ผู้เขียน หัวข้อ: แรงบิด500นิวตัน204แรงม้า C250 cdi มีข้อสงสัยกับความแรงครับ ทำไมมันไม่ดึงเลยอ้ะ  (อ่าน 7141 ครั้ง)

ออฟไลน์ cloud

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 668
    • อีเมล์
คำถามผมอาจจะโง่ๆนะครับ แต่ผมไม่มีความรู้เรื่องซิ่งๆเลย ขอรบกวนนักซิ่งผู้รู้หน่อยครับ
เสปคของมันคือ 204แรงม้าที่4,200     แรงบิด500ที่1,600-1,800

1.ทีนี้ผมลองเหยียบเบาๆแต่รอบเกิน2,000ไปแล้วทำไมไม่เห็นดึงเลย
และผมก็ลองเหยียบเบาๆเกิน4,200รอบไม่เห็นแรงถึง204แรงม้าเลย
หรือว่าถ้าจะเหยียบให้ได้ตัวเลขตามเสปคต้องเหยียบมิดจาก0หรือป่าว ห้ามเหยียบเบาๆป้ะครับ

2.และอีกคำถาม500นิวตันที่1,600-1,800 คือทุกๆเกียร์ที่รอบขึ้น1,600ผมก็จะได้ใช้แรงบิด500นิวตันรึป่าวครับ
เช่นเกียร์1มาที่500นิวตันพอเลย1,800แรงบิดค่อยๆลดลงไป พอเกียร์2ก็มา500อีกแล้วลดลง เกียร์3ก็มา500 เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆรึป่าวคับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 07, 2013, 16:03:53 โดย cloud »

ออฟไลน์ H.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,896
    • อีเมล์
มันอยู่ที่การเซทติ้งช่วงล่างและฟีลลิ่งการขับขี่โดยรวมครับ ถ้าเอาความรู้สึกไปจับแรงม้ารถหลายคันก็ไม่รู้สึกว่ามันแรงหรอก แบบนี้ต้องจับเวลา

ส่วนเรื่องแรงบิดเข้าใจถูกต้องครับ
H.

ออฟไลน์ <Sportivo>

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 182
ไม่ได้พูดถึง C250 cdi คันนี้นะครับเพราะไม่เคยขับ แต่รถสมัยนี้เป็นระบบคันเร่งไฟฟ้ารถบางรุ่นเขาสามารถเซ็ต curf การตอบสนองให้นิ่มนวลไม่กระชากได้และเพื่อเน้นประหยัดน้ำมันด้วยส่วนนึง ก็เลยทำให้รู้สึกว่ารถไม่แรงต้องเหยียบลึกๆถึงจะทำงานเต็มที่ครับ

ออฟไลน์ V221

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,823
จากประสบการณ์ที่ใช้มานะครับ รถดีเซลจะเริ่มดึงไวแต่จะหมดไวเหมือนกันเพราะรอบที่แรงม้าสูงสุดจะค่อนข้างต่ำไม่เหมือนเครื่องเบนซินที่ลากรอบได้ยาวกว่า ส่วนที่คุณว่าเกิน4200รอบ/นาทีแล้วไม่ค่อยดึงต้องไปดูกราฟครับซึ่งเครื่องตัวนี้รอบสูงสุดก็แค่นั้น ถ้าลากมากกว่านั้นทั้งแรงม้าและแรงบิดก็หัวหักลงแล้วครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 07, 2013, 15:44:43 โดย V221 »
BMW 750E M SPORT

ออฟไลน์ cloud

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 668
    • อีเมล์
จากประสบการณ์ที่ใช้มานะครับ รถดีเซลจะเริ่มดึงไวแต่จะหมดไวเหมือนกันเพราะรอบที่แรงม้าสูงสุดจะค่อนข้างต่ำไม่เหมือนเครื่องเบนซินที่ลากรอบได้ยาวกว่า ส่วนที่คุณว่าเกิน4200รอบ/นาทีแล้วไม่ค่อยดึงต้องไปดูกราฟครับซึ่งเครื่องตัวนี้รอบสูงสุดก็แค่นั้น ถ้าลากมากกว่านั้นทั้งแรงม้าและแรงบิดก็หัวหักลงแล้วครับ

