ผู้เขียน หัวข้อ: เคลือบแก้วเป็นยังไงครับ  (อ่าน 14113 ครั้ง)

ออฟไลน์ adis

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,416
    • อีเมล์
เคลือบแก้วเป็นยังไงครับ
« เมื่อ: มีนาคม 15, 2012, 14:28:23 »
ได้ยินโฆษณา เคลือบสีรถแบบเคลือบแก้ว
มันเป็นยังไงครับ  ดีมั้ย กันรอยขีดข่วนได้ดีกว่าเคลือบด้วยน้ำยาธรรมดา ๆ หรือเปล่า
ซื้อน้ำยามาเคลือบเองได้มั้ย ราคาเท่าไหร่

หรือต้องให้ที่ร้านทำให้ ราคาเท่าไหร่ครับ

ออฟไลน์ natty ib-cm

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 667
Re: เคลือบแก้วเป็นยังไงครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มีนาคม 15, 2012, 14:40:30 »
อยากรู้เหมือนกัน ;D

ออฟไลน์ panjap

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,258
Re: เคลือบแก้วเป็นยังไงครับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มีนาคม 15, 2012, 15:06:34 »
ต้องให้ร้านทำครับ มันหลายขั้นตอนมาก ราคาสมัยก่อนแพงมาก 3-5 หมื่น สมัยนี้ เห็นการแข่งขันกันเยอะ เหลือ 1.5-3 หมื่นครับ เขาจะมีประกันด้วยว่า ถ้าไปชนมา เคลือบฟรีกี่ชิ้นก็ว่ากันไป
ความเห็นส่วนตัว ไม่ค่อยคุ้ม มันก็เงาดี แต่แม้มันจะทนนานยังไง ผมว่าสู้เคลือบธรรมดา แต่บ่อยๆ ดีกว่า ราคาถูกกว่ากันเยอะ ผมถามเพื่อนผมที่ใช้ supercar คันละ 10 กว่าล้าน เขาก็ไม่ได้เคลือบนะครับ ก็แล้วแต่คนชอบมากกว่าครับ

ออฟไลน์ ssk30868

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 54
Re: เคลือบแก้วเป็นยังไงครับ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มีนาคม 15, 2012, 15:18:09 »
เคลือบแก้ว เป็นน้ำยาเคลือบชนิดแข็งครับ เคลือบแล้วอยู่ได้เป็นปี
ต่างจากพวก sealant หรือ wax ธรรมดาที่มีอายุการปกป้องและความสวยงามประมาณ 2 อาทิตย์ถึงเดือนนึง

ความเป็นจริงน้ำยาเคลือบแก้วไม่แพงเลยครับถือว่าถูกกว่า wax ดีๆบางยี่ห้อด้วยซ้ำ
แต่วิธีการทำมันยุ่งยาก พลาดไปทีละต้องแก้งานกันนาน เพราะน้ายาพอหยกลงพื้นผิดแล้วจะแข็งติดเลย
ก่อนทำเคลือบแก้วต้องเตรียมผิวรถโดยการขัดหยาบกะขัดละเอียดด้วยเครื่อง rotary เสร็จแล้ว ลงดินน้ำมัน และคลีนเนอร เพื่อปรับสภาพผิว
ถึงจะลงน้ำยาเคลือบแก้วได้
ประการที่สำคัญ คือขั้นตอนเคลือบจะต้องทำในห้องแอร์จะดีที่สุด เพราะป้องกันฝุ่นละอองไปติดตอนลงน้ำยา

ข้อดีของเคลือบแก้วคือความทนครับ เหมาะกับคนขี้เกียจ ไม่ชอบล้างไม่ชอบลงแว็กบ่อยๆ ลงทีแล้วเขาก็จะแถมโปรแกรม
ไปให้ขัดเคลือบอีกประมาณ 3 -6 ครั้ง
ข้อเสียก็คือ ความเงางามมันสู้การลงแว็กแบบธรรมดาไม่ได้ครับ สวยได้เดือนสองเดือนแต่ถ้าไม่ลงแว็กธรรมดาควบคู่ไปด้วยยังงัยก็หมอง
แต่ถามว่าตัวที่เน้นการปกป้องยังอยู่ใหม ยังอยู่ครับ แต่ความเงางามไม่เหลือแล้ว ก็ต้องเข้าร้านไปบำรุงตามระยะเวลาที่เขาบอกอ่ะครับ

