วันนี้ทางเซลวอลโว่ที่ได้พูดคุยกันในงานมอเตอร์โชว์ช่วงเมษา ได้โทรมาแจ้งว่ามี V40 เข้ามาให้ลองแล้ว
(โชว์รูมพระราม 3 ) ตัวผมที่กำลังมองรุ่น XC40อยู่ ก็เลยไม่รอช้าเดินทางไปพบกับเซลที่โชว์รูม
ซึ่งสาขานี้เป็นสาขาเปิดใหม่ การให้บริการถือว่า ดีมากกก เซลมีการเตรียมข้อมูลมาพร้อม รถมีทั้งแบบให้ลองขับ
และแบบที่จอดในโชว์รูมโชว์ไฟสวยๆ แรกสุดผมก็เริ่มเดิมสำรวจรอบตัวรถ V40 พระเอกของเราในวันนี้
Walk Aroundหลายคนถ้าได้มาเห็นล้อที่จัดมาให้ ต้องแอบชอบแน่ๆเลย เพราะมันเป็นสี Grey เข้ากับตัวรถสีขาวมากๆ
ด้านท้ายเปิดออกมา ถือว่าลึกใช้ได้ แต่ติดตรงทีมีหน้ากว้างแคบไปหน่อย ผมวัดได้ราวๆ 85-90ซม. ซึ่งรถเข็นเด็ก
บางรุ่นเอาเข้าได้ แต่รถเข็นของผม 96ซม. เอาเข้าไม่ได้ T..T
InsideDash Board และแผงหน้าปัดออกแบบได้สวยลงตัว วัสดุโดยรวมคุ้มราคามากๆ โดยเฉพาะตรงพวงมาลัย มันเป็นหนังแท้หุ้ม จับแล้ว
ให้ความรู้สึกมีราคาขึ้นมาทันที (เคยลองขับ F30 320D อยู่รู้สึกว่าวัสดุตรงพวงมาลัยวอลโว่ดีกว่า) แต่ผมไม่ชอบการออกแบบตรงฝั่งคนนั่ง
มันดูแข็งๆทื่อๆ ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ
แผงหน้าปัด อย่างที่รู้ๆกันครับ เป็นแบบใหม่ เก๋ไก๋ ไฮโซมากทีเดียว สามารถปรับตามพฤติกรรมการขับขี่ 3 แบบ
คือ Elegance ,Eco และ Performance ในโหมด Eco แอบมี Gimmic เล็กๆ คือ ถ้าเราขับตามคำแนะนำของระบบ
จนได้ความประหยัดระดับนึงแล้ว มันจะให้ถ้วยรางวัลกับเราครับ แต่ผมมัวแต่กดโหมด Performance เลยไม่ได้ถ่ายมาให้เห็นกัน
คอนโซลใช้สีขาวตัดขอบแดง Chic Style ตรงนี้อาจเรียกคะแนนให้วัยรุ่นเทใจหามามองดีไซด์ของวอลโว่บ้าง..ก็เป็นได้
ซึ่งการควบคุม 2 ปุ่มบนจะเป็นเรื่องจอ เสียง การปรับ Setting ต่างๆในจอ ส่วน 2 ปุ่มล่าง จะเป็นเรื่องแอร์ครับ
วอลโว่พยายามเอาใจพวกขี้เบื่อเวลาขับรถยามค่ำคืนแล้วต้องมีสีสันขณะขับรถ โดยสามารถตั้งสีไฟให้มาตกกระทบแผงคอนโซล
เลือกปรับได้หลายสีมากๆ แต่ผมจำมะได้ว่ากี่สี รวมถึงด้านหลังด้วย
ช่องเก็บของกระจุ๊กกระจิ๊ก ตามนิสัยคนไทย ใน V40 ถือว่าพอรับได้ครับ ไม่ถึงกับดีมาก มีช่องวางของที่เหมือนจะซ่อนอยู่
ด้านหลังคอนโซล ที่ไม่รู้ว่าตั้งใจรึเปล่า ถัดจากเกียร์ก็มีช่องปิดเปิด ใส่น้ำได้ 2 แก้ว แต่ที่รับไม่ค่อยได้น่าจะเป็นแผงข้างประตู
ที่วางของได้น้อยมว๊ากก ไอ้คนชอบซุกขยะข้างประตูอย่างผมอาจต้องหาที่ซุกอื่นซะแล้ว
เบาะหลังแอบชอบตรงที่ เดิมๆมันเป็นเบาะตรงกลางธรรมดา แต่แค่ดึกเชือกเล็กๆ ดันมีช่องวางแก้วเสนอหน้ามาซะงั้น