อ่อคือว่าผมตั้งใจแกล้งเหยียบเบาๆเองครับ แต่ที่ผมสงสัยคือผมแกล้งเหยียบเลย1800 ทำไมแรงบิดมันน้อยมาก (เทียบกับตอนเหยียบมิดดึงแรงมาก)

ยังงี้แสดงว่าผมต้องเหยียบมิด ถึงจะได้แรงม้าแรงบิดตามเสปคป่าวครับ

ออฟไลน์ H.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,896
    • อีเมล์
จากประสบการณ์ที่ใช้มานะครับ รถดีเซลจะเริ่มดึงไวแต่จะหมดไวเหมือนกันเพราะรอบที่แรงม้าสูงสุดจะค่อนข้างต่ำไม่เหมือนเครื่องเบนซินที่ลากรอบได้ยาวกว่า ส่วนที่คุณว่าเกิน4200รอบ/นาทีแล้วไม่ค่อยดึงต้องไปดูกราฟครับซึ่งเครื่องตัวนี้รอบสูงสุดก็แค่นั้น ถ้าลากมากกว่านั้นทั้งแรงม้าและแรงบิดก็หัวหักลงแล้วครับ

อ่อคือว่าผมตั้งใจแกล้งเหยียบเบาๆเองครับ แต่ที่ผมสงสัยคือผมแกล้งเหยียบเลย1800 ทำไมแรงบิดมันน้อยมาก (เทียบกับตอนเหยียบมิดดึงแรงมาก)

ยังงี้แสดงว่าผมต้องเหยียบมิด ถึงจะได้แรงม้าแรงบิดตามเสปคป่าวครับ
อ้าวแหงสิครับ คันเร่งไปเปิดปีกผีเสื้อ ปีกผีเสื้อสั่งอากาศเข้าจุดระเบิดในห้องเครื่อง ถ้าเหยียบน้อยก็มีอากาศเข้าห้องเครื่องได้น้อยมันก็จุดระเบิดได้แรงน้อยไปด้วย
H.

ออฟไลน์ cloud

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 668
    • อีเมล์
จากประสบการณ์ที่ใช้มานะครับ รถดีเซลจะเริ่มดึงไวแต่จะหมดไวเหมือนกันเพราะรอบที่แรงม้าสูงสุดจะค่อนข้างต่ำไม่เหมือนเครื่องเบนซินที่ลากรอบได้ยาวกว่า ส่วนที่คุณว่าเกิน4200รอบ/นาทีแล้วไม่ค่อยดึงต้องไปดูกราฟครับซึ่งเครื่องตัวนี้รอบสูงสุดก็แค่นั้น ถ้าลากมากกว่านั้นทั้งแรงม้าและแรงบิดก็หัวหักลงแล้วครับ

อ่อคือว่าผมตั้งใจแกล้งเหยียบเบาๆเองครับ แต่ที่ผมสงสัยคือผมแกล้งเหยียบเลย1800 ทำไมแรงบิดมันน้อยมาก (เทียบกับตอนเหยียบมิดดึงแรงมาก)

ยังงี้แสดงว่าผมต้องเหยียบมิด ถึงจะได้แรงม้าแรงบิดตามเสปคป่าวครับ
อ้าวแหงสิครับ คันเร่งไปเปิดปีกผีเสื้อ ปีกผีเสื้อสั่งอากาศเข้าจุดระเบิดในห้องเครื่อง ถ้าเหยียบน้อยก็มีอากาศเข้าห้องเครื่องได้น้อยมันก็จุดระเบิดได้แรงน้อยไปด้วย

ขอบคุณครับคุณHแล้วคำถามขัอ2ช่วยตอบหน่อยได้มั้ยครับ อยากรู้จริงๆ

ออฟไลน์ H.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,896
    • อีเมล์
คำถามข้อที่ 2 เข้าใจถูกต้องแล้วนะครับ ไม่มีอันหยังจะอธิบายเพิ่มเน้อ
แต่...รอบที่ผ่านไปแล้วก็ไม่ใช่ว่ากราฟมันจะปักหัวลงทันทีนะครับ รถบางคันที่ Power Band กว้าง ต่อให้เลยรอบที่ว่าแล้วก็ยังอยู่ในจุดแรงบิดสูงสุดอยู่ซักพักนึง
H.

