Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Severus Snape ที่ สิงหาคม 26, 2014, 13:22:35
-
ขนาด Chevy Cruze ที่มีข่าวแย่ ๆ มาตลอด 1-2 ปีที่ผ่านมายังขายได้เยอะกว่า Focus เลย แล้วโฟกัสเองก็มีให้เลือก 2 ตัวถังด้วย
อีกทั้ง โฟกัส ก็เป็นรถที่ยอดขายเยอะที่สุดในโลกมา 2-3 ปีซ้อนแล้ว ทำไมถึงมาตายในตลาดเมืองไทยได้ !?!?!
คิดว่า Minor Change แล้วจะช่วยกู้สถานการณ์ยอดขายตกต่ำได้มั้ยครับ ??
-
0
-
0
ขยายอีกที
-
หลักๆคงไม่พ้นความมั่นใจของผู้ซื้อ และบริการหลังการขาย
น่าจะเป็นรถที่ดีที่สุดของ c-segment ในบ้านเราแต่ยังไงก็สู่เจ้าตลาดไม่ได้
-
ผมว่าเพราะหน้าตามันไม่โดนใจ เรนเจอร์ ecosport ก็ยังขายดีเลย
เฟียสต้าเองก็เคยขายดี เปลี่ยนนแล้วอาจขายดีขึ้นได้ แต่คงไม่ถึง
500 คันต่อเดือนแน่นอน :-*
-
ศูนย์บริการครับ
แต่ก็ยังงงสงสัยนิดหน่อยว่าทำไม Cruze ถึงยังขายได้เยอะขนาดนี้ สงสัยอัดโปรแรงช่วงนี้
-
รถหน้าตาไม่โดนใจ ค่อนข้างเล็กเทียบกับคู่แข่ง โดยเฉพาะขนาดของห้องโดยสารอมบ้วย
ไม่มีE85 (ราคาสูงภาษีแพง)
อีกข้อที่สำคัญ การตลาดฟอร์ดห่วยเสมอต้นเสมอปลาย
ครูสถึงจะแย่ยังไงรถก็คันใหญ่ สวยกว่า ถูกจริตคนบ้านเรามากกว่าครับ
-
จขกท ลองถามตัวเองก่อนไหมว่าจะซื้อหรือเปล่า ถ้าถามผมหรือคนทั่วไปเขาคงไม่กล้าซื้อถึงแม้อ๊อพชั่นความปลอดภัยจะดีกว่าเจ้าตลาด แต่ความมั่นใจในการใช้งานรถบริการหลังการขายทำให้เชื่อมั่นถดถอย พอตอนจะขายต่อกลัวเต๊นท์ไม่กล้ารับซื้อจะปล่อยยากราคาตกมากกกว่าเจ้าตลาด เป็นผมผมซื้อเจ้าตลาดสบายใจกว่าถ้าจะเลือกฟอร์ด ก้ไม่สบายใจอยู่ดี
-
0 จริงๆนะ
-
คนซื้อฟอกัสผมว่าเป็นคนหาข้อมูลพอสมควร คิดว่าลูกค้าคงรอไมเนอร์มั๊งครับ
-
อยากรู้เหมือนกัน คนใช้คงรู้แต่คนอยากรู้ไม่ได้ใช้
-
คนทั่วไปไม่รู้เรื่องรถ 2.0 คันเล็กราคาเป็นล้าน ข้างในแคบ จอ(gps)ก็ไม่มี 1.6 เพิ่มตังค์นิด ใด้1.8 ,2.0รุ่นใหม่ๆดีกว่า สรุป มันเก่าแล้ว
-
ผมว่าปัญหาหลักคือ ผู้บริโภคไม่มีความเชื่อมั่นในศูนย์บริการครับ
ฟอร์ด ตัวรถน่ะดีแต่ศูนย์บริการยังสู้เจ้าตลาดไม่ได้เลยครับ
ยิ่งเดี๋ยวนี้ ผู้บริโภคเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้นเยอะ เข้าอากู๋เสิร์ชแป๊บเดียวก็เจอข้อมูลละ ดังนั้นอะไรที่เคยเป็นจุดด้อย ถ้ายังไม่แก้ไข ยอดขายก็อย่างที่เห็นแหละครับ
อีกจุดผมว่าฟอร์ด ไม่ว่าจะกัสหรือต้า ภายในมันแน่นๆอะ นั่งแล้วรู้สึกอีดอัด(ไม่แน่ใจว่าเป็นเฉพาะผมหรือเปล่านะครับ)
-
สมมุติว่า อยากได้ C-segment ที่ไม่ใช่ Toyota Honda Nissan อาจจะเป็นเพราะ อยากได้รถที่ไม่โหลมาก / สมรรถนะดีกว่า หรืออะไรก็แล้วแต่
Mazda 3 - สด ใหม่ สวย เด่น (กว่า Focus) การตลาดดีกว่า เติม E85 ได้ ศูนย์ดีป่าวไม่รู้ แต่อย่างน้อยก็ไม่ได้ขึ้นชื่อเรื่องเกียร์มีปัญหา
อีกอย่าง จ่ายเงิน 8 แสนกว่า ก็ได้รถเครื่อง 2.0 อัตราเร่งดีๆ ในขณะที่ Focus 8 แสนกว่า ได้เครื่อง 1.6 ที่แสนจะอืด จะอัพไปเล่น 2.0 ก็เกินงบบางคน
