วนตัวผมเองก็มี model3 LR อยู่ ซึ่งส่วนตัวใช้รถไฮบริดหรือสันดาปมาก็0-100 7 วิอะไรพวกนี้ก็คิดว่าคุมง่ายไม่ได้ยากอะไร
พอเป็น model3 นี่คือแบบ 4 วิต้นๆ แล้วคิดว่าช่วงล่างเดิมมันไม่ได้ดีขนาดนี้ กดทีก็ต้องใช้สมาธิเยอะเช่นกัน
ยิ่งถ้าพวกตัว byd โลมา ที่เปิดมาตัวท้อปนี่ 5 วิ กับไซส์รถแบบนั้นช่วงล่างเดิมๆรวมถึงราคาที่ยิ่งเข้าถึงง่าย วัยรุ่นคึกคะนองพ่อแม่ซื้อให้ใช้กัน แล้วเปอร์เซ็นที่จะคุมรถไม่อยู่จะคงเพิ่มขึ้น
เข้าใจว่าระบบช่วยขับต่างๆมันพัฒนามามาไกล แต่ถ้าคุมไม่อยุ่ส่วนตัวคิดว่ามีอุบัติเหตุแน่ๆไม่มากก็น้อย
ส่วนตัวคิดว่าควรมีการจัดสัมมนาหรือคลาสสำหรับผู้ใช้รถความเร็วระดับต่างๆนั้นหรือป่าวครับ เหมือนกับ ที่มีคลาสสำหรับ supercar หรือ big bike
-
มันจะเหมือนช่วง Big Bike เข้าถึงได้ง่าย ช่วงแรกๆมั้ยน้อ :'(
-
มันแค่เร่งพรวดพราดแหละครับ
แต่จะแช่เร็วๆ ยาวๆ ไม่ไหว เพราะไฟไม่พอ
วัยรุ่นใจร้อน ขี้เกียจรอชาร์จไฟบ่อยๆ
ต่างจากบิ๊กไบท์ที่มักแช่ความเร็วสูงยาวๆ ครับ
-
ยังไม่เห็นว่ามีข่าวรถไฟฟ้าตกข้างทาง แรงจนไปชนคันอื่น
หรือไปชนหนักๆ เลยนะครับ (เฉพาะในไทยนะครับ)
มีแต่ข่าวเฉี่ยวชนนิดหน่อย ไฟไหม้ แบตไปครูด
เป็นแนวค่าซ่อมแพงทะลุนรกมากกว่า
หรือผมพลาดข่าวไหนไปหรือเปล่า?
-
มันเหยียบโชว์ได้ระยะสั้นๆ แช่แล้วแบตไหลเป็นน้ำ แค่ออกตัวได้เร็ว แซงได้ง่าย มันก็สะดวกอยู่นะครับ แต่จะซิ่งยาวๆไม่ไหว
-
อนาคตอันใกล้ คิดว่ามีข่าวนี้แน่ๆครับ
เพราะตอนนี้ขาซิ่งยังเข้าถึงยากอยู่
อย่างพวกออนิวจูนแรงม้าไงครับ ขาซิ่งเข้าถึงง่าย(มาก)มีเงินไม่ถึง 60,000 ก็เข้าถึงได้แล้ว ดาวน์นิดหน่อย ที่เหลือไปจูนม้าเพิ่ม
-
อัตราเร่งไม่น่ากลัวเท่าความเร็วครับ ที่วิ่งๆกันบนถนนใส่กันเป็นร้อยทั้งทางตรง ทางโค้ง สถานการคับขัน อันนั้นน่ากลัวกว่าเยอะเลยครับ
-
ถ้าไม่คุ้น ควบคุม ยากเพราะอัตราเร่งมันโหดมากๆ เรื่องเสี่ยงอุบัติเหตุ เป็นความประมาท มากกว่าครับ
-
เอาง่ายๆ เลยครับ
0-100 ในแถวๆ 4 วิ มีรถอะไรบ้างก่อน
มีทั้ง super car และ performance car แทบทั้งนั้น ซึ่งปกติแล้ว คนทั่วไปเข้าไม่ถึงหรอก
แต่พอมาเป็น 3/Y per ผมว่า มันก็แรงมากๆ เหมือนกัน แต่เข้าถึงง่ายกว่า
อันนี้ อาจจะต้องพึ่งระวังไว้ด้วย เพราะ คนที่จับ 3/Y per มาเป็นเจ้าของ อาจจะไม่เคยขับรถแรงม้าเกิน 200 อัตราเร่งไม่เคยต่ำกว่า 10 วิ มาก่อนก็ได้
