เรื่องเกียร์อัตโนมัตินี้เป็นส่วนที่ใช้งานให้ถูกต้องได้ยากจริงๆ
หลังจากที่อ่านบทความของคุณชาญแล้วผมก็ได้ลองไปค้นหาดูตามเว็บต่างๆในอินเตอร์เน็ต ก็สรุปได้ว่า
ที่คุณอ่านมาในคู่มือรถนั้นถูกแล้ว เกียร์อัตโนมัติจะอายุสั้นได้ในสองกรณี คือ การเปลี่ยนเกียร์บ่อยๆจากเกียร์หนึ่งไปยังอีกเกียร์หนึ่ง เพราะในช่วงเปลี่ยนเกียร์ ชิ้นส่วนในระบบเกียร์จะรับ mechanical stress สูง ซึ่งเกิดได้ไม่ว่าเราจะเปลี่ยนจาก N - 1 -2 -3 -4 -5 ..... หรือกลับกัน และ stress ที่ว่าก็เกิดเสมอไม่ว่าคุณโยกเองหรือระบบโยกเอง
ดังนั้น การขับรถในช่วงความเร็วที่จะทำให้เกียร์เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตลอดเวลาก็มีส่วนทำให้ระบบเกียร์เสียง่าย
อ้าว.. ถ้างั้นเราก็ควรค้างเกียร์ไว้ที่ D ตอนจอดติดไฟแดงนะซี ถ้างั้นบอกมาได้ยังไงว่าที่อ่านมาในคู่มือถูก
จริงๆก็คือคู่มือถูก เพราะสาเหตุการเสียของเกียร์อัตโนมัติมีอีกอย่างคือ จากสาเหตุการเสื่อมของน้ำมันเกียร์ น้ำมันเกียร์ประเภทปกติจะมีคุณสมบัติเสื่อมลงเมื่ออุณหภูมิสูงถึง 80 C และจะยิ่งเสื่อมสภาพเร็วขึ้นเมื่อต้องผจญกับอุณหภูมิที่สูงขึ้น ดังนั้นในเกียร์อัตโนมัติจึงมีต้องการระบายความร้อน เมื่อเราจอดนิ่งๆโดยอยู่ที่ D และเหยียบเบรคไว้ torque converter ทำงาน พลังงานกลจะเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน อุณหภูมิของน้ำมันเกียร์สูงขึ้น
และนี่ก็คือสาเหตุว่าทำไมเวลารถติดตอนขาขึ้นสะพานเราไม่ควรอยู่ที่ D แล้วเลี้ยงคันเร่งเพราะจะเกิดความร้อนสูงมากในระบบเกียร์อัตโมติ
ทีนี้พอเกิดแบบนี้บ่อยๆ น้ำมันเกียร์ก็เสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ เราก็ไม่ได้เช็คไม่ได้เปลี่ยน จึงทำให้เกียร์พังเร็ว
ที่น่าสนใจคือ ในคู่มือรถโตโยต้าบอกไว้ว่า น้ำมันเกียร์ไม่ควรไปแตะต้องเพราะจะทำให้สกปรก ให้เปลี่ยนที่ 120,000 กม เข้าใจว่าของเขาคงใช้ Dextron IV แต่ที่น่าสนใจจนทำให้ผมไปค้นคว้าแล้วสรุปได้ตามที่ว่ามาข้างต้นคือ มันมีประโยคต่อท้ายว่า
ยกเว้นขับแบบตำรวจ หรือ แท็กซี่ ให้เปลี่ยนที่ 60,000 กม
ผมก็สงสัยว่า เอ.. ไอ้คนเขียนคู่มือนี่มันจะตลกไปถึงไหน ไอ้การขับรถแบบไม่เคารพกฎจราจร นึกอยากหยุดก็หยุด นึกอยากวิ่งสวนทางชาวบ้านเขาก็สวนนี่มันทำให้น้ำมันเกียร์เสื่อมสภาพเร็วด้วยหรือ แต่พอคิดอีกที ไอ้คู่มือนี่น่าจะเขียนโดยคนญี่ปุ่นและสำหรับรถที่เขาขายทั่วโลก ไม่เฉพาะในไทย ดังนั้นที่ผมคิดไว้ก็ไม่น่าถูกต้อง จึงไปค้นคว้าดู ก็พบว่าถ้ารถใช้งานทั้งวัน ขับในสภาพการจราจรติดขัด หรือขับช้าๆ (รถตำรวจเมืองนอกส่วนใหญ่ขับช้าๆเพื่อตระเวณดูความเรียบร้อย จะขับเร็วแบบไม่เคารพผู้เสียภาษีเพื่อจ่ายเงินเดือนเขาก็ต่อเมื่อไล่กวดคนร้าย) ควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์เร็วกว่าปกติเพราะน้ำมันเกียร์ต้องทนสภาพความร้อนสูงเป็นเวลาติดต่อกัน
ดังนั้น ผมจึงสรุปกับตัวเองว่า รถที่ขับไปทำงานเช้า เย็น ในกรุงเทพ ซึ่งต้องผจญกับสภาวะจราจรติดขัดหนักก็ควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ก่อนกำหนด
ที่น่าแปลกคือถ้าข้อสรุปของผมถูก เซลล์ที่ขายรถให้ผมก็ผิด เพราะเขาโม้ว่ารถเขาน้ำมันเกียร์เปลี่ยนที่ 120,000 กม เข้าใจว่าคงถูกอบรมมาให้โม้แบบนั้น แต่คนอบรมคงไม่ได้อ่านคู่มือแล้วสงสัยว่าทำไมขับแบบตำรวจหรือแท็กซี่จึงแนะนำให้เปลี่ยนเร็วขึ้น แต่ เอ.. หรือเขาคิดว่ารุ่นที่ผมซื้อไม่ใช่รุ่น Limo แล้วผมก็ไม่ได้ไปเบ่งใส่เวลาคุยกับเขา