Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: vrak ที่ มิถุนายน 27, 2017, 22:18:55
-
แอบอ่านหาข้อมูลมานาน วันนี้สมัคร member เพื่อตั้งกระทู้นี้เลยทีเดีย
สืบเนื่องจากสนใจที่จะ Remap ECU เพิ่มพลังให้รถตัวเองมาตั้งแต่ก่อนออกรถคันนี้ แต่หาข้อมูลจากผู้ใช้งานจริงยากมาก สิ่งที่อยากรู้คือตัวเลขแรงม้าที่ได้เพิ่มขึ้นจากไดโน เวลาขับบนถนนจริงอัตราเร่งจะดีขึ้นแบบวัดได้จริงๆ เป็นเท่าไร ข้อมูลใน google ที่ได้มักแค่บอกว่ารู้สึกรถกระฉับกระเฉงขึ้น วิ่งลื่นขึ้น เหมือนรถคนละคัน บลาๆๆๆ แต่ไม่ค่อยมีคนทดสอบเป็นเรื่องเป็นราว
พอได้คันนี้มา พ้นรันอินก็เลยเอาไปจูนตามที่ได้เคยตั้งใจไว้ เอาไปทดสอบบนถนนจริง ได้ผลมาก็เลยอยากแชร์เพราะรู้ว่าคงมีหลายๆ หาข้อมูลนี้เหมือนกัน
(http://upic.me/i/ih/ocar1.jpg) (http://upic.me/show/61054668)(http://upic.me/i/8i/ucar2.jpg) (http://upic.me/show/61054663)
รถคันนี้เป็นรุ่น 320D M Performance เป็นรุ่นพิเศษ เซลล์บอกผลิตมาจำกัดแค่ 200 คัน เอารุ่น Iconic มาใส่ชุดแต่ง M Performance พร้อมเพิ่ม Option หลายๆ อย่างมาจากโรงงาน รวมทั้งได้ช่วงล่าง M Performance มาด้วย ช่างที่โชว์รูมตรวจสอบ Part Number ให้ บอกว่าไม่ใช่ต่างจากรุ่น standard แค่โช๊คกะสปริง แต่รวมเหล็กกันโคลงกับอะไรอีกบางอย่างจำไม่ได้ รู้แต่ว่ามันหนึบมาก เข้าโค้งแรงๆ ก็ยังควบคุมมั่นใจอยู่ คันก่อนขับ E90 LCI ก็ว่าดีแล้ว คันนี้กับช่วงล่าง M Performance ผมว่าดีกว่าอีก รายละเอียดตัวรถขอไม่พูดถึงมาก หาอ่านได้จาก google เลย มาที่ผลทดสอบเลยละกันครับ
รายละเอียดการจูน สรุปได้เพิ่มมา 48 รวมเป็น 222 hp ลงพื้น หรือ 244 hp เมื่อเทียบกับค่าเดิมในโบรชัวร์ (190 hp)
(http://upic.me/i/vf/tuninginfo.png) (http://upic.me/show/61054666)
ผลทดสอบอัตราเร่ง: ผู้โดยสาร 3 คน การจับเวลาใช้ WiFi OBD Adaptor เชื่อมต่อกับแอพ Torque บน โทรศัพท์ Android
(http://upic.me/i/8c/testresult.png) (http://upic.me/show/61054665)
พอดีผมไม่มีโอกาสได้ทดสอบจับเวลาก่อนจะเอาไปจูน แต่น่าจะใช้ข้อมูลที่ทางเว็บทำไว้ใช้เปรียบเทียบได้ เคยเห็นมี user เอาไปเทสท์ก็ได้ค่าพอๆ กัน ดังนั้นน่าจะพออ้างอิงกันได้ครับ
(http://upic.me/i/gv/2017-06-27_22-21-09.jpg) (http://upic.me/show/61054759)
