Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: polwath ที่ มิถุนายน 22, 2019, 19:51:38
-
จากที่ผมฟังรายการของพี่จิมมี่แล้ว ได้ยินเรื่องการเก็บภาษีรถยนต์ทั้งในประเทศและนำเข้า แล้วยังมองว่ารถยนต์เป็นสินค้าฟุ่มเฟือย
สำหรับผมแล้ว มองว่าแนวความคิดของรัฐบาลที่ยังมองแบบนี้อยู่มันควรเปลี่ยนได้แล้ว เพราะในตอนนี้คนส่วนใหญ่ต้องใช้รถในการทำมาหากินและเดินทางค่อนข้างบ่อย แม้บางส่วนจะใช้บริการขนส่งมวลชนก็ตาม
แต่ก็ไม่ควรมองข้ามว่าประชาชนยังต้องใช้รถยนต์เพื่อสัญจรและใช้ชีวิตประจำวันแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ซึ่งมองว่าควรเปลี่ยนจากสินค้าฟุ่มเฟือยเป็นสินค้าปกติ
แต่หากยังตีว่าเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยอยู่ ก็ควรจะจำแนกเป็นตามประเภทรถมากกว่าการเหมารวมที่รัฐบาลทำอยู่ในตอนนี้ แล้วควรจะทำโครงการและแก้ไขระบบ เพื่อลดการใช้ส่วนตัวและหันมาใช้บริการขนส่งมวลชนให้มากขึ้นด้วยซ้ำ
หรือเปิดโครงการรับซื้อรถเก่าแลกสิทธิ์ลดหย่อนภาษี ส่วนลดซื้อรถใหม่ แม้แต่เข้มงวดเรื่องคัดกรองการออกใบขับขี่ กำจัดปัญหาขนส่งมวลชนด้อยคุณภาพ และการลดมลภาวะในเมือง รวมถึงการสนับสนุนพลังงานและยานพาหนะสะอาด ก็ควรจะทำตั้งนานแล้วด้วยซ้ำ รู้สึกเศร้าใจจริงๆ
-
รถเป็นของฟุ่มเฟือยจริงครับ
และทุกวันนี้ก็มีการใช้โครงสร้างทางภาษีแยกแยะตามความจำเป็นในการใช้งานอยู่เหมือนกัน เช่น รถกระบะตอนเดีนว ภาษีถูกกว่ารถเก๋ง อีโค่คาร์ภาษีถูกกว่ารถ full-size ... แต่ในทางปฏิบัติระบบนี้ก็ได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลบ้างอยู่
-
ของฟุ่มเฟือยครับ คือไม่มีก็อยู่ได้
รายได้ประชากรถ้าดูทั้งประเทศ ไม่ได้สูงเลย
กลับมาดูกำลังผ่อนของผู้ซื้อขนาดราคาแบบนี้ยังมีหนี้เสีย โดนยึดเพียบ
ลองถ้าราคาถูกกว่านี้ ออกรถง่ายกว่านี้จะเกิดอะไรขึ้น
-
รีบคิดรีบทำให้ขนส่งทั่วประเทศสะดวกรวดเร็วปลอดภัยและประหยัดกว่าการใช้รถส่วนตัวดีกว่าครับ ผมก็เบื่อใช้รถส่วนตัวเหมือนกัน แต่เพราะรถขนส่งมันไม่สะดวกสบายนี่ละครับ
-
นี่ได้ดูรายละเอียดภาษีบ้างรึเปล่าครับ มันไม่ได้เหมารวมอยู่แล้วคัรบและมีการจำแนกภาษีตามแต่ประเภทของรถ (ซึ่งมันอาจจะไม่สะท้อนเสมอ)
พวกกระบะตอนเดียวซึ่งมันใช้เพื่อการพาณิชย์มันภาษีถูกมาก
ส่วนเรื่องอยากให้มีรถยนต์เยอะๆ ผมว่าทุกวันนี้รัฐบาลทุกรัฐบาลก็มาผิดทิศผิดทาง
เน้นขยายถนน ลดฟุตบาท ผมว่ามันทุเรศมากพอสมควรแล้วเอาง่ายๆฟุตบาทแถวรามอินทราขรุขะกว่าถนนอีก ทุเรศชิบหาย
แล้วเรื่องขนส่งสาธารณะเนี่ย รัฐบาลอุ้มเกือบทุกประเทศมีประเทศเราเนี่ยพอบอก ขสมก.ขาดทุน พวกบ่นกันระงม
รึเอาง่ายๆทัศนคติของการใช้ขนส่งสาธารณะก็ได้ครับสายสีม่วงแทบไม่ได้ลดปริมาณการใช้รถเลยทั้งที่มันควรจะลดมาก แต่ก็มีคอนเม้นส์ว่าแบบ ค่าน้ำมันยังถูกกว่า ขี่มอเตอร์ไซด์ดีกว่า บลา บลา