แต่ผมว่า มันเป็นเรื่องดี ในเรื่องร้าย คือ มันก็สร้างภูมิคุ้มกัน ทักษะ ความระแวดระวัง ในการขับรถของเจ้าของรถ ได้เหมือนกันครับ เราต้องมอง 2 ด้าน เหรียญไม่ได้มีด้านเดียวครับ
ที่ผมห่วงกว่านั้นคือ เบรค มันเอาอยู่ใช่ไหม การขับรถ อัตราเร่ง 4 วิ มากับ 500 แรงม้า กับ น้ำหนัก 2 ตัน ถ้ากดๆ เบรคๆ ซึ่งๆ ซัดๆ มุดๆ เบรคมันลาโลกไปก่อนใช่ไหม อันนี้ผมให้ความสำคัญกว่ามาก
-
เอาง่ายๆ เลยครับ
0-100 ในแถวๆ 4 วิ มีรถอะไรบ้างก่อน
มีทั้ง super car และ performance car แทบทั้งนั้น ซึ่งปกติแล้ว คนทั่วไปเข้าไม่ถึงหรอก
แต่พอมาเป็น 3/Y per ผมว่า มันก็แรงมากๆ เหมือนกัน แต่เข้าถึงง่ายกว่า
อันนี้ อาจจะต้องพึ่งระวังไว้ด้วย เพราะ คนที่จับ 3/Y per มาเป็นเจ้าของ อาจจะไม่เคยขับรถแรงม้าเกิน 200 อัตราเร่งไม่เคยต่ำกว่า 10 วิ มาก่อนก็ได้
แต่ผมว่า มันเป็นเรื่องดี ในเรื่องร้าย คือ มันก็สร้างภูมิคุ้มกัน ทักษะ ความระแวดระวัง ในการขับรถของเจ้าของรถ ได้เหมือนกันครับ เราต้องมอง 2 ด้าน เหรียญไม่ได้มีด้านเดียวครับ
ที่ผมห่วงกว่านั้นคือ เบรค มันเอาอยู่ใช่ไหม การขับรถ อัตราเร่ง 4 วิ มากับ 500 แรงม้า กับ น้ำหนัก 2 ตัน ถ้ากดๆ เบรคๆ ซึ่งๆ ซัดๆ มุดๆ เบรคมันลาโลกไปก่อนใช่ไหม อันนี้ผมให้ความสำคัญกว่ามาก
มันเบรคด้วยมอเตอร์หน่วงมารีเจนไฟด้วยมั้ยครับ
เหมือนเบรค retarder ในรถใหญ่
แต่แบบ อาจมีเผลอเหยียบคันเร่งผิดแบบ
ไทยสไมล์บัสเมื่อวานนี้
-
ผมว่าวัยรุ่นยังไม่สนใจเอารถไฟฟ้ามาซิ่งครับ
1.ควันไม่ดำ
2.ท่อเสียงไม่สะท้าน ไม่โดนใจ
3.ของแต่งต่างๆมันน้อย ดูเรียบๆไป ไม่มีกระโปรงคาบอน ไม่มีเสกิตรอบคัน
ผมขับรถออก ตจว. ทุกวัน
เจอรถไฟฟ้าประมาน 20 %
แต่ไม่เคยเจอรถไฟฟ้าขับซิ่งๆเลยครับ
จะมีก็เทสล่าขับมุดๆบ้าง แต่ไม่เคยเจอซิ่งแบบวัยรุ่นเลย
-
"ต่อไปเชื่อว่ามีอุบัติเหตุเยอะขึ้นแน่ครับ"
บางครั้งรถไฟฟ้าเร่งมาเต็มกระจกมองหลังหรือกระจกข้าง โดยที่เราไม่ทันตั้งตัว
แต่เชื่อว่าคนขับรถไฟฟ้าถ้ากะจะเร่งแบบนี้ต้องสายตั้งสติ และสายตาดี พร้อมจะเบรค เป็นพิเศษอยู่แล้ว
ซึ่งคนที่ต้องปรับตัวอาจจะเป็นรถเครื่องสันดาบธรรมดาเอง ที่อัตราการเร่งปกติ ต้องระวังให้มากขึ้นมองบริบทที่เคลื่อนไหวรอบรถให้มากขึ้นครับ