ออฟไลน์ Alcatraz

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,604
    • อีเมล์
เลข500 คือแรงบิดสูงสุด แต่พอไปดูกราฟ มันจะลดลงเรื่องเลยไม่ใช่แบบ flat toque แบบเครื่องทั่วๆไป และที่แปลกอีกอย่างคือมาสุดในรอบต้นแล้วค่อยแผ่ว ในขณะที่เครื่องทั่วไป มันจะเรื่มจากน้อยแล้วเพิ่มสูงไปเรื่อยๆตามรอบ

มันก็คล้ายๆกับยืนให้คนถีบกับยืนให้คนดึง

ออฟไลน์ MaiSki

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 679
500นั่นมันแรงบิดที่เครื่องผลิต แต่แรงบิดที่ลงล้อแต่ละช่วงเวลามันต้องผ่านอีกหลายตัวแปร เอาง่ายๆสมมุติขับความเร็วคงที่60กม/ชม รอบเครื่อง1800ได้แรงบิดจากเครื่อง500แต่รถไม่ได้เพิ่มความเร็ว เราก็ไม่รู้สึกถึงแรงดึงอยู่แล้วเพราะมันไม่มีความเร่งมาเกี่ยวข้อง อยากให้ดึงก็ลองกระทืบคันเร่งจาก0ดู

ออฟไลน์ banch

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,214
แรงบิดก็คือแรงบิด

อาการดึงก็คืออาการดึง


แรงบิดคือแรงหมุนของเพลาที่เครื่องยนต์สร้างออกมาได้ที่รอบนั้นๆ

แรงบิดที่ล้อก็จะแปรผันตามอัดตราทดเกียร์

อาการดึงก็คืออาการที่เกิดมาจากแรงบิดที่เครื่องยนต์สร้างออกมาถ่ายกำลังผ่านเกียร์ไปลงที่ล้อที่รอบนั้นๆ มีมากกว่าแรงเสียดทานการหมุนของล้อและแรงต้านอากาศขณะนั้นมากๆ

ยิ่งมากกว่ามากเท่าไหร่ก็ยิ่งดึงเท่านั้น

การที่คุณกดคันเร่งเบาๆ ลิ้นปีกฝีเสือขยับนิดเดียว มันไม่ได้สร้างความต่างให้แรงที่ผมว่ามากเท่าไหร่ ก็เลยไม่รู้สึกดึง

ไม่ลองกระทืบคันเร่งดูล่ะครับ

500 นิวตันเมตรเนี่ย กระทืบแล้วไม่ดึงผมว่าเกียร์มีปัญหาแล้วล่ะ






ออฟไลน์ rocky55555

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 630
มันอยู่ที่เกียร์ด้วยครับ เค้าอาจเซ็ตมาให้มันไม่กระชาก สไตล์รถเบนซ์ทำมาไว้นั่งไม่ได้ทำมาไว้ซิ่งครับ

ออฟไลน์ Torque

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 248
อ้างถึง
คำถามผมอาจจะโง่ๆนะครับ แต่ผมไม่มีความรู้เรื่องซิ่งๆเลย ขอรบกวนนักซิ่งผู้รู้หน่อยครับ
เสปคของมันคือ 204แรงม้าที่4,200     แรงบิด500ที่1,600-1,800

1.ทีนี้ผมลองเหยียบเบาๆแต่รอบเกิน2,000ไปแล้วทำไมไม่เห็นดึงเลย
และผมก็ลองเหยียบเบาๆเกิน4,200รอบไม่เห็นแรงถึง204แรงม้าเลย
หรือว่าถ้าจะเหยียบให้ได้ตัวเลขตามเสปคต้องเหยียบมิดจาก0หรือป่าว ห้ามเหยียบเบาๆป้ะครับ