แต่ก็นั่นแหละบ่นไปก็เท่านั้น เหนือสิ่งอื่นใดต้องยอมรับว่าคนไทยเน้นรักสบายให้ต่อรถไฟฟ้าสสองต่อแล้วต้องเดินเชื่อมระหว่างสถานีเยอะๆไม่เอาหรอกครับ บ่นกันหูชา
ทั้งที่อารายประเทศเดินกันมากกว่านี้อีก ;D ;D ;D
-
ผมคิดว่าเกินล้านถือว่าฟุ่มเฟือยครับ แต่ถูกกว่านั้นถือว่าใช้งาน คิดแบบง่ายๆ
คุณจะซื้อD-seg ทำไมในเมื่อ B C-seg ทำทุกอย่างได้คล้ายๆกัน หรือจะซื้อรถขนาดCRVไปทำไมในเมื่อHRVตัวถูกสุดทำได้เหมือนกันหมด
จะขนคนก็mobilio expander หรือPPVตัวถูกสุด ขนของก็กระบะทั้งหลาย
สรุป ถ้าคุณกำตังล้านนึงในกระเป๋าก็ซื้อรถตามความ"จำเป็น" "ใช้งาน" ได้แน่ๆ
เกินล้านส่วนใหญ่ สนอง"กิเลส" เช่น อยากนั่งสบาย อยากซิ่ง อยากหรู อยากเท่
-
นี่ได้ดูรายละเอียดภาษีบ้างรึเปล่าครับ มันไม่ได้เหมารวมอยู่แล้วคัรบและมีการจำแนกภาษีตามแต่ประเภทของรถ (ซึ่งมันอาจจะไม่สะท้อนเสมอ)
พวกกระบะตอนเดียวซึ่งมันใช้เพื่อการพาณิชย์มันภาษีถูกมาก
ส่วนเรื่องอยากให้มีรถยนต์เยอะๆ ผมว่าทุกวันนี้รัฐบาลทุกรัฐบาลก็มาผิดทิศผิดทาง
เน้นขยายถนน ลดฟุตบาท ผมว่ามันทุเรศมากพอสมควรแล้วเอาง่ายๆฟุตบาทแถวรามอินทราขรุขะกว่าถนนอีก ทุเรศชิบหาย
แล้วเรื่องขนส่งสาธารณะเนี่ย รัฐบาลอุ้มเกือบทุกประเทศมีประเทศเราเนี่ยพอบอก ขสมก.ขาดทุน พวกบ่นกันระงม
รึเอาง่ายๆทัศนคติของการใช้ขนส่งสาธารณะก็ได้ครับสายสีม่วงแทบไม่ได้ลดปริมาณการใช้รถเลยทั้งที่มันควรจะลดมาก แต่ก็มีคอนเม้นส์ว่าแบบ ค่าน้ำมันยังถูกกว่า ขี่มอเตอร์ไซด์ดีกว่า บลา บลา
แต่ก็นั่นแหละบ่นไปก็เท่านั้น เหนือสิ่งอื่นใดต้องยอมรับว่าคนไทยเน้นรักสบายให้ต่อรถไฟฟ้าสสองต่อแล้วต้องเดินเชื่อมระหว่างสถานีเยอะๆไม่เอาหรอกครับ บ่นกันหูชา
ทั้งที่อารายประเทศเดินกันมากกว่านี้อีก ;D ;D ;D
หลังจากสายสีม่วงเชื่อมต่อเรียบร้อยรถติดน้อยลงนะครับ ถ้าไม่มีผมว่าหนักกว่านี้ ผมไม่ได้จอดรถดูวิวบนสะพานพระนั่งเกล้าซักหนตั้งแต่มันเชื่อมต่อ
-
ถ้าซื้อมาใช้งาน เช่น รถกะบะ หรือรถส่งของ ก็โอเคนะครับ
รถส่วนตัวของผม ก็ฟุ้มเฟือยจริงละ สามปีกว่า ขับไป สองหมื่นกว่าโล
+ สารพัดค่าใช้จ่าย + ที่จอดรถ + บำรุงขัดเคลือบ ฯลฯ :P
เอาตรง ๆ ถ้าการคมนาคม ทั้งประเทศไทยสะดวกดีกว่านี้ ผมไม่ซื้อนะจะเช่าขับเอา คุ้มกว่าครับ 8)
ปัจจุบัน เวลาไปตจว. ไกล ๆ ผมก็เช่าขับ ขี้เกียจขับไป
-
ผญ เค้าคิดกันแบบนั้นละว่ารถยนต์เป็นของฟุ่มเฟือย บางทีคิดเรื่องน้ำมันอีกว่าต้องแพงเพื่อคนใช้รู้จักประหยัด
ผมก้ไม่เห็นด้วยทั้ง 2 ความคิดนี้ เอาเป็นว่า ถึงแม้จะมีการคมนาคมที่ดี ผมยังชอบขับรถมากกว่า
-
ใช้ครับ เพราะรถไม่ใช่ความต้องการ
เดิน หรือ ใช้จักรายารได้
มันไร้สาระ แต่มันเป็นความจริงครับ
-
ถ้าเมืองจีน ฮ่องกง สิงค์โปร์ อาจใช่ครับ รวมถึงญี่ปุ่นด้วย
แต่คำถามสั้นๆ ง่ายๆ มีใครตอบผมได้ไหมว่า
จากบ้านคุณเอง จะไปสวนสัตว์เขาเขียว ถ้าไม่มีรถยนต์ส่วนตัว จะไปกันยังไงครับ???
