Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: mackiez_krg ที่ กันยายน 14, 2016, 10:58:02
-
สวัสดีครับพี่ๆเวป Headlightmag ,ปกติผมจะตามอ่านอย่างเดียวครับ
วันนี้มีเรื่องอยากขอความคิดเห็น จึงสมัครมาเพื่อโพสถามครับ เกี่ยวกับรถ 3 รุ่น ราคาไล่เลี่ยกัน ประมาณล้านต้นๆ
CX-3 2.0SP price = 1,045,000
Civic turbo RS. = 1,199,000
CX-5 2.0s. = 1,330,000
ปัจจุบัน จขกท. ใช้ Vios ปี 2012 อยู่ครับ เหตุผลที่อยากจะออกรถใหม่คือ
คุณแม่จะซื้อรถใหม่ แต่ให้ผมเป็นคนขับแทนครับ ส่วนคุณแม่จะไปใช้ Vios แทน
ลักษณะการขับขี่ของผมคือ ขับทางไกลไปทำงานทุกวัน ไปกลับบูรพาวิถี ไป-กลับ 120km ทุกวัน
ผมมักออกออกตัวแรง แล้วไล่ความเร๊วขึ้นไปในระดับปานกลาง ไม่กระทืบมากจนเครื่องร้องดัง
เว้นแต่จะมีการแซงครับ ความเร็วที่ใช้ราวๆ 120-140 km/hr ซึ่งเจ้า Vios ค่อนข้างจะส่ายตั้งแต่ 130-140
ใช้รถคนเดียว จ-ศ ขากลับมีน้องที่ทำงานติดรถกลับ ไม่เกิน 1-2 คน
เสาร์มีไปขี่จักรยานที่สุวรรณภูมิ ปัจจุบันถอดล้อหน้ายกเข้าเบาะหลัง Vios ทุกลักทุเลนิดหน่อยพอไหวครับ
ครั้งแรกผมเทใจไปหาเจ้า cx-3 แบบหมดใจเลยครับ แต่พอไปลองนั่งพบว่าตัวรถเล็กเกินไป
ทั้งคุณแม่และคุณแฟนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่อยากนั่งเบาะหลัง! ทำให้ผมลำบากใจมากครับ
พอ CX-5 minorchange เปิดตัว ค่อนข้างชอบครับ เพราะน่าจะขนจักรยานได้ง่าย เหมาะกับไลฟสไตล์
แต่ก็คิดว่าราคาสูงไปครับ อาจจะต้ออผ่อนหนักขึ้นไปอีก และไม่มั่นใจว่าจะขับสนุกเท่า cx-3 หรือเปล่า
เคยขับรุ่นก่อนไมเนอร์เชจของน้องที่ทำงาน ดูเป็นรถครอบครัวมากกว่ารถขับสนุก (หรือผมเกรงใจน้อง ไม่กล้าขับซ่ามากก็ไม่แน่ใจ)
ส่วนเจ้า Civic FC ผมไม่ค่อยชอบเกียร์ CVT เลยครับ เพราะเจ้าวีออสนี่มีอาการ อม-บ้วน มากๆ จนน่าหงุดหงิด
แต่รูปทรงขัดตา แปลกดีจนมองไปนานๆเริ่มชินและดูสวยขึ้นมา Turbo ดูน่าสนใจ แต่กลัวเรื่องปัญหา defect
เท่าที่อ่านมาดูมีปัญหาค่อนข้างเยอะใช่ไหมครับ?
ทั้งหมดนี้เคยลองขับแค่ cx-5 กับ mazda2 (ไม่รู้เหมือน cx-3 มากแค่ไหน)
คิดว่าไปลองขับ อาจจะไม่สามารถตัดสินใจได้อยู่ดี เพราะระยะทางลองส่วนใหญ่ก็จะสั้นๆ เลยยังไม่ได้ไปลองครับ
ขอบคุณทุกความเห็นครับ
-
ผมว่าถ้าจขกทขนจักรยาน รถซีดานอาจจะไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่นะครับ เห็นที่บอกว่าเอาไว้เบาะหลัง vios ค่อนข้างลำบากนิดนึง ถ้าขนจักรยานรถ 5 ประตูน่าจะเหมาะกว่านะครับ แต่ถ้าใจเทไปที่ civic ละมองข้ามตรงที่ว่าขนจักรยานลำบากนิดนึงก้ไปจามที่ใจบอกเลยครับ ;D
-
ขับวีออสที่ความเร็ว 120-140 แบบว่าเสี่ยงมากเลยครับผมขับเกินร้อยสิบก็กลัวแล้ว ยิ่งลมแรงยิ่งไม่กล้ากดเกินร้อยเลยมันหวิวๆ น่ากลัว ถ้าเทใจให้มาสด้าแล้ว ก็ CX-5 ครับแต่ความประหยัด ซีวิคน่าจะดีกว่า
-
CX-5 คงดีสุดกับรูปแบบการใช้งานของ จขกท. แต่สงสัยนิดว่า Vios 2012 มันเป็น CVT เหรอครับ ถ้าจำไม่ผิดมันเป็น 4AT นะ อยากจะบอกว่าเกียร์ CVT ที่ฉลาดๆก็มีนะครับ ขับสนุกด้วย อย่าไปตามกระแสที่บอกต่อๆกันไปมากนัก มันก็แค่ความรู้สึกของคนขับแต่ละคนเท่านั้น ต้องลองเองครับ
-
เชียร์ cx5 นะครับ จะได้เอนกประสงค์
แต่
civic ค่าบำรุงรักษา ฯ ถูกกว่า
cx3 เล็กไป 8)
-
CX-5 คงดีสุดกับรูปแบบการใช้งานของ จขกท. แต่สงสัยนิดว่า Vios 2012 มันเป็น CVT เหรอครับ ถ้าจำไม่ผิดมันเป็น 4AT นะ อยากจะบอกว่าเกียร์ CVT ที่ฉลาดๆก็มีนะครับ ขับสนุกด้วย อย่าไปตามกระแสที่บอกต่อๆกันไปมากนัก มันก็แค่ความรู้สึกของคนขับแต่ละคนเท่านั้น ต้องลองเองครับ
