Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: apinui ที่ พฤศจิกายน 23, 2022, 08:33:37
-
รีวิว ค่าใช้จ่ายเช็คระยะใหญ่สุด ของ mazda ครับ
เมื่อวาน นำรถ mazda 3 เข้าเช็คระยะ 8หมื่นโลครับ ที่ใครๆก็บอกว่า ระยะนี้โดนหนักทุกคน รถมีอายุเกิน 3ปีคือหมดประกันแล้ว แต่ยังเข้าศูนย์ตลอด คันนี้เป็นอักคันที่ผมตั้งใจเข้าศูนย์ตามระยะ
รอบนี้ ก็ตามรายการ มีน้ำมันเครื่อง - น้ำมันเบรค(น้ำมันเบรคคือเปลี่ยน ไม่ใช่เติม) - กรองแอร์ เท่านี้ ซึ่งตอนแรกผมคิดว่ารายการ service น่าจะมากกว่านี้ แต่เจ้าหน้าที่บอกว่า 8หมื่นมีเท่านี้แหละ
รายการอะไหล่เพื่อนๆลองดูครับ แพงไหม ส่วนค่าแรงเค้าคิดเหมา 1,273 บาท ซึ่งผมก็ Ok แต่สำหรับลูกค้ามาสด้าที่ซื้อ ตั้งแต่ปี 2022 ไป ก็จะได้ฟรีค่าแรง 10 ครั้งทุกคันซึ่งน่าจะถูกลงกว่านี้อีกถ้าหักตรงนี้ไป
สรุปเรทนี้ หนักอย่างเค้าว่าไหมครับ
(https://sv1.picz.in.th/images/2022/11/23/GwxZlS.jpg)
(https://sv1.picz.in.th/images/2022/11/23/GwxiBg.jpg)
-
ผมก็ตอบไม่ได้นะครับว่าถูกหรือแพง ถ้ามองการเช็คระยะ 80,000 แบบนี้ถือว่าไม่แพง แต่ถ้าจะเทียบควรเทียบแบบ apple to apple ของ T vs M vs H เช่นราคาน้ำมันเครื่อง, ค่าแรง, กรอง บลาๆ แต่จากประสบการณ์ที่ผมเบื่อ mazda เพราะราคาอะไหล่+ค่าแรง ยอดรวม แต่ละศูนย์ไม่เท่ากันเลย กลางเมืองราคา, ปริมาณทลราคา, พื้นที่ห่างไกลอีกราคา
รถเบนซ์ w205 ผม เช็คระยะแสนกิโล แค่ 6,000 ต้นๆ เองครับ แต่ผมตัดรายการที่ไม่จำเป็นออกหมดเลย
-
ถ้าทำแค่นี้ผมว่าแพงกับค่าแรงครับ ถ้าเปลี่ยนข้างนอก น้ำมันเครื่องกับน้ำมันเบรคค่าแรงไม่น่าเกิน500
อีกอย่างที่คิดว่าราคาสูงไปหน่อยก็คือกรองแอร์ อันนี้เทียบกับของโตโยต้าแค่ร้อยกว่าบาทครับ
-
ค่าแรงอย่างแพง ข้างนอก ไม่เกิน 300
-
รถแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ รอบการเปลี่ยนอะไหล่ไม่เหมือนกัน
80,000 กม. อาจจะดูว่า ไม่แพง แต่ ในรายการ ถ้าเป็นยี่ห้ออื่น เค้าจะเปลี่ยนหัวเทียน กรองเบนซิน น้ำมันเกียร์ ซึ่งหลายยี่ห้อทะลุหมื่น แต่ มาสด้า อาจจะหลบ ไปเปลี่ยนรอบอื่น ทำให้รอบอื่นแพง แต่รอบ 80,000 กม. ถูกไง
-
อย่างนึงที่ผมสังเกต จากใบเสร็จนี้+ที่ใช้เอง
1.น้ำมันเครื่องมาสด้าถูกนะ เครื่อง2ลิตร น่าจะใช้4+1ลิตร แค่1400 สังเคราะห์แท้ราคาถูกกว่าหิ้วไปเองอีก เมื่อก่อนเข้าศูนย์โตสังเคราะห์แท้4+1ลิตรล่อเข้าไป2,400เลย
2.กระจกข้างพับไม่สุดนี่มันปัญหามาสด้าทุกรุ่นจริงๆ เปลี่ยนแล้วก็เป็นอีก ไม่คิดจะหาวิธีแก้หน่อยเลยเหรอ
-
ส่วนตัวผมว่าไม่แพงนะ
ไส้กรองแอร์ เพิ่งเบิกของ Chr เจอไป 430
น้ำมันเบรค toyota ก็แพงกว่า
ค่าแรง chr.เจอไป 1200 กว่าบาทเหมือนกัน
-
ALTIS เช็ค 80,000กม ค่าแรง 1,104 บาท ก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่
แต่ยอดรวม ALTIS แพงกว่าอยู่ที่ 5,xxx บาท เพราะมีเปลี่ยนกรองน้ำมันเชื้อเพลิงด้วย (ราคาประมาณ 2,000) แต่รายการอื่นเหมือนๆกัน
(กรองน้ำมันเชื้อเพลิงถ้า Mazda รู้สึกจะเปลี่ยนที่รอบ 60,000 ราคาประมาณ 1,400)
-
ถ้าเป็นยี่ห้ออื่น ระยะนี้จะต้องมีน้ำมันเกียร์ด้วยครับ ซึ่งเท่าที่ทราบมา Mazda ไม่มีเปลี่ยนน้ำมันเกียร์...