สวนสัตว์ของรัฐวิสาหกิจ ที่มีรัฐบาลถือหุ้น เปิดเพื่อเป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ให้เด็กๆ แต่ไปยากเหลือเกิน เผลอๆ ซื้อตัว low cost ไปเช้าเย็นกลับเชียงใหม่ ไปดูช่วงๆกับหลินฮุ่ยยังง่ายกว่าเลย(แต่นั่นคือคุณต้องเสียเงินส่วนหนึ่งให้กับโทนี่ นายทุนชาวมาเลย์ซะงั้น ><
ปล.ในข้อนี้ ห้ามเช่ารถ ห้ามเหมารถตู้ไปนะ เอาแบบพ่อแม่ลูก3 คนพ่อแม่จะพาลูกไปศึกษาหาความรู้ครับ
จีน ญี่ปุ่น สิงค์โปร์ ฮ่องกง ล้วนแล้วแต่มีระบบขนส่งสาธารณะผ่าน ฟรีบ้าง เสียเงินน้อยบ้าง
แต่บ้านเรา... หันกลับไปดูมาเลย์ ก็พอๆกะบ้านเราครับ
แต่รถเค้าถูกกว่า เสียภาษีน้อยกว่า
เอวัง เคว้งคว้างเหลือเกิน
-
ระบบขนส่งสาธารณะห่วย -> ถูกต้อง
คนไทยเลยจำเป็นต้องพึ่งรถยนต์ส่วนตัว -> ใช่เลย
แต่ภาษีรถดันแพงอีก -> อืม จริง
แต่รถส่วนตัว "แพงๆ" ที่ว่าคืออะไร? หวังว่าจะไม่ได้หมายถึงรถยุโรป รถสปอร์ต รถ supercar เนอะ
อะไรที่มองแล้วเกิดกิเลส นั้นแหละสินค้าฟุ่มเฟือย
-
ใช่เหรอ? รถยนต์กับรถบรรทุก ความหมายเดียวกันมั้ย?
งั้นเด่วผมเลิกใช้รถ จ้างเกวียน จ้างคน ยกของ 2 ตัน แบกไปส่งอมตะ
-
นี่ได้ดูรายละเอียดภาษีบ้างรึเปล่าครับ มันไม่ได้เหมารวมอยู่แล้วคัรบและมีการจำแนกภาษีตามแต่ประเภทของรถ (ซึ่งมันอาจจะไม่สะท้อนเสมอ)
พวกกระบะตอนเดียวซึ่งมันใช้เพื่อการพาณิชย์มันภาษีถูกมาก
ส่วนเรื่องอยากให้มีรถยนต์เยอะๆ ผมว่าทุกวันนี้รัฐบาลทุกรัฐบาลก็มาผิดทิศผิดทาง
เน้นขยายถนน ลดฟุตบาท ผมว่ามันทุเรศมากพอสมควรแล้วเอาง่ายๆฟุตบาทแถวรามอินทราขรุขะกว่าถนนอีก ทุเรศชิบหาย
แล้วเรื่องขนส่งสาธารณะเนี่ย รัฐบาลอุ้มเกือบทุกประเทศมีประเทศเราเนี่ยพอบอก ขสมก.ขาดทุน พวกบ่นกันระงม
รึเอาง่ายๆทัศนคติของการใช้ขนส่งสาธารณะก็ได้ครับสายสีม่วงแทบไม่ได้ลดปริมาณการใช้รถเลยทั้งที่มันควรจะลดมาก แต่ก็มีคอนเม้นส์ว่าแบบ ค่าน้ำมันยังถูกกว่า ขี่มอเตอร์ไซด์ดีกว่า บลา บลา
แต่ก็นั่นแหละบ่นไปก็เท่านั้น เหนือสิ่งอื่นใดต้องยอมรับว่าคนไทยเน้นรักสบายให้ต่อรถไฟฟ้าสสองต่อแล้วต้องเดินเชื่อมระหว่างสถานีเยอะๆไม่เอาหรอกครับ บ่นกันหูชา
ทั้งที่อารายประเทศเดินกันมากกว่านี้อีก ;D ;D ;D
มองกันตามความเป็นจริงนะครับ บ้านผมอยู่ลาดพร้าว เคยจะต้องไปสัมนาที่ตึกไปรษณีย์กลางบางรัก วันแรกไม่ใช้รถ ก็นั่งมอไซออกจากในซอยไปขึ้น MRT ไปลงหัวลำโพงเสร็จ ผมไม่รู้สายรถเมล์ แอพก็ไม่มี ไม่ได้เสิช (ถ้าไปรถเมล์ได้อาจจะถูกกว่า) ก็เลยนั่งมอไซ ทั้งไปกลับ ค่าเดินทางคุ้นๆว่ารวมเงินแล้วปาเข้าไปจะ 240-250 บาท แถมใช้เวลาเดินทางพอสมควร คือขาละ 50-60 นาทีได้ แถมเหงื่อซึม ตัวเหม็นเข้าห้องสัมนาอีกเพราะอากาศร้อน ต้องรอคิวรถมอไซในซอย/ที่ปลายทาง
