Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: XRS ที่ มีนาคม 10, 2018, 15:47:19
-
กำลังจะออกรถใหม่ครับ ลังเลระหว่างสองตัวนี้ ช่วยออกความเห็นหน่อยครับผม
หลักๆใช้ในเมือง มี ออก ต่างจังหวัดบ้าง
ด้วยราคาที่พอๆกัน ตอนนี้ลังเล+ ยังไม่ไปลองขับสักคันเลยครับ
1. Fortuner TRD 2WD เข้าใจว่าช่วงล่างน่าจะดีกว่าตัวธรรมดา การเก็บเสียง ดีกว่า CRV แน่ๆ option น้อยกว่า CRV กินจุกว่า CRV ,ราคาขายต่อดีกว่า , บำรุงรักษาไม่แพง ,ขับในเมืองเถอะทะไปหน่อย
2. CRV 1.6 4WD ได้ยินว่าเสียงยางดังเก็บเสียงไม่ดี , Option เยอะ , ประหยัดน้ำมัน , ไม่แน่ใจเรื่องระยะยาวกับเครื่อง Diesel (เกิด Turbo พังขึ้นมา) หรือ ปัญหาอื่นๆ
ถ้าเป็นพี่ๆเพื่อนๆ จะเลือกตัวไหนกันครับ ผมเข้าใจนะว่า PPV ไม่น่าไปเทียบ กะ SUV ตัวผมขับรถเก๋งมาก่อน อยากได้รถแนว SUV ซึ่ง ถ้าผมตัด CX5 ออกก่อน ก็คงเหลือแค่ Fortuner กับ CRV
เพิ่มเติม CRV ได้ของแถม+ส่วนลดรวมๆ ประมาน แสนกว่าๆ (ลดเยอะมาก)รวมประกัน กับ Fortuner ลด อยู่ ประมาณ 65000 บาทไม่รวมประกัน
-
เรื่องเงินไม่มีปัญหา เปลี่ยนรถบ่อยทุก 5 ปี น่าไป CRV นอกเหนือจากนี้เป็นผมไป Fortuner
-
เลือก crv ครับ แต่ เปลี่ยนเป็ฯ 2.4 4wd
-
ขับเก๋งมาก่อน แต่อยากได้ความอเนกประสงค์ ไปขับ CRV เถอะครับ
หลายๆคนเปลี่ยนจากเก๋งมาขับ PPV ถ้าชอบก็ชอบเลย ถ้าเกลียดก็เกลียดเลย
การข้ามพันธุ์จากเก๋งมาขับ PPV ยิ่งโจทย์คุณใช้ในเมือง ไม่ได้ลุยอะไร
ใช้ SUV น่าจะขับสบายกว่านะครับ
เรื่องเทอร์โบ ไม่ต้องห่วงครับ ทุกวันนี้ผมใช้ FTN ในคลับก็มีหอนกันเป็นคันๆไป
ถ้าอยากสบายใจ เล่น CRV เบนซินดีกว่าครับ
-
โจทย์เดียวกับผมก่อนหน้านี้เลย จากใจคนขับเก๋งมาตลอดหลายๆปีและเปลี่ยนมาใช้ฟอร์จูนเนอร์และทำใจว่ารับช่วงล่างได้ .......ถ้ายังหลงใหลในความนุ่มของเก๋งอยู่แนะนำไป CRV ครับ ความนุ่มสบายมันคนละเรื่องกันครับ :-* :-* :-* :-* เหตุผลที่ผมเลือกฟอร์จูนเนอร์มีเหตุผลเดียวครับ คือตามใจ ผบ. เธอบอกไหนๆจะชื้อแล้วก็ชื้อคันใหญ่ๆกว่าเก๋งที่มีไปเลย....555 ตอนนี้เธอเริ่มบ่นละครับ ว่าชื่อเราก็ดีล่ะ555 จริงๆมันก็มีดีมีด้อยต่างกันไปละครับ โดยรวมผมใช้ฟอร์จูนเนอร์มาจะปีละครับ ถือว่าโอเคในระดับหนึ่งครับ ยกเว้นช่วงล่างที่ไม่นุ่มสบายเหมือนเก๋งครับ
-