จะเห็นว่าช่วง 0-100 ค่าจะค่อนข้างแกว่ง วัดได้ตั้งแต่ 7.6 ถึง 9.1 วินาที ผมคิดว่าเป็นเพราะพื้นถนนตอนออกตัวมีกรวดทรายค่อนข้างเยอะ ออกตัวล้อฟรีเลยทีเดียว ทำให้เสียเวลาไปเกือบๆ 1 วินาที จริงๆ มันควรจะได้ ต่ำกว่า 8 วินาทีหรือไม่เกิน 8 ต้นๆ ไว้ถ้ามีโอกาสจะทำใหม่นะครับ ตัวเลขค่อยใกล้เคียงกับที่ BMW เคลมไว้หน่อย ที่ 7.4 วินาที
ส่วนช่วง 80-120 ไม่ต้องพูดถึง พุ่งเร็วมาก ได้ต่ำกว่า 5 วินาทีทุกครั้ง ทำเวลาดีกว่า standard ค่อนข้างมาก อันนี้ประทับใจมาก สำหรับผมคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป
อ้อ
อีกอย่าง นอกจาก Remap ECU แล้วผมได้ติดตั้งคันเร่งไฟฟ้าไปด้วย แต่คิดว่าไม่น่ามีผลกับอัตราเร่ง มันช่วยให้คันเร่งเบาขึ้นเฉยๆ ผลทดสอบที่ได้น่าจะมาจากการ Reflash ล้วนๆ ยังไงให้ผู้รู้มายืนยันดีกว่าครับ
ขอจบเพียงเท่านี้ครับ หวังว่าคงเป็นประโยชน์กับผู้ที่สนใจได้บ้าง ส่วนทำที่ไหนนี่ขอไม่ตอบทุกกรณีนะครับ ไม่อยากดราม่า เท่าที่ดูๆ หลายๆ เจ้าก็ทำได้พอๆ กัน คือเพิ่มประมาณ 40-50 HP ดังนั้น เลือกจูนเนอร์ที่ไว้ใจได้ตามที่สะดวกเลยครับ
-
รูปไม่ขึ้น ?
-
เข้าใจว่าตัวนี้ ไม่ใช่ ช่วงล่าง M Performance ครับ
จากที่ขับ 330e m sport หลายๆครั้ง ต่างจากช่วงล่าง M Performance จริง ที่ค่อนข้างแข็งกว่าพอสมควรและเตี้ยกว่าเล็กน้อยครับ
สิ่งที่ตัว M performance ต่างจาก Iconic คือ CA ช่วงล่าง แค่นั้นอ่ะครับ
ไม่ทราบได้ให้ช่างเช็ค Part no. กับ ช่วงล่าง M Performance จริงด้วยไหมครับ
-
ที่ remap แล้วขึ้นมากขนาดนี้ หลักๆคือเค้าไป เพิ่มบูสเทอร์โบ ใช่มั้ยครับ :-* :-* :-*
-
ขอบคุณ คุณ vrakมากๆสำหรับข้อมูลครับ
รู้เลยว่าตั้งใจทำมากๆ มีการเก็บข้อมูลก่อนจูนด้วย
อีกอย่างที่ผมชอบคือ มีการทดสอบตัวเลขออกมาชัดเจน คือแรงขึ้นแน่ๆ ผมว่าการจูนรุ่นนี้น่าจะเป็นคำตอบที่ลงตัว เพราะ ช่วงล่างทำรอไว้สำหรับแรงม้าที่มากขึ้นอยู่แล้ว แอบอิจฉารถรุ่นใหม่ๆที่มีโบ จูนนิดหน่อยก็ได้ม้าเพิ่ม 30-40%แล้ว
เห็นข้อมูลทั้งหมดแล้วถ้ามีโอาสอยากจะซื้อมือสองมาทำบ้าง เลยมีคำถามตามนี้ครับ
- kick down 80-120 ทำไมเร็วกว่า ช่วงทดสอบ0-120 มันรวมเวลาkick downไปด้วยน่าจะช้ากว่า
- การจูนครั้งนี้มีการเปลี่ยน อะไหล่ ด้วยหรือไม่ครับหรือจูนอย่างเดียว
- ราคาค่าจูนประมาณเท่าไหร่ครับ
- มันจะหลุดbsiรึเปล่าครับ
ขอบคุณอีกครั้งสำหรับข้อมูดีๆครับ
-
เสียดายมากเลยครับ
ส่วนตัวผม ผมอยากเห็นแรงม้าบน dyno ของรถป้ายแดงแบบนี้มากเลยละครับ ว่าเมื่อทำแล้ว ก่อนทำ หลังทำ แตกต่างกันอย่างไร เท่าที่ทำๆกันอยู่เถียงกันหาจุดสรุปไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าแรงม้าดั้งเดิมเท่าไร รถเก่าแล้วบ้าง นู้นบ้าง นี่บ้าง ขึ้น dyno เทียบหลายๆที่ก็ไม่มีประโยชน์ เพราะ dyno แต่ละที่ผลออกมาก็ไม่เหมือนกัน