ขออภัยสำหรับความผิดพลาดของข้อมูลครับ แสดงว่า cvt อาจจะไม่มีอาการอมรอบใช่ไหมครับ
เกียร์ skyactive ผมไม่เจออาการอมรอบ เลยนึกว่าเกียร์อัตโนมัติปกติ จะดีกว่าซะอีก
อาจจะต้องหาวันไปลองขับเพื่อเชคอาการซะแล้ว ขอบคุณครับ
-
Cx-3 ผมไม่เคยขับ แต่เคยเจอเลี้ยวออกจากซอยตัดหน้าตอนที่ผมขับมา 80 กม./ชม.โดยที่ผมไม่ต้องเหยียบเบรคเลยเพราะคนขับ CX-3 ออกตัวไวมากจนไล่ความเร็วหนีผมได้ และเสียงไม่ดังด้วย
ผมเคยลองนั่งในเบาะหลังแล้วแคบไปหน่อย ยิ่งถ้าต้องขนจักรยานเข้ารถผมไม่แน่ใจว่าพับเบาะแล้วจะกว้างขึ้นแค่ไหน (อาจจะใส่ง่ายขึ้น)
Cx-5 ดูจะเหมาะสมกับคุณที่สุดครับ แต่ติดตรงราคาสูงไป ถ้าต้องผ่อนเองแล้วงบจำกัดผมก็ไม่ค่อยอยากแนะนำครับ
Civic RS อยากให้ลองไปขับดูครับว่าอาการรับอม-บ้วนได้แค่ไหน (CVT แต่ละคันอมบ้วนไม่เหมือนกันนะ)
แต่เรื่องขนจักรยานผมว่าคงอารมณ์ไม่ต่างกับ Vios เท่าไหร่ครับ รถคันใหญ่กว่าเดิมก็จริงแต่เอาขนจักรยานเข้า-ออกก็คงทุลักทะเลอยู่ดี
-
CX-5 / 2.2 ดีเซล.......เลือกซื้อมือ 2 สิครับ รับรองจะได้ครบทุกสิ่งที่ต้องการ..แถมความประหยัดมาอีกด้วย ;D
-
CX-5 น่าจะดีกว่า จากตัวเลือกที่ให้มา ขับสนุกมั้ย ต้องบอกว่าดีเซลเครื่องแรงกว่า เบนซินก็ไม่ได้น่าเกลียด ขับสนุกก็ไม่จำเป็นต้องขับเร็วนะสำหรับผม ชอบเข้าโค้งมันๆหน่อย อิๆ :-[
-
จากที่อ่าน..
CX5 ครับ..
-
CX-5 ครับ
-
ใส่จักยานกับcivic มันไม่ค่อยเข้ากันนะ
-
ตอบในฐานะคนเคยใช้รถซีดาน (Mazda 3)แล้วเปลี่ยนมาเป็น SUV CX-5 นะครับ
1.ในเรื่องความอเนกประสงค์ ดีกว่าเดิมมากๆ เข้าออกง่าย ขึ้นลงง่าย
ของขนได้มากกว่ามากๆ ยิ่งตอนพับเบาะ พื้นทีเยอะเลย แต่ก็ต้องเอาม่านปิดด้านหลังออก
ส่วนจักรยานผมว่าถ้าเป็นไซด์ไม่ใหญ่มากยกใส่ได้เลย แต่ถ้าคันใหญ่คงต้องถอดล้อหน้า
2.ในเรื่องการขับขี่ไม่ต่างจากรถเก๋งมาก แค่ดูใหญ่ขึ้น ซิ่งได้เหมือนเดิม จากที่เคยขับรถเตี้ยๆ
รับรู้สภาพถนนทุกเม็ด พอเปลี่ยนเป็น SUV รู้สึกดีขึ้นเยอะ ลุยทางหลุมบ่อได้ง่ายกว่า
ไม่ต้องกลัวกับสภาพถนนเท่าไหร่ ลุย!!!!
3.ในเรื่องความประหยัดคงต้องไป CIVIC และซิ่งกว่าแน่นนอน แต่ผมไม่รู้ว่า CIVIC พับเบาะได้หรือป่าว
คงลองไปทดลองขับให้ครบครับ ดีคนละแบบ
CX-3 สวยสุด แต่ไม่เหมาะคับมันแคบไป
CX-3 เหมาะกับแนวอยากได้แรงและลุยนิดหน่อย แต่ต้องยอมรับมันขับมันส์ดี :-*
ถ้าเป็นผมคงเลือกระหว่าง CX-5 กับ CIVIC
-
CX-5 คงดีสุดกับรูปแบบการใช้งานของ จขกท. แต่สงสัยนิดว่า Vios 2012 มันเป็น CVT เหรอครับ ถ้าจำไม่ผิดมันเป็น 4AT นะ อยากจะบอกว่าเกียร์ CVT ที่ฉลาดๆก็มีนะครับ ขับสนุกด้วย อย่าไปตามกระแสที่บอกต่อๆกันไปมากนัก มันก็แค่ความรู้สึกของคนขับแต่ละคนเท่านั้น ต้องลองเองครับ
ขออภัยสำหรับความผิดพลาดของข้อมูลครับ แสดงว่า cvt อาจจะไม่มีอาการอมรอบใช่ไหมครับ
เกียร์ skyactive ผมไม่เจออาการอมรอบ เลยนึกว่าเกียร์อัตโนมัติปกติ จะดีกว่าซะอีก
อาจจะต้องหาวันไปลองขับเพื่อเชคอาการซะแล้ว ขอบคุณครับ
CVT ยังไงก็คือ CVT แหละครับ อาจจะเซตติ้งมาแตกต่างกันไป ลองไปขับดูก่อนครับว่ารับได้ไหม
-
ตัด Civic เพราะพับเบาะไม่ได้ครับ
แล้วก็ถ้าจะไป CX3 ผมว่าออก Mazda3 MC ปลายปีดีกว่า
-
CX-5 ตอบโจทย์ในชีวิตประจำวัน แต่ติดที่ราคาสูงเกินไปหน่อย
ไม่ลองมองหา HR-V เหรอครับ ใส่จักรยานได้สบาย คนนั่งหลังก็โอเคในระดับหนึ่ง เผลอๆเบาะหลังจะนั่งดีกว่า CX-5 อีกครับ
ช่วงล่างก็ทำมาให้ขับประมาณ ท่าน จขกท. ใช้งานเลย อยากหนึบขึ้น มั่นใจขึ้น ก็หาโช๊คใหม่ใส่ ประหยัดกว่า CX-5ไปเยอะเลย
ราคาก็ฟัดกับ CX-3 สบายๆเลยครับ จุดนี้ผมมองว่า ท่าน จขกท.ต้องการใช้รถที่ตอบโจทย์ในชีวิตประจำวัน มากกว่ารถขับสนุกแน่ๆ
