Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: S6 ที่ สิงหาคม 26, 2020, 09:40:15
-
มีงบ 5-6 แสน เลือก City S รถใหม่หรือ Camry 2.5G มือสองดีครับ
ใช้เป็นรถสำรอง ใช้ไม่บ่อยมาก ขับชานเมือง
สองตัวนี้ ความนุ่มช่วงล่างต่างกันมากไหมครับ ไปลอง City มาแล้ว ใช้ได้ครับ Camry ยังไม่เคยลองเลยครับ ดูในตลาดราคาใกล้เคียงกันนิดนึงครับ
-
รถมันคนละคลาสนะครับ Camry น่าจะดีกว่าทุกอย่าง แต่ก็ต้องดูประวัติรถด้วยนะครับ
-
ใช้น้อยไม่สนเรื่องประหยัด เลือก Camryครับ
-
สำรอง ชานเมือง แคมรี่ก็ได้ครับ ใช้น้อยขายต่อจะได้ไม่เจ็บตัวมาก แต่ระวังติดใจ
-
ถ้าไม่ได้ขับในเมืองรถติดผมว่า camry น่าสนใจกว่า ระวังจะติดใจความนุ่มของแคมรี่ครับ
-
ถ้าได้คำนวนเรื่องค่าใช้จ่ายที่ต่างกันสำหรับรถ 2 Segment นี้ไว้แล้ว รวมถึงเก่าคันนึง ใหม่คันนึง
ค่ายาง การกินน้ำมัน ภาษีรายปี ค่าซ่อม
แคมรี่ดีกว่าแทบทุกเรื่องยกเว้นคล่องตัว ถ้าวิ่งชานเมืองอยู่แล้ว เชียร์แคมรี่ครับ
-
นั่งกี่คน. นั่งไกลมั้ย
ไม่เน้นนั่งหลัง ก็ซื้อรถเล็ก
อย่าตัดสินที่ราคา. ดูที่การใช้งาน
-
ขึ้นอยู่กับความต้องการเราเลย อยากได้คันใหญ่นั่งสบาย ขับสบายกว่า อัตราเร่งดีกว่านิดนึง กินน้ำมันกว่า
ช่วงล่างขับทางไกลสบายกว่า แต่พวงมาลัยcamry acv50 ไม่น่าขับเท่า city turbo แน่นอนครับ
รถน่าใช้พอสมควรทั้งคู่ครับ
-
ความต้องการ ก็เรื่องช่วงล่างไม่ตึงตังล้วนๆเลยครับ กับไม่มีปัญหาในการดูแล รถหลัก 2 คัน W212 กับ A6 สลับกันเข้าอู่อยู่เนืองๆ อีกคัน Evoมันตึงตังเกินครับ
กะว่า จะเอามาแทน A6 ครับ ก็เลยดูรีวิวในนี้เเนะนำ City เลยไปลองเมื่อวานโอเคนะครับ ก็เลยมองงบเท่ากันว่ามีตัวเลือกอื่นไหม เจอ Camry พอดีครับ
-
Camry ACV 50 ตัวก่อน MC ใช่ไหมครับ
ผมใช้ตัวนี้อยู่แต่เป็น รุ่น 2.0 G ปี 2012
ตัวนี้รถดีครับ ยิ่ง 2.5 ด้วยเครื่องแรง ภายในกว้าง ยิ่งห้องโดยสารตอนหลังนี่ ผช. สูง 175 นั่ง 3 คนไม่มีเบียด leg room , Head room เหลือๆ
ข้อด้อยคือ Option โล้นสุดๆๆ ไม่มี VSC , ขับเร็วๆ เกิน 140 รู้สึกรถมันหน้าลอยๆ , เบรค feeling แย่มาก ระยะฟรีเยอะ ต้องเหยียบลึก ไม่คม ถ้าเทียบกับ Teana j32 250 xv อีกคันของผม อันนั้นเบรคคะแนน 10/10 Camry ให้ 4/10
