Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: benzd ที่ พฤศจิกายน 11, 2011, 20:09:21
-
บางท่าน ใช้รถเก๋ง ก็ดีเซล กระบะก็ดีเซล แต่เห็นว่า ในต่างประเทศ ใช้เบนซินกันเยอะ แถมไปอ่านเจอว่า อีซูซุที่ส่งต่างประเทศบางประเทศเริ่มทำตลาดเบนซินซะแล้ว
-
แรง ประหยัดน้ำมัน ราคาถูกกว่าเบนซิน
อยากได้เหมือนกันครับ แต่ทำใจไม่ได้เวลาวิ่งตามแล้วเห็นควันดำ
;D ;D ;D
-
ผมว่าถ้าเป็นรถยุโรป แรงบิดมันรัดออกมาได้มหาศาลดีครับ แล้วมันประหยัดมากด้วย เลยน่าใช้
-
ผมคิดว่าเทคโนโลยีเครื่องยนต์มันพัฒนาไปไกลมากกว่าเบนซินที่ยังเป็นแบบเดิม ๆ
-
ท่านที่ซื้อรถดีเซลน่าจะเห็นว่า ดีเซลยุคใหม่ๆ แรงและประหยัดประหยัดกว่าเครื่องเบนซิลในขนาด cc เท่าๆกันครับ
ความเห็นส่วนตัวนะครับ
-
แรงดีในรอบต่ำ เหตุผลอะไรนี้ ชอบที่มันแรงและประหยัดได้ด้วย
-
ผมเห็นตรงกันข้ามกับ จขกท ครับ
คนเริ่มใช้ดีเซลมากขึ้น ในขณะที่เบนซินลดลงนะครับ (ทั้งใน และ ตปท)
สังเกตง่ายๆ จากรถยนต์ยุดใหม่ที่ใช้เครื่องดีเซลเยอะขึ้น สมัยก่อนไม่มีใครเอาเครื่องดีเซลมาวางรถเก๋งหรอกครับ
แนวทางการใช้รถเริ่มหันมามองความประหยัดมากขึ้นครับ ซึ่งดีเซลให้ผลได้ดีกว่า
ส่วนความแรง ผมยังให้เบนซินอยู่ดี ถ้าความจุเท่ากัน และเทคโนโลยีพอๆกัน
-
เครื่องเบนซินมีส่วนประกอบมากกว่าดีเซลก็จริง แต่ซ่อมบำรุงง่ายกว่า ความคิดผมดีเซลที่ซ่อมบำรุงง่ายหมดไปตั้งแต่เริ่มยุคคอมมอลเรลแล้วครับ
-
เครื่องเบนซินมีส่วนประกอบมากกว่าดีเซลก็จริง แต่ซ่อมบำรุงง่ายกว่า ความคิดผมดีเซลที่ซ่อมบำรุงง่ายหมดไปตั้งแต่เริ่มยุคคอมมอลเรลแล้วครับ
แล้วทำไมรถเก๋งเครื่องที่เป็นดีเซลล์ต้องแพงกว่าเบนซินด้วยล่ะคับ??? ผมว่านะส่วนประกอบรถดีเซลล์น่าจะมากกว่าเบนซินนะครับ
-
ผมว่าผิดนะ ต่างประเทศน่ะดีเซลขายดีนะ ไปเที่ยวยุโรปดูได้ถ้าไม่เชื่อ รถดีเซลเต็มเมือง เบนซิลที่มันดูว่าเยอะเพราะราคาในรุ่นต่ำถูก และในรุ่นสูงมันแรง
-
ดูจาก Captiva และ Fortuner แล้ว
พอเข้าใจว่าทำไมคนชอบดีเซลมากกว่า
-
ผมว่าเครื่องดีเซลล์แรงกว่าเบนซิลเยอะนะครับ รถสมัยนี้เช่น fortuner pajero captiva vigo รถสมัยนี้ใช้ดีเซลกันเยอะครับ
รถหรูๆก็ยังใช้ดีเซลเลยครับ ส่วนที่เห็นชัดคือรถสปอตครับ ส่วนมากผมชอบดีเซลมากกว่าเบนซิลครับ คหสต.