จึงอยากให้ท่าน จขกท. ไปลอง HR-V ดูครับ แต่ถ้ายังติดใจค่ายMZ ก็ต้อง CX-5 ละครับ
(ค่ายนี้ถ้าเขาคำนึงถึงผู้โดยสารด้วย จะทำยอดขายได้มากวก่านี้อีก หลายคนเปลี่ยนใจไปค่ายอื่น เพราะเรื่องผู้โดยสารตอนหลังนี่แหละ)
-
ผมว่า CX-5 ตอบโจทย์ที่สุด แต่ถ้าเกินงบมา CX-3 แม้จะแคบ แต่ผมว่าแรงสะเด่าตาม RS ประมาณนึง ออฟชั่นเซฟตี้เยอะมาก ล้นๆ
-
CX-5
หรือไม่ก็ MU-X ตัวล่าง อิๆๆ มาไงฟระ ::) ::) ::)
-
เชียร์ cx5 นะครับ จะได้เอนกประสงค์
แต่
civic ค่าบำรุงรักษา ฯ ถูกกว่า
cx3 เล็กไป 8)
อันนี้ถามแบบไม่รู้นะครับ
เคยได้ยินว่า RS Turbo ต้อง Service ทุก 5000 โลจริงหรือเปล่าครับ
แล้วถ้าอย่างนี้ค่าบำรุงรักษาจะแพงกว่าอีก 2 รุ่นป่าวครับ
-
Hrv ตังเหลือแต่งช่วงล่างหนึบๆ เปลี่ยนฟร้อนเครื่องเสียงจบ พับเบาะขนจักรยานได้
-
จากโจทย์ที่ให้มาทั้งหมดผมว่าไลส์สไตน่าจะเหมาะกับcx5นะคับ
อัตตราเร่ง0-100 80-120 ก้ถือว่าใช้ได้เลย ความกว้างขวางของตัวรถช่วงล่างเฟิร์มๆเหมือนรถเก๋ง
แถมในตัวเลือกจขกทให้มาราคามันก้ขี่ๆกันนะคับcx5เหมือนจะแพงกว่าไม่มากถ้าผ่อนก้เหมือนจะเพิ่มเงินไม่เท่าไร
ในโจทย์ผมมองว่าcx5 suvคุ้มค่าเงินที่จ่ายมากที่สุดในตัวเลือกราคาขี่กับc segกับmini crossover
Cx3กับcivicผมมองราคาที่เหมาะสมน่าจะอยู่ที่8-9แสน เกินนี้ไปcx5ดีกว่าคับ ขับไปไหนคนที่ไม่รู้เรื่องรถเยอะก้ต้องรู้แหละว่าคันใหญ่ๆcx5นี่ราคาล้านขึ้น
และเหมาะกับจขกท.มากที่สุดคับ
-
CX-5 ตอบโจทย์ในชีวิตประจำวัน แต่ติดที่ราคาสูงเกินไปหน่อย
ไม่ลองมองหา HR-V เหรอครับ ใส่จักรยานได้สบาย คนนั่งหลังก็โอเคในระดับหนึ่ง เผลอๆเบาะหลังจะนั่งดีกว่า CX-5 อีกครับ
ช่วงล่างก็ทำมาให้ขับประมาณ ท่าน จขกท. ใช้งานเลย อยากหนึบขึ้น มั่นใจขึ้น ก็หาโช๊คใหม่ใส่ ประหยัดกว่า CX-5ไปเยอะเลย
ราคาก็ฟัดกับ CX-3 สบายๆเลยครับ จุดนี้ผมมองว่า ท่าน จขกท.ต้องการใช้รถที่ตอบโจทย์ในชีวิตประจำวัน มากกว่ารถขับสนุกแน่ๆ
จึงอยากให้ท่าน จขกท. ไปลอง HR-V ดูครับ แต่ถ้ายังติดใจค่ายMZ ก็ต้อง CX-5 ละครับ
(ค่ายนี้ถ้าเขาคำนึงถึงผู้โดยสารด้วย จะทำยอดขายได้มากวก่านี้อีก หลายคนเปลี่ยนใจไปค่ายอื่น เพราะเรื่องผู้โดยสารตอนหลังนี่แหละ)
็HRVเอาไปเปลี่ยนโช๊คใหม่ที่หนืดกว่าเดิมก็ไม่เหมือนความรู้สึกที่ได้จาก CX5 หรือ CX3 ครับ ตำแหน่งห้องโดยสารของมาสด้าจะเน้นให้อยู่ระหว่างฐานล้อล้อทั้งสองไม่ใช่วางอยู่บนฐานล้อ ห้องโดยสารห้องเก็บของจะเล็กลงแต่ก็จะได้มาด้วยการรักษาสมดุลย์ที่ดีกว่าโดยไม่ต้องไปเปลี่ยนโช๊คให้กระแทกกระทั้นนั่งไม่สบายกว่าเดิม ฮอนด้าเน้นกว้างไม่สนใจช่วงล่างมาสด้าก็เน้นช่วงล่างไม่สนใจความกว้างจับตลาดกันไปคนละแบบนะ
-
เชียร์ cx5 นะครับ จะได้เอนกประสงค์
แต่
civic ค่าบำรุงรักษา ฯ ถูกกว่า
cx3 เล็กไป 8)
อันนี้ถามแบบไม่รู้นะครับ
เคยได้ยินว่า RS Turbo ต้อง Service ทุก 5000 โลจริงหรือเปล่าครับ
แล้วถ้าอย่างนี้ค่าบำรุงรักษาจะแพงกว่าอีก 2 รุ่นป่าวครับ
ของเพื่อนผมเป็นไปตามนั้นครับ
-
CX-5 ตอบโจทย์ในชีวิตประจำวัน แต่ติดที่ราคาสูงเกินไปหน่อย
ไม่ลองมองหา HR-V เหรอครับ ใส่จักรยานได้สบาย คนนั่งหลังก็โอเคในระดับหนึ่ง เผลอๆเบาะหลังจะนั่งดีกว่า CX-5 อีกครับ
ช่วงล่างก็ทำมาให้ขับประมาณ ท่าน จขกท. ใช้งานเลย อยากหนึบขึ้น มั่นใจขึ้น ก็หาโช๊คใหม่ใส่ ประหยัดกว่า CX-5ไปเยอะเลย
ราคาก็ฟัดกับ CX-3 สบายๆเลยครับ จุดนี้ผมมองว่า ท่าน จขกท.ต้องการใช้รถที่ตอบโจทย์ในชีวิตประจำวัน มากกว่ารถขับสนุกแน่ๆ
จึงอยากให้ท่าน จขกท. ไปลอง HR-V ดูครับ แต่ถ้ายังติดใจค่ายMZ ก็ต้อง CX-5 ละครับ
