ผู้เขียน หัวข้อ: คุณว่า... รถ C-Segment จะอยู่คู่บ้านเราไปอีกนานแค่ไหนครับ ตลาดซบเซาเหลือเกิน  (อ่าน 11599 ครั้ง)

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
เมื่อก่อน พูดถึงรถบ้าน รถครอบครัว หรือรถคันเดียวของบ้าน
ผมเชื่อว่า C-Segment เป็นตัวเลือกหลักๆที่จอดอยู่ตามบ้านซะเป็นส่วนใหญ่

แต่ทุกวันนี้ ตลาดแข่งขันรุนแรงขึ้น

- SUV เริ่มเข้ามามีบทบาท ทั้งความอเนกประสงค์ และราคาน้ำมันที่ถูกลง
- รถ B-SUV สดใหม่ ร้อนแรง ประหยัด คล่องตัว อเนกประสงค์
- B-Segment ที่ขยายร่างใหญ่ขึ้นทุกวันจนแทบจะขี่ C-Segment อยู่แล้ว
- D-Segment ตัวล่างที่ราคาเอื้อมถึง ออฟชั่นเพียบ หรูหรา นุ่มสบาย และสวยซะเหลือเกิน
- กระบะ 4 ประตู ที่ยกระดับความสบาย ทั้งภูมิฐาน ออฟชั่นเยอะ และอเนกประสงค์
- รถ Eco car ที่สมรรถนะพึ่งพาได้ ไปได้ทั่วไทย ประหยัด และราคาย่อมเยา

จะเห็นว่าที่ยืนของ C-Segment เริ่มเล็กลงเรื่อยๆ

...............................................

"ทุกท่านคิดว่า ตลาดรถ C-Segment ในบ้านเราในอนาคตจะเป็นอย่างไรครับ"

ลองตอบโจทย์นี้ดูนะครับ...

1. จุดเด่นของ C-Segment คืออะไร
2. ถ้าท่านเป็น Product manager ของ C-Segment ในค่ายรถยนต์แห่งหนึ่ง ท่านจะมีวิธีดิ้นรถยังไงให้ท่านมีที่ยืนในบริษัทครับ
3. ทุกท่านเคยมีความคิดจะซื้อ C-Segment ไว้ใช้งานมั้ยครับ ถ้ามี เพราะอะไร
4. ถ้าท่านซื้อรถได้เพียงคันเดียวของบ้าน C-Segment อยู่ในสายตาของท่านบ้างมั้ย??
5. สุดท้าย... คือ ไม่ได้ทับถมนะครับ แต่ถ้าจากคำถามข้อที่ 2 ถ้าท่านเป็น Product Manager ของ Civic หรือ Sylphy ท่านจะทำยังไงครับ

ส่วนตัวผม
พอดีแฟนจะซื้อรถใหม่ครับ ถึงได้เกิดคำถามนี้ขึ้นมา
เดิมคุณเธอใช้ Civic มาก่อน แต่บ่นๆว่าไม่ชอบแล้ว (เธอปลื้ม CX5 และ HRV ค่อนข้างมาก)

ผม... บอกให้ซื้อ City คุ้มค่า ถูก ซ่อมบำรุงง่าย ขับง่าย ออฟชั่นเยอะ สวย สดใหม่
พ่อแฟน... บอกให้ถอย Accord ไปเลย สวยสง่า นุ่มสบาย ภูมิฐาน ใช้ 10 ปีก็สวยไม่สร่าง
แม่แฟน... ถอย CRV ไปเลยลูก สูงใหญ่ ปลอดภัย แม่ปลื้ม
พ่อผม... พ่อว่า Yaris เหมาะกว่านะ ประหยัด ขับง่าย ดูแลง่าย เพื่อนเพียบ
แม่ผม... แม่ชอบ CRV นะลูก ใหญ่ดี น่าจะนั่งสบาย ดูปลอดภัยกว่าเก๋งนะ

... ไม่มี C-Segment เข้ามาในตัวเลือกเลย ...
สมมุติ ถ้าเป็น 5 ปีที่แล้ว ผมเชื่อว่า C-Segment ต้องหลุดเข้ามาในตัวเลือกแน่นอน
แต่ทุกวันนี้ อะไรๆเปลี่ยนไป การแข่งขันรุนแรงขึ้น ตัวเลือกเยอะขึ้น

ปล. ส่วนตัวผมชอบ C-Segment นะ มันแรง เกาะถนน เล่นโค้งง่าย ดูแลง่ายไม่จุกจิก
ออฟชั่นพอประมาณ อะไหล่ไม่แพง ขับชิลๆก็ได้ จะขับให้มันประหยัดก็ได้

ทุกท่านคิดว่าไงครับ??

ออฟไลน์ bookish1

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 127
เห็นด้วยเลยครับ หลังๆยิ่งมีพวก juke ecospot HRV มาแย่งยอดอีก

ออฟไลน์ dazetos

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 406
ถ้าดูจากตัวเลือกที่บ้านคุณเสนอมา

ปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้คำตอบของบัานคุณออกมาแบบนี้ ความเห็นส่วนตัวผมคิดว่าอยู่ที่ "งบ" ครับ

- ที่บ้านคุณต้องการรถป้ายแดง
- บ้านคุณมีงบประมาณมากพอที่จะซื้อ D-seg หรือ SUV ญี่ปุ่น ตัวเลือกจึงเป็น อย่างที่เห็นถึง 3 ใน 5
- ไม่งั้นก็ประหยัดไปเลยจึงเลือก B-seg ออกมา 2 ใน 5
- มันจึงทำให้มองข้าม C-seg ไป แถมด้วย กระบะ และ PPV ทั้งหลายครับ

C-seg ยังเป็นตลาดใหญ่อยู่ครับ และยังอยู่ไปอีกนานครับ

ออฟไลน์ rut191

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,212
เมื่อ2ปีก่อนเกือบจะออกc segแล้วคับตั้งงบไว้8แสนแต่มีรถคันแรกพอดีซึ่งCไม่ลด เลยมองไปที่กระบะ4ประตูแทนเพราะเอาไว้สำรองแทนรถขนของด้วยครับ
แต่มาตอนนี้ที่บ้านมีแผนจะออกCsegอีคัน พูดถึงงบ8-9แสน ตอนนี้เลือกยากอยู่เพราะแต่ละคันมาแบบกั๊กๆ ถ้ามีเงินเพิ่มงบไปยันตัวท็อปก็ล้านนิดๆเอาD segไม่ดีกว่าหรอจัดเต็มทุกรุ่น สมมุติถอยงบลงมาหน่อย6-7แสนก็ได้Bsegจัดเต็มเหมือนกัน