-
ผมมองว่าค่าใช้จ่ายไม่หนัก แต่ควรจะมีส่วนลดค่าอะไหล่ให้บ้าง 5-10% ก็ยังดี
ขอแชร์ของ โตโยต้า แคมรี ไฮบริด ค่าแรงเช็คระยะ 8 หมื่น อยูที่ 1,104 (ฟรี)
รอบนี้มีรายการเปลี่ยนเหมือน จขกท แต่มีเพิ่มเติมคือ น้ำมันเกียร์ กรองอากาศเครื่อง
สิริรวมเกือบ 6 พัน หลังหักส่วนลดและรวม Vat ครับ
-
ไม่แพงอย่างที่คิดครับ
-
ถ้าเป็นยี่ห้ออื่น ระยะนี้จะต้องมีน้ำมันเกียร์ด้วยครับ ซึ่งเท่าที่ทราบมา Mazda ไม่มีเปลี่ยนน้ำมันเกียร์...
Toyota ที่ผมไปเข้ามารอบ 80,000 ก็ไม่มีเปลี่ยนน้ำมันเกียร์เหมือนกันนะครับ
และเข้าไปดูในเว็ป หลายๆรุ่น (หรือทุกรุ่น) ก็ไม่มีรายการเปลี่ยนเหมือนกัน
-
มันต้องเทียบอะไหล่แบบตัวต่อตัวไม่ใช่เอาระยะมาเทียบกันครับ
รถเพื่อนผม M2ดีเซล สายพานเครื่องขาด รถวิ่งไปแสนนิดๆ เจอช่างจับเปลี่ยนอะไหล่ทุกตัวตรงสายพานเลยคือ ปั๊มน้ำ ไดชารจ ตัวตั้งลูกรอก
น้ำยาคูลแลน สายพาย ค่าแรงเปลี่ยนปั๊มน้ำคือต้องยกเครื่องลง 8 ชม เบ็ดเสร็จคือโดนไปสี่หมื่นสี่พันได้ ผมเห็นแค่นี้ก็สยองและไม่มีวันจะซื้อรถยี่ห้อนี่เด็ดขาด
-
มันต้องเทียบรายการต่อรายการครับ อย่าง Subaru 4 กับ 8 หมื่นโล นี่เป็นหมื่นเลย แต่รายการเปลี่ยนยาวเป้นหางว่าว
-
ไม่แพงครับ ราคารับได้นะ อย่างกรองแอร์ Altis 600 เหมือนกันไม่ได้ถูกนะครับ กรองเท่ากัน 220 บาท
จริงถ้าเทียบอะไหล่ ชิ้นเดียวกันกับค่าแรงเปลี่ยนอะไหล่ชิ้นนั้น จะรู้เลยว่า อะไหล่ ค่าแรงถูกหรือแพง
ถ้าเอาค่าเช็คระยะ ตัวแปรมันแล้วเจ้าของสั่งซ่อมอีก งานที่ทำบางทีไม่เท่ากัน
-
ถ้าเป็นยี่ห้ออื่น ระยะนี้จะต้องมีน้ำมันเกียร์ด้วยครับ ซึ่งเท่าที่ทราบมา Mazda ไม่มีเปลี่ยนน้ำมันเกียร์...
