Headlight Magazine : community
General => User's Voice => ข้อความที่เริ่มโดย: sakdituch5 ที่ เมษายน 23, 2012, 19:52:07
-
รถที่จะรีวิวนี้นะครับ คือ Cefiro A31
ก่อนอื่นต้องขอท้าวประวัติความเป็นมาก่อนนะครับ
นิสสัน เซฟิโร่ (Nissan Cefiro) เป็นรถยนต์นั่งขนาดกลางที่ถูกผลิตโดย นิสสัน มีคุณลักษณะและจุดประสงค์คล้ายคลึง โตโยต้า คัมรี่, ฮอนด้า แอคคอร์ด และ มิตซูบิชิ กาแลนต์ มีการผลิตระหว่าง พ.ศ. 2531-2546 เป็นเวลา 15 ปี เดิมทีนั้น เซฟิโร่ถูกออกแบบมาให้เป็นรถยนต์นั่งสำหรับกลุ่มคนทำงานในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น และไม่เน้นการส่งออก แต่กลับได้รับความนิยมจากต่างประเทศมากกว่าในประเทศญี่ปุ่น เซฟิโร่มีวิวัฒนาการตามช่วงเวลาได้ 3 Generation (3 โฉม) ก่อนที่นิสสันจะเปลี่ยนชื่อตระกูลเป็น เทียนา (Teana) ซึ่งยังมีขายอยู่จนถึงในปัจจุบัน
ซึ่งรถของผมนั้นเป็น Generation 1 กำเนิดขึ้นตั้งแต่พ.ศ. 2531-2539
นิสสัน เซฟิโร่ โฉมที่ 1
เซฟิโร่โฉมที่ 1 หรือ A31 ซีรีส์ นั้น ขายในญี่ปุ่นในช่วง พ.ศ. 2531-2537 แต่ในประเทศไทย เซฟิโร่โฉมนี้ขายระหว่าง พ.ศ. 2533-2539 โดยการขายล่าช้ากว่าที่ประเทศญี่ปุ่น มีจุดเด่นตรงที่การนำเทคโนโลยีใหม่ๆ (ในสมัยนั้น)มาลงในรถ เช่น ระบบการเปิดไฟหน้า และควบคุมแสงหน้าปัดอัตโนมัติ โดยมีตัวรับแสงคอยจับปริมาณแสง และส่งข้อมูลไปที่ระบบอัตโนมัติ ซึ่งเมื่อมืดลง ไฟจะสว่างขึ้นโดยอัตโนมัติ เป็นต้น
นอกจากนี้เซฟิโร่โฉมนี้ยังเป็นรถญี่ปุ่นรุ่นแรกที่มีการใช้เกียร์ระบบอัตโนมัติ 5 สปีด (ในปัจจุบัน รถญี่ปุ่นบางรุ่น ยังใช้เกียร์อัตโนมัติแบบ 4 สปีดอยู่ ไม่ใช่ 5 สปีด) และนอกจากนี้ยังได้ออกแบบผสมผสานความเป็นรถสปอร์ตเข้าไปด้วย ห้องโดยสารจึงมีขนาดเล็ก
หลังจากที่ยกเลิกการผลิตไปแล้วนั้น A31 ยังคงได้รับความนิยมมากมาย รวมทั้งในประเทศไทยด้วย เนื่องมาจากเป็นรถขับหลังที่มีรูปทรงสปอร์ต ทันสมัยที่สุดรุ่นหนึ่ง และที่สำคัญคือ มีราคาที่ถูกลงมากเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน ซึ่งรถรุ่นนี้สามารถเทียบกับรถยุโรปหลายๆ รุ่นได้สบายๆ
นอกจากนี้กลุ่มวัยรุ่นและค่ายรถแข่งต่างๆ ที่นิยมรถรุ่นนี้เพราะว่ามันเป็นรถขับเคลื่อนล้อหลัง ซึ่งสามารถนำมาใช้สำหรับการแข่งขันยอดนิยมอย่าง Drift ได้ เนื่องจากรถขับเคลื่อนล้อหลังรุ่นอื่นๆ จะเป็นรถที่มีราคาแพงหลายเท่าตัว Cefiro A31 จึงเป็นตัวเลือกแรกๆ สำหรับกีฬาชนิดนี้
นอกจากการแข่งดริฟท์แล้ว ยังนิยมใช้ในการแข่งขัน Drag ด้วย เนื่องจาก A31 สามารถวางเครื่อง 6 สูบแถวเรียงหรือเครื่องแบบ V8 ได้อย่างสบายๆ
ที่มาจาก wiki
-
รายระเอียดข้อมูลทางเทคนิคบางส่วน
RB 20
RB 20 E RB 20 DE
แบบ 6 สูบ OHC 12 V. แบบ 6 สูบ DOHC 24 V.