-
เครื่องเบนซินมีส่วนประกอบมากกว่าดีเซลก็จริง แต่ซ่อมบำรุงง่ายกว่า ความคิดผมดีเซลที่ซ่อมบำรุงง่ายหมดไปตั้งแต่เริ่มยุคคอมมอลเรลแล้วครับ
แล้วทำไมรถเก๋งเครื่องที่เป็นดีเซลล์ต้องแพงกว่าเบนซินด้วยล่ะคับ??? ผมว่านะส่วนประกอบรถดีเซลล์น่าจะมากกว่าเบนซินนะครับ
เท่าที่ผมรู้ ดีเซลแพงกว่าเพราะเครื่องมันแข็งแรงทนทานกว่าเบนซินเพราะดีเซลจุดระเบิดด้วยการอัดน้ำมัน จึงทำให้เครื่องดีเซลมีราคาแพงกว่าเบนซินเล็กน้อย
แต่ในประเทศไทย เครื่องดีเซลราคากระโดดจากเบนซินไปมากส่วนนึงก็เพราะว่ารถเบนซินส่วนใหญ่ได้รับการลดภาษีเนื่องจากรองรับน้ำมัน E20 ในขณะที่ดีเซลไม่ได้ลด
-
หลังจากอ่านรีวิว W221 กับclip 520D F10
ผมยอมมีเสียงเครื่องไม่หวานหู แถมรบกวนชาวบ้าน แต่แลกมาด้วยความประหยัดครับ ;D
-
เบนซินต่างหากครับ ที่ถึงจุดตันในการพัฒนาแล้ว
แต่ดีเซลยังพัฒนาได้อีกไกล และมีความเป็นไปได้อีกมาก
ทั่วโลกหันมาหาดีเซลมากขึ้น และเบนซินน้อยลงนะครับ
ยกเว้นในอเมริกา ที่บ้าเบนซิลกันต่อไป บอกให้ประเทศอื่นประหยัดพลังงาน
ลดการปล่อยมลพิษ แต่มันก็ขับรถกระบะวางเครื่อง Hemi 5.7 กันเกลื่อน
-
ผมสงสัยอ่ะครับว่าดีเซลสมัยนี้ใส่เทคโนโลยีเข้าไปเยอะแล้วมันจะไม่จุกจิกหรือค่าซ่อมมันจะไม่แพงกว่าเบนซินหรอครับ
หรือว่าพอๆกันแล้ว
-
เบนซินมันสนุกเมื่อรอบสูงนะซิครับ เสียงเครื่องยนต์รอบสูง V6 ไพเราะดีเหลือเกิน
ถามว่าในเมื่อบุคลิค เบนซินเป็นแบบนั้นเหมาะกับขับที่ไหน
นอกเมือง แถมต้องซิ่งมากๆ แล้วมีซักกี่ % ที่ขับรถนอกเมืองแล้วจะซิ่งมากๆ
ฉะนั้นดีเซลเลยตอบโจทย์รถในเมืองได้มากกว่า
และดีเซลเนี่ยมันปัญหาน้อยนะครับ ถ้าไม่ยุ่งกับเครื่องมันมากมาย
แต่ถ้าขับในเมืองจริงผมชอบเบนซินนะ(เพราะชิ้นส่วนน้อยกว่าดีเซล เครื่องเบนซินเลยเบากว่า) เอากระบอกสูบซัก 800CC แล้วพ่วงโบ ผมว่าแค่นี้ก็พอสำหรับ A-segment
-
เรื่องความประหยัดเห็นด้วย แต่ความแรงเบนซินแรงกว่า เพราะมีรอบให้ใช้งานสูงกว่า ส่วนรถดีเซลในตลาดแรงด้วยเทอร์โบทั้งนั้น
-
ประหยัด แรงบิดเยอะในรอบต่ำ
ราคาน้ำมันถูก ไม่มีจานจ่าย(และหัวเทียน) จบครับ ;)
-
ชอบเสียงครับ โดยเฉพาะดีเซลเทอร์โบ เสียงรอบต่ำๆ หวีดเบาๆทุ้มไพเราะ
อาจเป็นเพราะฝังใจ เคยได้ยินได้เห็นรถทหารGMCของค่ายทหารในเชียงใหม่(กองพันสัตว์ต่าง-ป.พันเจ็ด)เขาเอามารับส่งนักเรียนลูกทหาร เราไม่ใช่ลูกทหารเลยได้แต่มอง และคิดว่าเท่ห์จังที่ได้ขึ้นรถเท่ห์ๆเสียงหวีดเบาๆไม่เหมือนใคร..
-
ชอบเสียงเหมือนกันครับ ยิ่งตอนเร่งเครื่อง รอบสูงๆ สุดๆไปเลย :D
ส่วนตัวผมชอบ ดีเซลมากกว่า เพราะเสียงเครื่องนี่แหละครับ ขับแล้วได้อารมณ์ (แอบเถื่อน นิดๆ)
-
;D ส่วนตัวชอบดีเซลครับ แรงพอดี และประหยัด บำรุงรักษาง่ายครับ
-
เหตุผล(ที่ชอบดีเซล)
- สมัยนี้เทคโนโลยีทัดเทียมกันแล้ว ดีเซลความจุเท่าเบนซิน บางทีเรี่ยวแรงดีกว่าด้วยซ้ำ(ไม่เหมือน E พวกดีเซลยุคก่อน เครื่อง 2.5 ลิตรไม่ช่วยอะไรเลย)
- แน่นอนละว่าประหยัด
- ค่าเชื้อเพลิงยังคงมีราคาถูกกว่า(แต่ถ้าโดนปล่อยจะเท่าไหร่ละเนี่ย)
- ดูแลรักษาง่าย
- แรง(แต่บางทีก็ไม่เร็ว....)
- พัฒนาได้เรื่อยๆ แม้กระทั่งดีเซลไฮบริด
- จับฉลากได้ เลยชอบดีเซล
ข้อสุดท้ายนี่ล้อเล่นนะครับ......