- กราฟแรงม้าแรงบิดสูงสุดที่เห็น ถ้ากดไม่เต็ม กราฟไม่ใช่รูปนี้จะเป็นรูปร่างหน้าตาคล้ายๆกันนี้ แต่ค่าหดต่ำลง เหี่ยวเร็วกว่า
   แต่แนวโน้มของแรงบิดช่่วงใกล้ๆ 1600-1800 รอบ ที่ % คันเร่งต่างๆกัน ก็จะยังคงมีแนวโน้มที่สูงอยู่
   คือมีแรงดีในรอบต่ำๆ กดในช่วงรอบเครื่องต่ำๆนี้ ก็จะมีแรงบิดมาใช้แล้ว ไม่ต้องค่อยๆรอลากรอบแล้วมาดึงที่รอบปลาย   
   แต่ในเมื่อเจ้าของรถเหยียบน้อย แรงก็ออกมาน้อย มันก็ต้องไม่ดึงเป็นธรรมดาครับ
 
อ้างถึง
2.และอีกคำถาม500นิวตันที่1,600-1,800 คือทุกๆเกียร์ที่รอบขึ้น1,600ผมก็จะได้ใช้แรงบิด500นิวตันรึป่าวครับ
เช่นเกียร์1มาที่500นิวตันพอเลย1,800แรงบิดค่อยๆลดลงไป พอเกียร์2ก็มา500อีกแล้วลดลง เกียร์3ก็มา500 เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆรึป่าวคับ

- ทุกๆเกียร์ที่รอบ 1600-1800 ควรจะได้รับสิทธิ์ใช้แรงบิด 500 Nm ที่่ว่านี้ก็จริง ถ้าเครื่องทำงานเต็มที่
   แต่ถ้ากดไม่เต็ม ที่รอบเครื่องที่ว่านี้ก็ไม่ใช่ 500 Nm ครับ
   ต้องน้อยกว่านี้ กราฟก็หน้าตาคล้ายคลึงกัน
   แต่ต้องรูปร่างเตี้ยกว่าตอนเครื่องทำงานเต็มที่

   แต่ถ้ามันเป็ํนเกียร์ออโต้ ถ้ากดเต็มที่ยังไงมันก็สั่งลดเกียร์แน่นอน ดังนั้นหลังจากเีกียร์ 1 แล้ว
   ยังมองไม่เห็นกรณีไหนที่ได้ใช้แรงบิด 500 Nm เต็มๆเลย 

   แม้ในตำแหน่งเกียร์ 1 เองถ้าเบิดแทรคชั่นคอนโทรลไว้ ก็ไม่ได้ใช้ 500 Nm เหมือนกัน
   เพราะถ้ากดเต็มออกเกียร์ 1 ล้อจะฟรีแทรคชั่นคอนโทรลเ้ข้ามาจัดการแทบทุกครั้่ง

   จริงๆแล้วแรงบิดที่เครื่องเท่าไหร่ก็ตาม ยังไงก็ต้องผ่านอัตราทดเกียร์ก่อน
   ออกมาเป็นแรงบิดที่ขับล้อจริงๆ  เครื่องเบนซินแรงบิดน้อยกว่า แต่พอผ่านอัตราทดเกียร์ เฟืองท้าย
   แล้วได้แรงบิดที่ล้อออกมาพอๆกันเลยครับ กราฟแทบจะซ้อนทับกันเลยที่รอบปลายๆ
     
   แรงบิด 500 Nm แต่อยู่ในรอบต่ำๆ มันก็จะดีในช่วงรอบต่ำๆนี้ กดไม่มากนัก แต่พุ่งค่อนข้างมาก
   แต่ก็ไม่ได้ให้ผลเหมือนกับแรงบิด 500 Nm แต่อยู่ในรอบสูงๆ ในตอนที่เราจะซิ่ง
    (แต่แน่นอนว่าโยกแรงบิดสูงๆไปอยู่ในรอบสูงได้    แรงม้าต้องได้เยอะกว่านี้)

รูปข้างล่างนี้ เอามาผ่านอัตราทดเกียร์ เฟืองท้ายออกมาเป็นแรงบิดที่ล้อที่ความเร็วต่างๆ คิดแบบหยาบๆไม่ได้คิดแรงต้านอะไรเลย