Cruze - อย่างน้อยก็เติม E85 ได้
Focus - อยู่ในตลาดมาแล้ว 2-3 ปี แถมจะ Minor เต็มทีแล้ว เติม E85 ไม่ได้ + ติดแก๊สก็ไม่เหมาะ (ถ้าเลือกได้ เราคงไม่อยากจ่ายค่าน้ำมันเดือนละเป็นหมื่นจริงมั้ย)
เกียร์ก็มีปัญหาบ้างไม่มีบ้าง เรื่องศูนย์ ราคาขายต่อ ไม่ต้องพูดถึง การตลาด เอาแค่ Brand Awareness สู้ Mazda ไม่ได้เลย ยิ่ง Mazda ไส่เรื่อง
SkyActiv เข้ามา คนก็ยิ่งหันมาสนใจมากขึ้น ตอนนี้ SkyActiv ก็ค่อนข้างติดหูคนบ้างแล้ว แต่ของ Ford ไม่มีอะไรแบบนี้ Ecoboost ก็ยังไม่มีใครรู้จัก ยังไม่มาด้วย
-
หน้าตาครับ แรกๆใช่มันสปอร์ต แต่ภายในแคบไปหน่อย ยอดขายช่วงที่ขายได้มันอยู่ 500-600 คัน/เดือน จนมาหลังๆ เริ่มตกเพราะคู่แข่งเริ่มออกโปรเยอะ และเริ่มมีตัวใหม่มา หลังจาก 3 และ Allnew altis มายอดมันลงไปเหลือ 200-300 คัน และจากนั้นหลังจาก Ecosport มา ยอดมันลงไปอีก
รอดูหลัง Minor ดูครับน่าจะกระเตื้องมาอยู่ 200-300 คัน เหมือนเดิม
-
C-secment ถูกดึงยอดไปเยอะพอสมควร
เริ่มเลยจาก โปรรถคันแรก ใครๆก็ออกรถตามโปรนี้กันหมด
ตามด้วยรถ B-secment อัดออพชั่นดีขึ้น น่าใช้มากขึ้น
และก็มีรถใน secment อื่นๆ ในราคาระดับเดียวกัน เพิ่มมากขึ้น
รถเก๋ง กลายเป็น รถใช้งานธรรมดา ซึ่งถ้าไม่ใช่รถบริษัท(ที่เค้าดูเรื่องหลังการขาย มากกว่าออพชั่น) คนก็กหันไปหารถที่ใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น
หรือใช้รถเล็กลง แต่ออพชั่นพอกัน แต่ประหยัดเงินกว่า
รถ C-secment เลยยอดตกกว่าใคร
พอยอดมันตก แม้แต่เจ้าตลาดยังตก ก็แข่งกันด้วยดปรสารพัดสารพัน
แล้วทีนี้ค่ายเล็ก ก็เอาอะไรสู้
ก็มีบ้างจาก โปรที่อักมาให้ รวมถึง เปิดตัวรุ่นใหม่(อย่าง 3 sky)
แต่ ค่ายที่รถเปิดตัวมานาน ออพชั่นก็เท่าเดิม เติมe85ไม่ได้ หลังการขายไม่ดี จะเอาอะไรไปสู้เค้าครับ
ผมว่า มันเป้นเรื่องธรรมดา ที่ยอดมันเลยตก
-
ส่วนตัวผมนะครับ
ผมกับเพื่อนๆ นัดสไตรก์ไม่ซื้อ ถ้าไม่เอาตัว TDCi มาขายครับ,เพราะเกิดซื้อไป แล้วมีตัว TDCi มาทีหลัง,อาจเกิดการกระอักเลือดได้ครับ
-
ราคามือสองน่าสนใจมากเลยครับ
รถอายุปีกว่า สองปี ตัวTop2.0 ราคาเหลือ5แสนปลายๆ 6แสนต้นๆ
ออฟชั่นล้น ขับดี สวย เครื่องแรง
แต่คิดไปคิดมา รถวิ่งบนถนนก็น้อยอยู่แล้ว รถที่เหลือในตลาดมือสองนี่ จะเป็นคันที่มีปัญหารึเปล่า มีปัญหาจนเจ้าของยอมขายทิ้ง อะไรแบบนี้
เอาจริงๆถ้ารถไม่ได้มีปัญหาอะไรมากมาย หรือมีแต่แก้จบ แล้วได้ส่วนลด1.5-2แสน ผมสนใจนะ คงเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆเลย
-
ผมว่าคนซื้อไม่ได้หูหนวก ตาบอด เค้ารู้อยู่ว่าคุณมีของดีอะไรบ้างแต่ซ่อนไว้ไม่เอามาขาย
สมควรครับกับยอดขายประมาณนี้
Ecosport ก็เหมือนกัน เดี๋ยว Honda ขาย Vezel เมื่อไหร่ก็เตรียมเงิบได้เลย :P
-
C-secment ถูกดึงยอดไปเยอะพอสมควร
เริ่มเลยจาก โปรรถคันแรก ใครๆก็ออกรถตามโปรนี้กันหมด
ตามด้วยรถ B-secment อัดออพชั่นดีขึ้น น่าใช้มากขึ้น
และก็มีรถใน secment อื่นๆ ในราคาระดับเดียวกัน เพิ่มมากขึ้น
