Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: SP ที่ พฤศจิกายน 16, 2018, 21:18:09
-
อยากจะขอคำแนะนำจากพี่ๆที่มีประสบการณ์ในการซืือรถคันแรกครับ
ผมมีความคิดวนอยู่ในหัวมาซักพักแล้วว่าอยากจะซื้อรถไว้ใช้ซักคัน ในวันที่กรุงเทพฝนตกน้ำท่วม หรือเวลากลับบ้านต่างจังหวัดระยะทาง 500-600 กม. บนถนนมิตรภาพ
ซึ่งที่ผมมองไว้ๆรถใหม่มี Jazz GK, Ranger limited ลามไปถึง Triton ใหม่ที่เพิ่งมา จนล่าสุดลามไปรถมือสองแบบ Camry acv40, Accord g8 จนไปถึง CRV g3 แล้วครับ
ด้วยความที่ขับอะไรก็ได้ที่วิ่งได้สบาย ในเมืองไปได้ ต่างจังหวัดโอเค ตัวเลือกมันเลยออกทะเลไปเรื่อยๆ ไม่มีจบเลยครับ
เลยอยากจะขอคำแนะนำจากพี่ๆครับว่าเด็กหนุ่มวัย 22 เพิ่งเริ่มทำงานหมาดๆ รายรับ 25000 เก็บสบายๆเดือนละหมื่น ควรไปทางไหนดีครับ
ปล.แต่กว่าจะพร้อมคงอย่างน้อยปี 2020 เลยครับ คงไม่เร็วเกินไปที่จะถามคำถาม ถือซะว่าคุยกันเล่นๆเล่าสู่กันฟังแบบพี่สอนน้องก็ได้ครับ แหะๆ
-
หา size รถที่ต้องการ ราคาที่ต้องการจ่าย
ไม่งั้นมันจะไปถึง 10 ล้อได้
-
1. งานประเภทไหน มีแนวโน้มพัฒนาไหม เป็นเอกชน รัาชการ รัฐวิสาหกิจ
2. รู้จักรถดีแค่ไหน ทำอะไรได้บ้าง
3. ทำไมถึงต้องซื้อ คิดดีๆว่าจำเป็นไหม เช่น ไปต่างจังหวัด เลือกเช่ารถไปโอเคไหม ฝนตกน้ำท่วมเรียก Grab ได้ไหม
:) :) :)
ถามเล่นๆก่อน เก๋็บสบายเดือนละหมื่น ถ้าผ่อนรถห้าแสน ดาวน์ซัก2แสน เดือนละหมื่น ตีให้ผ่อน 7000 เหลือ 3000 ค่าน้ำมันค่าทางด่วน ค่าเข้าศูนย์ละ ประกันละ ::) ::)
-
หา size รถที่ต้องการ ราคาที่ต้องการจ่าย
ไม่งั้นมันจะไปถึง 10 ล้อได้
ผมคิดไว้ว่าอยากผ่อนในระยะเวลา 5 ปีไม่เกินหมื่น ดาวน์ราวๆ 4 แสนเก็บเงินซัก ปีนึง ถ้ารถมือสองไม่อยากให้เกิน 4 แสนเช่นกันครับ
1. งานประเภทไหน มีแนวโน้มพัฒนาไหม เป็นเอกชน รัาชการ รัฐวิสาหกิจ
2. รู้จักรถดีแค่ไหน ทำอะไรได้บ้าง
3. ทำไมถึงต้องซื้อ คิดดีๆว่าจำเป็นไหม เช่น ไปต่างจังหวัด เลือกเช่ารถไปโอเคไหม ฝนตกน้ำท่วมเรียก Grab ได้ไหม
:) :) :)
ถามเล่นๆก่อน เก๋็บสบายเดือนละหมื่น ถ้าผ่อนรถห้าแสน ดาวน์ซัก2แสน เดือนละหมื่น ตีให้ผ่อน 7000 เหลือ 3000 ค่าน้ำมันค่าทางด่วน ค่าเข้าศูนย์ละ ประกันละ ::) ::)
ทำงานบริษัท R&D ยานยนต์ครับ จบวิศวะยานยนต์มา พอมีความรู้อยู่บ้าง คนรอบตัวน่าจะพอช่วยได้
ปกติเวลากลับบ้านจะนั่งเครื่องบินกลับครับ แต่ในบางเวลาอย่างเทศกาล ตั๋วเครื่องบินแพงมากจนคิดว่าขับรถกลับคุ้มกว่า
ส่วนเงินค่าบำรุงรักษามีคิดไว้บ้างครับ เลยมีแวบนึงที่คิดไว้ว่า Jazz GK คงเหมาะที่สุด
-
จำกัดความต้องการที่แท้จริงให้ได้ก่อนครับ ว่าต้องการแบบให้ ให้สโคปมันแคบลงไม่งั้นเลือกยากครับ
ถ้าไม่คิดแต่งรถ เงินเดือนประมาณนี้เอาเข้าจริงๆก็มีตึงๆมือบ้างเหมือนกันนะครับ ค่าใช้จ่ายแฝงในการดูแลรถมีเยอะนะครับ