วันรุ่งขึ้นขับรถเอง ใช้เวลาไป 30-40 นาที ค่าจอดสแตมป์แล้วราว 130 บาท ค่าน้ำมันไปกลับคำนวนแล้วประมาณ 80 บาท (รถไฮบริด) ค่าทางด่วนรู้สึกจะ 25 บาทมั้ง 2 ขาก็ 50 รวมแล้วแพงกว่า 10 บาท ระยะเวลาแทบไม่แตกต่างกัน แถมไม่ต้องมาตัวเหม็น ร้อน เป็นผมก็เลือกขับรถครับ แม้จะอยากช่วยลดภาระรถติด แต่ค่ารถไฟฟ้าบ้านเรามันแพงบรรลัยมากถ้าเทียบกับค่าครองชีพ
แต่เรื่องรถยนต์เป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ผมเห็นด้วยนะครับ และไม่ควรลดภาษีไปมากกว่านี้ นี่ขนาดรถแพง ยังซื้อกันเยอะขนาดนี้ (เพราะขนส่งมวลชนห่วยแตก) ควรไปพัฒนาระบบขนส่งมวลชนให้ดีเสียก่อน แล้วขึ่้นภาษีรถไปอีก ทั้งทางตรงและอ้อม (เช่นพวกภาษีไม่มีที่จอดรถสำแดง ให้เสียเพิ่มปีละ 20,000 หรือค่าภาษี congestion fee เก็บในเขตเมืองชั้นใน จะเข้ามาต้องเสียเงิน (เฉพาะช่วงเร่งด่วน) ยกเว้นเฉพาะรถส่งของและรถประจำทาง อะไรทำนองนี้ครับ
-
ถูกจัดอยู่ในประเภทนั้นครับ มีข้อยกเว้นสำหรับรถยนต์บางประเภท ได้แต่ทนครับ
-
ไม่ฟุ่มเฟืองครับ ไม่มีรถชีวิตลำบากมากกกกก ระบบสาธารณะก็รู้ๆกัน :'( :'(
-
จะมองว่าฟุ่มเฟือยก็ฟุ่มเฟือย
จะมองว่าจำเป็นก็จำเป็นครับ
ที่ดินในเมือง เเพงรากเลือด ขึ้นทุกวัน เเนวโน้มที่อยู๋อาศัยมีเเต่ขยายออกไปชานนเมืองไกลขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งขนส่งสาธารณะรองรับไม่เพียงพอหรอกครับ อย่างดีก็รถตู้ ซึ่งคุณภาพความปลอดภัยไม่ต้องอธิบายนะครับ ว่าขับกันยังไง ออกข่าวอยู่เเล้วบ่อยๆ
จะสร้างครอบครัว เล็กๆทีนึง เจอทาวโฮม เเนวเฉียดๆรถไฟฟ้า เเค่เฉียดนะครับ เเต่ไม่ติดเพราะเเนวติดรถไฟฟ้าคอนโดจองเรียบ เเตะ 10 ล้าน++
คนเบี้ยน้อยหอยน้อยก็ต้อง ไปอยู่ทาวโฮมชานเมือง 3-4ล้าน ซื้อรถขับไปทำงานอีก 7-8เเสน ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ ประหยัด กว่าเกินครึ่ง
-
ผมเห็นว่าฟุ่มเฟือยจริง ทำคนเป็นหนี้มากมาย
สมัยก่อนซื้อรถคนหนึ่ง ต้องใช้กันเกินสิบปีขึ้นไป เดี๋ยวนี้สามปีห้าปี เปลี่ยนแล้ว ทั้งที่รถอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ดีอยู่ มันไม่คุ้มค่าอะไรเลย
ลองคิดดู รถซื้อ1-2-3-4 แต่บ้านมักซื้อแค่1-2หลัง ?