หรือว่าผมคุ้นเคยกะดีเซลมาตลอดกันเนี่ย?? เพราะขับรถเบนซินแค่ 2 ปีเอง(แต่หลังจากนี้ไปคงขับแก๊สไปอีกนาน)
-
ชอบดีเซลมากกว่าเพราะว่า
1.ประหยัดกว่า
2.แรงกว่าในความจุที่เท่ากัน
3.เครื่องไม่ต้องแบกภาระมากในการขับขี่ คือเครื่องดีเซล แรงม้าและแรงบิดสูงสุด มาในรอบต่ำมาก เผลอ ๆ ยังไม่ถึงครึ่งของรอบทั้งหมดของเครื่องยนต์เลยทำให้เครื่องไม่สึกหรอมาก เปรียบเทียบกับเครื่องเบนซินที่ กว่าแรงม้าและแรงบิดจะมาก็ฟาดรอบไปซะกระจาย ซึ่งในระยะยาวรับรองว่าไม่เป็นผลดีต่อเครือ่งยนต์แน่นอน
4.รักษาสิ่งแวดล้อมมากกว่า
ขอนิดนึงเรื่องเสียงเครื่องดีเซล หลายคนบอกว่า ดีเซลเสียงดัง เพราะ พวกเขายืนฟังด้านนอก ผมอยากจะถามว่า เวลาพี่ขับรถ พี่ขับรถบนฝากระโปรงข้างนอกรถเหรอครับ บางคันนั่งข้างในแทบไม่ได้ยินเลย
-
บางท่าน ใช้รถเก๋ง ก็ดีเซล กระบะก็ดีเซล แต่เห็นว่า ในต่างประเทศ ใช้เบนซินกันเยอะ แถมไปอ่านเจอว่า อีซูซุที่ส่งต่างประเทศบางประเทศเริ่มทำตลาดเบนซินซะแล้ว
ใช้คำว่า ทำไมหลายๆคนยังชอบเบนซินดีกว่าครับ
ผมว่าค่ายนั้นเค้าแต่แตกไลน์เท่านั้นครับ ไม่ได้มีอะไร
แต่ค่ายอื่นกลับมีเครื่องดีเซลทั้งที่แต่ก่อนไม่เคยมีเลยครับ
-
ผมก็เป็นคนใช้ทั้งรถ กระบะและเก๋ง ดีเซลครับ
เพราะประหยัดดีครับ อาจจะอืดไปนิดเครื่องเสียงดังไปหน่อย แต่ถ้าเหยียบก็พุ่งน่ะครับ :)
แถมตอนเติมน้ำมันมีแต่คนมอง (สงใสคันนี้มันเติมน้ำมันผิดแล้ว! :D)
-
ชอบเสียงเครื่องที่ฟังชัดเจน ไม่คุ้นชินกับเครื่องเครื่องเบาๆ ของเบนซิล ฮ่าฮ่า
ชอบแรงบิดที่ดึงได้ใจ ยิ่งพ่วงเทอร์โบเข้าไปแล้ว แรงได้อีก
ชอบที่ไม่ต้องเสียค่าน้ำมันแพงเหมือนเบนซิล
ชอบที่ไม่ต้องเลือกเวลาจะเติมน้ำมัน ว่าจะเลือกโซฮอล หรือว่าเพียวๆ ดี
ชอบที่ดีเซลมีหัวฉีดมาตั้งแต่ไหนแต่ไร
ชอบที่ดีเซลส่วนมากเป็นรถขับหลัง
ชอบที่ดีเซล ขึ้นต้นด้วยตัว D
ชอบที่ไม่ต้องทนเห็นรอบเครื่องกวาดไปเกือบเรดไลน์เพื่อที่จะเรียกแรงม้า แรงบิด
;D ;D ;D
-
เรื่องของมลภาวะ co2 ครับ เพราะเครื่อง ดีเซล มีค่า co2 ต่ำกว่า ซึ่งมีผลทำให้ค่าภาษี ต่ำกว่าครับในยุโรป
ความทนทานดีเซลมีมากกว่า ซ่อมน้อยกว่า ประหยัดกว่า เร่งแซง ขึ้นเขาดีกว่า
-
ผมว่า จขกท น่าจะตั้งว่า ทำไมหลายๆท่านยังชอบเบนซิน ในเมื่อดีเซลสมัยนี้แรงบิดดีเลิศ ประหยัดน้ำมันโคตร ทนด้วย
ส่วนใหญ่ก็จะตอบว่า ไม่ชอบเสียงดัง ไม่ก็ควันดำประมาณนั้น
แต่ผมเปลี่ยนใจจากเบนซินมาชอบดีเซลนานแล้วตั้งแต่ 320d
-
มันประหยัดน้ำมัน แล้วเด๊่ยวนี้แรงบิดของดีเซล แรงมาก เวลาขับแล้วพุ่งแถมไม่กินน้ำมัน ;D
-
ชอบกำลังของเครื่องยนต์ที่มาในรอบต่ำครับ
-
ต่างประเทศไหนละครับ ประเทศที่นิยมเบนซินเครือ่งโตๆ ก็เห็นมีแต่อเมริกาเท่านั้นแหละครับ วิถี อเมริกัน
ส่วนทางฝั่งยุโรป เก๋งดีเซล ผมเข้าใจว่าได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆมากกว่าเบนซินนะครับ เพราะแรงดีในรอบต่ำ ใช้ขับเร่งๆในเมืองประหยัดดีกว่าเบนซิน (แรงกว่าด้วยในบางกรณี)
-
แต่ผมชอบเครื่องเบนซินนะ เพราะมันสามารถใช้พลังงานทางเลือกได้อีกทาง LPG NGV
แต่ผมว่าในยุคปัจจุบันขนาดกระบะยังที่ว่าใช้เครื่องดีเซลยังหันมาใช้เครื่องเบนซินเยอะขึ้นนะครับ
-
เมื่อเทียบกับเบนซิน ข้อดีของดีเซลเยอะกว่าเบนซินครับ
-
บุคลิกมันเปลี่ยนไปครับจากดีเซลเดิมเมื่อ 10ปีก่อน เปิดใจรับสิ่งใหม่ๆครับ
-
