Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: f1rstgot ที่ มีนาคม 18, 2013, 00:46:38
-
คือตอนนี้รถผมวิ่งไปได้7000โล แล้วหน้าปัดก็แจ้งว่า 9000 in service หรือ in service 9000 เนี่ยแหละครับ ตอนแรกก็เข้าใจว่า อ่อ ก็เหลืออีกแค่2000โล ก็จะต้องเช็คระยะแล้ว และคิดว่าเข้าเช็คระยะที่9000โล ก็ อืม น่าจะปกติ ฟอร์ดก็9000โล ฮอนด้าและพี่โต6000โล แต่ที่ไหนได้โทรไปถามเซลล์เพื่อความแน่ใจได้คำตอบกลับมาว่า ความจริงแล้วต้องวิ่งไปอีก9000โล ถึงจะถึงเวลาเข้าไปเช็คระยะ นั่นก็เท่ากับว่ารถผมจะต้องเช็คระยะและเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องครั้งแรกที่ 16000โล เลยเหรอครับ ทำไมเลขไมล์มันถึงเยอะขนาดนี้กว่าจะได้เช็คระยะครั้งแรกครับ หน้าปัทและหน้าจอมันคลาดเคลื่อนหรือฟ้องผิดมั้ยครับ
ขอบคุณทุกท่านครับ
- แก้ไขเพิ่มเติมนะครับ คือที่ผมบอกว่าฟอร์ดเช็คระยะครั้งแรกที่9000โล เพราะเพื่อนผมมันบอกมาอย่างงี้หนะครับ เพราะมันใช้ โฟกัส ใหม่ อยู่ครับ เลยจำมาแบบนี้
ส่วนฮอนด้าและพี่โตผมสับสนและมั่วเองครับ ผมจำเช็คระยะครั้งแรกของสองค่ายนี้ได้ว่า 6เดือน หรือ 10000โล แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน ทีนี้ ผมก็จำมั่วกลายเป็น 6000 ซะงั้น 555 เพราะมัน6เดือน
ส่วนฟอร์ดก็ 9เดือน หรือ 15000โล และผมก็จำเป็น 9000โล เพราะมัน9เดือน 5555555555
ขอบคุณทุกท่านครับ ;D
-
รถยุ่นส่วนมากๆเลย เช็ค1,000 ถ่ายของเหลว 10,000
เช็ค 6000 9000 เอามาจากไหนคับ ??? :o
เฟียสต้า 15000 กระบะ กึ่งยุโรปก็ 12000-15000 กันหมดแล้วหนิคับ
ส่วน bmw ตอนติดเครื่องมันจะแจ้ง service due in x,xxx km หมายถึง จะถึงเวลาเซอร์วิสอีก x,xxx km / ไม่มี in service ถ้ามีหมายถึงซ๋อมอยู่ x,xxx km คับ
bmw ช่วงปี 2004 ขึ้นมา ถึงช่วง 2008-2009 เข้าเช็คระยะทุก 25,000 กิโลคับ รุ่นใหม่ๆเด๋วนี้ปรับลดลงแล้วคับ สมัยก่อนถึงได้ยินน้ำมันเครื่องเป็นโคลนกันเยอะไงคับ
-
พอถึงระยะต้องเข้าจริงๆไฟหรือตัวหนังสือมันจะเริ่มเป็นสีเหลืองหรือส้ม แล้วตามด้วยแดงและเครื่องหมายเตือน และเสียง กรื๊ง ก่อนติดเครื่อง
เข้าไปดูใน menu > maintenance or service ได้คับ
การคำนวนระยะทางเข้า service รุ่นใหม่ๆทั้งหลาย คำนวนอัตราการกดคันเร่ง ความเร็วที่ใช้ น้ำมันที่เติม และ ระยะวิ่งยาว หรือ ติดๆในเมือง ถ้าติดในเมืองระยะจะลดลงเร็วง่ายๆคือจาก 15,000 km จะเหลือ 14,000 km หรือ 12,000 km และอีกหลายๆอย่างมาเป็นปัจจัย พอจะเชื่อถือได้คับ และใน i drive มันจะมีอีกหลายอย่าง เช่น ระดับน้ำมันเครื่อง ผ้าเบรคหน้า หลัง หัวเทียน ฯลฯ ที่ต้องเปลี่ยนตามระยะ