(ค่ายนี้ถ้าเขาคำนึงถึงผู้โดยสารด้วย จะทำยอดขายได้มากวก่านี้อีก หลายคนเปลี่ยนใจไปค่ายอื่น เพราะเรื่องผู้โดยสารตอนหลังนี่แหละ)
็HRVเอาไปเปลี่ยนโช๊คใหม่ที่หนืดกว่าเดิมก็ไม่เหมือนความรู้สึกที่ได้จาก CX5 หรือ CX3 ครับ ตำแหน่งห้องโดยสารของมาสด้าจะเน้นให้อยู่ระหว่างฐานล้อล้อทั้งสองไม่ใช่วางอยู่บนฐานล้อ ห้องโดยสารห้องเก็บของจะเล็กลงแต่ก็จะได้มาด้วยการรักษาสมดุลย์ที่ดีกว่าโดยไม่ต้องไปเปลี่ยนโช๊คให้กระแทกกระทั้นนั่งไม่สบายกว่าเดิม ฮอนด้าเน้นกว้างไม่สนใจช่วงล่างมาสด้าก็เน้นช่วงล่างไม่สนใจความกว้างจับตลาดกันไปคนละแบบนะ
ลองเปลี่ยนชุดสตรัทTEINสิครับ รับรองดีกว่าของมาสด้าเดิมๆ แน่ๆครับ 50000+- เหยียบหมดคันเร่งยังนิ่ง ผมใส่ซิตี้มาแล้วประทับใจมากครับ
ผมก็ตอบตามอรรถประโยชน์อย่างที่ จขกท ต้องการนะครับ CX-5 สำหรับ จขกท มันเกินงบไป CX-3ก็แคบไป แฟนกับแม่ ไม่อยากนั่ง
แล้ว HR-V ไม่เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีเหรอครับ วิ่ง100-120 มันก็ใช้ได้อยู่นะ รถเก่าๆ10ปี แย่กว่านี้เยอะแยะ เขาก็ขับใช้กันทั่วไป
ผมมองถึงประโยชน์การใช้งาน มากกว่าแค่การขับขี่ที่สนุกครับ จขกท.ก็ยกตัวอย่างการใช้งานมาให้แล้วครับ ใส่จักรยานไปปั่น
แล้วท่าน2kคิดว่า รถอะไรที่จะเหมาะสมกับ จขกท ละครับ ในเมื่อ CX-5 ราคาสูงไปจะผ่อนหนักขึ้น สำหรับ ท่าน จขกท. น่ะครับ?
-
เชียร์ cx5 นะครับ จะได้เอนกประสงค์
แต่
civic ค่าบำรุงรักษา ฯ ถูกกว่า
cx3 เล็กไป 8)
อันนี้ถามแบบไม่รู้นะครับ
เคยได้ยินว่า RS Turbo ต้อง Service ทุก 5000 โลจริงหรือเปล่าครับ
แล้วถ้าอย่างนี้ค่าบำรุงรักษาจะแพงกว่าอีก 2 รุ่นป่าวครับ
ตามนี้นะครับ 8)
(http://www.uppic.org/thumb-A0AE_57D8F720.jpg) (http://www.uppic.org/share-A0AE_57D8F720.html)
(http://www.uppic.org/thumb-546E_57D8F720.jpg) (http://www.uppic.org/share-546E_57D8F720.html)
-
XV หละครับ ;D ;D ;D
จริง CX 5 ก็ตอบโจทย์ละครับ^^"
กัดฟันนิดนึง
-
ผมก็มองไปที่ HRV
เพราะยังไงก็ใส่ของได้มากกว่าทุกคันที่เลือกมา CX5 CX3 Civic RS
มาลองใช้ดูก่อน ถ้าไม่โอเคร ค่อยหาช่วงล่างดีๆ ใส่
-
ดูจากตัวเลือกที่ให้มาแล้วจขกท.น่าจะชอบมาสด้าไม่มากก็น้อย
จะเลือก Cx-3 คุณแม่และแฟนก็ไม่ถูกโฉลกเพราะฉะนั้น Cx-5 โลดดด
และหากต้องการที่จะขนจักรยานด้วยแล้ว
หากจะเล่นเป็น Civic ฟิวตอนขนจักรยานเข้า-ออกรถคงไม่ต่างจากเจ้าอ๊อด
-
เชียร์ cx5 นะครับ จะได้เอนกประสงค์
แต่
civic ค่าบำรุงรักษา ฯ ถูกกว่า
cx3 เล็กไป 8)
อันนี้ถามแบบไม่รู้นะครับ
เคยได้ยินว่า RS Turbo ต้อง Service ทุก 5000 โลจริงหรือเปล่าครับ
แล้วถ้าอย่างนี้ค่าบำรุงรักษาจะแพงกว่าอีก 2 รุ่นป่าวครับ
ไม่จริงครับ ขึ้นอยู่กับการขับขี่และคุณภาพน้ำมันเครื่องที่ใช้ คอมจะเตือนเอง ของผมรอบแรก 8000 กิโล สั่งเปลี่ยนกรองอากาศเลย sa เช็คของยังตกใจเลย ราคากรอง 400บาท ถูกกว่า jazz ที่เกือบ 700 บาทซะอีก
-
ใส่สตรัทนี่เรื่องใหญ่ยิ่งกว่าเอาไปใส่พวกโช๊คที่หนืดกว่าของจากโรงงานเสียอีก คนที่ใส่สตรัทนี่ต้องเป็นประเภทที่สุดโต่งไม่สนใจการนั่งสบายแล้วจะเอาเรื่องสมรรถณะอย่างเดียว ไม่ต้องมองไกลขนาดเอาไปใส่สตรัทหรอกครับเอาแค่โช๊คที่หนืดกว่าของเดิมจากโรงงานผลกระทบที่ตามมาชัดเจนคืออายุของช่วงล่างที่สั้นลงและการเดินทางต่างจังหวัดที่จะต้องคิดหนักขึ้นกว่าเดิมแน่นอนเมื่อไหร่ก็ตามที่ตกหลุมหรือเจอทางขรุขระสิ่งแรงเลยที่คนนั่งจะถามคือรถเสียหรือเปล่าทำไมมันกระแทกหนักกว่าเดิม? แล้วตามมาด้วยคำถามที่ว่าจะเอาไปใส่ของใหม่ทำไมในเมื่อของเดิมนั่งสบายดีอยู่แล้ว? ถ้าคนขับไม่มีอำนาจเบ็ดเสร็จในรถคันนี้ ดราม่าจะให้กลับไปใส่ของเก่าจะเกิดขึ้นทุกครั้งที่คนอื่นในบ้านขึ้นมานั่งรถ
