Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ange1us ที่ พฤษภาคม 17, 2019, 20:47:30
-
สวัสดีครับ
ผมกำลังจะซื้อ "ป้ายทะเบียนประมูล" จากคนขายในเน็ต ไม่ใช่ตามเว็บขายทะเบียนนะครับ ... เห็นเค้าบอกว่าพี่เค้าฝากขาย เค้าถามให้นัดเจอที่ไหนก็ได้จะเอาเอกสารไปซื้อขายได้เลย
หรือถ้าจะเอาสวมรถก็ให้ไปโอนที่ขนส่งได้เลย
แต่ปัญหาคือรถผมยังไม่ได้ซื้อครับ จะซื้อในอีก 3 เดือน ทีนี้ถ้ารอก็กลัวป้ายจะหลุดขายคนอื่นไปแล้ว
คำถามผมคือ
1. ถ้านัดเจอที่อื่นที่ไม่ใช่ขนส่ง สามารถซื้อขายกันได้ ปลอดภัย 100% รึเปล่าครับ ต้องมีเอกสาร หรือ ต้องตรวจสอบอะไรบ้างครับ
2. ถ้านัดเจอที่ขนส่งคือ ทำเรื่องโอนกรรมสิทธ์ ป้ายประมูล ได้เลยใช่ไหมครับ โอนลอยแบบไม่ต้องมีรถมาสวม คือเห็นเลยว่าป้ายทะเบียนเปลี่ยนเป็นชื่อของเราแล้ว
3. หรือ ถ้าผมจะเอารถพ่อผม ไปสวมทะเบียนประมูลนี้ก่อนเลยที่ขนส่ง ต้องใช้เอกสารอะไรของพ่อผมบ้างในกรณีที่ชื่อเจ้าของรถเป็นชื่อพ่อผมครับ
4.จาก 3 ข้อ ข้างบน วิธีไหนดีที่สุดครับ
* ป้ายราคาค่อนข้างแพงครับ บวกกับจะซื้อรถคันแรกด้วย เลยกังวลหน่อยครับ
** ป้ายประมูล เป็นป้ายใหม่ ยังไม่มีการใช้มาก่อนครับ
ขอบคุณครับ
-
นัดที่ขนส่งโอนมาเป็นชื่อเราเป็นเจ้าของแล้วจ่ายเงินกันตรงนั้นเลยได้นี่ครับ คุ้นๆ ว่าป้ายถือลอยได้ 3 ปีถ้าจำไม่ผิด แต่ถ้าทำเอกสารโอนเจ้าของป้ายมาแล้วก็เป็นของเราละครับ
-
ป้ายประมูลรู้สึกจะถือลอยได้ 3 ปีนะครับ
ของผมก็ซื้อก่อนที่จะได้รถ กับอีกคันไปจดทะเบียนหลังซื้อป้ายประมูลราวๆ 6 เดือน
-
ขอบคุณครับ เหมือนเคยอ่านเจอมาว่า
" กรณีที่ไม่มีรถ จะให้โอนเปลี่ยนชื่อทะเบียนประมูล ในระบบให้เป็นชื่อเราก่อนยังไม่ได้ "
เลยไม่แน่ใจว่ายังไงกันแน่น่ะครับ
-
ป้ายประมูลไม่มีกำหนดถือลอยแล้วครับ
ที่บอกว่าถือได้ 3 ปี และต้องทำเรื่องขอถือต่อทุกๆ 3 ปี ยกเลิกไปนานแล้วครับ
ผมถือมา 5 ปียังจดได้เลยครับ
เราประมูลแล้วเป็นของเราแล้วครับ เหมือนเราซื้อแล้ว
ถ้าถือ 3 ปีแล้วไม่จดถือว่ายกเลิกแบบนี้พ่อค้าคงโดนกันเยอะครับ
-
ได้สิครับ ป้ายประมูลเป็นทรัพย์สินของเจ้าของ ไม่ใช่ป้ายปกติที่ติดกับรถ ขายรถไปแล้วเราไม่โอนเจ้าของป้ายให้ไปในทางกฎหมายก็ยังเป็นของเรา ต่างจากป้ายปกติขายรถไปป้ายก็ติดไปกับรถคันนั้นเลย
ขอบคุณครับ เหมือนเคยอ่านเจอมาว่า
" กรณีที่ไม่มีรถ จะให้โอนเปลี่ยนชื่อทะเบียนประมูล ในระบบให้เป็นชื่อเราก่อนยังไม่ได้ "
เลยไม่แน่ใจว่ายังไงกันแน่น่ะครับ
-
เอาให้ชัวร์ต้องข้อ 2,3 เน้นให้ไปขนส่งเพราะกลัวพ่อค้าตุกติก
ส่วนตัวผมเคยประมูลเลขไว้2เดือนก่อนซื้อรถ (ไปประมูลเอง) พอได้รถมาก็ให้กรรมสิทธิ์เซลล์เป็นผู้ไปจดทะเบียน