-
คนเลือกเพราะมันแรง น่าจะเยอะครับและถ้าเลือกเหตุผลนี้ ก็อาจเสี่ยงอุบัติเหตุมากขึ้นครับ
จุดที่น่ากลัวคือคนที่ไม่ชินรถ หรือขับชิลๆ แล้วมีจังหวะต้องแซงหรืออยากลองกดมิด
อัตราเร่งของมันน่าจะทำให้รถเสียอาการได้ไม่อยาก แล้วถ้าประสบการน้อยอาจไม่รอด
แต่ถ้าคนที่มีสติดี ขับแบบระวังคงไม่ได้มีปัญหาอะไรครับ
-
เอาง่ายๆ เลยครับ
0-100 ในแถวๆ 4 วิ มีรถอะไรบ้างก่อน
มีทั้ง super car และ performance car แทบทั้งนั้น ซึ่งปกติแล้ว คนทั่วไปเข้าไม่ถึงหรอก
แต่พอมาเป็น 3/Y per ผมว่า มันก็แรงมากๆ เหมือนกัน แต่เข้าถึงง่ายกว่า
อันนี้ อาจจะต้องพึ่งระวังไว้ด้วย เพราะ คนที่จับ 3/Y per มาเป็นเจ้าของ อาจจะไม่เคยขับรถแรงม้าเกิน 200 อัตราเร่งไม่เคยต่ำกว่า 10 วิ มาก่อนก็ได้
แต่ผมว่า มันเป็นเรื่องดี ในเรื่องร้าย คือ มันก็สร้างภูมิคุ้มกัน ทักษะ ความระแวดระวัง ในการขับรถของเจ้าของรถ ได้เหมือนกันครับ เราต้องมอง 2 ด้าน เหรียญไม่ได้มีด้านเดียวครับ
ที่ผมห่วงกว่านั้นคือ เบรค มันเอาอยู่ใช่ไหม การขับรถ อัตราเร่ง 4 วิ มากับ 500 แรงม้า กับ น้ำหนัก 2 ตัน ถ้ากดๆ เบรคๆ ซึ่งๆ ซัดๆ มุดๆ เบรคมันลาโลกไปก่อนใช่ไหม อันนี้ผมให้ความสำคัญกว่ามาก
มันเบรคด้วยมอเตอร์หน่วงมารีเจนไฟด้วยมั้ยครับ
เหมือนเบรค retarder ในรถใหญ่
แต่แบบ อาจมีเผลอเหยียบคันเร่งผิดแบบ
ไทยสไมล์บัสเมื่อวานนี้
ใช่ครับ มันก็มีระบบ รีเจน หรือ รีทาร์ด(ระบบนี้เพื่อชะลอ แต่ไม่ได้ชาร์จไฟกลับนะ) นั้นละครับ แต่ มันอยู่ในระบบที่เรียกว่า ชะลอ หรือ หน่วงความเร็ว
จังหวะที่ต้องเบรค ก็ต้องใช้เบรค ครับ
-
จากการใช้รถไฟฟ้ามา 6 หมื่นโล
อัตราเร่งตอนต้น มันควบคุมง่ายมากๆนะ มัน ไปแบบเอื่อยๆ เหมือนรถน้ำมันแหละ
มันไม่ใช่นึกว่า เหยียบผิดมิดแล้วไปถึง 100 เลยนะครับผม
อัตราเร่ง มันสั่งได้ตอนแซงน่ะครับ
แต่ ก็ นั่นแหละ อยู่ที่ ลักษณะการขับขี่ของผู้ขับเป็นสำคัญอยู่ดี
-
ผมไม่ได้ห่วงตัวคนขับรถไฟฟ้านะ
ผมห่วงคนร่วมทางคนอื่น ที่ไม่ได้รับรู้ถึงอัตราเร่งอันสุดยอดของมัน เลยทำให้กะระยะ ตัดสินใจพลาด จนทำให้เกิดอุบัติเหตุอะคับ .... ก็คล้ายเคส bigbike กับที่กลับรถเส้นต่างจังหวัด ชาวบ้านเห็นไฟไกล ๆ ก็กลับรถเนิบ ๆ ที่ไหนได้ไม่กี่วิต่อมา ถึงตัวแล้ว
-