ออฟไลน์ bubball

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,838
1. จุดเด่นของ C-Segment คืออะไร
- จุดเด่นคงเป็นความคล่องตัว , ความกว้างและช่วงล่างที่ดีกว่า B SUV (มั้ง)
2. ถ้าท่านเป็น Product manager ของ C-Segment ในค่ายรถยนต์แห่งหนึ่ง ท่านจะมีวิธีดิ้นรถยังไงให้ท่านมีที่ยืนในบริษัทครับ
- ถ้าเป็น Product manager คงพยายามจัดออฟชั่นให้ดีเท่าหรือดีกว่า B SUV ครับ ลองคิดดูว่าถ้า M3 จัดออฟชั่นเท่า HRV จะเกิดอะไรขึ้น ?
3. ทุกท่านเคยมีความคิดจะซื้อ C-Segment ไว้ใช้งานมั้ยครับ ถ้ามี เพราะอะไร
- มีครับ คือแรกสุดมีความคิดว่าอยากได้ M3 มากๆ แต่ !!! ด้วยความที่ที่บ้านมี Civic FD อยู่แล้ว ผมจึงอยากได้รถที่ยกสูงหน่อย เพื่อให้มีรถที่แตกต่างกัน 2 คัน จะได้ไม่เบื่อ จึงตัดสินใจซื้อ HRV ครับ(เพราะมี FD ไม่ใช่เพราะ HRV ถ้าลองไม่มี FD ผมซื้อ M3 แน่นอน)
แต่ต่อจาก HRV คิดว่าถ้าจะซื้อ Sedan คงขยับไป D Sedan แทนครับ
4. ถ้าท่านซื้อรถได้เพียงคันเดียวของบ้าน C-Segment อยู่ในสายตาของท่านบ้างมั้ย??
- อยู่ครับ  คือถึงแม้ว่าจะชอบการออกแบบของ B SUV แต่ก็ยังอยากได้ฟิวลิ่งแบบ Sedan อยู่ครับ
อย่างที่บอกไปในคำตอบข้อ 3 ครับ คืออยากมี 2 คันที่แตกต่างกัน จะได้ไม่เบื่อ
5. สุดท้าย... คือ ไม่ได้ทับถมนะครับ แต่ถ้าจากคำถามข้อที่ 2 ถ้าท่านเป็น Product Manager ของ Civic หรือ Sylphy ท่านจะทำยังไงครับ
- ก็อย่างที่บอกครับ คือพยายามผลักดันให้ออฟชั่นมันดีเท่าหรือดีกว่า B SUV ให้ได้ จะได้ลดข้อเปรียบเทียบลงและแบ่งกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจนขึ้น นั่นคือถ้าในกรณีที่ C Sedan ออฟชั่นเท่า HRV ผู้ซื้อก็จะต้องเลือกแล้วละว่าชอบกว้างหรือชอบสูง แต่จะไม่มีประเด็นเรื่องออฟชั่นมาเกี่ยว ซึ้งผมคิดว่าที่ HRV ขายดีมาจากออฟชั่นนี่แระที่ทำให้คนสนใจและมองว่ามันคุ้ม เพราะงั้นค่ายรถต้องพยายามทำทุกทางเพื่อทำให้เห็นว่า C Sedan นี่แระ คุ้มกว่า B SUV ถ้าทำได้ก็ชนะครับ ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 30, 2014, 22:55:50 โดย bubball »

ออฟไลน์ Forty-NineRS

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 179
  • Mister.G
1. จุดเด่นของ C-Segment คืออะไร
  -  ความไม่เล็ก ไม่ใหญ่ของมันครับ เหมาะกับเป็นรถบ้านสำหรับครอบครัวฐานะปานกลางไม่อยากเบ่งไปให้เกินกำลัง เด็กจบใหม่ที่ที่บ้านSupportได้

2. ถ้าท่านเป็น Product manager ของ C-Segment ในค่ายรถยนต์แห่งหนึ่ง ท่านจะมีวิธีดิ้นรถยังไงให้ท่านมีที่ยืนในบริษัทครับ
  - แชร์PlatformกะSegmentอื่น  สร้างความโดดเด่นแบบสุดโต่งไปเลยในโปรดักต์นั้น เน้นการส่งออกไปยังประเทศที่เค้ายังต้องการ

3. ทุกท่านเคยมีความคิดจะซื้อ C-Segment ไว้ใช้งานมั้ยครับ ถ้ามี เพราะอะไร
  - เคยมอง3ไว้ครับ เพราะ เทคโนโลยี และ ความสุดโต่งในงานดีไซน์และการขับขี่ นอกจากนี้ก็เรื่องการใช้งานส่วนตัวเป็นสำคัญ อยู่คนเดียวตีนหนักB segไม่ทันใจ D segเกินความจำเป็น SUVก็ไม่ใช่ทางของผมเท่าไหร่

4. ถ้าท่านซื้อรถได้เพียงคันเดียวของบ้าน C-Segment อยู่ในสายตาของท่านบ้างมั้ย??
 -  ผมจะเลือกก็ต่อเมื่องบประมาณผมไปได้ไม่เกินC-segment และผมจะไม่พยายามเบ่ง

5. สุดท้าย... คือ ไม่ได้ทับถมนะครับ แต่ถ้าจากคำถามข้อที่ 2 ถ้าท่านเป็น Product Manager ของ Civic หรือ Sylphy ท่านจะทำยังไงครับ
 - ก็ขายต่อไปครับ คือ ลงทุนไปแล้วยังไงก็ต้องให้ได้คืนมามากที่สุดเท่าที่จะมากได้ในอายุตลาดของมัน  


นอกเรื่องละ ผมมองอย่างงี้ครับC-segmentตอนนี้แต่ละค่ายค่อนข้างจะสุดโต่งในแต่ละด้านไปเลยเว้น Civic และ Altisที่ผมมองว่ามันยังกลางๆไม่เด่นอะไรเลยซักด้าน
และอีกเรื่องผมไม่แปลกใจทำไมผู้หญิงถึงชอบSUV เพราะ ผมว่ามันเป็นสัญชาตญาณที่ผู้หญิงชอบอะไรที่ดูใหญ่ สูง และแข็งแรง และ ด้วยความที่ผู้หญิงจะมีขนาดตัวที่เล็กกว่าผู้ชายทำให้ต้องการอะไรก็ได้ที่ทำให้พวกเธอมองเห็นได้ไกล ทำไมผู้หญิงใส่รองเท้าส้นสูง
-นอกจากนี้คือพวกB-suvเริ่มเข้ามาแย่งตลาดกลุ่มC-segment
-กลุ่มนี้เกือบทุกค่ายส่งประกวด
ละทำไมคนจะไปมองกลุ่มนี้ตอนไหน ตอนเค้าเปิดบัญชีธนาคารดูนั้นแหละ