-
ขอบคุณครับ เหมือนเคยอ่านเจอมาว่า
" กรณีที่ไม่มีรถ จะให้โอนเปลี่ยนชื่อทะเบียนประมูล ในระบบให้เป็นชื่อเราก่อนยังไม่ได้ "
เลยไม่แน่ใจว่ายังไงกันแน่น่ะครับ
ผมเคยไปถามขนส่งแล้ว เปลี่ยนเป็นชื่อเราในระบบรอไว้ก่อนไม่ได้นะครับ
จะเป็นชื่อเราก็ต่อเมื่อนำเลขนี้ไปจดกับรถที่เป็นชื่อเราครับ
ถ้าจะซื้อเลขประมูลจากคนอื่น จะมี 2 แบบครับ
1) เลขที่ยังไม่เคยจดทะเบียนมาก่อน เวลาซื้อเราต้องได้
- ใบเสร็จค่าประมูลทุกใบ (ส่วนใหญ่จะมี 2 ใบ) สำคัญที่ใบสุดท้ายจะมีข้อความระบุว่า ชำระครบ
- หนังสือรับรองการโอนสิทธิหมายเลขทะเบียนที่ประมูลได้
- สำเนาบัตรประชาชนเจ้าของป้าย (ที่ยังไม่หมดอายุ)
2) เลขที่เคยจดทะเบียนกับรถคันอื่นมาแล้ว
- เอกสาร ชุดสงวนเลขหมายประมูล (ใน ตจว อาจไม่มีให้สอบถาม จนท อีกที)
- หนังสือยินยอมสลับป้าย (ในบางจังหวัดให้ใช้หนังสือโอนสิทธิเหมือนในข้อ 1)
- สำเนาบัตรประชาชนเจ้าของป้าย (ที่ยังไม่หมดอายุ)
ผมคิดว่าระบบดำเนินการเกี่ยวกับป้ายประมูลต่างๆ ขนส่งควรมีระบบที่ดีกว่านี้
ควรอำนวยความสะดวกให้คนที่ประมูลป้ายให้มากกว่านี้ การโอนซื้อขายควรให้ผู้รับโอนขอตรวจสอบได้
ซึ่งการประมูลเป็นจ่ายเงินเข้ากองทุนฯ ด้วย
ที่เคยเจอฝ่ายทะเบียนหลายจังหวัดยังไม่รู้เลยครับว่าชุดสงวนคืออะไรครับ
ขนส่งควรมีระเบียบที่ชัดเจนและเหมือนกันทุกจังหวัดด้วยครับ
-
ขอบคุณครับ เหมือนเคยอ่านเจอมาว่า
" กรณีที่ไม่มีรถ จะให้โอนเปลี่ยนชื่อทะเบียนประมูล ในระบบให้เป็นชื่อเราก่อนยังไม่ได้ "
เลยไม่แน่ใจว่ายังไงกันแน่น่ะครับ
ผมเคยไปถามขนส่งแล้ว เปลี่ยนเป็นชื่อเราในระบบรอไว้ก่อนไม่ได้นะครับ
จะเป็นชื่อเราก็ต่อเมื่อนำเลขนี้ไปจดกับรถที่เป็นชื่อเราครับ
ถ้าจะซื้อเลขประมูลจากคนอื่น จะมี 2 แบบครับ
1) เลขที่ยังไม่เคยจดทะเบียนมาก่อน เวลาซื้อเราต้องได้
- ใบเสร็จค่าประมูลทุกใบ (ส่วนใหญ่จะมี 2 ใบ) สำคัญที่ใบสุดท้ายจะมีข้อความระบุว่า ชำระครบ
- หนังสือรับรองการโอนสิทธิหมายเลขทะเบียนที่ประมูลได้
- สำเนาบัตรประชาชนเจ้าของป้าย (ที่ยังไม่หมดอายุ)
2) เลขที่เคยจดทะเบียนกับรถคันอื่นมาแล้ว
- เอกสาร ชุดสงวนเลขหมายประมูล (ใน ตจว อาจไม่มีให้สอบถาม จนท อีกที)
- หนังสือยินยอมสลับป้าย (ในบางจังหวัดให้ใช้หนังสือโอนสิทธิเหมือนในข้อ 1)
- สำเนาบัตรประชาชนเจ้าของป้าย (ที่ยังไม่หมดอายุ)
ถ้าเป็นแบบนี้แสดงว่า ถ้าผมไม่มีรถ แล้วนัดไปที่ขนส่ง ก็ไม่มีประโยชน์เพราะโอนไม่ได้ใช่รึเปล่าครับ
ถ้าเป็นแบบนี้ตัวเลือกข้อที่สามน่าจะปลอดภัยสุดสินะครับ
-
^
กรณีจะเอารถพ่อไปจด ถ้าป้ายเดิมและป้ายใหม่เป็นจังหวัดเดียวกัน