สมัยนี้รถดีเซลไม่อืดแล้วครับ แถมบ้านเราน้ำมันก็ราคาไม่แพงเท่าเบนซิน ค่าบำรุงรักษาถูกกว่าเบนซิน ประหยัดน้ำมันด้วย ถ้าให้ จขกท.ลองขับ fortuner 2.7 vvti กับ 3.0 d4d ดูครับแล้วก็จะรู้ครับว่าดีเซลชนะเลิศ(ไม่นับเรื่องติดแก๊ส)
-
แรง + ประหยัด ครับ ถึงจะเสียงไม่ไพเราะเสนาะหูเหมือนเครื่องเบนซิน 6 สูบก็เถอะ
อันนี้ผมพูดถึงเครื่อง ดีเซล commonrail turbo รุ่นใหม่ๆนะครับ ไม่ไช่ อิซุซุมังกรทองนะ
ยิ่งเครื่องดีเซลของทางค่ายยุโรป เปนบลอคเล็กประหยัดน้ำมันมาก แล้วก็แรงมากด้วย น่าใช้มากๆ
-
ชอบเครื่องดีเซลเพราะแรงดึงของมันคับแต่ที่ไม่เร็วหรอกเครื่องดีเซลรุสึกมันดึงดีแต่มองเข็มความเร็วก็ไม่กวาดน่ะและอีกอย่างประหยัดด้วยน้ำมันก็ถูก
แต่ถ้าให้ดีชอบเบนซิลเทอโบแรงจิงๆๆแรงมากๆๆแต่ส่วนใหญ่รถตลาดชอบเอาเทอโบไปใส่เครื่องดีเซลกันก็เลยใช้ดีเซลเพรามีเทอโบ55 ผมเคยนั่งรถเพื่อน
วีออสเทอโบที่โตโยต้านำมาขายอยุพักนึงราคาก็8แสนกว่านู่นแต่ขับมันชิบๆๆๆแรงโคดๆๆเครื่องแค่1500เองเจ้าโก้3พันผมโดนเลยๆๆแต่ยังไงน้ำมันผมก็ถูกดี55
อีกอย่างเสียงเครื่องเบนซิลยังไงก็เพราะกว่าดีเซลดีเซลจะเพราะก็เสียงเทอโบเองแหละ55 ส่วนเบนซิลnaไม่ต้องพูดหวานๆๆเลยโดยเฉพาะเครื่องรอบจัดสไตร์ซุปเปอคาร์
-
ปกติใช้ดีเซลนะ แต่ถ้าหนีเมียเที่ยวกลางคืนจะใช้ไฮบริด ;D
-
สงสัยเป็นที่ผมใช้ LPG วิ่งโลละบาทมั้ง เลยยังติดใจเบนซิน
พอจะหากระบะ ไม่ก็ PPV เลยพยายามหาตัว เบนซิน
ยิ่งเข้าไปดูข้อมูลในเว็บนี้ ยิ่งอยากได้ ไม่รู้ข้อมูลที่ผมได้อ่านๆ จริงรึไม่จริง :'(
http://www.weekendhobby.com/offroad/toyota2700club/weblist.asp (http://www.weekendhobby.com/offroad/toyota2700club/weblist.asp)
-
ผมจะดู 316d กับ 318d ของซีรี่ห์3 ตัวใหม่อยู่
ผมเชื่อว่า 20 กม/ลิตร ทำได้ง่ายๆ ใน 316d
และเผลอๆจะมี 25 กม/ลิตร จากผู้ใช้จริงด้วยซ้ำ
...............
ส่วนตัวผม รถเครื่องอะไรก็ได้ ขอแค่ประหยัด ขับง่าย แรงบิดเป็นช่วงกว้างๆ
แรงพอตัว และซ่อมบำรุงง่ายๆ จะเบนซิน จะดีเซล ก็โอเคทั้งนั้น
-
ปกติใช้ดีเซลนะ แต่ถ้าหนีเมียเที่ยวกลางคืนจะใช้ไฮบริด ;D
โอ้โห ขอกดไลค์สัก 1000 ครั้งครับ ;D ว่าแล้วก็ไปซื้อรถไฮบริดเลยดีกว่า 555+
ช่ายครับ ถ้าว่ากันด้วยเรื่องการติดแก๊ส รถเบนซินมันก็ต้องประหยัดกว่าอยู่แ้ล้ว ถึงแม้ว่า จะเป็น Grand Cherokee ที่กินน้ำมัน 3-5 โล/ลิตรก็เถอะ
คนที่ซื้อ Fortuner 2.7 เบนซิน ผมคิดว่า เกินครึ่ง น่าจะซื้อมาแล้วติดแก๊สหลังจากไม่กี่วันที่ออกรถด้วยซ้ำ รวมถึงพวกรถตู้/กระบะวาง J ทั้งหลายก็เหมือนกัน
แต่ถ้าคิดว่า อยากจะเอารถใหญ่ แรง แต่ไม่ซดน้ำมัน ก็คงต้องดีเซลเท่านั้นละครับ
-
ถ้าโซนยุโรปเค้าใช้กันมาตั้งนานแล้วครับอีกอย่างอเมริกาเองค่ายรถหรูๆหลายค่ายกำลัง
จะเริ่มทำตลาดดีเซลแล้วครับผมว่าประสิทธิภาพโดยรวมเกือบทุกด้านดีกว่าครับตั้งแต่ยุค
ที่พ่วงเทอร์โบมาด้วยประสิทธิภาพและการประหยัดน้ำมันก็เป็นอีกเรื่องที่ดีเซลทำได้ดีกว่า
รวมทั้งแรงบิดของเครื่องยนต์ที่มากกว่า
คนอเมริกันก่อนหน้าปัญหาเศรษฐกิจก็ไม่ค่อยจะมองรถดีเซลกันอยู่แล้วเพราะคนส่วนใหญ่
ของประเทศถือว่ามีรายได้ดีรถจะดีจะเท่ห์ก็ต้องเครื่องใหญ่ๆและต้องเป็นเบนซินสังเกตุจาก
เช่นค่ายญี่ปุ่นที่ไปโตในอเมริกาอย่าง Lexus ปัจจุบันเครื่องดีเซลมีแค่ตัว IS200d ที่ขายใน
ยุโรปที่เหลือมีแต่เครื่องเบนซิน
แต่ยุโรปเน้นประหยัดพลังงานรวมทั้งมาตรฐานไอเสียต่างๆเข้มงวดกว่าและเป็นแหล่งกำเหนิด