ถ้า จขกท. ใช้ C seg มาก่อน จะเปลี่ยนมา D seg Toyota ผมว่าไม่น่ากังวล เพราะข้อดีอย่างมากขอ Toyota คือตัวรถทนทาน ไม่มีคำว่าจุกจิก รถรุ่นนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน แนะนำให้ซื้อได้อย่างไม่ต้องกังวล
แต่ถ้าใช้ B seg มาก่อน การข้ามมา D seg ต้องปรับตัวทั้งการขับ และค่าใช้จ่ายพอสมควร (รถเครื่อง 2.5 ถ้าวิ่งในเมืองยังงัยก็ค่าน้ำมันก็จุก)
สรุป Choice ผมคงเลือก Camry 2.5 ครับ แล้วกันงบเปลี่ยน shock up ดีๆ + ยางดีๆ สักชุด ให้เหมาะกับความแรงของรถ
-
camry +1 ครับ
-
Camry 2.5G มือสอง แบบไม่ต้องคิดเลยครับ จะในเมืองนอกเมือง ความสุนทรี ความเหนื่อยล้า ผ่อนคลายต่างกันเยอะ
บำรุงถึงๆ นี่ใช้ยาวๆ งานถนัดพี่โต งานประกอบดีกว่าฮอนด้าเยอะ
-
Camry นี่ถ้าเป้าหมายมาแทน A6 ทั้งขนาดรถและการใช้งานผมว่าเหมาะสมนะครับ
เพราะยังไงรถคันเล็กๆ ขับปู๊ดปร๊าดก็มี Evo อยู่แล้ว
แต่ถ้าโจทย์เป็นในเมืองเป็นหลักกับต้องการรถใหม่คงต้องไป City ครับ
-
ถ้าซื้อสด กันเงินไว้ซ่อม 20% ไป Camry โลด
ถ้าซื้อผ่อน นั่ง 1-2 คน ไป City ครับ
แต่อย่างไรเสีย เห็นเป็นรถสำรอง คงจะไม่รีบมาก รอดู City HatchBack ก่อนไหมครับ
-
ถ้าซื้อสด กันเงินไว้ซ่อม 20% ไป Camry โลด
ถ้าซื้อผ่อน นั่ง 1-2 คน ไป City ครับ
แต่อย่างไรเสีย เห็นเป็นรถสำรอง คงจะไม่รีบมาก รอดู City HatchBack ก่อนไหมครับ
+1
-
camry แจ่มกว่าเยอะ แต่เห็นว่าเป็นแค่รถสำรอง city ก็พอครับ
-
มีงบ 5-6 แสน เลือก City S รถใหม่หรือ Camry 2.5G มือสองดีครับ
ใช้เป็นรถสำรอง ใช้ไม่บ่อยมาก ขับชานเมือง
สองตัวนี้ ความนุ่มช่วงล่างต่างกันมากไหมครับ ไปลอง City มาแล้ว ใช้ได้ครับ Camry ยังไม่เคยลองเลยครับ ดูในตลาดราคาใกล้เคียงกันนิดนึงครับ
camry +1 ครับ
-
เข้ามาไม่แปลกใจเลย ชาว HLM เชียร์มือ 2 ตลอด เพราะดูแต่ตัวรถ ตัดปัจจัยแฝงอื่นๆ ที่ทำให้ราคามันหายไปออก
ส่วนตัวคิดว่า รถมือ 2 เต็มที่ มันสามารถใช้แบบชิวๆ ได้อีกไม่เกิน 5 ปีก็ต้องซ่อมใหญ่แล้วนะครับ ต้องคิดตรงนี้ด้วย รวมถึงสภาพรถก็ต้องดีประมาณนึงด้วยนะ
เพราะ camry ใช้เป็นรถผู้บริหารตามบริษัทเยอะเหมือน คนใช้ยังไงก็ดูแลไม่เหมือนรถตัวเองหรอกครับ
-
เข้ามาไม่แปลกใจเลย ชาว HLM เชียร์มือ 2 ตลอด เพราะดูแต่ตัวรถ ตัดปัจจัยแฝงอื่นๆ ที่ทำให้ราคามันหายไปออก
ส่วนตัวคิดว่า รถมือ 2 เต็มที่ มันสามารถใช้แบบชิวๆ ได้อีกไม่เกิน 5 ปีก็ต้องซ่อมใหญ่แล้วนะครับ ต้องคิดตรงนี้ด้วย รวมถึงสภาพรถก็ต้องดีประมาณนึงด้วยนะ