รถเก๋ง กลายเป็น รถใช้งานธรรมดา ซึ่งถ้าไม่ใช่รถบริษัท(ที่เค้าดูเรื่องหลังการขาย มากกว่าออพชั่น) คนก็กหันไปหารถที่ใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น
หรือใช้รถเล็กลง แต่ออพชั่นพอกัน แต่ประหยัดเงินกว่า
รถ C-secment เลยยอดตกกว่าใคร
พอยอดมันตก แม้แต่เจ้าตลาดยังตก ก็แข่งกันด้วยดปรสารพัดสารพัน
แล้วทีนี้ค่ายเล็ก ก็เอาอะไรสู้
ก็มีบ้างจาก โปรที่อักมาให้ รวมถึง เปิดตัวรุ่นใหม่(อย่าง 3 sky)
แต่ ค่ายที่รถเปิดตัวมานาน ออพชั่นก็เท่าเดิม เติมe85ไม่ได้ หลังการขายไม่ดี จะเอาอะไรไปสู้เค้าครับ
ผมว่า มันเป้นเรื่องธรรมดา ที่ยอดมันเลยตก
คุณ delete ตอบหมดซัดทุกหมัดเต็มๆเห็นภาพกระจ่างเนตร :) :D ;D
-
คงเพราะศูนย์จริงๆแหละครับ
แต่ผมชอบยี่ห้อนี้อยู่แล้ว บวกกับมีศูนย์ดีๆไว้ใจได้ เลยจัดไปครับ :)
-
แต่ EcoSport / Ranger ขายดีมากนะครับ เลยไม่คิดว่าจะแค่เรื่องศูนย์อย่างเดียว
-
ส่วนตัวผมใช้ Focus MK3 2.0 5dr S+ อยู่ครับ ข้อมูลด้านบนที่เพื่อนสมาชิกแสดงความคิดเห็นนั้น เป็นเรื่องจริงๆ ที่เกิดขึ้น
ผมซื้อคันนี้มาเมื่อปี 2012 ตั้งแต่อ่าน First Imp. ของคุณจิมมี่ในช่วงนั้น ผมสรุปคร่าวๆนะครับ สำหรับคนที่คิดจะซื้อ Focus มาใช้ ดังนี้
1. ควรมีรถที่บ้านมากกว่า 1 คัน ไม่ควรเป็นรถหลัก เพราะบทบางทีมันจะเดี้ยง จะลำบากเอาได้ง่ายๆ อีกอย่าง Focus มันเอาใจแค่คนขับ คนนั่งไม่เวิร์ค ลูกเมียนั่งไม่สบาย
2. ควรมีความรู้เรื่องระบบพื้นฐานของรถพอสมควร สำหรับจับอาการผิดปกติของรถ ที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้
3. ควรมีคนรู้จักที่สนิทสนมพอควร ทำงานในศูนย์บริการ ยิ่งถ้าเป็นหัวหน้าช่างได้ยิ่งดี(บังเอิญหัวหน้าช่างศูนย์ที่ผมเข้าบ่อยๆ อยู่บ้านใกล้ๆกัน อันนี้เลยรอดไป เพราะแกรับทำงานนอกเวลาที่บ้านด้วย)
4. ชอบในการขับรถ และเสพสมรรถนะที่เกินราคา, ขาซิ่ง, ขามุด, ขาโหนโค้ง
5. ไม่ยึดยิดกับราคาขายต่อ ที่จะลงหน้าผามากๆๆๆๆๆ
6. แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าของตัวรถได้บ้าง เพราะอาจจะต้องใช้มัน
7. หากเกิดอุบัติเหตุ ไม่มีศูนย์ที่รับซ่อมตัวถังแบบคลอบคลุม บางจังหวัดไม่มี ต้องเข้าอู่นอก ซึ่งทำประกันชั้น 1 ซ่อมห้างไปก็ไร้ประโยชน์
8. ชอบหาความรู้ เพราะมี Manual ที่สามารถถอด-ซ่อมได้ทั้งคัน ให้ Download ฟรีๆ บาง Function ที่ถูกซ่อนไว้ก็มีอีกเพียบ แต่เป็นภาษาอังกฤษนะครับ
ส่วนตัวผมรับได้กับ 8 ข้อที่เขียนมา ถึงแม้ว่าอาจจะมีคำถามว่า "จะมีรถซักคัน มันต้องยุ่งยากขนาดนี้เลยหรือว่ะ" และปัจจุบันยัง Happy ดี มีติดเพิ่มของเล่นไปอีกนิดหน่อย ไม่ว่าจะเป็น DTE paddle box, SCT X4 turning มันขึ้นกว่าเดิมเยอะมากๆ ไม่มีผลต่อประกันด้วย
ใครคิดอยากเป็นเจ้าของก็ลองพิจารณาดูนะครับ ว่ารับได้มั้ย.....................ขอให้โชคดีครับ
-
ญาติผมซื้อ focus 2.0 มาก็เพราะตัวรถนี่เเหล่ะคับไม่ได้สนใจเรื่องศูนย์เท่าไหร่ เเต่ศูนย์ที่บริการดีก็มีนะ
