ผมว่าเขาคงไม่ได้ดูถูกรถตัวเองหรอกครับ
เพียงแต่การดำเนินธุรกิจอะไรก็ตาม มันต้องคิดให้ถี่ถ้วนมากๆ เพราะนั่นคือความเสี่ยงที่จะตามมา
หากไม่ศึกษาตลาดไห้ดี
ตัวอย่างก็มีไห้เห็นหลายรุ่นมากแล้ว ที่ไม่ศึกษาตลาดไห้ดี สุดท้ายก็ต้องล้มเลิกกิจการไป
เอาง่ายๆใกล้ตัวตอนนี้ ก็แบรนด์รถยนต์สัญชาติอินเดียเนี่ยล่ะครับ
มองเห็นตลาดรถกระบะยอดขายเยอะ แต่ไม่ได้ศึกษาไห้ถ่องแท้ว่าต้องขายอะไร
ตัวผลิตภัณฑ์เองก็ไม่สามารถยืนหยัดในเรื่องคุณภาพได้
ประกอบกับ After sale ที่ไม่ดีเอาเสียเลย แล้วใครเขาจะไปซื้อครับ?
ผมกลับมองเหมือนกับบางท่านในนี้ว่า มาสด้ากำลังพัฒาขึ้นจากรากฐานก่อน นั่นคือเรื่อง After sale
สังเกตุดูได้เลยว่าศูนย์มาสด้าเพิ่มมากขึ้น คุณภาพการบริการดีขึ้น การเอาใจใส่ต่อการแก้ปัญหาดีขึ้น
ผมขอเทียบฟอร์ดกับมาสด้านะครับ เป็นเคสแร็คพวงมาลัยมีปัญหาเหมือนกัน
ผมใช้ฟอร์ด เฟียสต้า น้องสาวผมใช้มาสด้า2
- เข้าเช็กระยะปกติ แบบนัดหมายล่วงหน้า ไม่ต่ำกว่า 3 ชม. ไม่เกิน 1.30 ชม.
- ระยะเวลารออะไหล่เคลมแร็คพวงมาลัย 1 เดือน 2 อาทิตย์
- ระยะเวลาในการวิเคราะห์ปัญหา(แร็คมีปัญหา) 3 วัน 1 วัน
- การบริการเวลาเข้าเช็กระยะ เดินเรื่องเอง พนักงานมาดูแลตลอด
เห็นได้ว่ามาสด้าทำได้ดีกว่าฟอร์ดครับ อาจจะไม่ถึงขั้นโปร แบบโตโยต้า หรือฮอนด้า แต่หลายๆสิ่งมันก็ดีขึ้น
จนสังเกตุได้
ตัวรถเองก็มีคุณภาพดีขึ้น ผมและน้องซื้อรถพร้อมๆกัน จนถึงตอนนี้ น้องสาวผมเจอแค่เคสเดียว (แร็ค)
ส่วนผมเจอไป 4 เคสแล้ว (แร็ค,เกียร์,คลัชคอมแอร์,สีมือจับประตู)
สุดท้ายพอได้เห็นมาสด้าของน้องสาวแล้ว มันก็ทำไห้ผมมีความมั่นใจในแบรด์ และตัวรถมากขึ้น
ซึ่งผมก็มองว่าหากพื้นฐานเรื่องการบริการดีแล้ว มันก็สามารถช่วยทดแทนสมรรถนะของตัวรถได้
เหมือนที่มาสด้า 2 ขายดีอยู่ตอนนี้ไงครับ
ผมเองก็มีความรู้สึกเดียวกับ จขกท. ไม่ชอบที่มาสด้าไม่กล้าที่จะเอารถดีๆเข้ามาขาย
ถามว่าแบรด์ตอนนี้อาจจะยังไม่แข็งแกร่งมากนัก หากเอาเข้ามาจริง ผมกลัวว่ามันคงตีตลาด
ได้แค่ลูกค้าเฉพาะกลุ่มเท่านั้น (เล่นเนต หาข้อมูล) แต่กับฐานลูกค้าอื่นๆ คนทั่วๆไปที่อาศัย
ความเชื่อเดิมๆ ก็คงยากที่จะดึงความสนใจเขามาได้
ผมว่า ลองใจเย็นๆดูก่อนนะครับ อย่างน้อยใน 3-4 ปีที่ผ่านมา มาสด้าก็ได้พัฒนาอะไรหลายๆอย่างไห้ดีขึ้น
ถึงแม้จะเป็นพัฒนาการอย่างช้าๆ แต่ก็ยังดีกว่าบางค่ายที่ไม่คิดจะพัฒนาอะไรไห้ดีขึ้นเลย ปล่อยไห้ลูกค้าเผชิญ
ชะตากรรมเอง (ว่ารถตูจะรออะไหล่กี่อาทิตย์ดี
)
อย่างน้อย ประเทศไทยก็ได้เห็นชื่อ Sky active แปะบน CX5 และ MZ6 มันก็เป็นสัญญาณดีๆที่ทำไห้ผมตัดสินใจ
รอดูรถของพวกเขา ว่ามีดีพอที่จะเป็นรถคันต่อไปของผมหรือไม่?
ถ้า ต.ค. นี้เปิดตัว CX5 = ผมคงซื้อไม่ได้ เงินดาว์นไม่พอ คันเก่าส่งไปแค่ 3 ปีเอง
ถ้า ปีหน้ามี MZ6 = ผมคงซื้อไม่ได้อีกนั่นล่ะ เงินดาว์นไม่พอ คันเก่าส่งไปแค่ 4 ปีเอง
ถ้าอีก 2 ปี MZ3 ใหม่ = ผมคงซื้อได้ คันเก่าส่งหมดพอดี มีเงินดาว์นเพียงพอ
อย่างน้อยก็มีผมรออ่ะนะ
(ขออภัยหากความคิดเห็นออกทะเล
)