-
ฟุ่มเฟือย VS เกินตัว
-ฟุ่มเฟือย ถ้าไม่ใช่สิ่งจำเป็น
-เกินตัว ไม่ว่าจำเป็นหรือไม่จำเป็น แต่ทำชีวิตลำบาก
ข้าวปลาอาหาร อดมื้อ กินมื้อ กู้เงินรอบทิศ เพื่อสิ่งฟุ่มเฟือย .... :-\
ใช้ชีวิตเกินสถานะความจริงตัวเองกันเยอะ :'(
-
ในเว็บบอร์ดรถยนต์ เรื่องนี้ก็วนเวียนตั้งกระทู้ขึ้นมาแล้วก็จากไป
วันไหนมีรถรุ่นใหม่เปิดตัว ก็จะมีคนใหม่เข้ามาตั้งกระทู้เนื้อหาแบบนี้อีก
นั่นแสดงว่า เรารู้สึกว่ามันเป็นปัญหาจริง ๆ
... แต่มันเป็นปัญหาที่เราอยากหาคนอื่นมาแก้ปัญหาให้เรา...
รถเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย -> ตั้งภาษีสูง -> รถแพง (น้ำมันแพง -แถมให้ด้วย)
ขนส่งสาธารณะแพง <- ลงทุนสูง <- นำเข้าเทคโนโลยี <- ผลิตเองไม่เป็น <- คนไม่เก่ง
บริการขนส่งสาธารณะห่วย <- จ้างพนักงานถูก ๆ / ไม่มีเงินปรับปรุงรถ <- เก็บค่าโดยสารถูก <- ประชาชนผู้ใช้ฐานะไม่ดี <- เพราะอะไร?
เอาจริง ๆ รากเหง้าของปัญหานี้ ใครก็แก้ไม่ได้ครับ ถ้าเราไม่แก้ที่ตัวเราเอง
เพราะปัญหามันมาจากคุณภาพ / ความสามารถในการแข่งขัน
ทำมาหากินโดยรวมของคนในประเทศนี้
- ทั้งปริมาณคนที่ทำงาน (กับคนที่ทำมั่ง ไม่ทำมั่ง ไปจนกระทั่งอยู่ว่าง ๆ ไม่ทำอะไร)
- ทั้งในเชิงคุณภาพ ทำงานแบบใช้ความคิด คิดที่จะเพิ่มพูนผลิตผลให้มากขึ้น
พอคนมีความสามารถในการสร้างผลิตผลให้กับประเทศนี้มันต่ำ รายได้ก็ต่ำ และทำให้รายได้รวมของประเทศมันก็ต่ำไปด้วย
หลายครั้งที่เราไปเปรียบเทียบ ราคารถในต่างประเทศ ค่าแรงในต่างประเทศ แล้วมองแค่ภาษีรถบ้านเราแพง
แต่เราแทบไม่ได้คิดเรื่องภาษีเงินได้ และความสามารถโดยรวมของคนในประเทศนั้น ๆ เลย
... พี่คิดว่า เราสามารถจ้างคนที่มีความสามารถไม่สูง ความรับผิดชอบไม่สูง ด้วยค่าแรงแพง ๆ ได้มั้ยครับ? ...
คนไทย 60 กว่าล้านคนนะครับ
เข้าระบบภาษีบุคคล -> ประมาณ 10 ล้านคน -> เสียภาษีประมาณ 4 ล้านคน (ที่เหลือรายได้หลักหักลดหย่อนแล้วไม่ถึงเกณฑ์)
อีก 50 กว่าล้านคนไปไหน?
VAT ก็ 7% มาโดยตลอด ไม่สามารถขึ้นได้ เพราะประชาชนรายได้ไม่พอ
(อ้างอิงญี่ปุ่น ปรับ VAT จาก 3% เป็น 5% ในราวปี 1998 มั้งครับ ล่าสุดปรับเป็น 8% ตั้งแต่ปี 2017 โดยประมาณ)
สังเกตมั้ยครับว่า ไม่ว่าเราจะพูดถึงเรื่องอะไร มักจะจบด้วยการ อยากให้รัฐสนับสนุน / ส่งเสริม / จัดสวัสดิการ ฯลฯ
นั่นก็คือเรามีคนรอใช้เงินภาษี มากกว่าคนจ่ายภาษีน่ะครับ
... ปัญหาพวกนี้จะหมดไป ถ้าคนไทยมีความสามารถสูง ประเทศมีผลิตผลที่สูง ทำให้ประชาชนมีรายได้โดยรวมสูง
และเมื่อรายได้สูง เราจะไม่มองว่าสิ่งเหล่านี้มันแพงอีกต่อไปครับ ...