ให้เลือกเปลี่ยนได้มาสองสามปีแล้วครับ ไม่ประทบประกันแต่ประการใด
-
ระยะจนถึง 100,000 km Volvo ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายครับ Free maintenance 5 ปี หรือ 100,000 km เริ่มจายคือระยะ 120,000 km อันนี้จ่ายหนักครับ เปลี่ยนของเหลวทุกอย่าง timing belt สายพานหน้าเครื่อง หัวเทียน กรองทุกอย่าง ตอนนั้นโดนไปเกือบ 40,000 บาท
-
รถแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ รอบการเปลี่ยนอะไหล่ไม่เหมือนกัน
80,000 กม. อาจจะดูว่า ไม่แพง แต่ ในรายการ ถ้าเป็นยี่ห้ออื่น เค้าจะเปลี่ยนหัวเทียน กรองเบนซิน น้ำมันเกียร์ ซึ่งหลายยี่ห้อทะลุหมื่น แต่ มาสด้า อาจจะหลบ ไปเปลี่ยนรอบอื่น ทำให้รอบอื่นแพง แต่รอบ 80,000 กม. ถูกไง
เข้าใจครับ แต่ที่เอามาให้ดู คือ ผมก็คิดว่า รอบ 8หมื่นเนี่ย ศูนย์น่าจะจับเปลี่ยนรัวๆ โดนหลายพันหรือเกือบหมื่นบาทแน่ๆ แต่ก็เตรียมใจไว้แล้ว สุดท้ายเจ้าหน้าที่แจ้งเท่านี้ เค้าบอกว่า 8หมื่นเปลี่ยนเท่านี้ครับ ก็เลยรู้สึกผิดคาดครับว่า ระยะ 8หมื่น ทำแค่นี้เองหรอ มีน้ำมันเบรคเพิ่มมาแค่นั้นเอง
-
มันไม่มีรายการซ่อมอะไรนี่ครับ ราคาจึงประมาณนี้ เปลี่ยนเคมีภัณท์ของเหลว แต่ที่เพิ่มมากรองแอร์ ซึ่งก็แพงมาก 760 บาท แต่ราคาโดยรวมก็ถือว่าแพงอยู่ดี
เพราะถ้า 80,000 km รถญี่ปุ่นเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ด้วย +กรองเบนซิน+หัวเทียน แต่ Mazda ไม่ได้เปลี่ยน ถ้ารวมเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ด้วย+กรองเบนซิน+หัวเทียน Mazda ยิ่งแพงจัด
อะไหล่อื่นพอกันเช่น กรองน้ำมันเครื่อง = TOYOTA
น้ำมันเบรคก็พอกัน= TOYOTA
ค่าแรงก็ใกล้เคียงแพงกว่า TOYOTA หน่อยนึง
แต่สิ่งที่สู้ไม่ได้คือ TOYOTA มีส่วนลด 10-15% แล้วแต่โปรโมชั่น นอกจากนี้ยังสะสมคะแนน กับเงินที่จ่ายไปเอาไปเป็นส่วนลดครั้งต่อ ๆ ไปได้อีกเยอะ ทำให้โดยรวมยังไง Mazda ก็ยังถือว่าแพงครับ แทบไม่มีรายการไหนที่ถูกกว่า TOTOTA เลย ถ้าเปลี่ยนอะไหล่เหมือน ๆ กันผมว่าจะเห็นความแตกต่างชัดเจนว่า Mazda แพงกว่า
-
มันต้องเทียบอะไหล่แบบตัวต่อตัวไม่ใช่เอาระยะมาเทียบกันครับ
รถเพื่อนผม M2ดีเซล สายพานเครื่องขาด รถวิ่งไปแสนนิดๆ เจอช่างจับเปลี่ยนอะไหล่ทุกตัวตรงสายพานเลยคือ ปั๊มน้ำ ไดชารจ ตัวตั้งลูกรอก