-
0
ขยายอีกที
ผมแก่แล้ว ต้องขยายใหญ่ๆ สายตาไม่ค่อยดีครับ
-
ส่วนตัวผมใช้ Focus MK3 2.0 5dr S+ อยู่ครับ ข้อมูลด้านบนที่เพื่อนสมาชิกแสดงความคิดเห็นนั้น เป็นเรื่องจริงๆ ที่เกิดขึ้น
ผมซื้อคันนี้มาเมื่อปี 2012 ตั้งแต่อ่าน First Imp. ของคุณจิมมี่ในช่วงนั้น ผมสรุปคร่าวๆนะครับ สำหรับคนที่คิดจะซื้อ Focus มาใช้ ดังนี้
1. ควรมีรถที่บ้านมากกว่า 1 คัน ไม่ควรเป็นรถหลัก เพราะบทบางทีมันจะเดี้ยง จะลำบากเอาได้ง่ายๆ อีกอย่าง Focus มันเอาใจแค่คนขับ คนนั่งไม่เวิร์ค ลูกเมียนั่งไม่สบาย
2. ควรมีความรู้เรื่องระบบพื้นฐานของรถพอสมควร สำหรับจับอาการผิดปกติของรถ ที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้
3. ควรมีคนรู้จักที่สนิทสนมพอควร ทำงานในศูนย์บริการ ยิ่งถ้าเป็นหัวหน้าช่างได้ยิ่งดี(บังเอิญหัวหน้าช่างศูนย์ที่ผมเข้าบ่อยๆ อยู่บ้านใกล้ๆกัน อันนี้เลยรอดไป เพราะแกรับทำงานนอกเวลาที่บ้านด้วย)
4. ชอบในการขับรถ และเสพสมรรถนะที่เกินราคา, ขาซิ่ง, ขามุด, ขาโหนโค้ง
5. ไม่ยึดยิดกับราคาขายต่อ ที่จะลงหน้าผามากๆๆๆๆๆ
6. แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าของตัวรถได้บ้าง เพราะอาจจะต้องใช้มัน
7. หากเกิดอุบัติเหตุ ไม่มีศูนย์ที่รับซ่อมตัวถังแบบคลอบคลุม บางจังหวัดไม่มี ต้องเข้าอู่นอก ซึ่งทำประกันชั้น 1 ซ่อมห้างไปก็ไร้ประโยชน์
8. ชอบหาความรู้ เพราะมี Manual ที่สามารถถอด-ซ่อมได้ทั้งคัน ให้ Download ฟรีๆ บาง Function ที่ถูกซ่อนไว้ก็มีอีกเพียบ แต่เป็นภาษาอังกฤษนะครับ
ส่วนตัวผมรับได้กับ 8 ข้อที่เขียนมา ถึงแม้ว่าอาจจะมีคำถามว่า "จะมีรถซักคัน มันต้องยุ่งยากขนาดนี้เลยหรือว่ะ" และปัจจุบันยัง Happy ดี มีติดเพิ่มของเล่นไปอีกนิดหน่อย ไม่ว่าจะเป็น DTE paddle box, SCT X4 turning มันขึ้นกว่าเดิมเยอะมากๆ ไม่มีผลต่อประกันด้วย
ใครคิดอยากเป็นเจ้าของก็ลองพิจารณาดูนะครับ ว่ารับได้มั้ย.....................ขอให้โชคดีครับ
เห็นด้วยครับ ส่วนตัวใช้ fiesta 4dr ตอนนี้ก็จะครบปี ยังปกติดีอยู่ก็ยังคงอุ่นใจ เคยถูกชนท้ายครั้งนึง ซ่อมอู่กลางที่ไว้ใจได้ 4 วันรับรถส่วนตัวก็ิok ในระดับนึง เพื่อนพี่น้องรอบตัวก็ใช้รุ่นเดียวกันนี้ คันนึง 3ปี คันนึง 2 ปีกว่า ยังไม่เคยพบเจอปัญหาอะไร ส่วนตัวรู้สึก happy กับรถคันนี้มากๆครับ คิดไม่ผิดหากว่าตอนนั้นทำตามที่ครอบครัวต้องการคือให้ซื้อยี่ห้อเจ้าตลาด ป่านนี้คงนั่งเสียดายเอามากๆ เพราะส่วนตัวชอบรถที่ขับดีให้ความปลอดภัยเราได้สูง เพราะถือคติว่า "ศูนย์บริการไม่ได้เข้าทุกวัน"
-
ผมเองเคยคิดจะซื้อรถรุ่นนี้หลายครั้ง แต่
1 กลัวเกียร์เทพมีปัญหา
2 เมื่อเปรียบราคารถใหม่กับมือสองแล้ว มือสองน่าสนใจมากกกกก แต่ก็ไม่กล้าซื้อเพราะกลัวเจ้าของเก่าขายเพราะเกียร์เทพมีปัญหา
สรุปสำหรับผมเกียร์เทพน่าจะมีส่วนเป็นปัญหาสำหรับยอดขายของโฟกัสครับ
-
ผมว่าปัญหาส่วนใหญ่อยู่ที่ศูนย์แหล่ะครับ..
ก่อนผมจะซื้อรถฟอร์ด ผมศึกษาข้อมูลพอสมควร..