ทั้งหมดนี้ ผมคิดว่า มันเปลี่ยนได้ด้วยตัวประชาชนอย่างพวกเราเอง มองที่ตัวเอง พัฒนาตัวเอง
อย่าไปชี้นิ้วไปที่ใครเลยครับ รัฐบาลน่ะเหรอ เจ้าหน้าที่รัฐ / ตำรวจ / คนขับรถสาธารณะ ฯลฯ
คนพวกนี้ ก็คือพี่ ๆ น้อง ๆ ลุง ป้า น้า อา ลูก หลาน คนไทย ที่เรียนหนังสือมากับเรา อยู่ในชุมชนเรา
เป็นประชาชนแบบเรานี่แหละ ถ้าทุกคนคิดที่จะทำงานที่รับผิดชอบให้ดีที่สุด ตั้งใจทำงาน ตั้งใจเรียนหนังสือ
คิดถึงส่วนรวมให้มากขึ้น ไม่ต้องมีรอให้ใครมาแก้ปัญหาให้เราหรอกครับ ภาพรวมของสังคมมันก็จะดีขึ้นเอง
-
พื้นฐานปัญหาของเรื่องนี้ เอาจริงๆมันเกิดจากการคอรัปชั่นครับ
ถ้าไม่มีคอรัปชั่น เงินภาษีทุกบาทไปใช้อย่างเหมาะสม การคมนาคม และระบบเศรษฐกิจ มันจะดีเอง
-
จะเป็นสินค้า ฟุ่มเฟือยก็ ต่อเมื่อ ระบบขนส่งมวลชน พร้อมและราคาไม่แพง
-
รู้อย่างนึงว่าคนที่บอกให้เดิน ให้ปั่นจักรยาน ให้ต่อรถเมล์ ตัวเองไม่ได้ทำหรอกครับ ถ้าทำเองจะไม่พูดแบบนี้เพราะว่า
1.บางที่ไม่มีฟุตบาทให้เดินนะครับ แม้แต่ไหล่ทางยังไม่มีเลย ในประเทศที่คนโดนชนตรงทางม้าลายเป็นเรื่องปกติ (คุณกล้าเดินมั้ยล่ะ)
2.แดดร้อน อากาศร้อนสุดๆ ไม่มีร่มไม้ร่มเงา อารมณ์ทะเลทราย (ชอบจังเลยตัดต้นไม้เนี่ย)
3.รถสาธารณะพฤติกรรมตลาดล่าง มีน้อย ราคาแพง รถทั้งเน่าทั้งสกปรก ยิ่งตอนฝนตกนะบันเทิงเลย (ถ้าพอมีกำลังทรัพย์ จะนั่งรถโดยสารต่อมั้ยครับ)
-
ในมุมมองของผม ถ้าเป็นคนที่ไม่ได้ใช้รถประจำทุกวัน คือซื้อมาจอดมากกว่าขับหรือไม่ได้ทำให้เกิดรายได้ผมมองว่าเป็นสิ่งฟุ่มเฟือย แต่ถ้าได้ประโยชน์จากการใช้รถที่ทำให้มีรายได้ก็ไม่ถือว่าเป็นสิ่งฟุ่มเฟือย
-
ในมุมมองของผม ถ้าเป็นคนที่ไม่ได้ใช้รถประจำทุกวัน คือซื้อมาจอดมากกว่าขับหรือไม่ได้ทำให้เกิดรายได้ผมมองว่าเป็นสิ่งฟุ่มเฟือย แต่ถ้าได้ประโยชน์จากการใช้รถที่ทำให้มีรายได้ก็ไม่ถือว่าเป็นสิ่งฟุ่มเฟือย
สวัสดีครับพี่ปอ
Fun Fact
ภาษีรถยนต์ในประเทศไทยทางตรง คือที่เก็บจากการขายรถยนต์มีมูลค่าประมาณ 10% ของ GDP
ถ้ารวมภาษีทางอ้อมด้วย เช่น ยางรถยนต์ แบต น้ำมันเชื้อเพลิง น่าจะมีมูลค่า 15% ของ GDP
รัฐบาลหาเงินเก่งขนาดนี้ คงไม่มีนโยบายใหม่ๆออกมาหรอกครับ
-
เรื่องคนอื่นแก้ยาก ผมแก้ที่ตนเอง ...เปลี่ยนมาใช้รถเล็ก....ชีวิตสบายขึ้นเยอะ...
-
ความจำเป็นเราไม่เท่ากัน
-
ไทย เดินจากบ้านไปป้ายรถเมล เหงื่อแตกรอบแรก ขึ้นไปเบียดบนรถเมล เหงื่อทะลัก
ญี่ปุ่น เดินจากบ้านไปสถานีรถไฟ สบายเสื้อไม่เปียกจักกะแร้
ตอนเรียน เลิกทุ่มนึง รอรถเมลคันแรกครึ่งชั่วโมงเต็มไม่มีที่โหน รอคันที่2 อีกยาวไป พอได้รถกระบะมาคัน มันก็แก้ได้ ตอนนั้นไม่ได้มองว่าฟุ่มเฟือยเลยถ้ามีกำลังจ่ายได้
-
ผมกลับคิดว่ารถยนต์เป็นปัจจัยสำคัญลำดับที่ 5 ของการใช้ชีวิตครับ ส่วนปัจจัย 6 คือโทรศัพท์
ไม่ว่าจะรถส่วนตัวหรือระบบขนส่งมวลชนล้วนเป็นสิ่งสำคัญ เพราะคนเราไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับที่หรืออยู่กับถิ่นฐานเดิมแบบคนสมัยก่อนแล้วที่ทำนาทำไร่ เก็บพืชผลเลี้ยงตัวเองได้ไม่ต้องไปไหน
ส่วนเรื่องคำว่าฟุ่มเฟือยมันเป็นเพียงภาษาทางกฎหมายเพื่อให้เก็บภาษีรถยนต์ได้แพง โดยที่ประชาชนทั่วไปไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจมากนัก
ส่วนประเด็นว่าทำไมต้องเก็บภาษีรถยนต์ขนาดนั้นผมไม่ขอพูดถึง....
