ปัญหาที่เกิดขึ้น.....
เกิดเป็นรถก็ย่อมมีการดูแลรักษาและปัญหาแน่ๆ ไม่ว่าจะรถใหม่รถเก่า ไม่งั้นเราคงไม่เห็นรถบางยี่ห้อขึ้นยานแม่กันเป็นว่าเล่น 55555
ถามว่าเกี่ยวอะไรกับยี่ห้อนั้น ไม่เกี่ยวอะครับผมพูดไปงั้นแหละ ตอนนี้เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่า
เนื่องจากเป็นรถมือสองคนบางส่วนเลยไม่กล้าจะซื้อเพราะกลัวปัญหาการซ่อมที่จะตามมา ตอนแรกผมก็กลัว แต่จากประสบการณ์ที่ใช้มา 1 คันและซ่อมมันทุกส่วนของรถ(ยกเว้นเกียร์กับพวงมาลัย) แล้ว ผมว่าผมพอจัดการกับปัญหาพวกนี้ได้ ถ้ารถมันไม่ได้เน่าในมาและย้อมแมวมาน่ะนะ
และผมจะลองเขียนอะไรนิดหน่อยถึงการดูแลรักษารถคันนี้ ถ้ามันมีอะไรเพิ่มเติมก็คงจะมาเขียนเรื่อยๆ แต่หวังว่าจะไม่มี 55555
คันนี้โปรไฟล์เดิมเป็นรถผู้หญิง(เอาละเว้ยตู ผู้หญิงแบบไหนล่ะ) คุณหมอ ใช้ไปทำงานทุกวัน ไปกลับแค่ที่ทำงานตามสไตล์คำโฆษณานั่นแหละ
ผมก็ไม่ได้สนใจอยู่แล้ว(อ้าว?) แต่เท่าที่ดูสภาพรถมันก็น่าเชื่อถือนะ
ถ้าไม่ติดที่ว่าสีรถมันเป็นแบบนี้.....
ตอนแรกผมก็กะจะทำสีแค่ส่วนนี้แต่เอาเข้าๆ ตอนปรึกษาช่าง ช่างบอก 'รถน้องโป๊วสีมาแบบไม่ลอกสีพื้นเดิม นานๆเข้าสีเดิมก็โป่งแบบนี้แหละ'
อ้าวซวยละดิ แล้วหลังจากนั้นช่างก็ชี้รอยสีบวมรอบคัน ย้ำว่ารอบคันแต่มันเล็กมากๆจนมองไม่เห็น ผมก็ไมไ่ด้สังเกตเพราะตอนนั้นรถอยู่ในร่มด้วย
อ้าว พลาดเรื่องสีรถไปแล้วอย่างนึง แต่เอาเถอะ เวลานี้มันจะมีรถที่สีเดิมอยู่อีกเหรอ คิดปลอบใจตัวเองไปแบบนั้น
ผมไม่ซีเรียสเรื่องที่ไม่ส่งผลกับการขับขี่อยู่แล้ว ฉะนั้นอันนี้ก็เอาไว้ก่อน ถ้าอารมณ์ดีก็จะทำให้รอบคันเลย
ประการต่อมาคือประตูซ้ายปิดแล้วไม่สนิทแปลกๆ ช่องไฟระหว่างประตูกับตัวถังแปลก ให้เดาคงผ่านการรื้อถอนหรือชนมาบ้าง แต่ไม่หนัก
เพราะส่วนอื่นผมก็นั่งมอยืนมองก็ไม่เจอรอยเชื่อมอะไรแปลกๆ อยู่ดี
ต่อมาคือน้ำเข้าห้องโดยสารและอ่างล้ออะไหล่ เคยจอดตากฝนสี่วันติดแล้วมาเปิดดูยางอะไหล่ทีแทบช็อก คือน้ำขังแบบขังจริงจังเลยครับ
แถมน้ำเข้าตรงเบาะคนนั่งหน้าด้วย แต่อันนั้นไม่หนักมาก ปรึกษาช่าง ช่างบอกว่าคิ้วยางในรถคงเสื่อมสภาพเลยกั้นน้ำไม่อยู่