ไหนจะค่าเมนเทนแนนซ์ทุก 10,000 โล ค่าน้ำมัน ทางด่วน ขับๆไปยางแตก เกิดอุบัติเหตุ ค่าภาษี ค่าประกัน ค่าที่จอด ค่าล้างรถ และอีกเยอะครับ
ถ้าถามว่าเงินเดือนระดับนี้ออกรถได้ไหม ผมว่าได้ แต่อาจจะมีตึงมือบ้าง ลองคิดดูครับ ถ้าสบายๆก็ 30k+ ดีกว่า (สายงานของ จขกท.อีกไม่กี่ปีคงถึง)
ปล.ถ้าคิดจะฝ่าน้ำท่วมใน กทม รถกระบะยกสูงเหมาะกว่า Jazz GK เยอะครับ
-
อยากจะขอคำแนะนำจากพี่ๆที่มีประสบการณ์ในการซืือรถคันแรกครับ
ผมมีความคิดวนอยู่ในหัวมาซักพักแล้วว่าอยากจะซื้อรถไว้ใช้ซักคัน ในวันที่กรุงเทพฝนตกน้ำท่วม หรือเวลากลับบ้านต่างจังหวัดระยะทาง 500-600 กม. บนถนนมิตรภาพ
ซึ่งที่ผมมองไว้ๆรถใหม่มี Jazz GK, Ranger limited ลามไปถึง Triton ใหม่ที่เพิ่งมา จนล่าสุดลามไปรถมือสองแบบ Camry acv40, Accord g8 จนไปถึง CRV g3 แล้วครับ
ด้วยความที่ขับอะไรก็ได้ที่วิ่งได้สบาย ในเมืองไปได้ ต่างจังหวัดโอเค ตัวเลือกมันเลยออกทะเลไปเรื่อยๆ ไม่มีจบเลยครับ
เลยอยากจะขอคำแนะนำจากพี่ๆครับว่าเด็กหนุ่มวัย 22 เพิ่งเริ่มทำงานหมาดๆ รายรับ 25000 เก็บสบายๆเดือนละหมื่น ควรไปทางไหนดีครับ
ปล.แต่กว่าจะพร้อมคงอย่างน้อยปี 2020 เลยครับ คงไม่เร็วเกินไปที่จะถามคำถาม ถือซะว่าคุยกันเล่นๆเล่าสู่กันฟังแบบพี่สอนน้องก็ได้ครับ แหะๆ
ผมคิดว่าเงินของ จขกท. ค่อนข้างตึงมือนะ ผมเคยผ่อนรถมาสองคัน บอกได้เลยว่าอึดอัดมากๆ ถ้าผมเป็นจขกท. ผมจะเก็บเงินซื้อรถเงินสดครับ จะรถใหม่หรือรถเก่าก็ได้ เงินที่เก็บได้เดือนละ 10,000 บาทควรจะถูกใช้เป็นค่าน้ำมัน ค่าทางด่วน ค่าปรับ ค่าใช้จ่ายอื่นๆของตัวรถ ไม่ควรจะมีค่าผ่อนอะไรอีก
-
ถ้าคิดไว้ลุยน้ำท่วม ตัดประเภทเก๋งออกไปก่อนได้ครับ
ถ้าคิดว่าปี20 ถึงจะพร้อมออก ก็เก็บเงินรอไว้เรื่อยๆครับ ตอนนั้นน่าจะมีรุ่นใหม่ๆออกมาอีกเยอะ อีกเกือบสองปี บางทีแนวคิดหรือสไตล์การใช้ชีวิตอาจจะเปลี่ยน และตอนที่เงินในกระเป๋าพร้อมแล้วจะตัดสินใจได้ง่ายกว่าครับ
-
ความคิดผม คิดว่าอาจจะตึงเกินไปหน่อย
แต่หากว่า กว่าจะออกจริงปี 2020ความคิดอาจจะเปลี่ยนไปแล้วก็ได้
บางทีอาจจะเป็นความอยากแค่ชั่วคราว
ลองคิดไปเรื่อยๆก่อนได้ครับ
ปล. บริษัท ย่านรามอินทราหรือเปล่าครับ
-
ป่านนั้นคงมีตัวเลือกเพิ่มขึ้น งั้นขอเสนอ Jazz กับ City เครื่อง 1.0T ที่จะเปิดตัวปี 2019 ไว้ล่วงหน้า ยังไงก็ใช้ได้ยาว แต่งสนุก ขายต่อราคาดี เหลือตังไปดาวน์คันใหม่อีกรอบ
-
ผมจบมา ทำงานรัฐวิสาหกิจ เงินเดือนไม่เยอะ แต่ก็ใช้รถไม่เยอะ ขับไปกลับวันละไม่เกิน 15 km แต่มีความจำเป็นต้องใช้ และเคยขับกลับบ้านลงใต้มาแล้วครั้งหนึ่ง รถที่ใช้คือ Jazz GK คิดว่าไม่ผิดหวัง ทั้งการบำรุงที่ไม่ต้องทำอะไรมาก บำรุงตามระยะ ขับคล่อง หาที่จอดสะดวก ย้ายคอนโดมา 2-3 ครั้ง ฟังก์ชั่นพับเบาะช่วยได้มากจริงๆ ใช้มาเข้าปีที่ 4 แล้ว คิดว่าคงใช้ต่อไปอีกยาวๆ เพราะไมล์ 34,000 อยู่เลย ^^