-
คิดตามอัตราการสึกหรอของเครื่องยนต์ครับ รถที่จอดติดไฟแดงทุกวัน วันละ 2 ชั่วโมง ไมล์จะน้อย แต่เครื่องจะทำงานตลอดนะครับ ดังนั้นดูไมล์อย่างเดียวไม่ได้
ของ BMW เลยใช้คอมพ์วัด แล้วแจ้งเรา แต่ละคนจึงไปเข้าเช็คระยะที่เลขไมล์ไม่เท่ากันครับ
-
ของผม เซอวิสครั้งแรกที่ 8000 ครับ จอดติดในเมืองตลอด :P
-
คิดตามอัตราการสึกหรอของเครื่องยนต์ครับ รถที่จอดติดไฟแดงทุกวัน วันละ 2 ชั่วโมง ไมล์จะน้อย แต่เครื่องจะทำงานตลอดนะครับ ดังนั้นดูไมล์อย่างเดียวไม่ได้
ของ BMW เลยใช้คอมพ์วัด แล้วแจ้งเรา แต่ละคนจึงไปเข้าเช็คระยะที่เลขไมล์ไม่เท่ากันครับ
ชัดเจนเลยครับ
-
คิดตามอัตราการสึกหรอของเครื่องยนต์ครับ รถที่จอดติดไฟแดงทุกวัน วันละ 2 ชั่วโมง ไมล์จะน้อย แต่เครื่องจะทำงานตลอดนะครับ ดังนั้นดูไมล์อย่างเดียวไม่ได้
ของ BMW เลยใช้คอมพ์วัด แล้วแจ้งเรา แต่ละคนจึงไปเข้าเช็คระยะที่เลขไมล์ไม่เท่ากันครับ
ชัดเจนเลยครับ
ถูกต้องตามนี้ครับ
BMW เขานับชม. วิ่งร่วมกับระยะทาง
-
แนะนำว่าอย่าลากยาวจนครบกำหนดของมัน
ถ้าไม่เชื่อลองดูได้ครับ 15000km แล้วดึงน้ำมันเครื่องดู แทบจะเป็นขี้
เมื่องนอกกับเมืองไทย น้ำมัน กับอากศมันต่างกันเยอะครับ
เห็นสมัยก่อน 30000km ตามuk ออกมาเละยิ่งกว่าขี้อีกครับแทบจะเป็นน้ำมันเตาไปแล้ว
-
แชร์ข้อมูลกันครับ กับทาง VW จะให้คูปองตรวจเช็คระยะมาทั้งหมด 5 ใบ โดยแต่ละใบให้ระยะทางไว้ 15,000 กม. รวมแล้วก็เป็น 75,000 กม. หรือ 3 ปี พอดี ... แต่ด้วยผมใช้งานไม่เยอะ ไม่ค่อยวิ่งทางไกล ผ่านมา 4 เดือนกว่า ผมวิ่งไป 5,000 กม. เท่านั้น กว่าจะครบ 15,000 กม.ตามที่เค้าบอก ผมคงต้องรอไป 1 ปี ถึงจะได้เข้าเช็คและเปลี่ยนหนนึง เลยลองคุยกับเจ้าหน้าที่ดู ก็ได้รับแจ้งว่า ทุกๆครึ่งปีก็สามารถนำคูปองมาใช้งานได้ครับ
ในความเห็นของผม เนื่องจากพวกคูปองเช็คระยะฟรีเนี่ย จะว่าไปมันก็คือเซอร์วิส ซึ่งรวมอยู่ในราคารถไปแล้ว เราสามารถขอนำมาใช้ตามความเหมาะสมได้ครับ
-
ของผม e60 520d เปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก 25,000 ครับ
แต่เรื่องน้ำมันเครื่องเป็นโคลนเจอแต่รุ่น e90 เบนซินครับ เครื่องดีเซล
และเบนซินรุ่นอื่นไม่เคยเจอกรณีนี้
-
ของผม mb วิ่งเดือนละพันโลหรือน้อยกว่า แต่ผมเปลี่ยนทุกๆ 4 เดือนคับ
-
เช็คก่อนถึงระยะเป็นดีที่สุด ไม่จำเป็นต้องรอให้แจ้งเตือน
แต่ BM มี BSI ผมว่าคงจะต้องเช็คตามระยะ ที่จอมันขึ้นนะแหละครับ