ขนาด 1998 ขนาด 1998
ความกว้าง x ช่วงชัก 78 x 69.7 ความกว้าง x ช่วงชัก 78 x 69.7
แรงอัด 9.5:1 แรงอัด 9.5:1
แรงม้า 125/5600 แรงม้า 155/6400
แรงบิด 17.5/4000 แรงบิด 18.8/5200
เฟืองท้าย 4.363 เฟืองท้าย 3.916 (Auto)
ระบบกันสะเทือนหน้า แมคเฟอร์สันสตรัท ปีกนก
ระบบกันสะเทือนหลัง มัลติลิงค์ เพลาลอย
ความยาวตัวของรถ (ม.ม) 4690
ความกว้างของตัวรถ (ม.ม) 1695
ความสูงของตัวรถ (ม.ม) 1375
ความสูงใต้ท้องรถต่ำสุด (ม.ม) 150
ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง (ลิตร) 65
น้ำหนักรถโดยประมาณ (ก.ก) 1290 1320
ความเร็วสูงสุด (ก.ม/ช.ม +5-5) 175 185
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (วินาที) 13.2 12.4
อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย (ก.ม/ล.) 6.0-12.5 5.0-11.
(http://upic.me/i/wq/2iin1.jpg) (http://upic.me/show/34942340)
ของผมเป็นรุ่น 12v นะครับ
-
ส่วนเครื่องปัจจุบันของผมมีรายละเอียดดังนี้ครับ
RB 20 DET (ฝาบรอนซ์ มี โบวอ็อฟวาล์ว)
แบบ 6 สูบ DOHC 24 V.
ขนาด 1998
ความกว้าง x ช่วงชัก 78 x 69.7
แรงอัด 9.0:1
แรงม้า 215/6400
แรงบิด 27/3200
เฟืองท้าย 3.916 (Auto)
(http://upic.me/i/gu/engin.jpg) (http://upic.me/show/34942802)
อันนี้รูปเครื่องครับ
ขอบคุณที่มาจาก http://www.9yakyai.com/rb-engine.html (http://www.9yakyai.com/rb-engine.html)
(http://upic.me/i/u9/y9ta8.jpg) (http://upic.me/show/34942945)
ส่วนรูปนี้คือเครื่องที่ถ่ายจากรถผม
-
ทีนี้ก็จะมาถึงประวัติอุปกรณ์ต่างๆของรถคันนี้กันบ้างครับ
ก่อนอื่นต้องท้าวความเป็นมาก่อนครับว่าผมได้เจ้า cefiro A31 ตัวนี้มาได้อย่างไร
เริ่มจากรถคันนี้เป็นรถที่พ่อซื้อต่อมาจากเพื่อนที่ทำงานอีกทีตอนนั้นเป็นช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ ปี2540
ซึ่งตอนนั้น รถคันนี้ก็มีอายุได้2ปีแล้ว ด้วยความอยากช่วยเพื่อน พ่อเลยซื้อดาวน์มาผ่อนต่อ เป็นระยะเวลา 24เดือน จึงหมดจากไฟแนนท์