ที่ผมพูดแบบนี้จุดประสงค์คือเพื่อจะบอกว่ารถแต่ละคันมันมีความแตกต่างในตัวของมันเอง จะบอกว่ารถคันนึงการขับขี่ไม่ถูกใจแค่เอาไปใส่โช๊คใหม่สปริงใหม่ก็พอ....ไม่.....มันไม่จบง่ายแบบนั้น ระบบช่วงล่างมันมีมากกว่าแค่โช๊คกับสปริง หลายคนใส่สตรัทที่ปรับละเอียดสไลด์กระบอกมาสามสี่ยี่ห้อแล้วยังไม่ถูกใจมีเยอะไป ในทางกลับกันเครื่องมาสด้าอยากจะให้มีแรงดึงรอบสูงเหมือนเครื่องฮอนด้าแล้วจะบอกแค่ว่าทำท่อใหม่ใส่กรองเปลือยจูนECUก็เหมือนฮอนด้าแล้วก็เหมือนเป็นการสบประมาทระบบvtecของฮอนด้าเกินไป.....ไม่มันไม่ได้ง่ายแค่นั้น
ถ้าถามผมว่าจะมีทางออกยี่ห้ออื่นอีกไหมผมไม่แนะนำให้ไปมองยี่ห้อไหนรุ่นไหนอีก เงินไม่พอเก็บเงินเพิ่มครับหรือไม่ก็ต้องยอมที่จะต้องผ่อนหนักกว่าเดิมถ้าอยากได้รถที่ถูกใจจริงๆเพราะการหันไปมองรุ่นอื่นแทนคันที่ตัวเองชอบผมไม่เคยเห็นใครจบได้ตรงความต้องการของตัวเองเลย ต้องเอาไปใส่โน่นแต่งนี่วุ่นวายแล้วสุดท้ายก็ไม่เหมือนของเดิมที่มันมาจากโรงงานดูแลรักษาง่ายกว่าของแต่งที่ใส่ไปแทนเยอะ
-
Civic turbo RS. = 1,199,000
ปัจจุบัน จขกท. ใช้ Vios ปี 2012 อยู่ครับ เหตุผลที่อยากจะออกรถใหม่คือ
คุณแม่จะซื้อรถใหม่ แต่ให้ผมเป็นคนขับแทนครับ ส่วนคุณแม่จะไปใช้ Vios แทน
หากตัวนี้เป็นตัวเลือก
ต้องพาคุณแม่ไปผุดลุกผดนั่งดูด้วยครับ ว่าชอบไหม
เบาะหลังอาจจะเป็นปัญหากับเขาครับ
-
ผมเคยอยู่ในจุดนี้มาก่อนครับ ระหว่างเอารถที่อยากได้ หรือเล่นรุ่นอื่นที่ถูกกว่าแล้วค่อยแต่งให้ตรงกับที่เราต้องการ
สุดท้ายผมยอมเล่นรุ่นที่เราอยากได้ครับ เพราะมาคิดสะระตะดูแล้ว สมมติซื้อรุ่นอื่นมาแต่ง อย่างน้อยช่วงล่างต้องมี5-6หมื่น ดีไม่ดีถึงหลักแสน ไหนจะชุดเบรกอีก ผมลองมาคำนวณเล่นๆ แต่งไปแต่งมา มูลค่ารวมมันก็เกือบซื้อรถรุ่นที่เราอยากได้อยู่แล้ว
จริงๆ CX5 ถ้ากลัวผ่อนเหนื่อย ลดลงมาเล่นตัวล่างสุดก็ได้ครับ อย่างน้อยถุงลม6ใบก็เท่ากัน ระบบabs dsc อะไรพวกนี้ก็มีครบ หรือตัวที่จขกท.ว่ามา ผมเห็นมีส่วนลดอยู่ประมาณ7หมื่นได้ ลองคำนวณดูดีๆครับผม ขอให้ได้รถที่ถูกใจครับ
-
CX-5
-
ในสามตัวเลือก CX-5 เหมือนจะตอบโจทย์มากที่สุดนะครับ
-
ใส่สตรัทนี่เรื่องใหญ่ยิ่งกว่าเอาไปใส่พวกโช๊คที่หนืดกว่าของจากโรงงานเสียอีก คนที่ใส่สตรัทนี่ต้องเป็นประเภทที่สุดโต่งไม่สนใจการนั่งสบายแล้วจะเอาเรื่องสมรรถณะอย่างเดียว ไม่ต้องมองไกลขนาดเอาไปใส่สตรัทหรอกครับเอาแค่โช๊คที่หนืดกว่าของเดิมจากโรงงานผลกระทบที่ตามมาชัดเจนคืออายุของช่วงล่างที่สั้นลงและการเดินทางต่างจังหวัดที่จะต้องคิดหนักขึ้นกว่าเดิมแน่นอนเมื่อไหร่ก็ตามที่ตกหลุมหรือเจอทางขรุขระสิ่งแรงเลยที่คนนั่งจะถามคือรถเสียหรือเปล่าทำไมมันกระแทกหนักกว่าเดิม? แล้วตามมาด้วยคำถามที่ว่าจะเอาไปใส่ของใหม่ทำไมในเมื่อของเดิมนั่งสบายดีอยู่แล้ว? ถ้าคนขับไม่มีอำนาจเบ็ดเสร็จในรถคันนี้ ดราม่าจะให้กลับไปใส่ของเก่าจะเกิดขึ้นทุกครั้งที่คนอื่นในบ้านขึ้นมานั่งรถ
ที่ผมพูดแบบนี้จุดประสงค์คือเพื่อจะบอกว่ารถแต่ละคันมันมีความแตกต่างในตัวของมันเอง จะบอกว่ารถคันนึงการขับขี่ไม่ถูกใจแค่เอาไปใส่โช๊คใหม่สปริงใหม่ก็พอ....ไม่.....มันไม่จบง่ายแบบนั้น ระบบช่วงล่างมันมีมากกว่าแค่โช๊คกับสปริง หลายคนใส่สตรัทที่ปรับละเอียดสไลด์กระบอกมาสามสี่ยี่ห้อแล้วยังไม่ถูกใจมีเยอะไป ในทางกลับกันเครื่องมาสด้าอยากจะให้มีแรงดึงรอบสูงเหมือนเครื่องฮอนด้าแล้วจะบอกแค่ว่าทำท่อใหม่ใส่กรองเปลือยจูนECUก็เหมือนฮอนด้าแล้วก็เหมือนเป็นการสบประมาทระบบvtecของฮอนด้าเกินไป.....ไม่มันไม่ได้ง่ายแค่นั้น
