Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: หมื่นเรืองราชภักดี ที่ มีนาคม 23, 2020, 14:58:38
-
ผมสงสัยครับว่าทำไมถึงมีวลีที่กล่าวว่า "เครื่องดีเซลประหยัดกว่าเบนซิน" พอจะมีผู้รู้ช่วยตอบให้หน่อยได้มั้ยครับ ขอบคุณครับ
-
ไม่ได้ประหยัดกว่าเลยนะครับ จากการใช้ส่วนตัวทั้ง ดีเซล และ เบนซิล
แต่ถ้าวัดที่ราคา ดีเซลราคามันต่ำกว่าเบฯเซลเลยจ่ายน้อยกว่าในระยะทางที่เท่ากัน
-
เครื่องยนต์ดีเซลให้กำลังต่อหน่วยพลังงานมากกว่าครับ .... ดังนั้นน้ำมันดีเซล 1ลิตร สามารถไปได้ไกลกว่าน้ำมันเบนซิน1ลิตรนะ ..
ดูจากตารางนี้ครับ
(http://image.free.in.th/v/2013/ic/200323082326.jpg) (http://picture.in.th/id/4416db48f58a3ea0d24c8046eb3b8c66)
เพื่อความชัดเจนให้ดูอัตราสิ้นเปลืองของ 320D G20 เทียบกับ 330i G20 จะเห็นว่าอัตราสิ้นเปลืองต่างกันมาก ทั้งๆที่เป็นเครื่องยนต์ 2.0 เทอร์โบเหมือนกัน ..
แค่นี้ก็น่าจะชัดเจนแล้วนะครับที่ว่า ดีเซลประหยัดกว่าเบนซิลน่ะ ของจริงครับไม่ใช้มะโน ...
-
คุณสมบัติน้ำมันดีเซล ก็ส่วนหนึ่ง
ระยะเวลาเผาไหม้เชื้อเพลิง ก็ส่วนหนึ่ง
ตัวลักษณะของเครื่องยนต์ ที่ต้องมีแรงอัดสูงกว่าเบนซิน ก็มีส่วนครับ
-
เครื่องยนต์ดีเซลให้กำลังต่อหน่วยพลังงานมากกว่าครับ .... ดังนั้นน้ำมันดีเซล 1ลิตร สามารถไปได้ไกลกว่าน้ำมันเบนซิน1ลิตรนะ ..
ดูจากตารางนี้ครับ
(http://image.free.in.th/v/2013/ic/200323082326.jpg) (http://picture.in.th/id/4416db48f58a3ea0d24c8046eb3b8c66)
เพื่อความชัดเจนให้ดูอัตราสิ้นเปลืองของ 320D G20 เทียบกับ 330i G20 จะเห็นว่าอัตราสิ้นเปลืองต่างกันมาก ทั้งๆที่เป็นเครื่องยนต์ 2.0 เทอร์โบเหมือนกัน ..
แค่นี้ก็น่าจะชัดเจนแล้วนะครับที่ว่า ดีเซลประหยัดกว่าเบนซิลน่ะ ของจริงครับไม่ใช้มะโน ...
ชัดเจนเลย ขอบคุณครับ
-
ดีเซลที่แรงและประหยัด ต้องเป็นเครื่องดีเซลคอมมอนเรลเทอร์โบรุ่นใหม่มาหน่อย ที่มีประสิทธิภาพมากกว่ารุ่นเก่า
และจะเห็นชัดขึ้นเมื่อราคาดีเซลถูกกว่าเบนซิน
แต่พอน้ำมันดีเซลเริ่มแพงกว่าเบนซิน ก็ไม่ได้รู้สึกประหยัดขนาดนั้น
ส่วนตัวใช้ Peugeot 407 2.0 ดีเซลเทอร์โบ ขับทางยาวเท้านิ่งๆที่ความเร็ว 110 ตกประมาณ 18 กิโลลิตร ถ้าขับ 80-90 รอบเครื่องต่ำกว่า 2000 รอบ จะได้ 20+ กิโลลิตร แต่ถ้าขับความเร็วสูงมาก ก็ไม่ได้ประหยัดขนาดนั้น เป็นปกติของดีเซล ครับ
-
ต้องเข้าใจเรื่องการออกแบบเครื่องยนต์ และ กลไกลการทำงาน ว่า ดีเซล รอบต่ำ กำลังอัดสูง แรงบิดเยอะ
แค่ง่ายๆ ง่าย รถเบนซิน 2000 ซีซี กับ ดีเซล 2000 ซีซี ที่หัวฉีดแบบ Direct เหมือนกัน และ Output เครื่องยนต์พอๆ กัน
เบนซิน ใช้งานทั่วไป รอบที่ใช้งาน 2000-4000 รอบ/นาที โดยประมาณ
ดีเซล ใช้งานทั่วไป รอบที่ใช้งาน 1300-2000 รอบ/นาที โดยประมาณ
ถ้ารถทั้ง ดีเซล และ เบนซิน ใน 1 นาที เบนซินฉีดน้ำมันมากกว่าดีเซล 1 เท่าตัว (ดีเซล ฉีด 1 ครั้ง เบนซินฉีด 2 ครั้ง) แค่นี้ก็รู้แล้วว่าใครประหยัดกว่า แล้วถ้าเป็น ชั่วโมง หรือ หลายชั่วโมง ก็ทบไปเรื่อยๆ
แต่ถ้าไปเทียบกับ คนละ CC คนแรง Body คนละเทคโนโลยี คนละแรงม้า มันก็อาจจะแปรผันไปตาม condition ต่างๆ ได้เหมือนกัน
แต่ยืนยัน นอนยัน เลยว่า ดีเซล ประหยัดกว่า เบนซิน มากกกกกๆๆๆๆๆๆ
ตามรูปที่ท่านบนยกมา ดูที่ 320d กับ 320i ชัดสุด เพราะ 330i อาจจะไม่ชัด
ไม่ได้ประหยัดกว่าเลยนะครับ จากการใช้ส่วนตัวทั้ง ดีเซล และ เบนซิล
แต่ถ้าวัดที่ราคา ดีเซลราคามันต่ำกว่าเบฯเซลเลยจ่ายน้อยกว่าในระยะทางที่เท่ากัน
ทั้ง 2 คัน รถอะไรเหรอครับ ขอข้อมูลหน่อยครับ
-
ขอบคุณครับ ละเอียดเลย
-
.