ส่วนที่ว่ากันรอยขีดข่วนได้ใหม ขอตอบว่าไม่ได้ครับ โดยกิ่งไม้ เล็บ หินกระเทาะ อย่างไรก็เป็นรอย จะมากจะน้อยก็แล้วแต่ความรุนแรง
ถ้าโชคดีมันก็เป็นรอยอยู่ที่ผิวเคลือบ ไม่ถึงเคลียรโค้ท
ที่นี้รอยในวงการ detailing นี่มันมีสองแบบครับ คือรอยที่เอามือลูบไม่สะดุดมือ พวกนี้แก้ไขไม่ยากครับ สามารถขัดออกได้
ซึ่งการเคลือบมันมีส่วนช่วยกันรอยพวกนี้ได้นิดหน่อยเท่านั้น
ถ้าเป็นรอยที่เอานิ้วลูปแล้วสะดุดมือ พวกนี้ทำสีใหม่สถานเดียวครับ เอาน้ำยาอะไรมาขัดก็ไม่ออก เว้นแต่จะใช้การกลบ อันนี้อีกเรื่อง

จุดประสงค์ของการเคลือบไม่ว่าแก้วไม่แก้วคือ ต้องการไม่ให้ ฝุ่นผง น้ำฝน สิ่งสกปรกทั้งหลายเข้าไปอุดตันในชั้นเคลียร์โค้ทของสีรถ
เพื่อถนอมให้สีรถดูใหม่อยู่เสมอ

เหมือนคุณเอาหนังสือห่อปกพลาสติคอ่ะครับ เอาไปโดนแดดหรือผ่านการใช้งานมันก็จะเหลืองเก่ายากกว่า หนังสือไม่มีห่อปก
แต่เอาเล็บจิกปกหนังสือพลาสติค ถามว่ากระดาษข้างในมันเป็นรอยเล็บใหม ก็เป็นครับ แต่ก็น้อยกว่าธรรมดาหน่อยนึง

พวกเคลือบแก้วนี้ ตามร้านคาร์แคร์เลวๆมันเอามาอวยกันสะเวอร์ อับราคาสะแพงเกินจริง จนลูกค้าเข้าใจผิดกันเยอะ
โม้ประมานแบบทนมากเอาก้อนหินเขวี้ยงใส่ก็ไม่เป็นไร พวกนี้ส่วนมากโม้ทั้งนั้นอ่ะครับ
แถมบางร้านยังมีเคลือบแก้วปลอมๆ เอาแว็กมาลงธรรมดามาลงให้แล้วบอกว่าเป็นเคลือบแก้ว พวกนี้โกหก ระวังด้วยนะครับ
เคลือบแก้วก่อนจะลงมันมีขั้นตอนเยอะแยะ ไม่ใช่เป็นน้ำยาเอามาทาเลย แปปเดียวบอกเสร็จแล้ว พวกนี้มั่วแน่ๆ



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 15, 2012, 15:21:56 โดย ssk30868 »

ออฟไลน์ kowit1

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 525
Re: เคลือบแก้วเป็นยังไงครับ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มีนาคม 15, 2012, 15:24:47 »
เห็นในหนังสือ รถ มีแบบ เป็นฟลิม์ เคลือบเลยด้วย

ออฟไลน์ adis

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,416
    • อีเมล์
Re: เคลือบแก้วเป็นยังไงครับ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มีนาคม 15, 2012, 16:18:48 »
อืม...ขอบคุณมาก ๆ ครับ อย่างงี้ ตัดสินใจไม่ไปเคลือบแก้วดีกว่า
ผมคิดว่ามันจะกันรอยขีดข่วน อย่างเช่นโดนเศษหินเศษกรวดได้ดีด้วย
ปกติผมก็เคลือบสีรถเองเป็นประจำอยู่แล้ว