-
วัยเริ่มทำงานใหม่ๆ เห็นด้วยกับพวก Jazz นะครับ ถ้ารูปแบบรถลงตัวกับการใช้งาน
ส่วนเรื่องรถมือสอง กว่าจะปี 2020 ในตอนั้น งบประมาณที่ตั้งไว้ น่าจะได้ acv50 กับ g9 แล้วล่ะครับ
-
ผมตอบเรื่องรถนะครับ อันนี้เว็บรถเรื่องการเงินไปหาวิธีเอาเองครับเชื่อว่าจ่ายได้ครับ ตัด G8 , Acv40ทิ้งไปเลยครับเก่าไปแล้ว ถ้าจะซื้อ 2020 ได้ G9, Acv50 สบายครับแต่ผมไม่ค่อยเชียร์นะมันกินน้ำมันและมีซ่อมแน่ครับ Jazz & city ใหม่ Mazda 2 ใหม่ ครับผมเชียร์นะ 3 รุ่นนี้ ซื้อ 2020 มันออกทันอยู่ทั้ง3 รุ่นครับ หรือจะเป็น civic fc ตัว1.8 ตอนปี 2020 ราคามือ2 ก้น่าจะจ่ายไหวแล้วครับ ยิ่งถ้า mazda3 ตัวตอนนี้ยิ่งสบายครับมือ2 ราคาลงเยอะ ลองดูครับ มีน่าสนหลายตัว
-
ทำงานใหม่ๆ มีรายรับเดือนละ 25K และซื้อรถภายในปี 2020 ซึ่งมีเวลาอีก 2 ปี
ในตอนนั้นคุณอาจจะสามารถซื้อรถ C-Segment หรือ B-Segment SUV ไหวแล้วก็ได้ครับ
มีคนที่ผมรู้จักบางคนทำงานใหม่ๆได้เดือนล่ะ 25K ทำไป 2-3 ปี ได้ประมาณ 50K
ซึ่งถ้าเป็นไปตามนี้จริงๆ ก็สามารถซื้อได้หลายรุ่นครับทั้ง Civic, Altis, Mazda3, HRV, CHR
แต่ถ้าจะเน้นประหยัดค่าใช้จ่าย ค่าบำรุงรักษา และค่าประกัน ก็คงต้องดูเป็น B-Segment
ซึ่งในตอนนั้น Jazz, City, Mazda 2 โฉมใหม่เครื่องใหม่ก็จะเปิดตัวออกมาพอดีครับ
ซึ่งพอถึงตอนนั้นแล้วค่อยตัดสินใจกันอีกทีนึงก็ยังไม่สายครับ
แต่ที่ผมจะแนะนำคือ ถ้าจะซื้อรถจริงๆ ช่วงระหว่างนี้ก่อนที่จะถึงปี 2020
อยากจะให้คุณเก็บเงินไว้สำหรับดาวน์เยอะๆครับ จะได้ผ่อนน้อยๆ ดอกเบี้ยน้อยๆครับ
-
ถ้าซื้อมาใช้บางครั้งบางคราวอย่าเลยครับ แต่ถ้าใช้ประจำทุกวันโอเคครับ จุดประสงค์ของรถยนต์มีไว้ให้ความสะดวกสบายในการเดินทางเพิ่มขึ้น รวดเร็วขึ้น และสามารถขนของไปไหนมาไหนได้ แต่รายจ่ายก็เพิ่มขึ้นเยอะครับ ทั้งค่ารถ ค่าดูแล ค่าน้ำมัน ค่าเสื่อม และยังต้องหาที่จอดรถอีกด้วย
รถคันแรกอยากแนะนำให้ใช้รถเล็กก่อนครับ ประมาณ B-Seg จะได้ไม่กระทบค่าใช้จ่ายมากทั้งค่าตัวและค่าบำรุงรักษา ในเมืองคล่องตัว จอดง่าย ส่วนรุ่นไหนลองดูความต้องการที่จะใช้ในชีวิตประจำวันดูครับ
เวลาเทศกาลบนถนนมิตรภาพรถติดมากครับ หวังว่ามอเตอร์เวย์ที่สร้างอยู่จะช่วยได้ เป็นผมถ้าอยู่จังหวัดที่มีสนามบินผมยอมบินไปดีกว่าครับ อยู่บนถนน 5-6 ชั่วโมงรถติดๆทั้งเครียดทั้งเหนื่อย รอจนรถไฟความเร็วสูงเปิดใช้ค่อยดูเป็นอีกทางเลือกครับ
-
เงินเดือนสองหมื่นห้าเหลือเดือนละหมื่น condition เดียวกับสมัยผมจบใหม่ๆเมื่อสิบกว่าปีมาแล้ว
บอกตรงๆสมัยนั้นผมซ่าถอยแค่ยาริสหกแสนกว่าบาทยังจุกเลยครับ ซื้อรถมาจอดไม่กล้าใช้จะเติมน้ำมันจะ services แต่ละทีคิดแล้วคิดอีก