ออฟไลน์ cloud

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 668
    • อีเมล์
. จุดเด่นของ C-Segment คืออะไร
2. ถ้าท่านเป็น Product manager ของ C-Segment ในค่ายรถยนต์แห่งหนึ่ง ท่านจะมีวิธีดิ้นรถยังไงให้ท่านมีที่ยืนในบริษัทครับ
3. ทุกท่านเคยมีความคิดจะซื้อ C-Segment ไว้ใช้งานมั้ยครับ ถ้ามี เพราะอะไร
4. ถ้าท่านซื้อรถได้เพียงคันเดียวของบ้าน C-Segment อยู่ในสายตาของท่านบ้างมั้ย??
5. สุดท้าย... คือ ไม่ได้ทับถมนะครับ แต่ถ้าจากคำถามข้อที่ 2 ถ้าท่านเป็น Product Manager ของ Civic หรือ Sylphy ท่านจะทำยังไงครับ

1.ความภูมิฐานที่มีมากกว่าecocar bsegment งบมีเท่านี้ เงินเดือนสัก2-3หมื่น อายุสักไม่เกิน30ต้นๆ
2.มันมีตลาดของมันนะ ก็เอาจุดเด่นของsegmentนี้มาขาย
3.เคยคับชอบ mazda3 มันคล่องตัวนะไม่ใหญ่ไปไม่เล็กไป สวยอีก เฉี่ยวดีไม่แก่
4.อยู่คับ
5.ไม่อัดออพชั่น ก็ต้องลดราคาลูกเดียวแล้วอ่ะ

ออฟไลน์ Impulse

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 938
1. จุดเด่นของ C-Segment คืออะไร
- การขับขี่ ควมคร่องตัว ผมกลับมองว่า C-Segment คุ้มค่าที่สุด
2. ถ้าท่านเป็น Product manager ของ C-Segment ในค่ายรถยนต์แห่งหนึ่ง ท่านจะมีวิธีดิ้นรถยังไงให้ท่านมีที่ยืนในบริษัทครับ
- รถแบบ Focus แต่ได้ที่พื้นที่แบบ Pulsar และควรจะซ่อมง่าย
3. ทุกท่านเคยมีความคิดจะซื้อ C-Segment ไว้ใช้งานมั้ยครับ ถ้ามี เพราะอะไร
- มีครับ เพราะผมมองว่ามันคุ้มสุดจะซื้อ D-Segment ทำไมในเมื่อ C-Segment ทุกวันนี้ก็นั้งสบายพอแล้ว ขับคล่องกว่าด้วยถ้าจะซื้อ C-Segment ผมจะไปเลือก SUV แทนไม่ก็เก็บเงินเพิ่มอีกไม่มากนักเอารถยุโรปตัว Base เช่น 320i แทน
4. ถ้าท่านซื้อรถได้เพียงคันเดียวของบ้าน C-Segment อยู่ในสายตาของท่านบ้างมั้ย??
- ไม่เคยลองขับหมดทุกคันเลยตอบไม่ได้

5. สุดท้าย... คือ ไม่ได้ทับถมนะครับ แต่ถ้าจากคำถามข้อที่ 2 ถ้าท่านเป็น Product Manager ของ Civic หรือ Sylphy ท่านจะทำยังไงครับ
 
หมายถึงรุ่นที่จะออกใหม่หรือให้แก้ของเดิมครับ ขอตอบแบบของใหม่นะครับเพราะโมดิฟายรถไม่เป็น
- Civic ขอพวงมาลัยกับช่วงล่าง เบรคแบบ Focus เครื่องในเป็นแบบ Honda ดีแล้วซ่อมง่าย
- Sylphy ขอเกียร์ Automatic Torque Converter ธรรมดา แล้วก็ของานออกแบบที่ดีกว่านี้ดูดึงดูดกว่านี้

ออฟไลน์ soklong

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 197
ทุก Segment มีจุดเด่นของมันอยู่ในตัว

Eco ถูกประหยัด เข้าถึงง่าย
B Segment คุ้มค่ากับราคา
D Segment หรู ภูมิฐาน
ppv suv van minivan ความหลากหลายในการใช้งาน
กระบะ การใช้งาน

ส่วน มันคือกลางๆของทั้งหมด แต่สิ่งที่โดดเด่นของมัน สมรรถนะ

C Segment มันคือความฝันสูงสุดของวัยรุ่น
ลองถาม นักเรียน นักศึกษาสิ ว่าให้เลือกรถไปเรียน ระหว่าง Accord กับ Civic เค้าจะเลือกอะไร

ออฟไลน์ Activehybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,554
ไม่เป็นปัญหาครับ อัลติสใหม่ยังเต็มบ้านเต็มเมืองทั่วประเทศ  มาสด้า3ก็ยอดขายผงาดสบายหายห่วง ซีวิคอาจจะดรอปหน่อยแต่ก็พอขายได้ ส่วนเจ้าอื่นๆนอกจากนี้ต้องทำการบ้านหนักหน่อย ไม่งั้นต่อไปอาจหายสาปสูญ เหลือแค่3เจ้า

มุมมองของผมนะครับ

ที่จะตาย และ ไม่มีที่ยืน คือ D-segment ต่างหากครับ ไม่ใช่ C-segment

ทำไมผมถึงคิดเช่นนี้

1.สังคมไทยครอบครัวเล็กลงทุกวัน เป็นครอบครัวเดี่ยวไปหมดแล้ว การที่จะมีปู่ย่าตายายอยู่ด้วย จะไม่มีแล้ว และ คนไทยในอนาคตมีลูกไม่เกิน2คน นี่คือ mega trend
ดังนั้น รถใหญ่อย่าง D-segment จะมีความต้องการน้อยลง

2.รถ D-segment ญี่ปุ่นแพงขึ้นทุกวัน ในขณะที่พรีเมี่ยมคอมแพ็คราคาไม่ค่อยขยับ นั่นหมายความว่าอีก10ปี D-segment ราคาจะชนกับพรีเมี่ยมคอมแพ็คค่อนข้างแน่นอน
ดังนั้นไม่มีเหตุผลอะไรที่จะซื้อรถญี่ปุ่นในราคาที่เท่ากับรถเยอรมัน

3.ความแออัดของเมือง และ ปริมาณรถที่เพิ่มขึ้นบนถนน รวมถึงการขยายตัวของเมือง ทำให้คนต้องการรถเล็กที่คล่องตัว และการขยายตัวของเมืองทำให้คนเดินทางไกลน้อยลงเรื่อยๆ รวมทั้งขนส่งมวลชนที่จะเชื่อมต่อจังหวัดเข้าด้วยกัน ดังนั้นความต้องการรถอย่าง D-segment  ลดลงแน่นอน

4.การวัดฐานะกันที่รถเก๋งคันใหญ่ จะลดลงเรื่อยๆ เพราะคนฉลาดขึ้น หันมาพิจารณาคนจากหน้าที่การงานมากกว่าเดิม รถญี่ปุ่นคันใหญ่ๆไม่ใช่ตัวบอกฐานะอีกต่อไป ดังนั้นเมื่อคนไม่ได้ซื้อรถเพื่อความภูมิฐาน ก็จะหันไปซื้อขนาดที่กำลังพอดีกับตัวเอง ความต้องการรถ D-segment ลดลงแน่นอน