หลังจากนั้น รถคันนี้ก็ได้เป็นรถของคุณแม่ ใช้รับส่งผมตอนเด็กจนกระทั่งมัธยม เมื่อผมเข้ามัธยม ก็โตพอที่จะเดินทางไปกลับเองได้จึงไม่ความจำเป็นต้องไปรับส่ง รถคันนี้ก็เลยถูกจอดไว้เฉยๆซะเป็นส่วนใหญ่ ไปห้างสรรพสินค้าบ้าง ซึ่งพอผมพอที่ขับรถได้ รถคันนี้ ก็ได้กลายเป็นรถที่ผมใช้ในการไปไหนมาไหนระยะทางใกล้ๆ หรือไปเที่ยวห้างสรรพสินค้าบ้างตามโอกาส เนื่องจากรถกินน้ำมันมาก(เหตุผลที่กินน้ำมันจะอยู่ในรายละเอียดการตกแต่งของรถครับ)
และเนื่องจากรถคันนี้ไม่มีความจำเป็นในการใช้งาน จึงทำให้คิดลงประกาศขายหลายครั้ง แต่ทุกๆครั้ง ก็เกิดเสียดายขึ้นมา จึงทำให้ล้มเลิกความตั้งใจไป แต่เมื่อวานนี้เองได้ตัดสินใจขาย เนื่องจากไม่ได้ขับจนแบตเสื่อมและอื่นๆเสื่อมสภาพตามมา จึงตัดสินใจลงเว็ป และขายออกภายใน 24 ชม ซึ่งรวดเร็วมาก จนใจหาย จึงเป็นที่มาในการเขียนรีวิวครั้งสุดท้ายที่อยู่กับผม ของรถคันนี้
(http://upic.me/i/o4/20120417_171304-picsay.jpg) (http://upic.me/show/34943141)
-
อุปกรณ์ของตกแต่งรถคันนี้
เริ่มจากพอได้รถมา พ่อก็ได้จัดการเปลี่ยนรองเท้าให้มัน โดยการสั่งนำเข้า แม็ก Enkei จากญี่ปุ่น ขนาด 17 ซึ่งเป็นแม็ก 17 รุ่นแรกๆ ที่นำเข้ามาในไทย มีน้ำหนักที่เบามาก เนื่องจากเป็น อัลลอยแท้ สามารถใช้มือเดียวในการยกได้สบายมากๆ ทนทานและแข็งแรง ไม่เคยเปลี่ยนแม็กจนถึงปัจจุบัน
หลังจากนั้นก็เริ่มทำช่วงล่าง โดยการยกเซตช่วงล่างของ R32 ทั้งหมดมาใส่ตั้งแต่เบรค โช๊คต่างๆ สปริง เฟืองท้าย หัวบอนจ๊อย หนวดกุ้งปรับองศาล้อ และอื่นๆอีกมากมายนับไม่ถ้วน จนทำให้ช่วงล่างแข็งมาก มากจนกระทั่งแทบไม่ให้ตัว และถ้านั่ง4คน ไม่มีทางที่ซุ้มล้อจะโดนยางได้เลย แม้จะโหลดแล้วก็ตาม ข้อดีคือการขับขี่ การทรงตัวที่ดีมาก เข้าโค้งสบาย ไม่โยนตัว นิ่งและเกาะถนน แม้กระทั้งความเร็วสูงสุดที่ล็อกไว้คือ 180 km/h (ลองครั้งเดียวตอนเปลี่ยนเครื่องครับเดียวจะอยู่ในย่อหน้าถัดไป) หลายคนคงจะสงสัยว่า เบรคของ R32 เป็นแบบ 5พอร์ท แต่รถผมมี 4พอร์ท พ่อผมแก้ไชโดย การเอาจานเบรค ไปให้ร้านทำเหล็ก ใช้คอมพิวเตอร์เจาะให้ โดยการยึดแกนนึงเป็นหลักแล้วให้คอมพิวเตอร์คำนวณเจาะอีก3รู จนสามารถนำมาใส่ในรถยนต์คันนี้ได้
(http://upic.me/i/66/20120417_171329-picsay.jpg) (http://upic.me/show/34943505)
-
ต่อจากช่วงล่างก็คือเครื่องยนต์