น้ำยาคูลแลน สายพาย ค่าแรงเปลี่ยนปั๊มน้ำคือต้องยกเครื่องลง 8 ชม เบ็ดเสร็จคือโดนไปสี่หมื่นสี่พันได้ ผมเห็นแค่นี้ก็สยองและไม่มีวันจะซื้อรถยี่ห้อนี่เด็ดขาด
ที่เอาระยะมาเทียบ เพราะถ้าใครที่เข้าศูนย์มาโดยตลอด จะรู้ว่า ระยะ 8หมื่นโล เป็นระยะที่ว่ากันว่า เข้าศูนย์แพงที่สุดจนหลายๆคนรู้สึกกลัวกันไปเลย ผมเลยเอามาให้ดูว่า จริงๆแล้วมันไม่ได้เยอะ จนจ่ายแพง เป็นข้อมูลให้หลายๆท่านจะได้คลายความวิตกไปได้บ้าง
ส่วนรถเพื่อนที่สายพานขาด ถ้าเข้าศูนย์เปลี่ยนตามระยะ ก็คงไม่ขาด และถ้าสายพานขาด ปั๊มน้ำไม่ทำงาน เครื่องจะฮีตตามมา ก็ต้องยกแบบนี้ทุกยี่ห้อละครับ
-
ดูเป็น spot ๆ ไป ก็ตามนั้นล่ะครับ ไม่ได้โกหก
ค่าเช็คระยะ 80,000 กม. ก็ไม่ได้แพงอะไร
แต่
แต่
คนเป็นเจ้าของรถต้องจ่ายทุกค่าใช้จ่ายมาโดยตลอด
ตั้งแต่กม. ที่ 0
รวมๆ กันมา แล้ว ถ้ามันไม่ได้แพงอย่างที่เขาว่า
และหลายคนก็รวมยาวไปจนถึงกม. ที่แสน สองแสน สามแสน
ก็จะได้ข้อสรุปว่า มันหนักอย่างที่เขาว่ามั้ย.. นั่นล่ะครับ
-
ถ้าจำไม่ผิดรอบ 100,000 จะมีเปลี่ยนกรองเบนซิน
มันจะแพงกว่า 80,000 คนละเรื่องครับ
คนเคยใช้ mazda แบบผม บอกเลยว่าไม่แพงหรอก
รำคาญเรื่องรออะไหล่มากกว่า บางทีนานเกินไป
อะไหล่เกี่ยวกับช่วงล่างมีเปลี่ยนเมื่อไหร่เอามาแบ่งปันกันด้วยครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
-
มันต้องเทียบอะไหล่แบบตัวต่อตัวไม่ใช่เอาระยะมาเทียบกันครับ
รถเพื่อนผม M2ดีเซล สายพานเครื่องขาด รถวิ่งไปแสนนิดๆ เจอช่างจับเปลี่ยนอะไหล่ทุกตัวตรงสายพานเลยคือ ปั๊มน้ำ ไดชารจ ตัวตั้งลูกรอก
น้ำยาคูลแลน สายพาย ค่าแรงเปลี่ยนปั๊มน้ำคือต้องยกเครื่องลง 8 ชม เบ็ดเสร็จคือโดนไปสี่หมื่นสี่พันได้ ผมเห็นแค่นี้ก็สยองและไม่มีวันจะซื้อรถยี่ห้อนี่เด็ดขาด
ที่เอาระยะมาเทียบ เพราะถ้าใครที่เข้าศูนย์มาโดยตลอด จะรู้ว่า ระยะ 8หมื่นโล เป็นระยะที่ว่ากันว่า เข้าศูนย์แพงที่สุดจนหลายๆคนรู้สึกกลัวกันไปเลย ผมเลยเอามาให้ดูว่า จริงๆแล้วมันไม่ได้เยอะ จนจ่ายแพง เป็นข้อมูลให้หลายๆท่านจะได้คลายความวิตกไปได้บ้าง
ส่วนรถเพื่อนที่สายพานขาด ถ้าเข้าศูนย์เปลี่ยนตามระยะ ก็คงไม่ขาด และถ้าสายพานขาด ปั๊มน้ำไม่ทำงาน เครื่องจะฮีตตามมา ก็ต้องยกแบบนี้ทุกยี่ห้อละครับ