ออฟไลน์ NarinrachMaisok

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,622
  • Das Auto
Re: เคลือบแก้วเป็นยังไงครับ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มีนาคม 15, 2012, 17:03:51 »
ถ้าจะกันเศษหินเศษนั่นนู่นนี่ แนะนำฟิมเลยดีกว่าครับ เคลือบแก้วผมว่ามันเด่นที่สีมันสดใสขึ้นเอยะ

ออฟไลน์ adis

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,416
    • อีเมล์
Re: เคลือบแก้วเป็นยังไงครับ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: มีนาคม 15, 2012, 17:11:49 »
อ่า....นวตกรรมใหม่มาอีกแระ  คนแก่ตามไม่ทันขอรับ
รบกวนอีกทีเหอะ ไอ้ฟิล์มที่ว่าเนี่ยนเป็นไงครับ ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่

ออฟไลน์ GUDJA-MAN

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,648
Re: เคลือบแก้วเป็นยังไงครับ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มีนาคม 15, 2012, 17:15:14 »
ซื้อมาทำเอง ระวังเจอของปลอมนะครับ

ออฟไลน์ Despinaauto

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 557
    • อีเมล์
Re: เคลือบแก้วเป็นยังไงครับ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: มีนาคม 15, 2012, 18:22:49 »
   เปลืองเงินครับ  พวกนี้  ไม่ได้ทำให้สีเราที่ระยะยาว  ดีกว่าคันที่ไม่เคลือบเลยครับ

   รถยุโรปที่บ้านผมทำมาหลายคัน  เทียบกับคันไม่ทำ  ระยะยาวไม่แตกต่างครับ  ที่ต่างคือ  ความสวยงามตอนเคลือบทีแรก  กับชั้นเคลือบใหม่ๆที่หนาอยู่  กันรอยขีดที่ไม่ลึกได้บ้าง

    แต่ต้องแจ้งประกันด้วยนะครับ  ถ้าเคลือบแพงๆเริ่มที่สามหมื่นถึงเป็นแสน  เวลาทำสีต้องไปเคลมเคลือบใหม่  ยุ่งยาก 

    เจ้าที่ดังๆ มีซัก 3 เจ้า ข้อดีเสียต่างกันไป

    ส่วน film เห็นโฆษณา แต่ไม่มีความรู้ครับ

ออฟไลน์ NarinrachMaisok

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,622
  • Das Auto
Re: เคลือบแก้วเป็นยังไงครับ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: มีนาคม 15, 2012, 19:53:42 »
อ่า....นวตกรรมใหม่มาอีกแระ  คนแก่ตามไม่ทันขอรับ
รบกวนอีกทีเหอะ ไอ้ฟิล์มที่ว่าเนี่ยนเป็นไงครับ ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่


ครับผมคือง่ายๆนะครับ มันจะเป็นฟิมกันรอยทั้งคันเลยครับค่อนข้างหนาแล้วนิ่มและเหนียวพอควรครับมันหนากี่ไมครอนไม่รู้ เหมือนกันแต่หนาพอควรครับ โดยจะติดรอบคันเลยแต่กระจกน่าจะมีด้วยมั้ง แล้วก็ไฟหน้า ที่ผมเห็นมันจะใสมากๆและยืดหยุุ่นมากๆ ที่ผมเห็นติดกันส่วนใหญ่จะเป็นซูเปอร์คาร์กะรถสปอต อ่ะครับ (เพราะคงแพงอยู่)ที่ผมเคยเห็นก็มี M3 GTS สีส้มกะMP4 12c สีเทาติดไปแล้วเหมือนกันครับ ส่วนข้อมูลลองหาในเนตดูครับน่าจะมีอยู่

ออฟไลน์ redsun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,098
Re: เคลือบแก้วเป็นยังไงครับ
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: มีนาคม 15, 2012, 20:00:05 »
อ่านได้ความรู้เพิ่มขึ้นมากเลยครับ ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ NarinrachMaisok