ให้พ่อทำหนังสือมอบอำนาจ แล้วเอาเล่มไปขอจดเลขใหม่ที่ขนส่งเลย
วันครบกำหนดภาษีก็เหมือนเลขเดิม แต่รูปแบบการซื้อขายก็อยู่ตกลงกันครับ
เวลาซื้อขายทะเบียนประมูลกัน ปกติก็ต้องได้เอกสารตามที่ผมแจ้งไว้
แล้วแต่จะเป็นกรณีไหน ในกรณีได้ใบเสร็จมาครบก็ค่อนข้างปลอดภัย
สามารถตรวจสอบกับ จนท กองทุน โต๊ะหน้าได้เลย
(พ่อค้าก็มักจะนัดซื้อขายกันที่กองทุน เพราะบางป้าย พ่อค้าจ่ายเงินยังไม่ครบ
ก็เอาเงินลูกค้ามาจ่ายกันที่ตรงนั้นก็เยอะครับ)
แต่สิ่งที่ต้องระวังคือสำเนาบัตร ปชช เจ้าของป้าย ต้องไม่หมดอายุ
ในวันที่เราจดทะเบียน บางคนได้เอกสารมานาน ถึงเวลาจด สำเนาบัตร ปชช คนขายหมดอายุ
บางทีตามกันไม่ได้ก็มีครับ
กรณีได้ชุดสงวนจะไม่เกี่ยวกับกองทุนแล้ว ต้องสอบถามกับ จนท ชั้น 2 เอง
ซึ่ง จนท จะไม่ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบ เพราะเค้าว่าไม่ใช่หน้าที่
ตรงนี้ผมถือว่าแย่มากคนซื้อเค้าจะรู้ได้ไงว่าเลขที่ซื้อขายมีการจดทะเบียนรึยัง
หรือเป็นชุดสงวนปลอมหรือไม่ เพราะดูแล้วมันก็ปลอมไม่ยากเลย
ต่างจากเวลาซื้อที่ดินเรายังสามารถตรวจสอบโฉนดได้ ตรงนี้ถือว่าระบบของขนส่งยังไม่ดีครับ
ควรให้เราขอตรวจสอบได้ จะเก็บค่าธรรมเนียมสักร้อยสองร้อยก็ยังดีกว่าครับ
-
^
กรณีจะเอารถพ่อไปจด ถ้าป้ายเดิมและป้ายใหม่เป็นจังหวัดเดียวกัน
ให้พ่อทำหนังสือมอบอำนาจ แล้วเอาเล่มไปขอจดเลขใหม่ที่ขนส่งเลย
วันครบกำหนดภาษีก็เหมือนเลขเดิม แต่รูปแบบการซื้อขายก็อยู่ตกลงกันครับ
เวลาซื้อขายทะเบียนประมูลกัน ปกติก็ต้องได้เอกสารตามที่ผมแจ้งไว้
แล้วแต่จะเป็นกรณีไหน ในกรณีได้ใบเสร็จมาครบก็ค่อนข้างปลอดภัย
สามารถตรวจสอบกับ จนท กองทุน โต๊ะหน้าได้เลย
(พ่อค้าก็มักจะนัดซื้อขายกันที่กองทุน เพราะบางป้าย พ่อค้าจ่ายเงินยังไม่ครบ
ก็เอาเงินลูกค้ามาจ่ายกันที่ตรงนั้นก็เยอะครับ)
แต่สิ่งที่ต้องระวังคือสำเนาบัตร ปชช เจ้าของป้าย ต้องไม่หมดอายุ
ในวันที่เราจดทะเบียน บางคนได้เอกสารมานาน ถึงเวลาจด สำเนาบัตร ปชช คนขายหมดอายุ
บางทีตามกันไม่ได้ก็มีครับ
กรณีได้ชุดสงวนจะไม่เกี่ยวกับกองทุนแล้ว ต้องสอบถามกับ จนท ชั้น 2 เอง
ซึ่ง จนท จะไม่ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบ เพราะเค้าว่าไม่ใช่หน้าที่
ตรงนี้ผมถือว่าแย่มากคนซื้อเค้าจะรู้ได้ไงว่าเลขที่ซื้อขายมีการจดทะเบียนรึยัง
หรือเป็นชุดสงวนปลอมหรือไม่ เพราะดูแล้วมันก็ปลอมไม่ยากเลย
ต่างจากเวลาซื้อที่ดินเรายังสามารถตรวจสอบโฉนดได้ ตรงนี้ถือว่าระบบของขนส่งยังไม่ดีครับ
ควรให้เราขอตรวจสอบได้ จะเก็บค่าธรรมเนียมสักร้อยสองร้อยก็ยังดีกว่าครับ
ขอบคุณมากครับ เป็นประโยชน์มากเลยครับ
-
ได้ความรู้ตรึมเลย