อ่านหลายๆเว็บ ปัญหาส่วนใหญ่อยู่ที่บริการหลังการขายของศูนย์ทั้งนั้น
ทั้งที่ตัวรถก็ถือว่าขับดีมากๆ อยู่ต้นๆของตลาดแทบทุกเซกเมนต์
แต่พอดีผมเจอศูนย์ที่ผมประทับใจแล้ว ตอนนี้ตีสนิทกับช่างแล้วยิ่งคุยง่าย.. ฮ่าๆๆ ;D ;D
-
อย่างแรกเลย หน้าตารูปร่าง ดูเล็ก ไม่เท่าคู่แข่งที่เหลือ หน้าตาไม่ได้สวยมากโดนใจ
สองคือ0บริการ
-
ปัญหาแรกคือ ศูนย์ ครับ ปัญหาที่สองคือ ดวง ปัญหาทีสาม การรับได้ในตัวรถของแต่ละคน
เพราะบางคนใช้มันแล้วแฮปปี้กับมันซึ่งบางทีมันซ่อมจุกจิกแต่เขาก็เลือกที่จะอยู่กับมันเพราะเขาเน้นข้อดีที่จะได้กับเจ้าโฟกัสนี้สำหรับผมถ้ามีรถเก่า1คันผมกล้าออกโฟกัสนะครับ
เพราะสิ่งที่ผมต้องการแล้วเจ้าอื่นให้ไม่ได้มันมีค่อนข้างจะเยอะสำหรับผมนะ
บางคนดวงดีซื้อมาไม่เป็นอะไรบางคนดวงไม่ดีเจ้งตั้งแต่ออกมา
ปล.ข้อดีของมันจริงๆเลยคือ มันคือผู้บุกเบิกครับฟอร์ดเป็นเจ้าแรกๆที่จะยัดออฟชั่นออกมาขายจนทำให้เจ้าอื่นหรือเจ้าตลาดแอบเสียวกันบ้าง อย่าง เฟียสต้าและโฟกัสครับ
-
ผมว่าเรื่องศูนย์ไม่น่าจะใช่ประเด็นหลักนะครับเพราะเฟียสต้า เรนเจอร์ Eco-sport ก็ยังขายได้ไม่ถึงกับน่าเกลียด
ส่วนตัวแล้วถ้าหากผมจะซื้อโฟกัสจริงๆหล่ะก็ ผมรอ Ecoboots ครับและคาดว่าโดนเฟียสต้าอีโค่บูสต์แย่งยอดโฟกัสเองไปบางส่วน
-
FORD น่าจะเอารถขับมันๆแรงๆมาลงสักรุ่น เพื่อแบรนด์แข็งแกร่งจะได้ดึงลูกค้ากลุ่มวัยรุ่นกลุ่มขาซิ่ง รถพวกนี้จะดึงลูกค้ากลุ่มอื่นมาเอง ถ้าเห็นสมรรถนะของมัน
ST อะไรก็ได้ focus fiesta มาประกอบบ้านเราส่งขายในภูมิภาคแถบบ้านเราได้ด้วย
-
เรื่อง 0 อีกเสียงครับ หลายคนได้ครอบครองยี่ห้อนี้ส่วนใหญ่จะเสียศูนย์เพราะคุณภาพการประกอบและอะไหล่ต่างๆที่แย่เกินไปกับระยะเวลาในการใช้งานที่ควรจะเป็นแถมด้วยความสามารถในการวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้นแบบสุขเอาเผากิน คิดว่าตนเป็นช่างพูดอะไรก็ไม่ผิดจนทำให้ผู้ใช้รถงงกับคำตอบไปไม่น้อย นี่แหละครับ ความจริงก็เห็นความตั้งใจในการแก้ไขปัญหาของฟอร์ดไทยอยู่เนืองๆ แต่คงต้องวัดกันที่ระยะเวลาว่าอนาคตจะเป็นอย่างไรจะเสมอต้นเสมอปลายหรือเปล่าหรือจะโกยกำไรอย่างเดียว
-
ส่วนตัวผมใช้ Focus MK3 2.0 5dr S+ อยู่ครับ ข้อมูลด้านบนที่เพื่อนสมาชิกแสดงความคิดเห็นนั้น เป็นเรื่องจริงๆ ที่เกิดขึ้น
ผมซื้อคันนี้มาเมื่อปี 2012 ตั้งแต่อ่าน First Imp. ของคุณจิมมี่ในช่วงนั้น ผมสรุปคร่าวๆนะครับ สำหรับคนที่คิดจะซื้อ Focus มาใช้ ดังนี้
1. ควรมีรถที่บ้านมากกว่า 1 คัน ไม่ควรเป็นรถหลัก เพราะบทบางทีมันจะเดี้ยง จะลำบากเอาได้ง่ายๆ อีกอย่าง Focus มันเอาใจแค่คนขับ คนนั่งไม่เวิร์ค ลูกเมียนั่งไม่สบาย
2. ควรมีความรู้เรื่องระบบพื้นฐานของรถพอสมควร สำหรับจับอาการผิดปกติของรถ ที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้
