Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: B.buffalo ที่ มกราคม 27, 2021, 12:50:25
-
ที่หมู่บ้านพอฝนตกหนักทีคือน้ำแบบท่วมเป็นแอ่งเลยครับ
รถที่ขับอยู่เป็น city มีครั้งนึงลุยน้ำแล้วเกือบดับ ต้องลุยอยู่ประมาณ 2-3 นาที
ที่รู้ๆกันอยู่คือ ใส่เกียร์ต่ำ ปิดแอร์ ปิดกระจก(อันนี้ไม่ค่อยเชื่อ) อย่าให้รอบมันต่ำกว่า 1500
แต่เอาความเป็นจริงถ้าต้องขับเกียร์ต่ำรอบให้สูงกว่า 1500 รถมันจะวิ่งเร็วพอสมควรเลยครับ
โดนด่าแน่นอน
เลยไปเห็นมีความเห็นนึงบอกว่า ให้เหยียบเบรคค้างไว้พอประมาณ แล้วกดคันเร่งเพื่อให้รอบมันสูงน้ำจะได้ไม่เข้า
ไม่ทราบว่าวิธีนี้ใช้ได้จริง หรือ มีผลเสียยังไงบ้างครับ
ถ้ามีเทคนิคอื่นก็รบกวนแนะนำด้วยครับ
กำลังจะเปลี่ยนรถเป็นพวก B-SUV ครับ แต่ทำใจซื้อ Collora cross ไม่ได้ ตอนนี้กำลังลังเลอยู่ครับรอ HRV ใหม่ซึ่งไม่รู้มันจะเข้าไทยไหม
ขอบคุณมากครับ
-
ปิดแอร์ ขับช้าๆนั่นละ แต่ลุยบ่อยๆก็ไม่ดีนะครับ เคยเอาไปลุยครั้งนึงลูกสูบโก่งไปเลย
-
ปิดแอร์ ขับช้าๆนั่นละ แต่ลุยบ่อยๆก็ไม่ดีนะครับ เคยเอาไปลุยครั้งนึงลูกสูบโก่งไปเลย
ขับช้าเกินไปดับครับ ไม่ได้คิดไปเองแน่นอน เพราะมันจะดับทุกครั้งเลย จากประสบการณ์ล้วนๆ
-
เข้าใจกว่าเลี้ยงคันเร่งให้เครื่องยนดันไอเสียผ่านน้ำออกไปได้
แต่ถ้าต้องลุยระดับมิดท่อบ่อยๆ ระวังน้ำจะเข้าทาง ขอบประตูหรือช่องต่างๆตามพื้นห้องโดยสารด้วยนะครับ
แล้วจะมีพวกเซนเซอ อุปกรณ์บางอย่างที่ติดอยู่ต่ำๆด้วย ถ้าเลี่ยงไม่ได้ เปลี่ยนเปนรถที่สูงขึ้นดีกว่าครับ
-
สมัยขับ325 แต่งเตี้ยมาก แล้วถนนหน้าออฟฟิศก็กลายร่างเป็นคลองบ่อย จะใช้วิธิ ปิดแอร์ แล้วค่อยๆขับ แบบแตะเบรคแล้วเหยียบคันเร่งไม่ให้เรื่องดับ แล้วรถไปไม่เร็วจนเป็นคลื่นสูง รอดมาได้ทุกครั้งครับ
-
ประสบการณ์เอาเฟียสต้าลุยน้ำท่วมใหญ่ๆมา 3-4 ครั้ง รอดมาทุกครั้งคือ ปิดแอร์ ขับใส่เกียร์ L เน้นรอบสูงไม่ให้เกียร์เปลี่ยนบ่อยแล้วขับชิดๆคันหน้าให้ช่วยแหวกน้ำให้ รอดหมดครับ แต่จะแย่ตรงที่เวลาเจอรถสวนน้ำตีมาขึ้นกระจกหน้าเลย