ของเครื่องดีเซลรวมทั้งวิถีชีวิตที่ไม่ฟุ้มเฟื่อเท่าคนอเมริการใช้รถบางทีมันก็บอกสภาพความเป็นอยู่
ลักษณะเบื้องต้นของกลุ่มคนประเทศนั้นๆได้
-
ตามหลายๆความเห็นด้านบนเลยคับ
สำหรับผม หลักๆชอบเสียงเทอโบ หวูดเบาๆ กับแรงบิดรอบต่ำ
บำรุงรักษายังไม่เห็นความต่างกันเท่าไหร่คับ
-
มาดูทัศนคติต่อรถ SUV ขนาดยักษ์ เครื่องเบนซิน 8 สูบกัน (สมมุดว่าในโลกนี้ไม่มีการติดแก๊ส)
คนอเมริกัน: รถคันนี้มันใหญ่ เครื่องแรง นั่งสบาย แถมเครื่องก็เดินเรียบมาก แต่มันกินน้ำมันไปนิ้้สสสสนึง แต่ไม่เป็นไรหรอก ค่าน้ำมันเดือนละแค่ 5-6 หมื่น กุมีปันยาจ่าย
คนไทย: โอ้โห บ้านมรึงขายน้ำมันหรอฟระ แDกน้ำมันตายx่า :P
-
จริง ๆ แล้วต้องถามใหม่ว่า ทำไมหลาย ๆ ท่านและตลาดบางประเทศยังชอบเบนซิน จะเห็นได้ว่า ทุกวันนี้หลายประเทศหันมาให้ความสำคัญกับเครื่องยนต์ดีเซลกันแล้ว เพราะประสิทธิภาพกำลังเครื่องมีมากกว่าในความจุเท่ากัน ไม่ว่าจะเป็นแรงบิดหรือแรงม้า ไปจนถึงความประหยัด ความทนทาน การดูแลรักษา ยิ่งกว่านั้นมลพิษทางเสียงและอากาศมีน้อยลง เพราะในเมื่อประสิทธิภาพเท่ากันหรือมากกว่าเบนซิน แต่ค่าน้ำมันและราคาไม่ต่างกัน คนก็หันไปหาดีเซล
บรรดาตลาดรถใหญ่ ๆ หลายที่ก็ให้ความสำคัญกับดีเซลมากขึ้นพอสมควร อย่างเช่นตลาดยุโรป อันนี้ชัดมากว่าคนนิยมดีเซลมากกว่าเบนซินมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว ตลาดอเมริกาเองก็ให้ความสำคัญกับดีเซลมากขึ้นเพราะความจำเป็นทางเศรษฐกิจ ตลาดอินเดียที่กำลังเติบโต ปรากฏว่าคนใช้ดีเซลกันเยอะมาก และจะเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย เป็นต้น
นอกจากนี้ เทคโนโลยีของเครื่องดีเซลยังพัฒนาได้อีกไกล เพราะมีโจทย์ให้หาคำตอบเยอะ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาความทนทานของตัวเครื่องยนต์เพื่อรองรับกำลังอัดมหาศาลของเทอร์โบ เทคโนโลยีเทอร์โบ เทคโนโลยีไฮบริด ระบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ที่ยังพัฒนาได้อีกไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความแม่นยำ ละอองจากการฉีดน้ำมัน ฯลฯ ขณะที่เบนซินเริ่มตีบตันไม่ค่อยจะมีโจทย์ให้ทำ ทำได้แค่ดาวน์ไซซิ่งเท่านั้น อีกทั้งเครื่องดีเซลรองรับการเพิ่มกำลังเครื่องยนต์ได้มากกว่าเครื่องเบนซินหากใช้ระบบช่วยอัดอากาศ เพราะในเชิงวิศวกรรม ไอดีที่ใช้ในการจุดระเบิดของเครื่องดีเซลมาจากอากาศเปล่า ๆ ที่มีการอัดด้วยอัตราส่วนกำลังอัดที่สูงมากก่อนสันดาปโดยใช้ละอองน้ำมันเสียดสีอากาศ ขณะที่ของเบนซินมาจากการใช้น้ำมันผสมอากาศแล้วใช้ความร้อนสันดาป ซึ่งเมื่อถึงจุดหนึ่งการเพิ่มกำลังอัดโดยเพิ่มมวลและปริมาณอากาศในเครื่องเบนซินมันจะถึงขีดจำกัดเพราะมันจะลุกไหม้เสียก่อนจุดระเบิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องที่ฉีดน้ำมันตรงเข้าห้องเผาไหม้ มีโอกาสบึ้มได้สูงเพราะจ่ายน้ำมันเบนซินซึ่งเผาไหม้เร็วตอนแรงอัดสูงมีโอกาสเสียดสีอากาศและชิงจุดระเบิดก่อนได้ ส่วนดีเซล ด้วยความที่ใช้อากาศเปล่า ๆ สามารถเพิ่มกำลังได้มากกว่าตราบที่เทคโนโลยีโลหะมีการพัฒนาให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อรองรับจุดนี้และมีอีกหลายอย่างที่เครื่องดีเซลยังไม่พัฒนาและมีโอกาสจะไปให้ถึงจุดนั้นได้
นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมเครื่องดีเซลจึงเป็นที่นิยมมากขึ้น
-
ลองหารีวิว รถเก๋งดีเซลดูครับ แล้วคุณลองเปรียบเทียบกับ เก๋งเบนซินดู....