3. ควรมีคนรู้จักที่สนิทสนมพอควร ทำงานในศูนย์บริการ ยิ่งถ้าเป็นหัวหน้าช่างได้ยิ่งดี(บังเอิญหัวหน้าช่างศูนย์ที่ผมเข้าบ่อยๆ อยู่บ้านใกล้ๆกัน อันนี้เลยรอดไป เพราะแกรับทำงานนอกเวลาที่บ้านด้วย)
4. ชอบในการขับรถ และเสพสมรรถนะที่เกินราคา, ขาซิ่ง, ขามุด, ขาโหนโค้ง
5. ไม่ยึดยิดกับราคาขายต่อ ที่จะลงหน้าผามากๆๆๆๆๆ
6. แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าของตัวรถได้บ้าง เพราะอาจจะต้องใช้มัน
7. หากเกิดอุบัติเหตุ ไม่มีศูนย์ที่รับซ่อมตัวถังแบบคลอบคลุม บางจังหวัดไม่มี ต้องเข้าอู่นอก ซึ่งทำประกันชั้น 1 ซ่อมห้างไปก็ไร้ประโยชน์
8. ชอบหาความรู้ เพราะมี Manual ที่สามารถถอด-ซ่อมได้ทั้งคัน ให้ Download ฟรีๆ บาง Function ที่ถูกซ่อนไว้ก็มีอีกเพียบ แต่เป็นภาษาอังกฤษนะครับ
ส่วนตัวผมรับได้กับ 8 ข้อที่เขียนมา ถึงแม้ว่าอาจจะมีคำถามว่า "จะมีรถซักคัน มันต้องยุ่งยากขนาดนี้เลยหรือว่ะ" และปัจจุบันยัง Happy ดี มีติดเพิ่มของเล่นไปอีกนิดหน่อย ไม่ว่าจะเป็น DTE paddle box, SCT X4 turning มันขึ้นกว่าเดิมเยอะมากๆ ไม่มีผลต่อประกันด้วย
ใครคิดอยากเป็นเจ้าของก็ลองพิจารณาดูนะครับ ว่ารับได้มั้ย.....................ขอให้โชคดีครับ
ใช้รุ่นเดียวกันมาตอนนี่ก็เกือบสองปีวิ่งไปเกินครึ่งแสนนิดหน่อย เห็นด้วยเกือบทุกข้อครับโดยเฉพาะเริ่องที่จะใช้เป็นรถคันเดียวของครอบครัวอาจต้องคิดดีๆหน่อย เมื่อตอนเย็นก็เพิ่งวิ่งแบบตะกุกตะกักลุยฝนเอารถไปทิ้งไว้ที่ศูนย์ พรุ่งนี้ก็เลยจะเป็นอีกครั้งในรอบไม่กี่เดือนที่ต้องให้แฟนขับ Fiesta ไปส่งที่ออฟฟิศ เจ้าตัวเล็กนี่ไว้ใจได้มากกว่า Focus อีก คงเพราะระบบไฟน้อยกว่า
และมาขอร่วมขยายเลข "0" ด้วยอีกคนอันเป็นสาเหตุว่าทำไมมันขายได้ไม่เยอะ ส่วนที่ยังใช้มันอยู่ก็เพราะความสุขจากข้อ "4" แหละครับโดยเฉพาะตอนขับยาวๆต่างจังหวัด
-
ที่บ้านผมก็ใช้หลายยี่ห้อนะครับ ผมว่า 0 ฟอร์ดมันก็ไม่ได้เลวร้ายเท่า Chevy หรอก แต่คนไทยเชื่อว่ามันเป็น 0 บริการ ผมว่าปัญหาอยู่ที่การตลาดซะมากกว่าที่ไม่สามารถแก้ความคิดคนไทยเกี่ยวกับเรื่อง 0 บริการได้
ลองใจป้ำจัดโปรแข่งกับครูซ ลดสักแสนกว่า + ผ่อน 0% + แถมประกัน 6 ปี ผมว่างานนี้ครูซก็เครียดเหมือนกัน โฟกัสคงดึงยอดไปเยอะพอสมควร
-
ถ้าจะบอกว่า 0กับปัญหาของรถ ถ้าอย่างงั้น Cruze คงทำตัวเลขยอดขายได้แย่กว่า
ผมว่าอาจจะมาจากภายนอกและภายใน ภายนอกดูเหมือนรถBsegment ภายในก็แคบ
คนไทยส่วนใหญ่คงจะไม่ชอบตรงจุดนี้ครับ อาจจะมองว่ามันไม่สมราคา ราคาประมาณนี้ต้องนั่งสบาย และภายนอกยาวพอประมาณ
คหสต.ล้วนๆ
-
ข้างในมันแคบมากก มันไม่ใช่สไตล์คนไทย ที่ชอบกว้างสะดวกไว้ก่อน ส่วนการขับลองลงมา
-
แล้วในกรณีนี้ ถ้าเป็น แฝดพี่แฝดน้องกระบะละครับ Ranger ขายได้เยอะกว่า BT50Pro 2เท่ากว่า ทั้งทีศูนย์บริการ มาสด้าฝากผีฝากไข้ได้กว่า
ทั้งทีตอนนี้ BT-50 ก็เพิ่มถุงลมทุกรุ่นแล้ว แต่ก็ยังไม่ช่วย