เพราะ camry ใช้เป็นรถผู้บริหารตามบริษัทเยอะเหมือน คนใช้ยังไงก็ดูแลไม่เหมือนรถตัวเองหรอกครับ
ผมว่าบางันถ้าย้ิมมาเนียนแบบเซียนรถดูไม่ออก ไม่กี่ปีก็ออกลายเสียแล้วนะครับ พูดเถอะครับ งบห้าแสนนี้ถ้ามาใช้ในชีวิตประจำวันและไม่ใช่รถที่สะสมแล้วราคามันเพิ่มแบบพวกโฟล์คเต่าหรือมินิ ผมว่าออกรถใหม่ป้ายแดงเถอะครับ ยิ่งรถคลาสใหญ่ ค่าใช้จ่ายก็แพงขึ้นมาอีก
-
ขอบคุณทุกท่านทุกความคิดเห็นมากๆครับ ตัดสินใจได้แล้วครับ
ผมมาลองดูหลายๆข้อมูล เมื่อต้องการสำรองใช้ไปน่าจะ 10 ปี และ มาอยู่กับเราปีแรกก็เป็น 0 km กลิ่นใหม่ และก็เริ่มดูแลกันใหม่เลย
ใช้ปีนึงผมไม่น่าถึงหมื่นกิโล เห็นรถมือสองก็แสนโลขึ้นทั้งนั้นเลย และได้ลองรถ City แล้วช่วงล่างไม่น่าเกลียดเลยครับรับได้ ดีกว่ารุ่นก่อนเลย ลงจากรถยุโรปมาขึ้นคันนี้ต่อ ผมว่าโอเคครับ
-
เข้ามาไม่แปลกใจเลย ชาว HLM เชียร์มือ 2 ตลอด เพราะดูแต่ตัวรถ ตัดปัจจัยแฝงอื่นๆ ที่ทำให้ราคามันหายไปออก
ส่วนตัวคิดว่า รถมือ 2 เต็มที่ มันสามารถใช้แบบชิวๆ ได้อีกไม่เกิน 5 ปีก็ต้องซ่อมใหญ่แล้วนะครับ ต้องคิดตรงนี้ด้วย รวมถึงสภาพรถก็ต้องดีประมาณนึงด้วยนะ
เพราะ camry ใช้เป็นรถผู้บริหารตามบริษัทเยอะเหมือน คนใช้ยังไงก็ดูแลไม่เหมือนรถตัวเองหรอกครับ
ผมว่าบางันถ้าย้ิมมาเนียนแบบเซียนรถดูไม่ออก ไม่กี่ปีก็ออกลายเสียแล้วนะครับ พูดเถอะครับ งบห้าแสนนี้ถ้ามาใช้ในชีวิตประจำวันและไม่ใช่รถที่สะสมแล้วราคามันเพิ่มแบบพวกโฟล์คเต่าหรือมินิ ผมว่าออกรถใหม่ป้ายแดงเถอะครับ ยิ่งรถคลาสใหญ่ ค่าใช้จ่ายก็แพงขึ้นมาอีก
+1
-
ส่วนตัวคิดว่า camry ก็คุ้มนะ แต่ควรเป็นปีใหม่ ๆ ไม่เกิน 4 ปี ( ราคาคงตกไปเยอะแล้ว )
แต่ผมล่ะกลัวรถมือสองจริง ๆ เพราะดูรถไม่เป็นด้วย มือสองที่ผมใช้แล้วมีปัญหาน้อย คือ camry acv40
5 คันหลัง ผมซื้อมือ 1 ทุกคัน เข้าศูนย์ตามระยะตลอดยังมีปัญหาทุกคันเลยครับ :'(
-
ได้รถใช้งานปกติ มีงบเก็บช่วงล่าง เครื่อง ยาง ตีไว้ 40-50k
Camry ก็น่าใช้ครับ แต่ต้องไม่ใช่รถเช่ากรอไมล์ ชนหนัก จมน้ำ
-
ซื้อรถมือสอง ถ้ามั่นใจว่ารู้ประวัติก็จัดโลดครับ เคยไปดูรถมือสองกับช่างคนนึงเค้าไปพาดูรถที่เคยชนมา ดูรอยน็อตแทบไม่รู้เลยว่าเคยถอดชิ้นส่วน เนียนมาก
-
ขอบคุณครับ ที่สละเวลาช่วยออกความคิดเห็นครับ จริงด้วยที่รถมือสองมาคิดดูอีกที เราไม่รู้ประวัติเลย คงออกรถใหม่สบายใจกว่าครับ