ด้านข้างของเบาะหลังก็พอมีช่องให้วางเศษเหรียญ หรือวางของจุกจิ๊กได้นิดหน่อย
มาถึงตรงนี้คงต้องมาพูดถึงเรื่องของที่นั่งเบาะหลังที่หลายๆคนไปลองกันมาในงานมอเตอร์โชว์ แล้วมีกระแสว่า
มันเล็กบ้าง รู้สึกอัดอัดบ้าง จากวันนี้ที่ได้ลอง โดยตอนแรกให้แฟนและพี่เลี้ยงลูกอีกคนนั่ง และผมปรับเบาะนั่งด้านหน้า
ให้ถนัดที่สุด (ผมสูง 170 และชอบปรับเบาะให้ห่างจะพวกมาลัยพอสมควร) ปรากฏว่าเหลือที่นั่งด้านหลังค่อนข้างเหลือเฟือครับ
อาจเป็นเพราะเป็นผญ (แฟนผมสูง 153 ) ผมเลยลองให้แฟนไปขับแล้วผมสลับไปนั่งหลังโดยไม่ปรับตำแหน่งใหม่
ระยะห่างจากเบาะหน้าถึงขาผมก็ยังมีเยอะมากอยู่ดีครับ ผมไม่รู้สึกว่าอึดอัดเลยครับ แต่ที่หลายๆคนรู้สึกเช่นนั้น
อาจมาจากการดีไซน์เบาะหลังให้มีองศาตั้งชันขึ้นมามากกว่าปกติซักหน่อย เลยอาจทำให้รู้สึกว่าอึดอัดขึ้นมาบ้าง สำหรับผม
เรื่องที่นั่งหลัง ผมว่าโอเครนะ แต่ถ้าคนสูงซัก 180 มานั่งหลัง อาจทำให้รู้สึกอึดอัดได้เลย
Ok..Let's Drive!!มาลองขับกันบ้าง เครื่องT5 กับ 213ม้า อืมม ผมลองทั้งทางด่วน ทางตรง ทางโค้งแถวพระราม 3 บอกได้เลยว่า
ช่วงความเร็ว 0-80 คันเร่งค่อนข้างสุภาพ มันไปเรื่อยๆ นุ่มๆแบบมาดผู้ดี ไม่มีอาการดึงโหดแบบ Cooper S หรือ 320D ที่ขับอยู่
แต่ไม่ใช่ไม่เร็วนะ เข็มมันก็พุ่งเร็วเหมือนกัน แต่แค่มิติของคนขับมันรู้สึกว่าไม่ดึงเท่านั้นเอง แต่พอในช่วงความเร็ว 80อัพ
ทำให้ผมลืมความรู้สึกก่อนหน้านี่ไปเลย เอ้ย..นี่มันออมแรงไว้นี่หว่า มันไปต่อแบบพุ่งๆต่อเนื่องไม่บันยะบันยัง
ผมอัดไปซัก 160 ยังรู้สึกชิลๆ แบบว่ายังพุ่งต่อได้อีกเรื่อยๆตามเท้านะ แต่แค่นี้ก็ไม่กล้าแล้วครับ มีเจ้าตัวเล็กมาด้วย แหะๆ
ไว้ไปลองความเร็วปลายใหม่ แล้วมาอัพเดตต่อ เพราพี่เซลบอกเองว่าวันหลังมาลองอัดได้อีกทุกเมื่อ
การกินน้ำมัน เซลบอกว่าเฉลี่ยอยู่ที่ 13km/l แต่ในจอที่ผมดูมัน 9.1km/l เข้าไปแล้ว เรื่องนี้ก็คงต้องลองให้พี่จิมมี่เทสดูหละครับ แหะๆ
Suspensionบอกเลยครับ ไม่เคยขับวอลโว่มาก่อน แต่พอมาลอง ชอบเลย ไปลองขับทั้งทางตรงถนนเรียบ และทางขรุขระ ถนนเน่าๆ
ผมลองวิ่งลงหลุม บ่อตามกทม.เลยครับ หนึบใช้ได้ ไม่มีความรู้สึกโคลงหรือยวบ และไม่แข็งจนตับแตก จะติดมีแค่นิดเดียวจริงๆ
คือเวลาขึ้นคอสะพานเร็วๆ มันมีอาการโยนตัวให้เห็นบ้างครับ แต่ก็รับได้ มันอาจไม่หนึบเท่าพวก E90 (ปัจจุบันขับอยู่) แต่ถ้าจะให้เปรียบ
ผมว่าหนึบกว่า F30 (เคยขับ) ที่พักหลัง BMW ทำออกมานึ่มลง