เครื่องยนต์คันนี้ตอนแรกเป็นเครื่องยนต์ 12v 2000cc ข้อมูลทางเทคนิคตาม รีแรกครับ
ซึ่งเป็นเครื่องที่อัตราเร่งแค่พอไปไหนมาไหนได้ แต่กินน้ำมันมาก เลยเปลี่ยนเป็นRB20DET มีเทอร์โบ ความแร็งอยู่ในระดับที่กำลังดี ให้อู่ช่างแดง วัดลาดพร้าวลงให้ ถ้าบอกถึงอู่ RB ผมรับรองว่าทุกคนในสมัยก่อนรู้จักแน่นอน ตัวเครื่องที่พ่อผมนั้นได้มาจากเซียงกงญี่ปุ่น ราคาเครื่องตอนนั้น แพงกว่าตอนนี้พอสมควร เหตุผลในการเลือกเครื่องนี้มาลง เพราะว่าRb20DET นั้น สามารถใส่ลงไปในห้องเครื่องของเซฟิโร่ได้เลย โดยไม่ต้องดัดแปลงอะไร ซึ่งถ้าลงเครื่อง เจ ต้องดัดแปลงบางส่วน พ่อบอกว่าอยากจะรักษาห้องเครื่องให้เดิมๆที่สุด หลังจากลงเครื่องเสร็จแล้ว ก็มีปัญหาจุกจิกบ้าง แต่ก็ค่อยๆแก้ไป บวกกับไม่ค่อยได้ขับไปไหนมาไหน เลยซ่อมบ้างไม่ซ่อมบ้าง จนกระทั่งวันขายเลขไมล์จากที่ใช้มา เพียงแต่ 162500 km ซึ่งรถ18ปี ขับไปเท่านี้ผมคิดว่าน้อยมากครับ และหลังจากเปลี่ยนเครื่องแล้ว อัตราการกินน้ำมันลดลงเล็กน้อย แต่ได้ความแรงที่เพิ่มขึ้นมาเท่าตัว
(http://upic.me/i/sm/20120417_171718-picsay.jpg) (http://upic.me/show/34943922)
-
ต่อจากเครื่องยนต์ ก็มาต่อที่ห้องโดยสาร
ห้องโดยสารนั้นเดิมๆทั้งหมด มีกรอบแอร์แตกบ้างเนื่องจากอายุของรถ แต่ก็เปลี่ยนเป็นแบบเดิม จะมีที่ติดตั้งเพิ่มคือ timer สำหรับเครื่องเทอร์โบใช้ในการวอร์มเครื่องยนต์ก่อนดับเครื่อง กับ มาตราวัด แรงดันลม กับน้ำมันเครื่องซึ่งสามารถเปลี่ยนสีหลอดไฟได้หลายสี และสุดท้ายวิทยุติดรถยนต์
(http://upic.me/i/mh/dha84.jpg) (http://upic.me/show/34944078)
(http://upic.me/i/a0/d3s16.jpg) (http://upic.me/show/34944094)
(http://upic.me/t/lj/kfdu5.jpg) (http://upic.me/show/34944093)
-
ภายนอก
ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ดัดแปลง ใดๆทั้งสิ้น พยามจะรักษาความสวยของตัวรถแบบเดิมๆให้ได้มากที่สุด มีเปลี่ยนแค่โคมไฟหน้า เนื่องจากถอดมาทำความสะอาดแล้วมันแตก จึงเอาโคมของญี่ปุ่นไฟสีเหลืองมาใส่ ให้ความสว่างมากขึ้นแต่ไม่แยงตาคนอื่น เนื่องจากเซฟิโรมีโคมไฟหน้าที่คุมลำแสงให้เป็นเส้นตรงและลงพื้น ไม่สะท้องเข้าตา อีกอย่างที่ติดคือ สปอยเลอร์ท้ายรถ ช่วยให้รถทรงตัวได้ดีขึ้น