แนะนำมีเงินเก็บก็ซื้อสดหรือผ่อนไม่เกินห้าพันพอไหวแบบตึงๆ ฝืนซื้อชีวิตจะลำบากเบื่องานก็ต้องทนทำ โอกาสลงทุนดีๆผ่านมาก็ไม่มีเงิน ลองพิจารณาดูครับ
-
ขับกลับบ้านบ่อยแค่ไหน ถ้าบ่อยส่วนตัวผมชอบDsegmentมือสอง+lpg
ถ้าไม่บ่อยเอารถเล็กแบบแจ๊สดีกว่า ประหยัด คล่องตัว ไม่แพง
ส่วนน้ำ มันไม่ได้ท่วมบ่อยๆครับ รถเก๋งเต็มกรุงก็ยังขับกันได้
-
น้องจะออกรถตอนปี 2020 ตอนนั้น รายรับรายจ่ายน้องน่าจะปรับเปลี่ยนไปเเล้ว เลยใช้โจทย์ปัจจุบันมาคิดได้ยาก ถึงเวลานั้นน้องอาจรายได้สูงขึ้นจนโจทย์ขยับไปหารถที่เเพงขึ้นก็ได้
เเต่ถ้าให้เอาโจทย์ รายได้-รายจ่ายปัจจุบัน มาคิด พี่ว่าตึงมือไปหน่อยครับ คงต้องเชียเป็นเเจส หรือเก๋งมือ2 ไปก่อน
-
มือใหม่ เป็นรถคันแรก แนะนำเป็นรถใหม่ดีกว่าครับ
พวก b segment เครื่อง 1500 ก็พอ
ระหว่างนี้ก็เก็บเงินวาง down payment เยอะๆ ผ่อนต่องวดจะได้ไม่ตึงครับ
-
อยากได้ก็จัดครับ อย่าคิดมาก เก็บเงินต่อเดือนให้ได้มากกว่านี้และดาวน์ซักครึ่งนึงของราคารถจะผ่อนสบาย
ถ้ารายได้ไม่เยอะและใช้รถน้อยก็ไม่ต้องสนรถใหญ่รถแพง มันไม่คุ้มอย่างแรง
ชีวิตคนเรามันต้องมีบ้านมีรถ ถ้ารอเงินเหลือจริงๆ ถึงจะซื้อคงไม่ต้องซื้อกันพอดี เพราะมนุษย์เงินเดือนที่รายได้ขนาดนั้นคงมีแต่ระดับบอร์ดบริหารแหละครับ
-
สิ่งที่ต้องคำนึงถึง นอกจากค่าผ่อนรถแล้ว จะมีค่า
- Maintenance ตามระยะทาง (ซึ่งเวลาจ่ายจริงจะมากกว่าคู่มือที่ให้มา)
- ค่าประกันภัยประจำปี
- ค่าภาษีประจำปี
- ยางรถยนต์ทุกๆ 3 ปี
- ฯลฯ
- เริ่มต้นเลือกรถที่ทนทาน เชื่อถือได้ ค่าดูแลต่ำ โดยมากจะเป็นรถกระบะสายพันธ์ญี่ปุ่น ต่อจากนั้นเมื่อมั่นคงขึ้นจึงค่อยพัฒนาต่อไป
- ที่สำคัญ ตลอดระยะเวลาผ่อนส่ง ควรมีผู้ที่สามารถ Support ช่วยผ่อนต่อสำหรับในกรณีมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้ทำให้เราต้องสะดุดการผ่อนส่ง เช่น การเปลี่ยนงาน ค่าใช้จ่ายฉุกเฉินเกี่ยวกับสุขภาพ ไม่เช่นนั้นสิ่งที่ทำมาตลอดจะหายหมด
+++ หรืออาจเก็บเงินสดซื้อรถเก๋งมือ 2 ก็ไม่เลว ตัวอย่างเช่น Toyota Yaris รุ่นแรกๆ ราคาไม่น่าเกิน 200,000 บาท ก็วิ่งไปถึงปลายทางเหมือนกัน บางทีวิธีการนี้จะทำให้มีคุณภาพชีวิตดีกว่าการซื้อรถใหม่ ราคาสูง แต่ต้องอดทน ไม่มีค่าใช้จ่ายที่จะได้รับการรักษาพยาบาลดีๆ กินของดีๆ ไปเที่ยวดีๆ เป็นต้น +++
-
สำหรับความคิดผมถ้ายังเดินเหินอยู่คนเดียวจะยังไม่ซื้อครับ มีเมียมีลูกเมื่อไหร่ถึงค่อยซื้อ (ขออภัยถ้าผิดแนว แต่ผมคิดและปฏิบัติมาแบบนี้จริงๆ)
-
ขอบคุณพี่ๆทุกท่านครับ ได้ความคิดดีๆ มีสติเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลยครับ
-
กระบะ หรือไม่ก็ b-seg 1.5 ครับ คันแรก อายุ รายรับประมาณนี้ อาจตีกรอบเท่านี้ไปก่อน