Handling & Brake พวงมาลัยปรับได้ 3 ระดับครับ ผมชอบระดับmedium กับHigh ครับ น้ำหนักกำลังดี กับระยะฟรีมีน้อยมาก
ระดับLow ผมว่ามันเบาไป อาจเหมาะกับผญ. แต่มีข้อตินิดนึงครับ...ฟังก์ชั่นการเข้าไปปรับค่อนข้างซับซ้อน หลายขั้นตอนไม่ทันใจ
ยกตัวอย่างเช่น คุณขับรถติดๆ ซอกแซกในเมือง คุณปรับโหมด Low อยู่ พอขับๆไป ถนนเริ่มโล่ง วิ่งเร็วได้ คุณจะปรับเป็น High
คุณต้องละสายตามามองจออยู่นานทีเดียวกว่าจะปรับเสร็จ มันไม่เหมือน F30 ที่มีโหมดการขับขี่ ช่วงล่างและพวงมาลัย
เป็นปุ่มแยก ปรับอยู่ที่แถวคันเกียร์เลย..
ส่วนเรื่องเบรค ยอมรับครับว่า ช่วงแรกๆไม่ชินอย่างแรง เบรคตื้นกว่า E90 F30 และ Copper S ครับ อาจพอๆกับ Audi หรือ VW
แต่พอขับไปซักพักก็ชินครับ เบรคหนึบ เอาอยู่ในช่วงความเร็วสูง มั่นใจสบายๆ และช่วงรถติด รถไหล เบรคไม่จิกหัวทิ่ม แค่มันตื้นเท่านั้นเอง
Safety First++ฟังก์ชั่นความปลอดภัย ถือว่าเป็นจุดขายของวอลโว่อย่างที่ทราบกัน ผมอายุประมาณ30 ต้นๆ ปกติชอบขับรถเร็ว ไม่เคยสนใจฟังก์ชั่น
เรื่องความปลอดภัย เดิมๆขับ E90 โหลด เปลี่ยนแม็ก จัดเต็ม แต่เพิ่งมีเจ้าตัวน้อยเลยต้องหารถที่เหมาะกับครอบครัว(สมัยใหม่)
บวกกับ ผบ.สั่งว่าให้ลองดูระบบเรื่องความปลอดภัยเป็นสำคัญด้วยนะ เลยทำให้ตอนลองรถ เหมือนโดนบังคับให้ศึกษาตัวรถในเรื่องนี้ด้วย
ปรากฏว่า มันมีลูกเล่นด้านความปลอดภัยเยอะมากก และใช้งานได้จริงครับ ไปๆมาๆผมถูกใจในความฉลาดของมันมาก
ในแผงคอนโซลด้านล่าง จะมีปุ่มปิดเปิดฟังก์ชั่นพวกนี้อย่างสะดวกอยู่หลักๆ 4 ฟังก์ชั่นครับ
- เริ่มจากซ้าย ฟังก์ชั่นสแกนหาที่จอดรถ และจอดเอง ผมลองมาแล้ว ชอบมาก สามารถจอดได้ที่ช่องที่แคบพอดีตัวรถเลย
- ถัดมา Blis คือไฟเตือนบริเวณกระจกข้างด้านใน เวลาจะมีรถวิ่งจะแซงมาเลนด้านข้างทั้ง 2
- ถัดมา ระบบให้เราขับรถตรงเลน มันจะเตือนสั่นที่พวกมาลัยเวลาเราขับไม่ตรงเลนในความเร็วสูง พวกชอบมุดไปมา อาจปิดฟังก์ชั่นนี้ไปก็ได้นะ อิอิ
- ระบบเสียงเตือนจาก Censor ต่างๆ ทั้งหน้ารถ หรือหลังรถ เช่น ถ้าข้างหน้าเบรคกะทันหัน แล้วคุณเข้าไปใกล้มาก มันก็จะมีเสียงเตือน ถ้ารำคาญก็ปิดได้ครับ
ระบบช่วยจอด มันดีจริงครับ No hand จริงๆ มันหมุนเองเสร็จสรรพเข้าไปจอดช่องเล็กๆ ได้สบาย แต่ต้องใหญ่กว่าตัวรถ หน่อยนะ
นอกจากนี้ยังมีระบบต่างๆ อีกเยอะแยะมากมาย ผมยังเล่นไม่หมดเลยครับ เช่น เวลาเราขับรถผ่านป้ายความเร็ว
รถมันดันรู้อีก และเอามาโชว์เตือนในจอรถเราซะอย่างนั้น หรือพวกระบบเบรคเอง ที่ยังไม่กล้าลองครับ
เซลกระซิบมาว่า เบรคหัวทิ่มกันเลยทีเดียว..