5.ราคาของเชื้อเพลิง  รถใหญ่อย่าง D-segment กินน้ำมันมากกว่า แนวโน้มที่คนแต่งงานช้าลง เป็นโสดนานขึ้น มีลูกเมื่ออายุมากกว่าคนสมัยก่อน ทำให้เขาไม่จำเปนต้องใช้รถคันใหญ่ที่กินน้ำมันมากกว่ารถคันเล็กๆ


ดังนั้น

ผมคิดว่า D-segment จะต้องหาที่ยืนให้ได้  ด้วยโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ทุกอย่างขนาดเล็กลง
ลองดูภาพถนนในยุโรปเมื่อ30ปีก่อน มีแต่รถคันใหญ่ๆ แต่ปัจจุบันมีแต่รถคันเล็กๆ
มันเปลี่ยนแปลงเพราะ วิถีชีวิตความเป็นอยู่ รวมถึงวิธีคิดของคนมันเปลี่ยน

วันนี้ขนาดแอคคอร์ด D-segment ที่ขายดีที่สุดในไทย ยังไม่มีที่ยืนในญี่ปุ่นเลยครับ

ส่วน C-segment จะอยู่ไปจนวันที่พาหนะเดินทางไม่ใช่รถยนต์นั่นแหละครับ

B-SUV มันเป็นกระแสที่มาแรงมากใน4-5ปีมานี้ก็จริง แต่จะฮิตแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน
นั่นก็ต้องพิสูจน์กันต่อไป


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 01, 2014, 00:48:07 โดย อุบลวรรณ »

ออฟไลน์ i-Kao

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 172
ขอตอบไม่ตรงคำถามนะครับ ถ้าพูดถึงเฉพาะเก๋ง C มันอยู่ตรงกลางครับ ปัจจุบันราคาแพงขึ้น แต่ก่อน ตัวท๊อป แปดแสนสาม เดี๋ยวนี้ ล้านกว่า บางคนคิดว่าขยับนิดเดียว ได้รถใหญ่ D-Segment ตัวล่างๆไปเลย แลกกับตัวรถที่ใหญ่กว่า ซึ่งรถพวกนี้ ออพชันพื้นฐานดีๆ มีครบๆ อยู่แล้วครับ พวกเครื่องเสียงพรีเมี่ยม กล้องมองหลัง หรืออะไรที่เพิ่มที่หลังได้ ก็ไม่ซีเรียส หรือ บางคนคิดว่า ถ้าเอา C ตัวล่างๆ ราคาไม่แพง แล้วไม่ได้อะไรเลย ลงไปคบกับ B ตัวท๊อป ออพชันจัดเต็มดีกว่า ราคาเบียดๆกัน

ความเห็นส่วนตัว เป็นผม ยังไงก็ C-Segment ครับ ผมชอบครับ มันกลางๆดี อีกอย่าง ผมอาจจะยังหัวโบราณ ที่มีความต้องการรถที่คล่องตัว มีช่วงล่างอิสระ ไม่สนใจออพชั่นอะไรมาก ขอแค่กระจกไฟฟ้า ABS EBD ถุงลมสองใบก็พอ

ออฟไลน์ กบทอดกระเทียม

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 465
  • ดีชั่วรู้หมด แต่มันอดไม่ได้
ขอตอบไม่ตรงคำถามนะครับ ถ้าพูดถึงเฉพาะเก๋ง C มันอยู่ตรงกลางครับ ปัจจุบันราคาแพงขึ้น แต่ก่อน ตัวท๊อป แปดแสนสาม เดี๋ยวนี้ ล้านกว่า บางคนคิดว่าขยับนิดเดียว ได้รถใหญ่ D-Segment ตัวล่างๆไปเลย แลกกับตัวรถที่ใหญ่กว่า ซึ่งรถพวกนี้ ออพชันพื้นฐานดีๆ มีครบๆ อยู่แล้วครับ พวกเครื่องเสียงพรีเมี่ยม กล้องมองหลัง หรืออะไรที่เพิ่มที่หลังได้ ก็ไม่ซีเรียส หรือ บางคนคิดว่า ถ้าเอา C ตัวล่างๆ ราคาไม่แพง แล้วไม่ได้อะไรเลย ลงไปคบกับ B ตัวท๊อป ออพชันจัดเต็มดีกว่า ราคาเบียดๆกัน

ความเห็นส่วนตัว เป็นผม ยังไงก็ C-Segment ครับ ผมชอบครับ มันกลางๆดี อีกอย่าง ผมอาจจะยังหัวโบราณ ที่มีความต้องการรถที่คล่องตัว มีช่วงล่างอิสระ ไม่สนใจออพชั่นอะไรมาก ขอแค่กระจกไฟฟ้า ABS EBD ถุงลมสองใบก็พอ

เห็นตรงกันเรื่องความคุ้มราคา ของC-Segment เดี๋ยวนี้ส่วนมากมันไปเริ่มที่ 8แสนกลางๆแล้ว
คู่แข่งตัวใหม่ใน 2-3 ปีหลังมานี้คือกระบะ 4ประตู สมมติ มอง C-Segment ตั้งงบฯไว้ที่ 850,000
C-Segment อาจได้แค่พวกตัวล่าง ออปชั่นต่ำ
แต่ 850,000 ของกระบะ4ประตู ได้ตัวกลาง-รองท็อป ออปชั่นเกือบเต็ม ทำให้ช่วงที่ผ่านมา
คนไทยซื้อกระบะ แทนเก๋งกันเยอะเลย
ไม่เมาหล้าแล้วเรายังเมารัก      สุดจะหักห้ามจิตคิดฉไหน
ถึงเมาเหล้าเช้าสายก็ก็หายไป   แต่เมาใจนี้ประจำทุกค่ำคืน