แต่อย่างไงก็ยินดีด้วยนะครับ สำหรับรถสวยๆแรงๆแบบนี้ครับ
==============================
ขออภัยครับ ไม่ได้อ่านในรูป ตอนแรกนึกว่าเป็นค่าในโปรชัวร์ ยินดีด้วยนะครับ ได้แรงม้ามาเพิ่ม เกือบ 50 ตัว น่าขับมากเลยครับแบบนี้
-
ไม่ทราบว่าการจูนแบบนี้เค้าปรับอะไรบ้าง มีผลอะไรในระยะยาวบ้าง
ผมเห็นรถดีเซล Turbo ตั้งแต่กระบะยันยุโรปไปจูนกันเยอะมาก แต่ที่ผมไม่กล้าเอาไปจูนคือ ถ้าจูนแล้วมันออกมาวิ่งดีขนาดนี้ ทำไม Stock จากโรงงานถึงไม่ทำออกมาเลยครับ
ช่วยให้ความรู้ผมทีครับ
-
torque request ไงครับ เป็น Safety จากโรงงาน
พูดง่ายๆคือรถเดิมๆจากโรงงานจะอมพลังเอาไว้เพื่อเซพเกียร เซพเครื่อง
แก้ตรงนี้ก็ได้ตีนต้น กลับช่วงความเร็วต่ำๆ
ง่ายๆอีกอย่างก็ปรับบู๊ส ปรับองศาไฟ Map น้ำมัน
ปรับการจ่ายน้ำมันให้หนาหน่อยที่รอบสูงๆ พร้อมอัดบู๊สเพิ่มตาม
เครื่องเดินเนียนขึ้น จ่ายน้ำมัน ปรับองศาไฟได้ละเอียดขึ้น
-
เยี่ยมเลยครับ บูสต์ติด ชีวิตเปลี่ยนครับ ;)
-
Factor of Safety ครับ ในทุกๆชิ้นส่วนและควรต้องสัมพันธ์กันสมมุติ เครื่องนี้จริงๆสามารถลากรอบได้ 10000 รอบ แต่สามารถใช้ได้แค่ 500 ชม.
ถ้าตัดรอบที่ 8000 Factor of Safety20% ทำให้ใช้ได้ 80000 ชม.
คนที่ remap ก็ไปลด Factor of Safety เหลือ10% ทำให้กดไปได้ 9000 รอบ ชม.การใช้งานก็ลดลงบ้าง
บูสโรงงานสมมุติจริงๆโบนี้ทำได้สูงสุด 2.5 รง.ล็อกไว้ที่ 1.8 ก็ปลดออกซะ อาจจะไปล็อกที่ 2.1 หรือ ปลดหมดเลย
-
โหดจังครับ
-
นอกจากเรื่อง safety factor ยังมีเรื่อง emission อีก
-
เอาเพิ่มอีกหน่อยจะได้อัด 330e
-
ไม่ทราบว่าการจูนแบบนี้เค้าปรับอะไรบ้าง มีผลอะไรในระยะยาวบ้าง
ผมเห็นรถดีเซล Turbo ตั้งแต่กระบะยันยุโรปไปจูนกันเยอะมาก แต่ที่ผมไม่กล้าเอาไปจูนคือ ถ้าจูนแล้วมันออกมาวิ่งดีขนาดนี้ ทำไม Stock จากโรงงานถึงไม่ทำออกมาเลยครับ
ช่วยให้ความรู้ผมทีครับ
ของผมเป็น Dmax ครับไป รีแฟลช ECU ที่ปรับก็จะมียกหัวฉีด ดันราง ปรับบูสครับ
ในระยะยาว ถ้าเราไม่ได้จูนแบบบ้าพลังม้าแล้วก็ไม่เกินลิมิตของเครื่องยนตร์ผมคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา
ส่วนที่โรงงานทำไมถึงไม่ทำออกมาเลยน่าจะเพราะปัญหามลพิษนะครับ รถยิ่งแรงก็ปล่อยมลพิษมาก
-
เครื่องโบเสกม้าได้ง่ายได้เยอะดีจัง
V6 n/a ผมจูนแล้วได้มา 10 กว่าตัวเอง