ตอนซื้ออาจดูเหมือนพอๆกับ d-seg มือ 2 แต่ในชีวิตจริงระดับราคาในเรื่องต่างๆก็ตามประเภทรถเลย
เช่น ประกัน ค่าอะไหล่ ค่าซ่อม
d-seg ขับดีจริง แต่ถ้ามีอายุแล้ว เข้าซ่อมทีมีแตะหลักหมื่นตลอดครับ
-
ถ้าย้อนเวบากลับไปได้ ผมจะเก็บเงินให้มากที่สุด รถเป็นของสิ้นเปลืองตั้งแต่ซื้อและซ่อม
ยกเว้น เอารถมาประกอบอาชีพ
การซื้อรถที่ผมว่าตัวเองคิดถูกที่สุด คือซื้อตอนมีลูก เพราะใข้นั่งทั้งครอบครัว
ผมเคยขายรถตอนเรียน ปริญญาโท เพราะคิดว่าเปลืองค่าซ่อม นั่งรถเมล รถไฟฟ้า ต่อเรือ
สมัยนั้นจักรยานไม่นิยม เสียดายไม่งั้นขี่จักรยานด้วยแน่ๆ จนกระทั่งเรียนจบทำงานสักพักถึงใช้รถ ไป ตจว ไกลๆนั่ง low cost airline แล้วเช่ารถเอา
รถคือรายจ่ายล้วนๆ ขอให้ซื้อเมื่อพร้อมจะได้สยายตัว
-
หากใช้งานไม่ได้ในเมืองมุดเข้าซอยมากมาย
ไปกะบะยกสูงก็ได้นะครับ 8) ใช้ยาวเลย
-
มีเงินดาวน์ตั้งสี่แสน ลองมองมือสองเงินสดดีมั๊ยหละครับรถไม่เกินสี่ปีอยู่ในงบนี้เยอะแยะเลย เน้นหล่อก็ Civic FC มือสองแต่ราคาตอนนั้นอาจจะราวๆห้าแสน เน้นลุยก็กระบะสี่ประตูยกสูง
-
ถ้าประมาณผมว่ากระบะโอเคเลยครับตัวไหนแล้วแต่ชอบเลยด้วย
ขับต่างจังหวัดนี่ผมไม่ขับ B segment แน่ๆ จขกท ทำงานในกทม. เป็นหลักอาจจะไม่ต้องรีบซื้อรถ
ผมอายุ25 ผ่อนรถเดือนละ 26 k ยังขี้เกียจเลยครับ ถ้าไม่ติดว่าทำงานตจว. ซื้อ swift ขับและ >:(
-
ถ้าคิดว่างานมั่นคง อยู่ได้ อยู่จนรถหมดไม่มีปัญหาแน่นอน เอาได้ แต่ที่บอกมามันก็หนักอยู่
น้องผมก็ประมาณนี้ ก่อนออกวาดภาพไว้สวยมาก พอผ่อนไปได้ครึ่งเดียว มีปัญหาที่ บ. จนออกจากงาน งานเข้าครับ ถ้าทางบ้านไม่ช่วย ปลิวไปนานแล้วครับ
งาน บ. ไม่มีอะไรแน่นอน รีบจบให้เร็วที่สุด อย่ายืดเยื้อ มันจะจุกแทน
-
ส่วนตัวคันแรก เอาตามความฝันของเรา ที่เราเคยชอบ ซื้อใด้จริง
รถที่ไม่ชอบ อยู่ด้วยกันตลอด คงไม่ดี
คันที่สอง ถ้าเป็นคันเดียวกับคันแรกใด้ก็ดี มีครอบครัว มีลูก
รถมันอาจต้องเปลี่ยนให้เหมาะสม
เรื่องรายใด้ การงานดีๆ ก็ถอยรถเผื่ออนาคตใด้เลย คือตึงมือ
ในตอนนี้ ใด้รถที่แพงขึ้น ปีหน้าปรับเงินขึ้น เราไม่ต้องมานั่ง
เสียดาย เสียตังในการเปลี่ยนรถไปคันที่ชอบ ที่เตือนแบบนี้
เพราะเจอมาเยอะ
-
อายุยังน้อย สิ่งที่เสียเงินกับมันแล้วคุ้มค่าที่สุดคือการลงทุนเพื่อพัฒนาตัวเอง เช่น คอร์สอบรมต่าง อสังหา ลงทุนในหุ้น ส่งเสียตัวเองเรียนโท หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เราชอบ และหาแนวทางตัวเองให้เจอครับ ส่วน รถไม่มีก็ดี แต่ถ้าจำเป็นต้องมี ก็มีได้แต่อยากให้ดูคันที่ถูกที่สุดที่พอใช้งานได้ และเป็นมือหนึ่ง เพื่อที่จะไม่ต้องมาปวดหัวทีหลัง
-