CRV อีกเสียง ถ้าคุณไปได้ขับเข้าทางลูกรังบ่อยๆ เหตุผลเดียวที่จะเอา Fortuner คือ คุณต้องลุย มากกว่าอยู่บนถนนลาดยาง หรือ คอนกรีต
มันสะเทือนมาก เจ้า Fortuner
-
ไป CRV 1.6 ครับ ผมเคยนั่งfortunerของญาติไม่ประทับใจกับช่วงล่างเท่าไหร่ แข็งแบบแปลกๆ
-
เชียร์ CRV 1.6 4WD ครับ
ประหยัดน้ำมันมากๆ
บางคนบอกว่า เอาตัวเบนซินดีกว่า เอาส่วนต่างของตัวดีเซลมาเติมน้ำมัน วิ่งได้หลายปี
แต่เขาลืมคิดถึงในอนาคต 5-6 ปีข้างหน้า เมื่อเราจะขายรถ(เปลี่ยนรถใหม่) ราคามือ 2 ดีเซลก็จะได้ราคาดีกว่าเบนซินครับ
-
สมาชิกในบ้านมีใครเมารถง่ายไหมครับ ถ้ามีไป CRV เลย เพราะ fortuner ขึ้นชื่อเรื่องทำให้คนเมารถได้ง่าย
-
ถ้าไม่ได้ลุยทางทุรกันดารเป็นประจำ หลักๆใช้ในเมือง ไป ตจว ก็ไปแค่ทางนอกเมืองทั่วไป
crv สบายมากครับ เป็นผมไป crv แต่คงจะเอาตัวเบนซิลครับ
เพราะเครื่องตัวนี้ขายมานานแล้ว อะไหล่ และความชำนาญของช่างดีกว่าตัวดีเซลแน่ๆ
ระยะยาวก็ไม่ต้องกลัวว่าเทอร์โบจะพัง หรือจะมีดีเฟ็คท์อะไรโผล่มาไหม แถมจ่ายถูกกว่าเป็นแสน
-
Crv 1.6d ขับ 2 ครับ
-
ไม่แน่ใจเรื่องระยะยาวกับเครื่อง Diesel (เกิด Turbo พังขึ้นมา) หรือ ปัญหาอื่นๆ
FTN ก็เครื่องดีเซลเทอร์โบเหมือนกันไม่ใช่เหรอครับ ?
-
ตามโจท ที่ขับรถเก๋งมาก่อน เขียร์ CR-V แต่เป็น 2.4 4wd
-
ไปลองขับเลยครับ
สิ่งที่สงสัยเรื่อง
-เสียงห้องโดยสาร
-ความนุ่ม
ถ้าไม่ลุยไม่กระแทกโหด คุณจะรู้เองว่า อะไรคือคำตอบ
ปล.ผมใช้CRV gen3 อยากลุย แต่ไม่ทน
วันนี้ซ่อมแร็คพวงมาลัยครับ
ของใหม่ศูนย์ 20,000++ , งบน้อย ซ่อมหลักพันบาท
-
ลองขับ For ก่อนเน้อ ว่ารับอาการรถได้หรือเปล่า
-
ใช้ fortuner 2.8 อยู่ วันนี้ถ้าเลือกได้อีก อาจไป crv 1.6 4wd ครับ
fortuner ขับในเมืองไม่ได้แค่เทอะทะไปหน่อยแต่เทอะทะจนน่าหงุดหงิดสำหรับผม ตอนนี้เข้าเมืองอยากกลับไปหารถเก๋งหรืออะไรก็ได้ที่เล็กกว่านี้ คล่องตัวกว่านี้มาก
turbo ของ fortuner เองก็ไม่ได้ทนอะไรครับ พังกันไปหลายคัน เคลมกันไปหลายคันแล้ว
เลือกที่ชอบดีกว่าครับ fortuner เองมันก็ไม่ได้จะทนถึก หรือถูกอะไรขนาดที่จะมาหักล้าง crossover พื้นฐานเก๋งไปได้ขนาดนั้น
crv เองก็ไม่ได้อ่อนแอขนาดจะพังง่ายๆครับ (ขับลุยน้ำแข็ง พายุหิมะ ตะกุยขึ้นจากหล่มหิมะใน iceland มาแล้ว)