-
ช่วงล่าง ไม่น่าใช่ m performance ครับ แต่เปลี่ยนสปริงลง 10mm (ตามที่ไปสอบถามมา) ส่วน m per จริงๆ ลง 22mm จาก standard (ผมใช้อยู่) และจะแข็งโคดๆ ไม่ใช่แค่หนึบ ละเหล็กกันโครง เข้าใจว่า m per จะหนากว่า ตัวนี้ อีกนิดนึงครับ แต่ยังไงก็ตาม มันดีกว่า standard ค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะตัวรุ่นแรกๆ แบบผม ย้วยเป็นเรือ ยินดีกับรถใหม่และความแรงที่เพิ่มขึ้นด้วยนะครับ ผมยังใช้เดิมๆ จนหมด bsi ไปละครับ
-
;D :D
ข้าพเจ้าขอถามแบบไม่กวนเลยนะฮะ (คือแบบว่าน่าสนใจมากๆเลย)
ตัว M perform นี้ ลดแล้วราคาแพงกว่า iconic แค่ไหนฮะ (ได้ชุดแต่งMคุ้มมาก)
อันนี้สำคัญ /**** Reflash แล้วศูนย์เขายัง OK เรื่องประกัน 5 ปีไหม ? (ไม่ใช่ลดเหลือ2ปีแบบยุคคลาสสิคนะ จ๊ากกก))
-
อู่ bmw ที่เคยไปทำ ยกเกียร์มาหลายคันแล้ว บอกว่า เจ้าของไปจูนมา ทำให้เกียร์พังเร็ว
-
แรงขึ้นเยอะครับ เคยคิดจะเอา 328i มาทำแต่ผมกลัวเรื่อง bsi เพราะตัว F30 ต้องถอดกล่องมาทำ (แอบกลัวครับเพราะรถคันอื่นต่อ OBDII แล้วอัพโหลดไฟล์เลย)
ส่วนช่างล่างตัวนี้น่าจะเป็น M Sport suspension ครับไม่ใช่ M Performance ตัวสปริงเตี้ยลง 10mm โช็คแข็งขึ้นและได้กันโครงหนาเท่ากับตัวที่มาในชุด M Performance
-
ได้ม้ามาเพียบเลย อยากทำมั่งแต่แอบกลัวเรื่อง warranty นี่แหล่ะครับ ยังไงขอบคุณข้อมูลดีดีนะครับผม
-
ไม่ทราบว่าการจูนแบบนี้เค้าปรับอะไรบ้าง มีผลอะไรในระยะยาวบ้าง
ผมเห็นรถดีเซล Turbo ตั้งแต่กระบะยันยุโรปไปจูนกันเยอะมาก แต่ที่ผมไม่กล้าเอาไปจูนคือ ถ้าจูนแล้วมันออกมาวิ่งดีขนาดนี้ ทำไม Stock จากโรงงานถึงไม่ทำออกมาเลยครับ
ช่วยให้ความรู้ผมทีครับ
รถเทอร์โบ จูนปรับบูสท์เพิ่ม, ไฟ
แต่ปรับจากโรงงานให้แรงมากไม่ได้ มีเรื่องของภาษี, ค่าไอเสียเกิน, ความอึดของลูกสูบ-แหวน
ปรับบูสท์เพิ่ม วิ่งแช่ เหยียบบูสท์บ่อยๆ ที่เกินจาก ค่าโรงงานความร้อนสะสมน้ำมันเครื่อง น้ำหล่อเย็น วิ่งทางยาว สูงขึ้นอย่างมาก
-
ขอบคุณ จขกท มากๆครับ ข้อมูลเป็นตัวเลขชัดเจนแบบนี่แหละครับ ที่ต้องการ ยกนิ้วให้เลยครับ :D
แต่ขาดข้อมูลอยู่สองอย่างครับ (ที่ทำหลัง Remap) คือ 1. ความเร็วสูงสุด 2. อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
ถ้าได้เพิ่มมาอีก 2 อย่างนี้ ก็จะครบไร้ที่ติเลยครับ ;)
-
อู่ bmw ที่เคยไปทำ ยกเกียร์มาหลายคันแล้ว บอกว่า เจ้าของไปจูนมา ทำให้เกียร์พังเร็ว
ยกเกียร์มาหลายคัน นี่ใช่ F30 ป่าวครับ
-