-
ข้อให้ติมันเยอะเกินไปนะ นอกจากไม่มั่นใจว่าจะใช้ได้ยาว รูปทรงก็ไม่ถึงกับใช่ ภายในเบาะหลังก็สอบไม่ผ่านค่อนข้างแคบ แรงจูงใจแค่ว่าสมรรถณะมันไม่พอหรอก
-
โปรไม่แรง รถไม่ปรับโฉมซักที แถม0ห่วย เกียร์มีปัญหา
คงเป็นเพราะการตลาดไม่ค่อยดี โปรโมชั่นน้อย แถมคู่แข่งตอนนี้อย่าง 3 กับ altis ก็มีตีเละๆๆๆ อีก เลยขายไม่ได้ ซื้อ3ดีกว่า จบ
-
ภายในแคบเกินไปในระดับ C-segment
ขนาดผมใช้โฟกัสตัวที่แล้ว มานั่งตัวนี้ยังไม่ชอบเลย คับแคบ อึดอัดที่สุด
ศูนย์บริการ หาที่ไว้ใจได้ไม่ค่อยเจอ ถ้าเจอแล้วฝากบอกต่อด้วยนะครับ ศูนย์ไหนที่แก้ปัญหาแล้วจบ
หน้าตาภายนอก กระจังหน้าหายนะมากๆ เมื่อไรจะไมเนอร์เช้นจ์ซะที ถ้าไมเนอร์อาจขายได้ดีกว่านี้ แต่คงระดับ 300-500 คัน ไม่ตกไปเดือนละร้อยคันแบบนี้หรอก
-
เคยอยู่ในตัวเลือกเหมือนกันครับ แต่มาตายตรงภายในเนี่ยแหละ
แล้วแต่คนด้วยว่าจะขับรถกันขนาดไหน น้อยคนนักที่จะใช้สมรรถนะที่ซ่อนอยู่ใน focus gen นี้
เรื่องศูนย์ผมว่าถ้าไม่ใช่ Txxx, Hxxxx หรือ Ixxxx นี่ก้อมีแย่ ๆ พอ ๆ กัน
แต่แอบรอ MC อยู่เหมือนกัน ;D
-
ผมเองเคยคิดจะซื้อรถรุ่นนี้หลายครั้ง แต่
1 กลัวเกียร์เทพมีปัญหา
2 เมื่อเปรียบราคารถใหม่กับมือสองแล้ว มือสองน่าสนใจมากกกกก แต่ก็ไม่กล้าซื้อเพราะกลัวเจ้าของเก่าขายเพราะเกียร์เทพมีปัญหา
สรุปสำหรับผมเกียร์เทพน่าจะมีส่วนเป็นปัญหาสำหรับยอดขายของโฟกัสครับ
ผมใช้ mkIII Titanium+ ครับ
ขอเรียกเกียร์นี้ว่า เกียร์เปรต ครับ
ห่วยแตก มันแย่มากๆเลยนะ อาจเป็นเพราะคันผมเพิ่งเปลี่ยนชุดครัชซีลเกียร์ แล้วมันยังไม่หาย จะหาเวลาไปทำใหม่อีกครั้ง
สมรรถนะอื่นๆดีหมด
หากคุณกลัวแค่เรื่องเกียร์ ก็รอ EcoBoost เลยครับ เพราะเขาไม่ใช้ PowerShift แล้วนะ ถ้าเข้าใจไม่ผิด
-
ผมเองเคยคิดจะซื้อรถรุ่นนี้หลายครั้ง แต่
1 กลัวเกียร์เทพมีปัญหา
2 เมื่อเปรียบราคารถใหม่กับมือสองแล้ว มือสองน่าสนใจมากกกกก แต่ก็ไม่กล้าซื้อเพราะกลัวเจ้าของเก่าขายเพราะเกียร์เทพมีปัญหา
สรุปสำหรับผมเกียร์เทพน่าจะมีส่วนเป็นปัญหาสำหรับยอดขายของโฟกัสครับ
ผมใช้ mkIII Titanium+ ครับ
ขอเรียกเกียร์นี้ว่า เกียร์เปรต ครับ
ห่วยแตก มันแย่มากๆเลยนะ อาจเป็นเพราะคันผมเพิ่งเปลี่ยนชุดครัชซีลเกียร์ แล้วมันยังไม่หาย จะหาเวลาไปทำใหม่อีกครั้ง
สมรรถนะอื่นๆดีหมด
หากคุณกลัวแค่เรื่องเกียร์ ก็รอ EcoBoost เลยครับ เพราะเขาไม่ใช้ PowerShift แล้วนะ ถ้าเข้าใจไม่ผิด
เพิ่งได้ยินครั้งแรกนี่แหละครับ ว่าไม่ใช้ เพาเวอรร์ชิฟแล้ว จริงเหรอครับ
-
โปรไม่แรง รถไม่ปรับโฉมซักที แถม0ห่วย เกียร์มีปัญหา
คงเป็นเพราะการตลาดไม่ค่อยดี โปรโมชั่นน้อย แถมคู่แข่งตอนนี้อย่าง 3 กับ altis ก็มีตีเละๆๆๆ อีก เลยขายไม่ได้ ซื้อ3ดีกว่า จบ
โปรไม่แรงนี่ไม่ใช่แล้วครับ
เดือนสองเดือนที่ผ่านมา Focus 2.0
ลด150,000-250,000 เลยครับ