(http://upic.me/i/8k/20120417_171343-picsay.jpg) (http://upic.me/show/34944408)
-
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกและจุดเด่นของรถคันนี้
ตอนรถมาแรกๆยังไม่ได้ทำอะไรกับตัวรถ ระบบช่วงล่างเดิมๆจะมีโซนาร์ คอยตรวจจับพื้นถนน ปรับความนุ่ม แข็ง ของโช๊ค ซึ่งดูดซับแรงสะเทือนได้ดีพอสมควร แต่เนื้องจากพื้นถนนของไทยเรานั้น เป็นหลุมเป็นบ่อมากมาย จึงทำให้ระบบนั้นเสียก่อนวัยอันควร จึงเป็นเหตุให้ทำช่วงล่างใหม่เป็นแบบปัจจุบัน นอกเหนือจากระบบโซนาร์แล้ว เรายังสามารถปรับความแข็งนุ่มของโช๊คได้เองอีกด้วยจากการกดปุ่มใต้พวงมาลัยฝั่งซ้าย นอกจากนั้นยังมี ระบบปัดน้ำฝนแบบหน่วงเวลา3ระดับ และหน่วงแบบหมุนละเอียด และเมื่อฉีดน้ำล้างกระจก ที่ปัดน้ำฝนจะทำงานอัตโนมัติ
มีระบบเบรคมือที่เท้า ระบบเซนทรัลล็อก ที่จะทำงานเมื่อความเร็วรถเกิน20km/h ระบบแอร์ออโต้ ในที่นี้คือเลื่อนมาที่ปุ่มออโต้ ระบบจะคำนวณแรงลมอัตโนมัติ กระจกปรับและพับไฟฟ้า ระบบตัดน้ำมันในช่องเก็บของ ฝั่งคนนั่งซ้าย
การปรับอัตราเร่งแบบ Hold คือ เราเปลี่ยนเกียร์เอง , Auto และ Power คือเครื่องจะทดรอบเพิ่ม ทำให้อัตราเร่งที่ดีกว่า และยังมี Overdrive มาให้ด้วย ระบบกระจกไฟฟ้าทั้ง4บานและสามารถล็อกได้จากคนขับ มีไล่ฝ้ากระจกหลัง และระบบประตูกับเด็กเปิดที่ประตูรถแต่ละบาน ไฟอ่านแผนที่ ระบบไฟช่วยเลี้ยวเวลากลางคืน มันจะติดเมื่อเราขับรถกลางคืนเปิดไฟ และเปิดไฟเลี้ยว ที่พักแขนผู้โดยสารตอนหลังและยังสามารถเปิดสเต็ปที่2เพื่อทะลุไปยังท้ายรถได้ สามารถล้วงมือไปหยิบของที่ท้ายรถได้โดยไม่ต้องลงจากรถ เสาวิทยุที่ท้ายรถด้านซ้าย ขึ้น-ลงอัตโนมัติเมื่อเปิด-ปิดวิทยุ และระบบไฟรอบรูเสียบกุญแจเพื่อช่วยในการเสียบกุญแจให้ง่ายขึ้น ซึ่งอุปกรณ์ที่ว่ามาทั้งหมดนี้หาได้น้อยมากในรถญี่ปุ่นเมื่อ20ปีที่แล้ว
(http://upic.me/i/ua/20120417_171315-picsay.jpg) (http://upic.me/show/34944740)
-
ด้านการขับขี่