ที่ยกเครื่องลงไม่ใช่เครื่องยนต์เสียหายครับ เครื่องยนต์ปกติดี แต่การจะเปลี่ยนปั๊มน้ำต้องยกเครื่องลง ผมยังงงอยู่ว่าจริงเหรือที่ต้องยกเครื่องลง แต่เพื่อนมันก็ทำไปแล้ว
-
กรองแอร์ของ mitsu ผมเบิกศูนย์ 214 บาทครับ ใช้ด้วยกัน Pa กับ Ex ครับ
-
ทราบได้ไงว่าเปลี่ยนน้ำมันเบรกครับ
ผมเคยเปลี่ยนตามรอบปกติ ไปเช็คร้านเบรคบอกว่าไม่ได้เปลี่ยน
(ร้านเอาเครื่องวัดความชื้นมาเช็คโชว์)
ปล.มาสด้าชอบลักไก่ไม่ทำเยอะมากครับ
ที่ผมเจอเองแน่ๆ บอกสลับยางฟรีให้แล้ว (ยางที่ลมรั่ว ยังรั่วตำแหน่งเดิม)
-
มันต้องเทียบอะไหล่แบบตัวต่อตัวไม่ใช่เอาระยะมาเทียบกันครับ
รถเพื่อนผม M2ดีเซล สายพานเครื่องขาด รถวิ่งไปแสนนิดๆ เจอช่างจับเปลี่ยนอะไหล่ทุกตัวตรงสายพานเลยคือ ปั๊มน้ำ ไดชารจ ตัวตั้งลูกรอก
น้ำยาคูลแลน สายพาย ค่าแรงเปลี่ยนปั๊มน้ำคือต้องยกเครื่องลง 8 ชม เบ็ดเสร็จคือโดนไปสี่หมื่นสี่พันได้ ผมเห็นแค่นี้ก็สยองและไม่มีวันจะซื้อรถยี่ห้อนี่เด็ดขาด
ที่ งง คือ รถเพื่อนคุณไม่ได้เข้าศูนย์ตลอดรึเปล่าครับ หรือศูนย์ไม่ได้แจ้งอะไร เพราะเช็คตามระยะทุกครั้งก็จะเช็คสายพานตลอด
รถผมเข้าศูนย์ตลอด พอ 1.1แสนโล ศูนย์แจ้งว่าสายพานอาการไม่ดีแล้ว ผมก็จับเปลื่ยนเลย
และเรื่องราคา "งานซ่อม" กับ "งานเช็คระยะ" ก็ไม่น่าเทียบกันนะครับ อะไหล่มาสด้าราคาหนักอยู่ ก็จริง
ทีนี้เจ้า sky D รถมันเล็กแต่เครื่องระบบมันเยอะ และขึ้นชื่ออยู่แล้วว่า service ยากแค่ถอดแผงอะไรต่างๆยังเยอะเลย ค่าแรงก็ตามเวลาครับ
.....................
ผมใช้ Mz2 อยู่ ราคาก็น้อยกว่านี้นิดหน่อยครับ แต่ปัจจัยค่าใช้จ่าย Mazda เวลาเช็คระยะ เห็นเหมือนกันบางคนคือ อยู่ที่ศูนย์
ศูนย์กลางเมือง แพงครับ ศูนย์ชานเมืองรอบนอกหลายๆศูนย์ราคาไม่แพง แล้วมาสด้าคิดค่าแรงตามเวลาจริง เคาะค่าแรงมาไม่หนีกับเจ้าตลาด แต่ถ้าศูนย์ไหนตั้งเรทแพงราคาก็แรงจนหลายๆคนเอามาเล่านั่นละ
และอีกอย่างที่ลดราคาค่าเช็คระยะได้เยอะคือ น้ำมันเกียร์นั่นละ อันนี้แล้วแต่ความสบายใจเลย ตอนนี้เปลื่ยนได้ประกันไม่ขาด
ผมเปลื่ยนแต่ระยะเปลื่ยนอาจจะลากยาวกว่า CVT ทั่วไป เพราะช่วงแรกที่มาสด้าไม่ให้เปลื่ยน ผมลากไป 1.3แสนโลถึงได้เปลื่ยนครับ
....................
ปล.บางคนนี่ก็จริงๆเลยนะ
ยี่ห้อที่ไม่ชอบ นิดหน่อยขอให้ได้ใส่
ยี่ห้อโปรดรุ่นที่มีปัญหาเยอะ ซ่อมแพง ขนาดคนทั้งบอร์ดบอกให้หนีไป ยังจะเชียร์ ....