(ช่วงFord Day- Focus Day นี่ลดเยอะ)
ก่อนหน้านี้ก็มี ดอกเบี้ย 0% 48เดือน อีกครับ
-
จริงๆส่วนลดนั้นศูนย์เดียวนะครับ ปัจจุบันมีโปร 0% 48เดือน กับส่วนลด + บำรุงรักษา แต่ฟอร์ดไม่ประชาสัมพันธ์เอง คนไม่ได้เล่นเน็ตใครจะไปรู้ว่ามีโปรแบบนี้
-
ผมเห็นด้วยกับคุณ HYDE-- ครับ ตรงแผงเลยในความคิดของผมนะ
-
ผมว่าโดยรวมๆ แล้ว มันไม่มีอะไรเด่นมาก เมื่อเทียบกับคู่แข่ง แล้วยังมามีปัญหาเกียร์อีก คนก็กลัวกันครับ
-
(แทรกบางประเด็น)
เคยขับตัวท็อปตอนกลางคืน ผมว่าไฟปุ่มกดมันเยอะไป ไม่รู้ปุ่มอะไรต่ออะไร ละลานตาไปหมด เหมือนอยู่ในยานอะไรซักอย่าง ตอนแรกก็รู้สึกเออหว่ะหรูดี แต่บางทีขับนานๆแสงไฟจากปุ่มเหล่านั้น มันก็รบกวนทัศนวิสัยอ่ะครับ
-
มันดีเกินไป
-
ผมเคยขับใช้งาน 3 สัปดาห์(ไม่มีอาการ งอแงใดๆๆครับ)
ต้องขอบอกว่าเป็นรถที่ขับดีมากครับ การทรงตัวดีกว่ารถญี่ปุ่นมากครับ
การเกาะถนน แน่นๆๆ ประทับใจครับ
ประตูหนักดีครับ ชอบๆๆ
แต่ภายในแคบทำให้รู้สึกอึดอัด ที่นั่งด้านหลังแคบมาก โชคดีที่ผมเป็นคนขับ555
สำหรับผมๆว่าลำพังตัวรถมันดีมากนะครับ อยู่แถวหน้าๆๆในตลาดเลยครับ
ส่วนพวก0บริการ ผมไม่เคยใช้บริการครับ ขอไม่ออกความเห็น
ปล.มีคนแถวบ้านเอา โฟกัส โฉมที่แล้วรุ่น4ประตู สีเทา
มาจอดแปะป้ายขาย หน้าบ้านตัวเองที่ติดถนนใหญ่6เลน
ผมขับผ่านเห็นทุกวัน เชื่อมั้ยครับว่า ผ่านมา 3 ปีกว่าแล้ว ยังจอดขายอยู่ที่เดิม เหมือนเดิมทุกวัน :'( :'(
-
ผมเองเคยคิดจะซื้อรถรุ่นนี้หลายครั้ง แต่
1 กลัวเกียร์เทพมีปัญหา
2 เมื่อเปรียบราคารถใหม่กับมือสองแล้ว มือสองน่าสนใจมากกกกก แต่ก็ไม่กล้าซื้อเพราะกลัวเจ้าของเก่าขายเพราะเกียร์เทพมีปัญหา
สรุปสำหรับผมเกียร์เทพน่าจะมีส่วนเป็นปัญหาสำหรับยอดขายของโฟกัสครับ
ผมใช้ mkIII Titanium+ ครับ
ขอเรียกเกียร์นี้ว่า เกียร์เปรต ครับ
ห่วยแตก มันแย่มากๆเลยนะ อาจเป็นเพราะคันผมเพิ่งเปลี่ยนชุดครัชซีลเกียร์ แล้วมันยังไม่หาย จะหาเวลาไปทำใหม่อีกครั้ง
สมรรถนะอื่นๆดีหมด
หากคุณกลัวแค่เรื่องเกียร์ ก็รอ EcoBoost เลยครับ เพราะเขาไม่ใช้ PowerShift แล้วนะ ถ้าเข้าใจไม่ผิด
เพิ่งได้ยินครั้งแรกนี่แหละครับ ว่าไม่ใช้ เพาเวอรร์ชิฟแล้ว จริงเหรอครับ
จากที่เคยอ่านใน Ford Focus Club มีหลายท่านตั้งข้อสังเกตุไว้ครับ
เพราะตัว EcoBoost ณ ปัจจุบันที่ใช้ในอเมริการ และยุโรป รวมถึงออสเตรเลียเอง จับกับเกียร์ธรรมดาครับ ซึ่งเมื่อเป็น PowerShift รถยังเป็นเครื่อง 2.0 Di Ti-VCT
ส่วนตัว ผมไม่เคยรู้สึกชอบเกียร์นี้ อาจเป็นเพราะการใช้งานเมืองไทย ไม่รู้ว่าทาง Ford เองได้มาทดลองใช้ มาทดลองขับในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพ ซึ่งรถติดมหาปะลัย หรือปล่าว หรือเพียงแค่ทดสอบแถวโรงงาน ซึ่งอย่างน้อยรถก็วิ่งได้เรื่อยๆ ไม่ใช่ไหลๆหยุดๆ หรืออย่างเวลาขึ้นห้าง มันทุกข์ใจเหลือเกินครับ 555