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,622
  • Das Auto
Re: เคลือบแก้วเป็นยังไงครับ
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: มีนาคม 15, 2012, 20:25:14 »
เพิ่มเติมนะครับ รู้สึกจะหนา 165ไมครอน น่ะครับ
แต่เคลือบแก้วชั้นเคลือบน่าจะอยู่ที่8-25ไมครอนมั้งครับไม่แน่ใจ

popdemonic

  • บุคคลทั่วไป
Re: เคลือบแก้วเป็นยังไงครับ
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: มีนาคม 15, 2012, 21:27:19 »
ไม่ทำครับ เอาตังค์ไปเติมน้ำมันดีกว่าครับ

ออฟไลน์ kabokaboh

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 321
Re: เคลือบแก้วเป็นยังไงครับ
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: มีนาคม 15, 2012, 21:29:25 »
แว็กซ์ดีๆสักกระปุก สี่ห้าพัน เช่น swisswax zymol

ลงเดือนละครั้ง

สองปีจะหมดหรือเปล่า

แต่ที่แน่ๆ เงากว่า

ออฟไลน์ 6162002

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,088
Re: เคลือบแก้วเป็นยังไงครับ
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: มีนาคม 15, 2012, 21:41:25 »
ถ้าแบบสั้นๆก็คือ การเคลือบแข็ง อยู่ทน แต่ไม่ได้เงามากเหมือนเคลือบธรรมดา แต่มีข้อดีที่ไม่ต้องเหนื่อยบ่อยๆ เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาครับ

แต่ถ้ามีเวลา ลงแว็กบ่อยๆดีกว่าครับ ^^

ออฟไลน์ adis

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,416
    • อีเมล์
Re: เคลือบแก้วเป็นยังไงครับ
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: มีนาคม 16, 2012, 08:10:00 »
ไม่ทำครับ เอาตังค์ไปเติมน้ำมันดีกว่าครับ
กด like

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
Re: เคลือบแก้วเป็นยังไงครับ
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: มีนาคม 16, 2012, 08:28:11 »
ลอง Menzerna Powerlock เคลือบซักครั้งนึงครับ
เคลือบโค๊ทนึง อยู่ได้ราวๆ 1 เดือน
ถ้าเตรียมผิวดีๆ ลงเป็นและทั่วถึง 2 เดือนก็ยังอยู่ได้สบายๆ
ขวดล่ะ 1200 บาท ใช้กับรถไซต์แคมรี่ได้ราวๆ 12 ครั้ง
2 เดือนต่อ 1 ครั้ง สรุปคือ 1 ขวดใช้ได้เกือบ 2 ปี

เพื่อนผมใช้แจ๊ส GD แว๊ก 3m กระปุกล่ะ 600 บาท
เงามากๆ เงาฉ่ำๆ รถใหม่ๆ หรือพวกรถหรูๆเคลือบแก้วมาจอดเทียบก็สู้ไม่ได้
3m กระปุกนี้ ลงแว๊กทุกเดือน ลงมาเป็นปี ยังเหลืออีกเยอะเลย

ออฟไลน์ kudos

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 54
Re: เคลือบแก้วเป็นยังไงครับ
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: มีนาคม 16, 2012, 16:09:29 »
มาอ่านครับ
No Thing.

ออฟไลน์ IS2000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,190
    • อีเมล์
Re: เคลือบแก้วเป็นยังไงครับ
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: มีนาคม 16, 2012, 21:34:12 »
ใช้มาทั้งสองอย่าง แต่ชอบเคลือบ wax ธรรมดามากกว่าครับ
เคลือบแก้วจริงๆก็ไม่ได้ดูแลง่ายอย่างที่คิดในตอนแรก ยังไงก็ต้องระวังคราบน้ำ ยางไม้หรือมูลนกอยู่ดี ถ้าไม่รีบเอาออกก็เป็นรอยเหมือนไม่เคลือบครับ
เรื่องความเงาผมว่า wax ธรรมดาลงบ่อยๆดูฉ่ำกว่าเยอะครับ
1 3 5
├┼┼╕
2 4 6 R