ไปหา Google เจอมาครับ อ่านแล้วมันเห็นภาพดีครับ
http://www.marketeer.co.th/inside_detail.php?inside_id=2220Grey Market / อ.อนุชิต เที่ยงธรรม
1. A market in which goods, having been manufactured abroad and imported legally, are sold. Such markets arise when there is a supply shortage, usually for exclusive goods, and offer goods for sale at lower prices than the equivalent goods manufactured in the home country.
2. A segment of elderly people (50 years old & over)
Globalization ทำให้การจำหน่ายและกระจายผลิตภัณฑ์หนึ่งๆ เข้าไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลกเป็นเรื่องปกติ แต่โดยความไม่สมบูรณ์ (Imperfect) ของ Global Market เช่น มีความแตกต่างของผู้ซื้อในแต่ละประเทศ พิกัดอัตราภาษี อัตราแลกเปลี่ยน Demand & Supply ฯลฯ ตลอดจนนโยบายของผู้ผลิตหรือเจ้าของผลิตภัณฑ์เอง ย่อมมีโอกาสทำให้ผลิตภัณฑ์อย่างเดียวกันจำหน่ายในราคาที่ต่างกันในต่างตลาด ต่างประเทศกัน มีผลให้เกิด Grey Market ขึ้น
Grey Market คือตลาดหรือการซื้อขายแลกเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ โดยที่ผู้จำหน่ายเป็นผู้นำเข้าโดยไม่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจากผู้ผลิตหรือเจ้าของผลิตภัณฑ์
Grey Market กับ Black Market
Grey Market แตกต่างจาก Black Market เพราะ Black Market หรือ ตลาดมืด นั้น เป็นการซื้อขายแลกเปลี่ยนที่ผิดกฎหมาย ถ้าเป็นกรณีของการนำเข้าผลิตภัณฑ์ ก็เป็นการลักลอบนำเข้าอย่างผิดกฎหมาย หรือเป็นของละเมิดลอกเลียนแบบ แต่ Grey Market เป็น สีเทา เนื่องจากเป็นตลาดของผลิตภัณฑ์แท้ที่นำเข้าอย่างถูกต้องตามกฎหมายและกติกา เพียงแต่ผู้นำเข้า(ตลอดจนผู้ส่งออกจากประเทศต้นทาง) นั้นมักจะไม่ใช่ผู้ที่บริษัทแม่ผู้เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ต้องการจะให้ดำเนินการ และบางกรณีเข้าข่ายละเมิดสิทธิในเครื่องหมายการค้า ตัวอย่างเช่น
- บริษัท Minolta ญี่ปุ่น ส่งกล้องถ่ายรูปให้กับ Distributor ในฮ่องกง โดยใน Level ของ Dealer ที่ฮ่องกงได้ตั้งราคาขายปลีกอยู่ที่ $174 เมื่อ Distributor ที่ฮ่องกงพบว่า ราคาขายปลีกกล้องรุ่นเดียวกันของ Dealer ที่เยอรมันนีอยู่ที่ $270 จึงส่งกล้องถ่ายรูปไปขายให้กับ Dealer ที่เยอรมันโดยตัดราคาขายจาก Distributor ที่เยอรมัน
- กระเป๋าสตรี Designers Brand Name ที่จำหน่ายในประเทศอังกฤษ ตั้งราคาจำหน่ายที่ 200 ปอนด์ด้วยเหตุผลหลักในเรื่องกำลังซื้อของผู้บริโภคและ Image เมื่อเทียบกับ Brand อื่นๆ แต่เมื่อส่งออกไปขายในอเมริกาใต้กลับตั้งราคาเพียง £100 ปอนด์ กระเป๋าสตรีนี้จึงกลับมาจำหน่ายในประเทศอังกฤษ (ในร้านที่ไม่ได้เป็นตัวแทนที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ) ในราคาเพียง £180
- Dealer รถยนต์อิสระสั่งรถยนต์จากประเทศเพื่อนบ้านมาจำหน่ายในราคาที่ถูกกว่ารถยนต์รุ่นเดียวกันที่ผลิตในประเทศ
ผู้ผลิตหรือบริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์กับ Grey Market