วัยเริ่มทำงานเหมือนกัน ทำได้ 4-5 เดือน ใช้รถที่บ้านครับ ค่าใช้จ่ายที่เยอะที่สุดตอนนี้คือค่าเดินทาง แก๊ส + ทางด่วน + ยาง + ประกัน ฯลฯ รวมกันก็เดือนละครึ่งหมื่นแล้ว วัยนี้ผมยอมใช้รถธรรมดา เอาเงินไปเพิ่มคุณภาพชีวิตด้านอื่น ทั้งการกิน การเที่ยว เรียนต่อ อบรมสัมนา Jazz น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดี รถเล็กขับในเมืองง่าย หาที่จอดง่าย เครื่องแรง วิ่ง 500-600 กม. สบายอยู่แล้ว ทรงรถ และฟังก์ชั่นพับเบาะ ตอบโจทย์ตอนขนของไปเที่ยว ซื้อของเข้าบ้านได้ดี ใช้ไปยาวๆยันมีแฟนได้เลยครับ จะได้เหลือตังไว้เรียนต่อ แต่งงาน สร้างบ้าน ส่วนผมตอนนี้ยังไม่ซื้อรถ โยนตังลงพอร์ตหุ้น ประกัน สลากออมสิน กับคอร์สสัมนารัวๆ ไว้คิดอีกทีตอนมีครอบครัว คงจบที่ D-segment มือสอง
-
เรื่องรุ่นรถ มีเวลาอีกหลายปี ค่อยๆเลือกไปครับ จะลองเช่ามาขับเล่นไปพลางๆ
ระหว่างนี้ แนะนำเก็บเงินแบบซ้อมผ่อนรถ ซ้อมใช้จ่ายแบบมีรถครับ
เช่น คำนวณว่า รถที่จะซื้อราคาเท่าไร ผ่อนเดือนละเท่าไร ก็เก็บเงินไปเดือนละเท่านั้น เท่ากันทุกเดือน
แล้วเก็บเป็นค่าน้ำมันต่อสัปดาห์ ค่าเช็คระยะ ค่าอื่นๆ
ถ้าซ้อมแบบนี้ ก็รู้สึกสบายดี ไม่เดือดร้อนค่าใช้จ่ายอื่น
ถึงปี 2020 ที่ตั้งไว้ ก็จัดไปเลยครับ
-
ผมไม่เห็นว่าจะมีปัญหาอะไรเลย ถ้าไม่เป็นคนใช้เงินเก่ง ไม่มีภาระที่บ้าน ไม่เที่ยว/กิน ทุกอาทิตย์
และดาวน์ 4 แสน กับเหลือเก็บเดือนละหมื่นได้จริง ซื้อ B-seg/Eco ไปเลยครับ
-
ตอนเราเริ่มทำงานเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เงินเดือนพอๆกับคุณ SP (22K บาท) เราออก Mazda 2 ดีเซลมาใช้ โดยเป็นเงินเก็บ 200K บาท + ที่บ้านช่วยอีก 500K บาท (ผ่อนคืนก็ได้ / ไม่คืนก็ได้)
ตอนนั้น ไม่มีภาระอะไร ยังอยู่กับที่บ้าน รถก็ยังไม่มีค่าใช้จ่ายใหญ่ๆ นอกจากค่าน้ำมันรถ เก็บเงินเดือนละ 10K บาทได้สบายๆ
พอเงินเดือนขึ้น มีช่วงนึงที่มีความคิดว่าจะเปลี่ยนรถเป็น C-Segment ซะด้วยซ้ำ
พอเข้าปีที่สองเท่านั้นแหละ เราถึงมาค้นพบว่าการเป็นผู้ใหญ่นั้น มีค่าใช้จ่ายมากกว่าที่เราคิด
- เงินฝากประจำ (10K บาท /เดือน)
- ประกันสังคม (750 บาท /เดือน)
- กองทุน LTF (10K - 15K บาท /ปี)
- ประกันสะสมทรัพย์ (35K / ปี)
รถยนต์เอง ก็มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เราไม่ได้คิดถึงในตอนแรก
- ประกันภัยรถยนต์ (20K บาท /ปี)
- ภาษีรถยนต์ (1.5K บาท /ปี)
- ค่าบำรุงรักษา (2-3K บาท /6 เดือน)
- ค่าผ่อนรถยนต์ (3-5K บาท /เดือน)
- น้ำมัน (2-3K บาท /เดือน)
- ที่จอดรถยนต์ (2.7K บาท /เดือน)
- ค่าล้างรถ (300 บาท /เดือน)
อันนี้ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน รวมถึงค่าใช้จ่ายเดือนอื่นๆที่ได้มาเพราะกิเลส (ค่าผ่อนโทรศัพท์มือถือ ค่าผ่อนล้อแมกซ์) ตอนนี้เงินเดือน 35K บาท ยังช็อตในหลายๆเดือนเลยค่ะ ;D
.
.