รถแรงม้าสูงๆ รถแรงๆมันไม่ได้น่ากลัวขับยากแบบที่ใครๆกลัวหรอกครับ
เคยได้ยินมาเยอะ รถแรงอันตราย คนไม่เคยขับ หรือผู้หญิงให้ระวัง มันคุมยาก บลาๆ
แต่ในความเป็นจริง ทุกวันนี้ผมก็เห็นเด็กๆวัย 20 ต้นๆ ขับเทสล่ากันให้เต็ม youtube ไม่เห็นเค้าจะลงข้างทางหรือไปสร้างความเดือดร้อนให้ใคร
หรือรถเครื่องสันดาบ+ไฮบริจแรงๆอย่าง 296GTB ระดับ 800ม้า น้องแจม TKF ขับชิวๆไม่เห็นมันจะลำบากตรงไหน
ถ้ามันจะเกิดเหตุ มันจะเกิดจากความประมาณของคนขับมากกว่า ส่วนจะเกิดเพราะคนขับเอารถไม่อยู่เนี่ยคงไม่มี ถ้าไม่ไปปิดระบบช่วยเหลือของรถน่ะนะ
-
รถแรง-ไม่แรง เร็ว-ไม่เร็ว อยู่ที่คนขับครับ
ไม่คึกคะนอง ก็ไม่มีปัญหามั้งครับ
-
ผมไม่ได้ห่วงตัวคนขับรถไฟฟ้านะ
ผมห่วงคนร่วมทางคนอื่น ที่ไม่ได้รับรู้ถึงอัตราเร่งอันสุดยอดของมัน เลยทำให้กะระยะ ตัดสินใจพลาด จนทำให้เกิดอุบัติเหตุอะคับ .... ก็คล้ายเคส bigbike กับที่กลับรถเส้นต่างจังหวัด ชาวบ้านเห็นไฟไกล ๆ ก็กลับรถเนิบ ๆ ที่ไหนได้ไม่กี่วิต่อมา ถึงตัวแล้ว
อันนี่โทษคนขับล้วนๆเลยครับ
คนส่วนใหญ่ ทางยาวๆส่วนใหญ่เหยียบจนถึงความเร็วที่ต้องการแล้วก็แช่มากกว่า ไม่ค่อยได้ใช้อัตราเร่งเท่าไหร่ครับ
ถ้าอีกฝ่ายกะระยะจนเขามาชนได้ มันน่าจะมาจากการที่รถทางตรงขับเร็วมากๆ หรือเห็นแล้วเร่งความเร็วใส่ครับ
ส่วนพวกถนนในเมือง เอาจริงมันก็ไม่ควรจะเร่งปรื้ดขึ้นมาเร็วๆ ด้วยสภาพแวดล้อม และ ปริมาณรถมันไม่ควรจะทำแบบนั้นครับ
-
รถแรง-ไม่แรง เร็ว-ไม่เร็ว อยู่ที่คนขับครับ
ไม่คึกคะนอง ก็ไม่มีปัญหามั้งครับ
ผมว่ารถแรงมีผลให้คนขับขับเร็วขึ้นครับ
พอเหยียบแล้วมันติดเท้า มันจะทำให้ขับเร็วไปเองครับ
ฟอร์จูนเนอร์คือตัวอย่าง
-
รถแรง-ไม่แรง เร็ว-ไม่เร็ว อยู่ที่คนขับครับ
ไม่คึกคะนอง ก็ไม่มีปัญหามั้งครับ
ผมว่ารถแรงมีผลให้คนขับขับเร็วขึ้นครับ
พอเหยียบแล้วมันติดเท้า มันจะทำให้ขับเร็วไปเองครับ
ฟอร์จูนเนอร์คือตัวอย่าง
ฟอร์ไม่น่าเรียกว่าแรงครับ
คนขับมั่นหน้ามากกว่าครับ
-
ถ้ามันอยู่ในมือคนที่นิสัยขับแย่ อันนี้แย่แน่นอนครับ
ตัวรถไม่ได้คุมยาก ขับเหมือนรถปกติเลย คุมได้ทุกย่านความเร็ว
คนไปดูตัวเลข 0-100แล้วคิดว่ามันจะยาก จะบอกว่าขับง่ายกว่ารถน้ำมันหลายคันด้วยซ้ำครับ
-
ในส่วนคนขับเองรุ่นพวกนี้มักจะมีตัวช่วย ถ้าคนขับเผลอเรอก็คงช่วยเบรคช่วยเบี่ยงได้บ้าง