-
คำว่าสินค้าฟุ่มเฟือย มันตีความได้กว้างนะ
สำหรับผมมันคือสิ่งที่ให้ประโยชน์อะไรเราไม่ได้(ขอไม่นับทางใจ) แต่รถเนี่ยไม่มีก็ได้แต่มีมันก็โคตรจะสะดวกสบายถูกไหมละ แบบนี้ฟุ่มเฟือยหรือเปล่า...
-
ถูกตีความอย่างนั้นจริงๆครับ เป็นมานานแล้ว
-
อยู่ในตัวจังหวัด ตัวอำเภอ ใน กทมและปริมณฑล ไม่ค่อยมีผลหรอกถ้าไม่มีรถ แต่ถ้าคนที่มีบ้านอยู่นอกเหนือจากนี้ มันมีรถวิ่งหมู่บ้านไปยังในตัวเมือง ตัวอำเภอ อย่างน้อยวันละ 1 เที่ยว
รถยนต์มันจำเป็นต้องมีไว้ใช้จริงๆๆ
-
กรุงเทพ คือ ประเทศไทย จังหวัดใหญ่ ๆ มีรถสาธารณะ วิ่งตลอด .....แต่ต่างจังหวัด เล็ก ตามอำเภอหมู่บ้าน จะออกไปไหน มาไหน ต้องรอรถเป็น ชั่วโมง ออกจากบ้านตั้งแต่เช้าตรู่ พูดง่าย ๆ ทั้งวัน อยากกลับบ้าน ก็ต้องรอรถ โดยสาร แท๊กซี่ ไม่มี มอเตอร์ไซด์รับจ้าง หายาก บางแห่ง ไม่มี รถไฟฟ้า ไม่มี
สำหรับผม รถคือสิ่งจำเป็น คนที่มองว่าเป็นสิ่งฟุ่มเฟือย ลองไปอยู่ ตจว.ตามอำเภอ หมู่บ้าน คุณจะรู้ว่า มันคือสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง...คนที่บอกว่าเป็นสิ่งฟุมเฟือย คงอยู่แต่เมืองใหญ่ ๆ คงไม่เคยเดือดร้อนกับการรอคอย
ให้มีขนส่งสาธารณะ ไฟฟ้า บนดิน ใต้ติน รถเมล์ โยงใย เครือข่าย ให้ทั่วถึงก่อนเถอะ แล้วค่อยบอกว่าฟุ่มเฟือย ถึงอย่างไร มันก็คือสิ่งจำเป็น
-
กรุงเทพ คือ ประเทศไทย จังหวัดใหญ่ ๆ มีรถสาธารณะ วิ่งตลอด .....แต่ต่างจังหวัด เล็ก ตามอำเภอหมู่บ้าน จะออกไปไหน มาไหน ต้องรอรถเป็น ชั่วโมง ออกจากบ้านตั้งแต่เช้าตรู่ พูดง่าย ๆ ทั้งวัน อยากกลับบ้าน ก็ต้องรอรถ โดยสาร แท๊กซี่ ไม่มี มอเตอร์ไซด์รับจ้าง หายาก บางแห่ง ไม่มี รถไฟฟ้า ไม่มี
สำหรับผม รถคือสิ่งจำเป็น คนที่มองว่าเป็นสิ่งฟุ่มเฟือย ลองไปอยู่ ตจว.ตามอำเภอ หมู่บ้าน คุณจะรู้ว่า มันคือสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง...คนที่บอกว่าเป็นสิ่งฟุมเฟือย คงอยู่แต่เมืองใหญ่ ๆ คงไม่เคยเดือดร้อนกับการรอคอย
ให้มีขนส่งสาธารณะ ไฟฟ้า บนดิน ใต้ติน รถเมล์ โยงใย เครือข่าย ให้ทั่วถึงก่อนเถอะ แล้วค่อยบอกว่าฟุ่มเฟือย ถึงอย่างไร มันก็คือสิ่งจำเป็น
ลืมอะไรไปรึเปล่า
กฏหมายไทย เขียนโดยคน ที่อาศัยใน กทม ทั้งนั้นละครับ ไดโนเสาร์ เต่าล้านปี
-
ก็มีคนจำนวนนึง ออกรถเก๋ง/กระบะ แล้วก็จอดไว้ที่หอพักหรืออพาร์ทเม้น แล้วก็ขี่มอไซค์ไปทำงาน
ไม่ได้ออกรถมาเพื่อใช้ทำมาหากิน
ดาวน์น้อยหรือดาวน์ 0% ผ่อนนาน 84 งวด มันก็เลยออกกันง่ายครับ
-
ก็มันถูกระบุว่าเป็นอย่างนั้นตามเอกสาร ขนาดรถแพง คนซื้อป้ายแดงยังเยอะมากเลย
คนไม่ชอบไปขึ้นรถสารธารณะเพราะ ระบบคมนาคมเมืองไทยโคตรห่วยแตกและไม่ครอบคลุม
และอีกสาเหตุคือ อากาศมันร้อนมาก ถ้าสมมติหน้าหมู่บ้านมีสถานีรถไฟฟ้างอกมา เป็นผม
ผมก็ไม่เดินออกบ้านไปขึ้นBTSหรอกครับ 9 ร้อยเมตร อากาศร้อนมากๆ แต่ถ้ามันเย็นแบบเมืองนอก
ผมยอมเดินไปได้ สบายๆชิวๆ
ปล. จะมีรัฐบาลไหนเข้าไปแก้เรื่องภาษีรถยนตร์นำเข้า และ เอารถยนตร์ออกจากสินค้าฟุ่มเฟือย บ้างไหม?