เราไม่แน่ใจว่าการปรับเงินเดือนในสายงานของคุณ SP เป็นอย่างไรบ้าง แต่ถ้าให้แนะนำ ส่วนตัวคงแนะนำให้ซื้อรถไม่เกิน B-Segment หรือว่าถ้าอยากได้สูงหน่อย อาจจะเขยิบไป Expander/BR-V
สำหรับตัวเราเอง ถ้าเงินเดือนยังไม่ถึง 50K บาท คงต้องพับโปรเจกต์ขยับไป C-Segment ไปอีกสักพักนึงเลยค่ะ
-
ตอนเราเริ่มทำงานเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เงินเดือนพอๆกับคุณ SP (22K บาท) เราออก Mazda 2 ดีเซลมาใช้ โดยเป็นเงินเก็บ 200K บาท + ที่บ้านช่วยอีก 500K บาท (ผ่อนคืนก็ได้ / ไม่คืนก็ได้)
ตอนนั้น ไม่มีภาระอะไร ยังอยู่กับที่บ้าน รถก็ยังไม่มีค่าใช้จ่ายใหญ่ๆ นอกจากค่าน้ำมันรถ เก็บเงินเดือนละ 10K บาทได้สบายๆ
พอเงินเดือนขึ้น มีช่วงนึงที่มีความคิดว่าจะเปลี่ยนรถเป็น C-Segment ซะด้วยซ้ำ
พอเข้าปีที่สองเท่านั้นแหละ เราถึงมาค้นพบว่าการเป็นผู้ใหญ่นั้น มีค่าใช้จ่ายมากกว่าที่เราคิด
- เงินฝากประจำ (10K บาท /เดือน)
- ประกันสังคม (750 บาท /เดือน)
- กองทุน LTF (10K - 15K บาท /ปี)
- ประกันสะสมทรัพย์ (35K / ปี)
รถยนต์เอง ก็มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เราไม่ได้คิดถึงในตอนแรก
- ประกันภัยรถยนต์ (20K บาท /ปี)
- ภาษีรถยนต์ (1.5K บาท /ปี)
- ค่าบำรุงรักษา (2-3K บาท /6 เดือน)
- ค่าผ่อนรถยนต์ (3-5K บาท /เดือน)
- น้ำมัน (2-3K บาท /เดือน)
- ที่จอดรถยนต์ (2.7K บาท /เดือน)
- ค่าล้างรถ (300 บาท /เดือน)
อันนี้ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน รวมถึงค่าใช้จ่ายเดือนอื่นๆที่ได้มาเพราะกิเลส (ค่าผ่อนโทรศัพท์มือถือ ค่าผ่อนล้อแมกซ์) ตอนนี้เงินเดือน 35K บาท ยังช็อตในหลายๆเดือนเลยค่ะ ;D
.
.
เราไม่แน่ใจว่าการปรับเงินเดือนในสายงานของคุณ SP เป็นอย่างไรบ้าง แต่ถ้าให้แนะนำ ส่วนตัวคงแนะนำให้ซื้อรถไม่เกิน B-Segment หรือว่าถ้าอยากได้สูงหน่อย อาจจะเขยิบไป Expander/BR-V
สำหรับตัวเราเอง ถ้าเงินเดือนยังไม่ถึง 50K บาท คงต้องพับโปรเจกต์ขยับไป C-Segment ไปอีกสักพักนึงเลยค่ะ
ขอบคุณพี่มากครับที่แบ่งปันประสบการณ์ ผมลืมคิดเรื่องค่าใช้จ่ายแฝงไปหลายจุดเหมือนกันครับ ปีๆนึงน่าจะหลายบาทอยู่
-
ผมทำงานธนาคาร มาเกือบจะ 2 ปี ปัจจุบันเงินเดือนใกล้จะ 20K ถ้าเฉลี่ยรวม Bonus ก็ตก 23K ปัจจุบันผมขับ HRV อยู่ (ไม่ได้ผ่อนเอง) เท่าที่ลองคิดค่าใช้จ่ายจากที่จ่ายจริงดูนะครับ
ค่าประกันภัย ตกปีละ 20K โดยประมาณ
ค่าภาษี 2K / ปี
ค่าซ่อมรถ ผมซื้อ Paysave 4 ระยะมา 12,600 บาท / 2 ปี.
ค่าล้างรถ 600 บาท / เดือน
ค่าน้ำมัน เดือนนึงประมาณ 3.5K /เดือน (วิ่ง 1,200 โล/เดือน โดยเฉลี่ย)
ค่าจอดรถ 3.4K /เดือน
ค่าทางด่วน 2.5K /เดือน โดยประมาณ
ตีกลมๆแล้วก็ประมาณ 10K /เดือน
ยังดีที่ค่าน้ำมัน ค่าจอดรถ ค่าทางด่วน แม่ Support ให้ เพราะทำงานที่เดียวกันไปด้วยกันทุกเช้า รวมถึงไปส่งน้องเรียนทุกเช้าด้วย เลยตัดภาระ เหลือประมาณ 3K/เดือน
แต่ถ้ารวมกับที่หักฝากประจำ 2K หัก Provident Funds 10% ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆแล้ว และช่วงนี้ยังไม่มีภาระผูกพัน ผมก็พยายามซื้อของชิ้นใหญ่ที่จำเป็นและต้องผ่อนชำระ ให้มันจบก่อนที่จะมีภาระผูกพันเข้ามามากขึ้น ส่วนนี้ผมจ่ายอยู่ประมาณ 5.5K / เดือน รวมๆแล้วบางเดือนก็มีตึงๆบ้าง แต่ยังไม่ถึงกับช็อตครับ