-
ค่าแรงถ้าเทียบต่อ ชม มาสด้าน่าจะแพงสุดแล้ว
-
ทราบได้ไงว่าเปลี่ยนน้ำมันเบรกครับ
ผมเคยเปลี่ยนตามรอบปกติ ไปเช็คร้านเบรคบอกว่าไม่ได้เปลี่ยน
(ร้านเอาเครื่องวัดความชื้นมาเช็คโชว์)
ปล.มาสด้าชอบลักไก่ไม่ทำเยอะมากครับ
ที่ผมเจอเองแน่ๆ บอกสลับยางฟรีให้แล้ว (ยางที่ลมรั่ว ยังรั่วตำแหน่งเดิม)
พอดี ที่ศูนย์นี้ ห้องรับรองมีกระจกให้มองเห็นห้อง service ด้วยน่ะครับ และผมนั่งจิบกาแฟไป และก็ดูเค้าทำไป เลยเห็นชัดๆว่าเค้าทำคือ
1.ถอดผ้าเบรคออกมาขัดๆถูๆให้ ทั้ง 4 ล้อ
2.หลังจากนั้น เค้าก็ยกรถขึ้น โดยมีช่างอยู่ข้างใน 1 คน และย้ำเบรค และมีช่างอีกคน อยู่ที่ล้อรถ คลายน๊อตน้ำมันเบรค ทำแบบนี้ทั้ง 4ล้อ
3.ที่เห็นอีกอันเรื่องกระจกมองข้างพับไม่สุด ช่างแกะกระจกมองข้างผมออกแล้วเอาสเปรย์ฉีดหล่อลื่นให้ และทดสอบพับ และประกอบคืน
หลายศูนย์อาจจะลักไก่ไม่ทำได้ แต่ที่นี่คิดว่าไม่ได้นะ เพราะห้อง service ติดกับห้องรับรองลูกค้ามองเห็นการทำงานของช่างได้ทุกช่อง service เลย
-
มันต้องเทียบอะไหล่แบบตัวต่อตัวไม่ใช่เอาระยะมาเทียบกันครับ
รถเพื่อนผม M2ดีเซล สายพานเครื่องขาด รถวิ่งไปแสนนิดๆ เจอช่างจับเปลี่ยนอะไหล่ทุกตัวตรงสายพานเลยคือ ปั๊มน้ำ ไดชารจ ตัวตั้งลูกรอก
น้ำยาคูลแลน สายพาย ค่าแรงเปลี่ยนปั๊มน้ำคือต้องยกเครื่องลง 8 ชม เบ็ดเสร็จคือโดนไปสี่หมื่นสี่พันได้ ผมเห็นแค่นี้ก็สยองและไม่มีวันจะซื้อรถยี่ห้อนี่เด็ดขาด
ที่ งง คือ รถเพื่อนคุณไม่ได้เข้าศูนย์ตลอดรึเปล่าครับ หรือศูนย์ไม่ได้แจ้งอะไร เพราะเช็คตามระยะทุกครั้งก็จะเช็คสายพานตลอด
รถผมเข้าศูนย์ตลอด พอ 1.1แสนโล ศูนย์แจ้งว่าสายพานอาการไม่ดีแล้ว ผมก็จับเปลื่ยนเลย
และเรื่องราคา "งานซ่อม" กับ "งานเช็คระยะ" ก็ไม่น่าเทียบกันนะครับ อะไหล่มาสด้าราคาหนักอยู่ ก็จริง
ทีนี้เจ้า sky D รถมันเล็กแต่เครื่องระบบมันเยอะ และขึ้นชื่ออยู่แล้วว่า service ยากแค่ถอดแผงอะไรต่างๆยังเยอะเลย ค่าแรงก็ตามเวลาครับ
.....................
ผมใช้ Mz2 อยู่ ราคาก็น้อยกว่านี้นิดหน่อยครับ แต่ปัจจัยค่าใช้จ่าย Mazda เวลาเช็คระยะ เห็นเหมือนกันบางคนคือ อยู่ที่ศูนย์
ศูนย์กลางเมือง แพงครับ ศูนย์ชานเมืองรอบนอกหลายๆศูนย์ราคาไม่แพง แล้วมาสด้าคิดค่าแรงตามเวลาจริง เคาะค่าแรงมาไม่หนีกับเจ้าตลาด แต่ถ้าศูนย์ไหนตั้งเรทแพงราคาก็แรงจนหลายๆคนเอามาเล่านั่นละ
และอีกอย่างที่ลดราคาค่าเช็คระยะได้เยอะคือ น้ำมันเกียร์นั่นละ อันนี้แล้วแต่ความสบายใจเลย ตอนนี้เปลื่ยนได้ประกันไม่ขาด
ผมเปลื่ยนแต่ระยะเปลื่ยนอาจจะลากยาวกว่า CVT ทั่วไป เพราะช่วงแรกที่มาสด้าไม่ให้เปลื่ยน ผมลากไป 1.3แสนโลถึงได้เปลื่ยนครับ
....................