ถ้าถามผมว่าจะมีทางออกยี่ห้ออื่นอีกไหมผมไม่แนะนำให้ไปมองยี่ห้อไหนรุ่นไหนอีก เงินไม่พอเก็บเงินเพิ่มครับหรือไม่ก็ต้องยอมที่จะต้องผ่อนหนักกว่าเดิมถ้าอยากได้รถที่ถูกใจจริงๆเพราะการหันไปมองรุ่นอื่นแทนคันที่ตัวเองชอบผมไม่เคยเห็นใครจบได้ตรงความต้องการของตัวเองเลย ต้องเอาไปใส่โน่นแต่งนี่วุ่นวายแล้วสุดท้ายก็ไม่เหมือนของเดิมที่มันมาจากโรงงานดูแลรักษาง่ายกว่าของแต่งที่ใส่ไปแทนเยอะ
+1 ครับ
เห็นด้วยกับความคิดนี้ครับ เมื่อก่อนตอนขับ mazda 3 อยากได้หนึบๆ ขึ้นไปอีก ผมก็เปลี่ยนโช๊คหลายต้น ยี่ห้อที่เค้าว่าดีก็เปลี่ยนตามเริ่มจากโช๊คแบบธรรมดาไล่ไปแบบสตรัท หมดไปหลายตังค์ครับ ยอมรับมันขับดีจริงแต่สิ่งที่ได้ควบคู่ไปด้วยคือความแข็ง มั่นใจในความสูงแต่ความเร็วต่ำนี่ปวดใจครับ แฟนบ่นประจำนั่งไม่สบายเลยครับ ถ้าเทียบกับโช๊คที่ีมาจากโรงงานเลย และต้องนึกถึงตอนที่มันพังด้วยครับ ผมตกหลุมถึงขั้นโช๊คมันคต ตอนเปลี่ยนนี้หลายบาทเลยครับ มันคนละเรื่องกับราคาศูนย์เลยครับ ตอนนี้ขับแบบเดิมๆสบายใจสุดคับ
-
ถ้า CX 5 เกินงบไปแล้วต้องการใช้รถ HRV ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ได้ความกว้าง นั่งสบาย ถึงจะไม่ได้ขับดีเท่า มาสด้า แต่ก็ไม่ได้ต่างกันมากนัก การที่จะกัดฟันเอาตัวที่ชอบแล้วเกินงบไปมากมันจะมีความสุขเฉพาะเวลาขับรถ แต่จะมีความทุขเวลาที่จ่ายค่าผ่อนรถนะครับ ขอบอกเลยว่าเหนี่อยมากครับ กว่าจะผ่อนหมดเนี่ย คิดเอารถที่เราพอไหวและมีความสุขกับมันดีกว่าครับ ถึงมันจะไม่ใช่ตัวที่ชอบที่สุดก็ตามครับ
-
แม่กับแฟนไม่ค่อยได้นั่งหลังอยู่แล้วนิครับ นานๆจะนั่งทีหรือเปล่า เพราะแม่ก็มีวีออสอยู่แล้ว
ส่วนCX-5 2.0 MC คนละบุคลิกกับCX-3 2.0ครับ CX-5ขับสนุกสู้CX-3ไม่ได้เลยจริงๆ CX-3แซ่บกว่าเยอะ ช่วงล่างก็ไว้ใจได้ เหลือๆแล้ว
ถ้าเทใจให้CX-3 ก็จัดไปครับเลือกในสิ่งที่ชอบเพราะแม่กับแฟนก็ไม่ค่อยนั่งเบาะหลังอยู่แล้ว ถ้านั่งพร้อมกันก็ให้แฟนไปอยู่เบาะหลังแทน ทนเอาหน่อย
ส่วนจักรยานไปหาแรคที่ติดไว้ท้ายรถเอาครับ ไม่ต้องใส่ในรถให้เปื้อนให้เลอะรถด้วย
-
มาสด้าสามซีดานสิ ไม่ก็ CX-5 ก่อน MC ส่วนลดเพียบ
-
CX5ตอบโจทย์คุณแน่นอนครับ
-
ใส่สตรัทนี่เรื่องใหญ่ยิ่งกว่าเอาไปใส่พวกโช๊คที่หนืดกว่าของจากโรงงานเสียอีก คนที่ใส่สตรัทนี่ต้องเป็นประเภทที่สุดโต่งไม่สนใจการนั่งสบายแล้วจะเอาเรื่องสมรรถณะอย่างเดียว ไม่ต้องมองไกลขนาดเอาไปใส่สตรัทหรอกครับเอาแค่โช๊คที่หนืดกว่าของเดิมจากโรงงานผลกระทบที่ตามมาชัดเจนคืออายุของช่วงล่างที่สั้นลงและการเดินทางต่างจังหวัดที่จะต้องคิดหนักขึ้นกว่าเดิมแน่นอนเมื่อไหร่ก็ตามที่ตกหลุมหรือเจอทางขรุขระสิ่งแรงเลยที่คนนั่งจะถามคือรถเสียหรือเปล่าทำไมมันกระแทกหนักกว่าเดิม? แล้วตามมาด้วยคำถามที่ว่าจะเอาไปใส่ของใหม่ทำไมในเมื่อของเดิมนั่งสบายดีอยู่แล้ว? ถ้าคนขับไม่มีอำนาจเบ็ดเสร็จในรถคันนี้ ดราม่าจะให้กลับไปใส่ของเก่าจะเกิดขึ้นทุกครั้งที่คนอื่นในบ้านขึ้นมานั่งรถ
ที่ผมพูดแบบนี้จุดประสงค์คือเพื่อจะบอกว่ารถแต่ละคันมันมีความแตกต่างในตัวของมันเอง จะบอกว่ารถคันนึงการขับขี่ไม่ถูกใจแค่เอาไปใส่โช๊คใหม่สปริงใหม่ก็พอ....ไม่.....มันไม่จบง่ายแบบนั้น ระบบช่วงล่างมันมีมากกว่าแค่โช๊คกับสปริง หลายคนใส่สตรัทที่ปรับละเอียดสไลด์กระบอกมาสามสี่ยี่ห้อแล้วยังไม่ถูกใจมีเยอะไป ในทางกลับกันเครื่องมาสด้าอยากจะให้มีแรงดึงรอบสูงเหมือนเครื่องฮอนด้าแล้วจะบอกแค่ว่าทำท่อใหม่ใส่กรองเปลือยจูนECUก็เหมือนฮอนด้าแล้วก็เหมือนเป็นการสบประมาทระบบvtecของฮอนด้าเกินไป.....ไม่มันไม่ได้ง่ายแค่นั้น