แต่ถ้าเลือก crv 1.6D อย่าลืมเรื่อง dpf ครับ อันนี้แน่นอนว่ามันจะต้องการน้ำมันเครื่อง และน้ำมันดีเซลที่สะอาดกว่า fortuner ซึ่งก็อาจมีค่าใช้จ่ายส่วนนี้เพิ่มมาบ้างครับ
แต่ถ้าลองแล้วชอบ fortuner จริงๆ ก็จัดเลยครับ หาเทียบหลายๆที่ ส่วนลดอาจมากกว่านั้นอีกนิดหน่อย
-
ถ้าเป็นผมผมจะเลือกCX-5ที่จขกท.ตัดทิ้งไปตั้งแต่แรก ไม่งั้นก็Fortuner เพราะใช้รุ่นเก่าอยู่และไม่เคยพิศมัยซีอาร์วีสักกะรุ่น
ถ้าเป็นจขกท.ผมจะแนะนำให้เลือกCRV เพราะขับเก๋งมาก่อน ไม่มีความจำเป็นจะต้องใช้PPV ส่วนลดเยอะกว่า ประหยัดกว่าเยอะและอัตราเร่งดีกว่าตี๊ดนึง
ส่วนเรื่องเทอร์โบมันก็มีเหมือนกันทั้งคู่
Fortuner2.8หอนกันเป็นฝูงเลย เคลมฟรีถ้าไมล์ไม่เกินแสน ส่วนCRVยังไม่เห็นว่ามีอาการ
-
ถ้าเน้นใช้งานในเมืองเป็นหลัก
ผมเลือก crv ครับ
-
ขับในเมืองเป็นหลัก และเคยใช้รถเก๋งมาก่อน SUV จะปรับตัวได้ง่ายกว่าครับ
ผมเป็นคนเมารถง่าย เลยมองแต่ SUV ครับ PPV เคยนั่งฟอร์จูนเนอร์ ผมว่ามันกระด้างไปหน่อยครับ
-
จขกท เขาก็บอกนะครับ ว่าดูเป็นรุ่น TRD เรื่องช่วงล่างไปลองดูก่อนครับ ถ้าไม่มีเวลาก็ดูคลิปเทสของเว็ปนี้ เผลอๆอาจจะดีกว่า CRV
-
จขกท เขาก็บอกนะครับ ว่าดูเป็นรุ่น TRD เรื่องช่วงล่างไปลองดูก่อนครับ ถ้าไม่มีเวลาก็ดูคลิปเทสของเว็ปนี้ เผลอๆอาจจะดีกว่า CRV
จริงๆ trd ล้อ 20 จะออกไปทางกระด้างแต่หนึบ ผมใช้2.8 ธรรมดาจะออกไปทางนุ่มยวบๆหน่อยประมาณนี้ไหมครับ เลยไปจัดโช๊คมาก็ช่วยได้ในระดับหนึงครับ
-
CRV2.4 เลยครับ
ขับดีนั่งสบายกว่าฟอร์เยอะ
ส่วนต่างราคาเอามาเติมน้ำมันได้ก็เรื่องนึง ความเสีี่ยงดีเซลฮอนด้าก็เรื่องนึง ราคาขายต่อในอนาคตพูดยาก ณ จุดนี้ดีเซลก็เริ่มซาๆ ลงแล้ว ยิ่งพวกดีเซลยุคใหม่ อาจจะไม่ได้ทนถึงแบบกระบะ ระยะยาวอาจจะไม่ได้ราคาขายต่อดีกว่าก็ได้ ผมว่าเอาปัจจุบันดีกว่าครับ
-
ชอบ CR-V ครับ ได้ลองนั่งของเพื่อน นั่งสบายดีครับ ต่างจาก Fortuner มากครับ
-
เชียร์CRV ครับในเมือง
-
ตามโจทย์เชียร์ CR-V ครับ
-
แนะนำ CRV ครับ ก่อนหน้าผมขับ vios และ altis เคยชินกับเก๋งเล็ก ๆ FTN TRD เคยอยู่ในความคิดผมและรูปทรงมันสวยมากครับมีความเท่ห์อยู่ในตัวไม่ต้องแต่งใด ๆ แต่จากการใช้งานจริง ๆ เครื่อง 2.8 ขับในเมืองส่วนใหญ่อัตราการบริโภดน้ำมันย่อมสูงกว่า crv 1.6 แน่ ๆ ครับ ทุกวันนี้ผมขับ crv 1.6 ใช้ในเมืองเป็นหลักเฉลี่ยการกินน้ำมันอยู่ที่ 11-13 กิโลเมตรต่อลิตร ครับ ความนุ่ม ความหนึบผมรับได้ใกล้เคียงของเดิม ออกแนวดีกว่าที่ใช้มาครับ ทำให้ลืมตัว FTN TRD ไปเลยครับ