ปล.บางคนนี่ก็จริงๆเลยนะ
ยี่ห้อที่ไม่ชอบ นิดหน่อยขอให้ได้ใส่
ยี่ห้อโปรดรุ่นที่มีปัญหาเยอะ ซ่อมแพง ขนาดคนทั้งบอร์ดบอกให้หนีไป ยังจะเชียร์ ....
เพื่อนผมมันเช็ครอบเข้าศูนย์ตลอดครับรถมือหนึ่ง มันไม่สนใจจะประหยัดเงินเลยด้วยการไม่เข้าศูนย์ เพราะขนาดสี่หมื่นกว่าบาทมันยังเซ็นให้ศูนย์ซ่อมโดยไม่ถามผมเลย ผมมารู้ตอนมันซ่อมเสร็จไปแล้ว ระบบ m2 D ซับซ้อนจริงครับ แต่งงว่าเปลี่ยนปั๊มน้ำต้องยกเครื่องลงจริงๆหรือค่าแรงราย ชม ก็ 750 บาท ก็ตามปกติที่เรารู้ๆกันสำหรับมาสด้า ผมไม่อยากจะบ่นว่าสายพานขาดเกิดจากแค่ลูกปืนสักตัวแตกหรือเปล่า แต่นี่จับเปลียนหมดเลย ทั้งไดชารจ ปั๊มน้ำ ลูกรอกตัวตั้ง เพื่อนผมมันก็คงได้บทเรียนแล้วหละ
-
จุดที่แพงของมาสด้าคือค่าแรงครับ ศูนย์ที่ผมเข้า ชมละ 790 บาท
ผมจำไม่ได้ว่าเช็ค 80000 ผมจ่ายไปเท่าไหร่ แต่คลับคลาว่าราวๆหมื่นนิดๆ สำหรับ CX5 ครับ
รอบปกติ ส่วนมากจ่ายราวๆสามพันได้มั๊ง
และอะไหล่บางตัวแพงแบบไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่ แต่หลังๆก็เห็นมีปรับราคาอะไหล่ลงมาพอสมควร
ส่วนตัวผมอยู่ในกลุ่มไลน์ที่มีผู้ใช้รถช่วยเหลือกันหาอะไหล่รวมถึงอู่นอกที่ราคาสมเหตุสมผล มีผู้ใหญ่ใจดีให้คำปรีกษา ก็ลดความกังวลเรื่องค่าเซอร์วิสลงไปได้ระดับหนึ่งครับ
-
มันคือรอบเช็คระยะ "เล็ก" ครับ
แค่นี้ถือว่าธรรมดา
แต่ที่ไม่ธรรมคา หรือ อาจจะเรียกว่าแพง ในรายการนี้ ที่รู้ๆ กันเลยคือ ค่าแรงครับ
ต่อมาก็กรองแอร์ ผมว่า ยี่ห้ออื่น 3-5 ร้อย ไมเ่กินนี้ (ผมไม่ได้ยี่ห้อตลาด ก็ยังราคาแถวๆ นี้เลย)
ถ้าลองไปเจอ ตอนเปลี่ยนอะไหล่ บอกเลย กระเป๋าฉีกครับ
-
ถ้าคิดว่าเข้าศูนย์ ผมว่าไม่แพงเลยครับ
ส่วนถ้าคนจะเอาไปเปรียบกับทำข้างนอก อันนี้แน่นอนครับว่าต้องถูกกว่า เพราะถ้าไม่ถูกกว่า คนก็เข้าศูนย์สิครับ
-
ใกล้เคียงกับ Mazda 2 ดีเซลของผมเลยครับ
รอบทุกๆ40 k จะประมาน 4000 กว่า ไม่เกิน 4500
แต่รอบทั่วไปจะประมาน 2500-2700
ไม่รวมอะไหล่ที่เปลี่ยนพิเศษเช่น แบตเตอรี่ , ผ้าเบรคอะไรพวกนี้นะครับ
แต่ค่าแรงก็แพงจริง
ปล ศูนย์แถวร่มเกล้านะครับ