ออฟไลน์ JeansZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,239
    • อีเมล์
เพื่อนผมเคยบอกว่าจะซื้อ Civic Hybrid ตัว​ท็อป แต่ไปเห็นราคาแล้วไป​ออก Accord ตัวล่างแทนเลย
Ford Fiesta 1.0 Ecoboost
Toyota Yaris 1.2

np72

  • บุคคลทั่วไป
1. จุดเด่นของ C-Segment คืออะไร
- Size ไม่เล็กไป ไม่ใหญ่เกิน
2. ถ้าท่านเป็น Product manager ของ C-Segment ในค่ายรถยนต์แห่งหนึ่ง ท่านจะมีวิธีดิ้นรถยังไงให้ท่านมีที่ยืนในบริษัทครับ
- เพิ่ม Option
3. ทุกท่านเคยมีความคิดจะซื้อ C-Segment ไว้ใช้งานมั้ยครับ ถ้ามี เพราะอะไร
- มี ชอบขนาดของรถไซส์นี้ คล่องตัวดีและไม่อึดอัดเกิน
4. ถ้าท่านซื้อรถได้เพียงคันเดียวของบ้าน C-Segment อยู่ในสายตาของท่านบ้างมั้ย??
- ถ้าซื้อได้คันเดียว จะเล็งแต่ C-segment นี่แหละ
5. สุดท้าย... คือ ไม่ได้ทับถมนะครับ แต่ถ้าจากคำถามข้อที่ 2 ถ้าท่านเป็น Product Manager ของ Civic หรือ Sylphy ท่านจะทำยังไงครับ
- ของ Civic เอาไฟท้ายตัว US มาแล้วปรับ Minor change ให้มันดีๆสักที
- Sylphy ยอมครับ

ออฟไลน์ แมวดราม่า

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,573
  • แมวบ้า(ขับ)รถ
ส่วนตัว ผมมองว่า C-Segment เป็นอะไรที่ลงตัว ทั้งด้านราคา ความสบาย ความประหยัด

การที่ Honda ดันออพชั่นใส่ B-SUV แล้วทำราคาขายเกือบๆ เท่า D-Segment แต่ยังขายได้ แปลว่าคนไทยไม่ได้มองอรรถประโยชน์เท่าความพึงพอใจเล็กน้อยรวมๆ กัน วิธีแก้ C-Segment ขายได้น้อยลง ง่ายๆ ก็คือเหมือนท่านบนๆ ที่บอกว่า อัดออพชั่นมันให้ขึ้นไปทาบ B-SUV ไปเลย จะได้แตกต่างกันแค่กว้างภูมิฐาน หรือสูงคล่องตัว

ผมเชื่อว่า B-SUV จะเป็นกระแสไปอีกสักพัก และแนวโน้มส่วนเก๋ง มันจะวิ่งกลับมาที่ BC คล้ายๆ Tiida ตัวเก่ามากขึ้น หมายถึงขนาดนะ ไม่ใช่ดีไซน์ ดีไซน์โดยเฉพาะตัว Sedan เอามันไปทิ้งที่ไหนก็ได้ รุ่นนั้นน่ะ แล้วก็อัดออพชั่นมันเข้าไป รู้ๆ ผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจช่วงล่างด้วยซ้ำว่าเป็นทอร์ชั่นบีมหรือเปล่า แต่เขาจะสนความแพรวพราว สนว่ามีถุงลมกี่ใบ มีระบบโน่นนี่มั้ย ซึ่งหลายยี่ห้อเข้าใจตลาดตรงนี้ ทำให้สามารถเพิ่มยอดขายตัวเองได้อย่างสบายๆ

Dare to Drama! | Original Nissan X-Trail Club Thailand: http://www.facebook.com/groups/180634121979355/

ออฟไลน์ basst

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 81
ผมว่า C-segment ยังไงก็ขายได้ ตัวเลือกในตลาดก็มีเยอะ
D-segment ขายได้น้อยกว่าอีก ยังอยู่ได้เลย

ออฟไลน์ Highway Star

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,934
ข้อ1จุดเด่นของ C-Segment คืออะไร
 จุดเด่นcsegคืออะไร ก็คือ คันไม่ใหญ่ไมเล็กเกินไป นั่งสบาย ขับในเมืองก็ยังคล่อง วิ่งทางไกลไม่ขี้เหร่
ข้อ2 ถ้าท่านเป็น Product manager ของ C-Segment ในค่ายรถยนต์แห่งหนึ่ง ท่านจะมีวิธีดิ้นรถยังไงให้ท่านมีที่ยืนในบริษัทครับ
ถ้าผมเป็นproduct manager ก็อาจจะออกแบบให้ตัวรถมีหน้าตาสวยเพรียว สปอร์ตคันไม่เล็กไม่ใหญ่ไปขนาดประมาณ นั่งสบายประมาณ ทีด้า5ประตู ใส่เครื่อง2000ccมาตั้งแต่รุ่นล่างสุดยันรุ่นบนๆแบบมาสด้า3 ทำราคาขายรุ่นเริ่มต้นไม่เกินแปดแสนแบบเอลันตร้าใหม่
3. ทุกท่านเคยมีความคิดจะซื้อ C-Segment ไว้ใช้งานมั้ยครับ ถ้ามี เพราะอะไร
เคยเพราะคันไม่เล็กไม่ใหญ่ไป ขับในเมืองคล่อง ขับทางไกลก็ไม่ขี้เหร่
ข้อ4 ถ้าท่านซื้อรถได้เพียงคันเดียวของบ้าน C-Segment อยู่ในสายตาของท่านบ้างมั้ย??
ถ้ามีรถคันเดียว ผมเลือกกระบะเพราะ เอนกประสงค์กว่า สมรรถนะในรถยุคหลังก็ไม่แย่แล้ว ทนทานกว่า ความสบายอาจสู้ไม่ได้แต่ถ้าลองมองสิ่งที่ได้จาการจ่ายเงินไป8แสน-1ล้่าน กระบะให้อะไรดีกว่าครับ
ข้อ5สุดท้าย... คือ ไม่ได้ทับถมนะครับ แต่ถ้าจากคำถามข้อที่ 2 ถ้าท่านเป็น Product Manager ของ Civic หรือ Sylphy ท่านจะทำยังไงครับ
ถ้าซีวิค ผมอาจจะไมเนนอร์เอาหน้าตาตัวusมาใช้ ใส่ออฟชันเต็มภายในเต็ม abs airbag vsa อุปกรณ์มาตรฐานทุกรุ่น เอาเครื่อง2000ccลงมาให้เลือกตั้งแต่รุ่นล่างทำแบบมาสด้า3
sylphy เอาไฟหน้าโปรเจคเตอร์มาใส่ ใส่drlมาให้ เอารุ่นเครื่อง1600ccออกเอา1800ccมาไว้ในรุ่นล่างแทน ส่วนรุ่นบนเป็น2000ccหรือไม่ก็1600cc dig turboไปเลย ใส่แอร์แบคข้างในรุ่นทอปใส่ abs airbag vdc เป็นอุปกรณ์มาตรฐานทุกรุ่น

ออฟไลน์ FireBird

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 67
1. จุดเด่นของ C-Segment คืออะไร
ขนาดมิติที่ใหญ่กว่า B segment ความคล่องตัว และความประหยัดน้ำมันที่มากกว่า D segment และความเป็น sedan

2. ถ้าท่านเป็น Product manager ของ C-Segment ในค่ายรถยนต์แห่งหนึ่ง ท่านจะมีวิธีดิ้นรถยังไงให้ท่านมีที่ยืนในบริษัทครับ
เจาะ target ที่ first jobber จนไปถึงอายุ 30ปี ผมว่ากลุ่มนี้รถ c segment สามารถเจาะได้อยู่แล้ว