-
เชียร์ CRV 1.6 4WD ครับ
ประหยัดน้ำมันมากๆ
บางคนบอกว่า เอาตัวเบนซินดีกว่า เอาส่วนต่างของตัวดีเซลมาเติมน้ำมัน วิ่งได้หลายปี
แต่เขาลืมคิดถึงในอนาคต 5-6 ปีข้างหน้า เมื่อเราจะขายรถ(เปลี่ยนรถใหม่) ราคามือ 2 ดีเซลก็จะได้ราคาดีกว่าเบนซินครับ
crv ตอนซื้อ ส่วนต่าง benzine กับ diesel 150,000 ตอนขาย ผมเดาว่า ต่างกันไม่น่าเกิน 50,000 ครับ
-
CR-V ครับ
แต่ถ้าจะหันมามอง เบนซินบ้าง ผมว่า CX-5 ก็จะกลับมาน่าสนครับ
-
ถ้ารับได้กับช่วงล่างที่มีอาการโคลงเคลง และดีดดิ้น บางจังหวะ ตามบุคลิก PPV Fortuner ก็ถือเป็นรถยนต์อีกคันที่น่าใช้ครับ
จุดที่ผมมองว่าเป็นคุณงามความดีของ Fortuner คือ
- การตอบสนองของเครื่องยนต์ในรอบต้น-กลาง ที่มีแรงบิดดี กอปรกับคันเร่งที่เซ็ตมาให้ไม่มีอาการหน่วงมากนัก ทำให้การควบคุมความเร็วเป็นไปได้อย่างราบเรียบ
- การตอบสนองของเกียร์ไว จังหวะ Shift-shock น้อย เมื่อเทียบกับ PPV หรือ กระบะดีเซลค่ายอื่นๆ
- น้ำหนักพวงมาลัยที่หน่วงมือกำลังดี คืนไว แต่เก็บแรงสั่นสะเทือนจากพื้นถนนขึ้นมาพอสมควร
และที่สิ่งสำคัญผมว่ามันเท่ดีครับ ฮ่าๆ
-
ถ้ารับได้กับช่วงล่างที่มีอาการโคลงเคลง และดีดดิ้น บางจังหวะ ตามบุคลิก PPV Fortuner ก็ถือเป็นรถยนต์อีกคันที่น่าใช้ครับ
จุดที่ผมมองว่าเป็นคุณงามความดีของ Fortuner คือ
- การตอบสนองของเครื่องยนต์ในรอบต้น-กลาง ที่มีแรงบิดดี กอปรกับคันเร่งที่เซ็ตมาให้ไม่มีอาการหน่วงมากนัก ทำให้การควบคุมความเร็วเป็นไปได้อย่างราบเรียบ
- การตอบสนองของเกียร์ไว จังหวะ Shift-shock น้อย เมื่อเทียบกับ PPV หรือ กระบะดีเซลค่ายอื่นๆ
- น้ำหนักพวงมาลัยที่หน่วงมือกำลังดี คืนไว แต่เก็บแรงสั่นสะเทือนจากพื้นถนนขึ้นมาพอสมควร
และที่สิ่งสำคัญผมว่ามันเท่ดีครับ ฮ่าๆ
ฟังดูดีจังครับ อีกข้อหนึ่งเรื่องคันเร่ง คนที่ขับเก๋งเบนชิลมาแบบผมหรือเป็นที่ผมคนเดียว หรือเป็นเพราะฟอร์จูนเนอร์มัน น้ำหนักเยอะกว่าหรือว่าคันเร่งดีเชลมันต่างกันนะครับ ผมใช้ในพัทยา บางจังหวะรู้สึกหงิดจังครับ ทุกวันนี้ผมต้องใช้ PWR mobe ครับ ฮ่าๆๆ แต่ออกนอกเมืองจริงๆก็ปกติดีครับ
-