ส่วนผู้ร่วมถนนก็น่าจะต้องระวังตัวเพิ่มกันเองตามประสบการณ์ :-\
แต่ที่ผ่านมาผมขับเข้ากรุงทีเจอผู้ใช้ถนนอารมณ์เฉลี่ยค่อนข้างรุนแรง แม้รถไม่แรง
อีกหน่อยก็น่าจะมีมหกรรมมุดกันเป็น fast & furious
โดยเน้นแต่ furious กันแน่ๆ เพราะรถเฉลี่ยแรงขึ้นแน่ๆ ไม่อยากจะคิดเลย :-[
-
รถแรง-ไม่แรง เร็ว-ไม่เร็ว อยู่ที่คนขับครับ
ไม่คึกคะนอง ก็ไม่มีปัญหามั้งครับ
ผมว่ารถแรงมีผลให้คนขับขับเร็วขึ้นครับ
พอเหยียบแล้วมันติดเท้า มันจะทำให้ขับเร็วไปเองครับ
ฟอร์จูนเนอร์คือตัวอย่าง
ฟอร์ไม่น่าเรียกว่าแรงครับ
คนขับมั่นหน้ามากกว่าครับ
+1
-
3 per หรือ Y *ส่วนมาก*ที่ผมเจอก็ไม่ได้เร่งแบบเต็มคันเร่งนะครับ อาจจะทำไม่ได้ด้วยเพราะอยู่ใน กทม ;)
ส่วนเรื่องหน้าเป็นห่วงก็ตามหลายๆ คห. ครับ ท่านอื่นอาจจะไม่ทราบว่ารถบางรุ่นนั้นเร่งได้เร็วแค่ไหน ถ้ารถยิ่ฝแรงและคึกคะนองประมาท ก็เป็นไปได้ทั้งนั้นครับ
-
(https://scontent.fbkk8-2.fna.fbcdn.net/v/t1.15752-9/381662892_1359004814826402_7510631035405188117_n.png?_nc_cat=106&ccb=1-7&_nc_sid=ae9488&_nc_eui2=AeEy-5mdl7DdKxwN_FHpa2VX6y9uDsX_iX7rL24Oxf-JfmYOD4NQlYZRcQTOEcmKugg&_nc_ohc=Nb7wi1TBBDMAX-A4H6N&_nc_ht=scontent.fbkk8-2.fna&oh=03_AdQHy6XRtXcO9AnaG4L4JOjbgVFhGmkXL_1MCg8RAqXDkA&oe=653BDC7B)
(https://scontent.fbkk12-5.fna.fbcdn.net/v/t1.15752-9/381673873_1066195174373272_66013070733320560_n.png?_nc_cat=107&ccb=1-7&_nc_sid=ae9488&_nc_eui2=AeHFN-QqeTx0klmmPUkFq_gWE_QHXE3jhocT9AdcTeOGh62-zwbmHAraixt4B1GqecE&_nc_ohc=nlKRPZcnvM8AX_2IEvP&_nc_oc=AQmW1wpIX7Mg7xr1kv6mhnlmkfOAXB8GTDOIof8rmwveQtuTG_IZO23PpfiU6iZR1jg35dWNJ6alJNtESzZn8btb&_nc_ht=scontent.fbkk12-5.fna&oh=03_AdSXk6Pr5StFtfPsYlhnZd5sE6_Q_-j022BUeFXgeYfQCA&oe=653BC846)
Seal ตัวใหม่ที่จะออกอัตราเร่งแซงบนสุดตารางไปละครับ ผมว่าควรระวังเลย
-
ผมก็ว่าเป็นเรื่องที่น่าห่วงนะ รถยนต์แรงมากขึ้นเรื่อยๆแต่วินัยแบะสันดานการขับขี่ของคนไทยพุ่งลงเหวลงทุกทีๆอุบัติเหตุทางรถมันจะหนักรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ตำรวจก็ไม่มีที่ท่าจะเข้มงวดพึ่งพาได้เลย
-