ปล.ถ้าจะถอยPPv แล้วชอบติดแก๊ส ไม่ห่วงเรื่องอืด ก็คงต้องเบนซินแล้วล่ะครับ ส่วนตัวก็ยังเชียร์ดีเซลอยู่ดี ;D
-
เพราะเห็นคนขับวีโก้ ฟอร์จูนเนอร์ วิ่งบนถนนแล้ว บอกได้ว่า " แรงอ่ะ " ..
-
ผมก็ชอบ ดีเซล ครับ แต่ต้องมีเทอร์โบ และต้องมีระบบคอมมอนเรล เป็นพื้นฐาน
เพราะถ้าไม่มี 2 สิ่งนี้ ดีเซล ก็ไม่ต่างอะไรกับเครื่องยนต์พื้นฐานทั่วๆไป ที่ไม่มีเรี่ยวแรงอะไรเท่าไหร่เลย
รถดีเซล แพงกว่าเบนซิน เพราะต้นทุนเครื่องยนต์ แพงกว่าครับ เสื้อสูบของเครื่องดีเซล ต้องออกแบบ
ให้ทนต่อการรับแรงเสียดทานสูงๆ กำลังอัดสูงๆ น้ำหนักของเสื้อสูบเองก็ต้องหนักกว่าเครื่องเบนซินอีกด้วย
ในยุโรป ยอดขายรถดีเซล แซงหน้า เบนซิน ในอัตราส่วน ดีเซล 70 เบนซิน 30 มาหลายปีแล้วครับ
สหรัฐฯ เอง ยังไม่ค่อยนิยมเครื่องดีเซล เท่าไหร่
-
ดีเซล คอมมอนเรล สำหรับผม มันดีกว่าตรง ประหยัดกว่า ทนกว่า บรรทุกได้ดีกว่า
แต่ความแรงนั้น มันยังสู้เบนซิน ไม่ได้จริงๆ ทั้ง Na และ turbo ถ้า cc เท่ากันนะ
ถ้าขับเอามัน ขับสนุก ผมถือหาง เบนซิน อยู่ดี
-
บ้านผมยังใช้เบนซินอ่ะ ทั้ง 2 คันเลย
เพราะไรหรอ ไม่รู้สิิ
ไว้ซื้อรถใหม่ค่อยเปลี่ยน
-
เพราะมีดีเซลอยู่ในสายเลือด พ่อผมใช้รถดีเซลพาผมขับรถลุยน้ำกันมาตั้งแต่ประเทศไทยยังไม่ผลิตเก๋งโดเรมอน
-
มันเป็นวัฏจักรแบบนี้แหละครับ
ยกตัวอย่าง เซนเซอร์รับภาพของกล้องดิจิตอล
แรกเริ่มที่ CMOS แล้วมันตัน
ก็มี CCD มาแทนที่
ตอนนี้ก็กลับมาใช้ CMOS อีก เนื่องจากก้าวข้ามข้อจำกัดในก่อนหน้านี้ได้แล้ว
เครื่องยนต์ก็เหมือนกัน
เมื่อก่อนดีเซลฉีดไม่ตรง กับฉีดตรงไม่โบ ไม่คอมมอนเรล
ก็ติดที่ แรงดันน้ำมัน และ หัวฉีด ที่ยังไปไม่ถึงไหน จึงทำให้โดยรวมแล้วด้อยกว่าเบนซิน
แต่ตอนนี้ ปั๊มทำแรงดันสูง 2000 บาร์ บวกกับ หัวฉีด piezo ฉีด 3-4-5-6 จังหวะ ได้สบายๆ
ทำให้เครื่องดีเซลเริ่มทำได้ดีกว่าเครื่องเบนซิน
แต่หลังจากนี้ ถ้าเค้าไม่หนีไปไฟฟ้ากันหมดเสียก่อน
เครื่องเบนซินฉีดตรง เทอรโบ แปรผันวาล์ว แปรผันอัตราส่วนกำลังอัด HCCI 6-8 จังหวะ ก็จะมาแทนที่ ดีเซล ไดเร็คอินเจ็คชั่น เทอร์โบ คอมมอนเรล
-
ชอบดีเซล ชอบที่มันแรงและประหยัด ไม่ต้องรีดรอบสูงก็มีเรียวแรง
-
ผมชอบหมดนะครับ เครื่องสมัยนี้ Benzine ก็ฉีดตรง + Super Charge คล้ายกับกับ Diesel แล้ว
ถ้า Benzine นั้นผมจะชอบเครื่องที่ ใช้รอบสูงลากชนขีดแดงได้อย่างสนุก เสียงหวานๆ
แต่ถ้าเครื่องที่ลากใกล้ๆขีดแดงแล้ว เสียงจะขาดใจตาย ตื้อๆ ผมก็ไม่ชอบครับ
ส่วนเครื่อง Diesel ผมจะชอบเวลาที่อารมณ์เย็น ไปเรื่อยๆ ไม่เร่งรีบ มองการกินน้ำมันแล้วยิ้มเต็มที่ ;D
-
ผมชอบนะ แต่ต้องเทอร์โบ-คอมมอนเรล ดีเซล อย่างที่พี่จิมบอกอ่ะครับ
แต่ถ้าเครื่องยนต์เบนซินทำให้ประหยัด แรงมาไวในรอบต่ำ แต่ยังคงเสียงเพราะๆแบบเดิม ผมก็อาจชอบเบนซินก็ได้นะ ;D ;D
-
1. ราคาน้ำมันถูกกว่า
2. อัตราการกินน้ำมันน้อยกว่าเครื่องเบนซิน