ไม่ทราบว่าการจูนแบบนี้เค้าปรับอะไรบ้าง มีผลอะไรในระยะยาวบ้าง
ผมเห็นรถดีเซล Turbo ตั้งแต่กระบะยันยุโรปไปจูนกันเยอะมาก แต่ที่ผมไม่กล้าเอาไปจูนคือ ถ้าจูนแล้วมันออกมาวิ่งดีขนาดนี้ ทำไม Stock จากโรงงานถึงไม่ทำออกมาเลยครับ
ช่วยให้ความรู้ผมทีครับ
รถเทอร์โบ จูนปรับบูสท์เพิ่ม, ไฟ
แต่ปรับจากโรงงานให้แรงมากไม่ได้ มีเรื่องของภาษี, ค่าไอเสียเกิน, ความอึดของลูกสูบ-แหวน
ปรับบูสท์เพิ่ม วิ่งแช่ เหยียบบูสท์บ่อยๆ ที่เกินจาก ค่าโรงงานความร้อนสะสมน้ำมันเครื่อง น้ำหล่อเย็น วิ่งทางยาว สูงขึ้นอย่างมาก
ขอบคุณมากครับ ปัญหาที่ผมกลัวเลยหลักๆคือ อายุของเครื่องยนต์และเกียร์ เพราะวิ่ง ตจวบ่อย แช่ความเร็วสูงยาวๆ จากที่ไม่เคยมีปัญหาพอจูนเสร็จซัดยาวๆอาจจะมีปัญหา
แล้วถามต่ออีกนิดครับ เท่าที่ผมเข้าใจคือมันจะมีค่าการจูนกล่อง Stock จากโรงงานตาม Safety ไว้
แต่เราจะรู้ได้อย่างไรครับว่า จูนเนอร์เจ้าดังต่างๆเอาค่าใหม่มาใส่ให้รถเราโดยไม่มีปัญหา ผมเห็นทุกเจ้าจูนออกมาได้ตัวเลขไม่เท่ากันเลย เค้าไปเอาค่าพวกนี้มาจากไหนครับ เค้าได้มีการเทสก่อนหรือเปล่าครับ หรือว่าค่าพวกนี้เอามาจากต่างประเทศครับ
-
อ่านกระทู้นี้เลยได้รู้ หลายๆคนกลัวการรีแมพจนกระทั่งการเปิดกล่องซึ่งไม่ได้มีอะไรน่ากลัวเลย ที่สำหรับผมเป็นเรื่องธรรมดาเบสิคมากๆ
มันก็คงเหมือนคนอยากศัลกรรมแต่กลัวมีดหมอ ทำออกมาผลงานดีก็ดีไป ถ้าออกมาแย่คนอื่นก็ซ้ำเติม หลักการง่ายๆเหมือนกัน คนจูนก็เหมือนหมอเลือกที่น่าไว้ใจได้ มีผลงานชัดเจน ผลงานจะได้ไม่ออกมาน่าผิดหวัง ที่สำคัญศึกษาแยอะๆก่อนจูนครับ
-
อู่ bmw ที่เคยไปทำ ยกเกียร์มาหลายคันแล้ว บอกว่า เจ้าของไปจูนมา ทำให้เกียร์พังเร็ว
ยกเกียร์มาหลายคัน นี่ใช่ F30 ป่าวครับ
ใช่ครับ พวกที่จูนกันได้ เพิ่มระดับ 2 ร้อยกว่าๆทั้งนั้น แต่เกียร์ไม่ทน ยกกันที ก็ 8 หมื่นบาทครับ ผ้าคลัชข้างในเละเทะหมด
-
F30ที่พังๆ320i หรือเปล่า
เพราะขานั้นสายโหดทั้งนั้น+เครื่องยนต์ตัวนั้นไปต่อได้ไกลกว่า B47/N47 ของ320d
-
ไม่ทราบว่าการจูนแบบนี้เค้าปรับอะไรบ้าง มีผลอะไรในระยะยาวบ้าง
ผมเห็นรถดีเซล Turbo ตั้งแต่กระบะยันยุโรปไปจูนกันเยอะมาก แต่ที่ผมไม่กล้าเอาไปจูนคือ ถ้าจูนแล้วมันออกมาวิ่งดีขนาดนี้ ทำไม Stock จากโรงงานถึงไม่ทำออกมาเลยครับ
ช่วยให้ความรู้ผมทีครับ
รถเทอร์โบ จูนปรับบูสท์เพิ่ม, ไฟ
แต่ปรับจากโรงงานให้แรงมากไม่ได้ มีเรื่องของภาษี, ค่าไอเสียเกิน, ความอึดของลูกสูบ-แหวน