ถ้ากดเต็มตั้งแต่ออกตัว แล้วล้อไม่ฟรีเลย มันจะวิ่งด้วยแรงบิดเส้นสีดำ
จะเห็นเลยว่ากรณีนี้ กราฟแรงบิดที่ปูดๆตอนรอบ ต่ำไม่ได้ใช้งานเลยหลังผ่านเกียร์ 1 ไป

ส่วน flat torque หรือไม่ อยากจะให้ดูค่าของมันประ่กอบ เพราะว่าแม้ว่าแรงบิดสูงสุดมาที่รอบต่ำ
แล้วแผ่วลงตลอด แต่ถ้าดูค่าดีๆที่รอบเครื่อง 4000 rpm ยังมีแรงบิดเหลืออยู่ 350 Nm อยู่เลยนะครับ
สมมุติว่าเครื่องอีกตัวมีแรงบิดเป็น flat torque แต่ค่าต่ำกว่านี้  คิดเป็นแรงบิดที่ออกมาล้อก็อาจน้อยกว่านี้ก็ได้



ใน C ไม่รู้ว่าอาการคันเร่งจะหน่วงแบบ E ไหมนะครับ
ถ้าใน E ถ้าอยู่ๆกดคันเร่งสุดแบบเฉียบพลัน
มันจะหน่วงนิดนึงแล้วถึงจะเริ่มไป

และบางครั้่ง(ไม่ใช่ทุกครั้ง)
กดคันเร่งแล้ว พ้นช่วงหน่วงแล้ว แต่ก็ยังเหมือนมาไม่เต็ม รอบยังกวาดไปแบบหนืดๆ
ต้องรอสับขึ้นเกียร์ถัดไปทีนี้ถึงจะดึงแรง
(ทั้งๆที่คิดแรงบิดที่ล้อ @รอบปลายของเกียร์ต่ำก่อนสับขึ้นไปเีกียร์ถัดไป ยังมากกว่าแรงบิดรอบต่ำลงของเกียร์ถัดไป)
ก็ยังงงๆอาการของมันอยู่เหมือนกันครับ ทำให้บางทีขับแล้วกดลึกๆช่วงเวลาสั้นๆแป๊บเดียวเหมือนไม่แรง
แต่ถ้ากดยาวๆ อย่างน้อยๆพอได้สับขึ้นเกียร์ถัดไป ไล่ไปเรื่อยๆ อารมณ์ที่รู้สึุกได้ ไม่แย่ไปกว่ารถอื่น 200 ม้าแน่ๆครับ
a = F/m

ออฟไลน์ Spec C Wannabe

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 553
กราฟข้างบนที่เป็น แรงบิด กับความเร็วในแต่ละเกียร์นี่ได้มายังไงครับ?  น่าสนใจมากครับ

ออฟไลน์ Torque

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 248
กราฟข้างบนที่เป็น แรงบิด กับความเร็วในแต่ละเกียร์นี่ได้มายังไงครับ?  น่าสนใจมากครับ

ผมใช้ค่าจากกราฟแรงม้าแรงบิดในรูปแรกนะครับ แต่เอามาคิดแบบหยาบๆ
เอามาใ้ช้เพื่อดูแนวโน้มนะครับ ไม่ได้นำเรื่องแรงต้านต่างๆมาิคิด (และไม่น่าจะหาข้อมูลได้)

ทำคล้ายก็ตอนที่เราทำแลป วิชาวิทยาศาสตร์
ผมทำแบบหยาบๆนะครับ เพราะรูปกราฟมันไม่ซับซ้อน
ตีเส้นแนวดิ่งซอย ทุกๆ 250 รอบ เพื่อลงจุดวัดค่าแรงบิดที่รอบเครื่องต่างๆ

ตั้งแต่ 1000 , 1250 , 1500, ... , 4500

ค่า แรงบิด vs รอบเครื่อง   
เอามาคำนวณ ผ่านอัตราทดเกียร์ อัตราทดเฟืองท้าย ขนาดของล้อ