ถ้าถามผมว่าจะมีทางออกยี่ห้ออื่นอีกไหมผมไม่แนะนำให้ไปมองยี่ห้อไหนรุ่นไหนอีก เงินไม่พอเก็บเงินเพิ่มครับหรือไม่ก็ต้องยอมที่จะต้องผ่อนหนักกว่าเดิมถ้าอยากได้รถที่ถูกใจจริงๆเพราะการหันไปมองรุ่นอื่นแทนคันที่ตัวเองชอบผมไม่เคยเห็นใครจบได้ตรงความต้องการของตัวเองเลย ต้องเอาไปใส่โน่นแต่งนี่วุ่นวายแล้วสุดท้ายก็ไม่เหมือนของเดิมที่มันมาจากโรงงานดูแลรักษาง่ายกว่าของแต่งที่ใส่ไปแทนเยอะ
+1 ครับ
การเอาไปใส่สตรัทนี่ผมว่าก็เป็นการไม่คำนึงถึงคนนั่งพอๆ กับซื้อรถแคบนะ
รถช่วงล่างแข็งเป็นเกวียน นั่งไงก็ไม่สบายหรอก ได้แต่หนึบ แต่แข็งขึ้น ไม่ใช่หนึบแล้วยังนั่งสบายตูด
และการทำช่วงล่าง ได้ความนิ่งของรถมาก็จริง แต่เรื่อง Handling ยังไงก็ทำไม่ได้เพราะมันซับซ้อนถึงขนาดการออกแบบรถ เบรค พวงมาลัย บลาๆ
ซึ่ง HRV ไปทำได้ยังไง มันก็ไม่ได้เป็นรถที่ช่วงล่าง "แน่น หนึบ" แบบ CX5 ไปได้หรอก
-
ซื้ออรถที่ชอบแล้วผ่อนพอไหว ดีกว่าซื้อรถที่ไม่ชอบแต่ผ่อนสบายครับ เพราะคุณค่าทางใจมันต่างกันมากๆ ผมสัมผัสมากับตัวครับ
-
ลอง พิจารณา XV เป็นตัวเลือก อีกสักตัวไหมครับ กว้าง กว่า CX3 ถูกกว่า CX5 เอนกประสงค์ กว่า civic และ เกาะหนึบไม่น้อยหน้าใคร ใน 3 คันนี้
-
ต้องถามตัวเองก่อนครับว่าเป็นคนแบบไหน
- สนใจตัวเลขพวกอัตราเร่ง ความเร็วสูงสุดอะไรพวกนี้เป็นสำคัญก็ Civic ครับ
- ขนของเยอะ ขับรูดบ่อยๆ ชอบรถสูงทัศนวิสัยดี cx-5 ครับ
- ไม่สนใจตัวเลข ไม่ขนของ เน้นขับสนุก cx-3 ครับ
ลองขับให้ครบๆใช้เวลากับมันน่าจะตัดสินใจได้ไม่ยาก
-
สาวกฮอนด้าก็มา.... อิอิ
-
เคยลองทุกคันขอเทียบแบบนี้แล้วกันครับ
1.ความสะดวกสบาย ทั้งความกว้างขวาง เบาะนั่ง Civic >> CX5 >>> CX3
2.อัตราเร่ง Civic >> CX3 > CX5
3.อารมณ์ CX3 >> CX5 > Civic
4.ความคล่องตัว Civic = CX3 >> CX5
5.ช่วงล่าง CX3 = Civic > CX5 (อันนี้ผมว่าไม่ค่อยต่างนะ)
6.ความอเนกประสงค์ CX5 >> Civic >> CX3 (อันนี้วัดจากการใช้งานขนของที่ใส่ประจำ ถึง CX3 จะเป็น 5 ประตู แต่ขนาดของห้องสำภาระแทบจะใส่ของไม่ได้เลย ขนรถเข็น ต้องพับเบาะ หรือรถจักรยานต้องถอดทั้งล้อหน้าและหลัง+พับเบาะ)
7.การลุกเข้าออก CX5>>> CX3 >> Civic
ความเห็นส่วนตัว อยู่ที่ความอบของผู้ซื้อนะครับ
-
ไป cx3 เถอะครับ เป็นผมเอาที่ชอบดีกว่า คนอื่นไม่แคร์ 55 แคบหน่อยคงไม่ขาดใจหรอกมั้ง
-
ซื้อรถมาใช้งาน อย่างแรกควรคำนึงถึงการใช้งานนะครับ ดังนั้นตัวเลือกนี้ CX-5 ครับถ้าเป็นผมนะ
ถึงรถจะขับสนุกแต่ใช้งานไม่ได้ตามใจเราต้องการมันก็เป็นความทุกข์นะครับ
ที่บ้านผมใช้ Cx-3 2.0sp อยู่เป็นรถที่ผมว่าขับมันมากๆช่วงล่างนุ่มหนึบ เกียร์ฉลาด ไต่ความเร็วไว ออกตัวดีมากๆๆๆ
i-active sense ก็ใช้งานได้ดีครับผมชอบขับมากๆฟีลลิ่งมันดีครับ ถึงแม้มันจะไม่ใช่รถที่แรงที่สุดที่ผมเคยขับ
แต่......คนนั่งไม่ได้ enjoy ด้วยเหมือนเราครับดีที่คนบ้านผมตัวเล็กกันเลยนั่งหลังไม่มีปัญหาครับ ทุกคนเฉยๆเลยผ่าน
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคนนั่งของฝั่ง จขกท ไม่แฮปปี้ก็จบครับเป็นผมถึงชอบแค่ไหนแต่คนนั่งไม่แฮปปี้เลยผมคงไม่เอาครับ
อีกอย่างพื้นที่เก็บของก็น้อยจริงๆ ที่บ้านมีรถเล็กอยู่แล้ว...ถ้ามีโอกาสใช้รถใหญ่ก็ใช้รถใหญ่กว่าเพื่อความยืดหยุ่นในชีวิตประจำวันดีกว่าครับ
ผมไม่เคนลอง cx-5 แต่คิดว่ามันไม่น่าจะขับแย่นะครับ
ส่วน civic ไม่เคยลองครับตอบไม่ได้ แต่จะบอกว่า CVT เมื่อลอยตัวแล้วไม่ใช่ว่าขับไม่สนุกนะครับเพราะผมก็เคยใช้รถที่เป็น CVT อยู่
แต่ CVT ที่ผมเคยใช้ก็ออกตัวไม่สนุกเท่า cx-3 ครับ
อย่างที่หลายๆท่านว่าลองมอง XV ไหมครับ?