ปัจจุบัน ผมบริหารการใช้เงินโดยที่ พอเงินเดือนออกปุ๊บ หักเงินเก็บประจำ จ่ายบัตรเครดิตและบิลทุกอย่างให้หมดก่อน คำนวณค่าใช้จ่ายประจำวัน คำนวณว่าต้องจ่ายอะไรอีกบ้าง (ค่าตัดผม ค่าล้างรถ ค่าโทรศัพท์) บางทีจะรู้ว่า มีกินเที่ยวกับเพื่อนที่ไหนบ้าง ก็จะเตรียมเงินเผื่อไว้เลย สุดท้ายเหลือเท่าไหร่ ถึงจะซื้อของที่อยากได้ กินข้าวร้านที่อยากกิน ทำอะไรที่อยากทำ และทุกครั้งที่ใช้บัตรเครดิต ผมจะต้องคำนวนแล้วว่ามีเงินจ่ายทันกำหนดแน่นอน
ผมเลยอยากให้ จขกท. ลองคำนวนดีๆครับว่า ถ้าเราซื้อรถมาแล้ว เมื่อต้องจัดการกับค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว คุณยังมีความสุขกับการมีรถอยู่หรือไม่ ถ้ามีก็จัดไปเลยครับ ความสุขของเรา แต้ถ้าไม่มีความสุข ลองหาทางเลือกอื่นๆ เช่า เช่ารถเป็นครั้งคราวเท่าที่จำเป็น เป็นต้นครับ คุณยังมีเวลาอีกตั้ง 2 ปีก่อนจะซื้อรถ ผมว่าลองคำนวนดูเลยครับว่า จะผ่อนรถเท่าไหร่ จะต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้างที่เกี่ยวกับรถ ลองแบ่งเงินส่วนนั้นมาเก็บดู แบ่งเก็บลืมไปเลยถอนออกไม่ได้ ถ้าลองทำแล้ว ทำได้สบายๆไม่ติดปัญหาอะไร ผมว่าคุณซื้อได้สบายมากครับ
-
หาราคาที่คิดว่าจะส่งไหวครับ
-
พี่ๆข้างบนแนะนำความเห็นแบบดีๆมาหมดแล้ว
ขอเล่าประสบการณ์ที่ไม่ดีตัวเองบ้าง;
ตอนทำงานใหม่ๆตั้งใจเก็บตังค์ซื้อรถในฝันอย่างเดียวเลย เก็บอยู่สามปี ซื้อ E36 มาใช้ กะว่าเงินเดือน18K ผ่อนชิวๆอยู่แล้ว
แต่รถมือสาม ซ่อมบาน กินข้าวลิงเป็นว่าเล่น เลยกระทบกับการเงิน แต่อย่างว่าล่ะครับ รถในฝัน ขับไปซ่อมไปศึกษาไปจนทำได้แทบทุกอย่างที่ไม่ต้องขึ้นฮ้อยและไม่เปิดฝาสูบ
ถ้าจะให้แนะนำ เอาตามแบบพี่ๆข้างบนแนะนำถูกต้องที่สุดครับ ถ้าถามว่าถ้าย้อนกลับไปได้จะทำแบบเดิม คำตอบคือทำแบบเดิมครับ555
ตอนนี้ทำงานมาสิบกว่าปีแล้ว มีสภาพคล่องทางการเงิน แต่จะทำอย่างใจตัวเองต้องการไม่ได้แล้ว ไหนจะลูก ไหนจะภรรยา ตอนนี้อยากได้F10 ใจจะขาด แต่ภรรยาไม่อนุมัติ บอกว่ายังไม่เข็ดกับบีเอ็มอีกเหรอ เลยต้องขับฮอนด้าต่อไป
ปล.มีเงินแค่ไหนก็ซื้อไม่ได้ถ้าเมียไม่อนุมัติ
-
พี่ๆข้างบนแนะนำความเห็นแบบดีๆมาหมดแล้ว
ขอเล่าประสบการณ์ที่ไม่ดีตัวเองบ้าง;
ตอนทำงานใหม่ๆตั้งใจเก็บตังค์ซื้อรถในฝันอย่างเดียวเลย เก็บอยู่สามปี ซื้อ E36 มาใช้ กะว่าเงินเดือน18K ผ่อนชิวๆอยู่แล้ว
แต่รถมือสาม ซ่อมบาน กินข้าวลิงเป็นว่าเล่น เลยกระทบกับการเงิน แต่อย่างว่าล่ะครับ รถในฝัน ขับไปซ่อมไปศึกษาไปจนทำได้แทบทุกอย่างที่ไม่ต้องขึ้นฮ้อยและไม่เปิดฝาสูบ
ถ้าจะให้แนะนำ เอาตามแบบพี่ๆข้างบนแนะนำถูกต้องที่สุดครับ ถ้าถามว่าถ้าย้อนกลับไปได้จะทำแบบเดิม คำตอบคือทำแบบเดิมครับ555
ตอนนี้ทำงานมาสิบกว่าปีแล้ว มีสภาพคล่องทางการเงิน แต่จะทำอย่างใจตัวเองต้องการไม่ได้แล้ว ไหนจะลูก ไหนจะภรรยา ตอนนี้อยากได้F10 ใจจะขาด แต่ภรรยาไม่อนุมัติ บอกว่ายังไม่เข็ดกับบีเอ็มอีกเหรอ เลยต้องขับฮอนด้าต่อไป
ปล.มีเงินแค่ไหนก็ซื้อไม่ได้ถ้าเมียไม่อนุมัติ
ผมกะว่าจะรีบซื้อก่อนแต่งงานครับ 5555