โดยที่รอบเครื่องค่าหนึ่ง

แรงบิดที่ล้อ @ รอบเครื่องนั้น = แรงบิดที่รอบเครื่องนั้น x อัตราทดเกียร์ x อัตราทดเฟืองท้่าย

ความเร็วล้อ @ รอบเครื่องนั้น [Km/H]  = RPM x 60 x เส้นรอบวงล้อ / (อัตราทดเกียร์ x อัตราทดเฟืองท้าย)





ข้อมูลอัตราทดเกียร์ เฟืองท้าย และขนาดล้อ ผมเอามาจากในรีวิวคุณจิมมี่เลยครับ

ทีนี้ก็จากข้อมูล แรงบิด VS รอบเครื่อง   เราก็จะได้ชุดข้อมูล แรงบิดล้อ VS ความเร็ว ของแต่ละเกียร์



เอาค่าแรงบิด(แกน Y)  และค่าความเร็วล้อ (แกน X) ของทุกๆเกียร์มารวมกันในกราฟเดียว

จริงๆน่าจะมีวิธีหรือโปรแกรมอื่นที่ดีและง่ายกว่านี้นะครับ
แต่ผมใช้ Excel ทำเพราะใ้ช้เป็นแต่โปรแกรมนี้  :P

ลองเทียบดูกับตอนที่รถวิ่งจริงมันก็สับเกียร์ ตรงตำแหน่งความเร็วใกล้เคียง กับรูปที่ 3 นะครับ
a = F/m

ออฟไลน์ cloud

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 668
    • อีเมล์
โหไม่ผิดหวังเลยครับที่มาถาม  ขอบคุณจากใจจริงครับ มันค้างคาใจผมมาตั้งแต่ออกรถมาปีครึ่งแล้ว ขอบคุณมากๆครับคุณTorque

ออฟไลน์ 2k

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,752
คุณ torque ใส่รายละเอียดมากระจ่างจริงๆ :o เครื่องดีเซลในยี่ห้ออื่นๆก็เป็นนะครับ ถ้าเหยียบไม่เต็มที่รือรอบสูงเลยช่วงแรงบิดสูงสุดไปแล้วจะรู้สึกว่าทำไมมันไม่แรงเท่าทึ่เคยเหยียบ คำตอบอยู่ที่นึ่เอง  :-*
หมาเฝ้าบ้านแจกฟรีจ้า www.dogfindhome.com


ออฟไลน์ Hell GF

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 53
ข้างบนอธิบายละเอียดแล้ว  ผมขอเพิ่มอีกหน่อย

รถเทอร์โบ ถ้าเหยียบน้อย เทอร์โบยังไม่บูสต์ครับ ต่อให้ขับไป4,000รอบ แต่เดินคันเร่งครึ่งเดียวเทอร์โบก็ยังไม่บูสต์ ขอยกตัวอย่างเช่น

กดครึ่งคันเร่ง บูสต์มารอที่0

กด3/4บูสต์0.5บาร์

กดมิดเต็มบูสต์

ถ้ามีบูสต์มิเตอร์จะดีมากครับ ไว้ดูบูสต์มากแรง บูสต์น้อยประหยัดน้ำมัน 

รถเทอร์โบถ้าไม่มีบูสต์นี่ อัตราเร่งจะเหี่ยวมากครับ ช่วงไม่มีบูสต์ก็คือช่วงเทอร์โบแล็ค(รอรอบ)

รอให้ไอเสียมากพอที่จะไปปั่นเทอโบ กดคันเร่งมากไอเสียมาก

กดคันเร่งเบารถถึงไม่ดึงเพราะไอเสียไม่มากพอไปปั่นเทอร์โบครับ

ออฟไลน์ V221

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,823
ผมคิดว่าBenzเซ็ทคันเร่งไว้ให้นุ่มนวลเกินพอดีไปครับ ตอนนี้ขับAudiที่แรงม้าและแรงบิดพอๆกันแต่การตอบสนองคันเร่งไวกว่ามากๆเรียกว่ากดนิดเดียวรถก็จะพุ่งออกไปแทบจะทันทีเกือบเหมือนรถญี่ปุ่นเลยเชียวครับ
BMW 750E M SPORT