-
ผมมองว่ามันเป็นสินค้าจำเป็นเพราะ ขนส่งสาธารณะมันไม่อำนวยกับประชาชนเลย
ถ้ารัฐมองว่าเป็นสินค้าฟุ่มเฟื่อย ก็ไม่ต่างจากให้ประชาชนดื่มน้ำประปา ที่การประปาบอกว่าดื่มได้ แล้วถ้าใครอยากดื่มน้ำขวดหรืออะไรก็แล้วแต่ ก็กลายเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยให้หมดเก็บภาษีกันไป
ถูกมองว่าฟุ่มเฟือยแต่มันจำเป็นต้องมีเพราะรัฐไม่อำนวย แทนที่จะสร้างขนส่งสาธารณะ กลับสร้างทางด่วนมอเตอร์เว เพื่อมาสนับสนุน จะได้เก็บภาษีจากคนที่ซื้อรถกันวนอยู่แบบนี้
-
ปล. จะมีรัฐบาลไหนเข้าไปแก้เรื่องภาษีรถยนตร์นำเข้า และ เอารถยนตร์ออกจากสินค้าฟุ่มเฟือย บ้างไหม?
เรื่อง บล๊อครถนำเข้า แพงๆ ผมเห็นด้วย
แต่ มันดันมาเก็บภาษีรถ ผลิตในประเทศ บุคคลทั่วไป ตั้งแต่ 14% ถึง 30 % เนี่ย มันเกินไป
คือ BOI ยกเว้นภาษี นำเข้าชิ้นส่วนมาประกอบให้ OEM แต่ดัน มา เอาคืนกับ ชาวบ้านตาดำๆ
คือ อยากเสีย ภาษี น้อย คือต้อง ขับ Eco car เหรอ
บ้านไหน มี พ่อ แม่ ลูก ตา ยาย อยากนั่ง 7 ที่นั่ง ก็ต้องจ่าย ภาษี 25% นี่คือ สินค้าฟุ่มเฟือยเหรอ
-
ปล. จะมีรัฐบาลไหนเข้าไปแก้เรื่องภาษีรถยนตร์นำเข้า และ เอารถยนตร์ออกจากสินค้าฟุ่มเฟือย บ้างไหม?
[/quote
เรื่อง บล๊อครถนำเข้า แพงๆ ผมเห็นด้วย
แต่ มันดันมาเก็บภาษีรถ ผลิตในประเทศ บุคคลทั่วไป ตั้งแต่ 14% ถึง 30 % เนี่ย มันเกินไป
คือ BOI ยกเว้นภาษี นำเข้าชิ้นส่วนมาประกอบให้ OEM แต่ดัน มา เอาคืนกับ ชาวบ้านตาดำๆ
คือ อยากเสีย ภาษี น้อย คือต้อง ขับ Eco car เหรอ
บ้านไหน มี พ่อ แม่ ลูก ตา ยาย อยากนั่ง 7 ที่นั่ง ก็ต้องจ่าย ภาษี 25% นี่คือ สินค้าฟุ่มเฟือยเหรอ
เห็นด้วยครับ
-
A developed country is not a place where the poor have cars. Its where the rich use public transportation.
ประเทศที่พัฒนาแล้วไม่ใช่ประเทศที่คนจนมีรถส่วนตัว แต่เป็นที่ที่แม้แต่คนรวยยังเลือกใช้ระบบขนส่งสาธารณะ
Gustavo Petro
(https://pbs.twimg.com/media/Dj6622qUUAAvY-l.jpg)