ปรับบูสท์เพิ่ม วิ่งแช่ เหยียบบูสท์บ่อยๆ ที่เกินจาก ค่าโรงงานความร้อนสะสมน้ำมันเครื่อง น้ำหล่อเย็น วิ่งทางยาว สูงขึ้นอย่างมาก
ขอบคุณมากครับ ปัญหาที่ผมกลัวเลยหลักๆคือ อายุของเครื่องยนต์และเกียร์ เพราะวิ่ง ตจวบ่อย แช่ความเร็วสูงยาวๆ จากที่ไม่เคยมีปัญหาพอจูนเสร็จซัดยาวๆอาจจะมีปัญหา
แล้วถามต่ออีกนิดครับ เท่าที่ผมเข้าใจคือมันจะมีค่าการจูนกล่อง Stock จากโรงงานตาม Safety ไว้
แต่เราจะรู้ได้อย่างไรครับว่า จูนเนอร์เจ้าดังต่างๆเอาค่าใหม่มาใส่ให้รถเราโดยไม่มีปัญหา ผมเห็นทุกเจ้าจูนออกมาได้ตัวเลขไม่เท่ากันเลย เค้าไปเอาค่าพวกนี้มาจากไหนครับ เค้าได้มีการเทสก่อนหรือเปล่าครับ หรือว่าค่าพวกนี้เอามาจากต่างประเทศครับ
จากประสบการณ์ของจูนเนอร์แต่ละท่านครับ จูนเผื่อ Safety Factor เท่าไร จูนน้ำมันหนามากน้อยแค่ไหน จูนเนอร์บางรายพอประสบการณ์เปลี่ยนไปก็เปลี่ยนรูปแบบการจูนก็มี จูนเนอร์บางรายจูนรถพัง มันก็ยังไม่ปรับเปลี่ยนจูนแบบนั้นอยู่นั่นแหละ
แต่จะรู้ได้ยังไงว่า จูนเนอร์คนนั้นจูนแล้วรถเรามีปัญหาหรือไม่ ก็ใช้วิธีดูจากคนอื่นๆไปจูนกับคนนี้มาแล้วไม่เจอปัญหาทุกคันก็นั่นแหละครับ
สรุปคือ ประสบการณ์และชื่อเสียงของจูนเนอร์นั้นๆ เป็นตัวรับประกัน ไม่มี Certificate ที่ไหนๆมารับรอง
-
ขอบคุณที่แชร์ครับผม
-
เท่าที่ได้คุยมา จูนเนอร์บางคนก็บอกเองว่ารถที่จูนไปแรงๆ วันนั้น เกียร์พังไปแล้ว
เผลอๆ ผมว่าค่า safety ของเครื่ีอง น่าจะมากกกว่าเกียร์
-
อ่านแล้วอิจฉา BMW ที่กล่องเดิมๆเปิดให้เข้าไปยุ่งได้ง่ายกว่าของ Benz
ของผม M271 Turbo ใน W204 กล่องเป็นยี่ห้อ Continental เท่าที่ถาม Tuner มา เค้าบอกเค้ายังไม่มีเครื่องมือที่เข้าถึงกล่องตัวนี้ได้เลย เศร้าไปครับ ซึ่งกลับกัน ใน F30 สามารถเสกม้าขึ้นมาได้เป็นว่าเล่น ทั้งเบนซินและดีเซล...
-
Factor of Safety ครับ ในทุกๆชิ้นส่วนและควรต้องสัมพันธ์กันสมมุติ เครื่องนี้จริงๆสามารถลากรอบได้ 10000 รอบ แต่สามารถใช้ได้แค่ 500 ชม.
ถ้าตัดรอบที่ 8000 Factor of Safety20% ทำให้ใช้ได้ 80000 ชม.
คนที่ remap ก็ไปลด Factor of Safety เหลือ10% ทำให้กดไปได้ 9000 รอบ ชม.การใช้งานก็ลดลงบ้าง
บูสโรงงานสมมุติจริงๆโบนี้ทำได้สูงสุด 2.5 รง.ล็อกไว้ที่ 1.8 ก็ปลดออกซะ อาจจะไปล็อกที่ 2.1 หรือ ปลดหมดเลย
นอกจากเรื่อง safety factor ยังมีเรื่อง emission อีก
น่าจะสองเรื่องนี้แหละครับ
ถ้าไม่เอาไปลงสนามจริงๆ รีแมพอย่าทำเยอะครับ
อัตราความเสียหายมันเป็นทวีคูณจากสิ่งที่ได้เยอะครับ
จุดที่โรงงานจูนมาคือจุดที่คุ้มค่าที่สุดในทุกๆทางรวมกัน