แม้รถยนต์คันนี้จะยาวมากถึง4.7เมตร แต่ด้วยพวงมาลัยที่เบามากในช่วงความเร็วต่ำ ทำให้คล่องตัวพอสมควร แต่รถที่เป็นเครื่องเทอร์โบ ช่วงออกตัวในความเร็วต่ำ รถจะลากรอบมาก กว่าจะเปลี่ยนเกียร์ ทำให้จังหวะสะดุดไปบ้าง แต่ถ้าขับจนชินแล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะซิกแซกในเมือง พอพ้นความเร็วที่ประมาณ40km/h การเร่งเครื่องยนต์นั้นถ้าเหยียบลงไปสุดไฟพาวเวอร์จะติดอัตโนมัติ หลังจะติดเบาะพร้อมกับเสียงเทอร์โบดูดอากาศ เป็นเสียงที่ไพเราะมาก แต่จะตามมาด้วยเกจน้ำมันที่กระดิกหายไป แต่ถ้าเหยียบไปซักครึ่งนึงเพียงแค่นี้ก็เร่งแซงได้สบายแล้วครับ อัตราเร่งผมไม่เคยได้ลองจับเพราะไม่ค่อยได้ขับทางไกล คันนี้ตั้งแต่แม่ผมขับมารวมถึงผมออกต่างจังหวัดไม่ถึง10ครั้ง หรือไม่ถึงปีละครั้งด้วยซ้ำ แต่จากการสัมผัสของผมเทียบกับแอคคอร์ดงูเห่าของพ่อ พบว่าถ้าความเร็วพ้นเกียร์2ขึ้นไป กดเป็นมา ไม่ต้องรอรอบเหมือน2เกียร์แรก ในขณะที่แอคคอร์ดจะมีแรงบิดต้นๆที่ดีกว่าแต่กลางๆถึงปลายเริ่มตันเกิน140ก็เริ่มอืดแล้ว ในขณะที่เซฟิโร่นั้นไหลต่อเนื้องมากกว่าจนไปตันที่180 (ตอนพ่อลองเครื่องครั้งแรกและครั้งเดียวที่ขับถึง180 ) ขณะ180เครื่องก็ยังพอมีแรงเหลืออยู่บ้าง แต่ระบบจากญี่ปุ่นที่ติดมากับเครื่องล็อกไว้
การขับทางไกลเข้าโค้งถือว่าทำได้ดีกว่างูเห่ามาก เนื่องจากงูเห่าเดิมๆย้วยมาก ประกอบกับเซฟิโร่ทำช่วงล่างมาแล้ว จึงสามารถเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ ไม่มีอาการหน้าปัดท้ายปัดแต่อย่างใด ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมประทับใจที่สุดในรถคันนี้ แต่ถ้าขับในเมืองเจอถนนที่ไม่เรียบ จะรู้สึกเหมือนขับเกวียน รถอะไรแข็งได้อีก
เรื่องการกินน้ำมัน รถคันนี้อย่าเรียกว่ากินครับ ยังกะคูโบต้าสูบได้อีก ขับในเมือง เติมน้ำมัน โซฮอลล์95 500บาท ขับได้ไม่เคยเกิน70โล เฉลี่ยที่55-65กิโล ประมาณนี้ครับ นอกเมืองเมื่อก่อนเคยจับกิโลได้ประมาณ 7-8กม/ลิตร นี่ก็เป็นอีกเหตุผลนึงที่ไม่มีใครอยากเอามันออกไปขับเลย
(http://upic.me/i/pp/cipy7.jpg) (http://upic.me/show/34944972)
-
ข้อเสียของรถคันนี้
1. กินน้ำมันมากฮะ
2. ห้องโดยสารที่เน้นสปอร์ตอย่างเดียวไม่สนใจผู้โดยสาร
3. หลังคาครับพี่จิมมี่เคยบอกไว้ว่าเห็นที่ใช้ทำคานหลังคาของนิปปอน แต่การเก็บที่วางไว้กลางแจ้ง
โดนแดด โดนฝน ทำให้เกิดสนิมที่คานหลังคาเกือบทุกคัน