หงุดหงิดเหมือนกันครับ จะออกตัว จะเบรก เหมือนมันต้องเผื่อระยะเยอะกว่าเดิมพอสมควร พอเป็นแบบนี้ปุป เอ้าคันอื่นเสียบ เอ้า แทรกอีกแล้ว แต่ชินแล้วก็ไม่ได้อะไรมาก
แค่เราจะไปใกล้คันหน้าแบบตอนขับเก๋งไม่ได้แล้วแค่นั้นเอง
ส่วนพอความเร็วเดินทาง 100 ขึ้นนี่คนละเรื่องเลยครับ เนือยๆ เอื่อยๆในเมืองเมื่อครู่นี้หายไปหมด ยิ่งช่วงความเร็วเดินทาง จะเรียกกำลังก็แค่เรียกรอบเครื่องขึ้นไปสัก 2500 ก็สบายแล้ว
เสริมนิดในเมือง ได้อยู่ 9-10 กม/ ลิตรครับ
-
ถ้ารับได้กับช่วงล่างที่มีอาการโคลงเคลง และดีดดิ้น บางจังหวะ ตามบุคลิก PPV Fortuner ก็ถือเป็นรถยนต์อีกคันที่น่าใช้ครับ
จุดที่ผมมองว่าเป็นคุณงามความดีของ Fortuner คือ
- การตอบสนองของเครื่องยนต์ในรอบต้น-กลาง ที่มีแรงบิดดี กอปรกับคันเร่งที่เซ็ตมาให้ไม่มีอาการหน่วงมากนัก ทำให้การควบคุมความเร็วเป็นไปได้อย่างราบเรียบ
- การตอบสนองของเกียร์ไว จังหวะ Shift-shock น้อย เมื่อเทียบกับ PPV หรือ กระบะดีเซลค่ายอื่นๆ
- น้ำหนักพวงมาลัยที่หน่วงมือกำลังดี คืนไว แต่เก็บแรงสั่นสะเทือนจากพื้นถนนขึ้นมาพอสมควร
และที่สิ่งสำคัญผมว่ามันเท่ดีครับ ฮ่าๆ
ฟังดูดีจังครับ อีกข้อหนึ่งเรื่องคันเร่ง คนที่ขับเก๋งเบนชิลมาแบบผมหรือเป็นที่ผมคนเดียว หรือเป็นเพราะฟอร์จูนเนอร์มัน น้ำหนักเยอะกว่าหรือว่าคันเร่งดีเชลมันต่างกันนะครับ ผมใช้ในพัทยา บางจังหวะรู้สึกหงิดจังครับ ทุกวันนี้ผมต้องใช้ PWR mobe ครับ ฮ่าๆๆ แต่ออกนอกเมืองจริงๆก็ปกติดีครับ
ผมลองเทียบกับกลุ่มที่เป็นดีเซล เทอร์โบ ด้วยกันที่เคยขับมา อย่าง D-Max Ranger (pre-mc) Captiva ซึ่งหน่วงแบบชัดเจนมาก
ส่วนเก๋งเบนซิน นั่นก็อีกบุคลิกนึง คันเร่งค่อนข้างไวเป็นปกติ
แต่ก็มีบางรุ่นที่ไวเกินไป เช่น Vios G2
-
เชียร์ CRV 1.6 4WD ครับ
ประหยัดน้ำมันมากๆ
บางคนบอกว่า เอาตัวเบนซินดีกว่า เอาส่วนต่างของตัวดีเซลมาเติมน้ำมัน วิ่งได้หลายปี
แต่เขาลืมคิดถึงในอนาคต 5-6 ปีข้างหน้า เมื่อเราจะขายรถ(เปลี่ยนรถใหม่) ราคามือ 2 ดีเซลก็จะได้ราคาดีกว่าเบนซินครับ
crv ตอนซื้อ ส่วนต่าง benzine กับ diesel 150,000 ตอนขาย ผมเดาว่า ต่างกันไม่น่าเกิน 50,000 ครับ
เดาแบบนั้น ก็ได้ครับ
เพราะยังไม่ถึงวันนั้น ก็ไม่มีใครรู้ ว่าจะออกทางไหน
เหมือนเซียนบอลวิเคราะหฺ์บอลแหละครับ ขำๆ นะครับ 555