.
สำหรับผมเรื่องประหยัดช่างหัวมัน
แต่เสียงเครื่องดีเซลน่าเกลียดกว่าเบนซินมากๆ
ยิ่งพวก bmw 420d นี่คือรถอย่างสวย
แต่เสียงเครื่องยังกับรถกระบะ
-
1. ตามทฤษฎี เครื่องยนต์เผาไหม้ภายใน (Internal Combustion Engine) เลยนะครับ ...
ประสิทธิภาพเชิงความร้อน / เชิงพลังงาน ขึ้นกับ " อัตราส่วนกำลังอัด " ของเครื่องยนต์ครับ
ซึ่ง ถ้าเทียบกับ เครื่องยนต์หายใจธรรมดา เครื่องเบนซินอย่างมากก็ได้แค่ 11 : 1 แต่ดีเซลจะได้ถึง 22 : 1 ครับ
หรือถ้าเป็น เครื่องเบนซินเทอร์โบ ก็อาจจะต้องลดลงมาเหลือ 9 : 1 ส่วนดีเซลเทอร์โบ อาจจะเหลือ 18 : 1 ครับ
2. เวลาใช้งานจริง แรงม้าสูงสุดของเครื่องดีเซล มันมีข้อจำกัดอยู่ตรงที่ รอบเครื่องสูงสุดที่เครื่องมันจะรีดกำลังสูงสุดได้
มันจะแค่ราวๆ 5,000 รอบ/นาที เลยไปกว่านี้ น้ำมันมันจะเผาไหม้ช้า จนแรงบิดตก จึงไม่สามารถปั่นกำลังออกมาได้เพิ่มอีกแล้ว
ในขณะที่ เครื่องเบนซิน มันจะสามารถรีดกำลังสูงสุดจากรอบเครื่องที่สูงขึ้นไปได้ถึง 10,000 รอบ/นาที เพียงแต่ว่า ...
รอบเครื่อง ยิ่งสูงแค่ไหน .. แรงเสียดทานในเครื่องยนต์ก็จะยิ่งมากเท่านั้น ฉนั้น ความประหยัดน้ำมันก็เลยตกลงมาเป็นทวีคูณ
สรุป ... จากทั้ง 2 เหตุผล ... เทียบกันที่ภาระ / ความต้องการใช้กำลังเท่าๆ กัน
เครื่องดีเซล จึงประหัดน้ำมัน / พลังงาน ได้ดีกว่า เครื่องเบนซินครับ
-
ถ้าซีซีเท่ากัน ดีเซลประหยัดกว่า
-
ถ้านับเรื่องประหยัด ดีเซลประหยัดกว่าเยอะจริงครับ ตามตารางเลย 320D เทียบ 320I
ผมใช้ 320d อยู่ ทางไกลยาวๆลงใต้ ขับยืนพื้น 120 ได้ 20-22 โลลิตรสบาย
แต่ถ้าถามเรื่องความมันในการขับ เสียงเครื่อง ลากรอบ ยังชอบ vtec เบนซิน มากกว่าเลยครับ
-
ผมขับเหมือนกันนะครับ รถ segment เดียวกันเลย เท้าหนัก กทม-เขาไหญ่ โล่งๆยืนพื้น 120-150
320i lci F30 เฉลี่ย 14.2 kml
320d lci F30 เฉลี่ย 18.3 kml
ดีเซลไม่ต้องใช้รอบเยอะ ไม่ต้องเปลื่ยนเกียรลงบ่อยครับตอนแซง วิ่งยาวๆรอบต่ำ ประหยัดกว่าเห็นๆ
แต่เบนซินขับสนุกกว่าครับ มีรอบไห้เล่น
-
คนใช้งาน ทั่วๆ ไป ดีเซลประหยัดกว่า ครับ
รอบการใช้งานจริง ต่ำกว่า แรงบิดมารอบต่ำ
เบนซิน ลื่น ในรอบกลาง และรอบสูง