ยิ่งราคาถูกลง ซื้อง่ายขึ้น พวกที่ขับรถไม่มีมารยาท และวินัยก็คงออกรถ ev แรงๆ กันให้ทั่ว อุบัติเหตุน่าจะเยอะขึ้นกว่าเดิม ปัจจุบันขับปกติๆ อยู่เลนกลางเฉยๆ ก็ยังจะมีพวก eco turbo มาจี้ตูดจะเล่นด้วยเลยครับ
-
รถแรงม้าสูงๆ รถแรงๆมันไม่ได้น่ากลัวขับยากแบบที่ใครๆกลัวหรอกครับ
เคยได้ยินมาเยอะ รถแรงอันตราย คนไม่เคยขับ หรือผู้หญิงให้ระวัง มันคุมยาก บลาๆ
แต่ในความเป็นจริง ทุกวันนี้ผมก็เห็นเด็กๆวัย 20 ต้นๆ ขับเทสล่ากันให้เต็ม youtube ไม่เห็นเค้าจะลงข้างทางหรือไปสร้างความเดือดร้อนให้ใคร
หรือรถเครื่องสันดาบ+ไฮบริจแรงๆอย่าง 296GTB ระดับ 800ม้า น้องแจม TKF ขับชิวๆไม่เห็นมันจะลำบากตรงไหน
ถ้ามันจะเกิดเหตุ มันจะเกิดจากความประมาณของคนขับมากกว่า ส่วนจะเกิดเพราะคนขับเอารถไม่อยู่เนี่ยคงไม่มี ถ้าไม่ไปปิดระบบช่วยเหลือของรถน่ะนะ
ที่คุณเคยได้ยินมา มันถูกต้อง และ จริง ครับ
ซึ่งคำว่า เคยได้ยิน คือ อดีต
ซึ่ง ในอดีต การจะขับรถ 300 ม้า ขึ้นเนี่ยะ มันคือ ต้องรู้จัก คันเร่ง รู้จักเบรค รู้จักการเลี้ยวหรือการหักวงพวงมาลัย เพราะ
รู้จักคันเร่ง เพราะ คันเร่งสาย ไม่มีหน่วง กดเป็นมา ดีดเป็นดีด ส่ายเป็นส่าย ไหลเป็นไหล แต่ปัจจุบันเป็นคันเร่งไฟฟ้าแถมมีหน่วงช่วยด้วย มันกระแทกไม่ได้พุ่งทันทีครับ
รู้จักเบรค เพราะ แต่ก่อน รถไม่มี ABS/EBD มาเร็วๆ กดเบรคที ไหล(ล้อล็อค)ชนตูดกันก็มีให้เห็น แต่ปัจจุบันกดเต็มที่ยังไม่ได้เสียหลักเลย เอาอยู่
รู้จักการเลี้ยวหรือการหักวงพวงมาลัย เพราะ แต่ก่อน รถไม่มีระบบช่วยเหลือ ระบบการทรงตัวใดๆ ถ้าหักพวงมาลัยเร็ว โอกาศปัด หรือ หมุน ไวมาก
ปัจจุบัน กับ แต่ก่อน มันต่างกันเยอะ แต่ก่อนเรียกว่า มันแรงแบบดิบๆ ครับ ถ้าเคยขับรถ 2J หรือ รถทำมาก่อน จะรู้ว่า มันน่ากลัวนะ ถ้ามีแรงม้าเกิน 300 เนี่ยะ
เพราะสมัยก่อน รถเกิน 150 ม้าเดิมๆ มันนับคันได้เลย บางคันไม่ถึง 100 ม้า ด้วยซ้ำ แต่เดี๋ยวนี้รถเดิมโรงงาน แตะๆ 200 ม้ากันแล้วทั้งนั้น รวมทั้งมีระบบช่วยเหลือเพียบ
รถ supercar ที่บอกมา จะมาขับปั่น ขับดริฟ หรือ ทำโดนัท หรือ เบินยางเล่น มันยังทำไม่ได้ครับ ต้องเปิดโหมด corsa ก่อน เพื่อปิดระบบช่วยเหลือทุกอย่างก่อน มันถึงจะยอมให้ทำครับ(บางคันมีโหมด drift แยกด้วยซ้ำ) ดังนั้น มันเข้าถึง ขับง่าย กว่าเดิมเยอะแล้ว