ส่วนบ้านผมมี MERCEDES เข้าก่อนล่วงหน้า ที่จอแจ้งเตือนก่อนประจำ เพราไม่มี BSI แบบ BM จ่ายเงินค่า SERVICE เอง -*-
-
แอร๊ยยย เข้ามาแอบแซวครับ ฟอร์ดผมเช็คระยะที่ 15,000 กม. คร้าบบ ;D
-
Accord G8 ผมเปลี่ยนน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ ทุก 10000 โล เพื่อให้เครื่องไหลลื่น และเข้าเช็คทุก 20000 โลที่ศูนย์เช่นกัน
เช่น 10000 ก็แค่ไปถ่ายน้ำมันเครื่อง 20000 โล ก็หิ้วน้ำมันเครื่องไปที่ศูนย์ แล้วก็เช็คด้วย เปลี่ยนด้วย ยังงี้ตลอดครับ
ผมว่าเดี๋ยวนี้เครื่องมันดีขึ้นมั้ง ช่วง 10000 จะไม่ค่อยต้องทำอะไร
ส่วน BMW เข้า service ใช้ BSI ตามที่เขาบอกเลยครับ แต่ผมว่าผมจะเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเอง ทุก 8000 โล กำลังตัดสินใจว่าเข้า service จ่ายตังค์ หรือไปข้างนอกดี แต่ไม่แน่ใจว่า ข้างนอกจะทำเป็นไหม เห็นว่า mini ล่าสุดไม่มีฝาใต้รถ ต้องใช้ดูดเอา กลัวว่า F30 จะต้องใช้วิธีเดียวกัน เดี๋ยวจะรวน ใครมี idea ไหมครับ ต้องทำไงบ้าง อิอิ
-
ปกติครับ
ของผมก็ประมาณ 15,000 กิโล
ความเห็นส่วนตัว ผมมองว่า BMW ค่อนข้างเอาเปรียบลูกค้าตรงจุดนี้ครับ
โดยทั่วไปควรจะให้เปลี่ยนทุกเลขไมล์ 10,000 กิโล น่าจะเหมาะสมกว่า
จะไปเปลี่ยนเองข้างนอกก็กลัว BSI จะขาด
จะเปลี่ยนเองที่ศูนย์ก็แพงโดยใช่เหตุ ไหนๆ BSI ก็ให้ฟรีอยู่แล้ว
-
ของผมสมัย มาสด้า 3 ช่วงแรกใช้น้อยมาก ใช้เปลี่ยนที่ 6 เดือนเอา จะวิ่งเท่าไหร่ก็เถอะ
มาตอนนี้ เล็กซัส วิ่งเยอะมาก เปลี่ยนทุกหมื่นโล ครับ
-
BT50 Pro แจ้งให้เข้าเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก 20,000 กิโล
ถ้ามันดีจริงก็ถือว่าประหยัดและช่วยโลก แต่ถ้าถ่ายออกมาเป็นโคลนก็มะไหวนา
-
ผมใช้ 520d f10 ระยะเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามหน้าจอประมาณ 13,000 กม
แต่ผมขอร้องให้ช่างช่วยเปลี่ยนให้ทุก 10,000 กม
-
อ่านจดหมายนี้แล้วตัดสินใจดูเองนะครับ แต่ผมเปลี่ยนที่1หมื่นโลครับ
-
BT50 Pro แจ้งให้เข้าเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก 20,000 กิโล
ถ้ามันดีจริงก็ถือว่าประหยัดและช่วยโลก แต่ถ้าถ่ายออกมาเป็นโคลนก็มะไหวนา
Ranger T6 แจ้งไว้ที่15,000 โลนะ เครื่องตัวเดียวกันทำไมมันกำหนดต่างกันง่า
-
BT50 Pro แจ้งให้เข้าเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก 20,000 กิโล
ถ้ามันดีจริงก็ถือว่าประหยัดและช่วยโลก แต่ถ้าถ่ายออกมาเป็นโคลนก็มะไหวนา
Ranger T6 แจ้งไว้ที่15,000 โลนะ เครื่องตัวเดียวกันทำไมมันกำหนดต่างกันง่า
อ้าว ไหงงั้นล่ะพี่มาสด้า เง้อ!!