อ้าว หาเรื่องให้กันอีกแล้ว 55555 ทุกวันนี้ทางออกคือเลี่ยงการจอดกลางแจ้ง
ซื้อมาได้สิบเอ็ดวันปัญหาแรกคืออยู่ๆสตาร์ทไม่ติด เสียงมอเตอร์สตาร์ทเนือยๆก็คงเป็นที่แบตไม่ก็มอเตอร์นี่แหละ แต่จะว่าแบตก็ไม่น่าใช่เพราะแบตเปลี่ยนมาปี 58
ผมเลยลองสลับแบตกับสามห่วงอีกคันดู มันก็ติด แบตคันนี้ที่ยกไปใส่สามห่วงก็ติด แรงกว่าเดิมด้วย ก็เริ่มงง
เลยลองสลับแบตคืนร่างเดิม ติดเฉย หลังจากนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไร
เดือนมกราปีนี้ อยู่ๆไฟต่ำกับไฟสูงไม่ติด ก็ไปโดนรีเลย์ไฟอีก 450 ของ Bosch
ล่าสุดวันนี้(5/3/60) ด้วยความคันมือเลยเอาออก ตจว เล่น(คือเหงาด้วยอะ ไม่มีไรทำ) ไปลำปาง ไปไหว้พระธาตุลำปางหลวงซะหน่อย พระธาตุปีเกิดผม
ระหว่างนั้นก็ลองอัด 0-100 เล่น แต่หลายรอบไปหน่อย ได้ตัวเลขดีสุดก็ 12.2-13.6 วิเนี่ยแหละ ทำไป 3 รอบแล้วดับเครื่อง เพราะกลิ่นผ้าคลัตช์เริ่มมา
ตอนทำครั้งแรกจับสังเกตว่ารอบตื้อที่ 5500 และไม่ขึ้นเลย ผมก็ไม่แน่ใจว่าเกิดจากอะไร อาจจะเพราะในชีวิตนี้รถไม่เคยไปถึงรอบเครื่องนั้นด้วย
แล้วก็ทำต่ออีก 3 รอบ ก่อนจะไปจอดพระธาตุลำปางหลวง ผมกะจะทำบุญแต่ไม่มีแบงค์ 20 50 เลยออกไปแลกแบงค์พร้อมเติมน้ำมัน
ตอนแรกขี้เกียจแล้ว ว่าจะกลับเชียงใหม่เลย แต่อะไรดลใจให้ผมกลับไปวัดก็ไม่รู้
พอกลับไปวัดปุ๊บได้เรื่องเลยครับ ตอนจอดรถอยู่ๆก็กระตุกดับ และหลังจากนั้นก็สตาร์ทไม่ติดเลย
อาการคือสตาร์ทเสียงไม่เนือย ไม่ใช่แบตหมด แต่ทำยังไงก็ไม่ติด ลากยาวไปเรื่อยๆ แถมพอเข็นแล้วใส่เกียร์แบบรถ MT ทั่วไปก็ไม่ติด
ชาวบ้านแถวนั้นเลยเข้ามาช่วย และแนะนำใหผมไปถามลุงตำรวจที่ป้อม ลุงตำรวจแกก็ช่วยตามช่างให้ แต่วันนี้วันอาทิตย์ส่วนใหญ่เลยปิดหมด
แต่จนแล้วจนรอด็หาช่างมาได้ และก็ลากรถไปอู้ในตัวเมือง ช่างบอกวันนี้ซ่อมไมไ่ด้เพราะไม่มีอะไหล่ ร้านอะไหล่ปิด
ก็ต้องขอบคุณลุงตำรวจคนนั้นและชาวบ้าน พ่อค้าแม่ค้าที่ช่วยเหลือผมตรงนั้นด้วย ทำให้ผมเห็นว่าคนไทยเรามีน้ำใจจริงๆ
ข้อสันนิษฐานของช่างคือคอยล์เจ๊งซึ่งผมก็ว่าใช่ เพราะแบตยังปกติดี ไฟฟ้าในรถทำงานได้หมดเว้นการสตาร์ท แต่ผมก็เดาไปเองว่าอาจจะเกี่ยวกับคาร์บู
