จะซื้อจากศูนย์ หรือเกรย์ นั้น อยากให้ผู้ตัดสินใจซื้อมองในหลายๆ ด้านครับ
โดยส่วนตัวมีความเห็นทั้ง 2 ด้านพอๆ กัน แต่เอามาชั่งน้ำหนักตามแต่ละปัจจัยต่างๆ ที่เรามีอยู่
ข้อดีของการซื้อจากศูนย์
1. ได้รถใหม่แน่นอน เลขไมล์ต่ำ
(แต่ใครจะรู้ว่าเลขไมล์ต่ำนั้น อาจจะมี พนง. หรือเซลส์ เอาไปซิ่งทำ Top Speed ระยะสั้นๆ แฝงมาแล้วล่ะ)
2. ได้การรับประกันตัวรถนานกว่าพวกเกรย์ และไม่ค่อยจะวุ่นวายในการเคลม
ยกเว้นบางเคสที่พิเศษจริงๆ อาจต้องมีการทุบรถประจานกันบ้าง เรียกว่าฟลุ๊คจริงๆ หรือถูกรางวัลที่ 1
3. บริษัทมีภาพลักษณ์ที่ดี มีความมั่นคงกว่าเกรย์ เพราะใช้เงินลงทุนสูง
(แต่ก็อีกนั่นล่ะ ใครจะไปรู้อนาคต ดูอย่าง โอเปิล แดวู เรโนลต์ )
4. ปัญหาทุกจุด ศูนย์สามารถซ่อมได้ เพราะ พนง. ได้รับการอบรมมาเป็นการเฉพาะ
5. ได้บริการอื่นๆ ที่ดีกว่า เช่น การให้การช่วยเหลือฟรี (ตามเงื่อนไข) เมื่อรถเสีย
ข้อเสียของการซื้อจากศูนย์
1. ราคาแพง เพราะบริษัทได้คิดอัตราเสี่ยงของการกลับเข้ามาเคลมแบบเหมารวมแล้วเฉลี่ยไปให้แต่ละคันไว้แล้ว
ดังนั้นจงใช้สิทธิ์ของผู้บริโภคให้คุ้มค่า และอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ไม่เอารัดเอาเปรียบ
ข้อดีของการซื้อจากเกรย์
1. ราคาถูกกว่าศูนย์มาก และมักจะนำรุ่น Top มาจำหน่าย (เอารุ่นห่วยกว่ามา ก็ขายไม่ออก เพราะราคาสูสีกัน)
2. ได้รถเลยแบบไม่ต้องรอ (เฉพาะบางรุ่น บางคัน บางทีก็อาจรอนาน 3-4 เดือน)
3. สามารถหาซื้อรถบางรุ่น ที่บริษัทแม่หรือศูนย์ไม่นำเข้ามาจำหน่าย
4. ได้ซื้อรถบางรุ่นมาใช้อวดบนถนนก่อนใครเพื่อน เพราะกว่าผู้บริหารของแต่ละค่ายจะกล้าสั่งเข้ามาจำหน่าย
ก็แทบจะเสียรังวัดให้เกรย์ไปจนตลาดวายแล้ว เช่น รถตู้หรูรุ่นยิงไม่ตาย
ข้อเสียของการซื้อจากเกรย์
1. เราจะไม่รู้เลยว่ารถที่ซื้อมาเป็นรถเดโม รถผู้บริหาร หรือเรียกว่ามือสองไมล์ต่ำหรือไม่
ซึ่งต้องตรวจสอบด้วยเครื่องมือเฉพาะ และถ้ามารู้ในภายหลัง ก็เหมือนถูกหลอก มันแค้นๆๆๆ
2. ระยะเวลาในการรับประกันสินค้ามีอายุสั้น เช่น 1 ปี แต่ของศูนย์อาจจะ 2 หรือ 3 ปี
3. เรื่องของมาตรฐานการบริการหลังการขายอาจจะไม่ชัวส์ ซ่อมไม่หาย ซ่อมไม่เป็น หรือ ซ่อมไม่ได้
เพราะตัดรถมาขายจำนวนน้อย แต่มีหลากหลายรุ่น ไม่คุ้มกับการส่งไปอบรมให้ครบทุกรุ่น
รวมถึงอาจจะไม่มีศูนย์บริการเป็นของตนเอง (แต่บางค่ายเขาก็มี service ครบถ้วนและอาจจะดีกว่าศูนย์)
4. ความมั่นคงของเกรย์แต่ละค่าย ไม่มีอะไรมาการันตีได้ อยากจะปิดหายก็ทำได้ง่ายๆ ขายแล้วหนีก็มีแยะ
(แต่ไอ้ที่มั่งคงอยู่มายาวนานก็มีเหมือนกัน ซึ่งเขาขายเฉพาะกลุ่ม ไม่มีการทำการตลาดมาก)
5. ความพร้อมของการขายอาจจะต่ำกว่ามาตรฐาน เช่น สมุดคู่มือไม่มี มีแบบ Xerox เป็นต้น
6. ไม่มีการสำรองอะหลั่ย หรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นต้องเปลี่ยนเตรียมไว้ให้ลูกค้า คือสั่งกันแบบ case by case
7. คัวรถอาจถูกนำเข้ามาอย่างไม่ถูกต้อง หรือเอกสารไม่ครบแต่มีการปิดบังลูกค้า
หรือแม้แต่เจ้าของบริษัทเอาเอกสารสำคัญของรถทุกคันไปเล่นแร่แปรธาตุ หวังอนาคตรวยเร็วกว่าเดิม