ถ้าถามว่าน้ำท่วมประมาณไหน เคยท่วมแบบลุยโหดสุดคือวิ่งจากใต้ขึ้น กทม แล้วเจอน้ำป่าที่หลังสวนชุมพร ช่วงแรกติดอยู่ 40 นาทีแถวหลังสวนรถแทบไม่เคลื่อนที่ แต่น้ำยังนิ่งๆ แล้วจากนั้น จนท ปล่อยรถให้ขับตามๆกันเป็นกลุ่มๆ ใครไม่กล้าก็เลี้ยวกลับไปจอดปั๊มเลย ผมเห็นข้างหน้าก็เก๋งเลยตาม
แล้วคือเจอน้ำแบบไหลข้ามถนนแบบเชี่ยว รถสวนมาน้ำขึ้นกระจกหน้า ขับอยู่หลาย กม. จนพ้นมาได้ น้ำเข้ารถเพียบ แล้วทราบว่ารถผมคือกลุ่มสุดท้ายก่อนที่ จนท จะปิดถนนเพราะน้ำสูงขึ้น
แล้วก็อีกหลายๆครั้ง น้ำท่วมในกรุงเทพแบบสูงเกินฟุตบาทบ้าง และอีกครั้งขับ กทม ลงใต้ ก็ชุมพรอีกนี่แหละตรงเมืองชุมพรเลย
-
สมัยขับ325 แต่งเตี้ยมาก แล้วถนนหน้าออฟฟิศก็กลายร่างเป็นคลองบ่อย จะใช้วิธิ ปิดแอร์ แล้วค่อยๆขับ แบบแตะเบรคแล้วเหยียบคันเร่งไม่ให้เรื่องดับ แล้วรถไปไม่เร็วจนเป็นคลื่นสูง รอดมาได้ทุกครั้งครับ
แตะเบรค ปล่อยเบรค เหยียบคันเร่ง แตะเบรค ปล่อยเบรค เหยียบคันเร่ง สลับไปเรื่อยๆงี้เหรอครับ สลับกันเร็วแค่ไหนเหรอครับ
ตอนเหยียบคันเร่งรถมันไม่พุ่งเหรอครับ
-
ถ้าน้ำสูงระดับใต้ท้องรถ
ผมลุยต่อ แต่ เว้นระยะห่างจากคันหน้า
พอประมาณ แต่ถ้าท่วมขอบประตู
ผมเว้นระยะเยอะขึ้น ค่อยไปลุย เลี้ยงคันเร่ง
ถ้าทางที่ไปท่วมระดับนี้ทั้งหมด ผมหาห้องเด็กแวะเลย ป่วยการลุยต่อ ถ่ายรูปรายงานผล จบข่าว ปิดมือถือด้วย แบตหมด น้ำลด
ค่อยกลับบ้าน
วิธีที่ดีที่สุดรวมตัวลูกบ้าน
ให้นิติ ปรับปรุงถนน ถ้าไม่มีเจ้าภาพ ก็เรี่ยไร ตามบ้าน
-
ก็ตามที่ว่ามานั่นแหละครับ
แต่กระจกเปิดเพราะไม่ให้มันเป็นฝ้ามากกว่าครับ ไม่เกี่ยวกับเรื่องช่วยไม่ให้เครื่องไม่ดับ
-
ถ้าต้องลุยสูงจริงๆ ถอดท่อดูดอากาศ+resonator ก่อนเข้ากรองอากาศครับ รถบางรุ่นท่อดูดอากาศเลื้อยลงด้านล่างตัวรถก่อนจะมุดขึ้นมาดูดอากาศเวลาลุยน้ำอาจจะดูดน้ำขึ้นมาด้วย โดยเฉพาะกล่องลดเสียง resonator ยาวๆจะมีรูเล็กๆรอบกล่องครับ
-
เกียร์ต่ำ ปิดแอร์ เปิดลม แง้มกระจก เลียเบรค เลี้ยงรอบให้สูงไว้ สูงแค่ไหน ดูตามเหมาะสม ไม่ช้าไม่เร็วเกินไป
แต่มี "เหนือกว่า" อีกนิด ถ้ามีผ้าหนาพอควร แบบผ้ากระสอบ เอาคลุมบริเวณกระจังหน้า หรือในส่วนด้านหน้า เพื่อลดแรงปะทะของน้ำ
นี่ก็ "สุดยอดเทคนิคลุยน้ำ" แล้ว
แต่ถึงจะทำทั้งหมดตามที่ว่าก็ไม่ได้บอกว่า "จะไม่ดับ" นะ แล้วแต่รถ แล้วแต่คน แล้วแต่ระดับน้ำ!!