3. ทุกท่านเคยมีความคิดจะซื้อ C-Segment ไว้ใช้งานมั้ยครับ ถ้ามี เพราะอะไร
เคยครับ ทั้ง altis civic sylphy เคยคิดไว้หมดครับ

4. ถ้าท่านซื้อรถได้เพียงคันเดียวของบ้าน C-Segment อยู่ในสายตาของท่านบ้างมั้ย??
มองแน่นอน ด้วนความที่ไม่ชอบรถเล็กเกินไป และชอบรถ sedan เป็นการส่วนตัว

5. สุดท้าย... คือ ไม่ได้ทับถมนะครับ แต่ถ้าจากคำถามข้อที่ 2 ถ้าท่านเป็น Product Manager ของ Civic หรือ Sylphy ท่านจะทำยัง
ไงครับ
ผมว่าตลาดมีขึ้นมีลงครับ ต้องดูเป้าหมายว่าตั้วไว้เท่าไหร่ ทำให้ได้ตามเป้าก็พอ ตอนนี้ product manager ของ HRV ก็ยิ้ม รถใหม่ ออฟชั่นเต็ม แต่พอ civic เปลี่ยนโฉม อาจจะยิ้มก็ได้ สินค้าที่มี target เดียวกันหรือใกล้เคียงกันมันส่งผลกระทบซึ่งกันและกันอยู่แล้วครับ

ขอตอบไม่ตรงคำถามนะครับ ถ้าพูดถึงเฉพาะเก๋ง C มันอยู่ตรงกลางครับ ปัจจุบันราคาแพงขึ้น แต่ก่อน ตัวท๊อป แปดแสนสาม เดี๋ยวนี้ ล้านกว่า บางคนคิดว่าขยับนิดเดียว ได้รถใหญ่ D-Segment ตัวล่างๆไปเลย แลกกับตัวรถที่ใหญ่กว่า ซึ่งรถพวกนี้ ออพชันพื้นฐานดีๆ มีครบๆ อยู่แล้วครับ พวกเครื่องเสียงพรีเมี่ยม กล้องมองหลัง หรืออะไรที่เพิ่มที่หลังได้ ก็ไม่ซีเรียส หรือ บางคนคิดว่า ถ้าเอา C ตัวล่างๆ ราคาไม่แพง แล้วไม่ได้อะไรเลย ลงไปคบกับ B ตัวท๊อป ออพชันจัดเต็มดีกว่า ราคาเบียดๆ

ผมว่ายังมีอีกหลายปัจจัยที่คนซื้อ C segment นะครับ
- เพื่อผมทุกคนใช้ C segment เหตุผล B segment เล็กเกินไปครับ บางครั้งต้องมีคนนั่งข้างหลัง
ส่วน D segment ถึงแม้เพิ่มเงินนิดเดียว แต่ค่าน้ำมัน ค่าอื่นๆที่แพงขึ้นมาอีก มองว่าไม่คุ้ม แต่ผมก็ไม่เถียงว่ามีกลุ่มที่มองแบบคุณอีกหลายคน ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจในแต่ละคน

ออฟไลน์ i-dine

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 56
1. จุดเด่นของ C-Segment คืออะไร

- การขับขี่ คล่องตัว ภายในนั่งสบาย ที่สำคัญประหยัดน้ำมันในระดับที่ผมรับได้ ซึ่งผมคิดว่า C-Segment ทำได้ดี ณ จุดๆนี้

2. ถ้าท่านเป็น Product manager ของ C-Segment ในค่ายรถยนต์แห่งหนึ่ง ท่านจะมีวิธีดิ้นรถยังไงให้ท่านมีที่ยืนในบริษัทครับ

- ทำรถที่ ดีเที่ยบเท่า D-segment แต่ขายในราคา C-Segment

3. ทุกท่านเคยมีความคิดจะซื้อ C-Segment ไว้ใช้งานมั้ยครับ ถ้ามี เพราะอะไร

- ตอนนี้ผมขับ ซิลฟี่ เพราะผมมองว่ามันคุ้มกว่าที่จะซื้อ D-Segment รุ่นใหญ่กว่านั้น ที่สำคัญ ผมชอบซื้อรถราคาไม่เกิน 9 แสน เพราะรถยิ่งแพงนานวันราคามันตกเยอะไม่คุ้มด้วยประการทั้งปวง ถ้าเงินผมเยอะขนาดนั้นเอาไปลงทุนอย่างอื่นดีกว่า  เว้นเสียแต่ว่าผม รวยมากๆ  อันนั้นไม่แคร์ เท่าไหร่

4. ถ้าท่านซื้อรถได้เพียงคันเดียวของบ้าน C-Segment อยู่ในสายตาของท่านบ้างมั้ย??
- แน่นอน อยู่ในสายตาผมแน่ๆ  หากราคาไม่แพงเกินล้าน แบบที่ผมบอกไปในข้อ 3

5. สุดท้าย... คือ ไม่ได้ทับถมนะครับ แต่ถ้าจากคำถามข้อที่ 2 ถ้าท่านเป็น Product Manager ของ Civic หรือ Sylphy ท่านจะทำยังไงครับ
 
สำหรับ
- Civic ชื่อชั้น ดีอยู่แล้ว ศูนย์บริการหายห่วง  งานหมูสำหรับผม คู่แข่งในตลาดมองแค่โตโยต้าเท่านั้น ผมจะทำดังนี้

ปรับปรุงทั้งภายนอกภายใน

ภายนอก ทำไฟท้ายให้ดีกว่าปัจจุบัน ไล่คนออกแบบออกไป แม่มทำไฟท้ายได้ ยังกะรถอีโกคาร์
ไฟท้าย เพิ่ม LED แบบเส้น ส่วนด้านหน้า ใส่ Day light จบ
ภายใน เอาคอนโซลเอียงออกไป ลดจอลงหลายจอเกิน(ใส่จอตรงกลางกับจอตรงพวงมาลัยพอ) เพิ่มวัสดุภายในให้ดีขึ้น ใส่อุปกรณ์ความปลอดภัยพวกถุงลมเพิ่ม ในรุ่น แพงสุด (ถุงลม 6 ใบ) ขายได้ไม่ได้ไม่เป็นไร เอาไว้ให้คุยได้

ปรับเท่านี้ก็พอ

- Sylphy

ชื่อชั้นน้อยกว่า Civic/Altis แต่อย่างที่บอกรถมันต้อง สู้กับเขาได้

ปรับไม่ต้องมาก ตัวรถใช้ได้อยู่แล้วภายนอกผมรับได้ เพิ่ม LED Day light พอ

แต่ภายใน ขอเปลี่ยน เครื่องกับเกียร์พอ ลงเครื่อง 1.6 DDT(รีดม้าสัก 200)+Automatic 6 Speed
ภายในลายไม้ขอสีเข้มกว่านี้ แล้วก็ไล่ไอ้คนออกแบบพวกมาลัยออกไป  แม่ม ออกแบบยังกะกางเกงในจีสะตริง  คิดอะไรไม่ออกขนาดนั้นเลยหรอ