แบบบางค่ายที่หนีหัวซุกหัวซูนไปต่างประเทศแล้ว และตำรวจไทยทำอะไรไม่ได้เนื่องจากเส้นก๋วยจั๊บ
ผู้บริโภคก็ได้แต่ทำตาปริบๆ ทนใช้แบบเซ็งๆ ไป และก็ขายต่อไม่ได้ รวมถึงอาจโดนกวนทีนตามด่านตรวจอีกด้วย
8. เครื่องยนต์ในบางรุ่น อาจจะไม่สามารถรองรับเชื้อเพลิงเกรดต่ำ คุณภาพแย่ แบบบ้านเราได้
เอาไปเคลมก็เงียบหาย ผู้บริโภคบางรายถึงขั้นต้องยอมเสียเงินเปลี่ยนเครืองยนต์ตัวใหม่
นั่นคือปัจจัยต่างๆ ที่ต้องมาชั่งน้ำหนัก แต่ถ้าเป็นผม ผมจะซื้อจากเกรย์ก็ต่อเมื่อ
1. เรารู็จักบริษัทนี้ดีพอ เช่น เป็นของเพื่อน ของญาติ หรือมีเพื่อน มีญาติ
ซื้อหากันมานาน ประวัติที่ผ่านมาไม่มีปัญหาใดๆ เรียกว่าไว้ใจได้
2. รถต้องมี Option ที่มากกว่าของศูนย์ หรือเป็นตัว Top ที่ศูนย์ไม่ได้เอามาขาย
3. ราคาต้องถูกกว่ากันมากกว่า 25% คำนวณแล้วว่าถ้าเอามาซ่อมในช่วงระยะเวลา 5 ปี
จะไม่มีราคาเกินกว่าที่เราจะซื้อจากศูนย์ (แม้ว่าจะได้รุ่นต่ำกว่าหรือถูกตัด Option ไป)
4. ตัดสินใจแล้วว่า พร้อมที่จะรับชะตากรรมของการตระเวนเข้าอู่ หรือหาที่ซ่อม เหมือนสมัย
ที่เห่อขับรถใหม่ๆ ซื้อรถเก่ามาแต่ง มาปรับโน่นนี่ ให้มัน แรง แรง และ แรง โดยไม่สนว่า
กระเป๋าจะฉีกไหม เดือนนี้จะมีกินหรือไม่ หรือเมื่อไรรถตูจะได้ห่างอู่บ้างนะ
5. เงินถึงจริงๆ ผมมีเพื่อนเป็นคน สปป.ลาว ซื้อ Ferrari ไปขับแล้วต้องซ่อม พี่ท่านก็จ้างรถ
Slide on มายกรถเขามาซ่อมในไทย เฉพาะค่าขนส่งครั้งละ 2 แสนบาท ต่อมาชักจะซ่อมบ่อย
เลยติดต่อค้นหาช่างฝีมือดี และออกตั๋ว+ที่พัก+ค่าจ้าง+Entertain ให้มา Service กันแบบประจำไปเลย
หรือจะอย่างคนรู้จักอีกคนหนึ่งก็มักจะขับ Subaru เข้ามาไทยเพื่อมา service กับ Motor Image เป็นประจำ
สิ่งที่ได้ยินมาจากเพื่อนๆ ที่เล่นรถสปอร์ตจากยุโรปแบบมือสอง และพัฒนามาซื้อจากเกรย์
1. เขาเล่นมือสองมาตลอด เพราะราคาถูกกว่ามาก บางคันได้มาแบบไม่ช้ำ ในราคาเบาๆ
ดังนั้นจึงกล้าที่จะเล่นรถจากเกรย์ แต่ก็ต้องเข้าเงื่อนไข 4 ข้อ ข้างบนด้วย
2. จะซื้อเฉพาะรถสปอร์ตจากค่ายฝั่งยุโรปเป็นหลัก เพราะถ้าออกศูนย์ ราคาแพงกว่ากันมาก
(ราคาที่ศูนย์จำหน่ายหลักล้าน แถวๆ 8-10 ล้าน แต่เกรย์ขายแค่ 5-6 ล้าน)
3. ทำการศึกษารุ่นที่จะซื้ออย่างละเอียด ถึงปัญหาที่ต้องระมัดระวังแก้ไขตรวจสอบ
หาแหล่งขายอะหลั่ยทดแทน หาอู่ที่มีฝีมือและรองรับการ service ได้เป็นอย่างดี
รวมถึงไปทดลองขับรุ่นที่จะซื้อจากศูนย์จนมั่นใจ มาก่อนที่จะซื้อจากเกรย์
4. ถ้ามีปัญหาก็จะส่งไปซ่อมที่ศูนย์ข้างนอกที่จัดหาไว้ หรือหนักหนามาก ก็ส่งไปซ่อมที่สิงคโปร์ได้
ประเทศนี้เป็นศูนย์กลางทุกอย่างจริงๆ ทั้งท่าเรือ ศูนย์ซ่อมรถ เครื่องบินเล็ก เครื่องบินพานิชย์
รวมถึงแหล่งหาอะหลั่ยและของแต่งของรถยุโรป
5. เปรียบเทียบ ราคากับ Option ที่ได้ ฝีมือในการซ่อม และบริการหลังการขายแล้ว ไม่คุ้มค่าเท่ากับเงินที่เสียไป
ออกรถจากเกรย์แล้วยังมีเงินเหลือเอาไว้แต่ง ซ่อม เติมน้ำมัน ได้อีกนานๆ
สุดท้าย ซื้อจากศูนย์ หรือบริษัทแม่ น่ะดีที่สุด ทะเลาะกันยังไงเขาก็ไม่ปิดหนีแน่นอน
พร้อมให้เราไปเรียกร้องได้ทุกเมื่อ แต่ยกเว้น แดวู โอเปิล เรโนลต์ นะครับ 555+