3. ทนทานกว่า
-
ต่างประเทศที่ว่าน่าจะเป็นไอ้กันครับ
เพราะยุโรปก็ใช้ดีเซนกันเยอะแยะ
-
ยุโรปใช้ดีเซลแบบเป็นล่ำเป็นสันมา 20-30 ปีแล้วมั้ง รถเก๋ง Diesel ขายดีมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
ข้อเสียดีเซล ผมนึกออกแค่ 2 ข้อนะ
1. เสียงดัง (ถ้าเทคโนโลยีพอๆ กันกับเบนซิน)
2. รอบเครื่องสูงสุดมันน้อยไปนิด ทำให้คนขับต้องขยันเปลี่ยนเกียร์บ่อยขึ้น
แต่ที่เหลือ ดีเซลกินเรียบ แรงบิดมาในรอบต่ำกว่า ปล่อยมลพิษน้อยกว่า บลาๆๆๆๆๆ
ประเทศพัฒนาแล้ว ที่ยังบ้าเบนซินจริงๆ จังๆ ผมนึกออกแค่ USA กับญีปุ่นแหละครับ USA ผมไม่รู้ แต่คนญี่ปุ่นอคติกับ diesel ครับ (จริงๆ ก็คือพวกเขาทำเครื่องดีเซลสะอาดๆ แรงๆ ไม่เป็นมากกว่ามั้ง)
-
ยุโรปใช้ดีเซลแบบเป็นล่ำเป็นสันมา 20-30 ปีแล้วมั้ง รถเก๋ง Diesel ขายดีมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
ข้อเสียดีเซล ผมนึกออกแค่ 2 ข้อนะ
1. เสียงดัง (ถ้าเทคโนโลยีพอๆ กันกับเบนซิน)
2. รอบเครื่องสูงสุดมันน้อยไปนิด ทำให้คนขับต้องขยันเปลี่ยนเกียร์บ่อยขึ้น
แต่ที่เหลือ ดีเซลกินเรียบ แรงบิดมาในรอบต่ำกว่า ปล่อยมลพิษน้อยกว่า บลาๆๆๆๆๆ
ประเทศพัฒนาแล้ว ที่ยังบ้าเบนซินจริงๆ จังๆ ผมนึกออกแค่ USA กับญีปุ่นแหละครับ USA ผมไม่รู้ แต่คนญี่ปุ่นอคติกับ diesel ครับ (จริงๆ ก็คือพวกเขาทำเครื่องดีเซลสะอาดๆ แรงๆ ไม่เป็นมากกว่ามั้ง)
ญี่ปุ่นมี Pajero และ X-Trail แล้วครับ
แถมมาสักพักแล้วด้วย
-
ยุโรปใช้ดีเซลแบบเป็นล่ำเป็นสันมา 20-30 ปีแล้วมั้ง รถเก๋ง Diesel ขายดีมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
ข้อเสียดีเซล ผมนึกออกแค่ 2 ข้อนะ
1. เสียงดัง (ถ้าเทคโนโลยีพอๆ กันกับเบนซิน)
2. รอบเครื่องสูงสุดมันน้อยไปนิด ทำให้คนขับต้องขยันเปลี่ยนเกียร์บ่อยขึ้น
แต่ที่เหลือ ดีเซลกินเรียบ แรงบิดมาในรอบต่ำกว่า ปล่อยมลพิษน้อยกว่า บลาๆๆๆๆๆ
ประเทศพัฒนาแล้ว ที่ยังบ้าเบนซินจริงๆ จังๆ ผมนึกออกแค่ USA กับญีปุ่นแหละครับ USA ผมไม่รู้ แต่คนญี่ปุ่นอคติกับ diesel ครับ (จริงๆ ก็คือพวกเขาทำเครื่องดีเซลสะอาดๆ แรงๆ ไม่เป็นมากกว่ามั้ง)
ญี่ปุ่นมี Pajero และ X-Trail แล้วครับ
แถมมาสักพักแล้วด้วย
อืมม จริงสินะครับ
อยากรู้เหมือนกันว่า ณ เวลานี้ คนญี่ปุ่นมีทัศนคติต่อเครื่องดีเซลดีขึ้นบ้างไหม เมื่อเทียบกับช่วงปี 2002 เพราะช่วงนั้นมันแย่สุดๆ จริงๆ
-
ความจุเท่ากันก็ใช่ว่าเบนซินจะแรงกว่าครับดูอย่าง320Iกับ320Dไง อย่าง320Dนี่ต้องไปเทียบกับ325Iแล้วแต่ความประหยัดมีมากกว่ากันค่อนข้างเยอะ ;D
ที่จริงหากเป็นเบนซินระบบอัดอากาศที่มีแรงในรอบต่ำแต่ให้กำลังสูงโดยไม่กินน้ำมันก็มีเบนซ์ไง แต่ปัญหาคือภาษีที่ถีบราคาขายในบ้านเราให้สูงเกินจริงไปหลายเท่าทำให้คนส่วนมากไม่มีโอกาสได้เปรียบเทียบกันได้จริงจังนัก :P
-
ทำไมไม่พูดกันบ้างว่า AMERICAN ONLY !