แค่นี้ แต่ขายราคา ไม่ให้เกิน 9 แสน ฟังดูอาจเป็นไปไม่ได้  แต่ถ้าอยากทำงานกับผมต้องทำให้ได้ ลดCost ที่ไม่จำเป็นออกไป
แอร์ออโต้แยกซ้ายขวาไม่ต้องก็ได้ แค่ออโต้ก็พอ เบาะหนัง เปลี่ยนเป็นผ้าก็ได้ถ้ามันจำเป็น แต่ต้องให้ได้อย่างที่บอก  กำไรไม่ต้องมาก เพราะผมมันอินดี้ 555+


jomyoot

  • บุคคลทั่วไป
มุมมองของผมนะครับ

ที่จะตาย และ ไม่มีที่ยืน คือ D-segment ต่างหากครับ ไม่ใช่ C-segment


เห็นด้วยอย่างแรงครับ ซีวิคก็ขายได้เรื่อยๆ อัลติสก็ไม่ต้องพูดถึงรายนั่นสบายๆกับยอดแท๊กซี่อยู่ละ

มาสด้า3ก็ขายดี Dเซกเม้นนานๆมาที Cเซกเม้นเดี๋ยวนี้ออปชั่นเท่ากับDเซกเม้นแล้ว ขนาดใหญ่กำลังดี

คล่องแคล่วกระทัดรัด แถมประหยัดน้ำมันด้วยสิ จะเอาไปติดแก๊สก็ได้ ไฮบริดก็มี ราคาห่างจากDเซกเม้น

ชนิดที่ว่า ซื้ออีโค่คาร์ให้ลูกอีกคันได้เลยนะครับ

ออฟไลน์ Pat.Lee

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 964
มุมมองของผมนะครับ

ที่จะตาย และ ไม่มีที่ยืน คือ D-segment ต่างหากครับ ไม่ใช่ C-segment


เห็นด้วยอย่างแรงครับ ซีวิคก็ขายได้เรื่อยๆ อัลติสก็ไม่ต้องพูดถึงรายนั่นสบายๆกับยอดแท๊กซี่อยู่ละ

มาสด้า3ก็ขายดี Dเซกเม้นนานๆมาที Cเซกเม้นเดี๋ยวนี้ออปชั่นเท่ากับDเซกเม้นแล้ว ขนาดใหญ่กำลังดี

คล่องแคล่วกระทัดรัด แถมประหยัดน้ำมันด้วยสิ จะเอาไปติดแก๊สก็ได้ ไฮบริดก็มี ราคาห่างจากDเซกเม้น

ชนิดที่ว่า ซื้ออีโค่คาร์ให้ลูกอีกคันได้เลยนะครับ

เห็นด้วยครับ D-Seg ต่างหากที่กำลังแย่ ยอดขาด D-seg รวมกันได้น้อยกว่ายอดขาย BMW และ MB รวมกันอีกมั้งครับ

ออฟไลน์ hutzero

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,561
    • อีเมล์
จากอดีต C-Seg  ที่ขายดีที่สุดในไทย  ยังเป็นเครื่อง 1.6     

ประเด็นนี้ก็ชี้ให้เห็นอย่างหนึ่งแล้วว่ากำลังซื้อของตลาดใน C-Segment นั้น 

ไม่ได้หวังจะใช้งานรถบ้านที่มีความเพียบพร้อม(Spec สูงๆ)ซักเท่าไหร่   

ขอเพียงแค่มีให้ใช้ในงบที่เอื้อมถึงเป็นพอ

ในขณะที่ กระบะหรือ B-SUV  น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าดึงดูดกว่า กับปัญหาน้ำมันแพง และน้ำท่วมบ่อยๆ

รวมถึงพื้นถนนที่เอาแน่เอานอนไม่ได้   จู่ๆก็มีหลุมโผล่มา  ประหนึ่งว่าประเทศนี้จะมีแต่รถยกสูงหรืออย่างไร?


สำหรับผมแล้ว  จุดเด่นของ C-Segment คือ ช่วงล่างและพวงมาลัยต้องมาก่อน
   
เพราะเป็นรถที่ตัวถังจัดอยู่ในขั้นที่น้ำหนักกำลังดี  พอให้ควบคุมได้มั่นใจ   ไม่ต้องกลัวลมแรง แบบ B-Segment

และไม่ได้หนักแบบ D-Segment  เพราะ C-Segment เป็นขนาดที่ทำมาพอดีกับร่างกายของมนูษย์โลก

แถม Aerodynamic ก็อยู่ในขั้นที่เหนือกว่า PPV, B-SUV  แน่นอน

แต่ยังไงโลกใบนี้ยังมี B-Segment ที่วิ่งดี,หนึบ,เหมาะกับการซิ่ง    และ D-Segment ที่แรงพอจะให้ลืมเรื่องน้ำหนักไปได้

แต่ท้ายสุดหลังจากที่ลองขับมาหลายๆแบบแล้ว    คนที่ชอบขับรถจริงๆ  และหลงรักความพลิ้วแบบ Street use แล้วล่ะก็

C-Segment คือรถที่น่าโหยหามากกว่า Segment ใดๆ   เฉกเช่น Supercar แบบบ้านๆนี่เอง

ออฟไลน์ KAKASHII

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,638
  • งามปะละ
ไม่รู้สิ D-segment มันก็เป็นของมันแบบนี้อะ  อยากได้รถใหญ่ นั้งสบาย ขับสนุก หรูหรา วัสดุดีกว่า C-segment หลา่ยเท่าตัว สุนทรี เวลาเดืนทาง แต่ไม่อยากได้ premium car  C-segment คงให้ไม่ได้ หรือ ได้แค่บางข้อ

ใครมีงบหรือรวยพอซื้อ D-segment จะไม่ค่อยอยากกลับไปขับ C B segment หรอกครับมันคนละอารมณ์เลยละ  ;D

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
ส่วนตัวแล้ว ที่บ้านผมและตัวผมเองมักจะมองข้าม C segment ไปครับ(ไม่ใช่ว่ารถไม่ดีหรืออคติอะไรนะ แต่ด้วยความที่มันครึ่งๆกลางๆนั่นแหละครับ)
ถ้าเอาขับสบาย นั่งสบาย มั่นใจ แถมภาพลักษณ์ให้นิดหน่อย ไป D
ถ้าเอาประหยัด ขับในเมือง Ecocar หรือ B