บริษัทผู้ผลิตมักไม่ต้องการให้เกิด Grey Market เนื่องจากไม่สามารถควบคุมได้ในเรื่องภาพลักษณ์ของตราผลิตภัณฑ์ การรับประกัน การบริการ และ เป็นสิ่งที่ทำให้ตัวแทนที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการเสียประโยชน์ แต่ในบางกรณี Grey Market ก็เป็นที่ยอมรับได้ของบริษัทแม่ผู้เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ เช่น กรณีที่ในประเทศนั้นไม่มี Distributor หรือ Distributor ไม่ต้องการทำตลาดผลิตภัณฑ์บางรุ่น และอีกเหตุผลที่สำคัญก็คือ Grey-market Product มักช่วยทำลายตลาดของลอกเลียนแบบ เนื่องจากเป็นของแท้แต่ขายในราคาถูก
Grey Marketing, Grey-market Product, Grey Marketer
Grey Marketing หมายถึงการนำเข้าผลิตภัณฑ์โดยนอกเหนือจากช่องทางการจำหน่ายที่เป็นทางการของผู้ผลิตหรือบริษัทแม่ผู้เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ คำอื่นๆ ที่ใช้แทน Grey Marketing ก็คือ Parallel Imports หรือ Parallel Distributions และผู้ดำเนินการก็คือ Grey Marketer
Grey-market Product หรือ Grey Goods ก็คือผลิตภัณฑ์ที่ถูกเสนอขายโดยผู้จำหน่ายที่ไม่ได้เป็นตัวแทนที่ได้รับการแต่งตั้งจากผู้ผลิตหรือเจ้าของสินค้า Grey-market Product ที่พบเห็นทั่วไปได้แก่ น้ำหอม นาฬิกา เครื่องใช้ไฟฟ้า กล้องถ่ายรูปและฟิล์ม สินค้าแฟชั่นต่างๆ
และรถยนต์ ฯลฯ ซึ่งมักมีราคาถูกกว่า และ/หรือเป็นรุ่นใหม่กว่าที่มีอยู่ในตลาด แต่ในการซื้อ Grey-market Product ก็มีข้อพึงระวัง เช่น
- ไม่มีการรับประกัน การบริการหลังการขาย การ Upgrade
- คู่มือการใช้มักเป็นภาษาอื่น
- ผลิตภัณฑ์ประเภท Software มักมีข้อกำหนดว่าห้ามจำหน่ายจ่ายโอนต่อ หรือระบุการให้สิทธิ์เฉพาะภายในประเทศ และอาจถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ นอกจากนี้ยังมักจะมี Version ที่แตกต่างกันระหว่างต่างประเทศกันด้วย
- ผลิตภัณฑ์อาจเป็นของใช้แล้ว หรือไม่ผ่านการทดสอบอย่างถูกต้อง หรือเสื่อมคุณภาพระหว่างการขนส่ง
- การอาจไม่ผ่านข้อกำหนดทางกฎหมายด้านอื่นๆ ทำให้ผู้ซื้อต้องเป็นผู้รับผิดชอบแก้ไขให้ถูกต้องเองGrey Market: The Segment of Elderly People
ในอีกความหมายหนึ่งที่ใช้ในทางการตลาด Grey Market จะหมายถึง Segment ของกลุ่มผู้สูงวัยที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็น Segment ที่นักการตลาดทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญอย่างมาก เป็นกลุ่มที่นักการตลาดเรียกว่า Older Richer and Wiser ตัวอย่างความสำคัญและความน่าสนใจของ Grey Market ก็คือ
- เป็นกลุ่มผู้มีความมั่งคั่งสูงสุดกลุ่มใหญ่ที่สุด
- หากนับรวมกลุ่มนี้ลงไปถึงอายุ 45 ปีแล้ว นักการตลาดพบว่าเป็นกลุ่มที่ควบคุมด้านการเงินและการใช้จ่ายถึงกว่า 80% ของการบริโภคทั้งประเทศ
- อายุยืนมากขึ้น มีแนวโน้มว่าน่าจะถึง 78 ปี (ชาย 75 หญิง 81)
- มีกำลังซื้อสูง ใช้จ่ายมาก โดยเฉพาะในด้านการท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจ
- เป็นกลุ่มที่เรียกว่า Experienced Consumers มีความรู้ ฉลาดเลือก ไม่อดทนกับการบริการที่ไม่ดีแต่ยินดีจ่ายสำหรับบริการที่ดีกว่า ไม่ซื้อแบบฉับพลัน (Impulse Buying) และไม่เห่อตามแฟชั่น
- ต้องการผลิตภัณฑ์และบริการเฉพาะสำหรับตน
- ผลการวิจัยชิ้นหนึ่งในสหรัฐฯ พบว่า 70% ของกลุ่มผู้บริโภคที่อายุ 65 ปี พร้อมจะเปลี่ยนตราทันที หากพวกเขาเห็นว่า ตรานั้นๆ ไม่สื่อสารกับพวกเขาอย่างเหมาะสม.
ฉบับที่ 39 พฤษภาคม 2546
ของมันก็อธิบาย ตัวของมันเองอยู่แล้วน่ะครับ คนที่รับได้กับความเสี่ยงในแง่ของคุณภาพ จะแลกมาด้วยราคาที่ถูกกว่าเป็นธรรมดา ครับ