4. เวลาขับไปไหนชอบมีคนมาถ้าแข่งครับ เช่น รถแต่งมาเร่งเครื่องข้างๆขนาบรถ หรือจี้ตูดแม้อยู่เลนซ้าย
หรือเวลารถจอดติดตามถนนก็ตาม
(http://upic.me/i/pm/iye10.jpg) (http://upic.me/show/34945299)
ข้อดี
1. รูปทรงที่ดูไม่ล้าสมัย
2. อะไหล่หาง่ายราคาไม่แพง
3. สามารถลงเครื่องยนได้หลากหลาย ติดแก๊สได้ง่าย
4. อุปกรณ์ต่างๆที่ติดมากับรถทันสมัยมากในยุคนั้น
5. การทรงตัวที่ดี ขับสนุก
(http://upic.me/i/g6/thjf9.jpg) (http://upic.me/show/34945277)
-
สรุปส่งท้าย
สุดท้ายนี้ เซฟฟิโร่คันนี้ ก็เป็นรถที่ดีมากๆคันนึง ดูยังไงก็สวย ไม่เก่าตามเวลา ถึงแม้มันจะงอแงบ้าง ตามประสารถเก่า แต่มันก็เป็นรถที่คนในบ้าน ใช้ขับไปสอบใบขับขี่ทุกคน หรือเวลาไปเดินห้าง เที่ยวใกล้ ไปโรงบาล ไปวัด หรือสถานที่ต่างๆ ถึงแม้มันจะเป็นรถคันที่2ของครอบครัว แต่มันก็ได้รับใช้จนถึงวันสุดท้ายก่อนที่จะขายไป เป็นรถคันแรกที่ผมหัดขับรถ หัดซ่อมมันเองบ้าง ล้างเองทุกครั้ง ขัด เช็ด ดูดฝุ่นเอง มันจึงเป็นรถที่ผมผูกพันมากที่สุด และผมหวังว่ามันจะไม่ไปดื้อกับเจ้าของใหม่ ทำตัวดีๆ อย่าเสียบ่อย อย่างอแง เพราะผมคิดว่า คนที่ผมขายต่อให้ไปก็คงจะรักษารถของผมให้คงสภาพดีไว้ ไม่เอาไปแต่งจนเละเทะ เหมือนที่ผมพยายามรักษามันให้สวยเหมือนเดิมที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
(http://upic.me/i/vz/20120417_171253-picsay.jpg) (http://upic.me/show/34945718)
ปล. รูปถ่ายจากมือถือSII ตัดแต่งด้วย picsay pro สีอาจเพี้ยนไปบ้างไม่สวยบ้าง ขออภัย ณ ที่นี้
ถ่ายไว้ก่อนจะขาย1วัน
ถ้าข้อมูลไหนผิดพลาด pmมาได้นะครับ
-
4. เวลาขับไปไหนชอบมีคนมาถ้าแข่งครับ เช่น รถแต่งมาเร่งเครื่องข้างๆขนาบรถ หรือจี้ตูดแม้อยู่เลนซ้าย
หรือเวลารถจอดติดตามถนนก็ตาม
มันเป็นเพราะไรอะ
-
ตำนาน FR ของไทยเลยนะครับเนี่ย
งามมาก ๆ ครับ สภาพดีจริง ๆ ครับ
-
สมัยนั้นถือว่าล้ำมากกกกกกกกก
(แต่เกิดไม่ทัน - -')
-
ขอบคุณครับ ไฮเทคจริงๆ ชอบพอๆกับซีวิค EG เลย
-