แต่ผมเห็นด้วยนะ Segment ที่จะหาที่ยืนลำบากเป็น D ไม่ใช่ C ครับ
อ้างอิงจากยอดขายเอานะครับ แต่ทุกวันนี้ผมก็เห็น D เยอะไม่แพ้ C นะครับ แต่ก็งงว่าในยอดขายที่รวมกันได้เยอะๆมันไปอยู่ที่ไหนกันหมด(อย่างว่าละครับ เค้านับทั่วประเทศ)













jomyoot

  • บุคคลทั่วไป
จากอดีต C-Seg  ที่ขายดีที่สุดในไทย  ยังเป็นเครื่อง 1.6     

ประเด็นนี้ก็ชี้ให้เห็นอย่างหนึ่งแล้วว่ากำลังซื้อของตลาดใน C-Segment นั้น 

ไม่ได้หวังจะใช้งานรถบ้านที่มีความเพียบพร้อม(Spec สูงๆ)ซักเท่าไหร่   

ขอเพียงแค่มีให้ใช้ในงบที่เอื้อมถึงเป็นพอ

ในขณะที่ กระบะหรือ B-SUV  น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าดึงดูดกว่า กับปัญหาน้ำมันแพง และน้ำท่วมบ่อยๆ

รวมถึงพื้นถนนที่เอาแน่เอานอนไม่ได้   จู่ๆก็มีหลุมโผล่มา  ประหนึ่งว่าประเทศนี้จะมีแต่รถยกสูงหรืออย่างไร?


สำหรับผมแล้ว  จุดเด่นของ C-Segment คือ ช่วงล่างและพวงมาลัยต้องมาก่อน
   
เพราะเป็นรถที่ตัวถังจัดอยู่ในขั้นที่น้ำหนักกำลังดี  พอให้ควบคุมได้มั่นใจ   ไม่ต้องกลัวลมแรง แบบ B-Segment

และไม่ได้หนักแบบ D-Segment  เพราะ C-Segment เป็นขนาดที่ทำมาพอดีกับร่างกายของมนูษย์โลก

แถม Aerodynamic ก็อยู่ในขั้นที่เหนือกว่า PPV, B-SUV  แน่นอน

แต่ยังไงโลกใบนี้ยังมี B-Segment ที่วิ่งดี,หนึบ,เหมาะกับการซิ่ง    และ D-Segment ที่แรงพอจะให้ลืมเรื่องน้ำหนักไปได้

แต่ท้ายสุดหลังจากที่ลองขับมาหลายๆแบบแล้ว    คนที่ชอบขับรถจริงๆ  และหลงรักความพลิ้วแบบ Street use แล้วล่ะก็

C-Segment คือรถที่น่าโหยหามากกว่า Segment ใดๆ   เฉกเช่น Supercar แบบบ้านๆนี่เอง

เปรียบเทียบได้เยี่ยมสุดติ่งกระดิ่งแมวเลยครับ

ออฟไลน์ PunTam

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 423
    • อีเมล์
1. จุดเด่นของ C-Segment คืออะไร
ตอบ.ขนาดของรถกำลังดี ไม่เล็ก ไม่ใหญ่ ยังเป็นรถที่ต้องมีอยู่ เพราะด้วยความสามารถบางประการที่ B-Segment ทำไม่ได้ครับ
2. ถ้าท่านเป็น Product manager ของ C-Segment ในค่ายรถยนต์แห่งหนึ่ง ท่านจะมีวิธีดิ้นรถยังไงให้ท่านมีที่ยืนในบริษัทครับ
ตอบ.ต้องสำรวจตลาดก่อนครับ ว่าปัจจุบันตลาดของสินค้ากลุ่มนี้คือใครบ้าง เขาต้องการอะไรจากสินค้าตัวนี้ เพราะตามผลสำรวจของบริษัทรถยนต์ ประเทคไทยถ้าเป็นรถยนต์นั่ง รถเก๋ง 4 ประตูก็ยังขายดีกว่า รถ 5 ประตู ในบางกลุ่มที่มีขนาดเครื่องยนต์เท่ากัน(พูดในรถรุ่นเดียวกันนะครับ ข้อมูลอาจจะเพี้ยนไปบ้าง)
3. ทุกท่านเคยมีความคิดจะซื้อ C-Segment ไว้ใช้งานมั้ยครับ ถ้ามี เพราะอะไร
ตอบ.มีครับ แต่คงไม่ได้ใช้เอง เพราะอย่างที่ท่านเจ้าของกระทู้ว่าครับ
4. ถ้าท่านซื้อรถได้เพียงคันเดียวของบ้าน C-Segment อยู่ในสายตาของท่านบ้างมั้ย??
ตอบ.ไม่ซื้อครับ เพราะผมมอง SUV PPV และกระบะ 4 ประตูยกสูง ไม่ก็ขับเคลื่อน 4ล้อ มาใช้น่าจะดีกว่า เนื่องจากสามารถใช้งานได้กว้างกว่า เมื่อเทียบกับ C-Segment ตัวท๊อปครับ
5. สุดท้าย... คือ ไม่ได้ทับถมนะครับ แต่ถ้าจากคำถามข้อที่ 2 ถ้าท่านเป็น Product Manager ของ Civic หรือ Sylphy ท่านจะทำยังไงครับ
ตอบ.ตอบยากครับ ถ้าเป็น Sylphy ผมคงคุยกะทางวิศวกร ทำให้พวงมาลัยมันดีกว่านี้ เพราะเท่าที่เคยขับ มันเบามาก แต่ผู้หญิงกะคนมีอายุคงชอบครับ(ในกลุ่มที่ไม่ชอบขับรถนะ หรือแค่มีรถใช้ทุกๆวันแบบไม่คิดมาก) แล้วก็เพิ่มรถให้ดูหรู น่าใช้ใกล้ๆ D-Segment แต่ราคาสบายกระเป๋ากว่า D-Segment
ส่วน Civic ผมขอมองข้ามเป็นตัวต่อไปเลยแล้วกัน เพราะ FB คงเข็นคงได้อีกไม่นานมาก(อาจจะราวๆ3-5ปีต่อจากนี้)  ผมจะคงความที่มันขนาดฐานล้อกว้างนี่แหละ แต่ทำรถให้ First Jobber หันมามอง C-Segment และเป็นรถ ที่แสดงถึงความสำเร็จของชีวิต First Jobber นั่นหละครับ สิ่งที่ผมบอกว่า B-Segment ทำไม่ได้ในข้อแรก คือ การเป็นเครื่องชี้วัดความสำเร็จของชีวิตคนเริ่มทำงาน โดยที่ไม่ได้พึ่งบารมีคนข้างหลัง(ครอบครัวที่มีฐานะ)


บ่นไร้สาระมานานแล้ว ขอบคุณที่ตั้งคำถามให้ตอบนะครับ ความเห็นผมก็ตามนี้ครับ อาจจะไม่ค่อยได้สาระเท่าไรครับ ฮ่าๆๆๆ