-
มันเป็นวัฏจักรแบบนี้แหละครับ
ยกตัวอย่าง เซนเซอร์รับภาพของกล้องดิจิตอล
แรกเริ่มที่ CMOS แล้วมันตัน
ก็มี CCD มาแทนที่
ตอนนี้ก็กลับมาใช้ CMOS อีก เนื่องจากก้าวข้ามข้อจำกัดในก่อนหน้านี้ได้แล้ว
เครื่องยนต์ก็เหมือนกัน
เมื่อก่อนดีเซลฉีดไม่ตรง กับฉีดตรงไม่โบ ไม่คอมมอนเรล
ก็ติดที่ แรงดันน้ำมัน และ หัวฉีด ที่ยังไปไม่ถึงไหน จึงทำให้โดยรวมแล้วด้อยกว่าเบนซิน
แต่ตอนนี้ ปั๊มทำแรงดันสูง 2000 บาร์ บวกกับ หัวฉีด piezo ฉีด 3-4-5-6 จังหวะ ได้สบายๆ
ทำให้เครื่องดีเซลเริ่มทำได้ดีกว่าเครื่องเบนซิน
แต่หลังจากนี้ ถ้าเค้าไม่หนีไปไฟฟ้ากันหมดเสียก่อน
เครื่องเบนซินฉีดตรง เทอรโบ แปรผันวาล์ว แปรผันอัตราส่วนกำลังอัด HCCI 6-8 จังหวะ ก็จะมาแทนที่ ดีเซล ไดเร็คอินเจ็คชั่น เทอร์โบ คอมมอนเรล
ตามนี้เลยฮะ
แต่ผมว่า คนเราอย่าพูดถึงเรื่องรักโลก หรือ เสียงดังเลย
ผมยังจำได้เลยว่า ตอนที่ ดีเซล มันขึ้นพรวดๆ คนขับวิโก้ ยกเอาคอมมอลเรลทิ้ง
เพื่อที่จะเปลี่ยนเครื่องมาติดแก๊ส กันให้พรึบ
ตอนนี้ที่ดีเซลมันราคาแรงเพราะ เราไม่เก็บเงินเข้ากองทุน หวังในใจจะให้ช่วยเหลือเกษตรกร
แต่ มิเป็นเช่นนั้นไม่ เมื่อพวกเล่นเอาความหวังดีมา ซัดซะ สู้เก็บๆ ไปดีกว่ารึเปล่า
-
ถ้าคุยเรื่องเครื่อง ข้อดีของดีเซลที่ชนะเบนซิลคือพาวเวอร์เเบนหรือช่วงกำลังที่กว้างกว่า
ไม่ว่าจะมีโบหรือไม่ก็ตาม เรียกง่ายๆคือดึงตลอดถึงมีโหลดมากๆก็รับไหว แต่ มันตันไว
เพราะรอบหมด(ยังไงก็ไม่สามารถเกิน 6000รอบไปได้) ดูจากรถบรรทุกไม่ว่าสัญชาติไหน
เมกา ยุ่น ยุโรป ดีเซลทั้งนั้น กับอีกข้อคืออายุการใช้งานดีเซลทนกว่า เพราะคุณลักษณะ
เรื่องรอบเครื่องนี่แหละ ส่วนเบนซิลได้เปรียบเรื่องเสียงกับรอบเครื่องที่ปั่นได้ยาว เพราะ
กำลังอัดต่ำกว่าเกือบครึ่ง แต่ช่วงกำลังมันแคบและอยู่สูง จึงต้องรีดเค้นเครื่องยนต์หนัก
ทำให้สิ้นเปลืองและสึกหรอสูง
ส่วนเรื่องค่านิยม เมกาชอบความสบายเป็นหลัก รถของพวกเค้าจึงมีช่วงล่างนิ่มกว่า คันใหญ๋
กว่า เสียงเงียบไม่สั่น เกียร์ออโตไส่ครั้งเดียวตอนขึ้นรถจนถึงที่หมาย ประหยัดหรือปล่าวไม่รู้
-ูมีตังค์จ่าย(ทั้งที่กู้เค้ามา) ส่วนพี่ยุ่นเค้าใช้รถแบบเครื่องใช้ทั่วไป คือใช้แล้วทิ้งดูได้จากอายุ
รถแต่ละรุ่นสั้นกว่าชาวบ้านมาก เพราะพวกเค้าเป็นนักผลิต ถ้าไม่้ทิ้ง มันขายของใหม่ไม่ได้
เค้าจึงไม่สนเรื่องความทนทาน อีกทั้งพวกเค้าเป็นคนบ้างาน เวลาไม่ทำงานเค้าจะต้องการ
ความสบายแบบสุด ดังจะเห็นได้ว่าเครื่องใช้ทุกอย่าง มันอัตโนมัตหมดตั้งแต่รถยันชักโครก
ส่วนยุโรปเป็นคนมีเหตุมีผล รักษ์โลกรักษ์ทรัพยากร รักความคุ้มค่า และใช้ชีวิตแบบมีไลสไตล์
จึงนิยมรถ ทน ประหยัด ขับสนุก คันไม่โต อายุรถแต่ละโมเดลสูงกว่าญี่ปุ่น
แล้วเราล่ะ ชอบแบบไหน ส่วนตัวยอมรับชอบแบบยุโรป (ส่วนใหญ่น่าจะยุ่นผสมเมกา)
-
ผมชอบเบนซิน
เรื่องแรงบิดที่รอบต่ำ ไม่เห็นจะเป็นปัญหาอะไรเลย เพราะยังไงแค่กระแทกคันเร่ง หรือชิฟท์เกียร์ลง รอบเครื่องเบนซินมันก็ฟาดปั้กๆแล้ว จะไปแคร์ทำไมกัน
แล้วผมก็ไม่ได้ใช้รถบรรทุกสิบล้ออะไร ชีวิตส่วนใหญ่ขับแต่รถคันเล็กๆอย่างรถเก๋ง รถมอเตอร์ไซค์
จริงอยู่ว่ามันไม่ประหยัดเท่าดีเซล และดูเหมือนจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ด้วย แต่ดีเซลก็ไม่สามารถจะทดแทนกับความได้ดั่งใจของเบนซินฮะ
(อีกนัยหนึ่งที่เบนซินมีค่าใช้จ่ายสูง ก็เพราะราคาน้ำมันด้วย ถ้าหากวันหนึ่งเกิดดีเซลราคาเท่ากับหรือแพงกว่าเบนซินขึ้นมา ค่าใช้จ่ายมันก็คงไม่ต่างกันเท่าไหร่)