ผมเกิดทันได้เห็นมันอยู่บนท้องถนนตอนป้ายแดง จำได้ติดตาว่าตอนนั้นผม 10 ขวบ ที่บ้านผมใช้แอคคอรด์หน้าแหลมก่อนตาเพชร รถติดอยู่ช่วงค่ำนั่งมองเพลินๆเห็นเจ้า a31 วิ่งมาจอดข้างๆแล้วดูที่ไฟหน้าตอนกลางคืน แม่เจ้ารถอะไรไฟหน้ากลมเหมือนไฟมันกลิ้งได้สวยงามมากๆจำติดตาถึงทุกวันนี้ ที่บ้านคุณพ่อเคยได้มาเป็นรถประจำตำแหน่งอยากจะบอกว่านั่งแล้วมันนิ่มมากวิ่งดีจริงๆในสภาพป้ายแดง ณ ตอนนั้น ;D รถสวยงามมากคับเป็นผมๆจะเก็บไว้ตราบจนใครไม่ใครก็จากกันไปข้างนึ่งจริงๆนะ
-
มันเท่ตลอดรุ่นนี้
-
ฮืออออ เห็นแล้วอยากได้ ไฝ่ฝันอยู่เช่นกันกับคันนี้ แต่ไม่รู้จะหาเดิมๆจากไหนได้อีกแล้วนี่สิ
-
รุ้สึกผมจะ 7 ขวบได้นะตอนนั้น :P
-
ที่บ้าน ตาผมเคยซื้อมาใช้ หลังจากปล่อย E30 ไป
เป็นตัว 12V ตัวปรก เบาะผ้ากระสอบ
ขับดี แต่ตาผมใช้ทั่วๆ ไป และพอขายตาผมขายให้คนอื่นซ่ะงั้น แล้วไปออกE Class ตากลมตัวแรกมาแทน
ผมเคยนั่งแต่ไม่ได้ขับ ชอบมันมากครับ แต่นั่งหน้าทุกครับ หัวจะฟาดเส้าA ทุกที่เลย ;D
-
เห็นรุ่นนี้ทีไรนึกถึง 2J ทุกที :D
-
4. เวลาขับไปไหนชอบมีคนมาถ้าแข่งครับ เช่น รถแต่งมาเร่งเครื่องข้างๆขนาบรถ หรือจี้ตูดแม้อยู่เลนซ้าย
หรือเวลารถจอดติดตามถนนก็ตาม
มันเป็นเพราะไรอะ
เพราะว่ารถรุ่นนี้ ส่วนใหญ่วัยรุ่นไทย ชอบเอาไปแต่ครับ รถยนต์รุ่นนี้ปัจจุบันถูกแต่งไปเกือบหมดแล้ว
พอเห็นผมเป็นวัยรุ่น ต้องคิดว่าแต่งแน่นอน จึงทำให้โดนเบิ้นเครื่องใส่ หรือจี้ตูด และอื่นๆครับ
-
รถรุ่นนี้ 90% ที่เคยเจอวางเจ ทั้งนั้น รถในตำนานของบ้านเราอีกรุ่นหนึ่ง ;D ;D
-
ถ้าเห็นรุ่นนี้สภาพเดิมๆ ผมอยากจะถ่ายรูปเก็บไว้จริงๆ
เดี๋ยวนี้ A31 เกือบทุกคันโดนแต่งกันเละเทะไปหมด ใครขับเดิมๆ อยู่ก็ขอให้เก็บไว้ดีๆ นะครับ
ปล. รุ่นนี้พ่อผมเคยบอกตั้งแต่เด็กว่าหายบ่อยมาก เพราะช่วงล่างมีโซนาร์เขมรขโมยไปใช้
-
เจ้าตัวนี้ เป็นรถที่ดีไซด์เส้นสายลงตัวในแบบที่ผมชอบมากครับ
เสียดายเหมือนกันที่ไม่มีโอกาสเป็นเจ้าของ ได้แต่อิจฉาเพื่อนผมคนนึง ที่ได้มือสองสภาพเดิม ๆ ที่เนี๊ยบมาก ๆไม่ได้แต่งอะไร
ผมมักจะไปขอนั่งไปไหนมาไหนกับเพื่อนประจำครับ
-
คันนี้ผมชอบมาก เป็นนิสสันที่ลงตัวมากกกก ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆครับ
-
เดิมๆอย่างนี้หายากครับ สมัยก่อนถือว่าล้ำมาก
-
ขอบคุณสำหรับรีวิวมากครับผม มันเป็นรถที่ทรงอมตะอีกรุ่นหนึงจริงๆ
ที่เต็นเคยมีสภาพเดิมๆมาสวยมาก แต่ปัจจุบันโดนซะล่ะ
VVV
VV
v