มีช่วงนึง คนทั่วไป เห็น รถแต่ง รถทำ ดูแรงม้าเยอะๆ เขาไม่กล้าเขาไกล้ด้วยซ้ำ เพราะเขากลัวมันจะว่า มันจะมาหมุน มาฟาด หรือ เดือดร้อน เราหรือป่าว ด้วยซ้ำ
-
ผมว่าความเสี่ยงเยอะขึ้นแน่นอนครับ เอาจริงๆรถแค่ 400 ม้า กดเต็มๆ นี่ก็น่ากลัวแล้วครับสำหรับคนขับรถทั่วไป
ต่อไปรถ 5-600 ม้า หนักแถวๆ 2 ตัน วิ่งกันเกลื่อนถนนนี่น่าหวาดเสียวจริงๆ
-
เหมือนที่สหรัฐครับ Corvette เริ่มต้น 60000 USD ~ 2000000 บาท แต่แรงม้าเกือบจะ 500 แล้ว
-
ช่วงนี้ไปต่างจังหวะบ่อยเจอแต่น้อนนนนเนต้า-วี ขับได้โหดสัสรัสเซียมากๆ
ตามติดดูดตรูด+แซงปาดซ้ายขวาแบบโหดสัสมากๆหลายคันแล้วที่เจอ
นี่ถ้าได้ขับ Model 3/Y LR / Per ไม่อยากจะคิด ;D
-
รถแรง-ไม่แรง เร็ว-ไม่เร็ว อยู่ที่คนขับครับ
ไม่คึกคะนอง ก็ไม่มีปัญหามั้งครับ
ผมว่ารถแรงมีผลให้คนขับขับเร็วขึ้นครับ
พอเหยียบแล้วมันติดเท้า มันจะทำให้ขับเร็วไปเองครับ
ฟอร์จูนเนอร์คือตัวอย่าง
ฟอร์ไม่น่าเรียกว่าแรงครับ
คนขับมั่นหน้ามากกว่าครับ
+1
เห็นด้วยครับ เมื่อวานนี้ก็มี1คันขับได้เฮียมาก ไม่รู้จะมุดแทรกไปทำซากอะไรนักหนา ชาวบ้านต่อคิวกันยาว พี่แกก็มาแทรกหน้าแถว
รถที่อัตราเร่งเร็วๆในเมืองไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่เพราะรถติดๆก็ไปไหนไม่ได้ รถผม489แรงม้า 0-100แค่4.9วิก็ยังไม่ค่อยได้เหยียบเต็มที่ แต่ทางไกลน่าห่วงสำหรับคนที่ไม่ระวังครับ
-
ทุกวันนี้เจอรถไฟฟ้าขับห้าวๆ บ่อยขึ้นเลยนะครับ
Ora ไม่ gt แต่ใจคนขับ gt3 ไปละ
แต่ก็อยู่ที่ว่าหลังพวงมาลัยเป็นใครมากกว่า แต่ด้วยราคารถที่เข้าถึงง่าย หลังจากนี้ยังไงก็คงได้เจอแน่นอนครับ
-
อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอครับ ไม่ว่ารถเร็ว หรือช้า ส่วนรถไฟฟ้าใหม่ๆก็สนุกกันตอนกด ไปสลดตอนเติมไฟ (รอนาน) ผมอยู่ ตจว ส่วนใหญ่พวกตัวแรงๆที่เจอ Tesla bmw Volvo ขับกันปกติ แต่ไม่ค่อยเปิดไฟเลี้ยวกัน อันนี้เกลียดมาก นึกจะเลี้ยวตรงไหนก็เลี้ยว ส่วนตัวเล็กๆค่ายจีน ก็มีกดอวดบ้าง แต่ก็แค่นั้น เห็นกดหนีไปแป๊บๆ สักพักไหง๋สุดท้ายขี่ช้าลงก็ไม่รู้
-
เป็นไปได้นะครับ ที่ความแรงเร็วสูงแบบนี้ คนขับ+เพื่อนร่วมทาง จะคาดไม่ถูก คงต้องใช้เวลาอีกซักพักใหญ่ๆ
วันก่อนเห็น model Y แซงซ้ายออกไปบนทางด่วนไวมากๆ จนเกือบจะชนขอบกำแพงเลย ดีที่ยังเอารถอยู่ แต่ก็แอบเสียอาการไปไม่น้อย