อย่าลืมไปทดลองขับทุกคันนะครับ ถึงสั้นๆก็ยังดีกว่าไม่เคยลองเลย
-
เคยลองแค่ civic turbo rs ไม่อืดนะกดปุ๊บแทบจะพุ่งเลยต่างกะเกียร์ธรรมดานิดเดียว
-
cx 5 รู้สึกจะได้ส่วนลดพอสมควรเลยน่ะครับทำให้ดูคุ้มค่ามากๆๆใส่ของสะดวกไม่ต้องระวังมากๆ ตัวเริ่มต้นก็ขับดีน่ะครับเพียงพอแล้ว
ถ้าไม่ติดว่ามี suv และ ppv ประจำอยู่ที่บ้านแล้วผมคงจอง cx5 ตัวเบนซินครับ ออฟชั่นความปลอดภัยมาเต็มๆ
แต่ส่วนตัวไปจอง civic rs ไว้เพียงเพราะไอ้ตัว 1.8 มันไม่ยอมให้ถุงลมมา4ใบไม่ได้ต้องการความแรงหรืออะไรทั้งสิ้นต้องการแค่ถุงลมครบๆเอง
-
โจทย์คือขนจักรยานด้วย แปลว่าเป็น SUV แน่
โจทย์ต่อมาคือขับทางไกล แถมขับเร็ว ก็น่าจะมาดู SUV ที่ "พื้นฐานการควบคุมดี"
โจทย์สุดท้ายคืองบล้านต้น
ตามนี้ก็เหลือแค่ CX-5, XV, Forester แล้วครับ
เห็นด้วยกับคุณคนข้างบนว่าดูรถให้ดูที่พื้นฐานก่อน โช้ค-สปริงมันช่วยได้บ้าง แต่มันเปลี่ยนรถเป็นคนละคันไม่ได้แน่ครับ
Fortuner ขับสี่ที่ออฟฟิศใส่ Tein ปรับไฟฟ้า มันดีขึ้นจริงๆครับ แต่ยังไงก็เปลี่ยน Fortuner ให้สู้ CX-5 ดีเซล ขับสี่เดิมๆไม่ได้
-
HR-V ผมว่าโอเคสุดล่ะนะ ประหยัดงบไม่ตึงมือมาก
ห้องโดยสารกว้างขวาง ประโยชน์ใช้สอยเพียบตามสไตล์ฮอนด้า พับเบาะได้ขนของหายห่วง
สมรรถนะถ้าไม่นับ CIVIC RS ในลิสที่คุณให้มาก็ไม่ได้กิน HR-V ง่ายๆหรอกครับ 80-120 7 วินาทีกลางๆ อัตราเร่งเหลือเฟือ
ช่วงล่างออกแนวนุ่มๆ(แต่ไม่โยนเท่ากระบะยกสูงหรือ PPV แน่นอน) มีฟิลกระด้างนิดๆ ไม่วิ่งเกิน 140 เอาอยู่สบายหายห่วงแน่นอน
คนส่วนใหญ่มองว่ามันคือ Jazz ขยายร่าง แล้วมักคิดว่าทำไมต้องจ่ายในราคา 1 ล้านบาทไปทำไมกันติดอยู่ข้อนี้แหละผมว่านะ
-
ขี่จักรยานเอาคันใหญ่ไว้ก่อนแล้วคุณจะมีความสุขมากๆ
ตัวเลือกง่ายมากตัดออกหมดเหลือ cx5 จบครับ
ถ้าคิดว่าแพงเกินไป hrv เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ต้องแลกกับช่วงล่างที่ห่วยลง แต่ขับแค่ที่ จขกท บอกก็สบายๆครับ อัตราเร่งไม่แย่ แค่ขับไม่สนุกเท่าไหร่ เน้นใช้งาน
-
cx-3 ,civic ดูวัยรุ่นดี
cx-5 ผู้ใหญ่หน่อย
เคยเห็นในห้างสรรพสินค้า มีที่จอดว่างแต่มีกรวยวางกันไว้
กระบะ เก๋ง cx-5
กระบะ และเก๋ง ขับผ่านไป เจ้าหน้าที่ให้สิทธิ์ cx-5 ได้จอด
การขับขี่เป็นเรื่องรสนิยมส่วนบุคคลแล้วแต่ชื่นชอบ ไม่มีความคิดเห็นครับ
จากที่อ่าน เข้าใจเอาเองว่า เจ้าของกระทู้ ต้องการรถอเนกประสงค์ cx-5 ได้หลายข้อที่ต้องการแต่ไม่ทั้งหมด
ขอให้ได้รถที่ถูกใจครับ
-
ส่วนตัว มองแบบนี้ครับ
ถ้ามองว่า CX-3 , CX-5 กับ Civic FC มันรถคนละแบบเลย ถ้าเอา CIVIC FC มาเป็นตัวเลือก ทำไมไม่เอา MAZDA 3 มาเป็นตัวเลือกด้วย แอบงง
แต่ถ้าเอาเงิน เป็นตัวตั้ง ส่วนตัว รอ New CX-5 ใหม่ น่าจะปีหน้าก็มาแล้ว (ตอนนี้ก็มี CR-V ใหม่ มาเหมือนกัน)
ถ้าเอาตามรูปแบบการใช้งาน ตาม จขกท. ระบุมา ผมว่า CrossOver น่าจะตอบโจทย์กว่า Sedan น่ะ
คหสต.
-
ไม่สนใจพวก PPV เหรอครับ Pajero sport เอนกประสงค์กว่า ราคาก็น่าจะสู้ไหวครับ
เห็นชอบเอาจักรยานใส่รถ
-
โจทย์ใกล้เคียงกับผม ตอนภรรยาจะเปลี่ยนรถ ครับ
สรุปผมไปเอา Jazz GK ตัว Top มาใช้ครับ
ขนจักกรยานได้ 2 คันแบบสบายๆ กว้างขวาง อเนกประสงค์
ช่วงล่าง เป็นเปลี่ยนเป็น Street Advance ของ Tein ดีกว่าเดิมมาก
คิดไม่ผิดครับ เหลือเงินไปซื้อ จักรยานอีกคัน
และ ออก Civic RS คงขนจักรยานไม่ได้
ซึ่ง CX5 ก็พอกัน เพราะ แคบ ต้องนอนรถ 2 คัน จบ ไม้ได้
ถ้าไม่มีจักรยานเข้ามาเกี่ยว ผมชอบ Civic RS ครับ