Serviceประทับใจกับการบริการโชว์รูมสาขานี้มากๆครับ ข้อมูลมีให้ครบ (รวมถึงตัว XC40 ที่ผมเล็งๆอยู่ด้วย) เซลพูดจาดี รวมถึงสิ่งที่ให้มากับตัวรถคือ
-ประกันตัวรถ 3ปีหรือแสนโล อันนี้ผมว่าปกติทั่วไป
-ค่าบำรุงรักษาฟรี 5ปีหรือแสนโล เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและบำรุงรักษา ตามระยะไม่เสียค่าใช้จ่าย อันนี้ชอบครับ
-บริการรถลากทั่วประเทศ 24ชม. เป็นเวลา 3ปี อันนี้ก็ชอบนะ แต่แอบลุ้นว่าถ้ารถเกิดมีปัญหาปีที่4 แล้วอยู่ต่างจังหวัด ไม่มีศูนย์เลย กูจะทำไงว้าา
Overallสรุปรวมๆ ผมชอบมากครับ เครื่องแรง รูปทรงสวยเฉี่ยว ภายในไม่แคบจนน่าเกลียด ระบบความปลอดภัยจัดเต็ม ราคา1.7กว่าๆ
ได้แบรนด์วอลโว่ เพราะถ้าจะไปเทียบ Spec เดียวกันกับ Benz คุณต้องเพิ่มอีกเยอะกับ A250 ถ้าเทียบกับ 1Series ก็ยังแพงกว่าหน่อย
แถมให้ของไม่เท่า V40 นะ ผมว่า
จะมีที่ไม่ชอบก็แค่เรื่อง การขับขี่ที่สนุก ซึ่งจริงๆ มันก็ดีอยู่แล้วแหละ แต่ผมขับแต่ BM มาตลอดพอมาขับ Volvo เปรียบเทียบกัน ก็เลยรู้สึกว่า
มันยังขับสนุกไม่เท่า BM แต่ใกล้เคียงแล้วแหละ และเรื่องศูนย์บริการ ที่ถึงแม้ว่าช่วงนี้(เหมือนจะ)บริการดี แต่มันก็ยังไม่เยอะเท่าที่ควร
ถ้าคนจะมองว่าซื้อเพื่อไปใช้งานจังหวัดบ้าง ก็อาจคิดหนักหน่อยเรื่องศูนย์ที่แพร่หลาย
คนกลุ่มที่จะมองวอลโว่ V40 อาจเปิดกว้างขึ้น ไม่ใช่เฉพาะกลุ่มครอบครัว อีกต่อไป อาจเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อยากเล่นรถยุโรปดีๆซักคัน
ที่งบไม่แรงจนเกินไป แต่ได้ความคุ้มค่ากลับมา แต่สำหรับผม ผมยังรอ XC40 อยู่ครับ ได้ข้อมูลมาเยอะละว่ามาขายแน่
และอาจไปลองเปรียบเทียบกับ Maxda CX5 ด้วย ปลายปีนี้คงตัดสิจใจได้ครับ
ขอบคุณที่ติดตามอานจนจบนะครับ Review นี้เป็นตัวแรกที่ผมทำ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่สนใจนะครับ ^^