หรือตัวจ่ายน้ำมันก็ได้ เพราะผมอัดหนักต่อเนื่องมันอาจจะมีรวนมีเสียบ้างแหละ
จะว่าไปผมก็เก่งเรื่องช็อตคอยล์รถเนอะ สามห่วงคันก่าก็ซื้อมาได้ไม่ถึงครึ่งปีก็คอยล์เจ๊งแบบนี้เลย 555555
เหตุการณ์นี้สอนให้รู้ว่า ถ้ารถเก่าและมีโปรไฟล์ไม่เคยออกต่างจังหวัด กรุณาอย่าซัดหนักต่อเนื่องกันเป็นเวลานานๆ
เพราะมันอาจจะนำมาซึ่งความเกือบหายนะแบบนี้
ก็ยังดีที่ผมตัดสินใจวกกลับมาตรงวัดก่อน อย่างน้อยก็มีคนช่วย ถ้าเกิดผมกลับเชียงใหม่เลยป่านนี้ผมอาจจะนั่งอยู่กลางดอยก็ได้ คิดในแง่ดีสุดๆละนะ
===== Update 7/3/60 =====
ผลสรุปว่าไอ้ที่เสียคือจานจ่ายจริงๆด้วยครับ ผมไม่แน่ใจว่าเพราะผมกระแทกคันเร่งหนักรึเปล่าแต่นั่นคงมีส่วน เพราะได้ยินมาว่าถ้ามันเริ่มเสื่อมแล้วพอเจอความร้อน หรือปัจจัยกระตุ้นอื่นๆ อีกอาจจะไปบ้านเก่าได้ง่ายๆแบบนี้ จากที่เริ่มรวนเล็กๆ ก็เลยเป็นเจ๊งโดยสมบูรณ์เลย
แถมพวกฮอนด้าเวลาจะเสียก็เสียไม่มีอาการล่วงหน้าแบบนี้ อันหลังไม่รู้จริงมั้ยนะ
ค่าซ่อมทั้งหมด
7,100 บาท(!) คำแรกที่อุทานคือ Here นั่นแหละครับ ถึงมันจะแพงยังไงก็ไม่ควรเกินห้าพันนะเอาจริงๆ
เขาบอกว่าค่าจานจ่ายยกเซ็ต(เชียงกง ไม่ใช่ของเทียบ)น่าจะรวมคอยล์ด้วย 4,800 คือแพงเต็มที่ยังไงก็ไม่ควรเกิน 4,000 ป่ะ ถึงของจะหายากก็เถอะ
ค่าแรง 1,500 เป็นไปได้? ฟันกันหัวแบะเลยอันนี้
ค่าลากรถวันอาทิตย์ 800 อันนีไม่เถียงละกัน ไปเรียกเขานอกเวลาเอง
สงสัยช่างเห็นว่ายังไงก็ต้องซ่อมกับเราเลยล่อซะเต็มที่ ก็ตามนั้น ผมก็คงไม่กลับไปที่น่นอีกอยู่ดีนี่เนอะ
ประเด็นสำคัญคือขับกลับจากลำปางมาเชียงใหม่มีอาการรวนเกิดขึ้น คือกระตุกดับเหมือนเดิม เป็นหลังจากจอดทิ้งไว้แล้วมาสตาร์ท แต่รอบนี้สตาร์ทติดเลย
ก็นะ อะไหล่เก่าทำพิษแล้วมั้ยน่ะ หวังว่าจะรวนไม่หนักนะ ไม่มีตังค์ซ่อมละ 55555
สรุปว่า ถ้าใช้รถเก่า กรุณาเช็คก่อนออกเดินทางก็ดี ไม่งั้นอาจจะพบกับความหายนะทางการเงินแบบนี้
หรือไม่ก็ควรมีอะไหล่สำรองที่สามารถทำให้รถสตาร์ทติดและวิ่งลากชีวิตไปได้ อย่างเช่นพัดลมหม้อน้ำและคอยล์ เหมือนพี่แพนเคยกล่าวในบทความไหนซักอัน ผมก็ขออ้างอิงมาในตรงนี้ละกันเนอะ