-
เกียร์ต่ำ ปิดแอร์ เปิดลม แง้มกระจก เลียเบรค เลี้ยงรอบให้สูงไว้ สูงแค่ไหน ดูตามเหมาะสม ไม่ช้าไม่เร็วเกินไป
แต่มี "เหนือกว่า" อีกนิด ถ้ามีผ้าหนาพอควร แบบผ้ากระสอบ เอาคลุมบริเวณกระจังหน้า หรือในส่วนด้านหน้า เพื่อลดแรงปะทะของน้ำ
นี่ก็ "สุดยอดเทคนิคลุยน้ำ" แล้ว
แต่ถึงจะทำทั้งหมดตามที่ว่าก็ไม่ได้บอกว่า "จะไม่ดับ" นะ แล้วแต่รถ แล้วแต่คน แล้วแต่ระดับน้ำ!!
ชัดเจนจริงๆ ;D ;D ;D
-
ปิดแอร์ ขับช้าๆนั่นละ แต่ลุยบ่อยๆก็ไม่ดีนะครับ เคยเอาไปลุยครั้งนึงลูกสูบโก่งไปเลย
ถ้าลุยน้ำ มีเทคนิคอีกอย่างหนึ่งคือ อย่าขับลุยน้ำสูงเกินล้อรถ และขับด้วยความเร็วระหว่าง 40-80km/h
-
City ปีไหนครับ ถ้าปี 2009-2013 ท่อดูดมันอยู่ในห้องเครื่อง ความสูงเกือบเท่าฝาสูบ คือสูงกว่าล้อหน้าแน่ๆ และน่าจะสูงกว่าท่อดูดอากาศของ Cross ดังนั้น
City น่าจะลุยน้ำได้สูงกว่า Cross โดยที่เครื่องไม่ดับ แต่น้ำเข้าห้องโดยสารก็อีกเรื่องนึง
ทีนี้ ถ้าลุยน้ำ ให้เข้าเกียร์ L เร่งเครื่องรอบประมาณ 1500 ตามที่ จขกทบอกมาแหละครับ แต่ถ้าเร็วไป ก็เหยียบเบรคให้ผ้าเบรครีดจานไปด้วยยิ่งดีครับ จะได้ไม่มีอะไรไปติดระหว่างผ้าและจาน
ที่สำคัญ หลังจากลุยน้ำ ให้สตาร์ทเครื่องทิ้งไว้ หรือขับเร็วๆ หลังจากรีดน้ำออกจากผ้าเบรค และที่บ้านควรหา Blower ไว้เป่าลมใต้ท้องห้องเครื่อง เพื่อไล่น้ำที่ขังตามจุดต่างๆ และไล่ความชื้นไปในตัว ตอนที่เป่าสตาร์ทเครื่องไว้ก็ได้นะครับ
ผมเคยพลาด เอา BMW F30 ลุยน้ำ ทำแบบที่บอก แต่พอลุยเสร็จ ต้องเข้าห้องน้ำจอดในปั้มเลยดับเครื่อง พอสตาร์ทอีกรอบไฟโชว์แรค พวงมาลัยหนัก หมุนไม่ได้เลยครับ แต่โชคดี อยู่ใกล้ๆช่องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องใน เลนคลานเข้าไป สตาร์ทเครื่องไว้ เป่าลมใต้ท้อง ไล่น้ำออกให้หมด แล้วดับเครื่อง สตาร์ทใหม่ ไฟโชว์หาย ใช้งานได้ปกติจนถึงทุกวันนี้ครับ
-
สมัยน้ำท่วมใหญ่รถซิตี้ผม ลุยด้วยการเอาถุงดำมาปิดกระจังหน้า ปิดแอร์แง้มกระจกแล้วลุยเลยครับ